ขวดที่ใส่ทรายทั้ง 2 ใบมีมวลแตกต่างกันหรือไม่อย่างไร

249 คู่มอื ครูรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลงั งาน ทกั ษะกระบวนการ รายการประเมนิ ดี (3) ระดับความสามารถ ควรปรับปรุง (1) ทางวิทยาศาสตร์ พอใช้ (2) S7 การพยากรณ์ พยากรณ์เส้นทาง สามารถพยากรณเ์ ส้นทาง สามารถพยากรณ์เสน้ ทาง ไมส่ ามารถพยากรณ์ S8 การลงความเห็น จากข้อมูล การเคลอื่ นที่ของ การเคล่อื นทขี่ องวัตถแุ ตล่ ะ การเคลอื่ นทข่ี องวตั ถแุ ตล่ ะ เสน้ ทางการเคลือ่ นที่ วตั ถแุ ต่ละชนดิ เม่ือ ชนิดเม่อื ถูกปล่อยจากมือ ชนดิ เมื่อถูกปล่อยจากมือ จน ของวัตถุแต่ละชนิด ถูกปลอ่ ยจากมือ จนหยดุ เคล่อื นที่ โดยอาศัย หยดุ เคล่ือนทจี่ ากการชแี นะ เมอ่ื ถูกปลอ่ ยจากมือ จนหยดุ เคล่ือนท่ี ขอ้ มลู หรือความรทู้ ี่มอี ยู่ ได้ ของครูและผู้อ่ืน จนหยุดเคลื่อนที่ ด้วยตวั เอง แมว้ ่าจะไดร้ ับคา ชแี นะจากครหู รือ ผอู้ ่นื ลงความเห็นจาก สามารถลงความเหน็ จาก สามารถลงความเหน็ จาก ไมส่ ามารถลง ข้อมูลได้ว่ามีแรง ข้อมูลไดว้ า่ มีแรงโน้มถ่วง ขอ้ มลู ไดว้ า่ มีแรงโนม้ ถ่วงของ ความเห็นจากข้อมลู โนม้ ถว่ งของโลก ของโลกกระทาตอ่ วัตถุที่ โลกกระทาต่อวัตถุทปี่ ล่อย ไดว้ า่ มแี รงโน้มถ่วง กระทาตอ่ วตั ถุที่ ปล่อยจากมือ ทาใหว้ ตั ถุ จากมือ ทาให้วตั ถุ ของโลกกระทาต่อ ปลอ่ ยจากมือ ทา เปลย่ี นแปลงการเคล่ือนที่ เปล่ียนแปลงการเคล่ือนท่ี วตั ถุท่ีปล่อยจากมือ ใหว้ ัตถุ จากหยุดน่ิงในมือ เป็น จากหยดุ นงิ่ ในมือ เป็น ทาใหว้ ตั ถุ เปลี่ยนแปลงการ เคล่ือนทลี่ งสู่พืนได้อย่าง เคลอื่ นทลี่ งสู่พืนได้อยา่ ง เปลีย่ นแปลงการ เคลือ่ นทจ่ี ากหยุด ถูกต้อง ไดด้ ้วยตนเอง ถูกต้อง จากการชีแนะของ เคลือ่ นท่ีจากหยุดนงิ่ น่ิงในมอื เป็น ครหู รอื ผูอ้ ่นื ในมอื เป็นเคล่ือนท่ี เคลอ่ื นทลี่ งสู่พืนได้ ลงสพู่ ืนได้ แมว้ า่ จะ ไดร้ บั คาชแี นะจาก ครหู รอื ผอู้ ืน่  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คู่มอื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลงั งาน 250 ตาราง แสดงการวิเคราะห์ทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ตามระดับความสามารถของนกั เรียน โดยอาจใชเ้ กณฑก์ ารประเมิน ดงั นี ทักษะแห่งศตวรรษ รายการประเมิน ดี (3) ระดบั ความสามารถ ควรปรบั ปรุง (1) ที่ 21 สามารถนาเสนอขอ้ มูล พอใช้ (2) ไมส่ ามารถนาเสนอขอ้ มูล จากการสงั เกตและ จากการสังเกตและอภปิ ราย C4 การส่อื สาร นาเสนอข้อมูลจาก อภิปรายเกี่ยวกบั สามารถนาเสนอข้อมูล เกีย่ วกบั เส้นทางการ เส้นทางการเคลื่อนท่ี จากการสงั เกตและ เคลื่อนที่ของวัตถุแตล่ ะชนิด การสงั เกตและ ของวัตถุแต่ละชนดิ เม่ือ อภปิ รายเกยี่ วกบั เมอ่ื ถูกปลอ่ ยจากมือ จน ถูกปล่อยจากมือ จน เส้นทางการเคลื่อนท่ีของ วตั ถหุ ยดุ นิง่ เพ่ือใหผ้ อู้ ืน่ อภิปรายเกีย่ วกบั วตั ถหุ ยุดนงิ่ เพ่ือใหผ้ ูอ้ ่ืน วัตถแุ ต่ละชนิดเมื่อถูก เข้าใจได้ แม้วา่ จะได้รบั คา เข้าใจได้ดว้ ยตนเอง ปลอ่ ยจากมือ จนวัตถุ ชีแนะจากครหู รือผู้อ่ืน เส้นทางการ หยุดนง่ิ เพื่อให้ผู้อ่นื เขา้ ใจ สามารถทางานรว่ มกับ ได้ โดยอาศยั การชแี นะ ไม่สามารถทางานรว่ มกับ เคล่อื นท่ีของวตั ถุแต่ ผอู้ ื่นในการสงั เกตสังเกต จากครูหรือผู้อน่ื ผู้อนื่ ไดต้ ลอดเวลาที่ทา เส้นทางการเคลอ่ื นที่ สามารถทางานร่วมกับ กิจกรรม ละชนดิ เมอื่ ถกู ของวตั ถุแตล่ ะชนิดเม่ือ ผู้อ่ืนในการสังเกตสังเกต ถกู ปล่อยจากมือ จน เสน้ ทางการเคล่ือนท่ีของ ปล่อยจากมือ จน วัตถุหยุดนง่ิ รวมทงั วัตถแุ ตล่ ะชนิดเมื่อถูก ยอมรบั ความคิดเห็นของ ปลอ่ ยจากมือ จนวัตถุ วัตถหุ ยดุ นิง่ เพ่ือให้ ผอู้ ่ืนตังแต่เรมิ่ ต้นจน หยดุ น่งิ รวมทงั ยอมรบั สาเร็จ ความคดิ เห็นของผู้อ่ืน ผอู้ ื่นเข้าใจ บางช่วงเวลาที่ทา กิจกรรม C5 ความรว่ มมือ ทางานร่วมกับผู้อืน่ ในการสงั เกต เส้นทางการ เคล่อื นท่ีของวัตถแุ ต่ ละชนดิ เม่ือถูก ปล่อยจากมือ จน วตั ถุหยดุ นง่ิ รวมทงั ยอมรับความ คิดเหน็ ของผ้อู ่นื สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 

251 คมู่ อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลงั งาน กจิ กรรมที่ 1.2 มวลและน้าหนกั สัมพันธก์ นั อย่างไร กิจกรรมนนี ักเรยี นจะได้สงั เกตและใช้เคร่ือง ชงั่ สปรงิ ในการช่ังนาหนกั ของวัตถซุ ่ึงมมี วลตา่ งกนั เพื่อ บอกความสมั พันธ์ระหวา่ งมวลและนาหนกั โดยเม่ือ วัตถุท่ีมมี วลมาก จะมีนาหนักมาก เวลา 2 ชว่ั โมง จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. สังเกตและบอกความสัมพันธ์ระหว่างมวลและ นาหนกั ของวัตถุ 2. ใช้เครอื่ งช่งั สปรงิ เพ่อื ช่งั นาหนักของวตั ถุ วสั ดุ อุปกรณ์สาหรบั ทากจิ กรรม สง่ิ ทคี่ รตู ้องเตรียม/กล่มุ 1. ถงุ ทรายขนาด 500 กรมั 2 ถุง 2. เคร่อื งชงั่ สปริง 1 เครือ่ ง สอ่ื การเรียนรู้และแหลง่ เรียนรู้ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 1. หนังสือเรียน ป.4 เลม่ 1 หน้า 111-113 2. แบบบนั ทึกกจิ กรรม ป.4 เลม่ 1 หนา้ 96-100 S1 การสงั เกต 3. ตัวอย่างวีดิทัศน์ปฏิบัติการวิทยาศาสตร์เร่ืองมวลและ S2 การวดั S6 การจดั กระทาและส่ือความหมายข้อมูล นาหนกั เป็นอยา่ งไร http://ipst.me/8054 S7 การพยากรณ์ S8 การลงความเห็นจากข้อมูล S13 การตคี วามหมายขอ้ มูลและลงขอ้ สรปุ ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 C4 การสอื่ สาร C5 ความรว่ มมอื  สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลงั งาน 252 แนวการจดั การเรียนรู้ ค รู รั บ ฟั ง เ ห ตุ ผ ล ข อ ง นักเรียนเป็นสาคัญ ครูยังไม่ 1. ครูทบทวนความรูท้ ่ีเรียนมา โดยอาจใชค้ าถามดังนี เฉลยคาตอบใด ๆ แต่ชักชวนให้ 1.1 มวลและนาหนักต่างกันอย่างไร (มวลเป็นปริมาณเนือสสารที่ หาคาตอบท่ีถูกต้องจากกิจกรรม รวมกันเป็นวัตถุ ส่วนนาหนักเป็นแรงโน้มถ่วงของโลกที่กระทาต่อ ต่าง ๆ ในบทเรียนี วัตถุ) 1.2 มวลมีหน่วยอะไร และนาหนักมีหน่วยอะไร (มวลมีหน่วยเป็นกรัม ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เตมิ หรือกโิ ลกรัม และนาหนกั มหี น่วยเปน็ นิวตนั ) วิธีช่วยใหน้ กั เรียนสามารถสังเกตเห็นหมดุ ท่ี 2. ครูนาวัตถุหลาย ๆ ชนิด เช่น หนังสือ หรือกล่องใส่ดินสอให้นักเรียน ชบี อกคา่ แรงของเคร่ืองชัง่ สปรงิ ได้ชดั เจน สังเกตหรือยก เพื่อให้นักเรียนคาดคะเนนาหนักของวัตถุว่าเป็นเท่าไร ขณะท่ีครูนาอภิปรายวธิ ีการอ่านคา่ ของแรง นักเรียนอาจตอบได้หลากหลาย ครูอาจนาอภิปรายว่าการยกวัตถุโดย จากเครื่องชั่งสปริงหน้าชันเรยี นอาจทาไดโ้ ดย อาศัยเพียงความรู้สึกของแต่ละคนนันจะทาให้คาดคะเนค่านาหนักท่ี ใชไ้ มจ้ มิ ฟันเล็ก ๆ ทาดว้ ยสแี ดง ตดั ใหย้ าวจาก แตกต่างกนั ) ปลายดา้ นแหลมประมาณ 1-2 เซนติเมตร แล้วนามายดึ ติดกบั รอยบากกึ่งกลางของหมุด 3. ครูซกั ถามวา่ เราจะมวี ิธีหานาหนักของวัตถุได้อย่างไร (นักเรียนอาจตอบ ดงั รปู ตามความเข้าใจของตนเอง เช่น ใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ในการช่ัง นาหนัก) 4. นักเรียน อ่านชื่อกิจกรรม และทาเป็นคิดเป็น ในหนังสือเรียน หน้า 111 ครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนเกีย่ วกับจุดประสงค์ในการทา กจิ กรรม โดยอาจใชค้ าถามดงั นี 4.1 กิจกรรมนีนักเรียนจะได้เรียนเก่ียวกับเร่ืองอะไร (การหา ความสัมพันธ์ระหว่างมวลและนาหนักของวัตถุโดยใช้เครื่อง ช่ัง สปริง) 4.2 นกั เรยี นจะไดเ้ รียนเรือ่ งนดี ้วยวิธใี ด (การสงั เกต) 4.3 เมื่อเรียนแล้วนักเรียนจะทาอะไรได้ (บอกความสัมพันธ์ระหว่าง มวลและนาหนักของวัตถุ และใช้เครื่องช่ังสปริงหาค่านาหนักของ วัตถไุ ด้) นักเรียนบันทกึ จุดประสงค์ลงในแบบบนั ทึกกจิ กรรมหนา้ 96 5. นักเรียนอ่านส่ิงท่ีต้องใช้ในการทากิจกรรม ในหนังสือเรียนหน้า 111 ซึ่งครูอาจเตรียมวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้เพื่อแสดงให้นักเรียนดูทีละอย่าง พร้อมกับให้นักเรียนบอกช่ือวัสดุอุปกรณ์และวิธีใช้อุปกรณ์ โดยครูให้ คาแนะนาเพ่มิ เตมิ ในกรณีท่ีนกั เรียนไม่รู้จกั วัสดุอุปกรณ์ ครูควรบอกชื่อ และแนะนาวิธีใช้วัสดุอุปกรณ์นัน ๆ เช่น ในกิจกรรมนีครูควรแนะนาให้ นักเรียนรูจ้ ักถุงทรายและเครอ่ื งช่งั สปรงิ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 

