การก ฬา ม ความสำค ญต อการพ ฒนาค ณภาพช ว ตของประชาชน

“ประยุทธ์” เล็งผุด ม.กีฬา หลังไทยซิวแชมป์เพียบ ขอบคุณ ปชช.-ขรก.เข้าใจกัน ลดขัดแย้งได้ดี

เผยแพร่: 27 พ.ค. 2559 21:37 ปรับปรุง: 28 พ.ค. 2559 10:46 โดย: MGR Online

“ประยุทธ์” เล็งผุด “มหาวิทยาลัยกีฬา” หลังนักกีฬาไทยผลงานเลิศ สั่งทุกหน่วยล้อมคอกไฟไหม้โรงเรียนที่เชียงราย รับ 2 ปีผ่านแก้เรื่องขยะไม่คืบ ทำแผนเร่งด่วน 1 ปีหวังลดปริมาณมากกว่า 5% ฝากหน่วยงานรัฐ-ห้างร้านช่วยรณรงค์ลดใช้ถุงพลาสติก ขอบคุณ ปชช.- ขรก.ที่เข้าใจ ไม่หวาดระแวงกัน ชี้ลดความขัดแย้งได้ดี

วันนี้ (27 พ.ค.) เมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ตอนหนึ่งถึงความสำเร็จของคนไทยในระดับโลกตั้งแต่ คณะทำงาน Thai Everest 2016 ที่ประสบความสำเร็จพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ เทือกเขาหิมาลัย ซึ่งมี “หมออีม” ท.พ.หญิง นภัสพร ชำนาญสิทธิ์ ร่วมคณะไปด้วย และอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปชูเหนือจุดที่สูงที่สุดของโลก นับหญิงไทยคนแรกที่สามารถสร้างประวัติครั้งสำคัญ รวมไปถึงนักกีฬาไทยสร้างผลงานเป็นที่ยอมรับอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ นักกีฬารักบี้ฟุตบอล ทั้งทีมชายและทีมหญิง ที่ชนะเลิศการแข่งขันรักบี้ฟุตบอลรายการ “เซาท์อีสต์ เอเชีย เซเวนส์” ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ที่อาจจะไม่ได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิปปิก 2016 ที่ประเทศบราซิล แต่ก็สามารถเอาชนะใจคนดู สร้างความสุขให้กับคนไทย และ “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล ที่สามารถคว้าแชมป์ “คิงส์มิลล์ แชมเปียนชิป” ที่สหรัฐอเมริกา ได้อีกครั้งหนึ่ง นับเป็นการคว้าแชมป์รายการ แอลพีจีเอทัวร์ 2 รายการติดต่อกัน จนขยับขึ้นเป็นมือวางอันดับที่ 13 ของโลก

“สิ่งที่รัฐบาลกำลังพิจารณาขยายผลเพื่อให้เกิดการปฏิรูปในวงการกีฬาของไทยต่อไป ได้แก่ การจัดตั้งมหาวิทยาลัยกีฬา โดยมีวิทยาลัยพลศึกษาเดิม เป็นวิทยาเขตอยู่ทั่วประเทศ ปัจจุบันสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) อยู่ระหว่างการศึกษาและกำหนดแนวทางที่เป็นไปได้ รวมทั้งการผลิตนักกีฬาของไทย ตามศักยภาพและสรีระ ให้มีความพร้อมอย่างต่อเนื่อง และการนำวิทยาศาสตร์การกีฬามาใช้อย่างกว้างขวาง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกฯ กล่าวถึงเหตุการณ์ไฟไหม้อาคารบ้านพักนักเรียนของมูลนิธิพันธกิจสุขสันต์ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ส่งผลให้มีนักเรียนเสียชีวิต 14 รายด้วยว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยตนได้สั่งการ เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีกำกับดูแลมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยทั้งระบบให้มีประสิทธิภาพ ต้องมีแผนเผชิญเหตุ มีการซักซ้อมการปฏิบัติ ให้ทุกคนรู้ เข้าใจ ปฏิบัติได้จริง เพื่อลดการสูญเสียให้ได้มากที่สุด หรือไม่มีการสูญเสียเลย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องหมั่นสำรวจ ตรวจสอบ ให้มีการวางแผน กำหนดมาตรการ ดูแลเรื่องอุบัติภัยต่างๆล่วงหน้าด้วย

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยอย่างเป็นรูปธรรมด้วยว่า รัฐบาลทำมา 2 ปีแต่ยังไม่ได้ผลมากเท่าที่ควร จึงได้เร่งรัดมอบหมายให้ กระทรวงมหาดไทย บูรณาการร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการจัดทำแผนปฏิบัติการประเทศไทยไร้ขยะ ตามแนวทางประชารัฐ ระยะ 1 ปี (มิ.ย. 59 - มิ.ย. 60) โดยใช้หลักการ 3RS reduce reuse recycle ใช้น้อย ใช้ซ้ำ นำกลับมาใช้ใหม่ มีเป้าหมายเพื่อจะลดปริมาณการเกิดขยะมูลฝอยในภาพรวมของประเทศลงร้อยละ 5 จากการเกิดขยะมูลฝอย หรือลดลง 2 ล้านตันต่อปี ให้เหลือประมาณ 23 ล้านตันต่อปี ต้องขอความร่วมมือจากทุกกระทรวง กรม รัฐวิสาหกิจ จังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงเรียน ศาสนสถาน ห้างสรรพสินค้า และสถานประกอบการต่างๆ รณรงค์คัดแยกขยะมูลฝอย ลดการใช้สิ่งของหรืออะไรที่มันย่อยสลายได้ยาก เช่น ถุงพลาสติกต้องลดลงให้ได้ ขอความร่วมมือรณรงค์ลดรับถุงพลาสติก โดยนำถุงผ้าไปจ่ายตลาดหรือซื้อของจากห้าง สามารถทำได้ทุกวัน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อถึงสถานการณ์โลกด้านต่างๆ โดยระบุว่าความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ภัยพิบัติ การก่อการร้าย และโลกไร้พรมแดน เศรษฐกิจ 4.0 ภัยแล้ง อุทกภัย เหล่านี้เชื่อมโดยงกันทั้งสิ้น โครงสร้างเศรษฐกิจภายในประเทศก็มีความสัมพันธ์กับทุกมิติที่กล่าวไป วันนี้รัฐบาลพยายามขับเคลื่อนทุกอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) หรือกลุ่มธุรกิจที่เริ่มต้นใหม่ (สตาร์ทอัพ) ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่ใช้ปัญญาคิดออกมาว่า ทำอย่างไรให้มีมูลค่าสูงขึ้น ก็ต้องมาเชื่อมโยงเอสเอ็มอีที่มีอยู่แล้ว หรือไปเชื่อมโยงกับกลุ่มเกษตรกรที่มีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเกษตร กลุ่มสหกรณ์ หรือกลุ่มธุรกิจเพื่อสังคม หรือกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ เหล่านี้มันต้องไปด้วยกันทั้งหมด ทุกอย่างยังไม่สายเกินไป เราต้องหยุดการตำหนิกันไปกันมา รวมพลังให้ได้ เสริมความเข้มแข็งให้กับประชาชนตามหลักประชารัฐในทุกๆด้านให้สามารถเชื่อมโยงรายได้ให้เกิดการครบวงจรให้มากขึ้น ต้องใช้เวลา แต่ถ้าร่วมมือกันมากๆเร็วขึ้นแน่นอน

หัวหน้า คสช.กล่าวถึงแนวทางการยังคับใช้กฎหมายด้วยว่า กฎหมายต้องเป็นกฎหมายเป็นธรรม เท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน บางครั้งก็อาจจะถูกบิดเบือนไปบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง ก็ต้องชี้แจง ไม่ใช่วิพากษ์วิจารณ์ไปเรื่อย ว่ากฎหมายนี้ทำเพื่อคนรวย รังแกคนจน เพื่อเจ้าหน้าที่ ขอยืนยันว่า กฎหมายทุกกฎหมายที่เราออกมาในสมัยเรา เป็นกฎหมายเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในสังคม เพื่อประชาชนเป็นส่วนใหญ่ ลดความเหลื่อมล้ำ หากเราไม่ให้ความสำคัญเรื่องกฎหมาย ก็ไปจัดระเบียบบ้านเมืองไม่ได้ ไม่เชื่อฟังกฎหมายต่อต้าน ปลุกระดมกันไปเรื่อยเปื่อย ต้องไปย้อนดูว่าผิดกฎหมายหรือไม่ สังคมต้องทำให้ทุกอย่างสงบลง ให้ทุกคนเข้าไปสู่กฎหมาย เรื่องความขัดแย้ง ความแตกแยก อะไรที่ไม่สร้างสรรค์จะเป็นอันตรายที่สุดในโลกปัจจุบัน หากเราใช้ประโยชน์จากสื่อ จากโซเชียลมีเดียให้ถูกต้องในทางสร้างสรรค์ ก็จะเป็นการเรียนรู้ รู้เท่าทัน สังคมก็จะมีความปลอดภัยเป็นสังคมแห่งความสันติสุข

“ขอขอบคุณประชาชน เจ้าหน้าที่ พลเรือน ตำรวจ ทหารที่ได้ร่วมมือเข้าใจซึ่งกันและกัน ปรับตัวเองเข้าหากัน เราจะต้องปฏิรูป ลดความหวาดระแวง สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและมีการแบ่งปันผลประโยชน์ที่เท่าเทียม ตามกฎหมายที่ถูกต้อง เพื่อประเทศชาติอันเป็นที่รักของเราทุกคน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

คำต่อคำ : รายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” วันที่ 27 พฤษภาคม 2559

“สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน ปีนี้และปีหน้าเป็นปีมหามงคลของปวงชนชาวไทย รัฐบาลขอเชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมกระทำความดี ถวายเป็นพระราชกุศล และร่วมใจกันจัดงานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฉลองสิริราชสมบัติ ๗๐ ปี ระหว่างวันที่ 9 มิ.ย. 2559 - 9 มิ.ย. 2560 และพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 31 ธันวาคม 2559 โดยต้องคำนึงถึงความสมพระเกียรติ เป็นประโยชน์ต่อสังคม และประโยชน์สาธารณะ เช่น โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ การสร้างฝายและพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็ก การซ่อมแซมฝายในรูปแบบประชารัฐ โครงการจัดแสดงสินค้า OTOP ภูมิปัญญาไทย ทั้งนี้ พี่น้องประชาชน บริษัทห้างร้านทั่วไป รวมทั้งสถานที่ราชการ สามารถประดับธงสัญลักษณ์ เพื่อเฉลิมฉลองปีมหามงคล ตามห้วงเวลาดังกล่าว โดยพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ

ในโอกาสนี้ ผมขอแสดงความยินดีกับคณะทำงาน Thai Everest 2016 ที่ประสบความสำเร็จ พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ เทือกเขาหิมาลัย ที่น่าประทับใจที่สุดในครั้งนี้คือ การได้เห็นพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในมือของหมออีม ทันตแพทย์หญิง นภัสพร ชำนาญสิทธิ์ เหนือจุดที่สูงที่สุดของโลก นับหญิงไทยคนแรกที่สามารถสร้างประวัติครั้งสำคัญครั้งนี้ได้สำเร็จในที่สุด หลังจากที่คนไทยคนแรกที่สามารถพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์ได้สำเร็จคือ นายวิทิตนันท์ โรจนพานิช เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 นะครับ

ในโอกาสนี้ ผมขอร่วมเป็นกำลังใจ และขอแสดงความยินดีกับสิ่งดีๆ ช่วงปีมหามงคลสำหรับนักกีฬาไทยที่ประสบความสำเร็จในการสร้างผลงานอย่างต่อเนื่องด้วยนะครับ เช่น นักกีฬารักบี้ฟุตบอล ทั้งทีมชายและทีมหญิง ที่ชนะเลิศการแข่งขันรักบี้ฟุตบอลรายการเซาท์อีสต์ เอเชีย เซเวนส์ แชมเปียนส์ ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ สร้างประวัติศาสตร์ของวงการรักบี้ฟุตบอลไทย จนเป็นที่ยอมรับ ทั้งในระดับภูมิภาคอาเซียนและระดับโลก

สอง คือนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ซึ่งแม้ยังไปไม่ถึงจุดหมายสูงสุด ในการได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิปปิค 2016 ที่ประเทศบราซิล แต่สามารถเอาชนะใจคนดู สร้างความสุขให้กับคนไทย ทั้งประเทศนะครับ ด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ และความมีสปิริตของนักกีฬา

สาม มี “โปรเม” อีกนะครับ นางสาวเอรียา จุฑานุกาล ที่สามารถคว้าแชมป์คิงส์มิลล์ แชมเปียนชิป ที่สหรัฐอเมริกา ได้อีกครั้งหนึ่ง นับเป็นการคว้าแชมป์รายการแอลพีจีเอทัวร์ 2 รายการติดต่อกัน ได้ขยับขึ้นเป็นมือวางอันดับที่ 13 ของโลก

ทั้งนี้ เรื่องราวความสำเร็จเหล่านี้ แสดงให้โลกเห็นถึงศักยภาพของคนไทย และพิสูจน์ให้เราเห็นสัจธรรมที่ว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น

สำหรับการเดินหน้าประเทศไทยของเราครั้งนี้ ผมเห็นว่าความสำเร็จอยู่ที่ความร่วมมือของทุกๆ ฝ่าย ที่เราต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง ยอมสละความสุขสบายส่วนตัว เพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมและประเทศชาติ นอกจากนั้น สิ่งที่รัฐบาลกำลังพิจารณาขยายผล เพื่อให้เกิดการปฏิรูปในวงการกีฬาของไทยต่อไป ได้แก่

1. การจัดตั้งมหาวิทยาลัยกีฬา โดยมีวิทยาลัยพลศึกษาเดิมเป็นวิทยาเขตอยู่ทั่วประเทศ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาและกำหนดแนวทางที่เป็นไปได้ มีประสิทธิภาพ และประหยัดงบประมาณของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ

2. ก็คือกระบวนการผลิตนักกีฬาของไทย ตามศักยภาพและสรีระ ให้มีความพร้อมอย่างต่อเนื่อง จากรุ่นสู่รุ่นไม่ขาดตอน ทั้งประเภทอาชีพ สมัครเล่น และคนพิการ

3. ก็คือการนำวิทยาศาสตร์การกีฬา มาใช้อย่างกว้างขวาง เพื่อยกระดับนักกีฬาไทยทุกประเภทสู่มาตรฐานสากลให้ได้

