จะทำให้เขียนโปรแกรมได้ผลลัพธ์ออกมาผิดไปจากสิ่งที่ต้องการด้วย และวิเคราะห์ข้อมูลที่จะนำเข้ามาใช้ในโปรแกรมมีอะไรบ้าง จากโจทย์ข้างต้น สามารถแตกปัญหาได้เป็น 2 ส่วน คือ- ต้องรับข้อมูลเลขจำนวนเต็ม 2 ตัวเข้ามาในโปรแกรมวิเคราะห์ กำหนดให้ X เก็บเลขจำนวนเต็มที่ 1กำหนดให้ y เก็บเลขจำนวนเต็มที่ 2- เลขจำนวนเต็มที่ 1 + เลขจำนวนเต็มที่ 2 มีค่าเท่ากับเท่าไรวิเคราะห์ กำหนดให้ sum เก็บค่าผลบวกของเลขจำนวนเต็มทั้ง 2 จำนวน นั่นคือ sum = x + y2. วางแผนและออกแบบ (Planning & Design)การวางแผน คือ การนำปัญหาที่วิเคราะห์ได้จากขั้นตอนที่ 1 มาวางแผนอย่างเป็นขั้นตอนว่าจะต้องเขียนโปรแกรมเพื่อแก้ปัญหาอย่างไร การวางแผนอย่างเป็นขั้นตอนนี้ เรียกว่า อัลกอริทึม (Algorithm) ซึ่งอัลกอริทึมแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือซูโดโค้ด (Pseudo code) คือ การเขียนอัลกอริทึมโดยใช้ประโยคภาษาอังกฤษที่สื่อความหมายง่าย ๆ สามารถอ่านแล้วเข้าใจได้โดยทันที จากโจทย์สามารถเขียนซูโดโค้ดได้ดังนี้จะเห็นว่า เมื่ออ่านซูโดโค้ดแล้วสามารถเข้าใจได้ทันทีว่าขั้นตอนการเขียนโปรแกรมเป็นอย่างไรโฟลวชาร์ต (Flowchart) คือการเขียนอัลกอริทึมโดยใช้สัญลักษณ์รูปภาพเป็นตัวสื่อความหมายจากโจทย์ สามารถเขียนโฟลวชาร์ตได้ดังนี้3. เขียนโปรแกรม (Coding)เป็นการนำอัลกอริทึมจากขั้นตอนที่ 2 มาเขียนโปรแกรมให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ (syntax) ของภาษาซี จากโจทย์สามาเขียนโปรแกรมได้ดังนี้ตัวอย่างแสดง ซอร์สโค้ด Show
หากนำโปรแกรม มาพิจารณา จะพบว่าการเขียนโปรแกรมมีขั้นตอนเป็นไปตามขั้นตอนของอัลกอริทึมที่ได้วิเคราะห์ขึ้นทุกประการการเขียนโปรแกรมจะต้องเข้าใจหลักเกณฑ์ของภาษาโปรแกรมและระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ ว่ามีโครงสร้างและวิธีการใช้คำสั่งอย่างไร หลักเกณฑ์การเขียนโปรแกรมประกอบด้วย 5 ขั้นตอน คือ การวิเคราะห์ปัญหา การวางแผน การเขียนโปรแกรม ทดสอบโปรแกรม จัดทำคู่มือและบำรุงรักษาโปรแกรม โดยมีรายละเอียดดังนี้
เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด ผู้เขียนโปรแกรมต้องกำหนดวัตถุประสงค์ของงาน วิเคราะห์รายละเอียดของข้อมูลที่นำเข้า รายละเอียดของผลลัพธ์ และวิธีการที่ได้มาซึ่งผลลัพธ์หรือการประมวลผล สิ่งเหล่านี้ผู้ที่ทำหน้าที่เขียนโปรแกรมจะต้องทำความเข้าใจให้ถูกต้อง เพราะถ้าผู้เขียนโปรแกรมวิเคราะห์ปัญหาไม่ถูกต้อง ผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่ตรงกับความต้องการ
การวางแผน คือ การนำปัญหาที่วิเคราะห์ได้ในขั้นตอนที่ 1 มาวางแผนอย่างเป็นขั้นตอนว่าต้องเขียนโปรแกรมเพื่อแก้ปัญหา 2.1 เป็นกระบวนการที่สร้างขึ้นจากกฎเกณฑ์เพื่อใช้แก้ปัญหาต่าง ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ 2.2 กฎเกณฑ์ที่สร้างอัลกอริทึมต้องไม่คลุมเครือ อ่านแล้วไม่สับสน อ่านแล้วสามารถเข้าใจตรงกัน 2.3 การประมวลผลต้องเป็นลำดับขั้นตอนที่แน่นอน 2.4 กระบวนการต้องให้ผลลัพธ์ตามที่กำหนดในปัญหา 2.5 อัลกอริทึมต้องมีจุดสิ้นสุดเป็นคุณสมบัติที่สำคัญ เพราะการประมวลผลของคอมพิวเตอร์จะต้องมีจุดสิ้นสุด 3. การเขียนโปรแกรม ( Coding) เป็นการนำอัลกอริทึมจากขั้นตอนที่ 2 เขียนโปรแกรม 4. ทดสอบโปรแกรม ( testing) เป็นการนำโปรแกรมที่ได้จากขั้นตอนที่ 3 มาทำการคอมไพล์(complie) เพื่อทดสอบว่า มีข้อผิดพลาดที่จุดใดบ้าง จุดผิดพลาดของโปรแกรมนี้ เรียกว่า บัก (Bug) ส่วนการแก้ไขข้อผิดพลาดให้ถูกต้องเรียกว่า ดีบัก (Debug)ข้อมูลที่นำเข้าและผลลัพธ์ที่ได้ออกมาถูกต้องตรงกับวัตถุประสงค์หรือไม่โดยทดสอบป้อนข้อมูลที่เป็นไปได้หลาย ๆ ครั้ง ถ้าหากผลลัพธ์ที่ได้มีถูกบ้างผิดบ้าง ทุกครั้งผู้เขียนโปรแกรมจะต้องกลับไปตรวจสอบและแก้ไขโปรแกรมใหม่อีกครั้ง โดยทั่วไปแล้วข้อผิดพลาดจากการเขียนโปรแกรมจะมีสองประเภท คือ
|