ภาษาอ งกฤษสำหร บเด ก 3-4 ป เล ม 1 แนวใหม

คำนำ กำรจดั กำรเรียนร้ใู นศตวรรษที่ 21 ต้องพัฒนำผูเ้ รียนใหม้ ีทักษะแหง่ อนำคต เป็นทักษะท่ีจำเปน็ ต้องใช้ ในกำรดำเนนิ ชวี ติ เพ่ือเตรยี มควำมผู้เรยี นให้ใชช้ ีวิตในโลกทเ่ี ป็นจริง เน้นกำรศึกษำตลอดชีวติ ให้ผู้เรยี นรูจ้ ัก กำรแสวงหำควำมรดู้ ว้ ยตนเอง กำรนำทฤษฎีกำรเรยี นรทู้ ี่ได้รบั ไปสู่กำรปฏบิ ัติ สิง่ สำคัญคือผู้เรยี นจะต้องเกิด กระบวนกำรกำรเรียนรู้ ซงึ่ ถือเปน็ จุดสำคญั กำรสอนภำษำเพ่ือกำรสื่อสำร (Communicative Language Teaching) เปน็ กำรสอนภำษำ ทีเ่ นน้ หนำ้ ท่ี ของภำษำและกำรส่ือควำมหมำย กล่ำวคอื ผู้เรียนสำมำรถใชภ้ ำษำทสี่ องในกำรสอื่ สำรได้ ซึง่ อำจจะใชภ้ ำษำได้ ไมถ่ ูกต้องตำมหลักไวยำกรณ์ แต่สำมำรถสื่อควำมได้ และเหมำะสมกับสถำนกำรณ์ โดยกำรสอนภำษำชนดิ นม้ี ี เป้ำหมำยเพื่อใหผ้ เู้ รยี นสำมำรถนำทกั ษะทำงภำษำมำใช้เพื่อกำรสอื่ สำรได้ หวังเป็นอย่ำงย่ิงว่ำ เอกสำรฉบบั น้ีจะเปน็ ประโยชนต์ อ่ ผู้ที่ต้องกำรศกึ ษำรปู แบบกำรจัดกำรเรยี นรใู้ หม่ เพอื่ พฒั นำผู้เรียนต่อไป อรวรรณ พุดมอญ

แผนผังมโนทศั น์เปา้ หมายการเรยี นรู้/ หลกั ฐานการเรยี นรู้ ความรู้ (Knowledge : K) ทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1) ทักษะกำรฟัง (Listening skill) 1. ซอื่ สตั ย์สจุ รติ 1) กลุ่มคำ ประโยค และควำมหมำย 2) ทกั ษะกำรพดู (Speaking skill) 2. มวี ินัย 3) ทักษะกำรอำ่ น (Reading skill) 3. ใฝเ่ รียนรู้ เก่ียวกับกำรบอกลกั ษณะนิสัยและอำชีพ 4) ทกั ษะกำรเขียน (Writing skill) 4. มงุ่ ม่นั ในกำรทำงำน 2) กำรออกเสียงเน้นหนกั -เบำในคำ 5. มจี ิตสำธำรณะ กระบวนการกลุ่ม 3) ประโยค บทสนทนำ เนือ้ เรอื่ งสน้ั ๆ ทมี่ ี 1) จับคสู่ นทนำ 2 ) ระดมสมอง ภำพประกอบ 3) ฝึกกจิ กรรมกลุ่มตำม 4) คำศัพท์ ประโยคขอและให้ข้อมลู เกย่ี วกบั แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ ตนเอง เพอื่ น และเร่อื งใกลต้ ัว 5) ประโยคท่ีใช้แสดงควำมต้องกำร และควำมรสู้ กึ ของตนเองเกีย่ วกบั อำชีพทอ่ี ยำกเปน็ 6)กิจกรรมทำงภำษำและวัฒนธรรม เช่น กำร เล่นเกม กำรรอ้ งเพลง 7) กำรใช้ภำษำในกำรฟังและพูด/อ่ำนใน สถำนกำรณท์ เี่ กิดขนึ้ ในห้องเรียน 8) กำรใช้ภำษำต่ำงประเทศในกำรรวบรวม คำศัพท์ทเ่ี กย่ี วขอ้ งใกล้ตัวจำกสอ่ื และแหลง่ กำร เรยี นรู้ตำ่ งๆ เป้าหมายการเรยี น What do you want to be? หลกั ฐานการเรยี นรู้ 1. กำรทำโปสเตอร์คำศพั ทล์ ักษณะของบุคคล 2. กำรพูดถำม-ตอบเก่ียวกบั ลักษณะนิสยั ของบคุ คล 3. กำรเขียนบรรยำยรูปรำ่ งและลกั ษณะนิสยั ของผู้อ่ืน 4. กำรพดู สนทนำเก่ยี วกับอำชพี ท่อี ยำกเป็น 5. กำรทำชนิ้ งำนอำชีพทอี่ ยำกเปน็ 6. กำรเขียนบรรยำยเก่ยี วกับตนเอง 7. กำรรวบรวมคำศพั ทใ์ นสมุดคำศัพท์ Your word bookฃ

