ก จกรรมเคล อนไหวและจ งหวะ การเล นเกม ม เกมอะไรบ าง

1.3.1 เล่นและทำกิจกรรมอยำ่ งปลอดภัยดว้ ย 1. เล่นและทำกจิ กรรมอย่ำงปลอดภยั ด้วยตนเอง 2. กำรเคลอ่ื นไหวเคลื่อนท่ี บำงชนดิ มีสีสวยงำม และมี

ตนเอง 3. กำรเคลอื่ นไหวพรอ้ มวัสดอุ ุปกรณ์ สว่ นประกอบทีส่ ำคัญดงั นี้

มฐ. 2 ตบช. 2.1 4. กำรเคลื่อนไหวท่ใี ชป้ ระสำนสมั พนั ธ์ - สว่ นหวั ของผีเสื้อ ประกอบไป

2.1.2 กระโดดขำเดียวอยู่กับทไี่ ดโ้ ดยไมเ่ สยี กำร 2. กระโดดขำเดียวอย่กู บั ท่ีได้โดยไม่เสยี กำรทรงตัว ของกำรใช้กลำ้ มเน้ือใหญ่ในกำรโยน ด้วย ตำ 2 ข้ำง หนวด 2 เสน้ และ

ทรงตวั 5. กำรเขยี นภำพและเลน่ กับสี ปำกเป็นท่อเรยี วยำวสำมำรถม้วนได้

2.1.3 ว่ิงหลบหลีกส่ิงกดี ขวำงได้ 3. ว่งิ หลบหลีกส่งิ กีดขวำงได้ 6. กำรป้นั ซ่ึงคอื ทอ่ ดูดน้ำหวำน

2.1.4 รบั ลูกบอลโดยใช้มอื ท้ัง 2 ข้ำง 4. รับลูกบอลโดยใชม้ ือทั้ง 2 ข้ำง 7. กำรประดษิ ฐ์สง่ิ ต่ำง ๆ ดว้ ยเศษวสั ดุ - ลำตวั ของผเี ส้อื ประกอบไปดว้ ย

มฐ. 2 ตบช. 2.2 8. กำรหยบิ จบั และกำรร้อยวัสดุ สว่ นหวั สว่ นลำตวั และส่วนทอ้ งมี

2.2.1 ใชก้ รรไกรตัดกระดำษตำมแนวเสน้ ได้ 5. ใชก้ รรไกรตัดกระดำษตำมแนวเส้นได้ 9. กำรเล่นเครือ่ งเล่นอยำ่ งปลอดภยั ลกั ษณะเปน็ ปลอ้ งๆ และขำจำนวน 6

2.2.3 รอ้ ยวัสดุทีมรี ูขนำดเส้นผ่ำนศนู ย์กลำง 0.5 6. ร้อยวัสดทุ ีมรี ูขนำดเสน้ ผำ่ นศูนย์กลำง 0.5 พัฒนาการด้านอารมณ์-จติ ใจ ขำ มีลกั ษณะเป็นข้อ ๆ

เซนตเิ มตรได้ เซนติเมตรได้ 1. กำรฟงั เพลง กำรร้องเพลง และกำร - ปีกและสีของผเี ส้ือ ปกี ของผเี สื้อ

พัฒนาการด้านอารมณ์-จติ ใจ แสดงปฏกิ ิรยิ ำโต้ตอบเสยี งดนตรี มี 2 คู่ ปกี คบู่ นมีขนำดใหญ่กว่ำคู่ลำ่ ง

มฐ.3 ตบช. 3.1 2. กำรเคลอ่ื นไหวตำมเสยี งเพลง/ บนปีกมีสสี ันและลวดลำยท่ีตำ่ งกนั

3.1.1 แสดงอำรมณ์ ควำมรู้สึกได้ตำมสถำนกำรณ์ 7. แสดงอำรมณ์ ควำมร้สู กึ ได้ตำมสถำนกำรณ์ ดนตรี 2. ประเภทของผีเส้ือ

มฐ 3 ตบช. 3.2 3. กำรทำกิจกรรมศิลปะต่ำง ๆ ผีเสอื้ แบง่ ออกเป็น 2 ประเภท คือ

3.2.1 กล้ำพูดกล้ำแสดงออกอย่ำงเหมำะสมบำง 8. กล้ำพูดกลำ้ แสดงออกอยำ่ งเหมำะสมบำง 4. กำรสรำ้ งสรรคส์ ง่ิ สวยงำม ผีเสื้อกลำงวัน และผีเสอ้ื กลำงคืน

สถำนกำรณ์ สถำนกำรณ์ 5. กำรเลน่ อิสระ - ผีเสือ้ กลำงวนั จะมสี สี นั สดใสกวำ่

มาตรฐาน/ตัวบ่งชี้ /สภาพท่ีพงึ ประสงค์ จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้

ประสบการณ์สาคัญ สาระที่ควรเรยี นรู้

มฐ 4 ตบช 4.1 6. กำรเลน่ รำยบุคคล กลุม่ ย่อย และ หำกินเฉพำะกลำงวัน ปำกมีลักษณะ

4.1.1 สนใจ มคี วำมสุข และแสดงออกผ่ำนงำน 9. สนใจ มีควำมสุข และแสดงออกผำ่ นงำนศลิ ปะ กลมุ่ ใหญ่ เป็นงวง