สำหรับกรณีเหตุการณ์ไฟไหม้อาคารบ้านพักนักเรียนของมูลนิธิพันธกิจสุขสันต์ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงรายนั้น ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง กับครอบครัวของนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยผมได้สั่งการเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีกำกับดูแลมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยทั้งระบบ ให้มีประสิทธิภาพ โดยต้องมีแผนเผชิญเหตุ มีการซักซ้อมการปฏิบัติ ให้ทุกคนรู้ เข้าใจ ปฏิบัติได้จริง เป็นอัตโนมัติ สามารถรองรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ตลอดเวลา ส่วนการดูแลให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตนั้น ขอให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และรวดเร็ว เหตุการณ์ครั้งนี้ผมขอให้เป็นครั้งสุดท้ายนะครับ เป็นบทเรียนราคาแพงร่วมกัน ในการที่จะต้องเตรียมความพร้อมจะได้ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา และลดการสูญเสียให้ได้มากที่สุด หรือไม่มีการสูญเสียเลย ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ ทหาร ท้องถิ่น และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยต้องหมั่นสำรวจ ตรวจสอบให้มีการวางแผน กำหนดมาตรการดูแลเรื่องอุบัติภัยต่างๆ ทั้งระบบดับเพลิง-ลานจอดเฮลิคอปเตอร์บนตึกสูง ทั้งระบบน้ำดับเพลงในเขตเมือง ในอาคารชุมชนแออัด ตรอกซอกซอยให้สามารถเข้าถึงทั้งระบบเตือนภัย ระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินให้สามารถจัดการกับภัยพิบัติต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที อยู่ที่ความเอาใจใส่ แล้วก็การเตรียมการไว้ล่วงหน้า

สำหรับลงพื้นที่เพื่อตรวจราชการ ณ จังหวัดนครราชสีมา การติดตามผลการดำเนินงานตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรของผมและคณะ วันก่อนนั้นเราได้ไปพบปะกับประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกร ตามนโยบายรัฐบาล เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็ง เสริมการเรียนรู้ สนับสนุนการพัฒนาตนเองตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง อาทิเช่น โครงการเพิ่มศักยภาพพืชเศรษฐกิจ ได้แก่ การแปรรูปข้าวหอมมะลิ มันสำปะหลัง อ้อย ยางพารา ให้มีราคาสูงขึ้นมีนวัตกรรมนะครับ

การส่งเสริมประมงพื้นบ้าน ได้มีการมอบพันธุ์กุ้งและพันธุ์ปลาตะเพียน การมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าครบุรี เป็นป่าเสื่อมโทรม พื้นที่ 3,182 ไร่ แก่ราษฎร 199 ราย ใน 2 อำเภอ

4. การมอบหนังสือแสดงโครงการป่าชุมชน ให้แก่เกษตรกร จำนวน 11 แปลง พื้นที่ 21,057 ไร่ ใน 3 อำเภอ

5. โครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพ OTOP สู่สากล ซึ่งเรามีการพัฒนาลำดับ 1 2 3 แต่ถ้าเราเลื่อนจาก 3 มา 2, 2 ไป 1 จะไปสู่สากลได้เร็วขึ้นนะครับ ขอให้ทุกคนร่วมกันพัฒนา

สำหรับในเรื่องโครงการบริหารจัดการน้ำ มี 2 ขั้นตอน ขั้นตอนแรกคือ การเตรียมการการพัฒนาเรื่องแหล่งน้ำ การระบายน้ำ การพร่องน้ำ การแจกจ่ายน้ำไปพื้นที่การเกษตร อีกอันหนึ่งเมื่อทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยภัยพิบัติด้วยโลกเปลี่ยนแปลง เช่น ฝนแล้ง น้ำท่วม เราจะบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่น้อยเกินไป หรือน้ำที่มีมากเกินไปได้อย่างไร นี่เขาเรียกว่า มี 2 ขั้นตอน

เพราะฉะนั้นการบริหารจัดการน้ำจะต้องทำทั้ง 2 อย่างว่า มีแผนอย่างไร ในพื้นที่เสี่ยงภัย มีอะไรบ้าง ทุกคนทราบดีอยู่แล้ว ถ้าไปดูใน AGRI Map ของกระทรวงเกษตรฯ จะเห็นทั้งหมดเลยว่าประเทศไทยนั้นมีน้ำที่ไหน พื้นที่สูง พื้นที่ต่ำตรงไหน ซึ่งผมกำลังให้เขาทำรายละเอียดเพิ่มเติมอีก สามารถเข้าไปดูได้ในการแก้ปัญหาน้ำแล้ง และน้ำท่วมในลุ่มน้ำสำคัญ ที่ จ.นครราชสีมา ที่ผ่านมามีพื้นที่ประสบภัยแล้ง ในปี 58,59 จำนวน 11 อำเภอมากพอสมควร พื้นที่ได้รับความเสียหาย 467,706 ไร่ และพื้นที่ประสบอุทกภัย ในปี 53,56 กระทบพื้นที่การเกษตร และสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชนจำนวน 2 อำเภอ ผมยินดี ได้รับรายงานความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ ของภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ในการจัดทำฝายกั้นน้ำ ตามแนวทางประชารัฐ สำเร็จไปแล้วจำนวน 170 แห่ง เพื่อชะลอน้ำ กักเก็บน้ำไว้ให้สามารถที่จะเลี้ยงพืช ผัก สวนครัวต่างๆ ได้อย่างน้อย ก็มีรดน้ำพืชผักสวนครัวได้ ที่ใช้น้ำน้อย แล้วเราจะสร้างเพิ่มอย่างต่อเนื่อง รวม 182 แห่ง

ส่วนโครงการใหญ่ที่น่าสนใจตามนโยบายการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ อย่างบูรณาการก็มีอยู่ 2 โครงการ โครงการแรกคือโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง ที่ดำเนินการไปแล้วนะครับ เป็นการปรับปรุงแก้ไขแหล่งกักเก็บน้ำ เพื่อแก้ปัญหาอุทกภัยจากน้ำส่วนเกิน ล้นเขื่อนพื้นที่ 2 อำเภอ แก้ปัญหาที่ อำเภอปักธงชัย อำเภอโชคชัย

นอกจากนี้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกับเก็บน้ำ สำหรับใช้เป็นน้ำต้นทุนในการอุปโภคบริโภคของประชาชนใน 3 อำเภอ เพิ่มเติมคืออำเภอปักธงชัย อำเภอโชคชัย และ อำเภอเมือง รวมทั้ง ปรับปรุงระบบระบายน้ำ ได้แก่ การยกระดับสันเขื่อน การเพิ่มความกว้างทำนบดิน การปรับปรุงฐานรากตัวเขื่อนให้แข็งแรง การปรับปรุงคลองผันน้ำ จากเขื่อนลำพระเพลิงไปยังอ่างเก็บน้ำลำสำลาย และการขุดลอกอ่างเก็บน้ำลำสำลาย เพื่อให้มีปริมาตรความจุสูงขึ้นเพื่อที่จะเติมกันได้ในระบบอ่างพวง คล้ายๆ กัน

เรื่องที่ 2 คือ โครงการพัฒนาลุ่มน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง ซึ่งเมื่อวันก่อนนี้ก็ได้มีการขออนุมัติให้ดำเนินการ ผมและคณะได้พิจารณาร่วมกันแล้วก็เห็นชอบในหลักการ ให้มีการอนุมัติให้ดำเนินการได้ เนื่องจากตื้นเขินไม่ได้รับการพัฒนามากว่า 40 ปีแล้ว เพื่อใช้เป็นแหล่งกับเก็บน้ำ และชะลอน้ำหลากในช่วงฤดูฝน สำหรับเพื่อเป็นแหล่งน้ำอุปโภค บริโภค ใช้ในการเกษตรกรรม ช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งของประชาชน ในพื้นที่ 6 อำแภอ คือ อ.พระทองคำ อ.เทพารักษ์ อ.ด่านขุนทด อ.โนนไทย อ.โนนสูง และ อ.เมือง ประกอบด้วย 3 โครงการย่อย ได้แก่

