จากสถานการณ์โควิด 19 ที่ส่งผลให้หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต้องมีมาตรการ Social Distancing รักษาระยะห่างและจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ รวมถึงการเปิดให้บริการด้านใบขับขี่ของกรมขนส่งทางบกทั้งการจองคิวใบขับขี่รถยนต์ทั้งแบบ 2 ปี และ 5 ปี ( อบรมสอบใบขับขี่ออนไลน์ 2564 (5 ปี เป็น 5 ปี) จองคิวยังไง? ) และการอบรมสอบใบขับขี่ ( อบรมต่ออายุใบขับขี่ทางออนไลน์ รู้ผลทันที ) ที่ต้องปรับเปลี่ยนการให้บริการไปอยู่ในระบบออนไลน์ ปัจจุบันนี้จึงมีผู้ให้บริการแนวข้อสอบใบขับขี่รถยนต์ผ่านทางเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้ที่ต้องการสอบขอใบอนุญาตขับขี่ได้ฝึกซ้อมก่อนวันสอบจริงในรูปแบบ PDF แต่ก็มีหลายเว็บไซต์ที่เปิดให้บริการฝึกทำข้อสอบใบขับขี่รถยนต์ฟรี ผ่านเว็บไซต์ พร้อมแนวข้อสอบเบื้องต้น มีที่ไหนกันบ้าง สินมั่นคง ประกันรถยนต์ มีข้อมูลมาบอกค่ะ 1. ข้อสอบใบขับขี่.blogspot.com (https://xn--22caa8gab2ixab7b7bwkvcc.blogspot.com/) 2. TDl
https://www.testdrivinglicence.com/ 3. https://thaidriveexam.com/ แนวข้อสอบใบขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ อัพเดต 2565แนวทางของข้อสอบสำหรับผู้ที่ต้องการสอบใบขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ประกอบด้วย 1. เอกสารประจำตัวของผู้ขับรถยนต์ที่ต้องใช้ควบคู่กับใบขับขี่ คือ สำเนาทะเบียนภาพถ่ายใบคู่มือจดทะเบียนรถ (หรือเรียกสั้นๆ ว่า สำเนาทะเบียนรถ) รถยนต์ที่นำมาใช้บนท้องถนนควรมีสำเนาทะเบียนรถติดไว้ เพื่อป้องกันการโจรกรรม และการติดตามตัวเจ้าของรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุ 2. ความผิดเมื่อกระทำผิดตามกฎหมายจราจรทางบก เมื่อได้รับใบสั่งจากเจ้าพนักงาน ต้องชำระค่าปรับภายใน 7 วัน 3. เมื่อใบขับขี่หมดอายุ จะต้องยื่นคำร้องขอทำใหม่ใน 15 วัน 4. หากผู้ขับรถไม่มีใบอนุญาตขับรถ จะมีความผิดจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 5. ผู้ขับรถใช้ใบอนุญาตขับรถที่สิ้นอายุ มีความผิดปรับไม่เกินสองพันบาท 6. ผู้ขับรถที่ต้องการจะเลี้ยวรถ ต้องชะลอรถและเปิดไฟเลี้ยวไม่น้อยกว่า 30 เมตร เพื่อให้ผู้ที่ร่วมใช้ถนนได้สังเกตเห็น 7. การหยุดรถบริเวณทางแยก จะต้องหยุดหลังเส้นแนวหยุด 8. บริเวณทางโค้งรัศมีแคบห้ามแซง 9. การจอดรถ จะต้องจอดไม่เกินขอบทาง 25 เซนติเมตร 10. รถที่นำมาใช้บนทางถนนได้จะต้องเป็นรถที่จดทะเบียนและเสียภาษีแล้ว มีสภาพมั่นคงแข็งแรง ติดแผ่นป้ายทะเบียนของทางราชการกำหนด มีระดับเสียงเครื่องยนต์ระดับ 80 เดซิเบล 11. รถจักรยานยนต์ที่มีอายุครบ 5 ปี จะต้องนำไปตรวจสภาพรถก่อนเสียภาษีประจำปี 12. รถที่จดทะเบียนแล้วหากต้องการจะเปลี่ยนสีรถ ต้องแจ้งนายทะเบียนใน 7 วัน 13. หากประสงค์จะย้ายรถ เจ้าของรถยนต์จะต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายใน 15 วัน 14. การตรวจสอบรถดับน้ำมันเครื่องในเครื่องยนต์ จะต้องตรวจสอบหลังดับเครื่องยนต์อย่างน้อย 10 นาที 15. รถที่ไม่ได้เสียภาษีภายในระยะเวลาที่กำหนดจะต้องชำระเพิ่มร้อยละ 1 บาท ต่อเดือน 16. เมื่อถึงทางรถไฟ และมีรถไฟกำลังแล่นผ่าน ผู้ขับขี่จะต้องหยุดให้ห่างจากรถไฟอย่างน้อย 5 เมตร 17. บริเวณที่มีป้ายห้ามหยุดรถ จอดรถไม่ได้ 18. ผู้ขับขี่ควรขับรถในอัตราความเร็วที่กฎหมายกำหนด 19. บริเวณ โรงเรียน สถานที่ราชการ โรงพยาบาล ห้ามใช้เสียงแตร 20. เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ผู้ขับขี่หลบหนีให้สันนิษฐานว่าผู้นั้นเป็นผู้กระทำผิด 