หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 ของสำนกั พิมพ์เอมพันธ์ สไลด์ที่ ๑ (เฉลยคอื คำทอ่ี ยู่ในกล่องสีขาวทั้งหมด 6 คำ) สถาบนั สงั คม บรรทดั ฐาน คา่ นยิ ม สขุ อนามยั ศาสนา สทิ ธิ สถาบนั วจิ ยั หลกั ธรรม จากน้นั เช่ือมโยงเข้าส่บู ทเรยี น ขั้นสอน • วิชาหน้าที่พลเมืองและศีลธรรมคืออะไร (วิชาทศี่ ึกษาเกีย่ วกับบทบาท สทิ ธิ หนา้ ที่ของ • ประโยชนข์ องการเรียนวชิ าหนา้ ทีพ่ ลเมืองและศีลธรรม (ข้ึนอย่กู บั ดลุ ยพินิจของครูโดยมีแนว ขัน้ สรุป สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้ หลักฐาน การวัดผลและการประเมนิ ผล เคร่อื งมือวดั ผล เกณฑก์ ารประเมนิ ผล ประเมิน กิจกรรมเสนอแนะ แบบทดสอบผลการเรียนรู้ก่อนเรียน/หลงั เรียน จ ง เ ลื อ ก ค ำ ต อ บ ท่ี ถู ก ต้ อ ง ท่ี สุ ด 1. เพราะเหตุใดมนุษย์ตอ้ งรวมกลุ่มเปน็ สังคม ก. เพ่ือสร้างวัฒนธรรม ข. เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สงั คม ค.เพื่อใหอ้ ยู่รอดปลอดภัย ง. เพื่อให้เป็นมนษุ ย์ทส่ี มบูรณ์ จ. เพราะต้องการสรา้ งสัญลักษณ์มาใช้ 2. สว่ นต่างๆ ทปี่ ระกอบกันเป็นระบบความสมั พนั ธ์ของมนุษย์ที่สมาชกิ ไดย้ ดึ ถือและใช้เปน็ แนวทางใน การปฏบิ ัตริ ่วมกนั หมายถึงอะไร ก. โครงสรา้ งทางสงั คม ข. กลมุ่ ทางสังคม ค. สถาบันทางสังคม ง. บรรทัดฐานทางสังคม จ. การจัดระเบียบสังคม 3. ข้อใดไมใ่ ช่องคป์ ระกอบของสถาบนั ทางสังคม ก. กลมุ่ สังคม ข. หน้าที่ ค. แบบแผนพฤติกรรม ง. สัญลักษณแ์ ละค่านิยม จ. ถาวรวัตถุ 4. ข้อใดเปน็ หน้าท่ีของสถาบันสังคมท่สี ถาบนั อ่นื ๆ ไม่สามารถทำหน้าท่ีแทนได้ ก. ให้กำเนิดสมาชิกใหม่ ข. ใหค้ วามปลอดภยั แก่สมาชิก ค. ทำนบุ ำรงุ สมาชิก ง. ให้การกนิ ดีอยู่ดี จ. ถ่ายทอดวัฒนธรรม 5. ข้อใดจับคู่สญั ลักษณ์กบั สถาบันไม่ถูกตอ้ ง ก. บา้ น-สถาบนั ครอบครวั ข. โรงเรยี น-สถาบนั การศกึ ษา ค. ไม้กางเขน-สถาบนั ศาสนา ง. ดารา-สถาบนั นนั ทนาการ จ. นักร้อง-สถาบนั สื่อสารมวลชน 6. ข้อใดเปน็ เหตผุ ลพ้ืนฐานที่ทำให้เกิดสถาบันเศรษฐกจิ ก. เพราะมนษุ ยต์ ้องการความมัง่ ค่งั ข. เพื่อจัดสรรและแบ่งปันทรัพยากรท่ีมีอยู่อย่างจำกัด ค. เพื่อใหส้ งั คมเกดิ ความเปน็ ระเบียบเรียบร้อย ง. เพื่อสร้างสิ่งยึดเหนีย่ วจิตใจ จ. เพ่ือกระจายข้อมลู ขา่ วสาร 7. “ศาล” จดั อยู่ในสถาบนั ในข้อใด ก. สถาบันครอบครวั ข. สถาบันเศรษฐกจิ ค. สถาบันการเมืองการปกครอง ง. สถาบนั การศึกษา จ. สถาบนั สื่อสารมวลชน 8. ข้อใดไมจ่ ดั เป็นหน้าที่ของสถาบันการเมอื งการปกครอง ก. รกั ษาความมั่นคงของชาติ ข. รกั ษากฎเกณฑ์ของสงั คม ค. บำบัดทกุ ข์ บำรุงสุข ง. พฒั นาคุณภาพของประชาชน จ. สร้างส่ิงยดึ เหนี่ยวจิตใจ 9. ข้อใดไม่จดั เปน็ กลุ่มคนในสถาบนั สือ่ สารมวลชน ก. ผปู้ ระกาศข่าว ข. นกั หนงั สือพิมพ์ ค. นักจัดรายการวิทยุ ง. นกั ร้อง นักแสดง จ. ชา่ งภาพหนงั สือพิมพ์ 10. ข้อใดเป็นการแสดงใหเ้ ห็นถงึ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสถาบนั เศรษฐกิจกับสถาบนั การเมืองการปกครอง ก. รัฐบาลประกาศลอยตัวค่าเงนิ บาท ข. ศาลตัดสินจำคกุ รัฐมนตรี ค. ธนาคารงดปลอ่ ยเงินกู้ใหก้ บั บุคคลบางอาชีพ ง. ตำรวจกวดขันการเขา้ เมืองของคนต่างด้าว จ. กองทัพตรึงกำลงั บริเวณดา่ นชายแดน 11. วตั ถปุ ระสงคห์ ลกั ของทุกศาสนาท่ีเหมอื นกันคือสง่ิ ใด ก. เพือ่ ประเทศชาติมคี วามม่ันคง เขม้ แข็ง ข. เพ่อื สรา้ งฐานอำนาจ พลัง และความเป็นผนู้ ำ ค. สง่ เสริมความเขา้ ใจอันดี มสี ันติ ขจัดความแตกร้าวระหว่างมนุษยชาติ ง. สง่ เสริมหลักประชาธปิ ไตย สิทธิ เสรีภาพ จ. สร้างศรทั ธาให้ได้มากท่สี ดุ 12. ขอ้ ใดให้ความหมายของคำวา่ “ศาสนา” ไม่ถูกต้อง ก. ลทั ธิความเชอ่ื ของมนุษย์ ข. คำสอน ข้อบังคับ ค. ความเป็นใหญใ่ นแผน่ ดิน ง. บุญ บาป ปรมัตถ์ จ. ชวี ติ หลังความตาย 13. ขอ้ ใดกล่าวถงึ กำเนิดของศาสนาไมถ่ กู ตอ้ ง ก. ความเช่ือเร่อื งผี วิญญาณ ข. ความเชอ่ื เรอ่ื งไสยศาสตร์ การบชู ายญั ค. ความแปรผันของธรรมชาติ ง. ความตอ้ งการเป็นผนู้ ำในสงั คม จ. ความเช่ือของบรรพบรุ ุษ 14. จากคำกล่าวท่วี ่า “ผใู้ ดทำช่วั ในท่แี จง้ จะถูกมนุษยล์ งโทษ ผ้ใู ดทำช่ัวในที่ลบั จะถูกเทวดาลงโทษ” ไมม่ ี ความเกีย่ วข้องกับความเช่ือเรื่องใด ก. นรก–สวรรค์ ข. บุญ–บาป ค. เทวดา–ซาตาน ง. ภพปัจจบุ นั –ภพในชาตหิ น้า จ. ไสยศาสตร์-คาถาอาคม 15. “สงั คมไทยเปน็ สงั คมแหง่ เมอื งพุทธ” จากคำกล่าว น้ีแสดงถงึ ความสำคัญของศาสนาประการใด ก. เป็นสิ่งยดึ เหนยี่ วจิตใจ ข. เป็นเคร่ืองมือสร้างความสามัคคี ค. เปน็ มรดกของสังคม ง. เปน็ เครอ่ื งหมายของสังคม จ. เปน็ วฒั นธรรม 16. การทำบญุ ตักบาตร ไหวพ้ ระ บรรพชา อปุ สมบทเป็นตวั อย่างของความสำคัญทางศาสนาในแงใ่ ด ก. เป็นบรรทัดฐานของสงั คม ข. เปน็ พื้นฐานของขนบธรรมเนยี มประเพณี ค. เป็นมรดกของสงั คม ง. เป็นเคร่ืองขดั เกลาสมาชกิ ของสงั คม จ. เป็นพธิ ีกรรม 17. ศาสนามีอิทธิพลในการก่อกำเนิดสง่ิ ใด ก. พิธีกรรม ข. ศิลปกรรม ค. ประเพณี ง. ถูกทุกข้อ จ. วัฒนธรรม 18. ศาสนาใดเปน็ ศาสนาประเภทเทวนยิ ม ก. ศาสนาพุทธ ครสิ ต์ ชนิ โต ข. ศาสนาพทุ ธ พราหมณ-์ ฮนิ ดู ค. ศาสนาพุทธ ครสิ ต์ ยิว ง. ครสิ ต์ อิสลาม พราหมณ์-ฮนิ ดู จ. ถูกทุกข้อ 19. ศาสนาใดเปน็ ศาสนาอเทวนยิ ม ก. ศาสนาเชน ศาสนาพุทธ ข. ศาสนาอสิ ลาม ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ค. ศาสนาเชน ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ง. ศาสนาพุทธ ครสิ ต์ จ. ถกู ทุกข้อ 20. ใครใชห้ ลักการของศาสนาในการดำเนนิ ชีวิตได้ดีทส่ี ุด ก. โสภาแบ่งเงนิ สว่ นหน่ึงจากค่าขนมหยอดใสก่ ระปกุ ทุกวัน ข. โสภณบรจิ าคเงินชว่ ยเหลือผ้ปู ระสบอุทกภัย ค. โสพศิ โตเ้ ถียงกบั เพ่ือนร่วมงานที่ตกั เตือนเรื่องทเ่ี ธอมาทำงานสาย ง. โสฬสแบ่งอาหารใสป่ ่ินโตไปกินที่ทำงาน จ. โสภลี างานเพือ่ ไปทำบุญทีว่ ดั เฉลยแบบประเมินผลการเรยี นรกู้ อ่ นเรยี น/หลงั เรยี น 1 ค 5 ข 9 ง 13 ง 17 จ บนั ทกึ หลังการสอน ข้อสรุปหลังการสอน แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการท่ี 1 หน่วยท่ี 1 รหัสวิชา 20000 - 1501 วิชา หนา้ ทพ่ี ลเมอื งและศลี ธรรม สอนครั้งท่ี 2-3 ชือ่ หน่วย/เรอื่ ง สถาบันทางสงั คม จำนวน 2 ชว่ั โมง จดุ ประสงค์รายวชิ า 5. ประพฤติปฏบิ ัตติ นเปน็ พลเมอื งดตี ามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมุข และเป็นศาสนิกชนทด่ี ีตามหลักธรรมของศาสนาที่ตนนบั ถือ 3. ตระหนกั ถึงการดำเนนิ ชีวติ ท่ถี ูกตอ้ งดีงามในฐานะศาสนิกชนและพลเมืองดี สมรรถนะรายวิชา สาระสำคัญ เป็นพื้นฐานหรือความต้องการเบื้องต้นของสมาชิกในสังคม ประกอบด้วยสถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา สถาบนั ศาสนา สถาบนั เศรษฐกิจ สถาบันการเมืองการปกครอง สถาบันนนั ทนาการ และ สถาบนั ส่ือสารมวลชน ซ่ึงสถาบนั ทางสังคมแตล่ ะแห่งย่อมมีบรรทดั ฐานทางสังคมท่แี ตกตา่ งกนั ผลการเรยี นรูท้ ค่ี าดหวงั 1. บอกความหมายและองค์ประกอบของสถาบนั ทางสงั คมได้ 2. บอกบทบาท ความสำคญั ของสถาบนั ทางสังคม และบรรทดั ฐานทางสงั คมได้ 3. บอกความสมั พันธข์ องสถาบนั ทางสังคม 4. มกี ารพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของผ้สู ำเร็จการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ทค่ี รสู ามารถสังเกตได้ขณะทำการสอนในเรื่อง 1. ความมมี นุษย์สัมพันธ์ 2. ความมวี นิ ยั 3. ความรบั ผิดชอบ 4. ความซือ่ สัตยส์ จุ ริต 5. ความเชื่อม่ันในตนเอง 6. การประหยัด 7. ความสนใจใฝร่ ู้ 8. การละเวน้ ส่งิ เสพตดิ และการพนนั 9. ความรกั สามัคคี 10. ความกตญั ญูกตเวที สาระการเรยี นรู้ 1. สถาบันทางสงั คม กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำ • องค์การทางสงั คม หรือกล่มุ สังคม (กลุ่มคนที่มีความสมั พนั ธม์ กี ารกระทำต่อกนั ในสงั คม) • หน้าทข่ี องสถาบันทางสังคม (การปฏิบตั ทิ มี่ จี ดุ มุ่งหมายในการสนองความต้องการของสงั คม) • บรรทัดฐานทางสงั คม (แบบแผนพฤติกรรมและแบบแผนความคดิ ในการประพฤติปฏิบตั ิตอ่ กัน ของสมาชิก เพื่อให้บรรลุวตั ถุประสงค์ของสถาบนั นน้ั ) 3. นกั เรียนทำใบงาน 1.1 เรื่องครอบครวั ของฉนั ในหนังสือเรียนวิชาหนา้ ที่พลเมืองและศีลธรรม ขน้ั สรุป กลมุ่ สังคม : (บิดา มารดา บตุ ร สามี ภรรยา ปู่ ยา่ ตา ยาย เครอื ญาติ) 2. แบ่งกลมุ่ ใหน้ กั เรียนทำแผนผงั ความคิดเรื่อง “สถาบนั สังคม” โดยแบ่งออกเป็น ๖ กลุ่ม - ชวั่ โมงที่ 2 เร่อื ง บรรทดั ฐานทางสงั คมและความสัมพันธ์ของสถาบนั ทางสังคม- • สาเหตุใดทส่ี ่งผลใหพ้ ีทมีอาการโมโห (พฤตกิ รรมของคนในครอบครัว สง่ ผลให้พีทเป็นเด็ก • สถาบนั ครอบครวั สง่ ผลต่อเด็กอย่างไร ใหย้ กตัวอย่างจากเรื่อง (ขนึ้ อยู่กับดุลยพนิ จิ ของครู โดย ข้ันสอน • สถาบันการศึกษา • สถาบันศาสนา • สถาบนั การเมืองการปกครอง • สถาบันนนั ทนาการ • สถาบันเศรษฐกจิ • สถาบันสื่อสารมวลชน 4. นกั เรยี นเรยี นร้สู ถาบันทางสงั คม จากการทำใบงานที่ 1.3 เร่ืองกลุ่มสงั คมในสถาบันเศรษฐกิจ ขน้ั สรปุ สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ หลักฐาน การวดั ผลและการประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล เครื่องมอื วัดผล เกณฑก์ ารประเมนิ ผล ประเมิน กจิ กรรมเสนอแนะ เกณฑ์การประเมินการเขยี น Mind Mapping ประเดน็ การประเมนิ 432 1 ความคิดท่ีแสดง ความคิดท่ีแสดง ความคิดที่แสดง ค ว า ม คิ ด ท่ี ความคิดรวบยอด ความคิดรวบยอด ความคดิ รวบยอด แ ส ด ง ค ว า ม คิ ด หลกั ถกู ต้อง หลักถูกต้อง หลกั ถกู ต้อง ร ว บ ย อ ด ห ลั ก ตรงประเด็น ขยายความคิดยอ่ ย ขยายความคิดยอ่ ย ไ ม่ ต ร ง ป ร ะ เ ด็ น ขยายความคิดยอ่ ย ได้ถูกตอ้ ง ไดถ้ ูกตอ้ ง ข ย า ย ค ว า ม คิ ด ได้ถูกต้อง แต่ไม่ครบทกุ มจี ำนวนน้อย ย่ อ ย ไ ด้ ไ ม่ ครบทกุ ประเด็น ประเด็น มจี ำนวน ประเดน็ ถู ก ต้ อ ง เชอ่ื มโยงความคิด