ศลิ ปะ 7. กำรเลน่ ตำมมุมประสบกำรณ์/มุม - ผเี ส้อื กลำงคืน จะมีลกั ษณะ

4.1.2 สนใจมีควำมสขุ และแสดงออกผ่ำน 10. สนใจมคี วำมสขุ และแสดงออกผำ่ นเสียงเพลง เล่นต่ำง ๆ ตรงกันข้ำม คอื มกั มสี ีนำ้ ตำล และไม่

เสยี งเพลงดนตรี ดนตรี 8. กำรเล่นนอกห้องเรยี น มีลำยเดน่ ชดั หำกนิ กลำงคืน

4.1.3 สนใจ มีควำมสุขและแสดงทำ่ ทำง/ 11. สนใจ มีควำมสุขและแสดงทำ่ ทำง/เคล่อื นไหว 9. กำรพูดสะทอ้ นควำมรู้สกึ ของตนเอง 3. อาหารของผเี สื้อ

เคลอ่ื นไหวประกอบเพลง จงั หวะ และดนตรี ประกอบเพลง จงั หวะ และดนตรี และผอู้ น่ื อำหำรของผเี สือ้ ทว่ั ไป คือ น้ำหวำน

มฐ 5 ตบช 5.1 10. กำรเลน่ บทบำทสมมติ และเกลือแร่ น้ำหวำนได้มำจำก

5.1.1 ขออนุญำตหรอื รอคอยเมื่อต้องกำรส่ิงของ 12. ขออนุญำตหรือรอคอยเมื่อตอ้ งกำรสิง่ ของของ 11. กำรร้องเพลง ดอกไม้ ผลไม้หรือยำงไม้ สำหรบั

ของผู้อน่ื เมื่อมีผ้ชู ีแ้ นะ ผูอ้ ่นื เมื่อมีผู้ชแี้ นะ 12. กำรทำงำนศลิ ปะ เกลือแรน่ ั้นอำจเกิดไดจ้ ำกสะสมที่

มฐ 5 ตบช 5.2 13. กำรปฏิบตั ิกิจกรรมต่ำง ๆ ตำม ทรำยช้นื เป็นตน้

5.2.2 แสดงควำมรักเพ่ือน และมีเมตตำสัตว์เลย้ี ง 13. แสดงควำมรกั เพ่ือน และมีเมตตำสัตว์เล้ียง ควำมสำมำรถของตนเอง 4. วงจรชีวิตผเี สื้อ

มฐ 5 ตบช 5.3 พัฒนาการด้านสังคม วงจรชวี ติ ผเี สอ้ื ผเี สื้อมีกำร

5.3.1 แสดงสีหน้ำและท่ำทำงรบั รู้ควำมรู้สึกผู้อืน่ 14. แสดงสหี นำ้ และทำ่ ทำงรับร้คู วำมรู้สึกผู้อนื่ 1. กำรปฏบิ ัตติ ำมแนวทำงหลักปรัชญำ เจริญเติบโต4ระยะ คือ ระยะไข่

มฐ 5 ตบช 5.4 เศรษฐกิจพอเพียง ระยะหนอน ระยะดกั แด้ ระยะตวั

5.4.1 ทำงำนท่ีได้รับ มอบหมำยจนสำเรจ็ เม่อื มผี ู้ 15. ทำงำนท่ีไดร้ ับ มอบหมำยจนสำเร็จ เมือ่ มีผู้ 2. กำรใชว้ สั ดุและสง่ิ ของอยำ่ งคุม้ คำ่ เต็มวยั ในระยะไข่ ผีเส้อื เมอื่ หลังจำก

ช้ีแนะ ชแี้ นะ 3. กำรทำงำนศลิ ปะทีน่ ำวสั ดุหรือ ผำ่ นกำรผสมพันธ์ุ จะไปวำงไข่ในทีท่ ี่

พัฒนาการดา้ นสังคม ส่งิ ของเครื่องใช้ทใ่ี ชแ้ ล้วมำใช้ช้ำ หรือ เป็นพืชอำหำร ไขข่ องผีเสอื้ มี

มฐ.6 ตบช. 6.2 แปรรปู แลว้ นำกลบั มำใชใ้ หม่ ระยะเวลำเฉลี่ย 3 - 5 วัน แล้วจะ

6.2.1 เกบ็ ของเล่นของใช้เข้ำทด่ี ว้ ยตนเอง 16. เกบ็ ของเล่นของใชเ้ ขำ้ ท่ดี ้วยตนเอง 4. กำรศึกษำนอกสถำนที่ กลำยเป็นตัวหนอน ในช่วงน้ีใชเ้ วลำ

มาตรฐาน/ตัวบ่งชี้ /สภาพท่ีพงึ ประสงค์ จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้

ประสบการณส์ าคัญ สาระทคี่ วรเรียนรู้

มฐ.6 ตบช. 6.3 5. กำรใหค้ วำมรว่ มมือในกำรปฏิบัติ ประมำณ 7 - 20 และจะกลำยเปน็

6.3.1 ใชส้ ่งิ ของเครื่องใชอ้ ย่ำงประหยัดและ 17. ใช้สิง่ ของเคร่ืองใชอ้ ย่ำงประหยดั และพอเพียง กจิ กรรมตำ่ ง ๆ ดักแด้ ในเปลือกดักแด้น้นั จะมีกำร

