การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
ความสามารถที่โดดเด่นของ Excel คือ การนำข้อมูลที่เก็บอยู่ในเวิร์กชีตมาวิเคราะห์และประมวลผล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์จากการใช้สูตรคำนวณ  โดนการนำค่าคงที่ ตัวเลข  คัวแปร  หรือการอ้างอิงตำแหน่งเซลล์บนเวิร์กชีตที่เก็บค่าต่างๆ  แล้วใช้ตัวดำเนินการหรือเครื่องหมายคำนวณ  เช่น  บวก, ลบ, คูณ หรือหาร และแสดงผลลัพธ์ในเซลล์ เราจึงมาดูวิธรการสร้างสูตรคำนวณพื้นฐาน  และการอ้างอิงตำแหน่งเซลล์ที่ใช้ในสูตรคำนวณในลักษณะต่างๆ
นอกจากการคำนวณพื้นฐานแล้ว  Excel ยังมี Function (ฟังก์ชัน) สำเร็จรูปเพื่อนำมาคำนวณค่าอัตโนมัติสำเร็จรูปที่ได้เขียนเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ใส่ชื่อ Function แล้วระบุค่าที่จำนะไปคำนวณตามรูปแบบของฟังก์ชันก็คำนวณสูตรยากๆที่ซับซ้อนได้แบบรวดเร็ว และโปรแกรมได้เตรียมฟังก์ชันให้หลายร้อยฟังก์ชัน  แยกเป็นประเภทต่างๆ  เช่น  ฟังก์ชันการเงิน, ฟังก์ชันสถิติ เป็นต้น

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
การคำนวณพื้นฐานใน Excel ทำได้ง่ายๆเหมือนเราใช้เครื่องคิดเลขทั่วไปในชีวิตประจำวัน  เช่น + (บวก), - (ลบ), * (คูณ), / (หาร) และ ^ (ยกกำลัง)  จะต่างกันที่สูตรคำนวณ (Formula) ใน Excel นั้นจะต้องใส่เครื่องหมาย = (เท่ากับ) นำหน้าสูตรก่อน แล้วตามด้วยตำแหน่งเซลล์  หรือตัวเลขที่เป็นเหมือนตัวแปรที่จะนำค่าไปคำนวณ  เช่น  =A2+50 คือ การนำค่าที่เก็บในเซลล์  A5 ไปบวกกับค่า 50 เป็นต้น

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
ตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ (Arithmetic Operator)

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
หรือเรียกง่ายๆว่า “เครื่องหมายคำนวณ” เช่น บวก, ลบ, คูณ, หาร และยกกำลัง  ซึ่งตัวแปรที่ใช้กับตัวดำเนินการนี้จะต้องเป็นข้อมูลตัวเลขเท่านั้น และผลลัพธ์ที่ได้ก็จะเป็นตัวเลขเช่นเดียวกัน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
ตัวดำเนินการอ้างอิง (Reference Operator)

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
ใช้ในการอ้างอิงตำแหน่งเซลล์บนเวิร์กชีต โดยใช้เครื่องหมาย , (comma), : (colon)  หรือเว้นวรรค (space) ในการอ้างอิงถึงกลุ่มเซลล์บนเวิร์กชีต

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
ตัวดำเนินการข้อความ (Text Operation)
การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
ใช้สำหรับเชื่อมข้อความ  อาจจะเป็นข้อความแบบค่าคงที่  หรือข้อความที่เก็บอยู่ในเซลล์มาแสดงร่วมกันได้ หรือจะใช้เชื่อมเนื้อหาหลายๆ เซลล์ให้แสดงที่เซลล์ใหม่ได้

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
ตัวดำเนินการเปรียบเทียบ (Comparison Operator)
การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
ใช้เปรียบเทียบข้อมูล เช่น = (เท่ากับ), > (มากกว่า) เป็นต้น โดยแปรฟลในเชิงตรรกะคือ TRUE (จริง) หรือ FALSE (เท็จ) เช่น 15>20 คือ 15 มากกว่า 20 หรือไม่ ซึ่งก็คือไม่ใช่ก็เป็น เท็จ (FALSE) เป็นต้น

