Cpu 8 core samsung mobile ม ช ออะไรบ าง

อยากได้เหมือน ยุค S3 Note 2 ไม่ต้องถีบตัวเองรีบปล่อยในสิ่งที่ไม่สมบูรณ์ออกมาเป็นภาระของผู้ใช้งาน ไม่ต้องรีบเป็นผู้นำตลาด หลายคอร์แต่เอ๋อไม่เสถียร

Show

-ตอนนี้รอ Note 3 9005 อย่างเดียวไม่รู้ซัมซุงจะวางขายตอนไหน

อยากถามว่าถ้า Note 3 Octa-core Exynos มี 4G ถ่ายวิดิโอ 4K เหมือนdyoกะ Note 3 Snapdragon 800 ท่านจะเลือกรุ่นไหน

มีประเด็นดราม่ากันหลายที่ครับ จากที่ค้นดูในกูเกิ้ล ผมเลยอยากทราบว่า แท้จริงแล้วทางซัมซุง ได้ผลิตสินค้าที่ทำงานได้จริงตามที่ตัวเองโฆษณาหรือเปล่า ว่าทำงานได้ 8คอร์ จริงๆ หรือทำงานได้แค่ 4คอร์ ส่วนตัวผมไมได้มีความรุ้เรื่อง CPU อะไรมากนัก แต่เมื่อเสียเงินซื้อโทรศัพท์มา ก็ราคาแพงอยู่ 23500 บาท อยากทราบว่ามันทำได้จริงอย่างที่บอกหรือป่าว ถ้าไม่ได้ แล้วทางซัมซุงจะมีวิธีจัดการยังไง ผมเป็นผู้บริโภคคนนึงที่คิดว่ามันดีเลยซื้อ แต่ถ้าซื้อมาแพง และใช้ไม่ได้เต็มที่(ถึงจะไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไร และไม่ได้ใช้อะไรมาก แต่ก็อยากได้ของที่ดีแบบเต็มๆสมคำโฆษณาและสมราคาครับ) ทางผู้ผลิตจะแก้ปัญหายังไงครับ อาจจะมีคนหาว่าหลอกลวงผู้บริโภคได้นะครับ

จากข่าวการเปิดตัว Samsung Galaxy S5 ที่บอกข้อมูลและเนื้อหาไปแทบทั้งหมด แต่มีอยู่อย่างนึงที่ Samsung ยังไม่ได้บอก นั่นก็คือ CPU..

Cpu 8 core samsung mobile ม ช ออะไรบ าง

ข้อมูลจากเว็บไซต์ทางการของ Samsung Mobile Press ได้ระบุว่า Samsung Galaxy S5 จะใช้ CPU Quad-Core เท่านั้น ไม่มีการระบุค่ายหรือรายละเอียดของ CPU ที่จะใช้บน Galaxy S5

Cpu 8 core samsung mobile ม ช ออะไรบ าง

และเมื่อวานนี้เอง เว็บไซต์ Samsungtomorrow ได้โพสต์ภาพ infographic บอกเล่าตำนานความเป็นมาของ Samsung Galaxy S ทั้ง 5 รุ่น และในภาพนั้นได้เปิดเผยข้อมูลบางอย่างออกมานั่นคือ Samsung Galxy S5 จะมีรุ่น Octa-Core CPU ด้วย!

Cpu 8 core samsung mobile ม ช ออะไรบ าง

ซึ่งข้อมูลนี้เคยมีข่าวลือหลุดมาแล้ว ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา เกี่ยวกับ Samsung Galaxy S5 ที่จะมาพร้อม CPU Exynos 6 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบ 64-bit โดยจะเป็น CPU แบบ Octa-Core แท้ ทำงานได้ 8 แกนพร้อมกัน ไม่ใช้เทคโนโลยี big.LITTLE อีกต่อไป

นั่นทำให้ Galaxy S5 อาจจะมีแยกวางจำหน่าย 2 รุ่นด้วยกันคือ

  • Samsung Galaxy S5 + Snapdragon 801 2.5GHz Quad-Core
  • Samsung Galaxy S5 + Exynos 2.1GHz Octa-Core

แต่ปรากฏว่าไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ภาพข้างบนนี้ก็โดนอุ้มหายไปอย่างลึกลับ และปรากฏเป็นภาพด้านล่างนี้แทนครับ

Cpu 8 core samsung mobile ม ช ออะไรบ าง

หะ หะ หะ หายไปแล้ว! มันเกิดอะไรขึ้นกันหนอ ทำไมพี่แซมซังถึงได้ปรับเปลี่ยนข้อมูลได้ฉับไวเช่นนี้

ผมว่าอ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงร้องเฮ! เพราะเราจะได้ไม่ต้องเผชิญชะตากรรม รับเอา Galaxy S5 รุ่น Exynos มาขายก่อน แล้วค่อยเอารุ่น Snapdragon ตามมาขายทีหลัง มีรุ่นเดียวไปเลย จะได้จบๆ เยส!