พอเพยี งเม่ือมผี ้ชู แ้ี นะ เมือ่ มผี ชู้ แี้ นะ 6. กำรสนทนำและแลกเปลยี่ นควำม พฒั นำตำ่ ง ๆ เกิดขน้ึ ใชเ้ วลำ

มฐ.7 ตบช.7.1 คดิ เหน็ ประมำณ 5 - 20วัน ผเี สอื้ จะดนั

7.1.1 มสี ่วนร่วมดแู ลรักษำธรรมชำติและ 18. มีสว่ นร่วมดูแลรักษำธรรมชำติและสงิ่ แวดลอ้ ม 7. กำรเลน่ และทำงำนร่วมกบั ผอู้ ่นื ตัวเองออกมำจำกดักแด้ และ

สิ่งแวดลอ้ มเมื่อมีผ้ชู ีแ้ นะ เมื่อมีผู้ชีแ้ นะ 8. กำรทำศิลปะแบบร่วมมือ กลำยเป็นผเี สื้อตัวเตม็ วัย และมีชวี ิต

มฐ.8 ตบช. 8.2 9. กำรเลน่ หรอื ทำกิจกรรมรว่ มกบั กลมุ่ อยู่ประมำณ 10 - 20วนั

8.2.1 เล่นหรือทำงำนร่วมกับเพ่อื นเป็นกลมุ่ 19. เลน่ หรือทำงำนรว่ มกับเพื่อนเป็นกลุม่ เพ่อื น 5. ประโยชน์และโทษของผีเสื้อ

มฐ.8 ตบช. 8.3 พฒั นาการดา้ นสติปญั ญา 1) ประโยชน์

8.3.2 ปฏิบตั ติ นเปน็ ผ้นู ำและผตู้ ำมได้ดว้ ยตนเอง 20. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผู้นำและผู้ตำมไดด้ ้วยตนเอง 1. กำรฟังและปฏิบัตติ ำมคำแนะนำ - กำรผลิตไหม ซ่งึ สร้ำงโดยตัวนอน

มฐ.9 ตบช. 9.1 2. กำรฟังเพลง นทิ ำน คำคล้องจอง ไหม นำมำทอผ้ำได้ดี

9.1.1 ฟงั ผอู้ ื่นพูดจนจบและสนทนำโต้ตอบ 21. ฟังผูอ้ ื่นพดู จนจบและสนทนำโต้ตอบสอดคล้อง บทร้อยกรอง หรอื เร่อื งรำวต่ำง ๆ - ควำมสวยงำม ควำมสวยงำมของ

สอดคลอ้ งกับเรืองฟัง กับเรอื งฟงั 3. กำรสงั เกตลกั ษณะ ส่วนประกอบ ผีเส้ืออย่ทู ่ปี ีก

9.1.2 เล่ำเรอื่ งเป็นประโยคอย่ำงต่อเน่ือง 22. เลำ่ เร่อื งเป็นประโยคอยำ่ งต่อเนื่อง กำรเปลี่ยนแปลง และควำมสัมพนั ธ์ - กำรผสมเกสรของพืชดอก ผีเสื้อจะ

มฐ.10 ตบช. 10.1 ของส่งิ ต่ำง ๆ โดยใชป้ ระสำทสมั ผัส ช่วยผสมเกสรดอกไม้ได้ดี

10.1.1 บอกลักษณะและส่วนประกอบของส่ิงตำ่ ง 23. บอกลกั ษณะและสว่ นประกอบของผีเสอ้ื จำก อยำ่ งเหมำะสม 2) โทษของผเี สื้อ 4.กำรคดั แยก กำรจดั กลุม่ และกำร - กำรกัดกินใบ หนอนเจำะลำตน้ และ ๆ จำกกำรสงั เกตโดยใชป้ ระสำทสัมผัส กำรสงั เกตโดยใช้ประสำทสัมผสั จำแนกสิง่ ต่ำง ๆ ตำมลักษณะและ กิง่ กำ้ นของตน้ ไม้ รูปรำ่ ง รูปทรง - หนอนและผีเสื้อกินผลและเมลด็ 10.1.3 จำแนกและจัดกลุ่มสิ่งตำ่ ง ๆ โดยใช้อยำ่ ง 24. จำแนกและจัดกลุ่มประเภทของผีเสื้อได้ 5.กำรตอ่ ของชิ้นเล็กเติมในชน้ิ ใหญ่ให้

นอ้ ย 1 ลักษณะเปน็ เกณฑ์

10.1.4 เรยี งลำดบั สงิ่ ของหรือเหตุกำรณ์อยำ่ ง 25.. เรียงลำดบั วงจรชวี ิตผเี สอ้ื ได้

มาตรฐาน/ตัวบ่งชี้ /สภาพท่ีพึงประสงค์ จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้

