ต นท นเพ ม เน องจากส นค าปลายงวดลด

ตร.รวบสาวแสบฉกเพชร

เผยแพร่: 16 เม.ย. 2556 17:04 โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ตร.รวบสาวแสบ 18 มงกุฎฉกเพชร พร้อมของกลางมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท สารภาพทำมาแล้ว 9 ครั้ง อ้างรายได้จากการขายเสื้อผ้าย่านตลาดนัดจตุจักรไม่พอใช้จ่าย

วันนี้ (16 เม.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุพจน์ พรหมศิริ รอง ผบก.น.5 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม น.ส.จินดา จันทร์หม่อน อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 999 ต.สีคิ้ว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ที่ 235/2556 ลงวันที่ 15 เม.ย. ในข้อหาลักทรัพย์ พร้อมของกลางทองรูปพรรณหลายรายการ แหวนทองคำฝังเพชร 4วง ต่างหูเพชร 1 คู่ ตั๋วจำนำของโรงรับจำนำนนทชัย 3 ใบ รวมมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 78 หมู่ 1 ต.หนองแก้ว อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด

พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า พฤติกรรมของ น.ส.จินดา ผู้ต้องหาได้เข้าไปตามร้านเพชร จากนั้นได้ฉวยโอกาสที่เจ้าของร้านหรือพนักงานเผลอ นำเพชรปลอมที่เตรียมมาสับเปลี่ยนกับเพชรจริง ก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2547 เมื่อถูกจับกุมดำเนินคดีแล้วพ้นโทษออกมาก็ก่อเหตุซ้ำอีก ทำมาแล้วหลายพื้นที่ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด โดยเมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้ก่อเหตุที่ จ.จันทบุรี ร่วมกับแฟนหนุ่ม เมื่อถูกจับกุมตัวได้ ก็ประกันตัวออกมา แต่ยังไม่เลิกพฤติกรรมดังกล่าว โดยล่าสุดได้ก่อเหตุในท้องที่ สน.บางนา

ด้าน พ.ต.อ.สุพจน์กล่าวว่า สำหรับคดีที่เกิดขึ้นในท้องที่ สน.บางนา สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้ทำทีไปติดต่อขอซื้อเพชร ที่ร้านอัญมณีและเพชร ระหว่างที่มีการจัดแสดงสินค้า บริเวณชั้นจี ภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลบางนา ซึ่งผู้ต้องหาได้เตรียมเพชรปลอมใส่กระเป๋ามาจำนวน 2 เม็ด จากนั้นก็จะเข้าไปทำทีชวนพนักงานคุยเรื่องซื้อขายเพชร โดยใช้บัตรประชาชนปลอมไปเปิดบัญชีและแสดงกับทางร้าน เมื่อสบโอกาสก็จะขอเลขที่บัญชีของทางร้าน พร้อมกับอ้างว่าจะออกไปโอนเงินให้ กระทั่งพนักงานเผลอ ผู้ต้องหาก็รีบสับเปลี่ยนเพชรทันที นอกจากนี้ยังฉวยโอกาสขโมยแหวนเพชรของทางร้านไปอีก 2 วง ก่อนจะหลบหนีไป

“ต่อมาฝ่ายสืบสวนได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายคือ น.ส.จินดา จึงขออำนาจศาลออกหมายจับ ก่อนจะนำกำลังไปติดตามจับกุมตัวได้ที่ จ.ร้อยเอ็ด สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าทำแล้วทั้งหมด 9 ครั้ง สาเหตุที่ทำไปเพราะรายได้จากการขายเสื้อผ้าย่านตลาดนัดจตุจักรไม่พอใช้จ่าย ก่อนลงมือจะตระเวนหาซื้อแหวนเพชรปลอม และงัดเอาเพชรออกมาเพื่อไปสลับกับของจริง จากนั้นก็จะเลือกร้านอัญมณีที่มีเพชรลักษณะใกล้เคียงกับของปลอมที่เตรียมมาเพื่อไม่ให้ทางร้านสังเกตเห็น” พ.ต.อ.สุพจน์กล่าว