1. โครงการยกระดับการกักเก็บน้ำของอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรให้สามารถกักเก็บน้ำเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร

2. โครงการบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งลำเชียงไกร โดยการสร้างอาคารระบาย จำนวน 56 แห่ง

และ 3. โครงการขุดลอกลำเชียงไกรระยะทาง 122 กิโลเมตร ผมได้ตัดสินใจได้มอบนโยบายเป็นการเร่งด่วน ให้เกิดผลชัดเจนภายในปี 2560 เป็นการปรับโครงการที่ระยะยาวมาเร่งทำในตอนนี้ก่อนนะครับ ทั้งนี้เพื่อจะลดผลกระทบ และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนเป็นอันดับแรกให้ทันเวลา โดยให้มีการปรับระยะเวลาการดำเนินการให้สั้นลงสิ่งที่ต้องพิจารณาต่อไปก็คือ การกำหนดพื้นที่การเพาะปลูกให้เหมาะสม จำแนกว่าพื้นที่ไหนควรจะปลูกพืชชนิดใด หรือพื้นที่ใดควรจะแปรรูป พื้นที่ใดจะทำหน้าที่เป็นการตลาดที่สามารถจะแลกเปลี่ยนกันได้ เชื่อมโยงต้นทาง กลางทาง ปลายทางได้ ทั้งนี้จะต้องสอดคล้องกับแผนบริหารจัดการน้ำ ที่ต้องศึกษาดูด้วย เราได้มีการแพร่ไปในเว็บไซต์ต่างๆ แล้ว

สิ่งสำคัญอีกประการก็คือ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศฐานในข้อมูลทางภูมิศาสตร์ที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้อย่างบูรณาการ ทุกคนต้องเข้าไปศึกษาเรียนรู้นะครับ ดิจิทัลจะช่วยทำให้เราหูตากว้างไกลขึ้น เป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ เป็นเกษตรกรที่ไม่หวังพึ่งแต่ธรรมชาติเพียงอย่างเดียว เราต้องเรียนรู้ๆ เท่าทันกับสภาพภูมิศาสตร์ด้วย เราจะดำเนินการในเรื่องเหล่านี้โดยคำนึงถึงความต้องการของประชาชนเป็นสำคัญ แล้วก็ไปสอดคล้องกับการที่ใช้คำว่า ระเบิดจากข้างใน ไม่ว่าจากการพัฒนา ไม่ว่าจากการเกษตร การเศรษฐกิจอะไรต่างๆ แล้วแต่ มันต้องเกิดจากข้างในทั้งสิ้น เริ่มจากคนในคนแต่ละคน ในองค์กร ในหน่วยงาน หรือในกลุ่มผู้ประกอบการต่างๆ ทั้งหลายทั้งหมด มันต้องใช้แนวทางเหล่านี้นะครับ แล้วพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน มันจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นกินดีอยู่ดี ถ้าเราทำคนใดคนหนึ่งไม่มีทาง ไม่มีทางสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ นาแปลงใหญ่ ถ้าไม่เชื่อมโยงกันไปสู่เอสเอ็มอี ไปสู่ธุรกิจเพื่อสังคม แล้วไปสู่ธุรกิจขนาดกลาง ขนาดใหญ่ไปไม่ได้ทั้งหมด เพราะมันเชื่อมโยงกัน

ในเรื่องของการแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยอย่างเป็นรูปธรรม ผมเร่งมา 2 ปีแล้ว ก็ยังมีผลไม่ได้มากเท่าที่ควร ผมเองกังวลเรื่องนี้ ผมได้เร่งรัดมอบหมายให้ กระทรวงมหาดไทยได้มีการบูรณาการร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมในการจัดทำแผนปฏิบัติการประเทศไทยไร้ขยะ ตามแนวทางประชารัฐ ระยะ 1 ปี มิถุนายน 2559 - มิถุนายน 2560 ใช้หลักการ 3R คือการใช้น้ำน้อย ใช้ซ้ำ นำกลับมาใช้ใหม่ โดยมีเป้าหมายเพื่อจะลดปริมาณการเกิดขยะมูลฝอยในภาพรวมของประเทศลงร้อยละ 5 จากการเกิดขยะมูลฝอย อัตราเฉลี่ยให้เหลือประมาณ 23 ล้านตันต่อปี คงต้องขอความร่วมมือจากทุกกระทรวง กรม รัฐวิสาหกิจ จังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงเรียน ศาสนสถาน ห้างสรรพสินค้า และสถานประกอบการต่างๆ เป็นต้น ช่วยกันรณรงค์ การคัดแยกขยะมูลฝอย มันต้องเริ่มจากการทิ้งขยะก่อน สร้างจิตสำนึกการทิ้งขยะของคน การใช้สิ่งของหรืออะไรที่มันย่อยสลายได้ยาก เช่น ถุงพลาสติกต้องลดลงให้ได้ ผมมีนโยบายไปว่าจะต้องลดถุงพลาสติกไปเท่าไรในแต่ละเดือน ขอความกรุณาช่วยกันทบทวน ถ้าท่านไม่ช่วยผม ไม่ช่วยรัฐ ไม่ช่วยคนเก็บขยะ มันก็จะซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่แบบนี้ แล้วเราจะมาปรับกระบวนการในตรงกลาง ในการเก็บขยะ ในการที่จะนำไปสู่การฝังกลบ หรือนำมาใช้ในเรื่องของการเป็นพลังงานเหล่านี้ รัฐบาลจะได้ทำได้เต็มที่ สอดคล้องกับต้นทางก็คือ การทิ้งขยะ ลดการใช้ถุงพลาสติก และมีการคัดแยกขยะมูลฝอยตั้งแต่ต้นทาง แล้ววันนี้ผมเห็นเด็กๆ หลายกลุ่ม เขาคิดในเรื่องของการทำให้ขยะมีมูลค่า มีเครื่องต่างๆ ติดตั้งอยู่ตามศูนย์การค้าต่างๆ มีอยู่พอสมควรคือ เอาขยะ เอาแก้วน้ำ ขวดน้ำพลาสติก ไปแลกออกมาเป็นเงินไปใช้ใช้จ่ายได้

นี่ก็เป็นตัวอย่างอันหนึ่ง มันเป็นเพียงแต่ตัวอย่างเดียวนะครับ อย่างอื่นเนี่ยสำคัญ ขยะที่แต่ละคนผลิตออกมาต้องลดลง ทำอย่างไร อย่าใช้แบบสุรุ่ยสุร่าย สิ้นเปลือง ถุงพลาสติกใช้จนเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปหมด

อันที่ 2 คือกล่องโฟมที่ใส่เศษอาหารใส่อะไรเหล่านี้ พอทิ้งเขระลงไปข้างล่าง มันต้องนึกถึงคนเก็บขยะเขาด้วย เขาก็ไม่ค่อยอยากเก็บมันสกปรกไง เราต้องนึกถึงคนในทุกอาชีพ เผื่อแผ่แบ่งปัน มีจิตสำนึก นึกถึงเขาบ้าง ไม่ใช่เออ เขาก็ไม่อยากเก็บ เราจะทิ้งไป มีหน้าที่ของเขา เขาจะทิ้งไม่ทิ้งเราก็ว่าเขา ไม่เก็บก็ว่าเขา แบบนี้มันไปไม่ได้หรอกนะ ต้องเริ่มที่ตัวเองก่อน จิตสำนึกของทุกคนในสังคม เพื่อจะลดปริมาณขยะมูลฝอยให้เหลือไปจัดการน้อยที่สุด ต้องไปแก้ทั้งต้นทาง คนทิ้งใช่ไหม กลางทางคือคนที่จะขนไปทิ้ง

