โครงการบางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 109 (Bangkok Boulevard Ramintra 109) เป็นโครงการบ้านซีรีส์ใหม่ที่มีชื่อว่า “LANAI” (ลา-ไน) จาก SC ASSET โดยแนวคิดของแบบบ้าน LANAI SERIES นั้นเกิดจากคำ 3 คำ คือ Space-Space-Space Show
จึงทำให้แบบบ้านของโครงการบางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 109 (Bangkok Boulevard Ramintra 109) มีความพิเศษเพราะได้ทั้งพื้นที่ส่วนตัวภายในบ้านที่เชื่อมต่อไปยังพื้นที่ภายนอกบ้านได้แบบไร้รอยต่อ ทำให้การใช้ชีวิตแบบ New Normal ที่หลายคนต้องการพื้นที่ภายในบ้านสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ที่มากกว่าการอยู่อาศัย เช่น การทำงานแบบ Work From Home ได้ใช้ชีวิตที่เป็นสัดส่วนและบริหารพื้นที่ต่างๆ ภายในบ้านได้อย่างลงตัวมากขึ้น สำหรับคอนเซปต์ของโครงการจะเน้นความอบอุ่นและอบอวลด้วยความโรแมนติกในสไตล์ AUTUMN IN PARIS ผ่านการใช้สีแบบฤดูใบไม้ร่วงที่ให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ และรู้สึกเหมือนอยู่ในเมืองปารีสตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้าที่ออกแบบมาให้มีขนาดใหญ่ โดดเด่นด้วยความกว้างถึง 61 เมตร ดูโอ่อ่า แต่ก็ดูเข้าถึงง่ายด้วยโทนสีน้ำตาล และดีไซน์ที่คล้ายระแนงไม้ที่เข้ากับบรรยากาศโดยรอบโครงการ พร้อมด้วยระบบ Main Gate เข้า-ออกด้วย Easy Pass และติดตั้งกล้อง CCTV รอบ โครงการตลอด 24 ชั่วโมง จึงทำให้ลูกบ้านรู้สึกปลอดภัยในการอยู่อาศัยมากขึ้น เข้ามาภายในโครงการ จุดที่โดดเด่นที่สุดจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ที่สามารถใช้งานได้อย่างครบครัน สามารถเข้าใช้งานได้จากทุกโซนของโครงการรองรับการทำกิจกรรมของทุกคนในครอบครัว ประกอบด้วย Clubhouse ที่ได้รับแรงบันดาลใจในด้านการดีไซน์มาจาก Eiffel Tower ในปารีส โดยออกแบบให้สามารถใช้งาน และ Take view ได้ถึงสามด้านด้วยกัน ส่วนภายในอาคาร Clubhouse จะมีพื้นที่ต้อนรับ ซึ่งเป็น Sale Gallery ที่ออกแบบมาให้ดูโปร่งและรับแสงธรรมชาติจากกระจกขนาดใหญ่สูงตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ทำให้ผู้ใช้งานพื้นที่ส่วนนี้มองเห็นวิวภายนอกได้อย่างชัดเจน ส่วนภายในอาคาร Clubhouse จะมีพื้นที่ต้อนรับ ซึ่งเป็น Sale Gallery ที่ออกแบบมาให้ดูโปร่งและรับแสงธรรมชาติจากกระจกขนาดใหญ่สูงตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ทำให้ผู้ใช้งานพื้นที่ส่วนนี้มองเห็นวิวภายนอกได้อย่างชัดเจน ส่วนเด็ก ๆ เองก็ยังมีพื้นที่ส่วนตัวเป็นโซน Kid Room ที่ผู้ปกครองสามารถพาเด็กๆ มาเล่นสนุกได้ในช่วงเวลาว่าง นอกจากนี้ ยังมีห้องฟิตเนสที่ออกแบบมาให้ปลอดโปร่ง กว้างขวาง พร้อมเสิร์ฟวิว Panoramic Screen ของสวนสีเขียว ให้ลูกบ้านได้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพตลอดการออกกำลังกายด้วยอุปกรณ์ที่ทางโครงการจัดมาให้แบบครบครัน ด้านการออกแบบเครื่องเล่นภายในสวนก็ยังได้แรงบันดาลใจมาจากผลวอลนัทที่สื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง ทำให้ทุก พื้นที่ดูมีสีสันและอบอุ่นไปในตัว รายละเอียดของโซนต่างๆ ภายในสวนส่วนกลาง
House Tour โครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 109สำหรับแบบบ้านของบางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 109 (Bangkok Boulevard Ramintra 109) จะมีทั้งหมด 3 แบบ คือ CALM, SHADE และ CAPTIVATE โดยใช้หลักการออกแบบ LANAI ที่ประกอบด้วย ...
