ว ธ เเก number of processors ม 2

หากคุณพบว่า PC ของคุณทำงานช้าลงและไม่มีประสิทธิภาพมากเท่าที่เคย การปรับแต่งค่าของ Windows 10 อาจช่วยเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพในการทำงานของ PC คุณได้ Windows 10 คือหนึ่งในระบบปฏิบัติการที่ดีที่สุดที่มีใช้ในปัจจุบัน โดยมีคุณสมบัติในการทำงานมากมายและต้องใช้ทรัพยากรระบบอย่างมาก ทำให้ประสิทธิภาพของ PC ของคุณลดลงได้ นอกจากนี้ Microsoft ยังได้เพิ่มคุณสมบัติการทำงานในตัวสำหรับ Windows 10 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดเพื่อให้ประสิทธิภาพในการทำงานโดยรวมดึขึ้น อย่างไรก็ตาม PC ของคุณก็อาจยังทำงานช้าอยู่

สาเหตุต่าง ๆ เช่น พื้นที่จัดเก็บข้อมูลไม่เพียงพอ การดูแลรักษาและฮาร์ดแวร์ที่้มีประสิทธิภาพต่ำอาจทำให้ความเร็วในการทำงานช้า การล้างโปรแกรมและแอพที่ไม่ได้ใช้งานไปจนถึงการอัพเกรดฮาร์ดแวร์ จะมีหลายอย่างที่คุณสามารถทำได้เพื่อเพิ่มความเร็วให้กับ Windows 10 และ PC ของคุณ เพื่อให้ระบบโดยรวมทำงานได้เต็มประสิทธิภาพที่สุด

1. ตรวจสอบข้อมูลอัพเดตล่าสุด

ว ธ เเก number of processors ม 2

หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการใช้งาน PC ของคุณให้เต็มประสิทธิภาพคือการอัพเดต Windows 10 เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด Microsoft มักมีการอัพเดตข้อมูลเป็นระยะ ๆ เพื่อแก้ไขบั๊กและข้อผิดพลาดทางระบบที่ทำให้เครื่องทำงานช้า ข้อมูลอัพเดตบางตัวอาจเป็นการแก้ไขปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ในขณะที่บางตัวเป็นการปรับเปลี่ยนใหญ่ในระบบ เช่น เพื่อหาไดร์เวอร์อุปกรณ์ที่ดีที่สุดเพื่อให้ PC ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

ตรวจหาข้อมูลอัพเดตโดยเปิดเมนู Windows จากนั้นเลือก Settings > Update & Security > Windows Update > Check for Updates หากมีข้อมูลอัพเดต ให้เลือก Install now รีสตาร์ท PC แล้วตรวจสอบว่าเครื่องทำงานได้เร็วขึ้นหรือไม่

2. รีสตาร์ท PC

อาจฟังดูไม่ยาก แต่การรีสตาร์ท PC เป็นระยะ ๆ จะทำให้เครื่องทำงานได้เร็วขึ้น หลายคนเปิด PC ค้างไว้เป็นสัปดาห์ โดยให้คอมพิวเตอร์เข้าโหมดสลีปแทนการปิดเครื่อง วิธีการนี้ทำให้โปรแกรมและส่วนการทำงานต่าง ๆ ค้างอยู่ในหน่วยความจำของ PC ทำให้การทำงานช้าลง ไม่ว่าจะเป็นการเรียกใช้โปรแกรมหรือสืบค้นไฟล์

การปิด PC ทุก ๆ วันจะทำให้ PC ของคุณรีเฟรชหน่วยความจำและพร้อมสำหรับการทำงานในวันถัดไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ หากคุณพบว่า PC ทำงานช้าสำหรับงานทั่ว ๆ ไป เช่น การเปิดโปรแกรมหรือสืบค้นไฟล์และเอกสาร ให้ลองปิดหรือรีสตาร์ท PC ดูก่อน อย่าลืมบันทึกงานของคุณก่อนปิดหรือรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์

3. การปิดโปรแกรมที่เริ่มทำงานเมื่อเปิดเครื่อง

ว ธ เเก number of processors ม 2

ประสิทธิภาพของ PC อาจได้รับผลกระทบหากมีโปรแกรมและแอพหลายตัวเปิดทำงานในเวลาเดียวกัน โปรแกรมติดตั้งหลายตัวจะสั่งให้ Windows เรียกใช้โปรแกรมเมื่อเปิด PC ทำให้เครื่องทำงานช้าลง