อันที่ 3 จุดที่จะทิ้งไปทิ้งเพื่อทำอะไร อะไร reuse อะไรฝังกลบ อะไรเผา ทุกอย่างมันต้องต่อเนื่องเชื่อมโยงอย่างนี้ ที่ผ่านมามีปัญหาอย่างนี้นะครับ ทำไมมันช้า หลายคนตอบว่า รัฐบาลนี้ไม่แก้ไขก็มันจะแก้ได้อย่างไร กฎหมายขยะเนี่ยมันยังไม่ชัดเจน ที่ผ่านมาหลายกระทรวงรับผิดชอบคนละท่อน คนละท่อนหมด มันทำไม่ได้หรอกครับ วันนี้ก็มาแก้ไข พ.ร.บ.ขยะ กำลังเร่งดำเนินการอยู่ วันนี้อยากให้ไปดูว่าต้นทางช่วยกันได้ยังไง พอกลางทางเนี่ย ความคิดของผมนะครับ วันนี้มีระบบบริหารจัดการขยะอยู่แล้วซึ่งไม่ค่อยมีประสิทธิภาพทำยังไง เราจะใช้ Outsource มาเสริมได้ไหม ค่าใช้จ่ายจะทำยังไง จะแยกเป็นพื้นที่สำคัญก่อนได้ไหม ที่จะมีการบริหารจัดการโดยใช้ Outsource แต่ปัญหาคือว่า ค่าใช้จ่ายมันต้องเพิ่มขึ้น ถ้าเราไม่นำร่องแบบนี้ หรือไม่ทำแบบนี้ไม่มีทางแก้ไขได้ เพราะว่าปริมาณงบประมาณจากค่าขยะมันน้อยมาก การที่จะพัฒนาให้เขาแยกรถ หรือจัดที่ทิ้งให้มันมากขึ้น แยกขยะให้ได้ มันต้องไปรวมกันอยู่ดี ถ้าเราไม่มีงบประมาณให้เขา เห็นใจเขาบ้าง มันจะเห็นใจได้ แก้ไขได้ โดยที่ตัวเราเอง หรือสถานประกอบการต่างๆ ต้องช่วยกันลดขยะให้ได้รณรงค์หน่อยครับ ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปเป็นปีแห่งการกำจัดขยะมูลฝอยในประเทศไทยให้ลดลงให้มากที่สุด จะ 30 เปอร์เซ็นต์ 50 เปอร์เซ็นต์ อะไรก็ได้ ปี 59 -60 ช่วยทำกับผมหน่อย ถือว่าเป็นการทำความดีเพื่อปีมหามงคลแล้วกัน วันนี้ถ้าเราลดขยะไป ค่าบริหารจัดการขยะเราจะไม่ต้องเพิ่มเติมมากนัก มันจะได้ไม่ใช้เป็นภาระของหน่วยงานที่จัดเก็บ เราไปแก้ตรงปลายทางว่า ตกลงเราจะทำยังไง วันนี้ใครรับผิดชอบอยู่ ท้องถิ่นบ้าง เทศบาลมั่ง มันมีการบริหารจัดการขยะปลายทาง ซึ่งวันนี้มันอาจจะใช้ไม่ได้มากนัก ต้องมาทำให้มันทันสมัยขึ้น ขอความร่วมมือรณรงค์ลดรับถุงพลาสติก โดยนำถุงผ้าไปจ่ายตลาดหรือซื้อของจากห้างนะครับ สามารถทำได้ทุกวัน

ต่อไปสถานการณ์โลก ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ภัยพิบัติ การก่อการร้าย และโลกไร้พรมแดน เศรษฐกิจ 4.0 ภัยแล้ง อุทกภัย เหล่านี้มันเชื่อมโดงกันทั้งสิ้น โครงสร้างเศรษฐกิจภายในประเทศนั้นจะมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับทุกมิติ ที่กล่าวเมื่อสักครู่ไม่อยากให้เรามองกันเองว่า เศรษฐกิจเราล้มเหลว คนมีรายได้น้อยลงต้องมองย้อนกลับมาว่า ประเทศไทยมีประชาชนประกอบอาชีพอะไรบ้าง รายได้มากน้อยต่างกันอย่างไร เราได้สร้างความเข้มแข็ง มีการพัฒนาขีดความสามารถตนเองให้เขาอย่างไร ในระดับประชาชนทำบ้างหรือไม่ หากยังคงทำงานหนักแต่รายได้น้อย เพราะว่าราคาสินค้ามันตกต่ำ เราไม่มีการเตรียมการหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงทางด้านนวัตกรรม มันไม่สามารถจะสร้างมูลค่าการผลิตได้ ราคามันตกต่ำแบบนี้ หรือเราไม่สร้างความต่อเนื่อง ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง ผลิต แปรรูป การตลาดให้มันต่อเนื่อง โดยต้องเชื่อมโยงทั้งภาคประชาชน ภาคการเกษตร ทุกเกษตร ทุกธุรกิจก็ได้ใช้หลักการอันเดียวกัน มันต้องเชื่อมโยงให้ได้จากผู้ผลิต ผู้แปรรูป เพิ่มมูลค่า สร้างนวัตกรรมและการตลาดที่กว้างขวางทั้งในประเทศ และต่างประเทศ

วันนี้รัฐบาลนี้ขับเคลื่อนทุกอย่างโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอสเอ็มอี หรือกลุ่มธุรกิจที่เริ่มต้นใหม่นะครับ สตาร์ทอัพที่เรียกกัน ซึ่งมันเป็นคนรุ่นใหม่ที่เขา จัดตั้งขึ้นมาใช้ปัญญาคิดออกมาว่า จะทำอย่างไรให้มีมูลค่าสูงขึ้น มันต้องมาเชื่อมโยงเอสเอ็มอีที่มีอยู่แล้ว หรือไปเชื่อมโยงกับกลุ่มเกษตรกรที่มีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเกษตร กลุ่มสหกรณ์ หรือกลุ่มธุรกิจเพื่อสังคม หรือกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ เหล่านี้มันต้องไปด้วยกันทั้งหมด

เพราะฉะนั้นถ้าหากว่าธุรกิจขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก เอสเอ็มอี โซเชียลบิสซิเนสที่เข้มแข็งเพียงพอ ทุกอย่างมันจะไม่ติดกับดักเหล่านั้น ที่ผมพูดมาตั้งแต่ต้นแล้ว รายได้ก็ไม่เพิ่ม ถ้าทำเช่นนี้มันก็จะเพิ่มขึ้น ทันกับรายจ่ายสำหรับการดำรงชีวิต อยู่ได้อย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรี ทุกอย่างยังไม่สายเกินไป เราต้องหยุดการตำหนิกันไปกันมา รวมพลังให้ได้ เราต้องเสริมความเข้มแข็งให้กับประชาชนตามหลักประชารัฐ ในทุกๆ ด้านให้สามารถเชื่อมโยงรายได้ให้เกิดการครบวงจรให้มากขึ้น เราจะไม่ลำบากเหมือนเดิม ต้องใช้เวลาด้วยนะครับ แต่ถ้าร่วมมือกันมากๆ มันเร็วขึ้นแน่นอน งั้นขอให้ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้ อันเป็นประโยชน์ที่สร้างสรรค์ ผมรับฟังได้ทั้งหมด ขอให้สร้างสรรค์แล้วกัน เราต้องดูเกษตรกรหลายพวกด้วยกัน ชาวไร่ ชาวนา อาชีพอิสระ รับจ้างทั้งหมด คนไทยทั้งสิ้น สิ่งสำคัญที่สุดที่รัฐบาลนี้กำลังดำเนินการอยู่คือ การสร้างความเข้มแข็งให้กับทุกภาคส่วนทุกด้านด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เป็นสำคัญ ก้าวไปสู่การเป็นสังคมดิจิตอล ซึ่งอาจจะต้องเร่งดำเนินการใน Thailand 4.0 นะ