แผนผังมโนทศั น์ข้ันตอนการทากจิ กรรมประกอบการจัดการเรียนรูแ้ บบ CLT ศกึ ษามาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวช้ีวดั และจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ทาแบบทดสอบก่อนเรยี น ทากิจกรรมโดยใช้กระบวนการจัดการเรยี นรู้แนวการสอนภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร Communicative Language Teaching : CLT Warm up Presentation Practice Production Wrap up ทดสอบหลังเรียน (ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 60)

ผงั มโนทศั น์ หน่วยการเรียนรทู้ แผนที่ 1 What does she look like? หนว่ ,ยก จานวน 3 ชั่วโมง What do y แผนท่ี 2 What do you want to be? จานวน จานวน 3 ชัว่ โมง สังคมศกึ ษา การเรยี นร 1.แสดงควำมคิดเห็นเกีย่ วกับกำรลักษณะอำชพี ต่ำงๆ 2.แสดงควำมคดิ เหน็ เกยี่ วกับลกั ษณะนสิ ัยของคน • กำรเรียนร้อู ำช

ท่ี 1 What do you want to be? การเรยี นรทู้ ี่ 1 แผนท่ี 3 I want to be a chef. you want to be? จานวน 3 ชัว่ โมง น 13 ชั่วโมง แผนท่ี 4 Project Presentation. จานวน 4 ชัว่ โมง รแู้ บบบูรณาการ ศลิ ปะ : ทศั นศลิ ป์ • วำดภำพและระบำยสี การงานอาชพี ชีพตำ่ งๆ

แผนบรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ครู ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การมีภูมคิ ้มุ กนั ในตัวท่ีดี 1. ออกแบบกำรจัดกจิ กรรม ตรงตำม 1. ออกแบบกำรเรยี นรสู้ ง่ เสรมิ กระบวนกำรคิด 1. ศึกษำแนวทำงกำรจัดกำรเรียนรูล้ ว่ งหนำ้ ตวั ช้วี ัด 2. ใช้เทคนคิ กำรจดั กำรเรียนรทู้ ห่ี ลำกหลำย 2. จัดเตรยี มกำรวดั ผลประเมนิ ผล และแบบ 2. เลอื กสื่อ แหลง่ เรยี นรเู้ หมำะสม สงั เกตพฤตกิ รมนักเรยี น 3. วดั ผลประเมินผลตรงตำมเน้ือหำ เงือ่ นไขความรู้ เงื่อนไขคุณธรรม 1. รู้จักเทคนคิ กำรสอนทส่ี ง่ เสรมิ กระบวนกำรคดิ และนกั เรียน 1. มีควำมขยนั เสยี สละ และมงุ่ มนั่ ในกำรจดั หำส่ือมำพัฒนำนกั เรียน สำมำรถเรียนรไู้ ด้อยำ่ งมีควำมสขุ ใหบ้ รรลตุ ำมจดุ ประสงค์ 2. มคี วำมอดทนเพื่อพฒั นำนกั เรียนโดยใช้เทคนิคกำรสอนที่ หลำกหลำย นกั เรยี น ความพอประมาณ ความมเี หตุผล การมีภมู คิ ุ้มกันในตัวทด่ี ี 1. กำรใชเ้ วลำในกำรทำกจิ กรรม/ภำระงำน 1. ฝกึ กระบวนกำรทำงำนเปน็ กลมุ่ 1. วำงแผนกำรศกึ ษำใบงำน/ใบกจิ กรรม ได้อย่ำงเหมำะสม ทันเวลำ 2. ฝึกกระบวนกำรสังเกต อธิบำย ทักษะกำร 2. นำควำมรู้เรอ่ื ง ลกั ษณะของอำชีพตำ่ งๆ 2. เลือกสมำชกิ กลมุ่ ไดเ้ หมำะสมกบั เน้อื หำที่ สืบค้นหำควำมรู้ ข้อมลู ตำ่ งๆ ไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ ประจำวันได้ เรยี นและศักยภำพของตน เง่ือนไขความรู้ เงอื่ นไขคณุ ธรรม 1. มีควำมรู้เรื่อง ลักษณะของอำชพี ตำ่ งๆ ตลอดจนสำมำรถสร้ำงจดั ทำ 1. มีควำมรับผิดชอบ และปฏิบตั ติ ำมข้อตกลงของกลุม่ ชิ้นงำน ผลงำนและใบงำนไดต้ ำมวตั ถุประสงค์ 2. มีสติ มสี มำธิชว่ ยเหลอื กันในกำรทำงำนรว่ มกนั สง่ ผลต่อการพฒั นา 4 มติ ิใหย้ ง่ั ยืนยอมรบั ตอ่ การเปลย่ี นแปลงในยคุ โลกาภิวฒั น์ วัตถุ สงั คม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ความรู้ (K) มคี วำมรูค้ วำมเขำ้ ใจลักษณะของอำชีพ มคี วำมรู้และเข้ำใจ มคี วำมรแู้ ละเข้ำใจ มคี วำมรแู้ ละเข้ำใจกำร ต่ำงๆ กระบวนกำรทำงำน เกีย่ วกบั ลักษณะ ช่วยเหลอื แบง่ ปนั กลมุ่ ของอำชพี ต่ำงๆ ทกั ษะ (P) สำมำรถสรำ้ งชิ้นงำน ผลงำน ใบงำน ทำงำนไดส้ ำเรจ็ ตำม ใชแ้ หลง่ เรยี นรโู้ ดยไม่ ชว่ ยเหลือ แบง่ ปันซ่ึง แบบทดสอบเรอ่ื งลกั ษณะของอำชพี ต่ำงๆ เปำ้ หมำย ด้วย ทำลำยสงิ่ แวดล้อม กัน และกนั ได้ตรงตำมวตั ถุประสงค์ กระบวนกำรกลุม่ คา่ นิยม (A) เหน็ ประโยชนข์ องเรยี นรู้ เกย่ี วกบั เห็นคุณคำ่ และ เห็นคณุ คำ่ ของกำรใช้ ปลูกฝงั นิสยั กำร ลกั ษณะของอำชีพต่ำงๆ ภำคภูมิใจในกำร แหลง่ เรยี นรู้โดยไม่ ชว่ ยเหลือแบง่ ปัน ทำงำนร่วมกนั ได้ ทำลำยสิง่ แวดลอ้ ม สำเรจ็

โครงสรา้ งหนว่ ยการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ วชิ าภาษาอังกฤษ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 6 เร่ือง What do you want to be? เวลา 13 ช่ัวโมง แผนการจดั การเรยี นรู้ ภาระงาน/ชนิ้ งาน เวลาเรยี น (ชั่วโมง) 1 What does she look like? 1. กำรทำโปสเตอร์บอกลกั ษณะของคน 2. กำรพูดถำม-ตอบเกีย่ วกับลักษณะนิสัยของบคุ คล 3 2. What do want to be? 1. กำรพดู สนทนำเก่ยี วกับอำชีพท่ีอยำกเปน็ 2. กำรทำชิ้นงำนอำชีพทีอ่ ยำกเป็น 3 3. I want to be a chef. 1.กำรเขยี นบรรยำยเก่ยี วกับตนเอง 4.Project presentation 3 1. นำเสนอผลงำน 4 2.ทดสอบหลงั เรียน 13 รวมเวลำเรียน