253 ค่มู อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลงั งาน 6. นกั เรยี นอา่ นทาอย่างไรทลี ะข้อ โดยครูอาจใช้วิธีการอ่านท่ีเหมาะสมกับ ข้อเสนอแนะเพม่ิ เติม ความสามารถของนักเรียน จากนันครูตรวจสอบความเข้าใจเกี่ยวกับ ขันตอนการทากิจกรรมทีละขันและอาจเขียนสรุปเป็นลาดับขันตอน 1. หลังจากอภิปรายวิธีการใช้เคร่ือง สันๆ บนกระดาน ชั่งสปริงแล้ว ครูอาจสุ่มนักเรียนมา ส า ธิ ต ก า ร ใ ช้ แ ล ะ อ่ า น ค่ า เ พื่ อ 7. เม่ือนักเรียนเข้าใจวิธีการทากิจกรรมในทาอย่างไรแล้ว นักเรียนจะได้ ตรวจสอบว่านักเรียนทุกคนเข้าใจ ปฏบิ ตั ติ ามขันตอน ดังนี วธิ กี ารใชอ้ ย่างถกู ต้อง 7.1 สังเกตลักษณะของเครื่องช่ังสปริงอย่างละเอียด (S1) และวาดรูป เพื่อบนั ทึกผล (S6) 2. ครูไม่ควรแจกอุปกรณ์ทังหมดให้แก่ 7.2 ร่วมกันอภิปรายวิธีการใช้เคร่ืองชั่งสปริงด้วยตนเอง (C5) ถ้า นักเรียน เพราะนักเรียนอาจทา นกั เรียนยังไม่สามารถบอกวิธีการใช้เคร่ืองชั่งสปริงได้ครบถ้วน ครู กิจกรรมขา้ มขันตอน ครูควรกาหนด ให้คาแนะนาเพม่ิ เตมิ กบั นกั เรยี น กติกาให้แต่ละกลุ่มมารับอุปกรณ์ 7.3 ออกแรงดงึ ตะขอเกี่ยวของเครื่องช่ังสปริงจานวน 3 ครัง สังเกตค่า ทีละอย่างตามลาดับคือ เครื่องช่ัง ของแรงที่อา่ นไดจ้ ากการดึงแต่ละครัง (S1) สปริง ถุงทราย 1 ถุง และหลังจาก 7.4 นาถงุ ทราย 1 ถงุ แขวนกบั ขอเกยี่ วของเครื่องช่ังสปริงเมื่อถุงทราย นันรับถุงทรายเพ่ิมอีก 1 ถุง และ อยูน่ ิง่ อ่านค่าของแรง บันทึกผล (S2) ควรให้นักเรียนได้พยากรณ์ก่อน 7.5 พยากรณ์และบันทึกค่าของแรงเมื่อแขวนถุงทราย 2 ถุง กับขอเกี่ยว เร่ิมทากิจกรรม ของเครื่องชง่ั สปริง (S7) 7.6 นาถงุ ทราย 2 ถุง แขวนกับขอเกีย่ วของเครื่องชั่งสปริงเมื่อถุงทราย 3. ครูควรใช้กระดาษหรือเทปกาวปิด อย่นู ่งิ อา่ นคา่ ของแรง บนั ทกึ ผล (S2) สเกลด้านที่เป็นหน่วยกรัมไว้ก่อน 7.7 ลงความเห็นจากข้อมูลเก่ียวกับจานวนถุงทรายและมวลของถุง เพื่อไม่ให้นักเรียนเห็นสเกลด้านนี ทราย (S8) ป้องกันการเกิดความสับสนในการ 7.8 ลงข้อสรุปเพื่อเช่ือมโยงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมวลและ อา่ นค่าของแรงท่ีมีหน่วยเปน็ นวิ ตนั นาหนกั 7.9 นาเสนอผลการทากจิ กรรมในชันเรยี น (C4) 8. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการทากิจกรรม โดยใช้คาถาม ดังตอ่ ไปนี 8.1 จากการสังเกต เครื่องชั่งสปริงมีลักษณะอย่างไร (เครื่องช่ังสปริงมี ลกั ษณะเป็นรปู ทรงกระบอก) 8.2 เคร่ืองชั่งสปริงมีส่วนประกอบอะไรบ้าง (เครื่องชั่งสปริง ประกอบด้วยตัวกระบอกเคร่ืองชั่งท่ีมีขีดสเกล 2 ด้าน ด้านหน่ึงมี หน่วยเป็นกรัมและอีกด้านหนึ่งมีหน่วยเป็นนิวตัน มีหูจับด้านบน และมีนอตหมุนด้านบนของกระบอก ด้านล่างของกระบอกมี  สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คูม่ อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 แรงและพลงั งาน 254 ขอเกี่ยวยื่นออกมา ขอเก่ียวยึดกับสปริงท่ีอยู่ด้านในของกระบอก แรงที่เครอื่ งชั่งสปริงดึงถุงทราย และมีหมดุ สเี งินอยูร่ ะหวา่ งกระบอก สามารถเล่อื นไปมาได)้ 8.3 เม่ือออกแรงในการดึงขอเกี่ยวของเคร่ืองชั่งสปริงเกิดอะไรขึนกับ แรงโนม้ ถ่วงของโลกทก่ี ระทาตอ่ เคร่ืองชั่งสปริง (สปริงยืด โดยหมุดที่ติดกับสปริงจะเล่ือนลงมา ถงุ ทราย หรอื นาหนกั ของถุงทราย ด้านลา่ งชีสเกลอา่ นคา่ ของแรง) 8.4 เม่ือออกแรงในการดึงขอเก่ียวของเครื่องชั่งสปริงให้มากขึน จะ เกิดอะไรขึนกับเครื่องช่ังสปริง (สปริงยืดมากขึน หมุดจะเล่ือนลง มาด้านล่างมากขึน ค่าตัวเลขที่อ่านไดก้ ็จะมากขึน) 8.5 ค่าท่ีอ่านได้จากเครื่องช่ังสปริงคือค่าของแรงอะไร (แรงที่ถุงทราย ดึงเครอ่ื งช่งั สปรงิ หรือนาหนักของถงุ ทราย) 8.6 ค่าของแรงท่ีอ่านได้จากเคร่ืองช่ังสปริงเม่ือแขวนถุงทราย 2 ถุง เทยี บกับเมอ่ื แขวนถุงทราย 1 ถงุ แตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร (เมื่อ แขวนถุงทราย 2 ถุง ค่าของแรงที่อ่านได้จะมากกว่าเม่ือแขวน ถงุ ทราย 1 ถงุ โดยมากกว่าเท่ากบั 4.9 นิวตัน) 8.7 ถุงทราย 2 ถุง มีมวลเท่าใดและมีมวลมากกว่าถุงทราย 1 ถุง เท่าใด (ถุงทราย 2 ถุง มีมวล 500 x 2 = 1,000 กรัม ดังนันถุง ทราย 2 ถงุ มีมวลมากกว่า ถงุ ทราย 1 ถุง เทา่ กบั 500 กรัม) 9. ครูและนักเรียนรว่ มเช่อื มโยงส่ิงทไ่ี ด้เรียนรู้จากกิจกรรมเพื่อลงความเห็น ว่าเคร่ืองชั่งสปริงเป็นอุปกรณ์ท่ีใช้วัดแรงที่กระทาต่อเครื่องช่ังและ สามารถวัดนาหนกั ของวตั ถุได้ มวลและนาหนักสัมพันธ์กัน โดยเมื่อเพิ่ม มวลของถุงทรายให้มากขึน ค่านาหนักท่ีอ่านได้จะมากขึนด้วย และลง ขอ้ สรุปว่าวตั ถทุ ีม่ มี วลมาก จะมนี าหนักมาก 10.ครูนาวัตถุท่ีเตรียมมาให้นักเรียนคาดคะเนนาหนักเมื่อช่วงต้นช่ัวโมง เรียน มาชั่งด้วยเครื่องช่ังสปริง และให้อ่านค่านาหนักว่าเป็นไปตามท่ี นกั เรยี นคาดคะเนไวห้ รอื ไม่ 11.ครูให้ความรเู้ พิ่มเติมวา่ แรงทถ่ี ุงทรายดึงเครอ่ื งชงั่ สปริงจะเท่ากับนาหนัก ของถุงทราย หรือแรงโน้มถ่วงของโลกที่กระทาต่อถุงทรายและวิธีอ่าน คา่ นาหนกั ของถงุ ทรายท่ถี ูกต้องทาโดยแขวนถุงทรายให้อยู่น่ิงในแนวด่ิง ครูเขยี นแผนภาพบนกระดานแสดงแรงโน้มถ่วงของโลกที่กระทาต่อ ถุง ทรายและแรงท่ีเคร่อื งช่งั สปริงดึงถงุ ทราย ดังรูป 12.นักเรียนร่วมกันอภิปรายคาตอบใน ฉันรู้อะไร โดยครูอาจเพิ่มเติม คาถามในการอภิปรายเพ่ือให้ไดแ้ นวคาตอบที่ถกู ต้อง สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

255 คมู่ ือครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 แรงและพลงั งาน 13.นักเรียนสรุปส่ิงที่ได้เรียนรู้ในกิจกรรมนี จากนันนักเรียนอ่านสิ่งท่ีได้ เรยี นรู้ และเปรยี บเทยี บกบั ข้อสรุปของตนเอง 14.นักเรียนตังคาถามในอยากรู้อีกว่า โดยครูกระตุ้นให้นักเรียนตังคาถาม ในเร่ืองท่ีนักเรียนสงสัยหรืออยากรู้เพ่ิมเติมจากบทเรียนและควรเป็น คาถามท่ีพัฒนาความคิดระดับสูง จากนันครูสุ่มนักเรียน 2-3 คน ให้ นาเสนอคาถามของตนเองหนา้ ชันเรยี น 15.นักเรียนอ่านความรู้เพ่ิมเติมใน เกร็ดน่ารู้ ครูแนะให้นักเรียนใช้ แอพลิเคชันสาหรับการสังเกตภาพสื่อเสริมเพิ่มความรู้ (AR) เก่ียวกับ ลกั ษณะ รปู ทรงของโลกในหนังสือเรียน หน้า 114 และร่วมกันอภิปราย เกี่ยวกับค่าของแรงโน้มถ่วงของโลกที่ตาแหน่งบริเวณเส้นศูนย์สูตรและ บริเวณขัวโลกซ่ึงแตกต่างกัน ทาให้นาหนักของวัตถุอันเดียวกันที่ช่ังใน สองบริเวณนัน มีคา่ แตกต่างกันด้วย 16.ครูนาอภิปรายเพื่อให้นักเรียนทบทวนว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 อะไรบ้างและในขันตอนใดบ้าง แล้วบนั ทกึ ในแบบบนั ทึกกจิ กรรมหน้า 100 การเตรยี มตวั ล่วงหนา้ สาหรับครู เพือ่ จดั การเรยี นร้ใู นครง้ั ถดั ไป ในครังถัดไป นักเรียนจะไดท้ ากิจกรรมที่ 1.3 มวลมีผลต่อการเปลย่ี นแปลงการเคล่ือนท่ีอย่างไร โดยการสงั เกตการเปล่ียนแปลงการเคลอื่ นท่ขี องขวดบรรจทุ รายที่มมี วลตา่ งกัน ในขันนาเข้าสู่บทเรียน ครูทาชุดสาธิตโดยบรรจุทรายลงในขวดพลาสติกปิดทึบท่ีมีลักษณะ เหมอื นกนั ทงั 2 ใบขวดใบหน่งึ บรรจทุ รายเต็มขวด และอีกใบหนึ่งบรรจุทรายเพียง 1 ใน 4 ของขวด จากนันปิดฝาขวด ผูกขวดไว้กับไม้เมตรให้ขวดทังสองใบห่างกันพอประมาณ นาไม้เมตรไปพาด ระหว่างโต๊ะหรือเก้าอีในตาแหน่งท่ีนักเรียน ทังชันมองเห็น เพื่อให้ครูนาอภิปรายสาหรับตรวจสอบ ความรเู้ ดมิ ของนักเรยี น  สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คมู่ ือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลังงาน 256 ความรู้เพิ่มเติมสาหรับครู วิธีการใช้และอ่านค่าของแรงบนเครื่องชั่งสปริงท่ีถูกต้อง ให้จับที่หูจับด้านบน ส่วนการอ่านค่าของแรง จะทาได้เม่ือหมุดหยุดนิ่ง แล้วมองตรงรอยบากกึ่งกลางของหมุดท่ีระดับสายตาว่าตรงกับขีดบอกค่าที่เท่าใด การอ่านค่าของแรงอาจจะคลาดเคล่ือนได้ถ้าระดับสายตาของผู้สังเกตอยู่ต่าหรือสูงกว่าหมุด นอกจากนีถ้า เครื่องช่ังสปริงบางเครื่องมีค่าเร่ิมต้นไม่ตรงกับค่าศูนย์ สามารถปรับระดับให้ตรงที่ขีดศูนย์ได้ โดยการหมุน นอตท่ีอยดู่ า้ นบนของกระบอกเครอ่ื งช่งั เพ่ือปรบั ใหห้ มุดตรงท่ีขดี ศนู ย์ การอ่านค่านาหนักของวัตถุหรือแรงท่ีโลกดึงดูดวัตถุ เม่ือแขวนวัตถุไว้กับเครื่องช่ังสปริงจะต้อง สงั เกตทีข่ ดี สเกลหน่วยนิวตันบนเครื่องช่ังสปริง ซ่ึงแบ่งค่าไว้ตังแต่ 1-10 นิวตัน นอกจากขีดสเกลจะแสดง ค่าของแรงแลว้ เครื่องชงั่ สปริงยังมขี ีดสเกลหน่วยกรัม ที่แสดงค่าของมวล ซ่งึ แบ่งค่าไว้ตังแต่ 0-1,000 กรัม หรอื 1 กโิ ลกรัมอกี ด้วย เนือ่ งจากนาหนักและมวลมคี วามสัมพนั ธก์ ัน จงึ สามารถเทยี บเคียงระหว่างนาหนัก และมวลของวัตถุได้ เคร่ืองช่ังสปริงจะยืดออกเมื่อมีแรงมาดึง เราสามารถอ่านค่าของแรงท่ีใช้ดึงได้จากสเกล ในกรณีท่ีนา วัตถุมาแขวนไว้กับเคร่ืองชั่งสปริง ค่าของแรงที่อ่านได้จากเครื่องช่ังสปริงคือแรงที่วัตถุดึงเครื่องชั่งสปริง ซ่ึง เทา่ กับนาหนักของวตั ถุ เช่น นาวัตถหุ นัก 8 นวิ ตัน มาแขวนไว้กับเคร่ืองชั่งสปริง เข็มสเกลจะชีที่เลข 8 นิวตัน กรณีนคี ่าทอ่ี ่านได้จากเคร่ืองชง่ั สปรงิ เทา่ กับนาหนักของวัตถุซง่ึ เป็นแรงโนม้ ถว่ งของโลกท่ีกระทาตอ่ วัตถุ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 