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
ระดับความสำคัญเครื่องหมายคำนวณ (ลำดับการคำนวณ)
การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
สูตรการคำนวณใน Excel จะคำนวณจากซ้ายไปขวาเสมอ  แต่เครื่องหมายคำนวณทางคณิตศาสตร์ต่างๆ จะมีลำดับความสำคัญต่างกัน โดยจะประมวลผลจากตัวดำเนินการระดับสูงไปยังระดับรองลงมา  หรือตามลำดับการคำนวณภายในสูตร เช่น A5+B5*C5-10 จะกระโดดข้ามเครื่องหมาย + ไปทำที่เครื่องหมาย * (คูณ) ก่อนตามลำดับความสำคัญแล้วจึงย้อนกลับไปคำนวณยังเครื่องหมายที่เหลือ และถ้าในสูตรคำนวณเดียวกันมีตัวดำเนินการที่มีระดับความสำคัญเท่าๆกัน เช่น + หรือ – ก็จะคำนวณจากซ้ายไปขวาจนครบตามปกติ

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
แถบสูตร (Formula Bar)
การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
การใส่สูตรคำนวณลงในเซลล์นั้น จะทำได้โดยคลิกเซลล์ที่ต้องการแสดงผลลัพธ์ก่อน แล้วพิมพ์สูตรลงไปในเซลล์โดยตรง หรือจะพิมพ์ลงบนแถบสูตร (Formula Bar) ซึ่งจะมีการใช้งานแถบสูตร ดังนี้

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
สูตรคำนวรที่ลงบนเซลล์ไปแล้ว หากต้องการแก้ไข เช่น เปลี่ยนตำแหน่งเซลล์ที่อ้างอิง หรือแก้ไขเครื่องหมายคำนวณ เปลี่ยนชื่อฟังก์ชันก็จะทำได้ 2 แบบ ดังนี้
การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
วิธีที่ 1

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
วิธีที่ 2

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
เลือกเซลล์ที่จะนำมาคำนวณด้วยเมาส์
การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
การอ้างอิงตำแหน่งเซลล์ในสูตรคำนวณของ Excel ที่ง่ายและแม่นยำที่สุด สามารถทำได้โดยใช้เมาส์คลิกเลือกเพื่อนำเอาตำแหน่งเซลล์มาใส่ได้เลย  โดยไม่ต้องพิมพ์ชื่อของตำแหน่งเซลล์ลงไปเอง  การเลือกนั้นจะคลิกเลือกเพียงเซลล์เดียว หรือคลิกลากเลือกช่วงเซลล์แบบกลุ่มหลายๆเซลล์ก็ทำได้เช่นกัน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
การคำนวณของ Excel จะคำนวณสูตรที่ใช้จากซ้ายไปขวา ตาจะตรวจสอบความสำคัญหรือลำดับก่อนว่าจะทำอะไรก่อนหรือหลัง ฉะนั้นถ้าจัดลำดับไม่ถูกต้องผลลัพธ์ที่ออกมาก็อาจจะไม่ถูกต้องไปด้วย วิธีการจัดลำดับเราจะใช้เครื่องหมายวงเล็บ ( ) มาช่วยจัดลำดับ เพื่อบังคับว่าให้ทำอะไรก่อนหรือหลัง เช่น =(B2+50)/SUM(D2:D5) ให้นำ B2 บวกกับ 50 ก่อนแล้วไปหาผลรวมจากฟังก์ชัน SUM จากนั้นก็เอาผลลัพธ์ของค่าแรกไปหารกับผลรวมเป็นต้น

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
Function (ฟังก์ชัน) คือ ชุดคำสั่งในการคำนวณอัตโนมัติเป็นฟังก์ชันสำเร็จรูปที่ได้เขียนเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ใส่ชื่อฟังก์ชัน แล้วระบุค่าที่จะนำไปคำนวณตามรูปแบบของฟังก์ชัน หรือเรียกว่า Argument (อาร์กิวเมนต์) เช่น การคำนวณทางการตำแหน่งเซลล์ และคาสที่กำหนด เพื่อให้ฟังก์ชันนำไปคำนวณแล้วแสดงผลออกมาได้ถูกต้อง เช่น การคำนวณทางการเงินบางฟังก์ชัน ต้องระบุเงินต้น, ดอกเบี้ยและระยะเวลา เป็นต้น