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ เวลา 13 ช่วั โมง เรอื่ ง What do you want to be? 1.มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ชว้ี ดั มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรือ่ งที่ฟังและอา่ นจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอยา่ งมี เหตุผล ตวั ชว้ี ัด 2. อ่ำนออกเสยี งข้อควำม นิทำน และบทกลอนสนั้ ๆ ถกู ต้องตำมหลักกำรอำ่ น ตัวชี้วัด 4. บอกใจควำมสำคญั และตอบคำถำมจำกกำรฟงั และอ่ำนบทสนทนำ นิทำนงำ่ ยๆ และเรื่องเลำ่ มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ขา่ วสาร แสดงความรสู้ กึ และ ความคดิ เหน็ อยา่ งมีประสิทธภิ าพ ตวั ชี้วัด 1. พูด/เขียนโตต้ อบในกำรส่ือสำรระหวำ่ งบคุ คล ตัวชว้ี ดั 2. ใช้คำสัง่ คำขอร้อง และให้คำแนะนำ ตัวชี้วัด 4. พูดและเขยี นเพื่อขอและให้ข้อมลู เก่ียวกบั ตนเอง เพ่ือน ครอบครัว และเร่ืองใกลต้ ัว มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่อื งตา่ งๆ โดยการพดู และการเขียน ตัวช้วี ัด 1. พดู /เขียนใหข้ ้อมูลเกีย่ วกบั ตนเอง เพ่ือน และส่งิ แวดลอ้ มใกล้ตวั ตัวช้ีวดั 3. พูด/เขียนแสดงควำมคดิ เห็นเกย่ี วกบั เรอ่ื งตำ่ งๆ ใกล้ตวั มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พนั ธร์ ะหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมกบั กาลเทศะ ตวั ชี้วดั 1. ใชถ้ อ้ ยคำ นำ้ เสียง และกิรยิ ำท่ำทำงอย่ำงสภุ ำพ เหมำะสม ตำมมำรยำทสังคมและ วัฒนธรรมของเจ้ำของภำษำ ตัวชี้วัด 3. เข้ำรว่ มกจิ กรรมทำงภำษำและวัฒนธรรมตำมควำมสนใจ มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเชอื่ มโยงความรู้กบั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้อื่น และเป็นพนื้ ฐาน ในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั นข์ องตน ตัวชวี้ ัด 1. ค้นควำ้ รวบรวมคำศพั ท์ทีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้อ่นื จำกแหล่ง กำรเรียนรู้ และนำเสนอด้วยกำรพดู /กำรเขยี น

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม ตวั ชีว้ ดั 1. ใชภ้ ำษำสื่อสำรในสถำนกำรณ์ตำ่ งๆ ท่ีเกดิ ข้ึนในห้องเรียนและสถำนศึกษำ 2. สาระสาคญั กำรเรยี นร้คู ำศัพท์บอกลักษณะนสิ ยั และคำศัพท์เกี่ยวกบั อำชีพ ประโยคคำถำมและคำตอบ เก่ียวกบั ลักษณะนสิ ยั อำชีพที่อยำกเป็น ทำใหผ้ ู้เรยี นสำมำรถพดู ขอและใหข้ ้อมลู ของตนเองและผู้อน่ื รวมถึงใช้ ภำษำเป็นเคร่ืองมือพ้ืนฐำนในกำรรวบรวมขอ้ มลู เกีย่ วกับอำชพี ท่ีสนใจได้ 3. สาระการเรยี นรู้ 1) ควำมรู้ (Knowledge : K) 1) กลุ่มคำ ประโยค และควำมหมำยเกยี่ วกับกำรบอกลักษณะนสิ ยั และอำชีพ 2) กำรออกเสยี งเน้นหนัก-เบำในคำ 3) Pronunciation: /∫/, /ʧ/ 4) ประโยค บทสนทนำ เนอื้ เร่ืองสน้ั ๆ ท่ีมีภำพประกอบ 5) คำศพั ท์ ประโยคขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพ่อื น และเร่ืองใกลต้ ัว เชน่ A: Is he/she (คำคุณศัพท์)? B: Yes, he/she is (คำคุณศัพท์). / No, he/she isn’t (คำคณุ ศพั ท์). 6) ประโยคทใี่ ช้แสดงควำมตอ้ งกำร และควำมรสู้ กึ ของตนเองเกยี่ วกับอำชพี ทอี่ ยำก เป็น A: What do you want to be? B: I want to be a (อำชพี ) . A: Why do you want to be (อำชีพ) ? B: Because I . A: Do you want to be an actor? B: Yes, I do./No, I don’t. 7) กิจกรรมทำงภำษำและวฒั นธรรม เชน่ กำรเลน่ เกม กำรร้องเพลง 8) กำรใชภ้ ำษำในกำรฟังและพูด/อำ่ นในสถำนกำรณ์ท่เี กิดขึน้ ในห้องเรียน 9) กำรใช้ภำษำต่ำงประเทศในกำรรวบรวมคำศัพท์ท่ีเก่ียวข้องใกล้ตัวจำกส่ือและแหล่งกำร เรียนรู้ต่ำงๆ Vocabulary Bossy, friendly, kind, confident, shy, good at, polite, smart. actor, artist, writer, nurse, computer programmer, photographer, musician, doctor, teacher, pilot. (a taxi driver, a shop assistant, a reporter, a police officer, a football player, shop assistant, dentist, hospital, take care of teeth, treat patients, look after patients, , teach,

