เงื่อนไขการให้เครดิต 2/10,n/45 หมายถึงอะไร

ส่วนลดเงินสด คืออะไร?

Cash Discount หรือ ส่วนลดเงินสด คือ ส่วนลดที่เจ้าหนี้การค้าจะให้ส่วนลดกับลูกหนี้การค้าที่จ่ายชำระหนี้เป็นเงินสดก่อนครบกำหนดการชำระหนี้ ในกรณีทั้ง 2 ฝ่ายมีการซื้อขายกันด้วยการใช้ Credit Term ส่วนลดเงินสด หรือ Cash Discount มีประโยชน์ในการกระตุ้นลูกหนี้การค้าให้จ่ายเงินสดก่อนเวลา เพื่อทำให้บริษัทได้เงินสดมาใช้หมุนเวียนในธุรกิจทันที (ไม่ต้องรอครบกำหนดจ่ายหนี้)

ตัวอย่างเช่น กำหนดชำระหนี้ของบริษัท A ที่ต้องชำระหนี้ให้บริษัท B คือ 45 วัน แต่ถ้าหากว่าลูกหนี้การค้า (บริษัท A) ชำระหนี้ภายใน 15 วันจะได้รับ ส่วนลดเงินสด (Cash Discount) 3%

จากตัวอย่าง จะสามารถเขียนเป็นสัญลักษณ์ของส่วนลดเงินสดได้ดังนี้ “3/15, n/45” จากสัญลักษณ์ด้านบนสัญลักษณ์แต่ละตัวมีความหมายจากซ้ายไปขวา ดังนี้

3 (ตัวแรก) คือ ส่วนลดที่ลูกหนี้จะได้รับถ้าหากชำระหนี้ก่อนกำหนด ในที่นี้คือ 3%

15 (ตัวที่สอง) คือ กำหนดระยะเวลาที่ลูกหนี้การค้าชำระเงินสดแล้วจะได้รับส่วนลด ในที่นี้คือ 15 วัน

n/45 คือ กำหนดชำระหนี้ตามปกติของลูกหนี้การค้า (n ย่อมาจาก net) จากตัวอย่างคือ 45 วัน

ในส่วนของการลงบัญชีราคาสินค้าที่ผู้ขายได้มีการให้ส่วนลดเงินสดหรือ Cash Discount จะเป็นการลงบัญชีด้วยราคาเต็มเมื่อขายสินค้าได้ ไม่ได้หักส่วนลดออกก่อนลงบัญชีเหมือนกับกรณีส่วนลดการค้า (Trade Discount)


ประเภทของส่วนลดเงินสด

สำหรับประเภทของส่วนลดเงินสดหรือ Cash Discount จะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่

  • ส่วนลดรับ (Purchase Discount)
  • ส่วนลดจ่าย (Sales Discount)

ส่วนลดรับ (Purchase Discount)

ส่วนลดรับ คือ จำนวนเงินที่ผู้ซื้อ (ลูกหนี้การค้า) ได้รับจากผู้ขาย (เจ้าหนี้การค้า) จากการที่ผู้ซื้อชำระหนี้ภายในระยะเวลาเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในเงื่อนไขการชำระเงิน

ส่วนลดรับจะเป็นรายการที่ทำให้ต้นทุนสินค้าที่ซื้อสินค้ามาขายลดลง

ส่วนลดจ่าย (Sales Discount)

ส่วนลดจ่าย คือ จำนวนเงินที่ผู้ขาย (เจ้าหนี้การค้า) ได้ลดให้ผู้ซื้อ (ลูกหนี้การค้า) จากการที่ผู้ซื้อชำระหนี้ในระยะเวลาเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในเงื่อนไขการชำระเงิน

ส่วนลดจ่ายจะเป็นรายการที่ทำให้รายได้จากการขายสินค้าของผู้ขายลดลง

เงื่อนไขการชำระหนี้

เงื่อนไขการให้เครดิต 2/10,n/45 หมายถึงอะไร
แข่งขันตอบปัญหาทางการบัญชีของนักเรียนระดับชั้น ปวช.ได้รางวัลชมเชย จากทั้งหมด 56 วิทยาลัยฯ

เงื่อนไขการชำระหนี้

n                            =     วันครบกำหนดชำระหนี้

n/30                       =      วันครบกำหนดชำระหนี้ภายใน 30 วัน

เช่น ซื้อสินค้าวันที่ 9 มีนาคม 25X1 ตามเงื่อนไข n/30 วันครบกำหนดชำระหนี้มีวิธีการคำนวณดังนี้

                                มี.ค.(31-9)                             22      

                                เม.ย.                                       8                วันครบกำหนด

                                                                               30

2/10                       =     ถ้าชำระหนี้ภายใน 10 วันจะได้รับส่วนลด 2%

เช่น ซื้อสินค้าวันที่ 10 ม.ค.25X1   วันสุดท้ายที่ได้รับส่วนลดคือวันที่ 20 ม.ค. 25X1

                                  ม.ค. (วันชำระ)                       20

                            หัก ม.ค. (วันที่ซื้อ)                      10

                            จำนวนวัน                                    10

2/10, n/30             =     วันครบกำหนดชำระหนี้ภายใน 30 วัน ถ้าชำระหนี้ภายใน 10 วันจะได้รับ

                                    ส่วนลด 2%

E.O.M.                  =      ครบกำหนดวันสิ้นเดือนที่ซื้อสินค้า

เช่น ซื้อสินค้าวันที่ 19 ธันวาคม วันครบกำหนดชำระหนี้คือ วันที่  31 ธันวาคม

        ซื้อสินค้าวันที่ 5   มกราคม วันครบกำหนดชำระหนี้คือ วันที่  31 มกราคม

10 E.O.M.             =      วันที่ 10 เดือนถัดไปจากเดือนที่ซื้อสินค้า

เช่น ซื้อสินค้าวันที่ 19 ธันวาคม วันครบกำหนดชำระหนี้คือ วันที่  10 มกราคม

        ซื้อสินค้าวันที่ 5   มกราคม วันครบกำหนดชำระหนี้คือ วันที่ 10 กุมภาพันธ์

2/10 E.O.M.,n/60 =      กำหนดชำระหนี้ 60 วัน ถ้าชำระหนี้วันที่ 10 เดือนถัดไปจะได้รับส่วนลด 2%

ถ้าต้องการส่วนลด 2% ตามเงื่อนไขนี้มีวิธีการคำนวณดังนี้

เช่น ซื้อสินค้าวันที่ 19 ธันวาคม วันที่ควรชำระหนี้คือ วันที่  10 มกราคม

        ซื้อสินค้าวันที่ 5   มกราคม วันที่ควรชำระหนี้คือ วันที่  10 กุมภาพันธ์