คานา ชุดฝึกรายวิชาการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ รหัสวิชา I20201 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การศึกษาค้นควา้ ดว้ ยตนเอง สารบญั หน้า ง สารบัญ (ต่อ) หน้า ใบความร้ทู ี่ 9 เร่อื ง เทคนคิ ในการคดิ หาวิธีแก้ไขปญั หา .............................................................. 44 จ แบบทดสอบกอ่ นเรียน คาชีแ้ จง ให้เลอื กคาตอบที่ถูกตอ้ งท่สี ดุ เพียงคาตอบเดียวในแตล่ ะข้อ แล้วกาเครอ่ื งหมาย ลงใน กระดาษคาตอบใช้เวลาในการทดสอบ 1 ชั่วโมง 40 คะแนน 1. ข้อใดสาคัญที่สุดในการศึกษาค้นคว้า 6. แหล่งการเรียนรูท้ ี่ใชส้ าหรบั การศกึ ษา ก. การกาหนดจุดมุ่งหมายของการศึกษา คน้ คว้า ควรมลี ักษณะเปน็ อย่างไร คน้ ควา้ ก. พอเพยี ง ข. การกล่าวถงึ ความเปน็ มาของปญั หาที่ ข. ทนั สมยั จะศกึ ษาคน้ คว้า ค. เพยี งพอ ค. การอธบิ ายปญั หาทจี่ ะทาการศึกษา ง. สบื คน้ ได้งา่ ย คน้ ควา้ ให้ชดั เจน 7. ขอ้ ใด คือ ผ้เู กย่ี วขอ้ งในการศึกษาค้นควา้ ง. การเลอื กเรื่องเพ่ือต้ังประเดน็ ปญั หา เป็นลาดับแรก 2. การปฏบิ ัตใิ นขอ้ ใดท่ีจะช่วยลดอุปสรรคใน ก. ประชากร การศกึ ษาคน้ ควา้ ได้มากท่ีสุด ข. กลมุ่ ตวั อย่าง ก. การประหยัด ค. ผู้ช่วยการวเิ คราะหข์ ้อมลู ข. ความอดทน ง. ทีป่ รึกษา ค. ความละเอียด รอบคอบ 8. ข้อใดเปน็ ลักษณะของการนิยามปญั หา ง. ความพากเพยี ร ก. การอธบิ ายปญั หาทจี่ ะศึกษาคน้ ควา้ ให้ 3. เรอ่ื งทผ่ี ู้ศึกษาคน้ คว้าสนใจ ควรสอดคล้อง ชัดเจน กับเรอ่ื งใดมากทีส่ ดุ ข. การกล่าวถงึ ท่ีมาของปญั หาทีจ่ ะศึกษา ก. ผศู้ กึ ษาค้นคว้ามีความสนใจอยา่ งแท้จริง ค้นคว้า ข. มีประโยชน์ต่อคนในสงั คมโลก ค. การอา้ งทฤษฏี กฎเกณฑ์ หรือขอ้ เขียน ค. มคี วามพากเพียร อดทน ท่ีเชื่อถือได้ ง. ตั้งใจศึกษาค้นคว้าให้สาเรจ็ ง. การกาหนดจุดมุ่งหมายของการศึกษา 4. ขอ้ ใด แสดงวา่ ผู้ศึกษาค้นคว้ามีความรู้ คน้ ควา้ ความสามารถในเร่ืองทีศ่ ึกษาค้นควา้ 9. การกลา่ วถงึ ท่ีมาของปัญหาทจ่ี ะศึกษา ก. ศกั ยภาพในการเรยี นรู้ ค้นคว้า สาเหตุท่ีต้องศึกษาคน้ คว้าเรอื่ งน้นั ข. ประสบการณ์ในการศึกษาค้นคว้า เป็นลักษณะของข้อใด ค. พื้นฐานการศึกษา ก. การกาหนดจดุ มุ่งหมาย ง. การทาความเขา้ ใจเรื่องที่ศึกษาคน้ ควา้ ข. บทนา หรือความเป็นมา 5. ผศู้ ึกษาค้นควา้ ควรทาอย่างไรเกี่ยวกบั ทุนท่ี ค. การเขียนสมมตุ ฐิ าน ใช้เปน็ คา่ ใชจ้ า่ ย ง. การนิยามปัญหา ก. กาหนดราคาคา่ วัสดุ อปุ กรณ์ใหช้ ัดเจน ข. ทาประมาณการคา่ ใช้จ่าย ค. ระบคุ ่าเดินทางเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ง. จดั เตรียมงบประมาณคา่ พิมพ์รายงาน 10. ข้อใดเปน็ จริง เกย่ี วกับการกาหนด 2 ฐานของการหาเหตผุ ล เพราะเหตุใด สมมุติฐาน 21. ขอ้ ใดควรเกิดข้ึนหลังจากตั้งสมมตุ ิฐานแลว้ 3 และเครื่องที่มสี ารสนเทศ 34. ขอ้ ใดเป็นเคร่ืองชว่ ยคน้ ท่รี วบรวมเว็บไซต์ 4 5 ใบความรู้ นับเป็นวธิ กี ารท่ีมปี ระสิทธภิ าพวิธีหน่ึงที่ใช้กันอย่างกว้างขวางในการพัฒนาผู้เรียน