วันก่อนผมได้ไปเปิดงานไทยแลนด์ดิจิตอลไปแล้ว ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญก็คือเราจะต้องมีการเรียนรู้การสร้างจิตสำนึก มีคุณธรรมในตัวเอง มีจริยธรรมในองค์กร ทั้งในภาคประชาชน รัฐบาล ข้าราชการ ธุรกิจเอกชน เราจำเป็นต้องมีการพัฒนา พัฒนาตัวเอง อาจจะเรียกว่า การปฏิรูปปรับเปลี่ยนตนเองและองค์กร ด้วยการเรียนรู้ให้ทันต่อการพัฒนาการของโลก โดยยุคนี้ถือว่าเป็นที่ที่แต่ละประชาคมโลกมันมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งนับวันจะก้าวไปสู่คำว่าเศรษฐกิจเดียวของแต่ละประชาคมโลก มีการค้าขายระหว่างประชาคม ต้องรวมแต่ละกระทรวงของตัวเองให้ได้ ของเราก็มีหน้าที่ต่ออาเซียน จะต้องเป็นส่วนหนึ่งในการที่จะต้องเชื่อมโยง ประชาคมอื่นๆ ให้ได้อย่างรวดเร็วด้วย

ทั้งนี้ เพื่อจะเพิ่มศักยภาพ เพิ่มมูลค่า เพิ่มผู้ประกอบการ จากกลุ่มอาชีพต่าง ๆ ในลักษณะการรวมกลุ่มจากเล็กไปใหญ่ เชื่อมโยงในจังหวัด กลุ่มจังหวัด ภูมิภาค ไปยังอาเซียน ไป CLMV ก่อน แล้วไปอาเซียนอื่นๆ แล้วไปเพิ่มความร่วมมือมิตรประเทศให้มีการเจริญเติบโตที่ใกล้เคียงกัน ยิ่งจะส่งเสริมความเข้มแข็งในระดับมหภาคให้ดียิ่งขึ้น แล้วจะทำให้ประชาชนทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ทุกอาชีพ มีรายได้มากขึ้นตามลำดับ ปัจจัยสำคัญที่ประเทศต้องเร่งดำเนินการ เพราะว่าเราทำอันใดอันหนึ่งไป มันมีผลกระทบทั้งสิ้น ต้องกลับมาดูว่า หนึ่งคือการเคารพกฎหมาย ทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย จะทำให้เจ้าหน้าที่เกิดความเป็นธรรมเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ เกิดความชัดเจนขึ้น เราพยายามเต็มที่ ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน บางครั้งอาจจะถูกบิดเบือนไปบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง ผมคิดว่าเวลาแล้วก็การชี้แจงของทุกหน่วยงาน มันจะทำให้ทุกอย่างเรียบร้อย ให้ได้ ไม่ใช่เป็น เขาเรียกอะไรเป็นคำวิพากษ์วิจารณ์ไปเรื่อยๆ ว่ากฎหมายนี้ทำเพื่อคนรวย เพื่อรังแกคนจน เพื่อเจ้าหน้าที่ ผมยืนยันกฎหมายทุกกฎหมายที่เราออกมาในสมัยเราเป็นกฎหมาย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในสังคม ลดความเหลื่อมล้ำทั้งสิ้น เป็นกฎหมายเพื่อประชาชนเป็นส่วนใหญ่

นอกจากนั้นก็เป็นผลประโยชน์ต่อการค้า การลงทุน มันต้องแลกเปลี่ยนกันบ้าง ไม่ใช่ว่าเราจะได้ทุกอย่างง่ายๆ มันต้องมีการสร้างแรงจูงใจให้สิทธิประโยชน์เหล่านี้ คือมองด้านเดียวไม่ได้ ฉะนั้นคนไทยต้องปรับวิธีการคิดใหม่ ยังไงเราไม่ทำให้ประเทศชาติเราเสียเปรียบ หรือไม่รับผลประโยชน์อยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมื่อรัฐบาลไม่ต้องการผลประโยชน์ ฉะนั้นจะเอาผลประโยชน์เหล่านี้ให้แก่ประชาชนไม่ดีกว่าหรือ เราพยายามทำทุกอย่าง ถ้าหากเราไม่ให้ความสำคัญ เรื่องกฎหมาย มันก็ไปจัดระเบียบบ้านเมืองไม่ได้ใช่ไหม ไม่เชื่อฟังกฎหมายต่อต้าน ปลุกระดมกันไปเรื่อยเปื่อย ต้องไปย้อนดูว่ามันผิดกฎหมายหรือเปล่า ถ้าเป็นเป็นทหารมันก็ต้องไปดู ว่าผิดวินัยก่อนหรือเปล่า ผิดวินัยเสร็จ ลงโทษวินัยได้ ต่อไปก็เป็นคดีอาญา คดีแพ่งก็ว่าไป กลไกก็เป็นอย่างนี้ อย่าใช้ความรู้สึกในการตัดสินคน เราจะได้ได้รับความเชื่อถือจากเวทีระหว่างประเทศ หรือต่างประเทศด้วย ว่าเราบังคับใช้กฎหมายได้อย่างไร จริงๆมันเป็นอยู่แล้วแหละเพียงแต่ขึ้นอยู่ที่ว่าใครที่จะต่อสู้กันด้วยวิธีไหน ถ้าต่อสู้กันด้วยกระบวนการยุติธรรมก็โอเค ถ้าต่อสู้ด้วยปากด้วยสื่อด้วยอะไรต่างๆ มันจะเป็นอยู่แบบนี้

เพราะฉะนั้นสังคมต้องทำให้ทุกอย่างมันสงบลง ให้ทุกคนเข้าไปสู่กฎหมาย ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรถ้าเข้ามาแล้วต่อสู้คดี ถ้าไม่เข้ามาไม่ต่อสู้คดีมันก็ต้องถูกหมายจับ ธรรมดานะ ยกเว้นอะไรให้ใครไม่ได้อยู่แล้ว กฎหมายเดียวกัน เราจะต้องลดช่องว่างของรายได้ น้อย กลาง มาก ภายในประเทศให้ลดลง ก็อย่างที่ผมกล่าวมาแล้ว ดูแลทุกภาคส่วน จะช่วยแต่ละส่วนอย่างไร ไม่ใช่ให้เป็นก้อนไปมากน้อยไม่เท่ากันบ้าง มันจะต้องสร้างความเข้มแข็งให้เขานั้นสำคัญที่สุด

ในส่วนของการพัฒนาศักยภาพประเทศนั้น เรายังมีรายได้ของรัฐน้อยถึงน้อยมากในสถานการณ์ปัจจุบัน เราจำเป็นต้องพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ แล้วก็มีหลายอย่างที่เป็นสวัสดิการ ที่เรียกว่ารัฐสวัสดิการ เพื่อดูแลสังคม ดูแลประชาชน งบการศึกษา งบการสาธารณะสุข และการลงทุนประเทศเหล่านี้มันจะเพิ่มรายได้ให้กับประเทศชาติ และประชาชนให้เพิ่มมากขึ้นตามลำดับไปด้วยกัน

