Skip to content ⚡️ การดูขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าว่ามีกี่แอมป์ ⚡️ บิลค่าไฟฟ้า จะมีช่องหนึ่งที่เขียนว่า “รหัสเครื่องวัด” เพื่อนำรหัสนี้ไปหามิเตอร์ของบ้าน หลังจากนั้นเมื่อเจอมิเตอร์แล้ว ให้สังเกตตัวเลขในในช่องบนมิเตอร์ เช่น 5(15) A หมายความว่า เป็นมิเตอร์ขนาด 5 แอมป์ สามารถใช้ไฟได้มากถึง 15 แอมป์ ซึ่งก็จะตรงกับมาตรการค่าไฟฟ้าฟรีสำหรับประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ติดตั้งมิเตอร์ไม่เกิน 5 แอมป์นั่นเอง แต่ความจริงแล้วมิเตอร์มีหลายขนาด และผู้ใช้ไฟฟ้าต้องเลือกให้เหมาะกับบ้านและการใช้งาน โดย ขนาดมิเตอร์ที่เล็กที่สุด ที่เมื่อเวลาไปขอใช้บริการไฟฟ้ากับผู้ให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือการไฟฟ้านครหลวง(กปน.) นั้น มักจะได้ขนาด 5(15) มาเบื้องต้น แต่หากคำนวณถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะมีมากขึ้นในอนาคต ก็สามารถติดต่อขอเปลี่ยนขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าได้ แต่จะต้องเสียค่าเงินประกันและค่าบริการขอใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นด้วย รวมถึงจะต้องยอมรับว่า ค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนนั้นจะแปรผันไปตามขนาดปริมาณไฟฟ้าที่ขอใช้เช่นกันทั้งนี้หากเลือกมิเตอร์ที่มีขนาดเล็กเกินไป จะทำให้เครื่องไฟฟ้าไม่สามารถทำงานได้ แต่หากเลือกขนาดใหญ่เกินความเหมาะสม ก็จะทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย 💡 แล้วมิเตอร์ขนาด 5 แอมป์ จะสามารถใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอะไรได้บ้าง? เราสามารถคำนวณเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง เพื่อคำนวณกระแสไฟฟ้า โดยนำกำลังไฟฟ้าอุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดนั้น (วัตต์) ซึ่งสามารถดูได้จากฉลากบนเครื่องใช้ไฟฟ้า หารด้วยความต่างศักย์ (โวลต์) และคูณด้วยจำนวนอุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดนั้น และนำกระไฟฟ้าทั้งหมดมาบวกรวมกัน และคูณด้วย 1.25 เพื่อเผื่อปริมาณกระแสไฟฟ้าที่อาจจะใช้มากขึ้นในอนาคตด้วย ยกตัวอย่างเช่น หากนำกระแสไฟฟ้าจากเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดมารวมกันจะได้เท่ากับ 10.94 แอมป์ แล้วนำมาคูณด้วย 1.25 เผื่อปริมาณกระแสไฟฟ้าที่อาจจะใช้มากขึ้นในอนาคต จะได้ประมาณ 13.68 แอมป์ (ทั้งนี้เป็นการคำนวณเบื้องต้นอย่างคร่าวๆ อาจมีการการเปลี่ยนแปลงตามขนาดของเครื่องใช้ไฟฟ้า) แน่นอนว่ายังไม่เกิน 15 แอมป์ แต่หากในอนาคตมีการเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มเข้ามา อาจต้องเปลี่ยนมิเตอร์ให้เป็นขนาดที่ใหญ่ขึ้นด้วย เพื่อความปลอดภัย //ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com// ไลฟ์สไตล์ 09 เม.ย. 2563 เวลา 1:00 น.191.1k
|