เพราะเป็นการเปิด IS 1- การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (Research and Knowledge Formation) เป็น IS 2- การส่ือสารและการนาเสนอ (Communication and
Presentation)เป็นสาระท่ีมุ่งให้ IS 3- การนาองค์ความรู้ไปใช้บริการสังคม (Social Service Activity)เป็นสาระที่มุ่งให้ผู้เรียน นา/ การศึกษาอิสระ หรือ การค้นคว้าอิสระ (อังกฤษ: independent study หรือ directed study) เป็น
หัวข้อที่ศึกษาขึ้นอยู่กับการตกลงกันระหว่างผู้เรียนและอาจารย์ภายใต้กรอบที่สถานศึกษากาหนด ซึ่ง รบั รองว่าตนมีความรู้ ความเช่ยี วชาญทีจ่ ะใหค้ าปรึกษาในหัวข้อนั้น เม่ือได้หัวข้อ ผู้เรียนทาการศึกษาในเรื่องท่ีได้รับอนุมัติให้ศึกษาด้วยตนเอง ภายใต้การกากับดูแลของท่ี การศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเองมคี วามมงุ่ หมายเกยี่ วกับการพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียน เพ่ือให้ผู้เรียน 6 ใบความรู้ที่ 1 การใช้คาถามเป็นเทคนิคสาคัญในการเสาะแสวงหาความรู้ท่ีมีประสิทธิภาพ เป็นกลวิธีการสอนท่ี การถามเป็นส่วนหน่ึงของกระบวนการเรียนรู้ ช่วยให้ผู้เรียนสร้างความรู้ ความเข้าใจ
และพัฒนา การสังเกต (Observation) วิธีการทางวิทยาศาสตร์มักจะเริ่มจากการสังเกตปรากฏการณ์ต่างๆ ที่อยู่ การตงั้ ปญั หา "การต้ังปัญหานั้นสาคัญกว่าการแก้ปัญหา" เพราะ การต้ังปัญหาท่ีดีและชัดเจนจะทาให้ผู้ตั้งปัญหา ระดบั ของการตงั้ คาถาม 1.1) คาถามให้สังเกต เป็นคาถามที่ให้ผู้เรียนคิดตอบจากการสังเกต เป็นคาถามท่ีต้องการ - เม่ือนักเรยี นฟงั เพลงนแ้ี ล้วรสู้ กึ อยา่ งไร 7 1.3) คาถามทใ่ี ห้บอกความหมายหรือคาจากัดความ เป็นการถามความเข้าใจ โดยการให้ - คาวา่ สทิ ธิมนุษยชนหมายความว่าอยา่ งไร 8 - หนิ
อัคนสี ามารถนาไปใช้ประโยชนไ์ ด้อยา่ งไรบ้าง 9 ใบงานท่ี 1 คาช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามลงในช่องว่างให้ไดใ้ จความถกู ต้องสมบรู ณ์ ช่ือ………………………...…………………………ชั้น………….เลขท…่ี ……….. 10 ใบงานที่ 2 คาช้ีแจง ให้นักเรยี นฝึกตงั้ คาถามตามลักษณะคาถามทก่ี าหนดใหพ้ ร้อมเขียนตอบลงในช่องว่าง ระดับการตั้งคาถาม ลกั ษณะคาถาม คาถาม ขัน้ พืน้ ฐาน 1.ให้สังเกต 2.ทบทวนความจา