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
เมื่อใส่ตัวอักษรเริ่มต้น ซึ่งจะเป็นตัวอักษรของชื่อฟังก์ชัน เช่น =S ก็จะแสดงรายการของฟังก์ชันที่ขึ้นต้นด้วยตัว S ขึ้นมาให้เลือกหากพิมพ์ตัวต่อไปก็จะกรองเข้าไปถึงชื่อฟังก์ชันตามที่จะใช้งาน เช่น =SUM ก็จะขึ้นรายการฟังก์ชันที่ขึ้นต้นด้วย SUM ทั้งหมดขึ้นมาให้เลือก

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
การเลือกฟังก์ชันเพื่อให้คำนวณอัตโนมัติ ซึ่งเป็นฟังก์ชันพื้นฐานเลือกได้อีกวิธีหนึ่ง ซึ่งเป็นวิธีเดิมๆ ที่เคยใช้กันมาทุกเวอร์ชันคือ คลิกปุ่ม AutoSum โดยจะมีฟังก์ชันให้เลือกใช้งานหลายตัวเลือกได้ง่ายๆ ดังนี้
การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
การคำนวณอัตโนมัตินี้โปรแกรมจะตัดสินใจเลือกกลุ่มเซลล์มาคำนวณจากตำแหน่งเซลล์ผลลัพธ์ที่เลือก เช่น เลือกแสดงผลด้านล่าง ก็จะมองไป หาเซลล์ที่อยู่เหนือตำแหน่งผลลัพธ์แต่ถ้าเลือกเซลล์แสดงผลทางขวาก็จะมองหาเซลล์ตัวเลข ที่อยู่ด้านซ้ายมาคำนวณ

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

ฟังก์ชันพื้นฐานจะเป็นฟังก์ชันที่นิยมนำมาใช้งานบ่อยๆ เช่น

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
- Sum (ผลรวม) หาผลรวมตัวเลข                                                        
การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
- Average (ค่าเฉลี่ย) หาค่าเฉลี่ย
การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
- Count Numbers (นับจำนวนตัวเลข) นับจำนวนเซลล์ที่เก็บค่าตัวเลขเอาไว้
การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
- Min (ค่าที่น้อยที่สุด) หาค่าต่ำสุดของตัวเลขที่เลือก
การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
- Max (ค่ามากที่สุด) หาค่าสูงสุดของตัวเลขที่เลือก
การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
- More Functions เลือกฟังก์ชันอื่นๆ

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
หารคุณต้องการดูผลลัพธ์การคำนวณแบบรวดเร็วโดยไม่ต้องสร้างสูตร  ก็เลือกตัวเลขแล้วดูผลลัพธ์ที่แสดงผลแถบสถานะด้านล่างได้ ซึ่งจะมีการคำนวณพื้นฐานเช่น Sum หาผลรวม, Average หาค่าเฉลี่ย และ Count นับจำนวนเซลล์ข้อมูลที่เลือก

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
เพิ่มฟังก์ชันการแสดงค่าบนแถบสถานะ

            คุณสามารถเพิ่มฟังก์ชันการคำนวณค่าพื้นฐาน อื่นๆ ให้แสดงค่าที่แถบสถานะได้ เช่น ฟังก์ชัน Minimun แสดงค่าต่ำสุด และ Maximum แสดงค่าสูงสุด หือจะคลิกปิดฟังก์ชันที่ไม่ต้องการแสดงค่าได้

