จอแสดงผล (Display)
Show วัสดุตัวเครื่อง (Body)
เครือข่าย (Network)
ระบบปฏิบัติการ (OS, CPU, GPU)
กล้องหลัง (Rear Camera)
- ระบบป้องกันภาพสั่นไหว (Shake Reduction) - ตรวจจับรอยยิ้ม (Smile Detection) - โหมดถ่ายภาพพาโนราม่า (Panorama) - ระบบโฟกัสภาพ Phase Detection Auto Focus (PDAF) - โหมดถ่ายภาพช่วงการรับแสงสูง (HDR) กล้องหน้า (Front Camera)
บันทึกวิดีโอ (Video Recording)
เซ็นเซอร์ (Sensor)
- เซ็นเซอร์ยืนยันตัวบุคคลด้วยลายนิ้วมือ (Touch ID) เชื่อมต่อ
มัลติมีเดีย
แบตเตอรี่ - ระบบชาร์จ
เรื่องความจุของสมาร์ทโฟน ตระกูล iPhone นั้นเป็นอะไรที่ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำเองได้ ก็เลยทำให้เราต้องคิดหนักเวลาเลือกซื้อ เพราะหลายคนมักกังวลว่าจะไม่พอกับการใช้งาน แล้วรวมถึงยิ่งความจุเยอะก็ยิ่งแพงขึ้นกว่าเดิมหลายพัน ก็เลยต้องคิดแล้วคิดอีก หลังการเปิดตัว iPhone 6 มาก็ทำใหหลายคนอึ้งไปอีกเพราะ iPhone รุ่น 6 และ iPhone6 Plus กลับไม่มีหน่วยความจุรุ่น 32GB ซะอย่างนั้น ทั้งๆ ที่ไอโฟนรุ่นก่อนๆ ที่จะมีความจุ 16GB, 32GB และรุ่น 128 GB ถ้าให้เดาก็คือ ค่าย Apple คงอยากขายรุ่น 64 GB มากกว่าก็เลยเป็นเช่นนั้น ปัจจุบัน iPhone 6 และ iPhone 6 Plus มีให้เลือก 3 รุ่นความจุ นั่นก็คือ 16GB, 64GB และ 128GB ซึ่งแน่นอนว่าความจุเยอะๆ ก็ย่อมดีกว่าความจุน้อยๆ ในแง่ของการใช้งานอยู่แล้ว แต่อย่างที่บอกไปคือ ความจุที่เพิ่มขึ้นมักจะแลกมาด้วยราคาที่สูงขึ้น อย่างรุ่น 64GB นี่แพงกว่ารุ่น 16 GB ถึง 4,000 บาท เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นคำถามที่ว่า เราจะเลือกซื้อ iPhone 6 หรือ iPhone 6 Plus ที่ความจุใด ถึงจะเหมาะสม และคุ้มค่ามากที่สุด วันนี้เราก็มีคำตอบมาให้ ซื้อ iPhone 6 รุ่นไหน ความจุเท่าไรคุ้มที่สุด? ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า เมื่อเราซื้อ iPhone รุ่นใดก็ตาม ความจุไหนก็ตาม ก็จะต้องเสียพื้นที่ความจุไปประมาณ 5GB เนื่องจากจะต้องนำไปใช้ติดตั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ ไฟล์ระบบต่างๆ นั่นเอง เพราะฉะนั้น ถ้าหากคุณซื้อรุ่นความจุ 16GB ก็จะเหลือความจุที่สามารถใช้งานได้จริงเพียงประมาณ 11GB เท่านั้น ส่วนรุ่น 64 และ 128GB ก็จะยังคงเหลือให้ได้ใช้งานอีกเยอะพอสมควรเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ก็ใช่ว่า iPhone 6 รุ่น 16GB จะไม่คุ้มซะทีเดียว เพราะจริงๆ มันก็ใช้งานได้เหมาะกับหลายๆ คนเหมือนกัน เช่น ถ้าเน้นการใช้งานด้านแค่โซเชียลมีเดียเป็นหลัก และใช้งานแอพพลิเคชั่นทั่วๆ ไป ที่ขนาดแอพไม่ใหญ่มาก เช่น Line, Facebook, Twitter และอื่นๆ ซึ่งแอปพลิเคชันเหล่านี้ส่วนใหญ่ขนาดไม่เกิน 150 MB งานนี้ล่ะก็ใช้รุ่น 16 GB ก็สามารถติดตั้งแอปพลิเคชันขนดาเล็กดังกล่าวได้ถึงประมาณ 70 แอปพลิเคชันเลยล่ะค่ะ แล้วที่สำคัญก็คือ เราสามารถเชื่อมต่อ iCloud Drive ได้ถึง 5GB ฟรี เพราะฉะนั้นถ้าพื้นที่เต็มก็โอนถ่ายไปเก็บใน iCloud ก็ได้ สบายๆ ไม่เปลืองงบ สำหรับ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus รุ่น 64GB นั้นเรียกได้ว่าเป็นรุ่นที่คุ้มสุด เพราะราคาของมันเทียบเท่ารุ่น 32GB รุ่นก่อนๆ แต่ได้ความจุเพิ่มเท่าตัว แล้วจะใช้งาน โหลดแอพหนักขนาดไหน ถ่ายรูปเยอะแค่ไหน เล่นเกมที่ไฟล์ใหญ่ประมาณ 1 GB ขึ้นไปนี่ก็สบายเลย ส่วนถ้าใครชอบดูหนังสามารถใส่ภาพยนตร์ ความละเอียดสูงระดับ Full HD ในขนาดเฉลี่ย 4GB ได้กว่า 15 เรื่องเลยทีเดียว เรียกว่าคุ้ม เพราะพื้นที่เหลือให้ใช้งานนั้นไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ถ้าใครมีงบเหลือๆ ก็คิดว่าจัดรุ่น iPhone 6 และ iPhone 6 Plus รุ่น 128GB ไปเลยก็ดี เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้งานในระดับที่จริงจังมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบการชมภาพยนตร์มากๆ เป็นชีวิตจิตใจ หรือผู้ที่ต้องใช้งานแอปพลิเคชันด้านการทำงานที่ครบครัน รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายวีดีโอเป็นระยะเวลานานๆ หรือชอบดาวน์โหลดเกม ดาวโหลดแอพทีละเยอะๆ ติดเครื่องไว้ แบบไม่ต้องกังวลล่ะก็ความจุ 128GB สบายๆ เหลือๆ ต้องการใช้เมื่อไหร่ ก็มีให้ได้ใช้งานกันในทันที |