school, cook, chef, make food, restaurant, police man, fight crime, student, study, singer, sing a song, postal worker, bring letters, post office, farmer, grow rice, farm Phrase : Open your book. Listen and repeat. Listen and point. Listen and say. Listen and draw. Read and match. Read after me. Raise your hand. Structure - A: Is he/she (คำคุณศัพท์)? - B: Yes, he/she is (คำคณุ ศัพท์). / No, he/she isn’t (คำคุณศัพท)์ . - A: What does he do? - B : He’s a pilot. (a taxi driver, a shop assistant, a reporter, a police officer ) - A :Who’s this/that? - B : This/That is - Do you like English? Yes, I do. - Is she confident? No, she isn’t. - Can you swim? Yes, I can. - Did they go to London? No, they didn’t. - Who’s that? She’s Jane. - What does she do? She’s a student. - How old is she? She’s twelve years old. - Where does she live? She lives in Chiang Mai. - How many sisters does she have? She has got three sisters. - Has she got long hair? - Yes, she has. - Has she got black hair? - No, she hasn’t. - What colour is her hair? - Her hair is brown. Function - To talk about description - Asking and answering about jobs - To talk about future jobs and goals

  1. ทกั ษะ/กระบวนกำร (Process : P) 1) ทักษะกำรฟงั (Listening skill) - คำศัพท์ ประโยค 2) ทกั ษะกำรพดู (Speaking skill) - คำศัพท์ ประโยค 3) ทักษะกำรอ่ำน (Reading skill) - คำศัพท์ ประโยค 4) ทกั ษะกำรเขียน (Writing skill) - คำศัพท์ ประโยค 5) กระบวนกำรกล่มุ -จับคสู่ นทนำ -ระดมสมอง -ฝึกกิจกรรมกลมุ่ ตำมแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ 3) เจตคติ (Attitude : A) 1) กล้ำแสดงออก 2) ม่นั ใจในกำรพดู ภำษำอังกฤษเพอ่ื กำรสือ่ สำร 3) มีควำมสุข สนุกสนำนกับกำรเรียนภำษำองั กฤษ 4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการคดิ - ทักษะกำรคดิ อย่ำงสรำ้ งสรรค์ - ทกั ษะกำรคดิ อย่ำงมวี จิ ำรณญำณ 4.2 ความสามารถในการส่อื สาร - กระบวนกำรปฏิบัติ (ฟัง พดู อ่ำน เขยี น) - กระบวนกำรทำงำนกลุม่ 5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ - ซื่อสัตย์สุจริต - ใฝ่เรยี นรู้ - มุง่ มนั่ ในกำรทำงำน

6. ช้นิ งาน/ภาระงาน 1. กำรทำโปสเตอร์บอกลกั ษณะของคน 2. กำรพดู ถำม-ตอบเก่ียวกบั ลักษณะนสิ ัยของบุคคล 3. กำรเขยี นบรรยำยรปู ร่ำงและลักษณะนสิ ัยของผู้อนื่ 4. กำรพดู สนทนำเก่ียวกับอำชพี ท่ีอยำกเปน็ 5. กำรทำชิ้นงำนอำชีพท่อี ยำกเปน็ 6. กำรเขยี นบรรยำยเก่ียวกบั ตนเอง 7. กำรรวบรวมคำศัพท์ในสมุดคำศัพท์ Your word bookฃ 7. การวดั และประเมนิ ผล 7.1 การประเมินก่อนเรียน - ประเมนิ กำรทำแบบทดสอบ 7.2 การประเมนิ ระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ - ประเมนิ กำรทำแบบฝึกหดั - สังเกตพฤตกิ รรมกำรเรยี นรใู้ นชว่ งกำรทำกจิ กรรม 7.3 การประเมนิ หลังเรียน - ประเมินกำรทำแบบทดสอบ - ประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 7.4 การประเมินชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) 1. กำรทำโปสเตอรค์ ำศพั ทล์ กั ษณะของบุคคล 2. กำรพูดถำม-ตอบเก่ยี วกบั ลักษณะนิสยั ของบคุ คล 3. กำรเขยี นบรรยำยรูปร่ำงและลกั ษณะนสิ ัยของผู้อื่น 4. กำรพดู สนทนำเก่ยี วกับอำชพี ทอี่ ยำกเปน็ 5. กำรทำช้ินงำนอำชีพที่อยำกเปน็ 6. กำรเขยี นบรรยำยเกย่ี วกับตนเอง 7. กำรรวบรวมคำศพั ท์ในสมุดคำศัพท์ Your word book 8. กจิ กรรมการเรียนรู้ กจิ กรรมท่ี 1 What does she look like? (ช่วั โมงที่ 1-3) 1.ครูทบทวนประโยคคำสั่งที่ใช้ในชั้นเรียนด้วยกำรพูดประโยคคำสั่ง และให้นักเรียนปฏิบัติตำมคำส่ัง เชน่ Open your book. Listen and repeat. Listen and point. Listen and say. Listen and draw. Read and match.