น้อย 4 ลำดบั 26. สร้ำงผลงำนศลิ ปะเพือ่ ส่ือสำรควำมคิดควำมรูส้ ึก ประสบการณส์ าคญั สาระทีค่ วรเรยี นรู้ พัฒนาการดา้ นสตปิ ัญญา ของตนเองโดยมีกำรดดั แปลงและแปลกใหม่จำกเดิม มฐ.11 ตบช. 11.1 หรอื มรี ำยละเอียดเพ่มิ ขนึ้ สมบรู ณ์ และ กำรแยกช้นิ สว่ น - ผีเสอื้ กินนำ้ ตำ พบในววั ควำย ใน 11.1.1 สรำ้ งผลงำนศลิ ปะเพอ่ื สื่อสำรควำมคิด 27.. เคลือ่ นไหวทำงเพื่อส่ือสำรควำมคิดควำมรสู้ กึ ควำมรสู้ ึกของตนเองโดยมีกำรดดั แปลงและแปลก ของตนเองอย่ำงหลำกหลำยหรอื แปลกใหม่ 6.กำรบอกและเรียงลำดับกิจกรรมหรือ เวลำกลำงวนั ใหม่จำกเดิมหรอื มีรำยละเอยี ดเพมิ่ ขนึ้ มฐ. 11 ตบช. 11.2 28. กระตือรอื รน้ ในกำรเข้ำรว่ มกิจกรรม เหตกุ ำรณ์ตำมช่วงเวลำ 11.2.1 เคลือ่ นไหวทำงเพ่ือสื่อสำรควำมคิด ควำมรู้สกึ ของตนเองอย่ำงหลำกหลำยหรอื แปลก 7.กำรแสดงควำมคดิ สรำ้ งสรรคผ์ ำ่ น ใหม่ มฐ.12 ตบช. 12.1 ภำษำ ทำ่ ทำง กำรเคลื่อนไหว และ 12.1.2 กระตือรือร้นในกำรเข้ำร่วมกิจกรรม มฐ.12 ตบช. 12.2 ศิลปะ 12.2.1 คน้ หำคำตอบของข้อสงสัยตำ่ ง ๆ ตำม วิธีกำรของตนเอง 8.กำรสรำ้ งสรรคช์ ้นิ งำนโดยใชร้ ูปร่ำง 12.2.2 ใช้ประโยคคำถำมว่ำ “ที่ไหน”“ ทำไม” ในกำรคน้ หำคำตอบ รูปทรงจำก วสั ดทุ ีห่ ลำกหลำย

9. กำรสำรวจสิง่ ตำ่ ง ๆ และแหล่ง

เรยี นรรู้ อบตวั

10.กำรตัง้ คำถำมในเรอ่ื งทสี่ นใจ

29. ค้นหำคำตอบของข้อสงสัยต่ำง ๆ ตำมวิธีกำร ของตนเอง 30. ใช้ประโยคคำถำมว่ำ “ ที่ไหน”“ ทำไม” ในกำร ค้นหำคำตอบ

แผนการจัดประสบการณ์รายสปั ดาห์รายสปั ดาห์ระดับชั้นอนบุ าลปีที่ 2

สัปดาห์ที่ 1 หน่วย ผเี ส้ือ สาระการเรยี นรู้ ธรรมชาติรอบตัว

วนั ท่ี กจิ กรรม

เคลอื่ นไหวและจงั หวะ เสริมประสบการณ์ สร้างสรรค์ เสรี กลางแจ้ง เกมการศกึ ษา

1 1. กจิ กรรมกำรเคลอ่ื นไหว เรอื่ ง รูปรำ่ งลักษณะของผีเสื้อ 1. กำรวำดภำพด้วยสเี ทียน สี เล่นตำมมมุ เสรี 1. เกมผีเส้อื เกบ็ 1. เกมศกึ ษำ นำ้ หวำน รำยละเอียดภำพ พื้นฐำน 1. ทำยภำพปรศิ นำ (ผีเส้ือ) น้ำ หรอื มมุ 2. เครอ่ื งเลน่ สนำม (ลอตโต) 2. เกมเรยี งลำดับ 2. กำรเคลื่อนไหวตำมบทเพลง 2. อธิบำยรปู ร่ำงลักษณะของผเี ส้อื โดยมี 2. กำรพับสี ประสบกำรณ์ ขนำดของผีเสื้อ

(เพลง หนอนผเี สื้อ) ภำพประกอบ พรอ้ มสนทนำ 3. กำรพมิ พ์ภำพดว้ ยมือ

3. เลน่ เกมประกอบช้ินสว่ นของผีเสือ้

4. สนทนำสรปุ เกีย่ วกับรปู ร่ำงลกั ษณะ

ของผเี สื้อ

2 1. กิจกรรมกำรเคลอื่ นไหว เรอ่ื ง ประเภทของผเี สื้อ 1. กำรพบั ผีเสอ้ื จำกกระดำษ เลน่ ตำมมมุ เสรี 1. ลกู บอลเตน้ ระบำ 1. เกมโดมิโนภำพ 2. กจิ กรรมเลน่ นำ้ เล่น ผเี ส้ือท่เี หมือนกนั พื้นฐำน 1. รอ้ งเพลง “ผีเสื้อตวั นอ้ ย” 2. กำรร้อยหลอดกำแฟ หรอื มมุ ทรำย 2. เกมจัดหมวดหมู่

2. กิจกรรมกำรเคล่ือนไหว 2. อธบิ ำยเกีย่ วกับประเภทของผีเสื้อ 3. กำรหยดสี ประสบกำรณ์ ประเภทของผเี สอ้ื