มากประเดน็ เช่ือมโยงความคิด ไ ม่ เ ชื่ อ ม โ ย ง รวบยอดหลกั เชอ่ื มโยงความคิด รวบยอดหลกั ค ว า ม คิ ด ร ว บ ความคิดรอง รวบยอดหลัก ความคดิ รอง ย อ ด ห ลั ก ความคดิ ย่อยได้ ความคดิ รอง ความคิดย่อย ค ว า ม คิ ด ร อ ง ชดั เจน ความคดิ ย่อยได้ มีสสี วยงาม ค ว า ม คิ ด ย่ อ ย มสี สี วยงาม มีสีสวยงาม ไม่สามารถแยก มีสีไม่สวยงาม ประณีต แยกประเดน็ หลัก ประเด็นหลัก ไ ม่ ส า ม า ร ถ แ ย ก แยกประเด็นหลัก ประเดน็ รอง ประเดน็ รอง ป ร ะ เ ด็ น ห ลั ก ประเดน็ รอง ประเดน็ ย่อยได้ ประเดน็ ยอ่ ย ป ร ะ เ ด็ น ร อ ง ประเด็นยอ่ ยได้ ป ร ะ เ ด็ น ย่ อ ย ชัดเจน ระดบั คะแนน 10 คะแนน คุณภาพดีมาก บนั ทึกหลังการสอน ขอ้ สรปุ หลงั การสอน แผนการจดั การเรยี นรแู้ บบบรู ณาการท่ี 2 หน่วยท่ี 2 รหสั วิชา 20000 -1501 วิชา หน้าทีพ่ ลเมอื งและศีลธรรม สอนครัง้ ท่ี 4-6 ช่อื หน่วย/เร่ือง สังคมไทย ปญั หาสังคมไทย คุณธรรม จริยธรรม และ จำนวน 3 ชวั่ โมง ค่านิยมที่ควรปลูกฝังในสังคมไทย จุดประสงคร์ ายวชิ า สมรรถนะรายวิชา สาระสำคญั พระมหากษัตริย์สังคมที่เป็นสังคมที่มีโครงสร้างแบบหลวมหลวมและยังยึด ขนบธรรมเนียมประเพณีเป็น ผลการเรยี นรูท้ ่คี าดหวัง 1. ร้แู ละเขา้ ใจความหมาย และของสังคมไทย 3. รแู้ ละเข้าใจเก่ียวกบั คุณธรรม จริยธรรม และคา่ นยิ มที่ควรยดึ ถือในสังคมไทย 4. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของผสู้ ำเร็จการศกึ ษา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ท่คี รสู ามารถสังเกตได้ขณะทำการสอนในเร่ือง 1. ความมมี นุษยส์ ัมพันธ์ 2. ความมีวินัย 3. ความรบั ผิดชอบ 4. ความซื่อสัตยส์ จุ รติ 5. ความเชอื่ ม่นั ในตนเอง 6. การประหยัด 7. ความสนใจใฝ่รู้ 8. การละเว้นส่ิงเสพตดิ และการพนนั 9. ความรกั สามัคคี 10. ความกตญั ญูกตเวที 1. สงั คมไทย 2. ปัญหาสังคมไทยและแนวทางแก้ไข 3. คณุ ธรรม จรยิ ธรรม 4. ค่านิยม กจิ กรรมการเรยี นรู้ -ช่ัวโมงที่ 1 สงั คมไทย- ขัน้ นำเข้าสบู่ ทเรียน ๑. นักเรยี นดูโฆษณาเรื่อง “สงั คมไทยมแี ต่เรื่องเข้าใจยาก” จาก https://www.youtube.com/watch?v=kvxwt29dhus จากน้นั ตอบคำถามต่อไปนี้ • นกั เรยี นคดิ ว่าสงั คมไทยเป็นอย่างไร (ข้ึนอยกู่ บั ดลุ ยพนิ จิ ของครู โดยมีแนวคำตอบดงั นีม้ ี จากนัน้ เชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียน มพี น้ื ฐานเป็นสงั คมเกษตรกรรม มีพระพทุ ธศาสนาเป็นศาสนาหลกั สงั คมชนชนั้ ลกั ษณะของสงั คมไทย มโี ครงสร้างหลวมๆ เทิดทนู สถาบนั พระมหากษตั ริย์ ยดึ ขนบธรรมเนียมเป็นหลกั ครูอธบิ ายเพิ่มเตมิ ให้สมบูรณ์ ของภาพจากนนั้ ให้ทายวา่ เป็นลักษณะสำคญั ของสังคมไทยแบบใด (เทิดทูนสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์) 23 45 789 ขน้ั สรุป -ชัว่ โมงท่ี 2 ปัญหาสงั คมไทย และแนวทางการแก้ไข- • ปัญหาสิ่งแวดลอ้ ม 4. ครูอธบิ ายเพ่มิ เตมิ ใหส้ มบรู ณ์ด้วยส่อื การเรียนรู้ Power point ของสำนักพิมพเ์ อมพนั ธ์ -ชว่ั โมงท่ี 3 คุณธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ ม- • หากตอ้ งการให้สงั คมไทยดี ผู้คนมคี วามสขุ ควรปลูกฝงั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านิยมใด ข้นั สอน สื่อและแหล่งการเรียนรู้ หลักฐาน การวดั