Read after me. Raise your hand. Work in pairs. 2.ให้นักเรียนทำงำนเป็นคู่ โดยให้ช่วยกันไขปริศนำอักษรไขว้ใน แบบฝึกหัด หน้า 5 ข้อ 1 Complete the puzzle. ค่ทู ่พี บคำตอบทกุ ขอ้ เปน็ ค่แู รก จะเปน็ ผู้ชนะ 3.ครใู หน้ กั เรยี นดูประโยคคำถำมในหนงั สือเรียน หน้ำ 6 ข้อ 4 อกี ครั้ง และถำมนักเรยี นว่ำคำถำมใด เป็น คำถำมแบบ Yes-No questions เมอ่ื ได้คำตอบว่ำ Is she bossy? แล้วครูใหน้ ักเรียนช่วยกันอธบิ ำยลกั ษณะ ของ Yes-No questions จำกนัน้ ครถู ำมนักเรียนว่ำ Who’s that? เปน็ คำถำมชนดิ ใด เมื่อได้คำตอบวำ่ Wh- questions แลว้ ครูถำมนกั เรียนวำ่ คำถำมชนดิ นี้ถำมเกี่ยวกบั อะไร และนอกจำก who แล้วมี Wh-words คำ ใดอีกท่ีใช้ในคำถำมชนดิ นี้อกี บำ้ ง 4.ทำแบบทดสอบก่อนเรียน กจิ กรรมที่ 2 What do want to be? (ชั่วโมงท่ี 4-6) 1. ครูทำเสียง Shhhhhh! ยำวๆ เพื่อบอกให้นักเรียนเงียบเสียงลง ครูทำเช่นน้ี 3-4 คร้ัง เมื่อนักเรียน ท้ังห้องเงียบเสียงลงแล้ว ครูเขียนตัวอักษร sh และเขียนคำศัพท์ต่อไปนี้บนกระดำน ship, share, shoe จำกนนั้ ครชู ไี้ ปทีค่ ำศพั ทแ์ ตล่ ะคำ แล้วครูบอกให้นักเรียนอ่ำนออกเสียงคำศัพท์เหล่ำน้ีตำมครู 2. ครูถำมคำถำมนักเรียน เพ่ือให้นักเรียนสำรวจสงิ่ ทตี่ นเองชอบ โดยใชค้ ำถำมต่อไปนี้ - Who likes maths and science? - Who likes drawing and painting pictures? - Who likes making things? - Who likes working with computer - Who likes speaking with other people? - Who likes reading and writing? - Who likes acting? - Who likes asking questions? ครูให้นักเรียนที่ตอบ Yes ยกมือขึ้น โดยสำมำรถยกมือตอบได้มำกกว่ำ 1 คร้ัง และให้นักเรียนจด บันทึกคำตอบของตนเองไว้ว่ำตนเองชอบอะไรบ้ำง จำกน้ันครูบอกว่ำหลังจำกเรียนจบบทเรียนน้ี นักเรียนจะ ได้รวู้ ่ำคนที่ชอบในแต่ละเรือ่ งน้ัน สำมำรถที่จะทำอำชีพอะไรได้บ้ำง 3. ครูสุ่มถำมนกั เรียน 1 คน เกีย่ วกับอำชีพท่ีอยำกจะเปน็ และเหตผุ ล (เตรียมกันมำก่อน) Teacher: Tom, what do you want to be? Tom: I want to be a pilot. Teacher: Why do you want to be a pilot? Tom: Because I like to fly and travel. ครูส่มุ ถำมนักเรียนอีก 2 คน ดว้ ยคำถำมเดยี วกัน แลว้ ครเู ขียนประโยคคำถำมที่ครูถำมบนกระดำน และอธบิ ำยวำ่ คำถำม What do you want to be? ใช้ถำมอำชีพทอี่ ยำกจะเปน็ และคำถำม Why do you want to be (อำชพี )? ใช้ถำมเหตผุ ลทอี่ ยำกจะทำอำชีพนั้น กิจกรรมท่ี 3 I want to be a chef. (ชั่วโมงที่ 7-9) 1.ครแู บง่ นักเรยี นออกเปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละ 3 คน อ่ำนบทอำ่ นเก่ียวกบั เร่ืองอำชีพท่เี หมำะสมกบั Catherine, Andy และ Tina ใน หนงั สอื เรียน หนา้ 10 ข้อ 5 Read and choose a job for each of