แต่เดี๋ยวก่อน! (ฮ่าๆ เบรคอารมณ์กันไปเลย) ถ้าสังเกตุดีๆ ชื่อรุ่นของ Galaxy S ทั้งหลายที่เป็นตัวเล็กๆ นั่น มันคือรุ่นที่วางขายในเกาหลีทั้งนั้น เช่น Galaxy S4

  • SHV-E330S ชื่อรุ่น S4 ในเกาหลี ใช้ Snapdragon 800
  • GT-I9500 คือชื่อรุ่น S4 ในบ้านเรา ใช้ Exynos 5

เพราะฉะนั้นภาพข้างบนนี้จะสื่อถึง Galaxy S5 ที่วางขายในเกาหลี ซึ่งจะมีแต่รุ่นที่ใช้ CPU Snapdragon 801 2.5GHz Quad-Core เท่านั้น ส่วนประเทศอื่นๆ เช่นประเทศในโซนยุโรปและโซนเอเซีย น่าจะยังมีสิทธิ์ได้ลุ้นรับ CPU Exynos 2.1 GHz Octa-Core ตัวใหม่กันอยู่

แต่ข้อมูลนี่้ยังไม่ถูกยืนยันอย่างเป็นทางการนะครับ เป็นการวิเคราะห์จากตัวผมเองล้วนๆ ส่วนนึงที่มั่นใจว่ายังไงๆ ก็มี Galaxy S5 รุ่น Exynos แน่ๆ นั่นก็เพราะมีข่าวเรื่อง Samsung จะใช้ชิพ 4G ของ intel ใน Galaxy S5 ซึ่งปกติ Qualcomm Snapdragon รุ่นแพงๆ มีชิพ 4G ขายมาเป็นแพ็คเกจอยู่แล้ว คงไม่ซื้อของอีกเจ้ามาทำให้มันวุ่นวายแน่นอน

แล้วเจ้าชิพ 4G ของ Intel ตัวนี้จะเอาไปใช้ที่ไหนหละ . . ก็ Galaxy S5 ที่มาพร้อม Exynos 2.1 GHz Octa-Core ยังไงหละครับ หึหึหึ

แล้วรอบนี้เพื่อนๆ จะเลือกรุ่นไหนกัน ระหว่าง

  • Galaxy S5 ที่มาพร้อม Snapdragon 801 2.5GHz Quad-Core รองรับ 4G
  • Galaxy S5 ที่ใช้ Samsung Exynos 2.1GHz Octa-Core แท้ และรองรับ 4G ในตัว

แต่คำถามข้อนี้ใครจะเป็นคนตอบนั้น ต้องรอ Samsung Thailand ออกมาสรุป ว่าจะเอารุ่นไหนเข้ามาวางจำหน่ายครับ

Snapdragon 8 Gen 2 หรือชิปเซตประมวลผลรุ่นใหม่ของ Qualcomm ที่ผ่านการพัฒนามาอย่างครอบคลุมในทุก ๆ ด้าน เพื่อรองรับการประมวลผลให้สมาร์ทโฟนของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยซีรีส์ชิปเซต Snapdragon 8 นับเป็นชิปเซตตัวท็อปที่นิยมใช้ในมือถือรุ่นเรือธงมาอย่างยาวนาน มักมีการออกชิปเซตรุ่นใหม่เพื่อพัฒนาความสามารถและเทคโนโลยีให้พร้อมตอบสนองการใช้งานอยู่เสมอ

ชิปเซต Snapdragon 8 Gen 2 เองก็ได้มีการออกแบบมาเพื่อการนี้ ทั้งปรับปรุง CPU และ GPU จนได้ชิปเซตตัวแรงที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานไปพร้อม ๆ กัน

Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy จึงนับเป็นรุ่นที่เร็วและแรงที่สุดรุ่นหนึ่งในปัจจุบัน มีความสามารถที่ก้าวกระโดดจาก Snapdragon รุ่นก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีในหลากหลายด้านจึงเป็นที่นิยมใน โทรศัพท์เรือธงรุ่นใหม่ ๆ และยังมีเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยด้านการประมวลผลทำให้ทำงานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Snapdragon

Cpu 8 core samsung mobile ม ช ออะไรบ าง
Cpu 8 core samsung mobile ม ช ออะไรบ าง

Snapdragon 8 Gen 2 คืออะไร ทำความรู้จักกับชิปเซตทรงพลังรุ่นใหม่ล่าสุด

ชิปเซต Snapdragon 8 Gen 2 คือชิปเซตสำหรับมือถือเรือธงรุ่นใหม่ที่พลิกโฉมวงการให้คุณได้รับประสบการณ์การใช้สมาร์ทโฟนที่ทั้งเร็วและแรงยิ่งกว่าเดิม ด้วยการทำงานที่มีประสิทธิภาพกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 35% และยังประหยัดพลังงานมากขึ้น 40% อีกด้วย ทำให้ Snapdragon 8 Gen 2 ขึ้นแท่นน้องใหม่มาแรงที่ตอบโจทย์โทรศัพท์มือถือยุคใหม่ ได้ใจคนชอบใช้โทรศัพท์มือถือแรง ๆ กันไปเต็ม ๆ

Snapdragon 8 Gen 2 ปรับปรุงทั้ง CPU, GPU, RAM, Modem และ โครงสร้างแกน โดยใช้เทคโนโลยีที่แรงที่สุดในปัจจุบัน และปรับปรุงโครงสร้างแกนแบบเน้นประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทำให้สามารถประมวลผลแบบ Multi-core ได้สบาย ๆ และรองรับการพัฒนาของเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาในอนาคต เช่น Wi-Fi 7, ระบบแสงเงาตกกระทบในเกมสมัยใหม่ และระบบการใช้งานซิมคู่ เป็นต้น

จึงมีการใช้ Snapdragon 8 Gen 2 ในมือถือรุ่นเรือธงเพื่อตอบสนองการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ถ่ายภาพ หรือจะสตรีม ก็ประมวลผลรวดเร็วและได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม

คุณสมบัติของ Snapdragon 8 Gen 2 โดดเด่นยิ่งขึ้น ประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม

คุณสมบัติหลัก (Key Features) ของ Snapdragon 8 Gen 2 จะเน้นที่การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเป็นหลัก โดยพัฒนาองค์ประกอบของชิปเซตในทุก ๆ ด้าน เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายและเตรียมพร้อมสำหรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในอนาคต ซึ่งประกอบไปด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้

ประสิทธิภาพขั้นสูงของ CPU และ GPU

Snapdragon 8 Gen 2 มีการปรับปรุง CPU และ GPU ใหม่ คือการเปลี่ยนมาใช้ CPU Kryo ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน 35% และลดการใช้พลังงานได้อีก 40% กับ GPU Adreno 740 ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น 25% รองรับการประมวลผลแสงเงาตกกระทบที่เริ่มพบเห็นได้มากในเกมออกใหม่หลาย ๆ เกม โดยเฉพาะเกมที่กราฟิกโหด ภาพสวย เน้นความสมจริง

การพัฒนาประสิทธิภาพ CPU และ GPU ของ Snapdragon 8 Gen 2 จึงส่งผลให้โทรศัพท์ที่ใช้ชิปเซตรุ่นนี้สามารถประมวลผลได้รวดเร็ว และสามารถทำงานหนักได้อย่างไม่มีติดขัด ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพ อัดวิดีโอ เล่นเกม หรือทำงานเปิดหลายแอปพลิเคชันในโทรศัพท์ก็ไม่มีปัญหา

ความสามารถของ AI ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การทำงานของ AI เองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเช่นกัน เนื่องจาก Snapdragon 8 Gen 2 ใช้ชิป Hexagon รุ่นใหม่ที่ช่วยปรับปรุงการประมวลผลของ AI ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น 4.35 เท่า จึงประมวลผลได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น เช่น การตรวจจับใบหน้าหรือเสื้อผ้าต่าง ๆ ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการสร้างเอฟเฟคภาพ และพัฒนาเทคโนโลยีช่วยถ่ายภาพที่มีในโทรศัพท์ของคุณได้อย่างก้าวกระโดด

ประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีขึ้น

เนื่องจาก CPU ของ Snapdragon 8 Gen 2 ช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 40% จึงสามารถใช้โทรศัพท์ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างยาวนาน ไม่ว่าจะทำงาน ถ่ายภาพ หรือเล่นเกม ก็ไม่ต้องคอยชาร์จใหม่ให้รำคาญใจ ทั้งยังลดอาการเครื่องร้อนเมื่อเครื่องทำงานอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

การเชื่อมต่อ 5G ที่เหนือกว่า และรองรับ Wi-Fi 7

Snapdragon 8 Gen 2 ใช้ Modem ตัวใหม่อย่าง Snapdragon X70 5G modem จึงทำให้เชื่อมต่อ 5G ได้ดียิ่งกว่าเดิม รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 7 และเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3 ได้ จึงเรียกได้ว่าเป็นการพัฒนาที่ตอบโจทย์การใช้งานในปัจจุบันและเตรียมพร้อมไปถึงเทคโนโลยีที่กำลังจะมาถึงในอนาคต

รายละเอียดสเปค Snapdragon 8 Gen 2

สเปคของ Snapdragon 8 Gen 2 มีการพัฒนาจากรุ่นก่อน ๆ อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการประมวลผลและประสิทธิภาพการใช้งาน ประกอบไปด้วยสเปคดังต่อนี้

• CPU Snapdragon 8 Gen 2 จะใช้เป็นตัว CPU Kryo ซึ่งประกอบไปด้วยหลายแกนด้วยกัน และมีการปรับโครงสร้างแกนมาเน้นแกนสำหรับการประมวลผลหลายงานมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลแบบ Multi-core โดยแกนต่าง ๆ ประกอบไปด้วย o แกนซีพียูสำหรับประมวลผลความเร็วสูงสุดที่ 3.2GHz จำนวน 1 แกน o แกนซีพียูสำหรับรองรับการประมวลผลหลายงานในเวลาเดียวกัน มีความเร็วอยู่ที่ 2.8GHz จำนวน 4 แกน o แกนซีพียูสำหรับการประหยัดพลังงานเพื่อประมวลผลงานเบา ๆ มีความเร็วอยู่ที่ 2.0GHz จำนวน 3 แกน

• GPU Snapdragon 8 Gen 2 จะใช้เป็นตัว GPU Adreno 740 ซึ่งรองรับ Ray Tracing หรือการประมวลผลแสงเงาตกกระทบ ให้คุณได้สัมผัสเอฟเฟคแสงเงาในเกมที่แตกต่างจากเดิมอย่างเทียบไม่ติด อีกทั้ง GPU ของ Snapdragon 8 Gen 2 ยังรองรับเทคโนโลยี Vulkan 1.3 ให้คุณสัมผัสกราฟิกแบบใหม่ที่สมจริงยิ่งกว่าเดิม

• RAM Snapdragon 8 Gen 2 จะใช้เป็นตัว LPDDR5X ซึ่งมีความเร็วอยู่ที่ 4,200MHz นั่นคือเร็วกว่าชิปเซตรุ่นก่อน 1,000MHz และมีการจัดเก็บแบบ UFS 4.0 ที่เร็วขึ้นเช่นกัน

• Modem Snapdragon 8 Gen 2 จะใช้เป็นตัว Snapdragon X70 5G modem จึงสามารถรองรับการเชื่อมต่อ 5G ได้ดีกว่าของรุ่นเก่าอย่าง Snapdragon X65 5G modem

• การเชื่อมต่อ Wi-Fi และ Bluetooth ของ Snapdragon 8 Gen 2 สามารถรองรับ Wi-Fi 7 ในความเร็วสูงสุดที่ 5.8Gbps และ Bluetooth 5.3 ได้

• กล้อง Snapdragon 8 Gen 2 ใช้เซนเซอร์ภาพของ Sony ร่วมกับเทคโนโลยี Digital Overlap HDR ทำให้สามารถถ่ายภาพความละเอียดสูงสุดได้ที่ 200MP หรือถ่ายวิดีโอความชัดสูงสุด 8K HDR ที่ 30Fps รองลงมาเป็น 4K ที่ 120Fps และสุดท้าย 720P ที่ 960Fps

