การเสด็จประพาสต้น คือ การเสด็จประพาสต้น หมายถึง การเสด็จประพาสต้นต่างประเทศของรัชกาลที่5 Show
"ประพาสต้น"หมายถึงการเสด็จเยือนราษฎรเป็นการส่วนพระองค์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงกระทำอย่างเงียบๆ ไม่กระโตกกระตากให้รู้ว่าพวกเขากำลังเข้าเฝ้าเจ้าชีวิต
เพื่อจะได้ทรงสนทนาปราศรัยทำความคุ้นเคย และล่วงรู้ทุกข์สุขของราษฎรได้โดยตรง ไม่ผ่านข้าราชการปกครอง บางครั้งเมื่อทรงทราบถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านก็มีพระบรมราชโองการให้เจ้าเมืองรับไปจัดการ หรือแม้แต่ทรงเปลี่ยนตัวข้าราชการปกครองเสียเองก็มี ส่วนชาวบ้านเหล่านั้นก็มิได้ทรงละเลยในภายหลัง ทรงขนามนามพวกเขาว่า "เพื่อนต้น" และพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณอย่างสม่ำเสมอจนตลอดรัชกาล แหล่งที่มา : vcharkarn.com ปฐมบรรพ การเสด็จประพาสหัวเมืองของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสทั้งในและต่างประเทศ แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในสยาม ภาพชุดนี้ได้บอกเล่าถึงการเสด็จประพาสหัวเมืองของพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์อย่างใกล้ชิดราษฎรพายเรือมารอรับเสด็จฯ (1906) โดย สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติBangkok Art and Culture Centre ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นต้นมา (๒๓๙๔-๒๔๑๑) วิถีชีวิตของชาวสยามเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ไม่เพียงแต่เฉพาะสามัญชน หากรวมถึงพระมหากษัตริย์และบรรดาเจ้านายพระราชวงศ์ด้วย นายคนังปีนต้นไม้ (1906) โดย สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติBangkok Art and Culture Centre ความสนใจที่มีต่อวัฒนธรรมตะวันตก รวมทั้งการติดต่อสัมพันธ์กับชาวต่างชาติ ทำให้แนวคิดและวิถีแห่งกษัตริย์มีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จากที่เป็นสมมติเทพอันสูงส่ง เจ้านายฝ่ายหน้า (1906) โดย สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติBangkok Art and Culture Centre พระราชานุกิจต่างๆ เป็นไปตามแบบแผนโบราณราชประเพณีอย่างเคร่งครัด ก็มีความผ่อนคลายลง มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น กระบวนเรือเสด็จประพาสต้น (1906) โดย สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติBangkok Art and Culture Centre ในยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นเรื่องยากที่พระราชวงศ์หรือพระบรมศานุวงศ์จะเสด็จประพาสหรือแปรพระราชฐานออกนอกพระนคร เรือพระที่นั่งสุวรรณวิจิก (1906) โดย สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติBangkok Art and Culture Centre อย่างไรก็ต่าม ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์เริ่มเสด็จประพาสและแปรพระราชฐานไปตามที่ต่างๆ เพื่อสำราญพระราชอิริยาบถ ตำหนักพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี (1902/1910) โดย สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติBangkok Art and Culture Centre มีการสร้างพระตำหนักหลายแห่งนอกพระนครเพื่อเป็นที่ประทับ เช่น พระนครคีรี หรือเขาวัง จังหวัดเพชรบุรี และพระราชวังบางปะอิน ที่พระนครศรีอยุธยา บันไดทางขึ้นตำหนัก (1902/1910) โดย สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติBangkok Art and Culture Centre ศาลาโถง ๕ ยอด (1902/1910) โดย สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติBangkok Art and Culture Centre ราษฎรรอรับเสด็จฯ (1902/1910) โดย สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติBangkok Art and Culture Centre ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้ก็ยิ่งเห็นชัดเจนมากขึ้น ด้วยพระองค์ได้เสด็จประพาสหัวเมืองต่างๆ พร้อมเหล่าเจ้านายพระราชวงศ์ ทหารเรือลำเลียงสัมภาระ (1905) โดย สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติBangkok Art and Culture Centre “เสด็จประพาสต้น” คือเสด็จพระราชดำเนินส่วนพระองค์โดยมิให้ใครรู้จัก เพื่อจะได้ทรงใกล้ชิดและทราบทุกข์สุขที่แท้จริงของชาวบ้าน เป็นการเสด็จประพาสที่ทรงสนุกสนานสำราญพระราชหฤทัย ราษฎรมีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ เจ้าเหนือหัวที่ตนเคารพเทิดทูนอย่างใกล้ชิดและเป็นกันเองอย่างที่สุด พลับพลาที่เกาะสีชัง (1892/1893) โดย สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติBangkok Art and Culture Centre เรากำลังร่วมเดินทางไปในการเสด็จประพาสในครั้งกระนั้น ไม่ว่าจะเป็นที่เกาะสีชัง ที่สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงและบรรดาเจ้านายผู้โดยเสด็จ ประทับทรงพระเกษมสำราญท่ามกลางแสงแดดและอายทะเล พระมหาธาตุ วัดเจดีย์เจ็ดยอด (1906) โดย สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติBangkok Art and Culture Centre หรือที่เมืองกำแพงเพชร ซึ่งได้เสด็จฯ ทอดพระเนตรแหล่งโบราณคดีหลายแห่ง รวมทั้งโปรดให้จัดการแสดงละครโดยให้เจ้านายรับบทบาทต่างๆ พระพุทธรูปในวัดพระแก้ว (1906) โดย สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติBangkok Art and Culture Centre พระพุทธรูป วัดพระแก้ว ในเขตเมืองโบราณไตรตรึงษ์ กำแพงเพชร บ้านหูกวาง (1906) โดย สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติBangkok Art and Culture Centre และที่ นครสวรรค์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ทรงแสดงเป็นเจ้าฟ้าเพชร (กลาง) พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ เป็นเจ้าฟ้าพร และพระยาโบราณบุรานุรักษ์ (พร เดชะคุปต์) เป็นนายผล มหาดเล็ก (หน้า) เมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๔๔๙ ภาพพระองค์เจ้าอุรุพงศ์ (1902/1905) โดย สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติBangkok Art and Culture Centre ในช่วงปีที่เสด็จประพาสต้นทั้งสองครั้ง (พ.ศ. ๒๔๗๗ และ พ.ศ. ๒๔๔๙) และเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ ๒ (พ.ศ. ๒๔๕๐) อันเป็นช่วงปลายรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวต้องทรงประสบกับความโทมนัสแสนสาหัส ด้วยทรงสูญเสียพระราชโอรสและพระราชธิดาหลายพระองค์ รวมถึง พระองค์เจ้าอุรุพงษรัชสมโภช พระองค์เจ้าอุรุพงษ์รัชสมโภช (1909) โดย สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติBangkok Art and Culture Centre พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอุรุพงษรัชสมโภช ประสูติในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระราชโอรสผู้ทรงสนิทเสน่หาและใกล้ชิดประดุจ “ธารพระกร” ซึ่งจะตามเสด็จพระองค์ไปด้วยเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเสด็จประพาสต้น หรือประพาสต่างประเทศ พระเมรุงานพระองค์เจ้าอุรุพงษ์ (1910) โดย สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติBangkok Art and Culture Centre เมื่อพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอุรุพงษรัชสมโภช สิ้นพระชนม์ ด้วยทรงเป็นพระราชโอรสผู้ทรงสนิทเสน่หา ทำให้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวต้องทรงประสบกับความโทมนัสแสนสาหัส พระเมรุงานพระราชทานเพลิงพระศพพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าอุรุพงษ์รัชสมโภช ที่สวนมิสกวัน เมื่อปี พ.