257 คมู่ อื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลงั งาน ความรเู้ พิ่มเตมิ สาหรบั ครู (ตอ่ ) ถา้ ออกแรงพยงุ วัตถุขึนเล็กนอ้ ย ค่าท่อี า่ นได้จากเครื่องชั่งสปรงิ จะลดลง ในขณะที่แรงโน้มถ่วงของโลกท่ี กระทาต่อวัตถุมีค่าคงเดิม นาหนักของวัตถุก็จะมีค่าคงเดิมด้วย แต่ค่าที่อ่านได้จากเคร่ืองช่ังสปริงจะลดลง แสดงวา่ ค่าท่อี า่ นได้จากเครื่องชง่ั ในกรณนี จี ะไมเ่ ท่ากบั นาหนกั ของวัตถุ และถา้ ออกแรงดึงวัตถุให้เล่ือนลง ค่าที่ อ่านได้จากเครื่องช่ังสปริงจะเพิ่มขึน ค่าท่ีอ่านได้นันก็จะไม่เท่ากับนาหนักของวัตถุ จึงสรุปได้ว่า ค่าที่อ่านได้ จากเคร่ืองชั่งสปริงจะเท่ากับนาหนักของวัตถุ เฉพาะในกรณีท่ีแขวนวัตถุให้อยู่น่ิง โดยไม่มีแรงอ่ืนมาเก่ียวข้อง เทา่ นัน สาหรับเคร่ืองช่ังสองแขนซ่ึงอาจเห็นได้ตามร้านขายทองเป็นเครื่องชั่งสาหรับช่ังมวลของวัตถุโดย เปรียบเทียบกับมวลมาตรฐาน โดยใช้หลักการท่ีว่า ถ้ามวลบนจานทังสองข้างของเครื่องช่ังมีค่าเท่ากัน แขนของเครอ่ื งชั่งจะอย่ใู นแนวระดับ ประเดน็ เร่ืองมวล (mass) และนาหนัก (weight) ถือเปน็ ประเดน็ สาคญั ท่ีมักพบความเข้าใจ คลาดเคลื่อนเป็นอยา่ งมาก สาเหตุนนั อาจมาจากความคนุ้ เคยในชีวติ ประจาวนั ซ่งึ เรามักใช้แต่คาว่านาหนัก เชน่ เมื่อไปซือของทต่ี ลาด ไม่วา่ จะเป็นผกั หรอื ผลไม้ ขา้ งกลอ่ งหรอื บรรจุภณั ฑจ์ ะบอกนาหนักของสนิ ค้าหรือ การชงั่ นาหนักรา่ งกาย ซง่ึ ไม่ปรากฏคาว่ามวลในชวี ติ ประจาวันเลย จงึ ทาใหม้ กี ารใชค้ าวา่ “นาหนกั ” แทน คาวา่ “มวล” เสมอ ทังท่มี วลและนาหนกั ไมใ่ ช่สิ่งเดยี วกัน ต่างกนั ทังความหมาย และหน่วยที่ใชก้ ็ต่างกนั เราแต่อาจจะไม่ ชนิ ที่จะพูดถงึ มวล เพราะในชีวิตประจาวันเรานันใช้แต่คาว่านาหนกั และในชวี ิตประจาวนั กจ็ ะใช้หนว่ ยของ นาหนักเป็นกโิ ลกรมั ดว้ ย ในทางวิทยาศาสตร์นันถือว่าใช้หน่วยไมถ่ ูกตอ้ ง แต่สถานการณใ์ นชีวติ จริง เมอื่ เวลา ซือของตา่ ง ๆ เชน่ เนือสัตว์ ทผี่ บู้ รโิ ภคต้องการคอื ปริมาณเนือทงั หมดของเนือสตั วห์ รอื มวลของเนือสตั วน์ นั ซึง่ มหี น่วยเป็นกิโลกรัม แต่การใช้ความสมั พนั ธ์ระหว่างมวลและนาหนกั ทาให้เราสามารถช่งั นาหนกั หรอื แรงโน้มถว่ งท่ีกระทาต่อเนือสัตว์ แล้วเทยี บค่ากลบั เปน็ มวลในหน่วยกโิ ลกรมั ได้  สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คู่มอื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลังงาน 258 แนวคาตอบในแบบบนั ทึกกจิ กรรม 1. สังเกตและบอกความสัมพันธ์ระหว่างมวลและน้าหนกั ของวัตถุ 2. ใชเ้ คร่ืองช่ังสปริงเพอ่ื วัดน้าหนักของวัตถุ รปู ท่วี าดควรมหี ูจบั ดา้ นบน ขีดสเกลบอกหน่วยกรมั และนวิ ตัน มีหมุดสีเงิน สามารถเลอ่ื นขึ้นลงได้ มีขอเกยี่ วสาหรบั เกีย่ ววตั ถุด้านล่าง สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 

259 คมู่ อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลงั งาน (ขึน้ อย่กู ับแรงทน่ี กั เรยี นดึง) (ขนึ้ อย่กู บั แรงทน่ี ักเรียนดึง) (ขึ้นอยกู่ ับแรงที่นักเรียนดึง) (ขน้ึ อย่กู บั การพยากรณ์) 4.9 หรือ 5 4.9 9.8 หรอื 10 4.9  สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ค่มู อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 แรงและพลงั งาน 260 เครอื่ งชงั่ สปริงใช้วัดคา่ ของแรงท่ใี ช้ดึง เม่ือดึงเคร่อื งชง่ั สปริงให้ยดื มากขึ้นเรื่อย ๆ คา่ ของแรงท่ีอ่านไดจ้ ากเครอื่ งชั่งสปรงิ จะแตกต่างกัน เมอ่ื ดึงเครือ่ งชง่ั สปริงให้ยดื มากขึน้ หมดุ ของเครือ่ งช่ังจะเลื่อนลงมาก ทาให้อ่านค่าแรงได้มากขึน้ คา่ ที่อา่ นได้บนถุงทราย 1 ถุง มคี า่ 500 กรมั เปน็ คา่ มวลของถุงทราย ค่าท่ีอา่ นเม่อื แขวนถุงทรายไวน้ ิ่ง ๆ เปน็ คา่ ของแรงโน้มถ่วงของโลกที่กระทาต่อ ถุงทรายหรือนา้ หนักของถุงทราย เม่อื เพิม่ มวลของถุงทรายให้มากขึน้ คา่ น้าหนักทีอ่ ่านได้จะมคี ่ามากข้ึน เมอ่ื ออกแรงดงึ ขอเกย่ี วของเครือ่ งชัง่ สปรงิ มากขน้ึ ค่าแรงทีอ่ ่านไดจ้ ะมากขนึ้ เมอ่ื แขวนถุงทราย กบั เคร่อื งชัง่ สปรงิ แลว้ ถุงทรายอยนู่ ่งิ จะทาให้ร้คู ่าแรงโน้มถว่ งของโลกทีก่ ระทาต่อถงุ ทรายหรือ นา้ หนกั ของถุงทรายได้ เครอื่ งชง่ั สปริงใช้อ่านคา่ แรง ถา้ นาวตั ถแุ ขวนกบั เคร่อื งช่ังสปริงแล้ววัตถุอย่นู ิ่ง จะหาค่านา้ หนักของวตั ถนุ ้ันได้ น่งิ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

261 คมู่ อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 แรงและพลงั งาน คาถามของนกั เรียนที่ต้ังตามความอยากรูข้ องตนเอง  สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู ือครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลังงาน 262         สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 

263 คู่มอื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 แรงและพลงั งาน แนวการประเมินการเรียนรู้ การประเมินการเรียนรขู้ องนกั เรียนทาได้ ดังนี 1. ประเมินความรเู้ ดิมจากการอภิปรายในชนั เรยี น 2. ประเมินการเรียนรู้จากคาตอบของนกั เรียนระหวา่ งการจดั การเรียนรูแ้ ละจากแบบบันทึกกิจกรรม 3. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 จากการทากิจกรรมของนกั เรยี น การประเมนิ จากการทากิจกรรมท่ี 1.2 มวลและนา้ หนกั สัมพนั ธก์ ันอย่างไร ระดับคะแนน 1 คะแนน หมายถงึ ควรปรับปรงุ 3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ รหสั สิง่ ทป่ี ระเมนิ ระดับคะแนน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ S1 การสังเกต S2 การวัด S6 การจดั กระทาและส่อื ความหมายข้อมูล S7 กาพยากรณ์ S8 การลงความเหน็ จากข้อมูล S13 การตีความหมายข้อมลู และลงขอ้ สรุป ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 C4 การสื่อสาร C5 ความร่วมมือ รวมคะแนน  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มอื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 แรงและพลงั งาน 264 ตาราง แสดงการวเิ คราะห์ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ตามระดับความสามารถของนกั เรยี น โดยอาจใช้เกณฑ์การประเมิน ดงั นี ทกั ษะกระบวนการทาง รายการประเมนิ ดี (3) ระดับความสามารถ ควรปรบั ปรงุ (1) วิทยาศาสตร์ พอใช้ (2) S1 การสงั เกต การบรรยาย สามารถใช้ประสาทสมั ผัส สามารถใชป้ ระสาทสมั ผสั ไม่สามารถใชป้ ระสาท รายละเอยี ด เก็บรายละเอียดของข้อมลู เก็บรายละเอยี ดของข้อมูล สมั ผัสเก็บรายละเอยี ด เก่ยี วกับลักษณะ เก่ยี วกบั ลกั ษณะของเครื่อง เกีย่ วกับลักษณะของเคร่ือง ของข้อมลู เกย่ี วกบั ของเครื่องช่งั สปริง ชงั่ สปริงและสิ่งท่ีเกิดขึนกับ ช่ังสปริงและสิ่งทเี่ กิดขนึ กับ ลกั ษณะของเคร่ืองชัง่ และสิ่งทีเ่ กิดขนึ กับ เครอ่ื งชงั่ สปรงิ เม่ือออกแรง เครอ่ื งชง่ั สปริงเมื่อออกแรง สปรงิ และส่ิงที่เกิด เครือ่ งช่งั สปรงิ เม่ือ ดงึ ได้ ดว้ ยตนเอง โดยไม่ ดงึ ได้ จากการชแี นะของครู ขึนกับเครื่องช่ังสปริง ออกแรงดงึ เพิม่ เติมความคิดเหน็ หรือผอู้ ่ืน หรอื มีการเพ่ิมเติม เมื่อออกแรงดึงได้ ความคิดเหน็ แมว้ า่ จะไดร้ ับคา ชีแนะจากครหู รือผู้อื่น S2 การวดั -ใชเ้ คร่อื งช่ังสปริง สามารถใช้เครื่องช่ังสปริง สามารถใชเ้ ครื่องชั่งสปรงิ ได้ ไมส่ ามารถใชเ้ ครื่อง อ่านค่าของแรง และระบุหนว่ ยของแรงได้ ถกู ต้องแตร่ ะบุหน่วยของแรง ชง่ั สปรงิ และระบุ เมือ่ แขวนด้วยถุง ถูกต้อง ไมถ่ ูกต้อง หนว่ ยของแรงได้ ทราย หรอื ใช้เครอ่ื งชัง่ สปรงิ ไม่ -ระบุหน่วยของ ถูกต้อง แต่ระบหุ นว่ ยของ แรง แรงไดถ้ ูกต้อง S6 การจดั กระทาและ นาขอ้ มลู ท่ีได้จาก สามารถนาข้อมูลที่ไดจ้ าก สามารถนาเสนอข้อมูลท่ไี ด้ ไม่สามารถนาข้อมลู ท่ี สื่อความหมายข้อมลู การสงั เกตและ การสังเกตเกี่ยวกับลักษณะ จากการสงั เกตเกย่ี วกับ ไดจ้ ากการสังเกต เกย่ี วกับลกั ษณะ และส่วนประกอบของ ลกั ษณะและส่วนประกอบ เกี่ยวกับลกั ษณะและ และสว่ นประกอบ เครอ่ื งชง่ั สปริงมาจัด ของเครอื่ งชงั่ สปรงิ มาจดั ส่วนประกอบของ ของเคร่ืองชั่งสปริง กระทาโดยการวาดภาพ กระทาโดยการวาดภาพหรือ เคร่ืองช่ังสปรงิ มาจัด มาจัดกระทาโดย หรือเขยี นบรรยาย และสื่อ เขยี นบรรยาย และสอ่ื ให้ กระทาโดยการวาด การวาดภาพหรือ ให้ผูอ้ ่ืนเขา้ ใจการทางาน ผูอ้ ่ืนเขา้ ใจการทางานของ ภาพหรอื เขียน เขยี นบรรยาย และ ของเครอ่ื งช่งั สปริงได้อย่าง เคร่ืองชง่ั สปริงไดอ้ ย่าง บรรยาย และไม่ สอื่ ให้ผูอ้ ่นื เข้าใจ ถูกต้อง ไดด้ ้วยตนเอง ถกู ต้อง จากการชแี นะของ สามารถสือ่ ให้ผู้อื่น การทางานของ ครหู รือผูอ้ น่ื เขา้ ใจการทางานของ เครื่องชง่ั สปริง เคร่อื งชงั่ สปริงได้ แม้วา่ จะได้รับคา ชีแนะจากครหู รือ ผอู้ ่ืน สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