House Tour แบบบ้าน Captivateสำหรับแบบบ้าน CAPTIVATE จะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 365 ตร.ม. ฟังก์ชันตัวบ้านประกอบด้วย … 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องพระ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว 1 ห้องรับประทานอาหาร 1 ห้องพักผ่อนด้านบน 1 ห้องแม่บ้าน และ3 ที่จอดรถ การออกแบบบ้านในสไตล์ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 109 จะเน้นไปที่การดีไซน์ให้ทุกอณูภายในตัวบ้านสามารถรองรับไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัวได้ลงตัวที่สุด โดยออกแบบมาให้ชั้นล่างเป็นพื้นที่กิจกรรมที่สามารถใช้ร่วมกันได้อย่างเต็มที่ พร้อมทำระดับเพดานให้สูงถึง 2.8 เมตร จึงทำให้ตัวบ้านรู้สึกโปร่งมากขึ้น แถมการจัดวางฟังก์ชันของโซนต่างๆ ภายในบ้านยังสามารถปรับเปลี่ยนตามต้องการได้หลากหลาย เนื่องจากมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง ส่วนชั้นบนนั้นจะออกแบบมาให้มีระดับฝ้าเพดานสูงเป็นพิเศษถึง 3.4 เมตร ทำให้ดูโอ่อ่าและเหมาะกับการพักผ่อน พร้อมทั้งเสริมความร่มรื่นให้มีมากขึ้นได้ด้วยการออกแบบพื้นที่ Semi Outdoor ให้สามารถออกไปนั่งเล่นดูวิวข้างนอกบริเวณระเบียงยาวจากห้องนอนได้ ส่วนโซนห้องนอนต่างๆ ก็แยกออกจากกันเป็นสัดส่วน พร้อมมีห้องน้ำในตัวให้ทุกห้อง จึงทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูงมากยิ่งขึ้น สังเกตได้ว่า แต่ละฟังก์ชันถือว่าออกแบบมาให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย อยู่แล้วไม่อึดอัดเลยสักนิด บรรยากาศของตัวบ้านนั้นดูแล้วทันสมัยในสไตล์โมเดิร์น แต่ก็ยังดูใกล้ชิดกับความเป็นธรรมชาติจากเส้นสายการดีไซน์ของสีและระแนงไม้กันแดด รวมถึงการออกแบบให้เป็นบ้านที่เปิดรับแสงธรรมชาติจากกระจกบานสูงเต็มผนังจากส่วนต่างๆ ของตัวบ้านได้อย่างเต็มที่แบบไม่ต้องกลัวร้อน เนื่องจากเลือกใช้เป็นกระจกสีเขียวตัดแสงอย่างดี นอกจากนี้ รอบบ้านยังมีพื้นที่ให้สำหรับทำสวน จะจัดเป็นมุมปลูกต้นไม้น้อยใหญ่หรือจัดเป็นสวนน้ำพุก็ดูสวยงามได้ไม่แพ้กัน เนื่องจากตัวบ้านจะออกแบบมาให้รองรับผู้อยู่อาศัยได้ถึง 3 Generations ทั้งพ่อ แม่ ลูก คุณปู่คุณย่า ทำให้มีพื้นที่สำหรับดูแลผู้สูงอายุอยู่หลายจุด อย่างเช่น บริเวณทางเชื่อมจากลานจอดรถสู่ Terrace หรือเฉลียงหน้าบ้านก็ทำออกมาให้เป็นบริเวณทางลาดที่สามารถเข็นรถ Wheel Chair ขึ้นลงได้อย่างสะดวก ในด้านความปลอดภัยระบบประตูก็จะมีการใช้ Digital Door Lock นอกจากนี้บ้านทุกหลังยังเสริมความปลอดภัยให้ลูกบ้านรู้สึกอุ่นใจมากขึ้นด้วยระบบสัญญาณกันขโมยภายในบ้านด้วย Magnetic System และ Shock Sensor ที่จะแจ้งเตือนผ่านมือถือและศูนย์รักษาความปลอดภัยทั้งในชั้น 1 และชั้น 2 อีกด้วย