ศ.๒๔๕๒ ทุ่งเขาพนมขวด (1909) โดย สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติBangkok Art and Culture Centre ทรงพระวิปโยคอาดูรถึงกับออกพระโอษฐ์ว่า “... จะทนอยู่ในกรุงเทพฯ ไม่ไหวด้วยรู้สึกไม่สบายมาก จึงจะออกไปอยู่เพชร สบายจึงจะกลับ...” ถ้ำเขาหลวง (1909) โดย สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติBangkok Art and Culture Centre พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคตหนึ่งปีหลังจาก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอุรุพงษรัชสมโภช พระราชโอรสสิ้นพระชนม์ เชิญชมนิทรรศการ เพื่อเพลิดเพลินไปกับ ปฐมบรรพ การเสด็จประพาสหัวเมืองของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เครดิต: เรื่องราว กระทรวงวัฒนธรรม เครดิต: สื่อทั้งหมด เรื่องราวที่นำเสนอบางเรื่องเขียนขึ้นโดยบุคคลหรือหน่วยงานอิสระภายนอก ซึ่งอาจแสดงมุมมองที่แตกต่างไปจากพิพิธภัณฑ์ที่อนุเคราะห์รูปภาพตามรายชื่อด้านล่าง เรื่องราวจาก Bangkok Art and Culture Centre การเสด็จประพาสต้นของรัชกาลที่ 5 มีผลดีอย่างไรนอกจากประเด็นที่กล่าวมาข้างต้น การเสด็จประพาสต้นยังทำให้เห็นความมีอัธยาศัยเอื้อเฟื้อเต็มใจต้อนรับผู้มาเยือนเห็นได้ชัดจากผู้ที่ถวายเลี้ยงพระยาหารพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเป็นพระมหากษัตริย์ นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นความจงรักภักดีของประชาชนต่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
การเสด็จประพาสต้นมีจุดประสงค์เพื่ออะไรการเสด็จประพาสต้น หรือภูมิหลังการเสด็จประพาสส่วนพระองค์โดยไม่มีหมายก าหนดการ ล่วงหน้า วัตถุประสงค์หลักก็เพื่อทรงตรวจเยี่ยมราษฎรส่วนพระองค์ การเสด็จประพาสส่วนพระองค์ ของพระมหากษัตริย์ทรงมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย และกรุงศรีอยุธยา แต่ค าว่า การเสด็จประพาสต้น เกิดขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์
อะไรคือประโยชน์สำคัญที่สุดที่ได้รับจากการเสด็จประพาสต้นการเสด็จประพาสต้น เป็นสิ่งที่ทำให้พระองค์ได้ทอดพระเนตรทุกสิ่งทุกอย่างชัดเจน การประพาสต้นเพื่อสอดส่องทุกข์สุขของราษฎรนี้มิได้มีหมายกำหนดการ บางคราวทรงปลอมแปลงพระองค์เป็นสามัญชนเข้าไปปะปนกับราษฎร เพื่อที่จะได้ประจักษ์ในความเป็นอยู่ของราษฎรของพระองค์อย่างใกล้ชิดทะให้พระองค์ได้พบความจริงต่างๆ และทรงนำไปแก้ไขในทุกๆ เรื่อง ...
การเสด็จประพาสยุโรปของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก่อให้เกิดผลดีต่อชาติบ้านเมืองอย่างไรสำหรับการเสด็จประพาสยุโรปในครั้งนั้น นอกเหนือไปจากการเรียนรู้ความเจริญก้าวหน้าของโลกตะวันตกเพื่อนำมาปรับปรุงบ้านเมืองแล้ว วัตถุประสงค์สำคัญอีกประการหนึ่งคือ การสร้าง “ภาพลักษณ์” ของ “ความศิวิไลซ์” ของไทยในการรับรู้ของมหาอำนาจและสาธารณชนในประเทศชาติตะวันตก แม้ว่าในทางการเจรจาอาจจะยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาวิกฤติทางการเมือง ...
|