• ระบบเสียงของ Snapdragon 8 Gen 2 สามารถสตรีมไฟล์เพลงในความเร็วระดับ 48KHz

• การแสดงผลของ Snapdragon 8 Gen 2 สามารถแสดงผลได้ 2 รูปแบบคือหน้าจอความละเอียด 4K ที่ 60Hz และหน้าจอความละเอียด QHD+ ที่ 144Hz

• การเข้ารหัสของ Snapdragon 8 Gen 2 สามารถเข้ารหัสได้ 3 รูปแบบด้วยกันคือ AV1, H.265 และ VP9 ซึ่งมีส่วนช่วยในการเสริมความคมชัดสมจริงได้ดียิ่งขึ้น

• การอัปโหลดและดาวน์โหลดของ Snapdragon 8 Gen 2 ทำได้ดีและรวดเร็ว โดยความเร็วในการอัปโหลดจะอยู่ที่ 3.5Gbps และความเร็วในการดาวน์โหลดจะอยู่ที่ 10Gbps

• Snapdragon 8 Gen 2 ใช้ชิป Hexagon ที่ช่วยให้ AI ประมวลผลได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น

จะเห็นได้ว่าสเปคเด่น ๆ ของ Snapdragon 8 Gen 2 คือการประมวลผลที่รวดเร็วขึ้นในทุก ๆ ด้าน และมาพร้อมกับการประหยัดพลังงานที่ช่วยให้แบตอึดและลดปัญหาเครื่องร้อนระหว่างการใช้งาน ไม่ว่าคุณจะใช้โทรศัพท์มือถือทำกิจกรรมใด Snapdragon 8 Gen 2 ก็จะช่วยให้คุณมั่นใจว่าคุณจะสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและต่อเนื่องอย่างแน่นอน

Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy S23 Series สเปคแรงกว่าใคร

Cpu 8 core samsung mobile ม ช ออะไรบ าง
Cpu 8 core samsung mobile ม ช ออะไรบ าง

Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy คือชิปเซตที่มีการปรับปรุงและพัฒนาบางส่วนต่อมาจาก Snapdragon 8 Gen 2 ธรรมดา ซึ่งส่งผลให้มีการทำงานที่รวดเร็วกว่าในบางส่วนและเสถียรกว่าเมื่อต้องควบคุมการประมวลผลอย่างต่อเนื่อง

แม้ว่าจะไม่ได้มีการปรับปรุงที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงแบบที่ Snapdragon 8 Gen 2 ต่างจาก Snapdragon 8 รุ่นอื่น ๆ แต่ก็เป็นการปรับที่ช่วยเสริมการทำงานของมือถือที่ใช้ Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน Samsung Galaxy S23 Series

Samsung Galaxy S23 Series ที่ใช้ชิปเซตประมวลผล Snapdragon 8 Gen 2 ประกอบไปด้วย Galaxy S23 Ultra, Galaxy S23 และ Galaxy S23+ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นมือถือรุ่นเรือธงที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานของผู้ใช้ในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะใช้งานหนัก หรือใช้งานหลากหลายแค่ไหนก็ไม่มีปัญหา

Galaxy S23 Ultra ดึงประสิทธิภาพจาก Snapdragon 8 Gen 2 อย่างเต็มที่ เพราะเป็นโทรศัพท์รุ่นที่ออกแบบมาเพื่อสามารถใช้งานหนักได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพที่สามารถถ่ายได้ทั้งภาพความละเอียดสูง และซูมถ่ายระยะไกลถึง 100x ด้วยเลนส์เทเลโฟโตที่ต้องใช้การประมวลผลระดับสูงเพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดสมจริง

นอกจากนี้ยังเหมาะกับการเล่นเกม หรือสตรีมเกมอีกด้วย เนื่องจาก Snapdragon 8 Gen 2 สามารถประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว จะกราฟิกหรือระบบภายในเกมก็เล่นได้ไม่มีสะดุด นอกจากนี้ยังใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง เพราะ Galaxy S23 Ultra มีแบตอึดทนนานควบคู่ไปกับการประหยัดพลังงานของ Snapdragon 8 Gen 2