Facade ของตัวบ้านก็มีความพิเศษโดยดีไซน์มาให้เป็นแผงกันแดดริมทางเดินที่สามารถปรับองศาได้ อีกทั้งยังช่วยในการพรางสายตาจากคนภายนอกที่มองเข้ามาภายในตัวบ้านได้อีกด้วย ซึ่งตัว Facade นี้จะติดตั้งให้ด้วยกันหลายจุดทั้งบริเวณทางเดินหน้าบ้าน บริเวณข้างบ้านฝั่ง Balcony และยังมีบริเวณชั้น 2 หน้าห้องนอนรอง (จุดนี้มีให้เฉพาะบ้านแบบ CAPTIVATE เท่านั้น) สำหรับพื้นที่เฉลียงหน้าบ้านก็จะทำการปูกระเบื้องลายหินขนาด 80x80 เซนติเมตรให้ จึงทำให้ดูสวยงามแถมยังดูแลได้ง่ายด้วยการยกพื้นที่ส่วนนี้ให้สูงขึ้นมาจากพื้นดินให้เสมอกับพื้นที่ตัวบ้าน ทำให้รู้สึกถึงการเชื่อมต่อที่ราบเรียบแบบ Semi-Outdoor ไม่มีการลดระดับพื้นให้รู้สึกขัดตา สำหรับบริเวณโซนรับประทานอาหารตัวบ้านจริงจะเป็นห้องนอนอีก 1 ห้องแยกส่วนออกมา เพื่อรองรับครอบครัวที่มีจำนวนสมาชิกหลายคน แต่สำหรับบ้านตัวอย่างได้ทำการออกแบบฟังก์ชันเพิ่มเติมเพื่อเป็นไอเดีย เผื่อสำหรับใครที่ต้องการเน้นพื้นที่ทำกิจกรรมมากขึ้นก็สามารถทุบห้องส่วนนี้ออกแล้วเปลี่ยนเป็น Dining Area ขนาดใหญ่ได้เลย บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 109 ให้ความสำคัญกับการสร้างที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์สำหรับทุกคนในครอบครัว จึงมีพื้นที่ห้องนอนด้านล่างไว้สำหรับทำเป็นห้องของผู้สูงอายุที่ออกแบบฟังก์ชันในห้องให้ตอบโจทย์กับสุขภาพของผู้ที่อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี พื้นที่ห้องนอนบริเวณชั้น 1 นี้จะเชื่อมต่อกับส่วนที่เป็น Terrace หรือเฉลียงหน้าบ้าน สามารถเปิดประตูออกไปรับลมหรือนั่งเล่นได้ แถมพื้นก็ยังออกแบบมาให้เดินออกไปได้สะดวก เหมาะกับการเป็นห้องของผู้สูงอายุอย่างแท้จริง เพิ่มฟังก์ชันพิเศษด้วยห้องน้ำในตัวมาพร้อมกับสุขภัณฑ์ครบชุดทั้งอ่างล้างหน้า กระจกบานใหญ่เต็มความยาวของผนัง มีโถสุขภัณฑ์ ฝักบัว พร้อมออกแบบส่วนที่เป็น Universal Design ซึ่งใส่ใจการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุ (Elderly Care) เช่น ราวจับด้านข้างโถสุขภัณฑ์
ครัวที่ได้จะเป็นครัวไทยแบบปิดสามารถประกอบอาหารได้อย่างเต็มที่ เพราะพื้นที่กว้างขวาง ทางโครงการเดินระบบมาให้เรียบร้อย นอกจากนี้ยังเปิดประตูออกไปบริเวณซักล้างด้านนอก ซึ่งจะเชื่อมไปสู่ห้องแม่บ้านได้ด้วย สำหรับบันไดตัวบ้านก็แข็งแรงด้วยโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก โดยบันไดจะอยู่ระหว่างประตูทางเข้าฝั่งที่จอดรถ และห้องเก็บของใต้บันได หากเดินเข้ามาจากที่จอดรถก็สามารถเดินขึ้นชั้นสองได้ในทันที โดยโซนนี้จะมองเห็นโซนห้องนอนที่อยู่บริเวณชั้น 2 ทุกห้อง โดยทางฝั่งขวามือจะเป็น Master bedroom ซ้ายมือเป็นห้องนอน 3 ส่วนบริเวณที่ติดกับบันไดจะเป็นห้องนอน 2 นอกจากนี้ ยังเห็นบริเวณชั้นลอยที่ทำแยกขึ้นไปให้ด้วย ห้องนอน 3 เข้ามาดูห้องนอน 3 กันก่อน ตัวห้องแบ่งฟังก์ชันการใช้งานได้เป็นสัดส่วน เน้นออกแบบมาให้สามารถใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วให้คุ้มค่า และเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกในบ้านมากที่สุด ทั้งการจัดวางมุมของเตียงนอนที่จัดวางได้ตั้งแต่เตียงขนาดใหญ่ไปจนถึงเตียงที่มีดีไซน์เฉพาะตัว แถมด้านข้างยังเหลือพื้นที่ทางเดินอีกมาก จึงไม่ต้องกังวลว่า หากแต่งห้องเยอะแล้วจะทำให้รู้สึกอึดอัดบริเวณปลายเตียงสามารถจัดวางโซฟาตัวเล็ก พร้อมทำชั้น Built-in เพื่อทำเป็นชั้นวางทีวีเพิ่มเติมหรือปล่อยให้พื้นที่โล่งแล้วจัดเป็นตู้โชว์แบบห้องตัวอย่างก็ได้ ส่วนพื้นที่ด้านข้างเตียงยังมีพื้นที่ว่างพอให้จัดวางโต๊ะทำงานขนาดพอเหมาะได้อีกด้วย ห้องนอน 2 พื้นที่ระเบียงออกแบบมาให้กว้างพอจัดวางชุดเก้าอี้ จึงประยุกต์ใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นหรือทำกิจกรรมส่วนตัวได้อย่างสะดวก อีกทั้งยังไม่ต้องกังวลเรื่องของแสงแดดที่จะสาดเข้ามาเพราะสามารถปรับองศาของ Facade ได้ หรือดึงเปิด-ปิดเองได้เต็มที่ตามความสะดวกเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวให้มีมากขึ้นก็ได้เช่นกัน Master Bedroom ถึงแม้ว่าจะมีมุมทำกิจกรรมและมุมนั่งเล่นหลายจุดภายในบ้านอยู่แล้ว แต่ภายในห้องนอนเองก็สามารถจัดเป็นมุมพักผ่อนเล็ก ๆ แบบส่วนตัวเอาไว้บริเวณปลายเตียงเพิ่มเติมได้ พร้อมกับ Take View จากมุมชั้น 2 ของบ้าน ผ่านช่องแสงขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถเปิดออกไปจะเป็นระเบียงขนาดใหญ่ที่รองรับกิจกรรมและไลฟ์สไตล์ต่างๆ อย่างลงตัว ถัดจากโซนพักผ่อนจะเชื่อมต่อกับโซน Walk-in Closet ขนาดใหญ่ที่จัดสรรให้เป็นมุมสนุกสำหรับคนชอบแฟชั่นได้แบบเต็มที่ เพราะสามารถจัดทำเป็นห้องแยกออกไปเป็นสัดส่วนด้วยประตูบานเลื่อนได้เลย House Tour แบบบ้าน Shadeสำหรับแบบบ้าน SHADE จะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 279 ตร.ม. ฟังก์ชันตัวบ้านประกอบด้วย 5 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว 1 ห้องรับประทานอาหาร 1 ห้องพักผ่อนด้านบน 2 ที่จอดรถ
เริ่มต้นสำรวจบริเวณรอบบ้านแบบ SHADE กันด้วยสวนข้างบ้านที่สามารถตกแต่งเป็นพื้นที่สีเขียวสำหรับพักผ่อนหย่อนใจได้ โดยจุดที่สามารถจัดเป็นมุมนั่งเล่นสำหรับชมสวนที่เหมาะที่สุดจะเป็น Terrace บริเวณชั้น 1 ที่สามารถจัดฟังก์ชันใช้งานเป็นมุมนั่งรับลม จิบกาแฟเพลินๆ ยามเช้า หรือจะจัดเป็นมุมปาร์ตี้เล็กๆ ระหว่างคนในครอบครัวก็ได้เช่นกัน จากมุม Terrace สามารถเดินเชื่อมไปยังลานจอดรถด้วยทางลาดที่อำนวยความสะดวกให้กับสมาชิกภายในบ้านที่ต้องใช้ Wheel Chair ทำให้เข้า-ออกบ้านได้สะดวกสบายมากขึ้น