ประกอบรบิ บ้นิ โดยมภี ำพประกอบกำรสนทนำ

3. เล่นเกมจัดหมวดหมู่ผเี สอื้ กลำงวนั

ผเี สอื้ กลำงคนื

4. สนทนำสรุปเก่ยี วกบั ประเภทของ

ผีเสือ้

3 1. กจิ กรรมกำรเคลื่อนไหว เร่ือง อำหำรของผีเสอ้ื 1. กำรเป่ำสี เล่นตำมมมุ เสรี 1. เกมผีเสื้อสง่ อำหำร 1. เกมภำพตัดต่อ 2. เคร่ืองเล่นสนำม อำหำรของผีเสื้อ พน้ื ฐำน 1.ทำยกลน่ิ ปรศิ นำ (ดอกไม้) 2. กำรพมิ พจ์ ำกใบไม้ หรอื มมุ 2. เกมจดั หมวดหมู่ อำหำรของผเี สอ้ื 2. กจิ กรรมเคลื่อนไหว 2.เฉลยกลนิ่ ปรศิ นำ (ดอกไม)้ 3. กำรรอ้ ยลูกปดั ประสบกำรณ์

เลยี นแบบ

วนั ที่ กิจกรรม

เคล่ือนไหวและจังหวะ เสรมิ ประสบการณ์ สร้างสรรค์ เสรี กลางแจง้ เกมการศกึ ษา

3.อธิบำยเกยี่ วกบั อำหำรของผีเส้ือ โดย

ใชภ้ ำพประกอบกำรสนทนำ

4.เกมตำมหำอำหำรของผีเสื้อ

5.สนทนำสรุปเกยี่ วกับอำหำรของผีเสอ้ื

4 1. กิจกรรมกำรเคลอื่ นไหว เรื่อง วงจรชีวิตของผเี สอ้ื 1. กำรประดษิ ฐ์ผเี ส้ือจำกวัสดุ เลน่ ตำมมมุ เสรี 1. เกมเดนิ ตัวหนอน 1. เกมนบั จำนวน 2. โยนและรับลูกบอล ภำพผเี สื้อ พ้ืนฐำน 1. ทอ่ งคำคล้องจอง “วงจรชีวิตผีเสอ้ื ” เหลือใช้ หรอื มมุ 2. เกมเรียงลำดับ ภำพวงจรชวี ิตผีเสื้อ 2. กจิ กรรมกำรเคล่อื นไหว 2. เล่นบทบำทสมมติ 2. วำดภำพตอ่ เติมจำกภำพที่ ประสบกำรณ์

ท่ำทำงเป็นผนู้ ำ ผู้ตำม 3. สนทนำแผนภมู วิ งจรชีวิตของผีเสอื้ กำหนด

4. เกมภำพตัดต่อวงจรชีวิตของผีเสือ้ 3. กำรเทสี

5. สนทนำสรุปเก่ยี วกบั วงจรชีวติ ผีเสื้อ

5 1. กจิ กรรมเคล่ือนไหวพน้ื ฐำน เร่ือง ประโยชนแ์ ละโทษของผีเส้ือ 1. ฉกี -ปะ ภำพผีเสื้อ เลน่ ตำมมุมเสรี 1. อบอนุ่ ร่ำงกำย 1. เกมจบั คูภ่ ำพและ 2. เกมลมเพลมพัด เงำของผเี สือ้ 2. เคลอ่ื นไหวตำมคำบรรยำย 1. เลำ่ นทิ ำนเร่ือง “หนอนผเี ส้ือ” 2. ปั้นแป้งโดว์ หรือมมุ 2. เกมภำพตัดต่อ ของผีเสือ้ 2. สนทนำเกยี่ วกบั ประโยชน์และโทษ 3. กำรพมิ พภ์ ำพจำกก้ำน ประสบกำรณ์

ของผีเสื้อ โดยมบี ัตรภำพประกอบ กลว้ ย

3. เล่นเกมแยกประโยชนห์ รือโทษ

4. สนทนำสรปุ เรื่องประโยชนแ์ ละโทษ

ของผีเส้อื ร่วมกัน

แผนการจดั ประสบการณ์รายสัปดาห์ สปั ดาห์ที่ 1 วันที่ 5 หนว่ ย ผีเส้อื เรื่อง ประโยชน์และโทษของผีเส้ือ

กิจกรรม สาระการเรียนรู้

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่ีควรเรียนรู้ กจิ กรรม สอ่ื การประเมินผล

กิจกรรมเคลอ่ื นไหวและ 1. เคล่ือนไหวอยู่กับท่ี 1. กำรเคล่อื นไหว 1. เด็กและครูรว่ มกนั สร้ำงข้อตกลงในกำร 1. เคร่ืองเคำะ สงั เกตพฤติกรรม 1. กำรเคล่อื นไหว จงั หวะ 2. กำรเคลื่อนไหว รำ่ งกำย ทำกิจกรรมกำรเคลื่อนไหวและจงั หวะ จงั หวะ รำ่ งกำยอย่ำง คล่องแคล่วประสำน 1. เคล่อื นไหวร่ำงกำยอยำ่ ง เคลอ่ื นท่ี - เคล่ือนไหวพน้ื ฐำน 2. ครเู คำะจงั หวะช้ำ เรว็ ใหเ้ ด็ก 2. ดนตรปี ระกอบ สัมพนั ธแ์ ละทรงตัวได้ 2. กำรเคล่ือนไหวทำง คลอ่ งแคลว่ ประสำนสมั พันธ์ 3. กำรให้ควำมร่วมมือ - เคล่อื นไหวตำมคำ เคลอ่ื นไหวรำ่ งกำยอยำ่ งอสิ ระตำมจังหวะ จังหวะ เพ่ือสื่อสำรควำมคดิ ควำมร้สู ึกของตนเอง และทรงตัวได้ ในกำรปฏิบัติกจิ กรรม บรรยำย และสญั ญำณช้ำ เรว็ หยุด ไปรอบ ๆ หอ้ ง อยำ่ งหลำกหลำยหรือ แปลกใหม่ 2. เคล่ือนไหวทำงเพื่อสื่อสำร ตำ่ ง ๆ 3. ครูสำธิตวิธีกำรทำกจิ กรรมเคล่ือนไหว

