สัมภาษณ์ บริษัทญี่ปุ่น รอบ สอง

 การจะทำให้นายจ้างเลือกคุณเข้าทำงาน ต้องมีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ให้การสัมภาษณ์งานเป็นโอกาสดี ๆ ที่จะทำให้นายจ้างเลือกคุณ ด้วยคำแนะนำต่อไปนี้

1.      ทำความรู้จักองค์กร

หากคุณมีคนรู้จักอยู่ในองค์กรที่คุณสมัครงาน นี่คือโอกาสทองของคุณที่จะ ขอข้อมูลจากเขา เพราะคุณจะได้ข้อมูลที่ลึกซึ้งกว่าหาด้วยตนเอง หรือหากไม่มีคนรู้จักวิธีง่ายที่สุดคือ เข้าเว็บไซต์ขององค์กรและอ่านข่าวต่าง ๆ ทางอินเทอร์เน็ต ในวันสัมภาษณ์งานควรมีการพูดคุยเกี่ยวกับ องค์กร พรีเซนต์ให้เขารู้ว่าคุณเหมาะสมกับองค์กรเพียงใด คุณสามารถช่วยองค์กรให้ไปถึงเป้าหมาย ได้อย่างไร

2. รู้จักตัวเอง

สำรวจตัวเองในเรื่องต่าง ๆ คุณเก่งอะไร อ่อนอะไร ความสำเร็จที่ผ่านมาของคุณมีอะไรบ้าง มีคุณสมบัติตรงตามที่นายจ้างต้องการอย่างไร และคุณจะนำความสามารถเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับองค์กรได้อย่างไร

สัมภาษณ์ บริษัทญี่ปุ่น รอบ สอง

3. รู้จักถามคำถาม

ในการสัมภาษณ์งานไม่ควรเป็นฝ่ายตอบอย่างเดียว ควรมีการถามกลับผู้สัมภาษณ์ด้วย เพราะคุณเองก็เป็นฝ่ายเลือกเหมือนกัน โดยลักษณะคำถามของคุณบ่งบอกได้ถึงระดับความสนใจที่คุณมีต่องานและต่อองค์กรนั้น หากไม่รู้ว่าจะถามอะไรดี ลองดูตัวอย่างคำถามต่อไปนี้เป็นแนวทางค่ะ คำถามที่ควรถามผู้สัมภาษณ์งาน

4. เตรียมตัวตอบคำถามที่มักพบเสมอ

เช่น ประวัติการศึกษา ลักษณะนิสัย ความสามารถในการบริหารจัดการ ความเหมาะสมกับตำแหน่งงาน เงินเดือนล่าสุดและเงินเดือนที่ต้องการ ประสบการณ์ งานอดิเรก เป็นต้น การเตรียมพร้อมล่วงหน้าจะทำให้คุณสามารถทำเสนอได้ดี รู้ว่าควรตอบคำถามสัมภาษณ์งานอย่างไรให้น่าสนใจ และยกตัวอย่างประสบการณ์ที่ผ่านมาประกอบการอธิบายให้ชัดเจน

5. พูดถึงอนาคต

ไม่กล่าวโทษอดีต แม้ว่าคุณอาจออกจากงานเก่า เพราะเขาไม่ยุติธรรมกับคุณ เงินเดือนน้อย ไม่มีโอกาสเติบโต คุณไม่ควรพูดในเชิงตำหนิผู้อื่น แต่ควรเปลี่ยนวิธีพูดมุ่งไปยังอนาคตว่า คุณต้องการโอกาสใหม่ ๆ ในการพิสูจน์ฝีมือ คุณคิดว่าด้วยทักษะของคุณแล้วคุณสามารถทำงานนี้ได้ดี และมีโอกาสเติบโต

สัมภาษณ์ บริษัทญี่ปุ่น รอบ สอง
6. สร้างความประทับใจในการสัมภาษณ์งาน

ใคร ๆ ก็อยากจ้างคนที่เห็นแล้วรู้สึกชอบ ประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่พบ ดังนั้น ควรไปถึงก่อนเวลา แต่งกายแบบมืออาชีพ มีท่าทีที่เป็นมิตร เข้ากับคนง่าย ยิ้มแย้ม สบตากับผู้สัมภาษณ์ มีทัศนคติเชิงบวก เล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ดูมีชีวิตชีวา อย่าลืมกล่าวขอบคุณผู้สัมภาษณ์ด้วย จะช่วยสร้างการจดจำและสร้างความประทับใจได้ดี