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
- Financial (การเงิน) ฟังก์ชันทางด้านการเงิน ใช้คำนวณหาค่าทางการเงินต่างๆ เช่น มูลค่าเงินในอนาคต, อัตราดอกเบี้ย, ค่าเสื่อมราคา, จำนวนเงินชำระต่องวด หรือจำนวนงวดสำหรับการลงทุนเป็นต้น
การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
- Logical (ตรรกะ)
ฟังก์ชันทางด้านตรรกศาสตร์ ใช้ในการคำนวณแบบกำหนดเงื่อนไข เช่น การเปรียบเทียบค่าที่ให้ผลลัพธ์เป็นจริง (TRUE) หรือเท็จ (FALSE)
การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
- Text (ข้อความ)
ใช้จัดการกับข้อมูลประเภทข้อความ เช่น นับจำนวนตัวอักษร ค้นหาคำ แทนที่ข้อความแปลงข้อความ แปลงตัวอักษร พิมพ์เล็ก พิมพ์ใหญ่ เป็นต้น
การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
- Date & Time (วันที่และเวลา)
ฟังก์ชันเกี่ยวกับวันที่และเวลา ใช้คำนวณหาวันและเวลา แสดงวันที่ปัจจุบัน แปลงวันที่เป็นเลขลำดับ หรือแปลงเลขลำดับเป็นวัน เดือน สัปดาห์ หรือปี เป็นต้น
การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
- Lookup & Reference (การค้นหาและการอ้างอิง)
ฟังก์ชันที่ใช้ในการค้นหาและอ้างอิง โดยใช่ค้นหาข้อมูลในตารางเพื่อดึงค่าที่ค้นหาเจอมาใช้งาน
การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
- Math & Trig (คณิตศาสตร์และตรีโกณมิติ)
ฟังก์ชันทางด้านคณิตศาสตร์และตรีโกณมิติใช้คำนวณหาค่าทางคณิตศาสตร์หรือตรีโกณมิติ เช่น ค่าผลรวม ค่าสัมบูรณ์ ค่าปัดเศษทศนิยม แปลงมุมเรเดียนเป็นมุมองศาหาค่ารากที่สองของตัวเลข เป็นต้น
การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
- Statistical (ทางสถิติ)
ฟังก์ชันการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ  ใช้คำนวณหาค่าสถิติต่างๆ เช่น ค่าเฉลี่ยสูงสุด ต่ำสุด ค่ามัธยฐาน ค่าเฉลี่ยเรขาคณิต นับจำนวนค่า นับจำนวนตัวเลข นับเซลล์ว่าง หาค่าลอการิทึมหรือหาค่ารากที่สองของตัวเลข เป็นต้น
การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
- Database (ข้อมูล)
ฟังก์ชันเกี่ยวกับฐานข้อมูลใช้จัดการข้อมูลที่ถูกจัดเก็บในตาราง เช่น ค้นหา คำนวณค่าในตาราง เช่น หาผลรวม, หาค่าสูงสุด-ต่ำสุด, นับจำนวน, หาค่าเฉลี่ยในกลุ่มฐานข้อมูล เป็นต้น
การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
- Information (ข้อมูล)
ฟังก์ชันทางด้านสารสนเทศที่ใช้ตรวจสอบลักษณะหรือสถานะของข้อมูลที่อยู่ในเซลล์ เช่น  ตรวจสอบว่ามีข้อมูลในเซลล์นั้นหรือไม่ ข้อมูลในเซลล์เป็นตัวเลขหรือข้อความเป็นต้น
การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
- More Functions (ฟังก์ชันเพิ่มเติม)
เลือกฟังก์ชันกลุ่มอื่นๆเพิ่มเติม

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
ฟังก์ชันใหม่ของ Excel 2013 เมื่อคุณคลิกลากคลุมเซลล์ข้อมูลที่เป็นตัวเลข สามารถคลิกปุ่ม
การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
 Quick Analysis ในหัวข้อ TOTALS เพื่อเลือกการคำนวณค่าด้วยฟังก์ชันพื้นฐานต่างๆได้ เช่น Sum, Average, Count ได้แบบรวดเร็ว