ผลและการประเมนิ ผล เครือ่ งมือวดั ผล เกณฑ์การประเมนิ ผล ประเมิน กิจกรรมเสนอแนะ เกณฑ์การประเมินการเขยี น Mind Mapping ประเดน็ การประเมนิ 432 1 เขยี นแผนที่ เขยี นแผนที่ เขยี นแผนที่ เขียนแผนที่ความคดิ ตรงประเดน็ ขยายความคิดยอ่ ย ขยายความคิดย่อย ขยายความคิดย่อย ประณีต แยกประเดน็ หลัก ประเด็นหลัก แยกประเด็นหลัก ประเดน็ รอง ประเด็นรอง ประเดน็ รอง ประเด็นยอ่ ยได้ ประเด็นยอ่ ย ประเดน็ ย่อยได้ ชัดเจน เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คะแนน 10 คะแนน คุณภาพดีมาก บนั ทึกหลังการสอน ขอ้ สรุปหลังการสอน แผนการจัดการเรียนรูแ้ บบบูรณาการท่ี 3 หนว่ ยท่ี 3 จดุ ประสงค์รายวิชา 2. ประพฤตปิ ฏบิ ตั ิตนเป็นพลเมืองดีตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ และเปน็ ศาสนิกชนท่ีดีตามหลักธรรมของศาสนาที่ตนนบั ถือ 3. ตระหนักถึงการดำเนินชีวิตทถี่ ูกต้องดงี ามในฐานะศาสนกิ ชนและพลเมืองดี สมรรถนะรายวิชา สาระสำคัญ สังคม ประกอบด้วยความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนษุ ย์ มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม สังคมและวัฒนธรรมเป็น ของคู่กัน เกิดขึ้นและพัฒนาไปพร้อมกัน วัฒนธรรมเปน็ แบบแผนในการดำเนินชวี ิต เป็นเอกลักษณ์ของแต่ ละกลุ่มชาติพันธุ์ ความแตกต่างที่หลากหลายในแตล่ ะภูมิภาคเป็นไปตามสภาพภูมิศาสตร์ การมาอาศัยอยู่ ร่วมกนั ผลการเรียนรูท้ ี่คาดหวงั 1. บอกความหมายและความสำคญั ของวัฒนธรรมได้ 2. อธิบายสาเหตขุ องการเกิดวัฒนธรรมและประเภทของวัฒนธรรมได้ 3. รูแ้ ละเข้าใจเอกลกั ษณ์ของวฒั นธรรมไทย และวฒั นธรรมในภมู ภิ าคตา่ งๆของไทย 4. มกี ารพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ของผู้สำเร็จการศกึ ษา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสังเกตได้ขณะทำการสอนในเรื่อง 1. ความมีมนุษยส์ มั พันธ์ 2. ความมีวินัย 3. ความรับผดิ ชอบ 4. ความซ่ือสัตยส์ จุ ริต 5. ความเชือ่ มั่นในตนเอง 6. การประหยัด 7. ความสนใจใฝ่รู้ 8. การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนัน 9. ความรกั สามัคคี 10. ความกตัญญูกตเวที สาระการเรยี นรู้ 1. ความหมายและความสำคัญของวัฒนธรรม 2. สาเหตกุ ารเกดิ วฒั นธรรม 3. ประเภทของวฒั นธรรม - ช่วั โมงที่ 1 วัฒนธรรม - (ภาพลอยกระทง) จากน้นั เชื่อมโยงข้าสบู่ ทเรียน ขัน้ สอน • สาเหตุของการเกิดวัฒนธรรมคืออะไร (1.สภาพทางภูมศิ าสตร์ 2. การประกอบอาชีพ 3.คติ - ชวั่ โมงท่ี 2 เรอื่ ง วัฒนธรรมในภูมิภาคต่างๆของไทย - ข้นั สอน • ชอื่ ภมู ิภาค พรอ้ มสโลแกนเชญิ ชวนเก๋ๆ ขน้ั สรปุ สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ หลกั ฐาน การวดั ผลและการประเมินผล เคร่ืองมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล ประเมิน กจิ กรรมเสนอแนะ บนั ทกึ หลังการสอน ขอ้ สรปุ หลังการสอน แผนการจัดการเรียนรูแ้ บบบูรณาการท่ี 4 หนว่ ยที่ หนว่ ยที่ 4 พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จุดประสงค์รายวิชา 1. รแู้ ละเข้าใจเก่ียวกับสังคม วฒั นธรรม สิทธิหนา้ ทพี่ ลเมืองดีและหลักธรรมหรอื คำสอนของ 2. ประพฤติปฏบิ ตั ติ นเปน็ พลเมืองดีตามระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมุข 1. แสดงความร้เู