ควำมคดิ ควำมรสู้ กึ ของตนเอง 4. กำรเล่นหรือทำ ตำมคำบรรยำยพร้อมทั้งกำหนดกติกำ

อย่ำงหลำกหลำยหรือแปลก กจิ กรรมรว่ มกับกลุม่ 4. เด็กและครปู ฏบิ ตั ิกจิ กรรมเคลื่อนไหว

ใหม่ เพ่อื น ตำมคำบรรยำย

5. กำรฟงั และปฏบิ ัติ 5. ให้เดก็ นงั่ พักในท่ำสบำย เพ่อื ผ่อนคลำย

ตำมคำแนะนำ กล้ำมเน้อื

กิจกรรม สาระการเรยี นรู้

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระทค่ี วรเรยี นรู้ กจิ กรรม สอ่ื การประเมนิ ผล

กิจกรรมเสรมิ ประสบการณ์ 1. กำรสงั เกตลักษณะ ประโยชน์และโทษ ขน้ั นา 1. นิทำนเรื่อง สงั เกตพฤตกิ รรม 1. กำรกลำ้ พดู กลำ้ 1. กลำ้ พูดกล้ำแสดงออกอย่ำง สว่ นประกอบ กำร ของผเี ส้ือ 1. ครเู ลำ่ นทิ ำนเรื่อง “หนอนผเี ส้ือ” ให้ “หนอนผีเส้อื ” แสดงออกอย่ำง เหมำะสมบำง เหมำะสมบำงสถำนกำรณ์ เปล่ยี นแปลง และ 1) ประโยชน์ เดก็ ฟงั 2. บัตรภำพ สถำนกำรณ์ 2. กำรฟังผอู้ ื่นพูดจนจบ 2. ฟังผู้อน่ื พูดจนจบและ ควำมสมั พนั ธข์ องส่ิง - กำรผลิตไหม ซง่ึ 2. เดก็ และครรู ว่ มกนั สนทนำเกย่ี วกบั ประโยชนแ์ ละโทษ และสนทนำโตต้ อบ สอดคล้องกบั เรืองฟงั สนทนำโตต้ อบสอดคล้องกับ ตำ่ ง ๆ โดยใชป้ ระสำท สรำ้ งโดยตวั นอนไหม เนอื้ หำในนทิ ำนเร่อื ง “หนอนผเี ส้อื ” ของผเี สอื้ 3. กำรเล่ำเปน็ เรอื่ งรำว ต่อเนือ่ งได้ เรอื งฟัง สมั ผัส อยำ่ งเหมำะสม นำมำทอผ้ำไดด้ ี ขน้ั สอน 4. กำรบอกประโยชน์ และโทษของผเี สื้อได้ 3. เล่ำเปน็ เรือ่ งรำวตอ่ เน่ืองได้ 2. กำรร่วมสนทนำ - ควำมสวยงำม 1. ครนู ำบัตรภำพประโยชนแ์ ละโทษของ

4. บอกประโยชนแ์ ละโทษของ และแลกเปลย่ี นควำม ควำมสวยงำมของ ผเี สอ้ื มำใหเ้ ด็กดู พร้อมสนทนำรว่ มกัน