3.บอกให้ความหมายหรือคา 4.บ่งชห้ี รอื ระบุ ขน้ั สงู 1.ให้อธบิ าย 2.ให้เปรียบเทยี บ 3.ให้วิเคราะห์ 4.ใหย้ กตวั อยา่ ง 5.ใหส้ รุป 6.ให้ประเมินและเลือก 7.ให้ประยกุ ต์ 8.ให้สรา้ งหรือคิดคน้ สิ่ง ชอื่ ………………………...…………………………ช้ัน………….เลขท…่ี ……….. 11 ใบงานท่ี 3 1. ปญั หาของตนเองคืออะไร 2. ปัญหาของตนเองน้นั มีสาเหตุ มาจากอะไรบา้ ง 3. ควรมีวธิ ีการแกไ้ ขปัญหาของตนเองไดอ้ ย่างไรบ้าง ชอ่ื ………………………...…………………………ชัน้ ………….เลขท…ี่ ……….. 12
ใบงานท่ี 4 1. ปัญหาของชุมชนคืออะไร 2. ปัญหาชมุ ชนนัน้ มสี าเหตุ มาจากอะไรบา้ ง 3. ควรมีวิธีการแก้ไขปัญหาของชุมชนไดอ้ ย่างไรบา้ ง ชอื่ ………………………...…………………………ชั้น………….เลขท…่ี ……….. 13 ใบงานที่ 5 1. ปญั หาของประเทศชาตคิ ืออะไร 2. ปัญหาของประเทศชาตินั้นมสี าเหตุ มาจากอะไรบ้าง 3. ควรมวี ธิ กี ารแก้ไขปัญหาของประเทศชาตไิ ด้อยา่ งไรบ้าง ชือ่ ………………………...…………………………ชน้ั ………….เลขท…่ี ……….. 14 ใบงานที่ 6 คาช้แี จง ใหน้ กั เรียนช่วยกนั คิดระดมพลังสมองตัง้ คาถาม/ขอ้ สงสยั และระบปุ ระเดน็ ปัญหาทีก่ ลมุ่ ตนเองสนใจ ท่ี คาถาม/ข้อสงสัย ประเด็นปัญหา 1 …………………………………………………….. …………………………………………………….. 2 …………………………………………………….. …………………………………………………….. 3 …………………………………………………….. …………………………………………………….. 4 …………………………………………………….. …………………………………………………….. 5 …………………………………………………….. …………………………………………………….. 6 …………………………………………………….. …………………………………………………….. 7 …………………………………………………….. …………………………………………………….. 8 …………………………………………………….. …………………………………………………….. 9 …………………………………………………….. …………………………………………………….. 10 …………………………………………………….. …………………………………………………….. ชอื่ ………………………...…………………………ชน้ั ………….เลขท…ี่ ……….. 15 ใบความร้ทู ่ี 2 1. สมมติฐาน หมายถึง ความเช่ือของบุคคลใดบุคคลหน่ึง หรือ ของกลุ่มใดกลุ่มหน่ึงหรืออาจกล่าวได้ - เจ้าของร้านค้าปลกี คาดวา่ จะมีกาไรสุทธิจากการขายสินคา้ ต่อปไี ม่ต่ากวา่ 500,000 บาท 16 ตัวอยา่ งการต้ังสมมติฐาน ขอ้ สงสัย/ขอ้ สังเกต/ปญั หา “ทาไมหญ้าบรเิ วณใตต้ ้นไม้จงึ ไมง่ อกงามเท่าหญา้ ท่ีอยู่กลางแจ้ง” ข้อสงสัย/ข้อสงั เกต/ปญั หา “ความเรว็ รถข้นึ อยูก่ บั ปจั จยั อะไรบ้าง” ประเดน็ ปญั หา “ขนาดของยางรถยนตม์ ีผลตอ่ ความเร็วของรถยนต์หรือไม่” สมมตฐิ าน “เม่ือขนาดของยางรถยนต์ใหญข่ นึ้ ความเรว็ ของรถยนต์จะลดลง” ขอ้ สงสัย/ขอ้ สังเกต/ปัญหา “นักเรยี นชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2/…..