ปิดโปรแกรมที่ทำงานเมื่อเปิดเครื่องโดยไปที่ Task Manager จากนั้นคลิกที่แท็บ Startup หากพบข้อความ Startup impact’ เครื่องกำลังแจ้งให้ทราบว่าโปรแกรมใดที่ส่งผลกระทบต่อการเริ่มทำงานของเครื่อง โปรแกรมที่มีผลกระทบมากที่สุดคือปัญหาที่ทำให้เครื่องทำงานช้า ปิดโปรแกรมไม่ให้ทำงานเมื่อเปิดเครื่องโดยคลิกขวาที่โปรแกรมที่ต้องการเลือก แล้วคลิกที่ ‘Disable’

4. Disk Cleanup

ว ธ เเก number of processors ม 2

หนึ่งในระบบการทำงานในตัวที่ Windows 10 จัดไว้ให้คือ Disk Cleanup โปรแกรมนี้จะช่วยขจัดไฟล์ชั่วคราวที่ไม่ได้ใช้ที่อยู่ใน PC เช่น ภาพย่อ ไฟล์โปรแกรมที่ดาวน์โหลดและไฟล์ชั่วคราวทางอินเทอร์เน็ตต่าง ๆ

เปิดเมนู Windows และไปที่ 'Disk Cleanup จากการค้นหาในแถบค้นหา รายการไฟล์โปรแกรมที่จะลบจะปรากฏขึ้นมา เลือกไฟล์ที่ต้องการลบโดยทำเครื่องหมายในช่องติดกับชื่อ หลังจากเลือกไฟล์ที่ต้องการลบแล้ว คลิกที่ Clean up system files’ Disk Cleanup จะคำนวณพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่จะเพิ่มขึ้นมา

ใช้โอกาสนี้เพื่อลบไฟล์หรือแอพอื่น ๆ ที่ใช้หน่วยความจำหรือพื้นที่ดิสก์มาก ลบไฟล์เก่าหรือไฟล์ที่ไม่ได้ใช้งานโดยเริ่มต้นจากโฟลเดอร์ Downloads

5. ลบซอฟต์แวร์เก่า

PC ของคุณมักมีซอฟต์แวร์จากภายนอกติดตั้งมาด้วยซึ่งอาจไม่มีความจำเป็นสำหรับการใช้งานของคุณ โปรแกรมเหล่านี้เรียกว่าโบลทแวร์ และอาจใช้พื้นที่มากเนื่องจากมีขนาดใหญ่และมักไม่ได้ถูกใช้งานใด ๆ เลย

นอกจากนี้ยังอาจมีโปรแกรมอื่น ๆ ที่ถูกติดตั้งแต่ไม่เคยถูกใช้งานและทำให้ PC ของคุณทำงานช้าลง ตรวจสอบแอพที่คุณติดตั้งไว้โดยไปที่:

  • Control panel > Programs and Features > Uninstall a Program
  • คลิกขวาที่โปรแกรมที่คุณไม่ต้องการอีกต่อไป แล้วเลือก Uninstall’
6. ปิดใช้งานเอฟเฟกต์พิเศษ

ว ธ เเก number of processors ม 2

Windows 10 มาพร้อมกับเอฟเฟกต์พิเศษหลายตัวให้เลือกใช้ เพื่อให้ดูโดดเด่นและสะดุดตา เอฟเฟกต์เหล่านี้ติดตั้งมาสำเร็จกับ Windows และคุณสมบัติการทำงานอื่น ๆ ที่ใช้แสดงผลหรือเปลี่ยนภาพเมื่อเปิดเครื่อง คุณสมบัติพิเศษอื่น ๆ ที่อาจทำให้เครื่องช้าลงยังได้แก่การปรับค่าความโปร่งแสงและใส่แอนิเมชั่นต่าง ๆ

เปิดเมนู Windows จากนั้นค้นหา System’ แล้วไปที่แท็บ 'Advanced System Settings' จากนั้นไปที่แท็บ 'Advanced' แล้วเลือก 'Performance Settings' คลิกที่แท็บ 'Visual Effects' จากนั้นคลิกที่ช่องทำเครื่องหมายสำหรับ 'Custom' คุณจะเห็นรายการเอฟเฟกต์การแสดงผลต่าง ๆ ที่คุณสามารถปิดใช้งานโดยลบเครื่องหมายที่ช่องทำเครื่องหมาย คลิก Apply’ เพื่อยืนยันการเปลี่ยนแปลงของคุณหลังจากเสร็จสิ้น