ก่ียวกบั สังคม วัฒนธรรม สทิ ธิหนา้ ที่พลเมืองดีและหลักธรรมหรอื คำสอนของ 2. ประพฤตปิ ฏิบัติตนเปน็ พลเมืองดตี ามบรรทดั ฐานทางสังคม ค่านิยมพ้ืนฐานและระบอบ สาระสำคญั ๒๔๗๕ เปน็ การปกครองโดยประชาชน เพอื่ ประชาชน อำนาจอธปิ ไตยจงึ เปน็ ของปวงชนชาวไทย ผลการเรียนรู้ทีค่ าดหวัง 1. อธิบายรปู แบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยได้ 2. อธิบายหลักการสำคัญของการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็น ประมุขได้ 3. เปรยี บเทียบรูปแบบของรัฐได้ 4. สรปุ ฐานะและพระราชอำนาจของพระมหากษตั ริย์ได้ 5. มกี ารพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ของผู้สำเร็จการศกึ ษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ท่คี รูสามารถสังเกตได้ขณะทำการสอนในเร่ือง 1. ความมีมนุษย์สัมพนั ธ์ 2. ความมีวนิ ยั 3. ความรับผดิ ชอบ 4. ความซือ่ สตั ยส์ จุ ริต 5. ความเชื่อม่นั ในตนเอง 6. การประหยัด 7. ความสนใจใฝ่รู้ 8. การละเว้นสิ่งเสพตดิ และการพนนั สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ -ช่ัวโมงท่ี 1 การปกครองระบอบประชาธิปไตย- ขนั้ นำ ทางการเมอื งทคี่ ดั ลอกมาจาก twitter facebook และส่อื social โดยมีประเดน็ ดงั ต่อไปนี้ • ข้อความดงั กลา่ วสะท้อนถงึ เร่ืองใด (การแสดงความคดิ เห็นทางการเมือง) ไมท่ ำให้ผอู้ น่ื เสยี ชอื่ เสยี ง) ทรงเป็นประมุข) -ช่ัวโมงท่ี 2 การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมุข- นกั เรยี นตอบคำถามต่อไปน้ี ข้นั สอน -ชวั่ โมงท่ี 3 ฐานะและพระราชอำนาจของพระมหากษัตรยิ ์- • มผี ้รู บั ตำแหน่งใดบ้างที่ไดเ้ ขา้ ประชมุ รฐั สภา (ส.ส. และส.ว.) เชอ่ื มโยงเขา้ สู่บทเรยี น) ดำรงฐานะเป็นทีเ่ คารพสักการะ ฐานะและพระราชอำนาจพระมหากษัตริย์ ขน้ั สรปุ การวัดผลและการประเมินผล เคร่ืองมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล ประเมิน กจิ กรรมเสนอแนะ บนั ทึกหลังการสอน ข้อสรุปหลงั การสอน แผนการจดั การเรยี นรู้แบบบูรณาการที่ 5 หนว่ ยที่ 5 หน่วยที่ 5 รหสั วิชา 20000-1501 วชิ า หน้าท่พี ลเมืองและศลี ธรรม สอนคร้ังท่ี 12-13 ชือ่ หนว่ ย/เรื่อง สทิ ธิและหน้าที่ของพลเมืองดตี ามระบอบประชาธปิ ไตย จำนวน ๒ ชั่วโมง จดุ ประสงค์รายวิชา 2. ประพฤติปฏิบตั ติ นเป็นพลเมอื งดีตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมขุ และเป็นศาสนิกชนทด่ี ตี ามหลักธรรมของศาสนาท่ีตนนับถือ 3. ตระหนกั ถงึ การดำเนินชีวิตทถ่ี กู ต้องดีงามในฐานะศาสนิกชนและพลเมืองดี 1. แสดงความรเู้ กยี่ วกับสังคม วัฒนธรรม สิทธิหน้าทพ่ี ลเมอื งดีและหลักธรรมหรอื คำสอนของ สาระสำคญั สถานภาพ บทบาท สิทธิ เสรีภาพ และหน้าท่ี โดยยึดหลักกฎหมาย ไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น ผลการเรยี นรทู้ คี่ าดหวัง 1. รแู้ ละเขา้ ใจสิทธขิ องพลเมือง 2. อธบิ ายแนวทางการคุ้มครองสิทธขิ องพลเมือง 3. บอกบทบาท หน้าที่ของเยาวชน ในฐานะพลเมืองของประเทศ 4. มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงคข์ องผสู้ ำเร็จการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ทคี่ รูสามารถสังเกตได้ขณะทำการสอนในเร่ือง 1. ความมีมนุษย์สมั พนั ธ์ 2. ความมวี ินัย 