ชอบอา่ นหนงั สอื ประเภทใด” ประเด็นปญั หา “ศึกษาพฤตกิ รรมการเลือกอ่านหนังสือของนกั เรียนชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ ...” สมมตฐิ าน “ถ้านกั เรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี ……. มนี ิสัยชอบเพ้อฝนั ดังน้นั นกั เรยี น ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี…..ชอบอ่านหนงั สอื นวนิยาย” (การวจิ ัยเชงิ สารวจไม่ต้องตง้ั สมมติฐานก็ได้) 17 ใบงานที่ 7 คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนตอบคาถามลงในชอ่ งว่างใหไ้ ด้ใจความถกู ต้องสมบรู ณ์ 1. สมมตฐิ าน 2. การตั้งสมมติฐาน คือ 3. การพยากรณ์ คือ 4. บอกหลักในการต้ังสมมติฐาน 5. บอกลกั ษณะการตัง้ สมมตฐิ านทด่ี ี ช่อื ………………………...…………………………ช้นั ………….เลขท…ี่ ……….. 18 ใบงานที่ 8 คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นต้ังสมมติฐานตามประเด็นปญั หาท่ีกาหนดให้ ดงั น้ี ท่ี ประเด็นปญั หา สมมติฐาน ตวั วธิ กี ารเลยี้ งดขู องผู้ปกครองมีผลต่อ วิธีการเล้ยี งดขู องผู้ปกครองมผี ลต่อพฤติกรรมการ อย่าง พฤติกรรมการก้าวร้าวของเดก็ กา้ วร้าวของเด็ก 1 การสารวจพฤติกรรมการใชผ้ งชูรสในการ …………………………………………………………………………… 2 การสารวจพฤติกรรมการใชโ้ ทรศัพทข์ อง …………………………………………………………………………… 3 ผลกระทบท่เี กิดจากการท่ีไม่ได้อยูอ่ าศัยกับ …………………………………………………………………………… 4 การสกดั สีจากวสั ดธุ
รรมชาติเพ่ือนามาใช้ …………………………………………………………………………… 5 การศกึ ษาสมุนไพรที่มีผลตอ่ การดับกลน่ิ เท้า …………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… 6 สารวจพฤติกรรมเกย่ี วกับการบรโิ ภค …………………………………………………………………………… 7 ผลกระทบที่เกดิ จากสภาวะน้ามนั แพง …………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… 8 การสารวจการเลน่ เกมออนไลน์ของนักเรียน …………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………… 9 การสารวจการประหยดั พลงั งานไฟฟ้าของ …………………………………………………………………………… 10 การศกึ ษาผลการจัดทาบญั ชีครวั เรอื นของ …………………………………………………………………………… ช่อื ………………………...…………………………ชนั้ ………….เลขท…่ี ……….. 19 ใบความร้ทู ี่ 3 การตง้ั ประเดน็ ปัญหา การวจิ ยั เป็นการหาคาตอบทอี่ ยากรู้ ทสี่ งสัย ท่ีเป็นปัญหาข้องใจ แต่คาตอบนั้นต้องเช่ือถือได้ ไม่ใช่ การคาดเดา หรือคิดสรุปไปเองโดยใช้ความรู้สึก วิธีการหาคาตอบจึงต้องเป็นกระบวนการ ข้ันตอนอย่างเป็น ระบบ ตัวอย่าง เช่น - ถ้าต้องการทราบว่านักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2/…..โรงเรียนลือคาหาญวารินชาราบ ชอบ จะคาดเดาเองหรอื ไปสอบถามนักเรียนเพียงหนึง่ คน สองคน แลว้ มาสรุปว่านักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/…..