แม่ค้า ตลาดนัด ซื้อบ้านได้ ไหม

ประสบการณ์จริงกู้บ้านผ่าน กับอาชีพขายของตลาดนัด

อาชีพค้าขาย พ่อค้าแม่ค้าทั้งหลาย ขายของออนไลน์ ขายของตลาดนัด อาชีพเหล่านี้ เป็นอาชีพที่มีความยากลำบากมาก ในการที่เข้าถึงแหล่งเงินกู้ ผ่านสถาบันการเงิน ธนาคาร

ยิ่งมีความฝันที่จะมีบ้านหลังใหญ่ๆ อันนี้ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ แต่วันนี้ ผมมีเรื่องจริง ประสบการณ์จริง ของแม่ค้าขายเสื้อผ้า ตลาดนัด ที่กู้บ้านผ่าน กว่าห้าล้านบาท พี่เขาเป็นลูกค้า ที่ให้ผมช่วยแนะนำ การเตรียมตัว เตรียมเอกสาร ในการยื่นกู้ให้ จนประสบความสำเร็จจนได้ ลองเข้าไปฟังกันครับ

สนใจให้ผมเป็นที่ปรึกษาการเงินส่วนตัว คลิกเลยครับ

Related

แม่ค้า ตลาดนัด ซื้อบ้านได้ ไหม

12 กรกฎาคม 2559

รู้หรือไม่ว่า ยอดปฏิเสธสินเชื่อในกลุ่มสินเชื่อ บ้านมือสอง ราคาต่ำกว่า 1.5 ล้านบาทสูงถึง 40-45% ส่วนสินเชื่อกลุ่มบ้านราคาสูงเกิน 1.5 ล้านบาทขึ้นไปอยู่ที่ 20-25% ? ส่วนหนึ่งมาจากการที่คนเรามีหนี้สินเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหนี้สินจากโครงการรถคันแรกที่ยังตามหลอกหลอนจนถึงสิ้นปี 2559 และหนี้สินครัวเรือน ที่ทำให้สถิติทั้งประเทศสูงปรี๊ดถึง 81.50% เลยทีเดียว ดังนั้นมิสเตอร์บางกอกจึงขอนำบทความดีๆ เกี่ยวกับเรื่อง “ กู้ซื้อบ้านมือสอง ยังไงให้ผ่าน 100%” มาฝากให้ผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระได้มีโอกาสในการยื่น กู้ซื้อบ้านมือสอง กันครับ

สาเหตุที่ปัจจัยลบของ 2 ตัว อย่างหนี้ผ่อนรถ หรือหนี้ครัวเรือนก็เป็นปัจจัยที่สำคัญไม่น้อย เพราะเวลาพิจารณาปล่อยสินเชื่อ บ้านมือสอง ธนาคารทั้งหลายก็จะมีหลักเกณฑ์ตายตัวข้อหนึ่งคือ รายได้ผู้กู้ 100% หักหนี้ทุกตัวที่มีแล้ว (รวมค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน) จะต้องเป็นภาระจ่ายหนี้ไม่เกิน 50-80% ของรายได้

ตัวอย่าง

แม่ค้า ตลาดนัด ซื้อบ้านได้ ไหม

หากคุณมีรายได้เท่าไหร่ ให้คิดเป็น 100% จ่ายหนี้รถคันแรก 30 % หนี้ครัวเรือน (บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ฯลฯ) 40% ค่าใช้จ่ายกินอยู่ประจำวันอีก 28% แสดงว่ามีค่าใช้จ่ายหรือมีภาระหนี้ที่ต้องจ่ายออกเดือนละ 98% แบบนี้ไปขอกู้เงิน ซื้อบ้านมือสอง จากแบงก์น่าจะหมดสิทธิ เหตุผลเพราะ "ความสามารถในการชำระหนี้" มีต่ำหรือมีน้อยมาก

หากธนาคารปล่อยกู้จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นหนี้เสียหรือ NPL (Non Performing Loan) ในอนาคต ซึ่งหนี้ที่ไม่ก่อประโยชน์นี้โอกาสเกิดก็ง่ายเสียด้วย ถ้าเบี้ยวจ่ายค่างวด 3 เดือน ทางแบงก์ชาติ (ธนาคารแห่งประเทศไทย) จะถือว่าเป็นหนี้เสียทันที

สูตรเด็ดแต่เคล็ด(ไม่)ลับ กู้เงิน ซื้อบ้านมือสอง อย่างไรให้แบงก์อนุมัติ รวบรวมเป็นสูตรที่เรียกได้ว่า สูตร "5+1" โดยเลข 5 มาจากเทคนิค 5 ข้อในการยื่นขอสินเชื่อ กับเลข 1 สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการSME หรือ "ผู้ประกอบอาชีพอิสระ" ไม่มีคำนิยามตายตัว แต่ให้นึกง่ายๆ ก็พ่อค้าแม่ค้าตามตลาดนัดเปิดท้ายขายของ หรือคนที่ทำอาชีพอิสระ แต่ไม่ใช่พนักงานบริษัท รายได้อาจจะมากกว่ามนุษย์เงินเดือนด้วยซ้ำ แต่มีจุดอ่อนตรงที่ไม่มีหลักฐานการมีรายได้ประจำ

สูตรข้อที่ 1 : วินัยการผ่อน

คนที่ยังไม่เคยกู้ให้ทดลองฝึกสร้าง "วินัยการผ่อน" วิธีการให้จำลองสถานการณ์ สมมุติว่ามีงวดผ่อนเดือนละ 7,000 บาท ให้ทดลองกันเงินจำนวนนี้ไว้ทุกเดือน ห้ามแตะต้องเด็ดขาด ถ้าสามารถทำได้สม่ำเสมอก็แสดงว่าวินัยดีมาก สะท้อนถึงความสามารถในการชำระหนี้มีสูงมากเช่นกัน