7. ตกลงเรื่องค่าจ้างและสวัสดิการให้เรียบร้อย

เมื่อการสัมภาษณ์มีแนวโน้มที่ดีควรมีการพูดคุยเรื่องค่าจ้าง สวัสดิการ โบนัส วันทำงาน วันหยุดต่าง ๆ ให้เข้าใจตรงกันเสียก่อน ว่าคุณรับได้หรือไม่ และนายจ้างมีกำลังในการจ่ายหรือไม่ หากคุณต้องการทำงานจันทร์-ศุกร์แต่ที่นี่ต้องทำงานวันเสาร์ด้วย งานนี้ก็อาจไม่เหมาะสำหรับคุณเสียแล้ว ดังนั้น จึงควรทำความเข้าใจกันให้เรียบร้อย หากไม่ติดขัดในเรื่องใด ๆ โอกาสที่คุณจะได้งานก็ใกล้เข้ามายิ่งขึ้น

การสมัครงานทุกวันนี้มีหลากหลายรูปแบบด้วยกันด้วยความทันสมัยและเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้เราสามารถสมัครงานผ่านเว็บไซต์ได้หรือส่งประวัติผ่านอีเมลล์ได้แต่ขั้นตอนสำคัญที่สุดในการที่เราจะได้ร่วมงานกับบริษัทที่เราใฝ่ฝันก็คือการสัมภาษณ์งาน ซึ่งเราจะได้มีโอกาสเข้ามาดูบรรยากาศการทำงานสถานที่ทำงานรวมถึงได้พบกับบุคคลากรของบริษัทนั้นๆซึ่งเป็นโอกาสที่เราจะได้แสดงตัวตนของเราและสร้างความประทับใจให้กับบริษัทได้โดยตรง

เพราะฉะนั้นการเตรียมความพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์งานจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก นอกจากเรื่องบุคลิกภาพการแต่งกายที่เราได้พูดถึงในบทความก่อนหน้านี้แล้ว (สามารถอ่านได้ที่บทความนี้https://pasona.co.th/b/1144)

การเตรียมพร้อมสำหรับคำถามรวมถึงข้อมูลบริษัทก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันหรืออาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ เพราะเป็นวัดทัศนคติและความเหมาะสมสำหรับตำแหน่งงานนั้นๆอย่างแท้จริงแน่นอนว่าเราไม่สามารถคาดเดาสิ่งที่ผู้สัมภาษณ์จะถามกับเราได้ แต่เราสามารถเตรียมตัวสำหรับแนวคำถามต่างๆเพื่อเพิ่มโอกาสให้กับตัวเองได้ถ้าอย่างนั้นเรามาเตรียมความพร้อมกันดีกว่าค่ะว่าคำถามที่มักจะเจอในการสัมภาษณ์งานมีอะไรบ้าง ซึ่งแนวคำถามต่างๆที่พบเจอได้บ่อยครั้งในการสัมภาษณ์จะขอยกตัวอย่างจากเว็บไซต์หางานชื่อดัง JobsDB.com

คำถามเล่าเรื่องคุณให้เราฟังหน่อย

แนวทางการตอบ : คำถามนี้แม้จะเหมือนกับทางบริษัทอยากรู้จักคุณเพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่ควรเล่าเรื่องส่วนตัวเช่นคุณเป็นคนอย่างไร ชอบอะไรหรือมีงานอดิเรกอะไรควรเน้นเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับคุณสมบัติของคุณเรียนจบอะไรมามีประสบการณ์การทำงานอะไรมาบ้างและเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเตรียมตัวเป็นผู้สมัครที่ดีที่สุดของงานนี้ โดยในแต่ละเรื่องที่คุณเล่าควรมีเหตุการณ์หรือมีการยกตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมประกอบด้วย

คำถามทำไมเราควรจ้างคุณ

แนวทางการตอบ : คุณสามารถตอบได้ว่าคุณเป็นผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งนี้โดยให้เหตุผลที่เหมาะสมเพิ่มเติมดังนั้นสิ่งที่คุณต้องรู้เพื่อจะตอบคำถามนี้ให้ได้ดีคือรายละเอียดของตำแหน่งงานและบริษัทที่คุณสมัครและสิ่งที่คุณจะสามารถให้กับองค์กรได้ ความรู้ความสามารถใดที่มีแต่อาจจะยังไม่เกี่ยวกับตำแหน่งนี้โดยตรงก็สามารถยกขึ้นมาพูดได้หากคุณเล็งเห็นว่ามันจะมีประโยชน์กับองค์กรได้ในอนาคต

