รวม ❝การแนะนำตัวภาษาอังกฤษ ❞ แบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ การแนะนำตัวภาษาอังกฤษ เป็นวิธีการสร้างความประทับใจที่ง่ายที่สุด และทำให้คนจดจำเราได้ตั้งแต่แรกพบ เพราะฉะนั้น ถ้าหากมีแพทเทิร์นในการแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษของตัวเองได้ก็จะยิ่งดีมาก ๆ และถ้ายิ่งได้ฝึกพูดแนะนำตัวภาษาอังกฤษอย่างสม่ำเสมอ ก็จะยิ่งพูดคล่อง และมั่นใจค่ะ เมื่อเจอกับเพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนต่างชาติใหม่ ๆ ก็จะพูดได้เลย โดยที่ไม่ต้องคิดนาน ถ้าหากฝึกซ้อมแนะนำตัวแล้ว อย่าลืมซ้อมตอบคำถาม และปรับบุคลิกภาพด้วย คลิก 20 ประโยคจำไว้ถาม-ตอบเวลาพรีเซนต์ How to พรีเซนต์งานภาษาอังกฤษ ให้โดนใจคนฟัง! การแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ นั่นก็คือ การแนะนำตัวแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น สัมภาษณ์งาน, Presentation หรือการไปเที่ยวแล้วพบเจอคนใหม่ ๆ ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน ซึ่งนอกจาก Globish จะมาแนะนำวิธีการและประโยคแล้ว ยังมีตัวอย่างการแนะนำตัวภาษาอังกฤษให้ทุกท่านนำไปใช้ได้เลยอีกด้วยค่ะ แต่ก่อนจะเข้าเนื้อหา อยากให้ทุกท่านลองลิสต์คำตอบของคำถามเหล่านี้ดูก่อนค่ะ
เมื่อคุณสามารถตอบคำถามครบแล้ว ก็จะเริ่มรู้แนวแล้วว่า คุณควรจะพรีเซนต์ตัวเองไปในทิศทางไหน และควรพูดเรื่องอะไรดี แต่ถ้ายังไม่รู้ว่าจะพูดแนะนำตัวเรื่องอะไรดีหรือยังไม่มีเรื่องในใจ Globish ได้เตรียมหัวข้อมาให้ทุกท่านเลือกเช่นกันค่ะ ได้แก่
ซึ่งทุกท่านไม่จำเป็นต้องพูดในทุกหัวข้อเมื่อแนะนำตัวภาษาอังกฤษก็ได้ แต่เลือกเฉพาะสิ่งที่เข้ากับสถานการณ์นั้น ๆ เช่น ถ้าหากต้องแนะนำตัวสัมภาษณ์งาน อาจจะพูดถึง Personality, Hobbies, Qualifications, Skills, หรือ Awards ค่ะ เชื่อว่าทุกท่านน่าจะพอเห็นภาพกันแล้ว เรามาเริ่มกันที่การแนะนำตัวภาษาอังกฤษแบบไม่เป็นทางการกันเลยค่ะ 1. การแนะนำตัวภาษาอังกฤษแบบ Informal (ไม่เป็นทางการ) การแนะนำตัวแบบนี้ เหมาะมาก ๆ กับสถานการณ์อย่าง ไปเจอครอบครัวของเพื่อนหรือเพื่อนของเพื่อนในงานต่าง ๆ หรือเจอเพื่อนร่วมงานใหม่ ๆ ก็สามารถใช้ได้เช่นกันค่ะ ■ สถานการณ์: แนะนำตัวในงานเลี้ยงของเพื่อน เริ่มจากการทักทาย...
แนะนำตัวเอง...
พูดถึงงานปาร์ตี้หรือคนที่คุณทั้งสองคนรู้จักร่วมกัน
ปิดท้ายการแนะนำตัว...
เริ่มจากการทักทาย….
แนะนำตัวเองและตำแหน่งงาน...
พูดถึงประวัติการทำงาน...
สร้างความประทับใจ...
ปิดท้ายการแนะนำตัว...
2. การแนะนำตัวภาษาอังกฤษแบบ Formal (เป็นทางการ) ข้อแตกต่างระหว่างการแนะนำแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ คือ ภาษาที่ใช้ค่ะ แบบเป็นทางการจะใช้ภาษาที่ค่อนข้างสุภาพมากกว่า เหมาะกับสถานการณ์แบบ สัมภาษณ์งาน หรือใช้เกริ่นก่อนนำเสนองานให้คนที่ไม่รู้จัก และเพื่อนร่วมงานแผนกอื่นในบริษัทฟัง ก็สามารถใช้ได้ค่ะ ■ สถานการณ์: แนะนำตัวเมื่อไปสัมภาษณ์งาน เริ่มจากการทักทาย….
แนะนำตัวเองพร้อมประวัติการเรียนหรือการทำงาน...
พูดถึงสกิลที่ถนัด ความสามารถ หรือประสบการณ์ที่โดดเด่น...
ปิดท้ายการแนะนำตัว...
■ สถานการณ์: แนะนำตัวก่อนพรีเซนต์งาน เริ่มจากการทักทาย….
แนะนำตัวเองและตำแหน่ง…
บอกหัวข้อหลักของการพรีเซนต์…
บอกจุดมุ่งหมายของการพรีเซนต์…
บอกหัวข้อย่อยที่จะพรีเซนต์…
บอกลำดับเรื่องที่จะพรีเซนต์…
บอกระยะเวลาของการพรีเซนต์…
บอกเรื่องเอกสารประกอบการบรรยาย…
ปิดท้ายด้วยการให้ผู้ฟังถามคำถามหลังการพรีเซนต์…
ทั้งหมดนี้คือการแนะนำตัวภาษาอังกฤษทั้งแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการค่ะ ทุกท่านสามารถนำไปปรับใช้ให้เข้ากบัสถานการณ์ของตัวเองได้นะคะ ที่สำคัญ อย่าลืมหมั่นฝึกฝน และซ้อมบ่อย ๆ เพราะจะช่วยเรื่องการพูดอย่างเป็นธรรมชาติ และเป็นตัวของตัวเองค่ะ ขอบคุณที่มาข้อมูลจาก: เว็ปไซต์ Indeed เว็ปไซต์ HQ hire เว็ปไซต์ Interview Questions เรียนภาษาอังกฤษเพิ่มความโปร พูดโฟลว์ได้อย่างมั่นใจ ได้ที่ Globish คอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่ดีที่สุดสำหรับวัยทำงาน พิสูจน์แล้วจากผู้เรียนกว่า 10,000 คน ว่าพูดได้จริง ไม่ใช่แค่ท่องจำ วัดระดับภาษาอังกฤษ ฟรี! คลิก |