265 คู่มือครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลังงาน ทกั ษะกระบวนการทาง รายการประเมนิ ดี (3) ระดับความสามารถ ควรปรบั ปรงุ (1) วทิ ยาศาสตร์ พอใช้ (2) S7 การพยากรณ์ พยากรณค์ ่าของ สามารถพยากรณ์ค่าของ สามารถพยากรณ์ค่าของแรง ไมส่ ามารถพยากรณ์ แรงทอี่ า่ นได้เมือ่ แรงทีอ่ า่ นไดเ้ มอ่ื เพ่ิมถุง ทอ่ี ่านไดเ้ ม่ือเพ่ิมถุงทรายเปน็ คา่ ของแรงที่อา่ นได้ เพ่ิมถุงทรายเป็น 2 ทรายเป็น 2 ถงุ โดยอาศัย 2 ถงุ จากการชีแนะของครู เมือ่ เพม่ิ ถุงทรายเป็น ถงุ ขอ้ มูลหรือความรู้ท่ีมอี ยู่ ได้ และผอู้ นื่ 2 ถุง แม้ว่าจะได้ ด้วยตัวเอง รบั คาชีแนะจากครู หรอื ผอู้ ื่น S8 การลงความเห็น การลงความเหน็ สามารถลงความเหน็ จาก สามารถลงความเห็นจาก ไม่สามารถสามารถลง จากข้อมูล เกย่ี วกับสิง่ ที่อยู่ใน ขอ้ มูลเกยี่ วกบั สิ่งที่อย่ใู นถุง ข้อมูลเก่ยี วกับสง่ิ ท่ีอยูใ่ นถงุ ความเห็นจากข้อมูล ถงุ ปริศนา ปริศนาไดด้ ว้ ยตนเอง ปริศนาได้ โดยอาศัยการ เกีย่ วกับสงิ่ ที่อยู่ในถุง ชแี นะของครูหรือผ้อู ื่น ปริศนาได้ แมว้ ่าจะ ได้รบั คาแนะนาจาก ครูหรอื ผ้อู ่นื S13 การตีความหมาย ตีความหมายข้อมูล สามารถตคี วามหมาย สามารถตีความหมายข้อมลู ไมส่ ามารถ ข้อมูลและลงข้อสรปุ จากการกิจกรรมได้วา่ เม่ือชั่ง ตคี วามหมายข้อมูล จากการกจิ กรรม ข้อมลู จากการกิจกรรมได้ ถุงทราย 2 ถุง จะมนี าหนัก จากการกิจกรรมได้ มากกวา่ ชัง่ ถุงทราย 1 ถงุ ว่าเมื่อช่งั ถุงทราย 2 ได้ว่าเม่อื ช่งั ถุง วา่ เมอ่ื ชง่ั ถงุ ทราย 2 ถุง และลงข้อสรปุ วัตถทุ ี่มีมวล ถุง จะมนี าหนัก ทราย 2 ถุง จะมี จะมนี าหนักมากกว่าชั่งถุง มาก จะมนี าหนักมากกว่า มากกว่าชั่งถุงทราย 1 นาหนักมากกวา่ ชง่ั ทราย 1 ถุงและลงข้อสรุป จากการชีแนะจากครแู ละ ถุงและ ลงข้อสรุป ถุงทราย 1 ถงุ และ วตั ถุทม่ี มี วลมาก จะมี ผ้อู ่นื วตั ถทุ ่มี มี วลมาก จะมี ลงข้อสรุปวัตถทุ ่ีมี นาหนักมากกวา่ มวลมาก จะมี นาหนักมากกว่าได้ด้วย แมว้ ่าจะได้รบั คา ชีแนะจากครหู รือ นาหนกั มากกวา่ ตนเอง ผอู้ ่ืน  สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คู่มือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลังงาน 266 ตาราง แสดงการวิเคราะหท์ ักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ตามระดับความสามารถของนกั เรยี น โดยอาจใช้เกณฑ์การประเมิน ดงั นี ทกั ษะแห่ง รายการประเมนิ ดี (3) ระดบั ความสามารถ ควรปรับปรงุ (1) ศตวรรษที่ 21 สามารถนาเสนอข้อมลู พอใช้ (2) ไมส่ ามารถนาเสนอ จากการสงั เกตและ ขอ้ มลู จากการสงั เกต C4 การสอ่ื สาร นาเสนอข้อมูลจาก อภิปรายเกี่ยวกบั การหา สามารถนาเสนอขอ้ มูล และอภปิ รายเกีย่ วกับ นาหนกั ของวัตถุและ จากการสังเกตและ การหานาหนักของวัตถุ การสงั เกตและ ความสัมพนั ธร์ ะหว่างมวล อภิปรายเกย่ี วกบั การหา และความสมั พันธ์ และนาหนกั เพื่อให้ผอู้ นื่ นาหนกั ของวตั ถุและ ระหวา่ งมวลและนาหนัก อภปิ รายเก่ยี วกบั เขา้ ใจได้ด้วยตนเอง ความสัมพนั ธ์ระหว่างมวล เพ่ือให้ผ้อู น่ื เขา้ ใจได้ และนาหนักเพ่อื ใหผ้ ้อู ่ืน แมว้ า่ จะไดร้ ับคาชแี นะ การหานาหนกั ของ เขา้ ใจได้ โดยอาศัยการ จากครูหรอื ผู้อน่ื ชแี นะจากครหู รือผู้อนื่ วัตถุและ ความสมั พนั ธ์ ระหว่างมวลและ นาหนักเพ่ือให้ผูอ้ ืน่ เขา้ ใจ C5 ความ ทางานรว่ มกบั ผู้อ่นื สามารถทางานรว่ มกบั สามารถทางานรว่ มกับ ไม่สามารถทางาน ร่วมมือ ในการสงั เกต ร่วมกบั ผอู้ ืน่ ได้ ลักษณะของเครื่อง ผอู้ ืน่ ในการสังเกตลกั ษณะ ผอู้ น่ื ในการสังเกตลักษณะ ตลอดเวลาทที่ ากิจกรรม ช่ังสปรงิ การใช้ เคร่อื งช่งั สปรงิ ช่ัง ของเคร่อื งชง่ั สปริง การใช้ ของเครือ่ งชงั่ สปรงิ การใช้ นาหนกั ของวตั ถุ และบอก เครอ่ื งชง่ั สปริงชัง่ นาหนัก เครอื่ งชัง่ สปรงิ ชง่ั นาหนัก ความสัมพนั ธ์ ระหว่างมวลและ ของวตั ถุและบอก ของวตั ถุและบอก นาหนัก รวมทัง ยอมรบั ความ ความสมั พันธ์ระหวา่ งมวล ความสัมพันธร์ ะหวา่ งมวล คิดเห็นของผูอ้ น่ื และนาหนัก รวมทัง และนาหนัก รวมทัง ยอมรับความคดิ เห็นของ ยอมรับความคดิ เหน็ ของ ผอู้ นื่ ตังแต่เร่มิ ต้นจนสาเร็จ ผอู้ นื่ บางช่วงเวลาทีท่ า กจิ กรรม สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 

267 คู่มอื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลังงาน กจิ กรรมที่ 1.3 มวลมผี ลต่อการเปลี่ยนแปลงการเคล่อื นท่ีของวัตถุ อยา่ งไร กิจกรรมนีนักเรียนจะได้สังเกตเรื่องมวลกับ การเปลยี่ นแปลงการเคลื่อนท่ีของวัตถุ โดยสังเกตแรงที่ ใชเ้ พือ่ ทาใหว้ ัตถุทม่ี ีมวลแตกต่างกันให้เปล่ียนแปลงการ เคลื่อนที่ เวลา 2 ชว่ั โมง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สังเกตและบรรยายมวลกับการเปล่ียนแปลงการ เคลอ่ื นท่ขี องวตั ถุ วสั ดุ อุปกรณ์สาหรับทากจิ กรรม สง่ิ ทค่ี รูตอ้ งเตรียม/กลมุ่ 1. ขวดพลาสตกิ ปดิ ใหท้ ึบด้วยกระดาษ 2 ใบ 2. ทราย 1 ถงั สงิ่ ท่ีครูต้องเตรยี ม/กลมุ่ 1 อนั ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 2 เสน้ 1. คานไม้หรอื ไมเ้ มตร C4 การสื่อสาร 2. เชอื กฟาง 2 ขวด 1 ถงั สิ่งทน่ี กั เรียนต้องเตรียม/กลุ่ม 1. ขวดพลาสตกิ เปล่า ขนาด 1 ลิตร 2. ทราย ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ C5 ความรว่ มมอื S1 การสังเกต สื่อการเรยี นรู้และแหลง่ เรียนรู้ S7 การพยากรณ์ S13 การตคี วามหมายข้อมูลและลงขอ้ สรุป 1. หนงั สอื เรยี น ป.4 เลม่ 1 หนา้ 115-117 2. แบบบันทึกกจิ กรรม ป.4 เลม่ 1 หนา้ 101-104  สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู ือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 แรงและพลังงาน 268 แนวการจัดการเรยี นรู้ ค รู รั บ ฟั ง เ ห ตุ ผ ล ข อ ง นักเรียนเป็นสาคัญ ครูยังไม่ 1. ครูนาชุดสาธิตขวดพลาสติกปิดทึบ 2 ใบ ภายในบรรจุทรายไม่เท่ากัน เฉลยคาตอบใด ๆ แต่ชักชวนให้ แขวนกับไม้เมตรมาแสดงให้นักเรียนสังเกตหน้าชันเรียน จากนันครูให้ หาคาตอบที่ถูกต้องจากกิจกรรม ตัวแทนนักเรียนมาลองหาวิธีบอกให้ได้ว่าขวดทังสองใบมีมวลเท่ากัน ต่าง ๆ ในบทเรยี นี หรือไมโ่ ดยครอู าจใชค้ าถามดังนี 1.1 ขวดทังสองใบมีมวลแตกต่างกันหรือไม่ รู้ได้อย่างไร (ต่างกัน รู้ได้ จากการลองยกขวด เพ่ือเปรียบเทียบนาหนัก หรือใช้เครื่องชั่ง สปริงมาแขวนก็จะสามารถอ่านค่านาหนักได้ ก็จะรู้ว่านาหนัก แตกต่างกนั หรอื ไม่ ถ้านาหนักแตกตา่ งกัน มวลก็จะแตกต่างกัน) 1.2 ถ้าไม่ใช้เคร่ืองช่ังสปริง นักเรียนบอกได้หรือไม่ว่าขวดทังสองใบมี มวลแตกต่างกันหรือไม่ รู้ได้อย่างไร (นักเรียนตอบตามความ เข้าใจ) ครชู กั ชวนนักเรยี นหาคาตอบจากการทากิจกรรมต่อไป 2. นักเรยี นอ่านช่ือกิจกรรม และทาเปน็ คิดเป็น ในหนังสือเรียน หน้า 115 จากนนั ครตู รวจสอบความเข้าใจของนักเรียนเก่ียวกับสิ่งท่ีกาลังจะเรียน โดยใชค้ าถามดังต่อไปนี 2.1 กิจกรรมนีนักเรียนจะได้เรียนเกี่ยวกับเรื่องอะไร (มวลกับการ เปลี่ยนแปลงการเคลื่อนท่ขี องวตั ถ)ุ 2.2 นักเรียนจะได้เรียนเรื่องนดี ว้ ยวิธใี ด (การสงั เกต) 2.3 เมื่อเรียนแล้วนักเรียนจะทาอะไรได้ (บรรยายมวลและการ เปล่ียนแปลงการเคลอ่ื นท่ีของวตั ถุได้) นกั เรยี นบันทกึ จดุ ประสงคล์ งในแบบบนั ทึกกิจกรรม หนา้ 101 3. นักเรียนอ่าน สิ่งท่ีต้องใช้ ในการทากิจกรรม ในหนังสือเรียนหน้า 115 ครูนาวัสดุอุปกรณ์สาหรับทากิจกรรมมาแสดงให้นักเรียนดูทีละอย่าง โดยให้นักเรียนบอกช่ือวัสดุอุปกรณ์นัน ๆ แต่ครูยังไม่แจกวัสดุอุปกรณ์ แก่นกั เรยี น 4. นักเรียนอ่านทาอย่างไร จากนันครูตรวจสอบความเข้าใจเก่ียวกับ ขนั ตอนการทากจิ กรรมทลี ะขนั จนแนใ่ จว่านักเรียนสามารถทาได้ จึงให้ นักเรียนทากิจกรรม ครูควรเขียนสรุปขันตอนการทากิจกกรรมทีละขัน แบบสัน ๆ บนกระดาน โดยนาอภิปรายตามแนวคาถาม ดงั นี 4.1 นักเรียนต้องทาอะไรบ้างกับขวดบรรจุทรายทังสองใบท่ีแขวนกับ ไม้คาน (ขันแรกใช้มือแตะขวดเบา ๆ ให้ขวดเร่ิมขยับ และ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