โรงเรียนลือคาหาญวารินชาราบ ชอบอา่ นหนังสอื ประเภทน้นั ประเภทนไ้ี มไ่ ด้ แต่ต้องทาแบบสอบถามให้นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2/…..โรงเรียนลือคาหาญวารินชาราบ เป็น ผู้ตอบแล้วนามาสรุปคาตอบข้อคน้ พบท่ไี ด้ เป็นตน้ ผลท่ีได้จากการทาวจิ ัย นอกจากจะได้คาตอบท่ีต้องการแล้ว ผู้วิจัยเองก็ได้ประโยชน์จาก การทาวิจัย คือ การเป็นคนช่างคิด ช่างสังเกต ศึกษาค้นคว้าหาความรู้ และเขียนเรียบเรียง อย่างเป็นระบบ นอกจากน้นั การวจิ ยั จะเกดิ ประโยชนใ์ นภาพรวม ดังนี้ 1. การวจิ ยั ทาให้เกิดความรู้ทางวชิ าการใหม่ๆ 2. การวจิ ยั ทาให้เกิดนวตั กรรม ส่งิ ประดษิ ฐ์ แนวคดิ ใหมๆ่ 3. การวิจัยช่วยตอบคาถามทอ่ี ยากรู้ ใหเ้ ขา้ ใจปัญหา และชว่ ยในการแก้ปญั หา 4. การวิจยั ชว่ ยในการวางแผนและตดั สนิ ใจ 5. การวจิ ยั ช่วยใหท้ ราบผลและขอ้ บกพร่องจากการดาเนินงาน การค้นหาความรู้ ความจรงิ และตรวจสอบความถูกตอ้ ง ความรู้ ความจรงิ ของ ชาร์ล ดาร์วนิ ( Charles Darwin ) ซ่ึงปัจจุบันเรียกว่า วิธีการทางวิทยาศาสตร์ (Scientific Method) เป็นวิธีการหาความรู้ ความจริงท่ีน่าเช่ือถือที่สุดการวิจัยได้นาเอาวิธีการทางวิทยาศาสตร์นี้ขึ้นมาประยุกต์เป็นกระบวนการวิจัย ประกอบดว้ ย 5 ข้ันตอน ดังน้ี 1. ขั้นปัญหา (Problem) เป็นข้ันตอนท่ีเราสังเกตพบปัญหาความต้องการความรู้ความจริงหน่ึงว่ามี เหตุการณห์ รอื สภาพการณ์เปน็ อย่างไร มีเหตุหรือปัจจยั อะไรทีท่ าให้เกดิ เหตกุ ารณ์หรือสภาพเหตุการณ์นั้น 2. วิธีตั้งสมมติฐาน (Hypothesis) ในข้ันตอนนี้เราจะต้องศึกษาทบทวนความรู้เดิมมาประกอบการ พิจารณาว่าคาตอบของปัญหาในขั้นท่ี1 นั้นจะเป็นอย่างไร ซ่ึงเรียกว่า การตั้งสมมติฐาน ซึ่งจะเป็นแนวในการ ตรวจสอบวา่ สมมติฐานท่ีต้ังขึ้นจะเปน็ จริงหรอื ไม่ 3. ข้นั รวบรวมข้อมลู (Gathering Data) ในขนั้ น้เี ราจะทาการเก็บรวบรวมข้อมูลท่ีเก่ียวข้อง มาอย่าง เพียงพอและตรงกบั ส่งิ ท่ตี อ้ งการศกึ ษา 4. ขัน้ วเิ คราะหข์ อ้ มลู (Analysis) ในขัน้ น้จี ะเปน็ การนาข้อมูลท่ีรวบรวมมาทาการวิเคราะห์เพ่ือมาหา ลกั ษณะร่วมหรอื สอดคลอ้ งกนั ของข้อมลู เหล่าน้ัน และพจิ ารณาวา่ ขอ้ มลู เหล่านม้ี ีกี่ลักษณะและแตกต่างอย่างไร เป็นต้น 5. ขน้ั สรุป (Conclusion) ในขน้ั ตอนนนี้ าผลการวิเคราะห์มาแปลผลและตีความผลการวิจัยท่ีพบ อัน เป็นการสรุปผลการวจิ ัย 20 กระบวนการและขนั้ ตอนการทาวจิ ัยอย่างง่าย 1. ขั้นปัญหา (Problem) เป็นขั้นตอนที่เราสังเกตพบปัญหาความต้องการความรู้ความจริงหนึ่งว่ามี การสังเกตและการตั้งปญั หา (Observation