เผยแพร่: 23 ก.ย. 2558 23:48 โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-จับผู้ต้องหาค้ามนุษย์ได้อีก 1 คน เป็นสาวชาวมอญชาวอำเภอสังขละบุรี ส่วนนายทหารทั้ง 4 นาย ต้นสังกัดได้ประสานขอเข้ามอบตัวแล้ว แต่ยังไม่ระบุรายละเอียดที่แน่ชัด ขณะที่ ป.ป.ง. ตามยึดทรัพย์ทะลุ 200 ล้านบาทแล้ว ด้าน "บิ๊กโด่ง" พร้อมส่งตัวทหารมีเอี่ยวค้ามนุษย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งเดินหน้าสืบสวนสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮีนจาและคดีฟอกเงินอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกรณีการออกหมายจับ 4 นายทหารที่เกี่ยวข้องต่อคดีนี้ ประกอบด้วยทหารบก 3 นาย คือ พ.อ.ณัฐสิทธิ์ มากสุวรรณ ร.อ.วิสูตร บุนนาค และ ร.อ.สันทัด เพชรน้อย ส่วนทหารเรือ 1 นาย คือ น.ท.กัมปนาท สังข์ทองจีน

ล่าสุด วานนี้ (23 ก.ย.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ รองผู้บัญชาตำรวจภูธรภาค 8 ในฐานะหัวหน้าฝ่ายสอบสวนคดี ได้เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนทั้งฝ่ายตำรวจและอัยการ พร้อมกับเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ได้อีก 1 คน คือ น.ส.โย ชาวมอญ ที่อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

ส่วนนายทหารทั้ง 4 คนนั้น ได้รับการประสานจากต้นสังกัด ทั้งนายทหารพระธรรมนูญทัพเรือภาคที่ 3 และกองทัพภาคที่ 4 แล้วว่าได้แจ้งให้นายทหารทั้ง 4 นาย เข้ามอบตัวกับคณะทำงานฝ่ายสอบสวนแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการกำหนดวันเวลาและสถานที่ที่แน่ชัดว่าจะมอบตัวในวันใด

เช่นเดียวกับคดีฟอกเงินและการติดตามยึดทรัพย์เครือข่ายค้ามนุษย์ ทางคณะกรรมการธุรกรรมทางการเงินของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ยึดทรัพย์ผู้ต้องหาเพิ่มเติมเกิน 200 ล้านบาท และยังคงดำเนินการควบคุมไปกับการติดตามจับกุมผู้ต้องหาค้ามนุษย์ ซึ่งหลายคนมีความเชื่อมโยงกัน

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหมและผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณีที่ศาลจังหวัดนาทวีออกหมายจับนายทหารสังกัดกองทัพบกที่พัวพันการค้ามนุษย์ ว่า หากมีความเกี่ยวพันในเรื่องความผิด ก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งเราจะไม่ช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น เพราะผู้กระทำผิดจะต้องได้รับการลงโทษจากผลของการกระทำนั้นๆ

ทั้งนี้ การออกหมายจับเป็นฐานข้อมูลระดับหนึ่ง ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่ถูกออกหมายจับด้วย เพราะอาจเขาอาจมีพยานหลักฐานที่เขาไม่ได้ทำผิด

อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่ากระบวนการยุติธรรม จะชี้ความถูกต้องได้ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน โดยกองทัพบกมีรายชื่อนายทหาร 3 คนแล้ว และพร้อมส่งตัวทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป ซึ่งขณะนี้ทางกองทัพบกได้ประสานกองทัพภาคที่ 4 ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อแจ้งกลับมายังกองทัพบก ให้ดำเนินการส่งตัวตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป อีกทั้งทางกองทัพบกไม่ได้ดึงเรื่องให้ช้า แต่อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ

เมื่อถามว่า เบื้องต้นจะมีนายทหารเกี่ยวข้องเพิ่มเติมหรือไม่ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบ เป็นเรื่องของพยานหลักฐานจะสาวไปถึงใคร อีกทั้งอย่าไปชี้ชัดว่าผิด เพราะกำลังพลที่เกี่ยวข้อง หรือถูกพาดพิง อาจมีพยานหลักฐานว่าเขาไม่ได้กระทำผิด จึงเป็นเรื่องของกระบวนการของศาลที่จะสืบสวนต่อไป

เมื่อถามย้ำว่า นายทหารที่ถูกออหมายจับดังกล่าว ต้องเข้ารายงานตัวต่อกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) หรือไม่ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า หากถึงขั้นตอนส่งตัวก็ต้องส่ง แต่ขณะนี้ยังรอรายละเอียดจากกองทัพภาคที่ 4 อยู่