269 คมู่ ือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 แรงและพลงั งาน ขันต่อมาใช้มือวางในแนวที่ขวดแขวน แล้วดึงขวดให้ออกจาก แนวเดิม แล้วปล่อยใหข้ วดเคล่อื นมาปะทะกบั ฝ่ามือแล้วจับให้ขวด หยุดน่งิ ) 4.2 นักเรยี นต้องสังเกตอะไรบ้าง (แรงท่ีใช้เพื่อทาให้ขวดท่ีแขวนอยู่น่ิง ให้เริ่มขยบั และแรงท่ีใชเ้ พ่อื ใหข้ วดที่เคลอ่ื นทมี่ าปะทะกับฝ่ามือให้ หยดุ ) ครูอาจต้องสาธิตวิธีการแตะขวดและวิธีการวางฝ่ามือในแนว เดยี วกับไมเ้ มตรใหน้ กั เรยี นดูก่อนเร่มิ ทากจิ กรรม 5. เมอ่ื นักเรียนเขา้ ใจวธิ ที ากจิ กรรมในทาอย่างไรแล้ว นักเรียนจะได้ปฏิบัติ ตามขันตอน ดงั นี 5.1 ใช้มือแตะข้างขวดแต่ละใบเบา ๆ เพ่ือให้ขวดเร่ิมเคล่ือนที่ สังเกต และเปรียบเทยี บแรงท่ีใช้ บนั ทึกผล (S1) 5.2 พยากรณ์และบันทึกแรงที่ใช้หยุดขวดแต่ละใบเม่ือขวดถูกดึงให้ทา มมุ กับแนวดงิ่ แล้วปล่อยใหเ้ คลื่อนมาปะทะกับฝ่ามือ (S7) 5.3 ใชฝ้ า่ มือรับขวดที่เคลอ่ื นที่ให้หยุด สังเกตและเปรียบเทียบแรงท่ีใช้ บันทกึ ผล (S1) 5.4 นาเสนอและร่วมกันอภิปรายสิ่งที่เกิดขึน จากนันลงความเห็นจาก ข้อมูลท่ีได้จากการทากิจกรรมเก่ียวกับมวลของขวด จากปริมาณ ทรายท่บี รรจุในขวด (S8) (C4, C5) 5.5 นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพ่ือลงข้อสรุปเก่ียวกับความสัมพันธ์ ระหวา่ งมวลและการเปลยี่ นแปลงการเคลือ่ นทีข่ องวัตถุ (S13) 6. หลังจากทากิจกรรมแล้ว ครูนาอภิปรายผลการทากิจกรรม โดยใช้ คาถามดังตอ่ ไปนี 6.1 ขวดบรรจุทรายทังสองใบมีส่ิงใดแตกต่างกัน (ขวดทังสองใบมีมวล ต่างกัน ขวดท่ีมีปริมาณทรายมาก จะมีมวลมาก และขวดท่ีมี ปริมาณทรายน้อย จะมีมวลนอ้ ย) 6.2 แรงท่ีใชผ้ ลักขวดทงั สองใบให้เร่ิมเคลื่อนท่ี เหมือนหรือแตกต่างกัน อย่างไร (แตกต่างกัน โดยเราต้องออกแรงมากเพื่อแตะให้ขวดที่มี ทรายมากหรือมวลมากให้เริ่มเคล่ือนท่ี และออกแรงน้อยเพ่ือแตะ ขวดท่มี ีทรายนอ้ ยหรือมวลนอ้ ยให้เร่มิ เคลื่อนท)ี่ 6.3 แรงที่ใช้ใจับขวดทังสองใบให้หยุดน่ิง เหมือนหรือแตกต่างกัน อย่างไร (แตกต่างกัน ดังนี ขวดท่ีมีทรายมากหรือมวลมาก ต้องใช้  สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 แรงและพลงั งาน 270 แรงมากเพ่ือหยดุ การเคลื่อนท่ีของขวด ส่วนขวดท่ีมีทรายน้อยหรือ มวลนอ้ ย ใชแ้ รงนอ้ ยกวา่ เพอื่ หยุดการเคล่ือนท่ีของขวด) 6.4 ขวดใบใดเปล่ียนแปลงการเคล่ือนท่ีได้ยากกว่า รู้ได้อย่างไร (ขวดที่ มีมวลมากจะเปล่ียนแปลงการเคลื่อนท่ียากกว่า รู้ได้จากเราต้อง ออกแรงมากเพื่อทาให้ขวดที่มีมวลมากซ่ึงอยู่น่ิงเริ่มเคล่ือนที่ หรือ ทาใหข้ วดท่มี มี วลมากทีก่ าลงั เคล่ือนท่ี แล้วหยุดนิ่ง) 6.5 มวลของวัตถุเก่ียวข้องกับการเปลี่ยนแปลงการเคล่ือนท่ีของวัตถุ หรือไม่ อย่างไร (มวลของวัตถุเก่ียวข้องกับการเปล่ียนแปลงการ เคลื่อนท่ีของวตั ถุ คือวตั ถุท่ีมีมวลมากจะต้านการเปล่ียนแปลงการ เคลื่อนที่มากกว่า ส่วนวัตถุท่ีมีมวลน้อยจะต้านการเปลี่ยนแปลง การเคล่ือนทน่ี ้อยกวา่ ) 7. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการทากิจกรรมได้ว่ามวลของวัตถุมี ความสัมพันธ์กับการต้านการเปลี่ยนแปลงการเคล่ือนที่ของวัตถุ วัตถุท่ี มี ม ว ล ม า ก ก ว่ า จ ะ ต้ า น ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ก า ร เ ค ลื่ อ น ที่ ม า ก ก ว่ า นอกจากนันมวลยังมีความสัมพันธ์กับนาหนักของวัตถุด้วย โดยวัตถุท่ีมี มวลมาก จะมีนาหนักมากกวา่ 8. ครูให้นักเรียนลองนาความรู้เร่ืองมวลมีผลต่อการเปล่ียนแปลง การเคล่ือนท่ีของวัตถุมาวิเคราะห์สถานการณ์จริง เช่น เพื่อนสองคนมี มวลไม่เท่ากัน กาลังนั่งเล่นชิงช้า ถ้านักเรียนจะต้องไปช่วยผลักชิงช้า ของเพ่ือนทังสองคนให้แกว่ง แรงท่ีใช้ผลักชิงช้าของเพื่อนทังสองคน เท่ากันหรือไม่ เพราะเหตุใด (นักเรียนควรตอบได้ว่าการผลักชิงช้าของ เพื่อนท่ีมีมวลน้อย จะออกแรงในการผลักน้อยกว่า เน่ืองจากมวลน้อย การเปลยี่ นแปลงการเคลอ่ื นทจี่ งึ ทาไดง้ ่ายกวา่ ) 9. นักเรียนร่วมกันตอบคาถามในฉันรู้อะไร โดยครูอาจใช้คาถามเพิ่มเติม ในการอภิปรายเพอื่ ใหไ้ ด้แนวคาตอบทถ่ี ูกต้อง 10.ครูเลือกนักเรียนให้สาธิตหน้าชันเรียนเพ่ือหาว่าขวดในชุดสาธิต (ช่วง นาเข้าสู่บทเรียน) ใบใดมีมวลมากกว่ากัน โดยใช้ความรู้ท่ีได้จากการทา กจิ กรรมท่ีผา่ นมา 11.ครูกระตุ้นให้นักเรียนฝึกตังคาถามเก่ียวกับเรื่องที่สงสัยหรืออยากรู้ เพ่ิมเติมใน อยากรู้อีกว่า จากนันครูอาจสุ่มนักเรียน 2-3 คน ให้ นาเสนอคาถามของตนเองหนา้ ชันเรยี น แลว้ ให้นกั เรยี นร่วมกันอภิปราย เก่ียวกับคาถามท่ีนาเสนอ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

271 คู่มือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลังงาน 12.นักเรียนตรวจสอบตนเองว่าได้ทาอะไรเหมือนนักวิทยาศาสตร์บ้างใน แบบบนั ทกึ กิจกรรม โดยครูทบทวนว่านักเรียนได้ฝึกทักษะกระบวนการ ทางวทิ ยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 อะไรบ้างและในขันตอน ใดบ้าง แล้วบนั ทกึ ลงในแบบบนั ทกึ กจิ กรรมหนา้ 104 13.ครูให้นักเรียนสรุปสิ่งท่ีได้เรียนรู้ในกิจกรรมนี จากนันครูให้นักเรียนอ่าน ส่งิ ทไ่ี ด้เรียนรู้ และเปรยี บเทยี บกบั ข้อสรปุ ของตนเอง 14.นักเรยี นร่วมกันอ่านรอู้ ะไรในเร่อื งนี้ ในหนังสือเรียน หน้า 118 ครูนา อภิปรายเพื่อนาไปสู่ข้อสรุปเกยี่ วกับสิ่งท่ีได้เรียนรู้ในเรื่องนี จากนันครู กระตุ้นให้นักเรียนตอบคาถามในช่วงท้ายของเนือเรื่อง ดังนี “รู้หรือไม่ว่าบนดวงจันทร์ก็มีแรงดึงดูดเช่นกัน แต่แรงดึงดูดบน ดวงจันทร์จะนอ้ ยกวา่ บนโลก ถา้ เราอย่บู นดวงจันทร์ มวลและนาหนัก ของเราจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร” ครูและนักเรียนร่วมกัน อภิปรายแนวทางการตอบคาถาม เช่น เมื่ออยู่บนดวงจันทร์ มวลของ เราจะเท่าเดมิ ถ้าไม่มสี ่วนใดหายไปหรือเพิ่มขึนมา แต่นาหนักของเรา จะลดลง เพราะแรงดึงดูดบนดวงจันทร์น้อยกว่าบนโลก นักเรียนอาจ มีคาตอบท่ีแตกต่างจากนี ครูควรเน้นให้นักเรียนตอบคาถามพร้อม อธบิ ายเหตผุ ลประกอบ การเตรยี มตวั ลว่ งหนา้ สาหรับครู เพ่อื จัดการเรียนรู้ในครง้ั ถดั ไป ในครังถัดไป นักเรียนจะได้เรียนบทที่ 2 ตัวกลางของแสง โดยการใช้วัตถุชนิดต่าง ๆ มากันแสงจากเปลวเทียนไข ดังนันครูเตรียม สื่อเพ่ือจัดการเรียนการสอน เช่น แผ่นไม้ แผ่นกระจกฝ้า แผ่นพลาสติกใส กระดาษไข กระดาษแก้วสีต่าง ๆ ให้เพียงพอกับจานวน กลมุ่ ของนกั เรยี น  สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คมู่ อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 แรงและพลังงาน 272 แนวคาตอบในแบบบันทึกกิจกรรม สงั เกตและบรรยายมวลและการเปลย่ี นแปลงการเคลือ่ นทีข่ องวัตถุ นักเรียนพยากรณ์ตาม ความคดิ ของตนเอง สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

273 คูม่ อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลงั งาน ขวดที่บรรจทุ รายทั้งสองมีมวลแตกตา่ งกัน ขวดท่ีมีทรายน้อย จะมมี วลน้อย ขวดที่มีทรายมากจะมีมวลมาก ขวดท่ีมที รายเต็มขวดเคลือ่ นทไี่ ด้ยากกวา่ รู้ได้จากต้องออกแรงในการแตะขา้ ง ขวดมากกวา่ ขวดที่มที รายเต็มขวด หยุดได้ยากกว่า รไู้ ด้จากตอ้ งออกแรงมากกวา่ เพ่ือต้าน การเคลอ่ื นทข่ี องขวดให้หยุด การทาใหข้ วดท่มี ีทรายเตม็ ขวดหรือมีมวลมากเปล่ียนแปลงการเคลื่อนท่จี ากอยู่ นิ่งใหเ้ ริ่มเคลอ่ื นที่ หรอื ทาให้ขวดที่เคล่ือนท่ี แลว้ หยุดนง่ิ ได้ จะต้องใช้แรงมากกวา่ ขวดที่มีทรายน้อยหรอื มมี วลน้อย  สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 แรงและพลงั งาน 274 วัตถุที่มมี วลมาก ทาให้เปล่ียนแปลงการเคล่อื นทไ่ี ดย้ ากกวา่ วัตถุที่มีมวลน้อย คาถามของนกั เรยี นทต่ี ้ังตามความอยากรู้ของตนเอง สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 

275 คมู่ อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 แรงและพลงั งาน        สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลงั งาน 276 แนวการประเมินการเรียนรู้ การประเมนิ การเรียนรขู้ องนักเรียนทาได้ ดงั นี 1. ประเมนิ ความร้เู ดิมจากการอภิปรายในชนั เรยี น 2. ประเมินการเรียนรู้จากคาตอบของนักเรียนระหว่างการจัดการเรียนรู้และจากแบบบันทึกกิจกรรม 3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 จากการทากจิ กรรมของนกั เรียน การประเมินจากการทากจิ กรรมท่ี 1.3 มวลมผี ลต่อการเปลี่ยนแปลงการเคล่ือนท่ีของวัตถุ อยา่ งไร ระดบั คะแนน 1 คะแนน หมายถงึ ควรปรับปรุง 3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ รหสั ส่ิงทปี่ ระเมนิ ระดบั คะแนน ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ S1 การสังเกต S7 กาพยากรณ์ S8 การลงความเหน็ จากข้อมูล S13 การตคี วามหมายขอ้ มลู และลงขอ้ สรปุ ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 C4 การสอื่ สาร C5 ความรว่ มมือ รวมคะแนน สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 