problem) อยู่รอบตัวเรา เมื่อได้ข้อสังเกตบางอย่างที่เราสนใจจะทาให้ได้ส่ิงที่ตามมาคือ ปัญหา (Problem) เช่น การ การต้ังปัญหา “แสงแดดมีสว่ นเกีย่ วข้องกับการเจรญิ งอกงามของตอ้ นหญา้ หรือไม่” 21 - การศกึ ษาการใชโ้ ปรแกรม Facbook ของนักเรยี น.. ฯลฯ 22 ใบงานที่ 9 คาช้แี จง ใหน้ ักเรียนแตล่ ะกล่มุ ศึกษาเน้ือหาจากใบความรู้ท่ี 3 เร่ือง ประเดน็ ปัญหาและสมมตฐิ าน 1. ประเดน็ ปัญหาจากการระดมความคดิ เห็นของสมาชิกในกลุ่ม ทส่ี นใจ 10 ประเดน็ มีดังน้ี 2. ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มอภปิ รายเพื่อคัดเลือกประเด็น 3 ประเดน็ จากประเด็นในข้อท่ี 1 โดยบอกเหตุผล 23 3. ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มตงั้ สมมตฐิ านตามประเดน็ ปญั หาท่ีตั้งไว้ 3 ประเดน็ ประเดน็ ปญั หาท่ี 1………………………………………………………………………………………………………………… ชื่อกลุ่ม…………………………………….. 24 ใบความร้ทู ่ี 4 การตรวจสอบสมมติฐาน จะต้องยึดข้อกาหนดสมมติฐานไว้เป็นเหลักเสมอ (เน่ืองจากสมมติฐานท่ีดี การทดลอง เป็นกระบวนการปฏิบัติ หรือหาคาตอบหรือตรวจสอบสมมติฐานท่ีต้ังไว้โดยการทดลอง 3.1 การออกแบบการทดลอง คือการวางแผนการทดลองกอ่ นท่ีจะลงมือปฏบิ ัติจริงโดยใหส้ อดคล้อง 3.1.1 ตัวแปรอิสระหรือตัวแปรต้น (Independent Variable or Manipulated Variable) 3.1.2 ตัวแปรตาม (Dependent Variable) คือ ผลที่เกิดจากการทดลอง ซึ่งต้องใช้วิธีการ 3.1.3 ตัวแปรท่ตี อ้ งควบคมุ (Control Variable) คือปจั จยั อ่ืนๆ
ท่ีนอกเหนือจากตัวแปรต้นที่ ชุดทดลอง หมายถึง ชุดท่ีเราใช้ศึกษาผลของตัวแปรอสิ ระ ชุดควบคุม หมายถึง ชุดของการทดลองท่ีใช้เป็นมาตาฐานอ้างอิง เพ่ือเปรียบเทียบ 3.2 การปฏิบัติการทดลอง ในกิจกรรมนี้จะลงมือปฏิบัติการทดลองจริงโดยจะดาเนินการไปตาม 3.3 การบันทึกผลการทดลอง หมายถึง การจดบันทึกท่ีได้จากการทดลองซ่ึงข้อมูลท่ีได้นี้สามารถ 25 เมื่อคาดคะเนคาตอบว่า "แสงแดดทาให้ต้นหญ้าเจริญงอกงาม ดังน้ันต้นหญ้าท่ีถูกแสงแดด นาต้นหญ้า
(หรือพืชชนิดอื่นก็ได้เช่นถั่วเขียวท่ีต้องเหมือนกันท้ัง 2 กลุ่มชุดการทดลอง) ปลูก * ตวั แปรต้นหรอื ตวั แปรอสิ ระ คอื แสงแดด ออกแบบการทดลอง ทมี่ า http://e-learning.snru.ac.th/els/scilife/unit1/t2-33.htm 26 ใบงานที่ 10 คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นออกแบบ วางแผน และรวบรวมขอ้ มูล 1. การตรวจสอบสมมติฐานต้องยึด……………………………………………………………..เป็นหลกั ในการตรวจสอบเสมอ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ชื่อ………………………...…………………………ช้ัน………….เลขท…ี่ ……….. 27 ใบความรู้ท่ี 5 ขั้นตอนสาคัญในการทาวิจัย หลังจากได้ปัญหา วัตถุประสงค์และสมมติฐานในการวิจัยแล้ว ขั้นตอนที่ ขน้ั ตอนสาคญั ของการรวบรวมข้อมลู การรวบรวมข้อมูลทางพฤติกรรมศาสตร์ ส่วนใหญ่เป็นการรวบรวมข้อมูลภาคสนาม แบ่งได้เป็น
