2. You can also send it to your clipboard (copy) and paste the dictated text in any other application. 3. Voice Texting Pro doesn't need to learn your voice, no training is required. 4. By default, it uses the language appropriate to the settings of your device. 5. It's simple: just speak into the microphone and convert your speech into text. Then directly send your message to e-mail, sms, WhatsApp, Twitter or Facebook. You can also send it to your clipboard (copy) and paste the dictated text in any other application. Voice Texting Pro uses superior speech recognition. There are no settings required, just say the words! Voice Texting Pro doesn't need to learn your voice, no training is required. It works straight out of the box. By default, it uses the language appropriate to the settings of your device. So if you are in Spain, it recognizes Spanish, etc. You can change this language in the settings page. All features are easily available from a single screen. Sending messages or dictating has never been easier! Please contact us at [email protected] if you have any comments or suggestions. Voice Recognition (บ้างก็เรียกว่า Speech Recognition) หรือที่รู้จักกันในนามของฟีเจอร์สั่งงานด้วยเสียง ซึ่งบนแอนดรอยด์ถือเป็นฟีเจอร์ปกติที่มีอยู่แทบทุกอุปกรณ์แอนดรอยด์อยู่แล้ว และการเรียกใช้งานก็โคตรจะง่ายเลยล่ะ ซึ่งบนแอนดรอยด์จะรองรับการเรียกใช้งานความสามารถนี้อยู่แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดใดๆเพื่อเรียกใช้งาน Voice Recognition ภายในแอพ แต่จะเป็นการเรียกหน้าต่าง Voice Recognition ขึ้นมาแทน เรื่อง (ที่ควรจะ) น่ารู้Voice Recognition บนแอนดรอยด์แทบทุกเครื่องในทุกวันนี้ เบื้องหลังของมันก็คือ Google นั่นเอง ซึ่งทาง Google ก็ได้พัฒนาระบบตัวนี้มาตลอดทุกเวอร์ชัน เมื่อก่อนนี้จะมีข้อจำกัดที่ว่าเวลาใช้งานจะต้องต่ออินเตอร์เน็ตเท่านั้น เพราะว่าเสียงที่พูดจะถูกส่งขึ้นไปประมวลผลบนเซิฟเวอร์แล้วส่งผลลัพธ์ที่ได้กลับมา ในตอนนั้นการทำ Offline Voice Recognition ยังไม่อำนวยมากนัก แถมยังไม่มีภาษาไทยด้วย จนมาวันหนึ่ง Google ก็ได้ประกาศว่ารองรับภาษาไทยแล้ว (ก็เฮสิครับ) จึงทำให้นักพัฒนาหลายๆคนสามารถใช้ประโยชน์จาก Voice Recognition ได้สะดวกขึ้น จากเดิมที่ต้องใช้เฉพาะภาษาอังกฤษ เพียงแค่ไปตั้งค่าใน ล่าสุดนี้บนแอนดรอยด์ก็ได้มี Offline Voice Recognition เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะต้องดาวน์โหลดข้อมูลที่ใช้ในการวิเคราะห์มาเก็บไว้ในเครื่องก่อนถึงจะทำงานได้ การใช้งานที่โคตรจะง่ายในการทำ Text To Speech จะต้องเรียกใช้งานผ่านคลาส TextToSpeech แต่สำหรับ Voice Recognition นั้นไม่ต้องใช้คลาสอะไรเกี่ยวกับมันเลย เพียงแค่เรียกใช้งานคำสั่ง
แค่นี้แหละ!! ซึ่ง Request Code ที่กำหนดเป็น 10001 ไม่ใช่เลขตายตัว กำหนดเป็นเลขอะไรก็ได้ เอาไว้เช็คตอนขากลับเฉยๆว่าข้อมูลที่ส่งกลับมาเป็นอันเดียวกับตอนที่ส่งไปในตอนแรกหรือป่าว ทีนี้ก็เหลือแค่การดึงข้อมูลผลลัพธ์ที่ได้นั่นเอง ก่อนอื่นต้องเช็ค Request Code ว่า Request Code เป็นค่าที่ส่งไปใช่มั้ย และ Result Code ที่ได้คือ OK ใช่มั้ย จากนั้นก็ค่อยดึงข้อมูลที่ส่งกลับมา
จะเห็นว่าผลลัพธ์ที่ได้นั้นเป็น String Array List เพราะว่าผลลัพธ์ไม่ได้แม่นยำ 100% เสมอไป ดังนั้นอันไหนที่น่าจะใกล้เคียงก็จะถูกส่งกลับมาด้วย ซึ่งเรียงลำดับตามใกล้เคียง โดย Index ที่ 0 คือตัวที่น่าจะใกล้เคียงที่สุด สมมติว่าเจ้าของบล็อกพูดไปว่า “Digital Smart Box” ผลลัพธ์ที่ได้กลับมาก็จะมีให้เลือกดังนี้
ถ้าไม่คิดอะไรมากก็ใช้ตัวแรกสุดน่ะแหละครับ เพราะเป็นตัวที่น่าจะถูกต้องมากที่สุดแล้ว พอได้ข้อความเป็น String แล้วก็เอาไปใช้ทำอะไรตามใจชอบเลยครับ กำหนดภาษาที่ต้องการได้ด้วยนะสมมติว่าผู้ที่หลงเข้ามาอ่านอยากให้ Voice Recognition รับข้อความเป็นภาษาไทย ถึงแม้ว่าเครื่องนั้นๆจะใช้เป็นภาษาอังกฤษอยู่ก็ตาม สามารถกำหนดค่าเข้าไปใน Intent ได้ครับ เพื่อเลือกภาษาที่ต้องการ
เวลาเรียกขึ้นมาก็จะเห็นว่ามีห้อยท้ายบรรทัดว่าเป็นภาษาอะไรอยู่ด้วย โดยปกติแล้วจะ Default เป็นภาษาอังกฤษให้ ในกรณีที่ไม่ใช่ภาษาไทยให้กำหนดภาษาจากคลาส Locale ได้เลย เพราะภาษาไทยไม่มีอยู่ในคลาส Locale ก็เลยต้องใส่เป็น String แบบนั้นไปตรงๆ |