277 คู่มอื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลังงาน ตาราง แสดงการวเิ คราะห์ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ตามระดับความสามารถของนักเรยี น โดยอาจใช้เกณฑก์ ารประเมิน ดงั นี ทักษะกระบวนการทาง รายการประเมนิ ดี (3) ระดับความสามารถ ควรปรบั ปรุง (1) วทิ ยาศาสตร์ พอใช้ (2) S1 การสังเกต - การบรรยายแรง สามารถใช้ประสาทสมั ผสั สามารถใชป้ ระสาทสัมผัส ไม่สามารถใช้ ท่ใี ชใ้ นการแตะให้ เก็บรายละเอยี ดของข้อมูล เกบ็ รายละเอียดของขอ้ มูล ประสาทสมั ผัสเก็บ วัตถุที่มีมวลต่างกนั เก่ียวกบั แรงท่ีใชใ้ นการ เกย่ี วกับแรงท่ีใชใ้ นการแตะ รายละเอยี ดของ ให้เรมิ่ เคล่อื นท่ี แตะใหว้ ตั ถุท่มี มี วลตา่ งกนั ให้วัตถุท่ีมีมวลต่างกนั ให้เร่มิ ขอ้ มูลเก่ยี วกบั แรงท่ี - การบรรยายแรง ใหเ้ ร่ิมเคลือ่ นท่แี ละแรงท่ี เคล่ือนทแี่ ละแรงทใ่ี ช้ในการ ใช้ในการแตะใหว้ ตั ถุ ทใ่ี ช้ในการทาให้ ใช้ในการทาให้วตั ถุท่มี ีมวล ทาให้วัตถทุ ่ีมีมวลต่างกัน ท่มี ีมวลต่างกนั ให้เรม่ิ วตั ถทุ มี่ มี วลต่างกัน ตา่ งกนั หยุดการเคลือ่ นที่ หยดุ การเคลอ่ื นท่ไี ด้ จากการ เคล่ือนทแ่ี ละแรงทใ่ี ช้ หยุดการเคลือ่ นท่ี ได้ ดว้ ยตนเอง โดยไม่ ชีแนะของครูหรือผู้อื่น หรอื มี ในการทาใหว้ ตั ถุท่ีมี เพม่ิ เติมความคิดเหน็ การเพ่ิมเตมิ ความคิดเหน็ มวลต่างกัน หยดุ การ เคลอ่ื นที่ได้ แมว้ า่ จะ ไดร้ บั คาชีแนะจาก ครหู รอื ผอู้ ื่น S7 การพยากรณ์ พยากรณแ์ รงที่ใช้ สามารถพยากรณ์พยากรณ์ สามารถพยากรณ์ค่าของแรง ไม่สามารถพยากรณ์ ในการทาให้วตั ถุ มวลตา่ งกนั หยุด แรงทใี่ ช้ในการทาให้วัตถุ ทอี่ า่ นได้เม่ือเพิ่มถงุ ทรายเป็น แรงท่ีใช้ในการทาให้ การเคล่ือนที่ มวลต่างกันหยดุ การ 2 ถงุ พยากรณแ์ รงที่ใชใ้ น วตั ถมุ วลตา่ งกนั หยุด เคลื่อนทโ่ี ดยอาศยั ขอ้ มลู การทาให้วตั ถุมวลตา่ งกัน การเคลื่อนที่ แมว้ ่า หรือความรูท้ ่ีมีอยู่ ไดด้ ้วย หยดุ การเคลอื่ นที่ จากการ จะไดร้ บั คาชแี นะ ตัวเอง ชีแนะของครูและผู้อื่น จากครูหรอื ผู้อืน่ S8 การลงความเห็นจาก ลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็นจาก ไม่สามารถ ข้อมูล ข้อมลู ได้วา่ ขวดท่ีมี ขอ้ มูลได้ว่าขวดท่ีมีทราย ทรายปริมาณ ปรมิ าณตา่ งกัน มมี วล ข้อมลู ได้ว่าขวดที่มีทราย ลงความเห็นจาก ต่างกนั มมี วล ตา่ งกนั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งได้ ต่างกัน ดว้ ยตนเอง ปริมาณต่างกนั มีมวลตา่ งกนั ข้อมลู ได้ว่าขวดท่ีมี ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง จากการ ทรายปริมาณต่างกัน ชีแนะของครหู รือผอู้ ืน่ มีมวลต่างกนั ได้ แมว้ า่ จะไดร้ ับคา ชีแนะจากครหู รือ ผอู้ ่ืน  สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คู่มอื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 3 แรงและพลงั งาน 278 ทักษะกระบวนการทาง รายการประเมิน ดี (3) ระดบั ความสามารถ ควรปรับปรงุ (1) วทิ ยาศาสตร์ พอใช้ (2) ไม่สามารถ ตีความหมายข้อมลู สามารถตคี วามหมาย ตีความหมายข้อมลู S13 การตคี วามหมาย ตีความหมายข้อมลู จากการ จากการกิจกรรมได้ จากการกิจกรรม ข้อมูลจากการกจิ กรรมได้ กิจกรรมไดว้ ่าขวดท่ีมีมวล ว่าขวดที่มีมวลมาก ขอ้ มูลและลงขอ้ สรุป ไดว้ า่ ขวดท่ีมีมวล วา่ ขวดท่ีมีมวลมากจะต้อง มากจะต้องใช้แรงกระทาต่อ จะตอ้ งใช้แรงกระทา มากจะตอ้ งใช้แรง ใชแ้ รงกระทาต่อขวด ขวดมากกว่า เพื่อให้ขวด ตอ่ ขวดมากกวา่ กระทาตอ่ ขวด มากกว่า เพือ่ ใหข้ วด เคล่อื นท่หี รือหยุดการ เพอื่ ให้ขวดเคล่ือนท่ี มากกว่า เพือ่ ให้ เคลื่อนท่ีหรือหยุดการ เคลื่อนท่ี และลงข้อสรปุ วัตถุ หรอื หยดุ การ ขวดเคล่ือนที่หรือ ท่ีมีมวลมาก จะตา้ นการ เคลอื่ นที่ และลง เปลย่ี นแปลงการเคล่ือนที่ได้ ขอ้ สรปุ วัตถุท่ีมมี วล หยดุ การเคลอื่ นท่ี เคลอ่ื นท่ี และลงข้อสรปุ ยากจากการชีแนะจากครู มาก จะต้านการ และผู้อืน่ เปลีย่ นแปลงการ และลงข้อสรุปวัตถุ วตั ถทุ ่ีมมี วลมาก จะต้าน เคลอ่ื นท่ีไดย้ าก แม้วา่ จะได้รับคา ที่มมี วลมาก จะ การเปลีย่ นแปลงการ ชแี นะจากครูหรือ ตา้ นการ เคล่ือนท่ีไดย้ ากไดด้ ้วย ผูอ้ ื่น เปลีย่ นแปลงการ ตนเอง เคลือ่ นท่ีไดย้ าก สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 

279 คมู่ อื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลงั งาน ตาราง แสดงการวเิ คราะหท์ ักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ตามระดบั ความสามารถของนกั เรยี น โดยอาจใชเ้ กณฑ์การประเมนิ ดงั นี ทักษะแห่ง รายการประเมนิ ดี (3) ระดับความสามารถ ควรปรับปรุง (1) ศตวรรษท่ี 21 สามารถนาเสนอข้อมลู พอใช้ (2) ไม่สามารถนาเสนอขอ้ มูล C4 การส่ือสาร นาเสนอข้อมูลจาก จากการสังเกตและ จากการสงั เกตและ การสงั เกตและ อภิปรายความสมั พนั ธ์ สามารถนาเสนอขอ้ มูล อภิปรายเกี่ยวกบั อภิปรายเกี่ยวกบั ระหว่างมวลกับการ จากการสงั เกตและ ความสัมพันธร์ ะหว่างมวล ความสมั พนั ธ์ เปลยี่ นแปลงการเคลื่อนที่ อภิปรายความสมั พันธ์ กับการเปลย่ี นแปลงการ ระหว่างมวลกบั การ ของวตั ถุเพื่อให้ผอู้ ื่น ระหว่างมวลกับการ เคล่ือนที่ของวตั ถเุ พ่ือให้ เปลี่ยนแปลงการ เขา้ ใจได้ด้วยตนเอง เปลยี่ นแปลงการเคล่ือนท่ี ผู้อ่ืนเขา้ ใจได้ แมว้ ่าจะได้ เคลื่อนที่ของวัตถุ ของวัตถเุ พ่ือใหผ้ อู้ น่ื เขา้ ใจ รับคาชแี นะจากครูหรอื เพอื่ ใหผ้ อู้ ่นื เข้าใจ ได้ โดยอาศัยการชีแนะ ผ้อู น่ื จากครูหรือผู้อ่นื C5 ความรว่ มมือ ทางานร่วมกบั ผู้อ่นื สามารถทางานรว่ มกับ สามารถทางานร่วมกับ ไม่สามารถทางานรว่ มกับ ในการสงั เกตและ ผู้อ่ืนในการสงั เกตและ ผ้อู ่นื ในการสังเกตและ ผู้อนื่ ในการสังเกตและ อภิปราย อภิปรายความสมั พนั ธ์ อภิปรายความสมั พนั ธ์ อภิปรายความสัมพนั ธ์ ความสัมพนั ธ์ ระหว่างมวลกบั การ ระหวา่ งมวลกบั การ ระหว่างมวลกับการ ระหว่างมวลกบั การ เปล่ียนแปลงการเคลื่อนท่ี เปล่ยี นแปลงการเคลื่อนที่ เปล่ยี นแปลงการเคล่ือนที่ เปล่ยี นแปลงการ ของวัตถรุ วมทงั ยอมรับ ของวัตถรุ วมทงั ยอมรบั ของวตั ถุรวมทงั ยอมรับ เคล่อื นที่ของวัตถุ ความคดิ เหน็ ของผู้อ่ืน ความคิดเห็นของผู้อืน่ บาง ความคดิ เหน็ ของผู้อนื่ ตลอดเวลาท่ที ากจิ กรรม รวมทังยอมรบั ความ ตงั แตเ่ รม่ิ ตน้ จนสาเรจ็ ชว่ งเวลาท่ที ากิจกรรม คดิ เห็นของผู้อ่ืน  สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มอื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 แรงและพลงั งาน 280 กจิ กรรมทา้ ยบทท่ี 1 มวลและนา้ หนัก (1.5 ช่ัวโมง) 1. ครูให้นักเรียนวาดรูปหรือเขียนสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้จากบทนี ในแบบ บนั ทกึ กจิ กรรม หน้า 105 2. นักเรียนตรวจสอบการสรุปส่ิงท่ีได้เรียนรู้ของตนเองโดยเปรียบเทียบกับ ผังมโนทศั น์ในหวั ข้อ รู้อะไรในบทน้ี ในหนังสอื เรยี น หนา้ 119 3. นักเรยี นกลบั ไปตรวจสอบคาตอบของตนเองในสารวจความรู้ก่อนเรียน ในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า 90 อีกครัง โดยถ้าคาตอบของนักเรียนไม่ ถูกต้องให้ขีดเส้นทับข้อความเหล่านัน แล้วแก้ไขให้ถูกต้อง หรืออาจ แก้ไขคาตอบด้วยปากกาที่มีสีต่างจากเดิม นอกจากนีครูอาจนา สถานการณ์ (หรือคาถาม) ในรปู นาบทในหนังสือเรียน หน้า104 มาร่วม กันอภิปรายคาตอบกับนักเรียนอีกครัง ดังนี “นักบินอวกาศที่ปฏิบัติ ภารกิจในอวกาศมีนาหนักหรอื ไม่” ครแู ละนักเรยี นร่วมกันอภิปรายแนว ทางการตอบคาถาม เช่น นักบินอวกาศไม่มีนาหนัก เพราะในอวกาศไม่ มีแรงโน้มถ่วงของโลกกระทาต่อนักบินอวกาศ นักเรียนอาจมีคาตอบท่ี แตกต่างจากนี ครูควรเน้นให้นักเรียนตอบคาถามพร้อมอธิบายเหตุผล ประกอบ 4. นักเรียนทา แบบฝึกหัดท้ายบทท่ี 1 นาเสนอคาตอบหน้าชันเรียน ถ้า คาตอบยังไม่ถูกตอ้ งครูนาอภิปรายหรือให้สถานการณ์เพิ่มเติมเพื่อแก้ไข แนวคดิ คลาดเคลือ่ นใหถ้ กู ตอ้ ง 5. นักเรียนร่วมกันทากิจกรรม ร่วมคิด ร่วมทา เพ่ือออกแบบและสร้าง เคร่อื งชงั่ สปริงของตนเอง สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

281 คมู่ ือครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลังงาน สรปุ ผลการเรยี นรู้ของตนเอง รูปหรือข้อความสรปุ ส่ิงท่ีไดเ้ รยี นร้จู ากบทนต้ี ามความเข้าใจของนักเรยี น  สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คมู่ ือครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลังงาน 282 แนวคาตอบในแบบฝึกหดั ทา้ ยบท มวลไม่เปลี่ยนแปลง แต่น้าหนักเปล่ยี นแปลง โดยน้าหนกั จะเพ่มิ ข้ึน มวลไม่เปลย่ี นแปลง แตน่ า้ หนักเปลี่ยนแปลง โดยน้าหนกั จะลดลง จนเกอื บจะ ไม่มีน้าหนกั รถบรรทุกจะหยดุ ไดย้ ากกว่า เพราะรถบรรทกุ มีมวลมากกวา่ จึงเปลี่ยนแปลง การเคล่อื นท่ไี ด้ยากกวา่ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 