6 1. กาหนดตัวแปรที่ต้องการศึกษา ท่ีสาคัญ คือ ต้องทราบว่าอะไร คือตัวแปรอิสระ ตัวแปรตาม ตัว 2. กาหนดขอ้ มลู หรือตวั ช้วี ดั จากตวั แปรที่ศึกษาจะต้องระบุข้อมูลและลักษณะของข้อมูลท่ีต้องการว่า 3. กาหนดแหล่งขอ้ มลู ตอ้ งการขอ้ มลู หรอื รวบรวมขอ้ มลู มาจากท่ีไหนบ้างผู้ให้ข้อมูลเป็นใคร อยู่ที่ไหน 4. เลือกวิธีรวบรวมข้อมูล ต้องวางแผนในวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างรอบคอบรวมท้ังคานึงถึง 5. นาเครือ่ งมือรวบรวมข้อมูลไปทดลองใช้ ในการใช้เคร่ืองมือรวบรวมข้อมูลไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือที่มี 28 6. ออกรวบรวมข้อมลู ข้ันตอนนเ้ี ปน็ การออกภาคสนาม ต้องมีการวางแผนเป็นอย่างดีว่าจะเก็บข้อมูล วธิ ีการเก็บรวบรวมขอ้ มลู วิธีการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล มหี ลายวิธีท่ใี ชก้ ันมากในทางพฤติกรรมศาสตร์ ได้แก่ • การสัมภาษณโ์ ดยตรง
ผู้วิจัยไปทาการสัมภาษณ์จากหน่วยทดลองโดยตรง วิธีน้ีใช้กันมากในการทาสามะโนและการสารวจ • การสัมภาษณท์ างโทรศัพท์ ในกรณีท่คี าถามไม่มากและไม่ซบั ซอ้ น ปรมิ าณคาถามมีไม่มากนัก การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จะทาให้ • การตอบแบบสอบถาม เป็นวิธีการรวบรวมข้อมูลโดยมอบแบบสอบถามพร้อมท้ังอธิบายวิธีบันทึกตลอดจนคาอธิบายศัพท์ • การสง่ แบบสอบถามทางไปรษณีย์ ผู้เก็บรวบรวมขอ้
มูลส่งแบบสอบถามทางไปรษณีย์ วิธีน้ีเหมาะสาหรับการเก็บข้อมูลที่ไม่มีความสาคัญ • การนบั และการวัด
ในการเก็บรวบรวมข้อมูลบางอย่างต้องใช้วิธีนับ เช่น การสารวจจานวนรถท่ีผ่านจุดท่ีต้องการศึกษา • การสังเกต วิธีนี้ใช้ในโครงการวิจัยต่างๆ ทางวิทยาศาสตร์ และทางสังคมศาสตร์ เช่น การสังเกตตาแหน่ง 29 ( ตวั อย่าง ) สานักงาน..................................................................... ขอ้ ช้ีแจง กรณุ าทาเครือ่ งหมายในขอ้ ท่ตี รงกบั ความเปน็ จริงและในช่องท่ตี รงกบั ความคดิ เห็นของทา่ นมากท่ีสดุ ตอนท่ี 1 ขอ้ มูลทวั่ ไปของผูต้ อบแบบสอบถาม 1. เพศ 1) ชาย 2) หญิง 2. อายุ 1) ตา่ กวา่ 20 ปี 2) 21 - 40 ปี 4) 41 – 60 ปี 6) 60 ปขี ึน้ ไป 3. ระดบั