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
คุณสมบัติเด่นทางด้านการคำนวณของ Excel คือ จากการที่เราอ้างอิงตำแหน่งเซลล์ที่เก็บค่าตัวเลขมาใช้ในสูตรหากว่าสูตรคำนวณลักษณะนี้ต้องนำไปใช้กับเซลล์อื่นๆ ที่คำนวณแบบเดียวกัน  เราจะสร้างแค่สูตรแรกที่เหลือใช้วิธีก็อปปี้สูตรแทนตำแหน่งเซลล์ที่อ้างถึงก็จะเปลี่ยนตามทิศทางการก็อปปี้สูตรไปวาง  ผลการคำนวณก็จะเปลี่ยนตามโดยอัตโนมัติ
การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
ก็อปปี้สูตรคำนวณแบบต่อเนื่อง

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
การก็อปปี้สูตรแบบต่อเนื่องจะทำได้ง่าย ด้วยการใส่สูตรแรกเสร็จแล้ว ให้คลิกเลือกเซลล์ที่มีสูตร แล้วเลื่อนเมาส์ไปที่เครื่องหมาย + ที่เป็นจุดจับเติมในมุมล่างขวาของเซลล์ แล้วคลิกลากไปตามทิศทางที่จะก็อปปี้สูตรไป เช่น คลิกลากลงจะหมายถึงก็อปปี้สูตรไปใช้เซลล์ด้านล่าง เป็นต้น

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
ก็อปปี้สูตรด้วยคำสั่ง Copy & Paste

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
การก็อปปี้สูตรแบบนี้จะทำได้เหมือนการก็อปปี้ข้อมูลทั่วไป แต่สูตรจะเปลี่ยนไปตามตำแหน่งเซลล์ที่วางโดยอัตโนมัติ

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
ก๊อปปี้สูตรข้ามเวิร์กชีต

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
นอกจากการก๊อปปี้สูตรไปวางในพื้นที่ติดกันในเวิร์กชีตเดียวกันแล้ว คุณยังสามารถก๊อปปี้สูตรจากเวิร์กบุ๊คหนึ่งไปวางอีกเวิร์กบุ๊คหนึ่งได้ โดยวิธีการก๊อปปี้ด้วยคำสั่ง Copy (คัดลอก) และวางสูตรในตำแหน่งปลายทางด้วยคำสั่ง Paste (วาง) ได้ดังนี้

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
ฟังก์ชัน  จะหมายถึง  สูตรพิเศษที่ได้เขียนไว้ล่วงหน้า  เพื่อให้ผู้ใช้นำไปใช้ได้โดยสะดวกผู้เรียนสามารถใช้ฟังก์ชันได้โดยการใส่ฟังก์ชันเหล่านั้นไปในสูตรบนแผ่นงานของผู้เรียน  ลำดับตัวอักษรที่ใช้ในฟังก์ชัน  เรียกว่า  รูปแบบ  ฟังก์ชันทั้งหมดมีรูปแบบพื้นฐานเดียวกัน  ถ้าผู้เรียนไม่ได้ทำตามรูปแบบนี้โปรแกรม  Microsoft Excel  จะแสดงข้อความกำหนดข้อผิดพลาดในสูตร  ถ้าเป็นฟังก์ชันนั้น  เหมือนกับสูตรอื่นๆ

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
ในโปรแกรม Microsoft Excel จะมีฟังก์ชันให้ผู้เรียนเลือกมากมาย  ซึ่งผู้เรียนสามารถเลือกได้จากเครื่องมือ
การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
บนแถบเครื่องมือ

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

จะปรากฏไดอะล็อคบล็อกซ์ของการเลือกฟังก์ชันดังรูป

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

ประเภทของฟังก์ชัน

  • ที่ใช้ไปล่าสุด
  • ทั้งหมด
  • การเงิน
  • วันและเวลา
  • คณิตศาสตร์และตรีโกณมิติ
  • ทางสถิติ
  • การค้นหาและการอ้างอิง
  • ฐานข้อมูล
  • ข้อความ
  • ตรรกศาสตร์
  • ข้อมูล
ชื่อฟังก์ชันที่ถูกใช้งานบ่อย ๆ ใน Excel 