283 คู่มอื ครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลงั งาน ไม่เท่ากัน โดยแรงโน้มถ่วงของโลกบรเิ วณยอดเขาจะมคี ่าน้อยกว่าบรเิ วณเชงิ เขา  สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลังงาน 284 แรงทใี่ ช้ในการโยนลกู บอลแตล่ ะลกู แตกตา่ งกนั นัทต้องออกแรงมากท่สี ดุ เม่ือโยน ลกู บอล C ซึ่งมมี วลมากที่สดุ และออกแรงนอ้ ยลง เม่ือโยนลกู บอล A และ B ซึ่งมี มวลน้อยลงตามลาดบั สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 

285 คูม่ ือครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลงั งาน การออกแบบขึ้นอยู่กับความคดิ ของนกั เรียน  สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มอื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลังงาน 286 บทที่ 2 ตัวกลางของแสง จดุ ประสงคก์ ารเรียนร้ปู ระจาบท บทนมี้ อี ะไร การมองเห็นส่ิงต่าง ๆ ผ่านวัตถุที่ นามากนั้ เมื่อเรียนจบบทนี นักเรยี นสามารถ เรอ่ื งที่ 1 ตัวกลางของแสง (optical medium) 1. บรรยายลกั ษณะการมองเห็นสง่ิ ตา่ ง ๆ เมือ่ มวี ตั ถุ ลักษณะการมองเห็นต่างกันอย่างไรเมื่อ ตา่ งชนิดกันมากันแสง คาสาคญั มวี ัตถมุ ากันแสง 2. จาแนกวตั ถุท่ีใช้กันแสงโดยใช้ลกั ษณะการ กิจกรรมท่ี 1 มองเห็นสง่ิ ตา่ ง ๆ เป็นเกณฑ์ ส่ือการเรียนรแู้ ละแหล่งเรียนรู้ แนวคิดสาคัญ 1. หนงั สอื เรยี น ป.4 เล่ม 1 หน้า 123-134 เม่ือมองสิ่งต่าง ๆ โดยมีวัตถุต่างชนิดกันมากันแสงจะ 2. แบบบนั ทึกกจิ กรรม ป.4 เลม่ 1 หน้า 110-119 ทาให้มองเห็นสิ่งเหล่านันได้ต่างกัน จึงใช้ลักษณะการ มองเหน็ สง่ิ ตา่ ง ๆ เปน็ เกณฑใ์ นการจาแนกวตั ถนุ นั ๆ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

287 คมู่ อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 แรงและพลงั งาน ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 รหัส ทักษะ กจิ กรรมที่ 1  ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์  S1 การสังเกต S2 การวัด  S3 การใช้จานวน  S4 การจาแนกประเภท S5 การหาความสมั พันธ์ระหว่าง    สเปซกับสเปซ  สเปซกับเวลา S6 การจดั กระทาและส่ือความหมายขอ้ มลู S7 การพยากรณ์ S8 การลงความเห็นจากข้อมูล S9 การตังสมมตฐิ าน S10 การกาหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ S11 การกาหนดและควบคุมตัวแปร S12 การทดลอง S13 การตคี วามหมายข้อมลู และลงข้อสรุป S14 การสรา้ งแบบจาลอง ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 C1 การสร้างสรรค์ C2 การคิดอย่างมวี ิจารณญาณ C3 การแกป้ ัญหา C4 การสือ่ สาร C5 ความร่วมมือ C6 การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สาร  สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลงั งาน 288 แนวคิดคลาดเคลอื่ น ครบู ันทึกแนวคิดที่ไดจ้ ากการฟงั การสนทนาและการอภปิ ราย เพ่อื นาไปใชใ้ นการจดั การเรียนรใู้ ห้สามารถแกไ้ ขแนวคิด คลาดเคล่อื นและต่อยอดแนวคดิ ทถ่ี ูกตอ้ ง แนวคิดคลาดเคลื่อน แนวคิดท่ีถกู ตอ้ ง เมือ่ มองสงิ่ ต่าง ๆ ผ่านตวั กลางโปร่งแสง เราจะสังเกตเหน็ เมอ่ื มองส่งิ ต่าง ๆ ผ่านตวั กลางโปร่งแสง เราจะสังเกตเหน็ ส่งิ สิ่งเหลา่ นนั มลี ักษณะเหมือนเดมิ ทุกประการ (New York เหล่านันมีลักษณะไม่เหมือนเดมิ โดยภาพทเ่ี หน็ อาจไม่ชดั เจน Science Teacher, 2017) โดยอาจมรี ปู รา่ งเปลีย่ นไปจากเดิม สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 

289 ค่มู อื ครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 แรงและพลงั งาน บทน้เี รมิ่ ต้นอย่างไร (0.5 ช่วั โมง) 1. ครทู บทวนบทความร้พู นื ฐานของนักเรียนเกยี่ วกบั แสงและการ มองเห็นซ่ึงเคยเรยี นผา่ นมาแลว้ ในชันประถมศึกษาปีท่ี 2 โดยใช้ คาถาม ดังนี 1.1 เรามองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างไร (ถา้ สง่ิ นนั เป็นแหลง่ กาเนดิ แสง จะมแี สงจากแหล่งกาเนิดแสงเข้าส่ตู าโดยตรง แตถ่ ้าสิง่ นันไม่ได้ เป็นแหล่งกาเนิดแสง จะต้องมีแสงจากแหล่งกาเนิดแสงกระทบ วตั ถนุ นั เข้าส่ตู าเรา จึงทาให้เรามองเหน็ สง่ิ ต่าง ๆ ได้) 1.2 แสงเคลื่อนที่อยา่ งไร (แสงเคลื่อนทเ่ี ปน็ เส้นตรงและออกจาก แหลง่ กาเนิดแสงทุกทิศทาง) 2. ครูชักชวนนักเรียนศึกษาเกี่ยวกับตัวกลางของแสงโดยให้นักเรียน อ่านหนังสือเรียน บทที่ 2 ของหน่วยที่ 3 โดยเร่ิมจากการอ่าน ชื่อ หน่วย ช่ือบท และจุดประสงค์การเรียนรู้ประจาบท จากนันครู ซักถามว่าเม่ือจบบทเรียนนี นักเรียนจะสามารถทาอะไรได้บ้าง (บรรยายลกั ษณะการมองเหน็ สงิ่ ต่าง ๆ เมื่อมวี ัตถุต่างชนิดมากันแสง และจาแนกวัตถุท่ีใช้กันแสงโดยใช้ลักษณะการมองเห็นส่ิงต่างๆ นัน เปน็ เกณฑ)์ 3. นกั เรยี นอา่ นชอื่ บท แนวคิดสาคัญ ในหนงั สือเรยี นหน้า 124 จากนนั รว่ มกันอภิปรายว่าในบทนีจะเรียนเก่ียวกบั เร่อื งอะไร (การ มองเหน็ สิง่ ต่าง ๆ เมอื่ มีวตั ถุต่างชนดิ กนั มากันแสง) 4. นักเรียนอ่านเนือเรื่องในหนังสือเรียนหน้า 124 โดยครูอาจใช้วิธีฝึก การอ่านที่เหมาะสมกับนักเรียน จากนันให้นักเรียนอภิปรายเนือ เร่ืองท่ีอ่านเพื่อตรวจสอบความรู้เดิมของนักเรียน ด้วยคาถาม ดังนี 4.1 นักเรยี นสังเกตเหน็ อะไรในภาพบ้าง (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ ของตนเอง เชน่ เห็นตน้ ไม้ ถนน รถยนต์ หมอก ควันไฟ) 4.2 สถานการณ์ในรูปนีส่งผลต่อความปลอดภัยในการขับข่ีหรือไม่ อย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น ส่งผลทา ให้ไม่สามารถมองเหน็ รถยนตท์ สี่ วนทางมาได้) 4.3 สถานการณ์ดังกล่าวเก่ียวข้องกับตัวกลางของแสงหรอื ไม่ อยา่ งไร (นกั เรยี นตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง)  สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู อื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลังงาน 290 5. ครูชกั ชวนนักเรยี นทาสารวจความรูก้ อ่ นเรียน ในแบบบันทึก ค รู รั บ ฟั ง เ ห ตุ ผ ล ข อ ง กจิ กรรมหน้า 110 โดยอา่ นช่ือหนว่ ย ช่ือบท นักเรียนเป็นสาคัญ ครูยังไม่ เฉลยคาตอบใด ๆ แต่ชักชวนให้ 6. นกั เรยี นอา่ นคาถาม ครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนเกี่ยวกับ หาคาตอบท่ีถูกต้องจากกิจกรรม คาถามแต่ละข้อจนแน่ใจว่านกั เรยี นสามารถทาได้ด้วยตนเองจงึ ให้ ต่าง ๆ ในบทเรียนี นกั เรยี นตอบคาถาม โดยคาตอบของแตล่ ะคนอาจแตกต่างกันและ คาตอบอาจถูกหรอื ผดิ ก็ได้ การเตรียมตวั ลว่ งหนา้ สาหรับครู เพ่อื จดั การเรียนรใู้ นครง้ั ถดั ไป 7. ครสู ังเกตการตอบคาถามของนกั เรียนเพื่อตรวจสอบวา่ นกั เรยี นมี แนวคดิ เก่ยี วกับตัวกลางของแสงอย่างไรบ้าง ครูอาจสมุ่ ใหน้ ักเรยี น ในครังถัดไป นักเรียนจะได้อ่าน 2-3 คน นาเสนอคาตอบของตนเอง โดยครยู ังไมเ่ ฉลยคาตอบแต่จะ เร่ืองท่ี 1 การมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ผ่านวัตถุ ใหน้ กั เรียนย้อนกลบั มาตรวจสอบคาตอบของตนเองอกี ครงั หลงั จาก ที่นามากันแสง ครูอาจเตรียมอุปกรณ์ส่ือ เรยี นจบบทเรยี นนแี ลว้ ทงั นีครอู าจบนั ทกึ แนวคิดคลาดเคล่ือนหรือ การสอนมาแสดงเพื่อช่วยให้นักเรียน แนวคิดทน่ี ่าสนใจของนักเรยี น แลว้ นามาออกแบบการจดั การเรยี น เข้าใจเรื่องที่อ่านมากยิ่งขึน ได้แก่ การสอนเพื่อแกไ้ ขแนวคดิ ที่คลาดเคลือ่ นให้ถูกต้อง ตัวกลางของแสง ซ่ึงเป็นวัตถุที่แสงผ่าน ได้ เช่น กระจกใส แว่นตากันแดด กระดาษไข นา และวัตถุทึบแสง ซ่ึงเป็น วัตถุท่ีแสงไม่สามารถผ่านได้ เช่น กระดาษแข็ง กระจกเงา สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

291 คู่มือครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 แรงและพลงั งาน แนวคาตอบในแบบบันทึกกจิ กรรม การสารวจความรกู้ ่อนเรยี น นกั เรียนอาจตอบคาถามถูกหรือผดิ ก็ได้ขึนอย่กู บั ความรเู้ ดมิ ของนักเรยี น แตเ่ ม่อื เรยี นจบบทเรยี นแล้ว ให้นักเรียนกลับมาตรวจสอบคาตอบอกี ครังและแก้ไขให้ถกู ต้อง ดังตวั อย่าง ทึบ ร่มทึบเปน็ วัตถุทึบแสง ซึ่งแสงไม่ สามารถผ่านไดจ้ งึ สามารถนามาใช้ กนั แดดได้  สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 3 แรงและพลังงาน 292 เรือ่ งท่ี 1 การมองเห็นสิง่ ตา่ ง ๆ ผา่ นวัตถุทนี่ ามาก้ัน ในเร่ืองนีนักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการมองเห็น ส่ิงต่าง ๆ ผ่านวัตถุที่นามากันแสง ซ่ึงมีการจาแนกวัตถุท่ี นามากันแสงโดยใช้ลักษณะการมองเห็นเป็นเกณฑ์ โดย วัตถุที่แสงผ่านได้เรียกว่าตัวกลางของแสง ส่วนวัตถุท่ีแสง ผ่านไม่ไดเ้ รยี กวา่ วตั ถุทบึ แสง จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายและบอกความแตกตา่ งระหวา่ งตัวกลางของแสง และวัตถุทบึ แสง 2. สังเกตและจาแนกวัตถุท่ีนามาใช้กันแสงตามลักษณะ การมองเหน็ เปลวเทียนไขเม่ือมองผา่ นวัตถนุ ัน ๆ เวลา 2.5 ชวั่ โมง วสั ดุ อปุ กรณ์สาหรับทากจิ กรรม สื่อการเรียนรู้และแหลง่ เรียนรู้ แผ่นไม้ เทียนไข กระดาษแก้วสีต่าง ๆ กระดาษไข 1. หนังสอื เรยี น ป.4 เล่ม 1 หนา้ 126-131 กระจกฝ้า แผ่นพลาสติกขุ่น กระดาษแข็ง ไม้ขีดไฟ แผ่น 2. แบบบันทกึ กจิ กรรม ป.4 เลม่ 1 หนา้ 110-116 พลาสติก สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