21. เสียงแตรใช้ได้เมื่อมีเหตุจำเป็นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ 22. เมื่อผู้ขับขี่ต้องการกลับรถ ต้องกลับรถในช่องทางที่มีป้ายจราจรอนุญาตให้กลับรถ และกลับรถเข้าช่องทางที่ถูกต้อง 23. รถจักรยานยนต์ต้องขับในช่องเดินรถทางซ้ายสุด 24. ในช่องทางเดินรถที่มีช่องทางตั้งแต่สองช่องขึ้นไป ผู้ขับรถจักรยานยนต์จะต้องขับในช่องทางซ้ายสุด 25. ใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลชนิด 5 ปี ต่ออายุล่วงหน้า 3 เดือน 26. เมื่อกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ และได้รับคำสั่งผู้ตรวจการรถยนต์ให้ไปรายงานตัว ผู้ขับขี่จะต้องไปรายงานตัวต่อนายทะเบียนภายใน 7 วัน 27. ผู้ขับขี่จะต้องขับรถห่างจากคันหน้าในระยะที่สามารถหยุดรถได้ปลอดภัยเมื่อมีความจำเป็น 28. ผู้ขับขี่ที่ต้องการจะเลี้ยวซ้าย จะต้องขับรถในช่องทางซ้ายก่อนถึงทางเลี้ยว 30 เมตร 29. ผู้ขับขี่จะต้องเปิดไฟหน้า หรือไฟท้าย ให้รถคันอื่นเห็นในระยะไม่น้อยกว่า 150 เมตร 30. ห้ามมิให้ผู้ขับขี่แซงรถคันอื่นในขณะที่มีหมอก ฝุ่น ฝน หรือควัน ในระยะ 60 เมตร 31. คนเดินเท้า ไม่ใช่ผู้มีหน้าที่ให้สัญญาณจราจรตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2532 32. ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์จะต้องมีระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ 33. โทษการดื่มแอลกอฮอล์เมื่อพบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000 - 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 34. เมื่อต้องการจะเปลี่ยนช่องทางทุกครั้ง ต้องให้สัญญาณไฟหรือสัญญาณแตร 35. ในการถอดขั้วแบตเตอรี่ควรถอดขั้วลบก่อน 36. น้ำบาดาลไม่ควรนำมาเติมในถังพักหม้อน้ำ 37. การขับรถผ่านบริเวณน้ำท่วม ห้ามใช้เบรกอย่างเด็ดขาด 38. ผู้ขับขี่รถ เป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนมากที่สุด 39. ภายหลังรถออกตัวระยะ 3 - 4 เมตร ควรทดสอบระบบเบรกก่อน 40. ก่อนออกจากรถไหล่ทางด้านซ้าย ผู้ขับขี่รถต้องมองกระจกด้านขวา เปิดไฟเลี้ยวขวา พร้อมกับหันศีรษะมองข้ามไหล่ขวาไปทางด้านหลังก่อนออกรถ 41. หากเกิดฝนตกจนมองเห็นทางไม่ชัด ผู้ขับขี่ควรจอดรถในบริเวณที่ปลอดภัย แล้วเปิดไฟหน้ารถ และไฟฉุกเฉิน 42. ผู้ขับขี่ต้องการเลี้ยวขวาและมีรถทางขวาสวนมา จะต้องหยุดรอให้รถทางตรงสวนมาก่อนจึงเลี้ยวได้ 43. หากมีรถเลี้ยวซ้ายและเลี้ยวขวาพร้อมกันในเส้นทางเดียวกัน ผู้ที่จะเลี้ยวซ้ายต้องหยุดให้ทางแก่รถที่เลี้ยวมาจากทางขวาก่อน 44. การเข้าเกียร์ถอยหลังขณะที่รถยังไม่หยุดนิ่ง จะทำให้เข้าเกียร์ยาก และเกียร์เสียเร็วกว่าปกติ 45. ลมยางควรตรวจสอบเมื่อยางรถยังเย็นอยู่ ไม่ควรตรวจขณะรถบรรทุกของหนักและใช้งานเพิ่งเสร็จ 46. สัญญาณไฟฉุกเฉิน ควรใช้เมื่อรถเสีย หรือเกิดอุบัติเหตุ 47. เมื่อพนักงานจราจรยืนและเหยียดแขนขวาท่อนล่าง ตั้งฉากกับแขนท่อนบนและตั้งฝ่ามือขึ้น ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถมาจากทางด้านหน้าของพนักงานจราจรจะต้องหยุดรถ 48. การให้สัญญาณด้วยแขน โดยผู้ขับขี่ยื่นแขนขวาตรงออกไปนอกตัวรถเสมอระดับไหล่และโบกมือขึ้นลงหลายครั้ง ผู้ขับขี่นั้นต้องการลดความเร็วของรถ 49. ลมยางหน้าอ่อน จะส่งผลต่อการสึกหรอ พวงมาลัยหนัก และรถกินน้ำมัน 50. ทบทวนความรู้เรื่องเครื่องหมายจราจรต่างๆ โปรไฟล์ดีมีค่าเป็นส่วนลด ประกันรถยนต์ตามโปรไฟล์ ..โปรไฟล์ยิ่งดี ความเสี่ยงยิ่งต่ำ
เบี้ยยิ่งถูก.. โปรไฟล์คุณอาจดีกว่าที่คุณคิด |