พื้นที่จอดรถจะเป็นการจอดใต้ตัวบ้าน สามารถจอดรถได้ 2 คัน และยังออกแบบให้มีประตูทางเข้าบริเวณลานจอดรถไว้สำหรับขนของเข้าบ้านได้ง่ายๆ อีกด้วย สำหรับพื้นที่เข้าบ้านอีกจุดจะเป็นประตูบานเลื่อน 2 ตอน ซึ่งเป็นช่องแสงธรรมชาติที่ทำให้ตัวบ้านดูสว่าง และปลอดโปร่งมากขึ้นด้วยความสูงของฝ้าเพดานภายในตัวบ้าน 2.8 เมตร ด้านฟังก์ชันในตัวบ้านสามารถจัดวางเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมทั้งห้องรับแขกที่เชื่อมต่อสู่พื้นที่ห้องรับประทานอาหารได้เลย การทำพื้นที่เชื่อมต่อถึงกันเช่นนี้ทำให้ทุกคนในครอบครัวสามารถใช้เวลาร่วมกันได้อย่างเต็มที่ แถมยังช่วยทำให้บ้านดูโปร่งจากการไร้กำแพงปิดกันพื้นที่โซนต่างๆ ภายในบ้าน และบริเวณที่ติดอยู่กับโซนรับประทานอาหารยังเหลือพื้นที่อเนกประสงค์ที่สามารถกั้นแยกเป็นโซนทำงาน โซนนั่งเล่น หรือจะจัดเป็นโชว์รูมตั้งของสะสมที่ชื่นชอบก็ได้ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นโซนที่มีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น โดยเป็นพื้นที่เดินขึ้นไปยังบริเวณชั้น 2, ห้องนอนชั้นล่าง ห้องครัว รวมไปถึงห้องน้ำได้ สำหรับห้องนอนด้านล่างจะจัดเป็นห้องสำหรับผู้สูงอายุหรือจะปรับเปลี่ยนเป็นห้อง Kid Zone สำหรับบ้านที่มีเด็กเล็กก็ได้ เพื่อให้สมาชิกในบ้านมีพื้นที่ส่วนตัวสำหรับใช้ชีวิตได้มากยิ่งขึ้น โซนครัวจะออกแบบมาให้เป็นครัวไทยที่แยกพื้นที่ออกมา ทำให้สามารถประกอบอาหารหนักได้ อีกทั้งยังมีประตูและหน้าต่างเปิดออกไปเพื่อระบายอากาศได้อย่างสะดวก Master Bedroom ทั้งบริเวณเตียงนอนที่สามารถจัดวางเตียงแบบ King Size ได้พร้อมกับเหลือทางเท้าและพื้นที่ให้จัดวางชั้นวางทีวีได้สบายๆ นอกจากนี้ ทางโครงการก็ได้ดีไซน์สเปซให้มีมุมส่วนตัวที่แยกโซนจากบริเวณเตียงออกไป ทำให้การนอนหลับพักผ่อนทำได้เต็มที่มากขึ้น โดยโซนที่แยกออกมาจะเป็นโซน Walk-in Closet และโซนนั่งพักผ่อนที่เชื่อมต่อสู่ระเบียงลาไน ในห้องนอนผ่านประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ได้ ห้องนอน 2 ถัดมาจะเป็นห้องนอน 2 ที่เหมาะสำหรับจัดเป็นห้องของสมาชิกภายในบ้าน โดยมีพื้นที่กว้างขวางให้จัดวางฟังก์ชันต่างๆ ได้ตามไลฟ์สไตล์ที่ต้องการเช่นกัน สำหรับตัวห้องในบ้านตัวอย่างจะเป็นห้องที่เป็นแนวยาว ทำให้มุมหนึ่งจัดเป็นโซนเตียงนอนที่วางติดกับช่องแสงขนาดใหญ่ แต่มีโซนที่สามารถทำ Walk-in Closet และโต๊ะเครื่องแป้งแยกออกไปได้อย่างพอดิบพอดี ห้องนอน 3 และถึงแม้จะเป็นห้องนอนเล็กก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ห้องน้ำร่วมกันกับใคร เพราะตัวบ้านออกแบบมาให้มีห้องน้ำส่วนตัวแยกให้เฉพาะเช่นกัน House Tour แบบบ้าน Calmแปลนบ้านแบบ CALM ให้พื้นที่กว้างขวาง ปลอดโปร่ง โดยชั้นล่างจะเป็นโซนทำกิจกรรม