ชื่อฟังก์ชัน
รูปแบบ
ตัวอย่าง

ABS
ABS (number)
=Abs(A1)

ให้ค่าสมบูรณ์ของตัวเลข

ชื่อฟังก์ชัน
รูปแบบ
ตัวอย่าง

AVERAGE
AVERAGE(number1.number2,…..)
=AVERAGE(A1:A5)

ให้ค่าเฉลี่ยของตัวแปรของมัน

ชื่อฟังก์ชัน
รูปแบบ
ตัวอย่าง

COUNT
COUNT(valuel,value2,…)
=COUNT(A1:A5)

นับจำนวนตัวเลขที่มีอยู่ในรายการตัวแปร

ชื่อฟังก์ชัน
รูปแบบ
ตัวอย่าง

MAX
MAX(number1,number2,…..)
=MAX(A1:A5)

ให้ค่าสูงสุดในรายการของตัวแปร

ชื่อฟังก์ชัน
รูปแบบ
ตัวอย่าง

MIN
MIN(number1,number2,…..)
=MIN(A1:A5)

ให้ค่าต่ำสุดในรายการของตัวแปร

ชื่อฟังก์ชัน
รูปแบบ
ตัวอย่าง

MOD
MOD(number1,divisor2,…..)
=MOD(A1:A5)

ให้ค่าเศษของการหาร

ชื่อฟังก์ชัน
รูปแบบ
ตัวอย่าง

ROUND
ROUND(number,num digits)
=ROUND(A1,2)

ปัดเศษจำนวนให้เป็นตำแหน่ง ทศนิยมที่ระบุ

ชื่อฟังก์ชัน
รูปแบบ
ตัวอย่าง

ROUNDDOWN
ROUNDDOWN(number,num_ digits)
=ROUNDDOWN(A1,2)

ปัดเศษจำนวนลง

ชื่อฟังก์ชัน
รูปแบบ
ตัวอย่าง

ROUNDUP
ROUNDUP
(number,num_digits)
=ROUNDUP(A1,2)

ปัดเศษจำนวนขึ้น

ชื่อฟังก์ชัน
รูปแบบ
ตัวอย่าง

SUM
SUM(number1,number2,…..)
=SUM(A1:A5)

ให้ค่าผลรวมของตัวแปร


  •   ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับฟังก์ชัน
    • ฟังก์ชันจะเริ่มต้นด้วยเครื่องหมายเท่ากับเสมอ  (=)
    • ข้อมูลที่เอ็กเซลใช้ในการคำนวณในฟังก์ชันนั้นจะอยู่ในเครื่องหมายวงเล็บ ( )
    •    =SUM(A1,A2,A3)
         =AVERAGE(C1,C2,C3)
         =MAX(B7,C7,D7,E7)
         =COUNT(D12,D13,D14)
      การกำหนดกลุ่มเซลล์ในการคำนวณให้ใช้เครื่องหมายจุลภาค (,)  ระหว่างเซลล์อ้างอิงในฟังก์ชัน  ตัวอย่างเช่น  =SUM(A1,A2,A3)  จะเท่ากับ  =A1+A2+A3                
         =SUM(A1:A3)
         =AVERAGE(C1:C3)
         =MAX(B7:E7)
         =COUNT(D12:D14)
      การกำหนดกลุ่มเซลล์ในการคำนวณให้ใช้เครื่องหมายจุดคู่ (:)  ระหว่างเซลล์อ้างอิงต้นและปลายฟังก์ชัน  แล้วเอ็กเซลจะคำนวณโดยใช้เซลล์อ้างอิงทุกเซลล์ระหว่างเซลล์อ้างอิงทุกเซลล์อ้างอิงปลาย  ตัวอย่างเช่น  =SUM(A1:A3)   จะเท่ากับ  =A1+A2+A3
  •    การคำนวณทั่วไป

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน


การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
การใส่ฟังก์ชัน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
การใส่ฟังก์ชันในการคำนวณนั้นสะดวกและรวดเร็วกว่าการนั่งป้อนสูตรเอง  อีกทั้งฟังก์ชันก็ใช้ง่ายมาก   เพราะจะมีคำแนะนำพร้อมกับขั้นตอนที่อำนวยความสะดวกในการใส่ข้อมูลในสูตร