ในภาคการเกษตรนั้น ผมคิดว่าพี่น้องเกษตรกรลำบากมามากพอแล้ว เพราะฉะนั้นต้องให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ มีความเข้าใจสภาวะแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อม น้ำ ดิน อากาศ นับวันจะยิ่งมีปัญหามากขึ้นทุกวันในอนาคตอันใกล้นี้ พระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงรับสั่งไว้ว่า “พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ พระราชินีจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ พระราชินีจะสร้างป่า” อันนี้เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ และจะตราตึงอยู่ในหัวใจของคนไทยทุกคน นำไปสู่การปฏิบัติให้ได้ว่าเราต้องรักษาป่า เพื่อให้เรามีน้ำ เราจะบริหารจัดการดีเพียงใดก็ตาม ต้นทุนน้ำไม่มี เก็บน้ำไม่ได้ ฝนไม่ตก จบทั้งหมดเสียเงินเปล่าๆ เพราะฉะนั้นเราต้องฟื้นฟู เร่งการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้โดยเร็วที่สุด เราก็ต้องใช้วิธีการอันหนึ่ง ก็คือ การจะทำยังไงให้คนอยู่ร่วมกับป่า ป่าที่เสียหายไปแล้วเอาคนไปอยู่ร่วมกับป่าได้มั้ย มีงบประมาณให้เขาดูแลป่าไปด้วยได้ไหม สร้างป่าขึ้นมา ป่าชุมชน เขาหัวโล้น อะไรต่างๆ เหล่านี้ ก็กำลังให้คณะกรรมการนโยบายจัดที่ดินที่มีกระทรวงหลายกระทรวงรับผิดชอบอยู่ให้ไปพิจารณาดู

การไปปลูกพืชอะไรต่างๆ ก็ตามจำเป็นต้องอาศัยหลักวิชาการเยอะแยะ การจะไปปลูกพืชในพื้นที่เขาหัวโล้น ไม่ใช่อยู่ดีๆ ไปปลูกแล้วมันจะโต มันโตไม่ได้หรอกครับ เพราะมันร้อน แห้งแล้ง พอหมดหน้าฝนมันก็ตายหมด เหมือนเดิม มันจะต้องมีการวางแผนงานให้ดี จะไปปลูกที่ไหน ที่มีคนดูแลได้ก่อน เมื่อกำหนดพื้นที่เป้าหมายได้แล้วเราก็จะต้องหาวิธีการในการปลูก ก็ต้องไปเสริมด้วยการจัดทำฝายเพื่อจะชะลอน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้นในบริเวณที่เราจะปลูกให้ได้ เมื่อพื้นที่มันชื้นมันนก็จะปลูกได้ คราวนี้พืชที่จะปลูกก่อนคือพืชอะไร คือพืชที่โตเร็ว ระหว่างนี้ก็พวกกล้าไม้ต่างๆ ก็เลี้ยงไว้ให้โตก่อน ไม้ยืนต้น แต่คราวนี้พืชที่จะต้องปลูกให้เร็วก็คือ พวกกระถินณรงค์ กระถินยักษ์ พืชพวกนี้ใช้ประโยชน์ได้พอสมควร ไม้โตเร็วเหล่านี้ เพื่อจะเป็นร่มเงาไว้ก่อน เสร็จแล้วเราค่อยเอากล้าไม้ลงไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องปรับให้สอดคล้องกับน้ำที่มีอยู่ แล้วก็ฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงด้วย อันนี้ฝากไว้ด้วย ผมขอบคุณทุกกลุ่มทุกหมู่เหล่าที่มีความตั้งใจในการที่จะปลูกป่า มีการระดมทุน มีการรวมคนที่จะไปปลูก ผมเกรงว่ามันจะไปปลูกแล้วตายหมดเท่านั้นเอง

อย่าไปมองว่ากรมป่าไม้ หรือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนั้นไม่เอาจริงเอาจัง เขาต้องเอาจริงเอาจัง ทุกเรื่อง เพราะผมสั่งมา 2 ปีแล้ว วันนี้ก็มีการดำเนินการหลายอย่าง ทำไมเราไม่มาร่วมมือกัน ท่านไปแยกแล้วท่านบอกว่ารัฐบาลไม่สนใจ เขาทำตั้งเยอะตั้งแยะ เพราะฉะนั้นการพูดอย่างนี้ ผมไม่อยากให้มีการสร้างความรู้แบบนี้อีกต่อไป ถ้าท่านไปปลูกแล้วตาย ท่านก็ต้องรับผิดชอบ แต่ถ้าไปปลูกแล้วร่วมมือกับเรา เราก็จะรับผิดชอบให้ว่าจะทำกันยังไง จะแบ่งพื้นที่กันยังไง เอาตรงไหน วิธีการตรงไหน วิธีของท่านวิธีของเรา อันไหนมันดีกว่ากัน หรืออันไหนมันร่วมมือกันได้ ไปคิดแบบนี้สิครับ อย่าโทษกันไปโทษกันมา ผมขอบคุณนะ ยังไงผมก็ขอบคุณนั้นแหละที่มีความตั้งใจในเรื่องการดูแลป่าไม้ การแก้ปัญหาภูเขาหัวโล้น

เรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนผมก็พูดมาหลายครั้งแล้ว พูดไม่ใช่น้อยๆ ถ้าเราร่วมมือกันจริงๆ อดทน ไม่ฟังคำบิดเบือน ให้ร้าย เราก็จะสามารถแก้ปัญหาได้ ถ้าเราไม่ฟังแล้วก็เชื่อในเรื่องที่มันไม่สร้างสรรค์ เราก็จะตกเป็นเบี้ยล่างของเขาอีกต่อไป เรื่อยๆ ไป ของใครก็ไม่รู้ล่ะ ลืมตาอ้าปากก็ไม่ได้เหมือนเดิม หลังๆ ก็โกงแบบเก่า เพราะฉะนั้นสิ่งนี้สำคัญที่สุด มากกว่าที่จะรอให้รัฐมาสนับสนุน ชดเชยแต่เพียงอย่างเดียว มันไม่มีทางที่จะดีขึ้นหรอก ท่านต้องสร้างความเข้มแข็งด้วยตัวเองด้วย ตรงไหนก็ตามท่านทำได้เท่าไหนเท่านั้น รัฐบาลก็จะไปเติมตรงนั้นให้ เรื่องน้ำ เรื่องการบริหารจัดการ เรื่องดิน ปรับปรุงคุณภาพดิน ถ้าทั้งหมดมองว่า พื้นที่ทั้งหมด 140 กว่าล้านไร่ การเกษตร ต้องเอาน้ำไปให้ทั้งหมด หรือต้องไปช่วยเหลือทั้งหมด มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว มันถึงต้องแยกไปสู่การทำเกษตรแปลงใหญ่ ไปสู่การสนับสนุนในเรื่องของมาตรการลดต้นทุน เรื่องการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ลดการใช้ปุ๋ยเคมี ไปดูการตลาด ไปดูการผลิตไปดูโซเชียลบิซเนส (Social business) แข่งขันราคาพ่อค้าคนกลาง เหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องทำทั้งสิ้น รัฐบาลนี้เข้ามาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ก็ทำไปได้ในระดับหนึ่ง ระดับหนึ่งที่ว่าผมยังไม่พอใจเลย เพราะไม่ทันต่อความเดือดร้อนของประชาชน ฉะนั้นเราทุกคนจะต้องทุ่มเทสติปัญญา ในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ในทิศทางที่ถูกต้อง มันอาจจะช้าอยู่บ้างก็ต้องอดทน เพื่อให้เกิดความมั่นคง ยั่งยืน ที่มันอาจจะค่อยเป็นค่อยไปก็คือว่าบางอย่างเราต้องเริ่มต้น คิดใหม่ ทำใหม่ รื้อทั้งระบบ ทำให้ดี ทำให้รอบคอบ มองไปข้างหน้า ดูกฎหมาย เราต้องหันกลับมาดูตนเองว่าเราได้มีการพัฒนาตนเองเพียงพอหรือยัง จะเชื่อมต่อกับการช่วยเหลือของรัฐได้อย่างไร