หรือจะใช้ Galaxy S23 Ultra ทำหลาย ๆ งานพร้อมกันก็สะดวกสบาย เพราะ Snapdragon 8 Gen 2 รองรับการประมวลผลแบบ Multi-Core ช่วยให้คุณทำหลายงานในมุมมองที่กว้างกว่าของโทรศัพท์รุ่นนี้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

Galaxy S23 และ S23+ เองก็ใช้ Snapdragon 8 Gen 2 ได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน เนื่องจากมีวัตถุประสงค์การใช้งานคล้ายกับ Galaxy S23 Ultra เพียงแต่จะเป็นรุ่นที่มีสเปครองลงมาในบางด้านเท่านั้น เช่น การถ่ายภาพระยะไกลที่สามารถซูมได้ 30x แต่ก็ยังถ่ายวิดีโอหรือถ่ายภาพตอนกลางคืนได้ดี หรือจะเล่นเกม สตรีมเกมก็ทำได้ไหลลื่นไม่มีสะดุด

เปรียบเทียบ Snapdragon 8 Gen 2 กับชิปเซตรุ่นอื่น ๆ

นอกจาก Snapdragon 8 Gen 2 แล้วก็ยังมีชิปเซตอื่น ๆ ที่เปิดตัวมาก่อนมากมาย แล้วชิปเซต Snapdragon 8 Gen 2 มีการปรับปรุงพัฒนาที่ทำให้แตกต่างจากรุ่นอื่นอย่างไรบ้าง มาดูรายละเอียดไปพร้อม ๆ กัน

Snapdragon 8 Gen 2 VS Snapdragon 8 Gen 1 Plus

ความแตกต่างหลัก ๆ ของ Snapdragon 8 Gen 2 กับ รุ่น Gen 1 Plus คือการพัฒนาความเร็วและแรงของการประมวลผล โดยจะเน้นไปที่การพัฒนา CPU, GPU, RAM, Modem และการเข้ารหัส เพื่อรองรับเทคโนโลยีในอนาคตและตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้ได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดระหว่าง Snapdragon 8 Plus Gen 1 vs Snapdragon 8 Gen 2 ในด้าน CPU นอกจากการปรับใช้ CPU ที่แรงขึ้นแล้วยังมีการปรับโครงสร้างใหม่ เพื่อเน้นให้สามารถประมวลผลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แม้จะใช้งานหลายอย่างพร้อม ๆ กันก็ตาม

Snapdragon 8 Gen 2 VS A16 Bionic จากค่าย Apple

ความแตกต่างระหว่าง Snapdragon 8 Gen 2 กับชิปเซต A16 Bionic จากค่าย Apple นอกจากจะเป็นชิปเซตที่ใช้ในโทรศัพท์มือถือคนละค่ายแล้ว ก็ยังแตกต่างกันในด้านของความแรงและการประหยัดพลังงานเป็นหลัก เพราะชิปเซตทั้ง 2 รุ่นนี้ต่างก็สร้างบนสถาปัตยกรรม TSMC 4nm เช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ความแตกต่างด้านความแรงและการประหยัดพลังงานของชิปเซตทั้ง 2 แบบ ก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก ในบางการใช้งาน เพราะแรงมากพอสำหรับการใช้งานหนัก ๆ เช่นเดียวกัน แต่ชิปเซต Snapdragon 8 Gen 2 จะโดดเด่นกว่าในด้านของ RAM การแสดงผล สปีดการอัปโหลด และการรองรับ Wi-Fi 7 นั่นเอง

Snapdragon 8 Gen 2 VS Dimensity 9000 จากค่าย MediaTek

ความแตกต่างระหว่าง Snapdragon 8 Gen 2 กับชิปเซต Dimensity 9000 จากค่าย MediaTek คือโครงสร้าง CPU ที่ Snapdragon 8 Gen 2 จะทำงานแบบ Multi-Core ได้ดีกว่า และมีความเร็วของ CPU สำหรับการประมวลผลความเร็วสูงสุดที่เร็วกว่า แต่ทั้ง 2 รุ่นก็ยังออกแบบอยู่บนสถาปัตยกรรม TSMC 4nm เหมือนกัน

เรียกได้ว่าทั้ง 2 รุ่นสามารถประมวลผลในส่วนของตัวเองได้ดี แต่อาจจะมีบางการทำงานที่ Snapdragon 8 Gen 2 อาจทำได้เร็วกว่าหรือมีประสิทธิภาพมากกว่า เช่น การทำงานหลายอย่างพร้อม ๆ กัน หรือการทำงานที่ต้องการการประมวลผลที่เร็วที่สุดภายในชั่วระยะเวลาหนึ่ง