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

เมื่อสิ้นสุดคำสั่งโปรแกรม  Microsoft Excel  จะปรากฏไดอะล็อคบ็อกซ์ แสดงขึ้นมาดังรูป

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
เมื่อสิ้นสุดคำสั่งโปรแกรม  Microsoft Excel  จะแสดงไดอะล็อคบ็อกซ์ขึ้นมาทันที  ถ้า     ไดอะล็อคบ็อกซ์นี้บังข้อมูลที่ผู้เรียนต้องการดูอยู่  ก็สามารถทำการเลื่อนไดอะล็อคบ็อกซ์นี้ไปวาง ยังตำแหน่งใหม่ได้

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
เมื่อผู้เรียนใส่ฟังก์ชันเข้าไปแล้ว  ผู้เรียนจะต้องกำหนดตัวเลขหรือเซลล์อ้างอิงเพื่อใช้ในการคำนวณของฟังก์ชันด้วย

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
ในบางครั้งที่ผลลัพธ์ของสูตรไม่ได้ตรงไปตรงมา แต่ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข ดังนั้นจึงต้องนำฟังก์ชัน IF เข้ามาช่วย  ฟังก์ชัน  IF ใช้สำหรับการกำหนดเงื่อนไขว่า ถ้าเป็นไปตามเงื่อนไขจะให้ทำอย่างไร และถ้าไม่เป็นไปตามเงื่อนไขจะให้ทำอย่างไร
การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
** ฟังก์ชัน IF มีโครงสร้างดังนี้

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

ตัวอย่าง การใช้ฟังก์ชัน IF

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
อาจารย์ผู้หนึ่งมีคะแนนของนักเรียนจำนวนมาก จึงต้องการจะสร้างระบบที่ช่วยตัดเกรดนักเรียน โดยมีกฎเกณฑ์ว่า ตั้งแต่ 80 คะแนนขึ้นไป ได้เกรด A , ตั้งแต่ 70 คะแนน ถึง 79 คะแนน ได้เกรด B, ตั้งแต่ 60 คะแนน ถึง 69 คะแนน ได้เกรด C, ตั้งแต่ 59 คะแนน ถึง 50 คะแนน ได้เกรด D และถ้าได้คะแนนต่ำกว่า 50 คะแนน ถือว่าได้เกรด F

สำหรับการใช้ฟังก์ชั่นสำหรับการตัดเกรด  คือ 

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
**  H4  คือ ช่องเซลล์ที่จะคิดเป็นเกรด  โดยปกติการคิดเกรดนี้จะมาจากช่องคะแนนรวมของนักเรียนแต่ละคน  **

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
โดยให้พิมพ์ฟังก์ชั่นทั้งหมดนี้ในเซลล์ที่ต้องการให้แสดงเกรด  จากนั้นกดปุ่ม  Enter  โปรแกรมก็จะแสดงเกรดที่กำหนดในช่องเซลล์ที่ต้องการ 

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
ในการคำนวณหากมีข้อผิดพลาดโปรแกรมจะแสดงสัญลักษณ์ออกมาให้ผู้เรียนทราบโดยจะแสดง ณ ตำแหน่งเซลล์ที่ใช้ในการคำนวณ  ดังตัวอย่างของผิดพลาดที่พบบ่อย ๆ มีดังนี้ 

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

ความหมาย คอลัมน์นั้นแคบเกินที่จะแสดงผลลัพธ์ได้ทั้งหมด 
การแก้ไข      ปรับขนาดของความกว้างคอลัมน์ให้พอดีกับขนาดของข้อมูลใหม่ 

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

ความหมาย    ตัวหารที่ใช้ในสูตรมีค่าเป็น  0  หรือ การอ้างอิงเซลล์เปล่าเป็นตัวหาร 
การแก้ไข         ตรวจสอบค่าตัวหารที่ใช้ในสูตรและแก้ไขให้ถูกต้อง 