การที่ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาลก็เพราะเราได้ทำลายธรรมชาติไปมากแล้ว ป่าไม้ บุกรุกกันเข้าไป ทำลายเยอะแยะ เกิดเขาหัวโล้น อาจจะด้วยความยากจน การรู้เท่าไม่ถึงการณ์ การทุจริตคอร์รัปชัน เอาเปรียบจากผู้ที่แข็งแรงกว่า เราต้องร่วมมือกันตรงนี้ให้ได้ซะก่อนแก้ปัญหาร่วมกัน หลายอย่างแก้ไขได้ด้วยระบบสหกรณ์ กลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ กลุ่มเกษตรรายชนิด ไร่นาสวนผสม ธุรกิจเพื่อสังคม เพื่อให้เกื้อหนุนกันเป็นระบบครบวงจร เมื่อรวมกลุ่มกันได้ รัฐก็จะส่งเสริมสนับสนุนให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ผมถือว่าประเทศเรายังมีรายได้มวลรวมของประเทศไม่มากนัก ปานกลาง ค่อนข้างดี เพราะเรามีเกษตรกรจำนวนมาก รายได้จึงลดลงเพราะน้ำแล้ง น้ำท่วมบ้าง ในช่วงที่ผ่านมา เราต้องพัฒนาตนเอง ต้องยอมอดทนเปลี่ยนแปลงตนเองไปก่อน ระเบิดจากข้างในไปในทิศทางที่เหมาะสม ทำอย่างไรเราจะไม่ต้องพึ่งพารัฐแต่เพียงอย่างเดียว อันนี้ผมฝากไว้ด้วย

เรื่องสุดท้าย ก็คือเรื่องความขัดแย้ง ความแตกแยก อะไรที่ไม่สร้างสรรค์ มันจะเป็นอันตรายที่สุด ในโลกปัจจุบันถ้าหากเราใช้ประโยชน์จากสื่อ จากโซเชียลมีเดียให้ถูกต้อง ในทางสร้างสรรค์ มันก็จะเป็นการสร้างการเรียนรู้ รู้เท่าทัน มีหลักการ มีเหตุมีผลในการพิจารณา เราก็จะสามารถกำหนดจุดมุ่งหมายชีวิต ครอบครัว ประเทศชาติ สังคมก็จะมีความปลอดภัย เป็นสังคมแห่งความสันติสุข สังคมไทยเดิมๆ ในห้วงที่ผ่านมานั้นเราต้องมีการเปลี่ยนแปลง สอดรับกับเทคโนโลยี Thailand 4.0 ด้วย เศรษฐกิจดิจิตอลทั้งหมดที่จะเข้ามา

สิ่งใหม่ๆ กำลังจะเกิดขึ้นในโลกใบนี้ ในประเทศไทยด้วย จะมีอิทธิพลกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการดำรงชีวิตต่างๆ ก็ตาม เราก็ใช้หลักการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเรื่องของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3 + 2 เงื่อนไข ซึ่งมันจะพันไปสู่เรื่องของการทุจริต ไม่โปร่งใส คอร์รัปชัน เหล่านี้มันเกิดจากคน 2 ฝ่ายทั้งสิ้น จากผู้ต้องการผลประโยชน์ ที่มันไม่ถูกต้อง เจ้าหน้าที่รัฐที่ฉ้อฉล ฉ้อราษฎร์บังหลวง ถ้าหากว่าฝ่ายหนึ่งไม่ทำผิดกฎหมาย ไม่เสนอ อีกฝ่ายก็เรียกไม่ได้ ถ้าอีกฝ่ายเรียกไป อีกฝ่ายก็ฟ้องร้องไป มันไม่ถูกต้องทั้งสิ้น เราโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้ แต่เจ้าหน้าที่รัฐหรือกฎหมายต้องเข้าไปจัดการ เจ้าหน้าที่ก็จะได้ปรับปรุงตัวเอง ไอ้คนให้ประโยชน์ก็ต้องปรับปรุงตัวเอง เพราะตอนนี้กฎหมายออกมาแล้ว คนให้ก็ต้องถูกลงโทษด้วย ไปดูซิว่า พ.ร.บ.เรื่องนี้ว่าอย่างไร เจ้าหน้าที่จะได้ปรับตัวเองให้มีคุณธรรม จริยธรรม มีความโปร่งใสให้กับบุคลากร องค์กร ทุกคนจะต้องมีธรรมาภิบาลในหน่วยงานของท่าน

ปีนี้เป็นปีมหามงคล เพราะฉะนั้นสิ่งที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงริเริ่ม ทรงพระราชทานไว้ให้แก่ปวงชนชาวไทย ไม่ว่าจะเรื่องบริหารจัดการน้ำ การอนุรักษ์ป่า ยุทธศาสตร์การพัฒนา ที่ใช้คำว่า “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เกษตรทฤษฎีใหม่ อีกมากมาย สิ่งเหล่านี้จะเป็นหลักสำคัญ เป็นแผนที่นำทางในการที่รัฐบาลและประชาชนจะน้อมนำมาทำให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน ให้มีการพัฒนาการที่จะนำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ในอนาคต

ขอขอบคุณประชาชน เจ้าหน้าที่ พลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่ได้ร่วมมือ เข้าใจซึ่งกันและกัน ปรับตัวเองเข้าหากัน เราจะต้องปฏิรูป ลดความหวาดระแวง สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ และมีการแบ่งปันผลประโยชน์ที่เท่าเทียม ตามกฎหมายที่ถูกต้อง เพื่อประเทศชาติอันเป็นที่รักของพวกเราทุกคน

ขอบคุณท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ทำงานหนักนะ หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัด กลุ่มจังหวัดภูมิภาค ข้าราชการทุกกระทรวง ทุกคน ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น เทศบาล อะไรก็แล้วแต่ ภาคประชาสังคม NGO ผมพูดไปหลายครั้งแล้ว ก็หวังว่าความร่วมมือของพวกเราทุกคนนั้นจะช่วยกันนำพาประเทศชาติไปในทิศทางที่ถูกต้อง ก้าวหน้า พาตนเองให้พบแสงสว่าง แสวงหาช่องทางความร่วมมือให้เจอ เราจะสุดโต่งไปซ้ายหรือไปขวากันไม่ได้อีกแล้ว ต้องหาตรงกลางเพื่อเดินไปข้างหน้าให้ได้ ภายใต้กฎหมายเดียวกัน จะต้องทำงานร่วมมือกันด้วยคำที่คุ้นเคยกับแบบทหารอยู่แล้ว คติพจน์ที่ว่า “เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน” ทุกคนต่างมีหน้าที่ของตน แม้จะแตกต่างกัน เราต้องทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดที่กระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงรับสั่งไว้แล้ว ขอบคุณครับ ขอให้มีความสุขในวันสุดสัปดาห์ สวัสดีครับ”