Snapdragon 8 Gen 2 ชิปเซตที่จะขับเคลื่อนเทคโนโลยีสมาร์ทโฟน

Cpu 8 core samsung mobile ม ช ออะไรบ าง
Cpu 8 core samsung mobile ม ช ออะไรบ าง

การพัฒนาชิปเซต Snapdragon 8 Gen 2 นับว่าเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีพลิกโฉมวงการที่ผลักดันสเปคโทรศัพท์ให้เร็ว แรง ยิ่งขึ้นในทุก ๆ ด้าน รวมถึงตอบโจทย์การทำงานหลากหลายได้ดีอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จุดเด่นที่ Snapdragon 8 Gen 2 ทำให้เกิดความก้าวหน้าในวงการสมาร์ทโฟนมีดังต่อไปนี้

การเล่นเกมที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ด้วย CPU และ GPU ตัวแรงของ Snapdragon 8 Gen 2 ทำให้การเล่นเกมไหลลื่นยิ่งกว่าเก่า สัมผัสประสบการณ์การเล่นกราฟิกคุณภาพสูงได้อย่างไม่มีสะดุด รวมไปถึงการรองรับ Ray Tracing ที่ช่วยเสริมความสมจริงให้เกมได้เป็นอย่างดี

การประมวลผลแสงเงาตกกระทบ (Ray Tracing) และรองรับเทคโนโลยี Vulkan 1.3 พร้อม ๆ กันในชิปเซตเดียวนับเป็นเรื่องใหม่ โดยแต่ก่อนโทรศัพท์มือถือจะไม่สามารถประมวลผลภาพได้ดีเท่ากับเครื่องเล่นเกมรูปแบบอื่น ๆ อย่างเกม PC หรือ เกม Console แต่ชิปเซต Snapdragon 8 Gen 2 จะช่วยทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่ใกล้เคียงมากขึ้นกว่าชิปเซตรุ่นอื่น ๆ ทำให้โทรศัพท์ Galaxy S23 Series ที่ใช้ชิปเซต Snapdragon 8 Gen 2 เป็นหนึ่งใน โทรศัพท์เล่นเกม ที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ณ ขณะนี้

เทคโนโลยี AR และ VR

เทคโนโลยี AR คือการนำวัตถุเสมือนออกสู่โลกความเป็นจริง และ เทคโนโลยี VR คือการจำลองโลกเสมือนให้เราได้สัมผัสประสบการณ์ที่สมจริง ทั้ง 2 เทคโนโลยีนี้ต่างก็เป็นคลื่นลูกใหม่มาแรงที่หลาย ๆ คนจับตามอง ไม่ว่าจะเป็นการใช้เพื่อความบันเทิงหรือการพัฒนาไปใช้งานด้านอื่น ๆ ในอนาคต

ซึ่งเทคโนโลยี AR และ VR ต่างก็ต้องการการประมวลผลที่แรงมากพอ เพื่อให้สามารถสร้างภาพเสมือนออกมาได้อย่างสมจริงและลื่นไหลต่อเนื่อง ชิปเซต Snapdragon 8 Gen 2 จึงเข้ามามีบทบาทที่ช่วยให้สมาร์ทโฟนสามารถเชื่อมต่อและทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเหล่านี้ได้ดียิ่งขึ้น

การปรับใช้กับอุปกรณ์ที่พับหน้าจอได้

เนื่องจาก Snapdragon 8 Gen 2 มีการปรับปรุงทั้งคุณภาพของ CPU, GPU, การแสดงผล, การทำงานร่วมกับ AI รวมไปถึงการปรับโครงสร้างของแกน CPU ด้วย ทำให้ Snapdragon 8 Gen 2 ช่วยพัฒนาการแสดงผลของโทรศัพท์สมาร์ทโฟนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงสามารถปรับอัตราส่วนภาพที่หลากหลายได้ดีมากกว่าเดิม