คำถามทำไมคุณจึงสนใจงานนี้ทำไมคุณจึงลาออกจากที่ทำงานเก่า

แนวทางการตอบ : สำหรับสองคำถามนี้ให้ตอบโดยเน้นไปที่ตัวงานไม่ใช่เงินเดือนสวัสดิการที่ดีกว่า เช่นสนใจงานนี้เพราะมีความท้าทายในตัวงานที่คุณคิดว่าคุณสามารถทำได้จากคุณสมบัติที่คุณมีโดยยกเหตุผลและตัวอย่างด้วยเช่นเดียวกับคำถามเรื่องการลาออกจากที่เก่าก็สามารถตอบได้ในทำนองเดียวกันโดยควรหลีกเลี่ยงการพูดถึงปัญหาความสัมพันธ์กับเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานหรืออะไรก็ตามที่เป็นการพูดในแง่ไม่ดีถึงบริษัทเก่าของคุณ

คำถามข้อด้อยของคุณคืออะไร

แนวทางการตอบ : หลายคนเลือกตอบคำถามนี้ด้วยการพยายามทำให้ข้อด้อยกลายเป็นข้อดีขึ้นมาเพราะไม่อยากพูดถึงข้อเสียของตัวเองเช่นเป็นคนให้ความสำคัญกับงานมากจนไม่มีเวลาทำอย่างอื่นอาจจะดูเหมือนเป็นคำตอบที่ดีแต่ก็แฝงไปด้วยความหมายว่าคุณบริหารจัดการเวลาไม่ค่อยเป็น ในความเป็นจริงแล้วคุณสามารถพูดถึงข้อด้อยของตัวเองได้อย่างตรงไปตรงมาแต่ควรเป็นสิ่งที่คุณได้พยายามแก้ไขจนดีขึ้นแล้วยกตัวอย่างเช่นเคยเป็นคนบริหารจัดการเวลาไม่ค่อยเป็นทำให้ไม่ค่อยมีเวลาให้ชีวิตส่วนตัวภายหลังจึงเลือกใช้วิธีจัดลำดับความสำคัญของงานจัดทำ to do list หรือใช้ application มือถือช่วยจัดตารางการทำงานเป็นต้น

คำถามเป้าหมายระยะยาวของคุณคืออะไร

แนวทางการตอบ : บางครั้งอาจจะเป็นคำถามว่าคุณเห็นตัวเองเป็นอย่างไรใน 5 ปีต่อจากนี้คุณสามารถตอบได้ตามความฝันของคุณเช่นอยากนั่งตำแหน่งหัวหน้างานหรือผู้จัดการแผนกแต่ก็ควรพิจารณาเลือกเป้าหมายที่มีความเป็นไปได้ตามกรอบเวลานั้น และควรยกตัวอย่างประกอบด้วยว่าคุณวางแผนอย่างไรที่จะไปถึงเป้าหมายคุณจะพัฒนาความสามารถอย่างไรให้เหมาะสมกับตำแหน่งนั้นความท้าทายและอุปสรรคในการเดินไปถึงจุดหมายคืออะไรและคุณคิดว่าจะจัดการกับมันอย่างไร

จะเห็นได้ว่าการตอบคำถามในการสัมภาษณ์งานนั้นคุณไม่จำเป็นต้องคิดคำตอบให้สวยหรูดูดีเสมอไปการตอบตามความเป็นจริงนั้นดีที่สุด เพราะเป็นประสบการณ์ตรงในชีวิตที่ไม่ต้องอาศัยการท่องจำจนขาดความเป็นธรรมชาตินอกจากนี้การพูดถึงสิ่งใดก็ตามควรมีหลักฐานหรือตัวอย่างสนับสนุนคำพูดของคุณเสมอการซ้อมตอบคำถามเหล่านี้หลายครั้งก่อนวันสัมภาษณ์จริงจะช่วยให้คุณสามารถเลือกคำตอบที่ดีที่สุดได้ค่ะ

