คือสงสัยค่ะ รู้มาว่าต้นทุนเค้ารับมาชิ้นละ 15บาท แสดงว่าโรงงานที่ผลิตต้นทุนต้องต่ำกว่า 15บาท แบบว่าของบางอย่างราคา 20บาท มันถูกเว่อร์ คุ้มเว่อร์หนะค่ะ เช่นเครื่องเขียน สินค้าเบ็ดเตล็ด และอีกมากมายที่ไปซื้อที่ไหนไม่ได้ราคานี้ วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตเค้าหามาจากไหนค่ะ ถึงได้ต้นทุนที่ถูกขนาดนี้ สินค้าบางอย่างเค้าก็ดีอยู่นะ ไม่ได้กิ๊กก็อกด้วย ปล. เห็นร้านขายทุกอย่าง20 บางร้าน เช่าตึกแถวด้วยค่ะ เค้ากำไรน้อยชิ้นละ 5บาท วันนึงขายได้เยอะขนาดมาเช่าตึกแถว ค่าเช่าเดือนละหมื่นกว่าบาทเลยหรอค่ะ แก้ไขข้อความเมื่อ ตามหัวข้อเลยค่ะอยากเปิดร้าน20เลยมานั่งคิดนอนคิดเกิดคำถามมากมายขอผู้รู้หรือเจ้าของร้าน20มาตอบคำถามหน่อยค่ะ 2ควรรับแฟรนไชส์หรือลงทุนร้านเองจะดีกว่า 3ควรมีระบบจัดการกันของสูญหายอย่างไรคะหรือลดปริมาณของสูญหายได้อย่างไร 4ถ้าทำคนเดียวดูแลร้านคนเดียวจะไหวไหมคะส่วนตัวมีเวลาว่างทั้งวันไม่มีงานประจำอยากทำงานอยู่บ้าน 5มีระบบจัดการสต๊อกของอย่างไรต้องจดบันทึกทุกวันเลยไหม 6ของในร้านส่งจะส่งเป็นโหลหรือเปล่าคะ 7ควรเปิดร้านตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมง 8ถ้าไปเช่าที่อยู่เปิดร้านด้านล่างชั้น2ใช้นอนเดือนละ10000ไม่รวมค่าน้ำค่าไฟจะคุ้มกันไหมคะ 9ส่วนตัวไม่ได้หวังกำไรสุทธิเยอะถึงเดือนละ20000+หวังแค่จะได้ทำงานอยู่บ้านกับลูกน้อยมันพอจะเป็นไปได้ไหมคะ 10ควรมีของกี่ประเภท /สต๊อกหลังร้านประเภทละกี่อย่างดีคะ รบกวนด้วยนะคะสนใจอยากทำเลยอยากศึกษาจากประสบการ์ณและความเห็นของหลายๆคนดู "สิ่งที่น่ากลัวกว่าการตัดสินใจ ..ก็คือการไม่ลงมือทำนั่นเอง”เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงของชายคนหนึ่ง อายุราว 50 ต้น ๆ ตัดสินใจลาออกจากงานประจำ มาเปิดร้าน 20 บาท เลี้ยงตัวเองและครอบครัว ในช่วงนั้นบอกได้เลยว่า..การเริ่มต้นเป็นเรื่องที่ยาก ลังเล เริ่มต้นไม่ถูก แต่เมื่อต้องตัดสินใจ จึงเริ่มต้น ด้วยความคิดสุดท้าย ที่ว่า “เป็นไง เป็นกัน เพราะสิ่งที่น่ากลัวกว่าการตัดสินใจ ..ก็คือการไม่ลงมือทำนั่นเอง” เลยอยากมาถอดรหัสความสำเร็จมาถ่ายทอดให้ทุกคนที่กำลังคิดเปิดร้าน 20 บาทจะทำอย่างไรให้รวย ต้องบอกเลยว่าอย่าพึ่งดูถูกร้านที่ขายสินค้า 20 บาทว่า..ต้องขายจำนวนเท่าไหร่ ถึงจะได้เงินแสน..เงินล้าน..