สิ่งแวดล้อมและพลังงาน

Snapdragon 8 Gen 2 นับเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมลงได้ เนื่องจากเป็นชิปเซตที่ออกแบบมาเพื่อให้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และประหยัดพลังงาน จึงมีการใช้พลังงานแบตเตอรี่ลดน้อยลง ช่วยยืดอายุการใช้งานของสมาร์ทโฟนได้ และไม่จำเป็นต้องคอยชาร์จแบตเตอรี่บ่อย ๆ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Snapdragon 8 Gen 2

นอกจากรายละเอียดโดยทั่วไปเกี่ยวกับ Snapdragon 8 Gen 2 แล้ว หลาย ๆ คนอาจยังมีคำถามคาใจอยู่บ้างว่าเจ้าชิปเซตทรงพลังตัวนี้สามารถช่วยการใช้งานของเราได้อย่างไร หรือจะช่วยเรื่องการประมวลผลได้จริงไหม สามารถดูคำตอบได้ที่นี่

Snapdragon 8 Gen 2 ช่วยให้การเล่นเกมดีขึ้นได้อย่างไร?

การมีประสบการณ์การเล่นเกมที่ดี ขึ้นอยู่กับการประมวลผลเป็นหลัก เพราะไม่ว่าใครก็คงไม่อยากโดนขัดจังหวะขณะกำลังเล่นเพลิน ๆ Snapdragon 8 Gen 2 ซึ่งพัฒนาด้านการประมวลผลมาให้เร็วและแรงที่สุด ด้วยเทคโนโลยีคุณภาพสูง จึงช่วยพัฒนาประสบการณ์การเล่นเกมของคุณได้

ไม่ว่าจะไฟล์เกมใหญ่แค่ไหน คุณภาพของกราฟิกสวยเพียงใด Snapdragon 8 Gen 2 ก็พร้อมประมวลผลให้คุณได้ภาพที่สวยที่สุดและเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด รวมไปถึงช่วยประหยัดพลังงานและลดอาการเครื่องร้อน ให้คุณเล่นเกมได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องคอยชาร์จ

Snapdragon 8 Gen 2 ช่วยให้การถ่ายภาพดีขึ้นจริงหรือ?

การถ่ายภาพนอกจากจะถ่ายให้สวยแล้ว การถ่ายง่ายก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ควรคำนึงถึงเช่นกัน ซึ่ง Snapdragon 8 Gen 2 มีการออกแบบที่ช่วยพัฒนาทั้งด้านการประมวลผล ด้านกล้อง และด้าน AI ที่สามารถเข้ามาช่วยเรื่องการถ่ายภาพได้ตั้งแต่ตอนถ่ายจนกระทั่งได้รูปภาพสวย ๆ ออกมา

ชิปเซต Snapdragon 8 Gen 2 จะช่วยให้คุณถ่ายภาพความละเอียดสูงได้ดี มีการประมวลผลที่ทั้งเร็วและแรงช่วยให้ประมวลผลภาพออกมาได้คมชัด สมจริง รวมไปถึงเทคโนโลยี AI ที่เข้ามาช่วยตั้งแต่การจับภาพ การแยกส่วนองค์ประกอบต่าง ๆ ของภาพ ให้คุณถ่ายภาพสวย ๆ ได้ง่ายยิ่งกว่าเดิม

สรุป Snapdragon 8 Gen 2 ภาพรวมเป็นอย่างไร

Snapdragon 8 Gen 2 ถือได้ว่าเป็นชิปเซตเรือธงรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก เพราะทั้งเร็ว แรง และทำงานได้ดีในหลากหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะใช้สมาร์ทโฟนทำอะไรก็สามารถประมวลผลได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ โดยมือถือที่ใช้ Snapdragon 8 Gen 2 รุ่นเด่น ๆ ในปัจจุบัน ได้แก่ Galaxy S23 Series

Samsung S23 Series เป็นโทรศัพท์รุ่นเรือธงที่เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะดูหนัง เล่นเกม สตรีม ถ่ายภาพ หรือทำงาน เป็นโทรศัพท์ที่ตอบโจทย์การใช้งานหนัก ๆ หรือการใช้งานที่ต้องการสเปคเครื่องแรง ๆ Snapdragon 8 Gen 2 ซึ่งมีการประมวลผลดีเยี่ยม จึงตอบสนองการใช้งานทุกด้านได้แบบเต็มประสิทธิภาพและช่วยให้สมาร์ทโฟน S23 Series ทำงานบรรลุวัตถุประสงค์ได้อย่างไร้ข้อกังขา