สูตรข้อที่ 2 : การเดินบัญชี

คือสิ่งที่สถาบันการเงินต้องการเพื่อเป็นการแสดงหลักฐานการมีรายได้สม่ำเสมอ ฉะนั้น ถ้าไม่มีสลิปเงินเดือนมาโชว์ ก็ต้องใช้วิธีการเดินบัญชี วิธีการคือนำเงินฝากเข้าบัญชีแบงก์ใดแบงก์หนึ่งอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 6-12 เดือน โดยสิ่งพึงระวังสำหรับการเดินบัญชีคือจะต้องมีความสม่ำเสมอ

สูตรข้อที่ 3 : มียอดเงินคงเหลือติดบัญชี

ข้อนี้แม้แต่มนุษย์เงินเดือนก็ต้องพึงระวัง เพราะนายแบงก์จะดูว่ามีเงินเหลือติดบัญชีเท่าไหร่ จำนวนควรจะต้องสอดคล้องกับภาระหนี้ที่ขอกู้ คำแนะนำคือ เวลายื่นกู้ บ้านมือสอง ถ้าหากพบว่ามีเงินเหลือติดในบัญชีต่ำแต่ตัวเองไม่ได้มีหนี้สินอะไร ควรแจกแจงรายละเอียดกับแบงก์ว่ารายได้ที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีอาจเป็นเพราะนำไปลงทุนอื่นๆ เช่น ซื้อทองคำ หุ้น ซื้อกองทุนรวม เป็นต้น


คนขี้สงสัยอาจจะถามว่า จำนวนเงินติดบัญชีควรมีเท่าไหร่ดี? มิสเตอร์บางกอกขอตอบแบบให้เข้าใจง่ายๆ กันนะครับ จะต้องมีเงินดาวน์ 10-15% ของราคาบ้านที่เราจะซื้อครับ เช่น หากเราจะซื้อบ้านราคา 1 ล้าน เงินติดบัญชีของเราควรจะมีอยู่ 100,000 - 150,000 บาทครับ 

สูตรข้อที่ 4 : เครดิตทางการเงิน

ประวัติการใช้สินเชื่อทุกชนิดจะถูกส่งมาไว้ถังกลางที่เครดิตบูโร เวลาเรายื่นขอกู้แบงก์จะตรวจสอบย้อนหลัง 3 ปีเต็ม หากคำนวณแล้วหนี้เดิมที่มีอยู่ เมื่อเพิ่มหนี้บ้านเข้าไปอีกภาระการผ่อนเกิน 80% ของรายได้หรือเปล่า ถ้าเกินก็หมดสิทธิ โดยตรวจสอบควบคู่กับประวัติการผิดนัดชำระหนี้ ข้อแนะนำคือไม่ควรจ่ายช้าเกิน 30 วัน (อย่าให้ทบงวดนั่นเอง) กรณีที่เคยมีประวัติผิดนัดชำระหนี้ให้ชี้แจงสาเหตุที่ผิดนัด ที่สำคัญต้องแนบหลักฐานว่าได้ตามไปจ่ายเรียบร้อยแล้ว

สูตรข้อที่ 5 : หลักทรัพย์ค้ำประกัน

สูตรนี้แบงก์ก็ให้ความสำคัญนะครับ เพราะธนาคารจะมองเผื่อว่ากรณีเป็นหนี้เสียแล้วยึดทรัพย์มาขายทอดตลาด จะต้องซื้อง่ายขายคล่องพอสมควร ข้อแนะนำคือพึงระวัง 2 ข้อครับ คือ 1. ถ้าใช้ที่ดินค้ำประกันจะต้องไม่เป็นที่ตาบอด 2. ทำเลที่ตั้งไม่ควรอยู่ในแหล่งเสื่อมโทรม

สุดท้ายอีก 1 เทคนิคสำหรับ "ผู้ประกอบอาชีพอิสระ"

กลุ่มนี้โดนหางเลขไปด้วย เพราะการทำมาค้าขายรับเงินสดเน้นๆ ทุกวันแต่ไม่มีหลักฐานรายได้ประจำ ปัญหาอยู่ที่เงินสดคล่องมือทำให้รสนิยมสูง มักเลือกซื้ออสังหาฯ ราคาแพง แต่ล่าสุด ยอดปฏิเสธสินเชื่อสูงเกือบเท่าตัว จาก 19% เพิ่มเป็น 34% ทางธนาคารก็เลยออกอาการแหยงๆ ที่จะปล่อยกู้ มิสเตอร์บางกอกมีข้อแนะนำ คือสามารถใช้ "หนังสือชำระภาษีประจำปี" เป็นหลักฐานแสดงรายได้แทน บางแห่งรับฟังข้อมูลยอดขาย ต้นทุน กำไรต่อวันก็มี

ที่มา : มติชนรายวัน

สำหรับผู้ที่กำลังหาซื้อบ้านพร้อมอยู่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล  >> เลือกชมได้ที่นี่คลิก <<ผู้ที่สนใจฝากขาย บ้านมือสอง ในกรุงเทพฯ บ้านมือสองนนทบุรี และปริมณฑล  สามารถติดต่อได้ที่นี่กรอกข้อมูลบ้าน และช่องทางติดต่อกลับ >> คลิกที่นี่ <<