เชื่อมต่อพื้นที่ทั้งภายในและภายนอกถึงกันได้เป็นอย่างดี ส่วนด้านบนจะเป็นพื้นที่พักผ่อนที่แบ่งสัดส่วนเอาไว้ได้อย่างลงตัว และให้ความเป็นส่วนตัวสูงสำหรับสมาชิกทุกคนในครอบครัว มาเริ่มต้นดูกันบริเวณพื้นที่ชั้น 1 รอบๆ ตัวบ้าน โดยพื้นที่จอดรถจะอยู่ใต้ตัวบ้านสามารถจอดรถยนต์ได้ 2 คันแบบสบายๆ และยังสามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ตัวบ้านได้ด้วยประตูทางเข้าจากลานจอดรถได้เลย สำหรับพื้นที่ด้านนอกบ้านสามารถจัดเป็นสวนสำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจได้ เนื่องจากจะมี Terrace บริเวณหน้าบ้านมาให้ สำหรับใครที่ครอบครัวมีผู้สูงอายุที่จำเป็นจะต้องใช้รถ Wheel chair ในการเข้า-ออกบริเวณบ้านก็จัดพื้นที่ทางลาดเอาไว้ให้สำหรับใช้เป็นทางขึ้น-ลงรถ Wheel Chair อีกด้วย เข้าสู่พื้นที่ตัวบ้านจะให้ความรู้สึกโปร่งโล่งด้วยการออกแบบพื้นที่มาให้สามารถจัดตกแต่งได้ตามใจชอบ ซึ่งพื้นที่บริเวณด้านหน้าประตูบานเลื่อนสามารถจัดเป็นโซนนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับโซนรับประทานอาหารได้เลย เข้าสู่พื้นที่ตัวบ้านจะให้ความรู้สึกโปร่งโล่งด้วยการออกแบบพื้นที่มาให้สามารถจัดตกแต่งได้ตามใจชอบ ซึ่งพื้นที่บริเวณด้านหน้าประตูบานเลื่อนสามารถจัดเป็นโซนนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับโซนรับประทานอาหารได้เลย นอกจากนี้ยังมีพื้นที่อเนกประสงค์ให้สามารถจัดวางเป็นตู้โชว์ หรือใครที่อยากจะออกแบบเป็นพื้นที่ส่วนตัว เช่น ห้องอ่านหนังสือหรือห้องทำงานก็ได้เช่นกัน จากโซนทำกิจกรรมโดยรวมแล้วจะเป็นโซนทางขึ้นไปยังบริเวณชั้น 2 และโซนห้องครัวที่ทำแยกออกไป เพื่อป้องกันกลิ่นอันไม่พึงประสงค์เวลาประกอบอาหาร สำหรับห้องครัวจะมีการวางระบบต่างๆ ที่จำเป็นมาให้ ซึ่งสามารถทำการตกแต่งและออกแบบครัวเองได้ตามใจชอบ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ประตูครัวเปิดออกไปยังบริเวณซักล้างด้านนอกได้อีกด้วย โถงทางเดินขึ้นบันไดจะให้ความรู้สึกโอ่โถง สูงโปร่ง สามารถจัดตกแต่งเพิ่มเติมได้ และเมื่อมองขึ้นไปยังชั้น 2 จะเชื่อมต่อสู่พื้นที่อเนกประสงค์ของตัวบ้านอีกหนึ่งจุด Master Bedroom เข้ามาดูพื้นที่ของห้อง Master Bedroom กันต่อ จะเห็นว่า มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ สามารถวางเตียงขนาด King Size ได้สบายๆ แถมยังเหลือพื้นที่รอบๆ เตียงสำหรับวางโต๊ะข้างหัวเตียงได้ รวมถึงบริเวณปลายเตียงยังจัดเป็นชั้นวางของและทีวีแบบฝังผนังได้ นอกจากนี้ ยังเป็นห้องที่มีประตูระเบียงที่สามารถเปิดออกรับวิวด้านนอกได้อีกด้วย นอกจากจะเปิดออกมารับวิวสวยๆ ได้แล้ว พื้นที่ด้านนอกยังเป็น Private Balcony ที่สามารถทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นส่วนตัวสำหรับพักผ่อนหย่อนใจได้อีกด้วย