3. ความรับผิดชอบ 4. ความซอื่ สัตย์สุจริต 5. ความเชื่อม่ันในตนเอง 6. การประหยดั 7. ความสนใจใฝร่ ู้ 8. การละเว้นส่งิ เสพตดิ และการพนนั 9. ความรักสามัคคี 10. ความกตัญญกู ตเวที สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ -ช่ัวโมงที่ 1 สิทธแิ ละเสรภี าพของพลเมือง- 1. ให้นักเรียนดูข่าวบุกมัธยมวัดสิงห์ “เปิดนาที"แก๊งงานบวช"ยกพวกบุกโรงเรียนมัธยมวัด สิงห์” ขน้ั สอน • จ้อยโมโหเจือ้ ยจึงหยิบโทรศัพท์เจอ้ื ยปาลงน้ำ (สทิ ธิในทรัพยส์ นิ ) • จ๋ิวไดเ้ รียนหนงั สอื ในโครงการเรยี นฟรี (สิทธใิ นการรบั การศกึ ษาอบรม) • แจ๋วอยากรู้คะแนนสอบของตนจึงขออาจารยเ์ ปิดเผยคะแนนให้ดู (สิทธิที่จะได้รับ • จีสงสัยผลการเลือกตั้งจึงรวบรวมรายชื่อขอให้กกต.ชี้แจง (สิทธิที่จะได้รับข้อมูล • ป้าจุ๊อายเุ กิน ๖๐ ไดร้ ับเบย้ี คนชรา (สทิ ธิทจ่ี ะได้รบั ความชว่ ยเหลือจากรฐั ) • จนั ทรเ์ ขียนความคิดเห็นเก่ยี วกับการเลอื กตั้งลง facebook (เสรีภาพในการแสดง • เจนกบั จอนลงสมัครเปน็ ส.ส. (เสรีภาพในการรวมตัวจัดต้งั พรรคการเมือง) • จุไรไม่ได้รับความเป็นธรรมจากตำรวจจึงรอ้ งเรียน (สิทธิที่บคุ คลสามารถฟ้องร้อง ข้นั สรุป 4. นักเรียนร่วมกันสรุปความหมายของสิทธิและเสรีภาพ จากนั้นร่วมกันคิดวิธีที่จะคุ้มครองสิทธิ -ชว่ั โมงท่ี 2 บทบาท หน้าทขี่ องเยาวชนในฐานะพลเมืองของประเทศ- 1. นักเรียนดูโฆษณาเร่ือง "UNSUNG HERO" [ภาพยนตร์โฆษณา ปี พ.ศ.2557 ] จาก https://www.youtube.com/watch?v=uaWA2GbcnJU จากนน้ั ร่วมกนั อภิปรายในประเดน็ • พลเมืองดี คืออะไร (พลเมืองท่คี ณุ ภาพ มีสว่ นร่วมในการพัฒนาสังคมให้ก้าวหน้า) แล้วเช่ือมโยงเข้าสู่บทเรียน ขนั้ สอน ข้ันสรุป สือ่ และแหล่งการเรียนรู้ หลกั ฐาน การวดั ผลและการประเมินผล เคร่อื งมือวดั ผล เกณฑ์การประเมินผล ประเมินตามสภาพจริง ผลการบันทึกความดีด้วยการนำข้อมูลบันทึกความดีในแต่ละครั้งมาเขียนกราฟแสดงจะเห็น กจิ กรรมเสนอแนะ บนั ทกึ หลังการสอน ข้อสรุปหลังการสอน แผนการจดั การเรยี นรู้แบบบูรณาการที่ 6 หนว่ ยที่ 6 หน่วยที่ 6 รหสั วชิ า 20000-1501 วิชา หนา้ ทพ่ี ลเมอื งและศีลธรรม สอนครั้งท่ี 14-15 ชอ่ื หนว่ ย/เรื่อง พลเมืองดีตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง จำนวน ๒ ช่วั โมง จดุ ประสงคร์ ายวชิ า 2. น้อมนำหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปประยุกต์ใช้ในการพฒั นาตนและการดำเนินชีวิต สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรู้เกยี่ วกบั สังคม วัฒนธรรม สิทธหิ น้าทีพ่ ลเมอื งดีและหลักธรรมหรอื คำสอนของศาสนา สาระสำคญั เจริญก้าวหนา้ ให้กับบ้านเมือง มีความรับผิดชอบ การปฏบิ ตั ิตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงคือวิธีหน่ึง ของการปฏิบตั ติ นเพื่อใหเ้ ปน็ พลเมืองดี ผลการเรยี นร้ทู ีค่ าดหวงั 1. บอกหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรได้ 2. ปฏิบตั หิ น้าทพี่ ลเมอื งดีตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทร มหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตรได้ 3. มีการพัฒนาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพึงประสงคข์ องผู้สำเรจ็ การศกึ ษา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตได้ขณะทำการสอนในเรื่อง 