ผเี ส้อื ได้ คิดเห็น ผเี สอ้ื อยทู่ ี่ปีก 2. ขณะทีส่ นทนำครนู ำบัตรภำพข้ึนมำ

3. กำรให้ควำมร่วมมือ - กำรผสมเกสรของ แล้วอธิบำยเกย่ี วกับประโยชนแ์ ละโทษของ

ในกำรทำกจิ กรรมตำ่ ง พชื ดอก ผีเสื้อจะช่วย ผเี สื้อตำมลำดับ และวำงบัตรภำพแยกฝ่งั

ๆ ผสมเกสรดอกไม้ไดด้ ี อยำ่ งชดั เจน

4. กำรฟังเพลง นทิ ำน 2) โทษของผีเสื้อ ขน้ั สรปุ

คำคล้องจอง บทร้อย - กำรกัดกนิ ใบ 1. ครใู ห้เด็กสมุ่ หยิบบตั รภำพ แล้วให้เดก็

กรอง หรือเร่อื งรำว หนอนเจำะลำต้น บอกว่ำในภำพนนั้ เปน็ ประโยชน์หรอื โทษ

ตำ่ ง ๆ และกิ่งก้ำนของตน้ ไม้ ของผเี สอื้ และเป็นประโยชนห์ รอื โทษใน

5. กำรฟงั และปฏบิ ัติ - หนอนและผเี ส้ือกิน เรอ่ื งอะไร

ตำมคำแนะนำ ผลและเมล็ด 2. เดก็ และครูร่วมกันสนทนำสรุปเกย่ี วกบั

6. กำรจบั คู่ กำร - ผเี สื้อกินนำ้ ตำ พบ ประโยชน์และโทษของผเี ส้อื

เปรยี บเทยี บ และกำร ในววั ควำย ในเวลำ

เรียงลำดับสงิ่ ต่ำง ๆ กลำงวนั

กจิ กรรม สาระการเรียนรู้

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้ กิจกรรม สอ่ื การประเมนิ ผล กิจกรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์ 1. กลำ้ พดู กล้ำงแสดงออก 1. กำรป้นั กำรสรำ้ งสรรค์ 1. ครจู ดั เตรียมอุปกรณแ์ ละแบง่ เดก็ 1. ใบงำน สังเกตพฤติกรรม อยำ่ งเหมำะสมตำม 2. กำรหยบิ จบั กำร ชน้ิ งำนศิลปะ ออกเป็น 4 กลุม่ โดย 2. กระดำษสี 1. กำรกลำ้ พูด กลำ้ ง สถำนกำรณ์ ปะ 1. ฉีก-ปะ ภำพผีเสอื้ - กล่มุ ที่ 1 และ 2 กำรฉกี -ปะ ภำพผเี สื้อ 3. แป้งโด แสดงออก อย่ำง 2. สนใจ มคี วำมสุข และ 3. กำรสร้ำงสรรคส์ ่งิ 2. ป้นั แปง้ โด - กลุ่มที่ 3 และ 4 กำรปัน้ แป้งโด 4. แผน่ รองงำน เหมำะสมตำม แสดงออกผำ่ นงำนศลิ ปะ สวยงำม 2. ครอู ธบิ ำยวธิ กี ำรใชอ้ ุปกรณพ์ ร้อมสำธติ ศิลปะ 2. กำรสนใจ มีควำมสุข 3. เลำ่ เปน็ เรอ่ื งรำวตอ่ เนื่องได้ 4. กำรทำงำนศลิ ปะ วิธกี ำรทำใหเ้ ดก็ ดู และแสดงออกผ่ำนงำน 5. กำรเลน่ หรือทำ 3. เดก็ แต่ละกล่มุ ปฏิบัตกิ จิ กรรมโดย ศิลปะ กิจกรรมร่วมกับกลมุ่ สลับกนั ทำกิจกรรม 3. กำรเลำ่ เปน็ เรื่องรำว เพ่อื น 4. ครคู อยดูแลเด็กขณะปฏบิ ัติกิจกรรม ตอ่ เน่อื งได้ 6. กำรฟงั และปฏบิ ตั ิ 5. เด็กแต่ละกลุ่มชว่ ยกันเก็บอปุ กรณ์เมื่อ ตำมคำแนะนำ ทำกจิ กรรมเสร็จแลว้

กิจกรรม สาระการเรยี นรู้

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระที่ควรเรียนรู้ กิจกรรม สอ่ื การประเมินผล กจิ กรรมการเลน่ ตามมุม 1. ตัดสนิ ใจเลอื กเล่นตำมมมุ 1. กำรเลน่ เครอ่ื งเล่น ตดั สนิ ใจเลือกเล่น 1. เดก็ เลือกเล่นตำมมุมประสบกำรณต์ ่ำง ของเล่นและอุปกรณ์ สงั เกตพฤติกรรม ดว้ ยตนเอง สัมผัสและกำรสรำ้ ง ตำมมุมไดด้ ้วยตนเอง ๆ ตำมควำมต้องกำรของแต่ละคน โดยครู ตำมมมุ 1. กำรตดั สนิ ใจเลอื ก 2. เลน่ รว่ มกับเพอื่ นได้ แทง่ ไม้ บลอ็ ก เม่อื เลน่ เสร็จควรเกบ็ สงั เกตพฤติกรรมของเดก็ อย่หู ่ำง ๆ และ ประสบกำรณ์ตำม เล่นตำมมมุ ด้วยตนเอง 3. ฟงั ผ้อู น่ื พูดจนจบและพดู 2. กำรเล่นอิสระ ของเล่นเข้ำท่ี คอยดูแลเมื่อเกดิ ปญั หำท่เี ดก็ ไม่สำมำรถ มมุ ประสบกำรณต์ ่ำง 2. กำรเล่นรว่ มกับเพ่ือน โต้ตอบเกย่ี วกบั เร่ืองที่ฟังได้ 3. กำรเลน่ ตำมมมุ แกเ้ องได้ ๆ ในห้องเรียน ได้ 4. แบง่ ปันผู้อืน่ ไดเ้ ม่อื มผี ู้ ประสบกำรณ์ 2. ครูดแู ลใหเ้ ดก็ จัดเกบ็ ของเล่นต่ำง ๆ เขำ้ 3. กำรฟงั ผู้อื่นพดู จนจบ ชแ้ี นะ 4. กำรเลน่ บทบำท ท่ใี ห้เรียบร้อยหลงั จำกเล่นเสร็จแล้ว และพูดโต้ตอบเกยี่ วกบั 5. เกบ็ ของเล่นเขำ้ ทีเ่ ม่ือมผี ู้ สมมติ เร่อื งที่ฟงั ได้ ช้แี นะ 5. กำรเล่นและกำร 4. กำรแบง่ ปันผอู้ ืน่ ได้ ทำงำนรว่ มกับผู้อื่น เม่อื มผี ูช้ ีแ้ นะ 6. กำรพูดอยำ่ ง 5. กำรเกบ็ ของเลน่ เข้ำท่ี สร้ำงสรรคใ์ นกำรเลน่ เม่ือมีผชู้ ้แี นะ และกำรกระทำต่ำง ๆ 7. กำรเลน่ รำยบคุ คล กลมุ่ ยอ่ ย กลุ่มใหญ่