คำถาม : คุณรู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทเราบ้าง

แนวทางการตอบทุกครั้งที่สมัครงาน เราจำเป็นที่จะต้องรู้และเข้าใจรายละเอียดที่สำคัญของบริษัทนั้นๆเช่นประวัติบริษัทผลิตภัณฑ์ภาพลักษณ์องค์กรกลุ่มลูกค้าหากมีสิ่งที่เรารู้สึกประทับใจเกี่ยวกับบริษัทนั้นๆก็สามารถแสดงความชื่นชมได้อย่างเหมาะสมเพื่อแสดงให้บริษัทที่เราไปสัมภาษณ์เห็นว่าคุณมีความพร้อม และต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทนั้นอย่างแท้จริง

สำหรับข้อแนะนำเพิ่มเติมในฐานะ Consultant ของบริษัทจัดหางาน Pasona คือเรื่องของการรักษามารยาทในการสมัครงานควรมีความสำรวมให้เกียรติผู้สัมภาษณ์สบตาอย่างจริงใจไม่หลบสายตาแต่ไม่จ้องตาจนเกินงาม เป็นมิตรยิ้มแย้มแจ่มใสกระตือรือร้นเป็นผู้พูดและผู้ฟังที่ดีมีความมั่นใจในตัวเองแต่ก็ยังคงความนอบน้อมหรือสรุปง่ายๆก็คือเราควรเป็นตัวของตัวเองในแบบที่ดีที่สุดค่ะ

นอกจากนี้ หลังจากที่คุณได้เตรียมตัวในการสัมภาษณ์งานมาอย่างดีแล้วแต่ดันมาเจอคำถามที่ไม่คาดคิดว่าจะถูกผู้สัมภาษณ์ถามก็เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกันงั้นลองมาเตรียมพร้อมสำหรับคำถามแปลกๆกันบ้างเพื่อเตรียมความพร้อมให้เรารู้สึกมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยค่ะ

ขอยกตัวอย่างคำถามแปลกๆจากเว็บไซต์ JobThai.com/REACH ดังต่อไปนี้ค่ะ

ทำไมฝาท่อระบายน้ำต้องเป็นรูปวงกลม ? 

ทั้งคำถาม “ทำไมฝาท่อระบายน้ำต้องเป็นวงกลม” และคำถามว่า “คุณจะเคลื่อนย้ายภูเขาไฟฟูจิได้อย่างไร” ต่างก็เคยปรากฏในเนื้อหาของหนังสือที่มีชื่อว่า “How Would You Move Mount Fuji? Microsoft’s Cult of the Puzzle: How the World’s Smartest Company Selects the Most Creative Thinkers” ซึ่งแค่ชื่อหนังสือก็พอจะบอกได้ว่าองค์กรไอทีระดับโลกอย่าง Microsoft นั้นมีกระบวนการสัมภาษณ์งานที่โหดหินเพียงใดเพราะพวกเขามักจะสอดแทรกคำถามเชิงตรรกศาสตร์และคำถามเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาลงไปในรายการคำถามสำหรับคัดเลือกผู้สมัครงานด้วย

 เมื่อเจอคำถามแบบนี้คุณต้องอธิบายเหตุผลให้ได้ว่าทำไมถึงคุณถึงตอบแบบนั้นเช่น การตอบคำถามว่าทำไมฝาท่อระบายน้ำต้องเป็นรูปวงกลม” อาจจะอธิบายว่าฝาที่เป็นวงกลมจะทำให้กรอบของท่อนั้นแข็งแรงเพราะมีการกระจายน้ำหนักเท่ากันโดยรอบซึ่งต่างจากฝารูปร่างอื่นเช่นรูปสี่เหลี่ยมหรือฝาท่อแบบวงกลมไม่มีทางที่จะหล่นลงไปในท่อได้ ซึ่งฝาท่อรูปทรงสี่เหลี่ยมมีโอกาสจะตกลงไปได้หากถ้าฝาท่อสี่เหลี่ยมถูกพลิกด้านข้างหรือคำตอบอะไรก็ได้ที่แสดงว่าคุณคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผลเชื่อมโยงและสนับสนุนกับคำตอบของคุณ

ถ้าคุณเป็นก้อนอิฐในกำแพงคุณอยากจะเป็นก้อนอิฐก้อนไหนและทำไม?