7. ปิดใช้งานเอฟเฟกต์โปร่งแสง

นอกจากจะใช้ทรัพยากรระบบมากในการแสดงผลแอนิเมชั่นแล้ว Windows 10 ยังใช้เอฟเฟกต์โปร่งแสงกับส่วนการทำงานบางอย่าง เช่น เมนูงาน เอฟเฟกต์แสงและเอฟเฟกต์พื้นฐานเหล่านี้มีความซับซ้อนและต้องใช้ทรัพยากรระบบมากกว่าที่คุณอาจคิด

ปิดใช้งานเอฟเฟกต์โปร่งแสงโดยเปิดเมนู Windows แล้วพิมพ์ color settings จากแถบค้นหาเพื่อเรียกใช้ Color settings สำหรับ Windows 10 ขึ้นมา จากจุดนี้ ให้เลื่อนลงจนกว่าจะเจอปุ่มสำหรับ 'Transparency effects' คลิกที่ปุ่มนี้เพื่อเปิดหรือปิดเอฟเฟกต์โปร่งแสง

8. เรียกใช้ฟังก์ชั่นดูแลรักษาระบบ

Windows 10 จะมีระบบการทำงานในตัวที่ทำหน้าที่ดูแลรักษาระบบตามรอบ ระบบเหล่านี้ได้แก่ ระบบจัดเรียงข้อมูลฮาร์ดดิสก์ ระบบสแกนข้อมูลอัพเดต ระบบตรวจหามาลแวร์และไวรัส

ฟังก์ชั่นดูแลรักษาระบบโดยปกติจะทำงานอยู่เบื้องหลังขณะ PC เปิดทิ้งไว้เฉย ๆ โดยคุณสามารถเรียกใช้ได้ตามต้องการหากเกิดปัญหากับเครื่องที่ต้องการตรวจสอบ

ทำได้โดยเปิด 'Control Panel' จากนั้นเลือก 'Security and Maintenance' คลิกที่ลูกศรเพื่อขยายตัวเลือกฟังก์ชั่นการดูแลรักษา จากนั้นเลือก Start Maintenance คุณสามารถเลือกตรวจสอบระบบเพื่อการดูแลรักษาได้ด้วยตัวเอง

9. อัพเกรด RAM ของคุณ

ว ธ เเก number of processors ม 2

อีกวิธีที่สามารถเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพของ PC ได้อย่างมากคือการอัพเกรด RAM เพื่อเพิ่มพื้นที่หน่วยความจำของระบบ Windows 10 ต้องการหน่วยความจำอย่างน้อย 4GB เพื่อให้ทำงานได้อย่างราบรื่น หากคุณใช้ PC สำหรับงานที่ใช้ทรัพยากรระบบสูง เช่น เกม หรือการผลิตสื่อ คุณจะเห็นประโยชน์อย่างมากจากหน่วยความจำที่มากกว่า

การอัพเกรด RAM จะช่วยเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพ PC ของคุณได้อย่างมาก ตรวจสอบประเภทของ RAM ที่ PC ของคุณใช้ได้โดยไปที่ Task manager (Ctrl + Alt + Delete) จากนั้นคลิกที่ 'Performance' คุณจะเห็นสล็อตหน่วยความจำที่มีให้ใช้ใน PC ของคุณและประเภท RAM เช่น DDR4 ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการอัพเกรด RAM

10. อัพเกรดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลของคุณ

การอัพเกรดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลจะเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพของ PC ของคุณได้อย่างมาก PC ส่วนใหญ่ติดตั้งดิสก์ไดร์ฟจานหมุน (HDD) การปรับเปลี่ยนมาเป็นไดร์ฟ Solid State (SSD) จะทำให้เครื่องของคุณมีประสิทธิภาพเหนือกว่า

SSD มักมีราคาแพงกว่า HDD แต่จะโดดเด่นว่าในด้านเวลาบู๊ต การโหลดโปรแกรมและความเร็วในการตอบสนองการทำงานโดยรวมซึ่งถือว่าคุ้มค่าสำหรับการลงทุน

SSD มีจำหน่ายหลายรูปแบบและขนาด ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขทางระบบสำหรับ PC ของคุณ โดยมีจำหน่ายทั้งแบบ 2.5 และ M.2 สำหรับเครื่องเดสก์ทอปและโน้ตบุ๊ก เลือกซื้อ SSD ให้ถูกต้องกับเครื่องที่คุณต้องการติดตั้ง คุณสามารถโอนไฟล์ข้อมูลและเอกสารต่าง ๆ จากฮาร์ดไดร์ฟไปยัง SSD เพื่อที่จะไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลใน PC ของคุณจะสูญหาย ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการอัพเกรดสื่อบันทึกข้อมูล