การศึกษาสูงสุด 2) มัธยมศกึ ษาตอนต้น/ตอนปลาย/เทียบเทา่ 4. สถานภาพของผ้มู ารบั บริการ 1) เกษตรกร/องค์กรเกษตรกร 2) ผู้ประกอบการ 3) ประชาชนผรู้ ับบริการ 4) องค์กรชมุ ชน/เครือข่ายองค์กรชมุ ชน 5) อื่นๆ โปรดระบุ ………………………………………. ตอนท่ี 2 ความพงึ พอใจ / ไม่พงึ พอใจต่อการใหบ้ รกิ าร ประเดน็ /ด้าน ระดบั ความพึงพอใจ ระดบั ความไม่พงึ พอใจ 2. ด้านขน้ั ตอนการให้บรกิ าร ขน้ั ตอนและระยะเวลาการใหบ้ ริการ 2.2 การจัดลาดบั ขัน้ ตอนการใหบ้ ริการตามทปี่ ระกาศไว้ 2.3 การให้บรกิ ารตามลาดับก่อนหลัง เชน่ มาก่อนตอ้ ง 30 ประเดน็ /ด้าน ระดบั ความพึงพอใจ ระดับความไม่พงึ พอใจ ตอบคาถาม ชีแ้ จงขอ้ สงสัยให้คาแนะนาได้ เปน็ ตน้ 3.4 ความซอ่ื สตั ย์สุจริตในการปฏิบัตหิ นา้ ท่เี ช่น ไม่ขอ 3.5 การใหบ้ รกิ ารเหมือนกนั ทุกรายโดยไมเ่ ลือกปฏิบตั ิ 4. ด้านส่ิงอานวยความสะดวก 4.3 ความเพยี งพอของส่งิ อานวยความสะดวก เช่น ที่นง่ั 4.4 ความสะอาดของสถานท่ีใหบ้ ริการ 5. ท่านมคี วามพึงพอใจ / ไม่พงึ พอใจต่อการใหบ้ ริการ ตอนท่ี 3 ปญั หา / ขอ้ เสนอแนะ ปัญหา 1. .............................................................................................................................
.... ขอขอบคุณในความรว่ มมือที่ท่านไดเ้ สียสละเวลาให้ข้อมูลทเี่ ป็นประโยชนแ์ ก่ทางราชการในครง้ั น้ี 31 (ตวั อย่าง) รปู ภาพ 1. ช่อื ……………………………………..…….สกุล………..…………………..อายุ……………….ปี ………………………………………………………………………………………………………... (ลงชื่อ) ผูใ้ ห้ขอ้ มลู (ลงช่ือ) ผู้สมั ภาษณ์ 32 ใบงานท่ี 11 คาช้แี จง ใหน้ กั เรยี นบอกข้ันตอนการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลดงั นี้ 1. ขั้นตอนสาคญั
ในการทาวิจยั หลงั จากไดป้ ญั หา วัตถปุ ระสงค์และสมมติฐานในการวิจยั แล้ว ข้ันตอน 2. การเก็บรวบรวมขอ้ มลู คอื ……………………………………………………………………………………………………. 3. ขัน้ ตอนสาคญั ของการรวบรวมขอ้ มูล มี……………ขัน้ ตอน
อะไรบ้าง 4. กาหนดตวั แปรทต่ี ้องการศึกษา ท่ีสาคัญ คอื ……………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. วิธกี ารเกบ็ รวบรวมข้อมูล มีหลายวธิ ีทใ่ี ชก้ นั มากในทางพฤติกรรมศาสตร์
ได้แก่ ชือ่ ………………………...…………………………ชนั้ ………….เลขท่ี………….. 33 ใบงานท่ี 12 คาชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ คดั เลอื กประเด็นปัญหาจาก 3 ประเดน็ ของกลมุ่ ตนสนใจเลอื กไว้ ใหเ้ หลอื 1 บันทกึ การวางแผนการทางาน (ID Plan) ชื่อ-สกุล.................................................................... ช้นั ม.2/..........
เลขท่ี ............... ครทู ีป่ รึกษาการทางาน ชอื่ -สกลุ
.................................................................... กลุ่มสาระการเรียนรู้…………………………………… ครผู ้สู อน ประเด็นปญั หา |