293 คูม่ อื ครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 แรงและพลังงาน แนวการจัดการเรยี นรู้ (30 นาท)ี ขัน้ ตรวจสอบความรู้ (5 นาที) 1. ครูนาส่ิงของต่าง ๆ เช่น กระจกเงา กระจกใส แว่นกันแดด กระดาษ ไข นา มาให้นักเรียนลองจาแนกตามความเข้าใจของตนเองโดยใช้ ความรู้เก่ียวกับแสงและการมองเห็น ครูให้นักเรียนบอกเกณฑ์ที่ใช้ใน การจัดกลุ่มและอธิบายว่าสามารถจัดส่ิงของต่าง ๆ ได้กี่กลุ่ม แต่ละ กลมุ่ มอี ะไรบา้ ง ข้ันฝึกทกั ษะจากการอา่ น (20 นาที) ในการตรวจสอบความรู้ ครู เพียงรับฟังเหตุผลของนักเรียนและ 2. นกั เรยี นอ่านชอื่ เร่ือง และคาถามในคิดก่อนอ่าน ในหนังสือเรียนหน้า ยังไม่เฉลยคาตอบใด ๆ แต่ชักชวน 126 จากนันนักเรียนตอบคาถามตามความเข้าใจของตนเอง ครู ให้นักเรียนไปหาคาตอบด้วยตนเอง บันทึกคาตอบของนักเรียนบนกระดานเพ่ือใช้เปรียบเทียบกับคาตอบ จากการอา่ นเนอื เรอื่ ง หลังจากอา่ นเนอื เรอ่ื ง 3. นักเรียนอ่านคาในคาสาคัญ ทังภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (หาก นักเรียนอ่านไม่ได้ ครูควรสอนการอ่านให้ถูกต้อง) ครูชักชวนให้ นักเรียนหาความหมายของคาตา่ ง ๆ จากการอ่านเนือเรื่อง 4. นักเรียนอ่านเนือเร่ืองตามวิธีการอ่านที่เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน จากนันรว่ มกันอภิปรายใจความสาคญั ตามแนวคาถาม ดงั นี 4.1 เรามองเห็นวัตถุต่าง ๆ ได้ เพราะเหตุใด (เพราะมีแสงจากวัตถุมา เข้าตาของเรา) 4.2 ตัวกลางของแสงคืออะไร (วตั ถทุ ก่ี นั แสงแลว้ แสงผ่านได)้ 4.3 วัตถุทึบแสงคอื อะไร (วัตถทุ ก่ี ันแสงแลว้ แสงผ่านไม่ได)้ ข้ันสรุปจากการอ่าน (5 นาท)ี 5. ครูชักชวนนักเรียนรว่ มกันสรปุ เรอ่ื งทีอ่ ่านซึง่ ควรสรุปได้ว่าตัวกลางของ แสงเป็นวตั ถทุ ่แี สงผ่านได้ ส่วนวตั ถุท่ีแสงผา่ นไมไ่ ดเ้ ปน็ วัตถทุ บึ แสง 6. นักเรียนตอบคาถามจากเรื่องที่อ่านในรู้หรือยัง ในแบบบันทึก กิจกรรม หน้า 110  สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มอื ครรู ายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 3 แรงและพลงั งาน 294 7. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อเปรียบเทียบคาตอบของนักเรียน ใ น รู้ ห รื อ ยั ง กั บ ค า ต อ บ ที่ เ ค ย ต อ บ แ ล ะ บั น ทึ ก ไ ว้ ใ น คิ ด ก่ อ น อ่ า น นอกจากนันนักเรียนอภิปรายเก่ียวกับการจาแนกสิ่งของต่าง ๆ ท่ีครู นามาในตอนต้นอีกครังโดยสง่ิ ของดังกล่าวจัดแบ่งได้เป็นกลุ่มตัวกลาง ของแสงและวตั ถทุ ึบแสง 8. ครูชักชวนนักเรียนตอบคาถามท้ายเรื่องท่ีอ่านตามคาถามที่ว่า ตวั กลางโปร่งใสและตัวกลางโปร่งแสงทาให้เรามองเห็นวัตถุได้ชัดเจน ต่างกันอย่างไร ครูบันทึกคาตอบของนักเรียนบนกระดานโดยยังไม่ เฉลยคาตอบแต่ชักชวนให้นักเรียนหาคาตอบจากการทากิจกรรม ต่อไป 9. นกั เรยี นอ่านและรว่ มกันอภิปรายเกรด็ นา่ รู้ในหนงั สอื เรียน หนา้ 127 การเตรียมตัวล่วงหนา้ สาหรบั ครู เพ่ือจดั การเรียนรู้ในครงั้ ถัดไป ในครังถัดไป นักเรียนจะได้ทา กจิ กรรมที่ 1 ลักษณะการมองเห็นต่างกัน อย่างไรเมื่อมีวัตถุมากันแสง การทา กิจกรรมนี นักเรียนจะต้องสังเกตและ จาแนกวัตถทุ นี่ ามาใช้กันแสงตามลักษณะ การมองเห็น ครูควรเตรียมห้องเรียนให้ มืดเพ่ือให้นักเรียนสามารถสังเกตแสงจาก เปลวเทยี นไขได้ชัดเจน สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 

295 ค่มู ือครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 แรงและพลงั งาน แนวคาตอบในแบบบันทกึ กิจกรรม วตั ถุทแี่ สงผ่านได้  สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 3 แรงและพลังงาน 296 มี 2 ประเภท คอื ตัวกลางโปร่งใสและตวั กลางโปร่งแสง วตั ถุที่แสงไม่สามารถผา่ นได้ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

297 ค่มู อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หน่วยที่ 3 แรงและพลังงาน กิจกรรมท่ี 1 ลักษณะการมองเห็นต่างกันอยา่ งไรเม่ือมวี ัตถุมากนั้ แสง กิจกรรมนีนักเรียนจะได้สังเกตและจาแนกวัตถุท่ีใช้ กันแสง โดยใช้ลักษณะการมองเห็นแหล่งกาเนิดแสงเมื่อมอง ผา่ นวัตถุนัน ๆ เปน็ เกณฑ์ เวลา 2 ชวั่ โมง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สังเกตและจาแนกวัตถุที่นามาใช้กันแสงตามลักษณะ การมองเห็นเปลวเทียนไขเมอื่ มองผา่ นวตั ถนุ ัน ๆ วสั ดุ อุปกรณ์สาหรบั ทากจิ กรรม สง่ิ ท่ีครตู ้องเตรยี ม/กลมุ่ 1. แผน่ ไม้ 1 แผน่ 2. กระดาษไข 1 แผ่น 3. กระดาษแข็ง 1 แผ่น 4. เทียนไข 1 เลม่ 5. กระจกฝา้ 1 แผน่ 6. ไม้ขดี ไฟ 1 กลัก 7. กระดาษแกว้ สีตา่ ง ๆ 2 แผน่ ส่อื การเรยี นรู้และแหลง่ เรียนรู้ หนา้ 128-126 8. แผ่นพลาสติกสขี นุ่ 1 แผ่น 9. แผน่ พลาสตกิ ใส 1 แผน่ 1. หนงั สอื เรียน ป.4 เลม่ 1 ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 2. แบบบนั ทกึ กจิ กรรม ป.4 เลม่ 1 หน้า 111-115 S1 การสังเกต 3. ตัวอย่างวีดิทัศน์ปฏิบัติการวิทยาศาสตร์เรื่องมองเห็นต่างกัน S4 การจาแนกประเภท อยา่ งไรเม่อื มีวัตถกุ นั http://ipst.me/8049 S7 การพยากรณ์ S8 การลงความเหน็ จากข้อมูล ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 C4 การส่ือสาร C5 ความร่วมมือ  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 3 แรงและพลังงาน 298 แนวการจดั การเรียนรู้ ค รู รั บ ฟั ง เ ห ตุ ผ ล ข อ ง นักเรียนเป็นสาคัญ ครูยังไม่ 1. ครูนาเข้าสู่บทเรียน โดยแจกกระจกใสให้นักเรียนมองวัตถุต่าง ๆ ผ่าน เฉลยคาตอบใด ๆ แต่ชักชวนให้ กระจกใส ครูนาเตรียมแก้วท่ีบรรจุนาร้อน แล้วให้นักเรียนนากระจกใสมา หาคาตอบที่ถูกต้องจากกิจกรรม อังที่ปากแก้ว จากนันให้นักเรียนมองวัตถุต่าง ๆ ผ่านกระจกอีกครัง ครู ตา่ ง ๆ ในบทเรียนี ซักถามดว้ ยคาถาม ดังนี 1.1 การมองวตั ถตุ า่ ง ๆ ผา่ นกระจกใสก่อนและหลังการนากระจกใสมาอัง ความร้อนจากแก้วนาร้อนต่างกันหรือไม่ อย่างไร (นักเรียนตอบตาม ความเข้าใจของตนเอง เช่น ต่างกัน เม่ือมองสิ่งต่าง ๆ ผ่านกระจกใส ในตอนแรก จะมองเหน็ สิ่งต่าง ๆ ไดช้ ดั เจน แต่เมื่อมองส่ิงต่าง ๆ ผ่าน กระจกที่นามาอังท่ีปากแก้วแล้ว จะมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ แต่ไม่ ชดั เจน) 2. นักเรียนอ่านช่ือกิจกรรม และทาเป็นคิดเป็น จากหนังสือเรียนหน้า 128 จากนันครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนเก่ียวกับสิ่งท่ีจะเรียน โดยใช้ คาถาม ดังนี 2.1 กิจกรรมนีนักเรียนจะได้เรียนรู้เก่ียวกับเรื่องอะไร (การมองเห็นเปลว เทียนไขเมื่อมองผ่านวัตถุต่าง ๆ ที่นามากัน และการจาแนกวัตถุตาม ลกั ษณะการมองเห็น) 2.2 นักเรยี นจะไดเ้ รยี นเร่ืองนดี ้วยวธิ ใี ด (การสังเกต) 2.3 เม่ือเรยี นแล้วนักเรียนจะทาอะไรได้ (จาแนกวัตถุทนี่ ามาใช้กันแสงตาม ลักษณะการมองเหน็ เปลวเทยี นไขเม่อื มองผ่านวัตถนุ ันๆ) 3. นักเรยี นบันทกึ จดุ ประสงคข์ องกิจกรรมในแบบบันทกึ กจิ กรรม หนา้ 111 4. นักเรียนอ่านส่ิงที่ต้องใช้ว่าต้องใช้วัสดุอุปกรณ์อะไรบ้าง ซึ่งครูอาจนา อุปกรณ์ต่าง ๆ มาให้นักเรียนดู แล้วให้นักเรียนบอกชื่ออุปกรณ์และวิธีใช้ อปุ กรณ์ ครูอาจอธิบายหรอื ให้คาแนะนาเพ่มิ เตมิ รวมทงั วธิ ีใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ในกรณีท่ีนักเรียนไม่รู้จักอุปกรณ์นัน ๆ ทังนีครูยังไม่แจกอุปกรณ์ใด ๆ แกน่ ักเรยี น 5. นักเรียนอ่านทาอยา่ งไร ในหนงั สือเรียนหนา้ 128 โดยครูอาจใช้วิธีการอ่าน ท่ีเหมาะสมกบั ความสามารถของนักเรียน จากนันครูตรวจสอบความเข้าใจ ขันตอนการทากิจกรรมทีละขันจนแน่ใจว่านักเรียนสามารถทาได้ ครูนา อภิปรายเกย่ี วกบั ขนั ตอนการทากิจกรรมตามแนวคาถาม ดงั นี 5.1 ขันตอนแรกของการทากิจกรรม นักเรียนต้องทาอะไร (สังเกตและ อภปิ รายลักษณะของวัตถุตา่ ง ๆ ทจี่ ะนามากนั แสง) สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 

เมื่อแตะข้างขวดทั้ง 2 ใบให้เริ่มเคลื่อนที่ขวดใบใดเคลื่อนที่ยากกว่ากันรู้ได้อย่างไร

2. เมื่อแตะข้างขวดทั้ง 2 ใบ ให้เริ่มเคลื่อนที่ ขวดใบไดเคลื่อนที่ได้ยากกว่ากัน รู้ได้อย่างไร ขวดที่มีทรายเต็มขวดเคลื่อนที่ได้ยากกว่า รู้ได้จากต้องออกแรงในการแตะข้าง ขวดมากกว่า

ขวดที่ใส่ทรายทั้งสองใบมีมวลแตกต่างกันหรือไม่อย่างไร

คาตอบ ขวดทั้งสองใบมีมวลต่างกัน โดยขวดที่มีปริมาณ ทรายมาก จะมีมวลมาก และขวดที่มีปริมาณ ทรายน้อย จะมีมวลน้อย มวลน้อย มวลมาก

วัตถุที่มีมวลมากจะส่งผลต่อการเคลื่อนที่อย่างไร

มวล คือ ปริมาณเนื้อของสารทั้งหมดที่ประกอบกันเป็นวัตถุ โดยน้ำหนักของวัตถุจะขึ้นอยู่กับมวลของวัตถุ ถ้ามวลมากน้ำหนักก็จะมากและมวลน้อยน้ำหนักก็จะน้อยมวลยังมีผลต่อความยากง่ายในการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ของวัตถุ วัตถุที่มีมวลมากจะเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ได้ยากกว่าวัตถุที่มีมวลน้อย ดังนั้น มวลของวัตถุนอกจากจะหมายถึงเนื้อ ...

แรงอะไรที่จะเกิดพร้อมกันเสมอ

1. แรงกิริยาและแรงปฏิกิริยาจะเกิดพร้อมกันเสมอ 2. แรงคู่กิริยา – ปฏิกิริยาเป็นแรงที่กระทำต่อวัตถุคนละวัตถุกัน ดังนั้นแรงคู่นี้จึงรวมกันไม่ได้ 3. แรงคู่กิริยา - ปฏิกิริยาเกิดขึ้นได้ทั้งกรณีที่วัตถุสัมผัสกันหรือไม่สัมผัสกันก็ได้