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

ความหมาย   ในสูตรมีชื่อฟังก์ชันหรือเซลล์อ้างอิงที่โปรแกรมไม่รู้จัก
การแก้ไข        ตรวจสอบว่าพิมพ์สูตรผิด หรือ กำหนดสูตรอ้างอิงต่าง ๆ ผิดหรือไม่ 

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

จากตัวอย่างนี้  มีข้อผิดพลาดคือชื่อของฟังก์ชัน   SUM   พิมพ์ผิดเป็น  SUMM  หากเราแก้ไขก็จะ สามารถใช้สูตรนี้ได้ตามปกติ 

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

ความหมาย   ในสูตรมีการใส่ข้อมูลในเซลล์อ้างอิงที่ไม่สามารถคำนวณได้  เช่น  ข้อความ  เป็นต้น
การแก้ไข        ตรวจสอบว่าพิมพ์สูตรผิด หรือ กำหนดสูตรอ้างอิงต่าง ๆ ผิดหรือไม่ 

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
ข้อความนี้จะแสดงขึ้นมา  หากสูตรนั้นมีเซลล์อ้างอิงซึ่งเป็นเซลล์ของสูตรอยู่ด้วย  ทำให้ไม่สามารถคำนวณได้

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน

การป้อนข้อมูลที่เป็นสูตรใน Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อน
 

การป้อนสูตร Excel ต้องพิมพ์เครื่องหมายใดก่อนเป็นอันดับแรก

หมายเหตุ: สูตรใน Excel จะขึ้นต้นด้วยเครื่องหมายเท่ากับ เลือกเซลล์หรือพิมพ์ตำแหน่งเซลล์ในเซลล์ที่เลือก ใส่ตัวตัวตัว ตัวอย่างเช่น – for การลบ

เครื่องหมายใดที่ต้องใช้นำหน้าทุกครั้งเมื่อต้องการป้อนสูตรใน Excel

วิธีการป้อนสูตรคำนวณใน Excel เราต้องกรอกเครื่องหมายเท่ากับ (=) นำหน้าสูตรเสมอ หากลืมใส่เครื่องหมายเท่ากับ (=) ก่อนพิมพ์สูตรคำนวณ จะทำให้ได้ผลลัพธ์กลายเป็นข้อความธรรมดา ซึ่งไม่สามารถคำนวณได้ การป้อนสูตรลงในเซลล์ของแผ่นงาน อาจทำได้ 3 วิธีคือ 1. การป้อนสูตรโดยตรง

การป้อนสูตรคำนวณจะต้องใช้เครื่องหมายใดนำหน้าเสมอ

ในการสร้างสูตรคำนวณสามารถป้อนสูตรคำนวณได้โดยใช้เครื่องหมายเท่ากับ (=) นำหน้าเสมอถ้าไม่ใส่เครื่องหมายเท่ากับโปรแกรมจะเข้าใจว่าเป็นข้อความ การคำนวณโปรแกรมสามารถคำนวณได้หลายแบบ ยกตัวอย่างเช่น 1. การคำนวณค่าคงที่ 1. คลิกเลือกเซลล์ที่ใส่สูตร 2. พิมพ์เครื่องหมายเท่ากับ (=) ตามด้วยค่าคงที่ โดยพิมพ์ลงในเซลล์หรือแถบสูตรก็ได้

หากต้องการใช้ข้อความในสูตร Excel ต้องใช้เครื่องหมายใด

สูตรจะคํานวณค่าตามลําดับที่ระบุ สูตรจะเริ่มต้นด้วยเครื่องหมายเท่ากับ (=) เสมอ Excel สำหรับเว็บ จะแปลอักขระที่อยู่หลังเครื่องหมายเท่ากับเป็นสูตร ต่อจากเครื่องหมายเท่ากับ คือองค์ประกอบที่จะคํานวณ (ตัวถูกดําเนินการ) เช่น ค่าคงที่หรือการอ้างอิงเซลล์ ซึ่งคั่นด้วยตัวดําเนินการการคํานวณ Excel สำหรับเว็บ คํานวณสูตรจากซ้ายไปขวา ...