กลับเข้าสู่ตัวห้องอีกครั้ง จะเห็นว่านอกจากจะจัดวางพื้นที่เตียงนอนขนาดใหญ่ได้แล้ว ยังสามารถทำเป็นพื้นที่แต่งตัวขนาดใหญ่ได้อีกด้วย โดยสามารถทำเป็นพื้นที่โต๊ะเครื่องแป้งและ Walk-in Closet ที่ประกอบด้วยตู้เสื้อผ้าแบบบานเปิดคู่สูงจรดเพดานได้ถึง 2 หลัง แถมยังเป็นพื้นที่เชื่อมต่อไปยังโซนห้องน้ำได้เลย ทำให้สะดวกต่อการทำธุระส่วนตัวและการแต่งตัวเป็นอย่างมาก ห้องนอน 2 สำหรับห้องนอน 2 จะมีพื้นที่เล็กลงมา แต่ก็ยังสามารถจัดตกแต่งฟังก์ชันต่างๆ ที่ควรมีภายในห้องนอนได้ครบถ้วน ทั้งเตียงนอน และโต๊ะเคาน์เตอร์ด้านข้างที่สามารถทำเป็นพื้นที่แต่งหน้า อ่านหนังสือ หรือนั่งทำงานก็ได้ตามความชอบ โดยพื้นที่แต่งตัวบริเวณตู้เสื้อผ้าจะเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ห้องน้ำที่อยู่บริเวณปลายเตียงได้เลย เวลาเดินเข้า-ออกจึงสะดวกสบายเป็นอย่างมาก สำหรับห้องน้ำก็มีสุขภัณฑ์ต่าง ๆ มาให้ครบถ้วนเช่นกัน ทั้งอ่างล้างหน้า กระจก โถสุขภัณฑ์ ฝักบัว และทำการแยกโซนเปียกและแห้งมาให้ ซึ่งถ้าใครกลัวว่าน้ำจะกระเด็นเลอะโซนแห้งก็สามารถทำพาร์ทิชันกั้นโซนแยกออกไปให้ชัดเจนเพิ่มเติมได้เลย ห้องนอน 3 หรือห้องทำงาน เข้าสู่ส่วนสุดท้ายที่มีขนาดเล็กที่สุดบนชั้น 2 ทำให้สามารถประยุกต์ใช้เป็นห้องนอนสำหรับลูกน้อย หรือจัดตกแต่งเป็นห้องทำงานแยกต่างหากก็ได้ Location บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 109 (Bangkok Boulevard Ramintra 109)โครงการบางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 109 (Bangkok Boulevard Ramintra 109) ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพในย่านรามอินทรา ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพูเพียง 2.4 กิโล โดยเป็นทำเลที่สามารถเชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักของย่านรามอินทราได้หลากหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น …
ทำให้เดินทางเข้า-ออกเมืองได้อย่างสะดวกสบาย โดยสามารถผ่านถนนรามอินทราที่สามารถใช้เดินทางเข้าไปในเมืองได้ ส่วนขาออกเมืองสามารถใช้ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกขึ้นเหนือไปทางบางปะอิน รังสิต ลำลูกกา หรือลงไปทางอ่อนนุช และบางนา-ตราดก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ รามอินทรายังเป็นทำเลที่มีรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี โดยสถานีที่ใกล้กับโครงการที่สุดคือ สถานีบางชัน ห่างจากโครงการไปประมาณ 2.4 กิโลเมตร ทำให้เดินทางเข้าเมืองได้อย่างสะดวก โดยสามารถเปลี่ยนขบวนรถไฟฟ้าไปยังสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคตได้ที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุได้อีกด้วย |