คำถามที่ว่า “ถ้าคุณเป็นก้อนอิฐในกำแพง คุณอยากจะเป็นก้อนอิฐก้อนไหนและทำไม” หรือคำถามว่า “หากคุณเลือกเป็นสัตว์ได้หนึ่งชนิดคุณอยากเป็นอะไรและทำไม” คำถามเหล่านี้มีไว้เพื่อให้คุณได้แสดงบุคลิกภาพของคุณคำตอบของคุณจะบ่งบอกนิสัยและคุณสมบัติบางอย่าง

เมื่อคุณเจอคำถามประเภทนี้คุณต้องคิดให้รวดเร็วและรอบคอบ จากนั้นจึงตอบคำถามโดยอาศัยสิ่งที่คุณมีอยู่หรือสิ่งที่คุณได้ทำการบ้านล่วงหน้ามาก่อนเช่นถ้าคุณเตรียมตัวตอบคำถามประเภทข้อดีข้อเสียของตัวคุณคุณสามารถนำการตอบแบบนั้นมาผสมผสานกับการตอบคำถามประเภทนี้ได้ถ้าจะตอบคำถามว่าอยากเป็นอิฐก้อนไหน” คุณอาจจะตอบว่า “ฉันอยากจะเป็นอิฐก้อนแรกที่อยู่ที่ฐานล่างสุดของกำแพง เพราะฉันเป็นคนที่หนักแน่นคนอื่นไว้วางใจได้ถ้าใครได้ทำงานด้วยก็มั่นใจได้เลยว่าฉันจะไม่ทำให้ผิดหวังฉันจะคอยเป็นฐานที่แข็งแกร่งคอยสนับสนุนคนอื่นในทีมเอง

อย่าลืมว่าท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าคำถามจะแปลกแค่ไหนคิดพิจารณาทุกอย่างให้ดีก่อนตอบคำถามนั้นออกไป เพราะทุกคำถามก็เป็นไปเพื่อการทดสอบความเหมาะสมของคุณกับตำแหน่งงานนั้นอยู่ดี

นอกจากนี้ทาง Pasona ยังมีคำถามสัมภาษณ์งานโดยรวบรวมจาก Consultant ชาวญี่ปุ่นมาฝากให้กับผู้สมัครงานที่สนใจสมัครงานกับบริษัทญี่ปุ่นอีกด้วยค่ะ หากคุณกำลังสนใจหรือกำลังได้สัมภาษณ์กับบริษัทญี่ปุ่น เราขอแนะนำให้ลองฝึกตอบคำถามดังต่อไปนี้ค่ะ

  • แนะนำตัวเองอะไรก็ได้ภายในหนึ่งหรือสองนาที
  • ทำไมถึงอยากร่วมงานกับเรา
  • คุณรู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทเราบ้าง
  • จงบอกข้อดีข้อเสียของคุณ

เทคนิคคือ ควรตอบข้อเสียที่มาพร้อมกับแผนการว่าจะพัฒนาหรือแก้ไขข้อเสียได้อย่างไร

  • กิจกรรมที่เข้าร่วมในขณะเรียนมหาลัยหรือประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาเช่นจิตอาสากีฬาหรือทำPart Time เพื่อดูประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร ว่าผู้สมัครมีความเหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้นๆหรือไม่
  • เนื้อหาข่าวที่ผู้สมัครสนใจเช่นข่าวการเมืองเศรษฐกิจสำหรับตำแหน่งงานทั่วไปว่าเป็นคนสนใจเหตุการณ์รอบรู้หรือไม่ผู้สมัครควรมีความรู้เกี่ยวกับข่าวการเมืองเศรษฐกิจ สังคมอย่างใดอย่างหนึ่ง
  • ระยะเวลาในการทำงานเทคนิคการตอบคือควรมีความตั้งใจที่จะทำงานกับทางบริษัทมากกว่าห้าปี
  • ในการสัมภาษณ์ครั้งสุดท้ายบริษัทอาจจะถามว่าบริษัทของเราเป็นที่ที่คุณให้ความสำคัญหรืออยากร่วมงานเป็นอันดับแรกหรือไม่ ผู้สมัครไม่ควรตอบไปว่าสัมภาษณ์หลายที่ควรมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมงานกับทางบริษัทจริงๆ
  • มีคำถามอะไรอยากจะถามเรารึเปล่าเป็นคำถามเพื่อวัดว่าสนใจบริษัทเราหรืองานนั้นจริงๆหรือไม่