กจิ กรรม สาระการเรียนรู้

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระที่ควรเรยี นรู้ กจิ กรรม สอ่ื การประเมินผล

กิจกรรมกลางแจ้ง 1. กำรเคลอื่ นไหว 1. กำรอบอุ่นร่ำงกำย 1. เดก็ อบอนุ่ ร่ำงกำยด้วยกำรสะบัดมือ - สงั เกตพฤติกรรม 1. กำรเล่น ทำกจิ กรรม 1. เลน่ ทำกจิ กรรม และ เคลื่อนท่ี 2. กิจกรรมผเี ส้ือแตก เทำ้ ยอ่ ตัว ยืดตัว และปฏบิ ตั ิตอ่ ผู้อน่ื อย่ำง ปลอดภัย ปฏบิ ัติตอ่ ผูอ้ นื่ อย่ำงปลอดภัย 2. กำรเคลื่อนไหวโดย รัง 2. ครูอธิบำยวิธีกำรทำกจิ กรรมผเี ส้อื แตก 2. กำรวิ่งหลบหลกี สง่ิ กดี ขวำงได้อย่ำง 2. ว่งิ หลบหลกี สิง่ กีดขวำงได้ ควบคมุ ตนเองไปใน รงั ดงั น้ี คลอ่ งแคลว่ 3. กำรมสี ่วนรว่ มสร้ำง อย่ำงคล่องแคลว่ ทศิ ทำง ระดับ และ - ใหเ้ ด็กจับกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน โดย คน ข้อตกลงและปฏิบัติตำม ขอ้ ตกลงดว้ ยตนเอง 3. มสี ว่ นรว่ มสร้ำงข้อตกลง พน้ื ที่ สองคนจับมือกัน หันหนำ้ เข้ำกนั มอื ซ้ำย

และปฏบิ ตั ติ ำมขอ้ ตกลงดว้ ย 3. กำรเคลื่อนไหวข้ำม จบั มือขวำ มือจับมือซ้ำย โดยอกี คนอยู่

ตนเอง สง่ิ กดี ขวำง ระหวำ่ งคนท่จี บั มือ

4. กำรเลน่ รำยบุคคล - คนท่จี บั มอื กนั น้นั เป็นรงั คนที่อยูร่ ะหวำ่ ง

กลมุ่ ย่อยและกลุ่มใหญ่ คนทงั้ สองเปน็ ผีเสอื้

5. กำรเลน่ หรือทำ - หำกครูส่งั ว่ำ ผีเสื้อแตกรงั คนที่อย่เู ป็น

กิจกรรมร่วมกับกลุม่ ผีเสอ้ื จะต้องออกจำกวงแขนของรงั ที่

เพอื่ น ตนเองอยู่ไปหำรงั ใหม่ สว่ นคนที่เปน็ รังไม่

6. กำรฟังและปฏบิ ตั ิ ต้องทำอะไรใหจ้ บั แขนกนั ไวเ้ พ่อื คล้อง

ตำมคำแนะนำ ผีเสอื้ จำกรงั อ่ืน

- หำกครสู งั่ วำ่ รงั แตก ใหร้ ังจับมอื กันไวไ้ ป

คลอ้ งผเี ส้ือของรังอ่นื ผีเสือ้ ไม่ต้องไปไหน

ให้ผเี ส้อื ยนื นิ่งๆ รอรงั ทจ่ี ะมำคลอ้ งตัวเอง

ไว้

3. ครคู อยใหส้ ัญญำณหยดุ เพ่ือพำเด็กไป

ทำควำมสะอำดร่ำงกำย

กจิ กรรม สาระการเรยี นรู้

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ กิจกรรม สอ่ื การประเมินผล

กจิ กรรมเกมการศกึ ษา 1. กำรหยบิ จบั กำรจับคภู่ ำพกับเงำ 1. ครแู นะนำวิธีเลน่ และสำธติ กำรเล่นเกม 1. เกมจบั ค่ภู ำพและ สังเกตพฤตกิ รรม

1. เลน่ ทำกจิ กรรม และ 2. กำรเล่นรำยบุคคล กำรตอ่ ภำพตดั ต่อ 2. แบง่ เดก็ ออกเป็น 4 กลมุ่ โดย เงำของผเี สื้อ 1. กำรเลน่ ทำกจิ กรรม

ปฏิบัติต่อผู้อ่นื อย่ำงปลอดภัย กลุ่มยอ่ ยและกลุ่มใหญ่ กลมุ่ ท่ี 1 และ 2 เลน่ เกมจับคู่ภำพและเงำ 2. เกมภำพตัดต่อ และปฏบิ ตั ติ ่อผู้อืน่ อย่ำง

2. เกบ็ ของเล่นของใช้เข้ำที่ 3. กำรปฏิบัติกิจกรรม ของผเี สื้อ ผีเสอ้ื ปลอดภัย

อยำ่ งเรยี บร้อยด้วยตนเอง ตำ่ ง ๆ ตำม กลุ่มที่ 3 และ 4 เล่นเกมภำพตดั ตอ่ ผีเส้ือ 2. กำรเก็บของเล่นของ