อย่าลืมนะว่าที่ประเทศญี่ปุ่นก็มีร้าน 100 เยน เป็นร้านที่ขายดิบขายดี ขยายสาขากันมากมาย มีแทบทุกเมือง บางเมืองมีหลายสาขา ถ้าเทียบเงิน 100 เยน เท่ากับเงินไทย ก็ราว ๆ สามสิบกว่าบาท ในประเทศไทยเราก็มีร้าน 20 บาท ที่ปัจจุบันนั้น จริง ๆ ร้าน 20 บาทเป็นร้านที่น่าสนใจ เพราะเปิดร้านทำธุรกิจได้ง่าย แต่ความยากอยู่ที่จะทำอย่างไรให้รวย ได้เงินหลักแสน หลักล้าน ถ้าใครคิดจะเปิดขอให้เริ่มต้นที่คำถามนี้ก่อนเลยว่า จะเริ่มต้นที่ช่องทางการเปิดร้านแบบไหนเพื่อหาแหล่งสินค้ามาขาย มีทางเลือก 3 ช่องทางในการเปิดร้านคือ.. ช่องทางที่ 1: ซื้อแฟรนไชน์ร้าน 20 บาท มาเปิด เจ้าของแฟรนไชน์จัดสินค้ามาให้ในวงเงินที่เราทำสัญญากับเขา การซื้อแฟรนไชน์นั้นผู้เขียนอาจไม่ถนัดเท่าไหร่ เพราะตนเองชอบทำอะไรด้วยตนเอง ดูสินค้า เลือกสินค้าเอง ตัดสินใจเอง จึงต้องตามไปดูวิธีที่สอง ช่องทางที่ 2: วิ่งหาสินค้าเอง โอ้ย..วิธีนี้เหมือนง่าย แต่ทำจริง ๆ เหนื่อยมั๊ก มั๊ก วิ่งหาของไม่ทัน ต้องมีคนช่วยวิ่งเรียกว่า ทำรายได้ไม่คุ้มเสีย..เสียค่าใช้จ่ายในการวิ่งมาก และก็ใช้เวลามาก ทำให้ไม่มีเวลาเฝ้าหน้าร้าน ต้องปิดร้าน ขาดรายได้เลย สรุปไม่แนะนำ เพราะเหนื่อย เลยหาวิธีที่สาม ช่องทางที่ 3: ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่าย ที่ขายเพื่อร้าน 20 บาทโดยเฉพาะ..เริ่มเข้าท่า..หมายความว่าร้านที่เปิดขายส่งให้กับร้าน 20 บาทอีกครั้ง แต่ไม่ใช่แฟรนไชน์ ไม่ต้องผูกมัด แต่ต้องเข้าไปเลือกสินค้าเอง ซื้อเท่าไหร่ จ่ายเท่านั้น ไปร้านเดียวได้ครอบคุมทุกหมวดหมู่ ทั้งเครื่องครัว ของใช้ประจำวัน ของใช้ทั่วไป ในราคาส่งที่ต่ำกว่า 20 บาท แน่นอน วิธีนี้น่าจะเหมาะสุดที่จะเริ่มต้นธุรกิจ 20 บาท หลังจากไม่กัววลกับการหาสินค้ามาขายแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ ต้องเข้าใจหัวใจความสำเร็จในการเปิดร้าน 20 บาทให้รวยเป็นแสนเป็นล้านทันตาเห็น มีเทคนิคอยู่ 9 ข้อที่ใครคิดจะเปิดร้านต้องทำจะได้ปัง ดังเป็นพลุ.. 1.ทำเลที่ตั้ง 2.บริการที่เป็นมิตร 3.ให้คำแนะนำได้ 4.สินค้าหลากหลายครบทุกหมวดหมู่ 5.สินค้าไม่ขาดสต๊อก 6.มีสินค้าแปลก ๆ ใหม่มาเป็นประจำ 7.มีสินค้าให้ตรงกับเทศกาลต่าง ๆ 8.การจัดวางสินค้าเป็นหมวดหมู่ 9.มีต้นทุนที่คุ้มค่า ทำให้สินค้าน่าใช้ เทคนิค 9 ข้อในการทำธุรกิจเปิดร้าน 20 บาทให้ปัง ให้รวยเป็นล้าน อยากบอกว่าใครที่คิดจะทำธุรกิจ 20 บาทเช่นนี้ต้องไม่ลองทำดูนะ คือต้องทำจริง ๆ เท่านั้น จะรวย มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ บางคนเคยขายของรถเร่ คือไปออกร้านตามตลาดนัดเคลื่อนที่ต่าง ๆ สุดท้ายมาตั้งตัวได้เพราะร้าน 20 บาท ทำให้ลืมที่เคยขายรถเร่ไปเลย มานั่งเฝ้าร้านได้สบายใจกว่ามาก..หุหุ..รวยแล้วอย่างลืมกันนะเพ่.. ดร.สุรชัย โฆษิตบวรชัย |