จะเห็นได้ว่าคำถามที่สัมภาษณ์ในไทยกับญี่ปุ่นจะค่อนข้างคล้ายกันมีจุดแตกต่างเพียงกันเล็กน้อย คือเรื่องของความสนใจเกี่ยวกับข่าวสารบ้านเมืองเพื่อดูว่าเป็นคนสนใจสิ่งรอบตัวหรือพอมีความรู้รอบตัวบ้างหรือไม่และเรื่องของระยะเวลาการทำงานที่ทางญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญกับความจงรักภักดีในองค์กรโดยคาดหวังให้พนักงานทำงานกับบริษัทไปนานๆ

แต่จะให้ฝึกตอบคำถามทั่วไปแบบนี้ก็อาจจะธรรมดาไปหน่อย ทาง Pasona จึงได้นำแนวคำถามแปลกๆในการสัมภาษณ์งานจากทางญี่ปุ่นบางส่วนมาให้ผู้สมัครงานฝึกตอบคำถามกันด้วยค่ะ

  • ให้พรีเซ็นท์หรือหาวิธีเพื่อเปลี่ยนทัศนคติของผู้สัมภาษณ์เช่นเป็นคนไม่ชอบเขียนจดหมายทำอย่างไรให้ชอบเขียนจดหมายหรือไม่ชอบดูหนัง จะนำเสนอยังไงให้ชอบดูหนัง 
  • มีรูปมาให้เป็นวัสดุหนึ่งชิ้นแล้วถามว่าสิ่งนี้สามารถทำอะไรได้บ้างให้บอกมา 10 ข้อ (คำถามในการสมัครบริษัทให้คำปรึกษาเป็นแบบ brainstorm เพื่อดูทักษะความคิดสร้างสรรค์ และการคิดเชิงตรรกะ
  • ให้ผู้สมัครงานเป็นผู้สัมภาษณ์คนของบริษัทหลังจากเป็นผู้ถูกสัมภาษณ์ให้สลับบทบาทกันเพื่อดูว่าผู้สมัครงานเตรียมความพร้อมมามากแค่ไหน

และอีกหนึ่งคำถามที่น่าสนใจในด้านกระบวนการคิดคำนวณจากบริษัท Consulting ที่จะขอยกตัวอย่างมาจากเว็บไซต์ JobThai.com/REACH ค่ะ

  • ในประเทศญี่ปุ่นมีร้านทำผมสตรีกี่ร้าน

คนสัมภาษณ์ต้องการเปิดโอกาสให้คุณได้แสดงทักษะและกระบวนการคิดของคุณเมื่อคุณถูกถามแบบนี้คุณต้องเรียบเรียงความคิดของคุณออกมาเป็นคำพูดให้ดีคุณอาจจะเริ่มด้วยการวิเคราะห์เช่นเราต้องรู้จำนวนประชากรของประเทศญี่ปุ่นก่อน และเราต้องค้นหาว่าคนญี่ปุ่นทำผมคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของคนทั้งประเทศและพวกเขาทำผมบ่อยแค่ไหน

ซึ่งบ่อยครั้งที่ผู้สมัครมักจะตอบคำถามที่เหนือความคาดหมายไม่ได้เนื่องจากไม่ได้เตรียมความพร้อมสำหรับคำถามเหล่านี้มาเราจึงควรฝึกตอบคำถามที่มีความแปลกและไม่คาดคิดว่าจะถูกถามไว้ด้วยโดยเริ่มฝึกจากคำถามที่ทาง Pasona ได้ยกตัวอย่างมา และจากเว็บไซต์ต่างๆเพิ่มเติมได้ค่ะเพื่อที่ว่าเราจะได้มีสกิลในการตอบคำถามเพิ่มขึ้นและไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป

เมื่อเรารู้แนวทางการสัมภาษณ์งานแล้วก็อย่าชะล่าใจเชียวค่ะรีบมาฝึกตอบคำถามเพื่อเตรียมความพร้อมในการสัมภาษณ์งานกันดีกว่าเพราะถ้าเราหมั่นฝึกฝนตัวเองจนมีความพร้อมแล้วรบร้อยครั้งก็ชนะร้อยครั้ง เช่นเดียวกันกับการสมัครงานค่ะถ้าเราหมั่นฝึกตอบคำถามควบคู่ไปกับการฝึกฝนทักษะต่างๆอย่างสม่ำเสมอสมัครงานกี่ครั้งก็ผ่านทุกครั้งแน่นอนค่ะทาง Pasona ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ที่กำลังจะได้สัมภาษณ์งานได้งานที่ตรงกับใจต้องการกันนะคะ