1. ความมีมนุษยส์ ัมพนั ธ์ 2. ความมวี ินัย 3. ความรบั ผดิ ชอบ 4. ความซอ่ื สัตย์สุจริต 5. ความเชือ่ มัน่ ในตนเอง 6. การประหยัด 7. ความสนใจใฝ่รู้ 8. การละเวน้ ส่งิ เสพตดิ และการพนัน 9. ความรักสามัคคี 10. ความกตัญญูกตเวที 1. หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 2. พลเมอื งดตี ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. นักเรยี นร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับปรชั ญาหรือแนวคดิ ของเศรษฐกิจพอเพยี ง เขยี นลงคำถามท้าย 2. นักเรยี นยกตวั อยา่ งคำว่า “พอเพียง” ตามความเข้าใจของตนเอง ขัน้ สอน 1) ผลิตไว้ใช้ เมื่อจะผลิตบางสิ่งบางอย่างควรเริ่มต้นจากการผลิตสำหรับครอบครัวก่อน ให้ 2) ผลติ ไว้ขาย เม่ือผลติ เพยี งพอตอ่ ความต้องการในครอบครวั แล้ว หากผลผลติ ทไ่ี ด้เหลือหรือ 3) ไม่โลภมากจนเบยี ดเบียนผู้อ่ืน ผู้ดำรงชีวติ แบบพอเพียง จะตั้งอยใู่ นความไม่เบียดเบียนแม้ 7. ใช้เทคนิคการอภิปรายเป็นคณะ (Conference) เป็นการชุมนุมอภิปรายระหว่างนักเรียนเพื่อ 8. นักเรียนแบ่งกลุม่ จัดทำแผ่นพับและออกแบบประชาสัมพันธ์ให้ความรูเ้ ร่ือง เศรษฐกิจพอเพียง 9. เปิดโอกาสให้นักเรียนแสดงข้อคิดเห็น ซักถามปัญหาต่าง ๆ เมื่อจบการอภิปราย อาจจะมี 10. นักเรยี นปฏิบัตกิ ิจกรรมดงั นี้ ครอบครวั ข้นั สรปุ และการประยกุ ต์ หลักฐาน การวัดผลและการประเมนิ ผล เครือ่ งมอื วดั ผล 2. แบบประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (โดยครู) ร่วมกันประเมิน เกณฑ์การประเมนิ ผล ประเมิน กจิ กรรมเสนอแนะ แบบประเมินผลการเรยี นรู้ก่อนเรยี น/หลงั เรียน จ ง เ ลื อ ก ค ำ ต อ บ ท่ี ถู ก ต้ อ ง ท่ี สุ ด 1. ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงขอ้ ใดท่เี นน้ มากที่สุด ก. การพงึ่ ตนเองได้ ข. การเดินทางสายกลาง ค. ความสันโดษ ง. ความพอประมาณ จ. ความมีอสิ ระ 2. พลเมืองดีควรปฏบิ ัติตนอย่างไร จึงจะสอดคล้องกับหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมากทีส่ ุด ก. ขยนั ซอื่ สัตย์ ประหยดั ข. ขยนั อดทน มีความเพียรสูง ค. มีความเพียร เมตตากรุณา ซ่ือสตั ย์สุจรติ ง. มคี วามกตัญญู เมตตากรณุ า ซือ่ สตั ย์สจุ รติ จ. ประหยัด อดทน ขยัน 3. เศรษฐกจิ พอเพียงตามแนวพระราชดำรมิ ีลกั ษณะอยา่ งไร ก. พึง่ ตนเองได้ ผลติ เพอื่ พออยู่พอกนิ ข. เป็นการแข่งขันกันผลิต บริโภค และซื้อขาย ค. อาศยั หลักการสนั โดษ ไม่ย่งุ เกี่ยวกับภายนอก ง. ผลผลิตท่ไี ด้เป็นของส่วนกลาง โดยนำมาแจกจา่ ยอย่างท่ัวถงึ กัน จ. มีความประหยัด ผลผลติ สามารถขายได้ 4. พลเมอื งดีควรปฏบิ ัติตนตามหลักภาษิตข้อใดทีส่ อดคล้องกบั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ก. ตัวใครตวั มนั ข. มวี นิ ยั ใฝค่ วามรู้ เชดิ ชูคุณธรรม ค. พึง่ จมูกคนอน่ื หายใจ ง. ปลกู เรอื นพอตวั หวหี ัวพอเกล้า จ. ตนเป็นท่พี ึง่ แห่งตน 5. การใช้ “สติ” ไม่ตืน่ ตัวตามกระแส แตต่ ้งั สติ รู้ตัวอย่เู สมอ เรยี กว่าอะไร ก. ความไม่ประมาท ข. มชั ฌิมาปฏปิ ทา ค. โภชเนมัตตญั ญตุ า ง. อวิหงิ สา จ. การร้จู กั ประมาณตน 6. “การตัดสินใจซื้อสิ่งของเพื่อใช้สอยโดยคำนึงว่าตนมีสิ่งของที่จะซื้อนั้นอยู่แล้วหรือยัง มีเงินพอที่จะซ้ือ |