them. แล้วพิจำรณำวำ่ แต่ละคนเหมำะกบั อำชีพอะไร เสรจ็ แล้วครรู วบรวมคำตอบจำกนักเรียนหลำยๆ กลมุ่ และเฉลยคำตอบร่วมกนั 2.ครูใหน้ ักเรียนทำงำนเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 5 คน โดยเรยี งคำที่กำหนดให้ใน แบบฝกึ หัด หนา้ 10 ข้อ 6 Put the words in the correct order. ให้เป็นประโยคที่ถูกต้อง ครูแจกกระดำษ A4 ให้กลุ่มละ 1 แผ่น เพื่อให้นักเรียนเขียนประโยคท่ีถูกต้อง เมื่อนักเรียนทำเสร็จแล้วครูสุ่มเรียกนักเรียน 3 คน ให้ออกมำเขียน ประโยคท่ีถูกต้องบนกระดำน โดยครูเป็นผู้ตรวจทำนและแก้ไขคำตอบอีกครั้ง จำกนั้นให้นักเรียนอ่ำนประโยค บนกระดำนพร้อม ๆ กนั 3. . ครูให้นักเรียนจับคู่กันฝึกพูดถำม-ตอบด้วยประโยคที่กำหนดใน หนังสือเรียน หน้า 12 ข้อ 1 Work with a friend. Ask and answer the questions. โดยให้นักเรียนสลับบทบำทกันเป็นทั้งคนถำม และคนตอบ กจิ กรรมที่ 4 Project Presentation (ช่ัวโมงที่ 10-13) 1.นักเรยี นเตรยี มนำเสนอผลงำน 2.นักเรยี นนำเสนอผลงำน 3.ทำแบบทดสอบหลงั เรยี น 9.แหล่งเรียนรู้ / ส่ือ 1. Website 2. ส่อื วีดีทศั น์ เรื่อง What do you want to be in the future? (English Dialogue) - Role- play conversation for Kids (https://www.youtube.com/watch?v=fgXbwzDM14U) 3. ส่ือวดิ ีทศั น์ เรอื่ ง Jobs Vocabulary (https://www.youtube.com/watch?v=kNtbvd8NqWU) 4. หนังสอื เรียน แบบฝกึ หัด smile

แบบทดสอบ Pre-test หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เรอ่ื ง What do you want to be? กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ วิชาภาษาองั กฤษ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 Choose the correct answer. 1. Are you friendly? a. Yes, I do. b. Yes, I am. c. No, I don’t. d. No, I didn’t. 2. What is he like? a. Smart and kind. b. Pizza. c. He’s a boy. d. Orange juice. 3. What does he look like? a. He liked to play. b. He goes shopping. c. He likes hamburgers. d. He’s thin and tall. 4. She doesn’t like talking with new friends. She is ………………… . a. kind b. shy c. bossy d. friendly 5. She likes to help people. She is …………………… . a. kind b. shy c. bossy d. friendly 6. He always tells people to do things. He’s ……………. . a. bossy b. confident c. friendly d. shy 7. They love to sing on stage at the party. They are ……………… . a. bossy b. confident c. kind d. shy 8. We are ………………. at English and maths. a. well b. good c. fine d. more 9. Who’s that? a. It’s mine. b. That’s Peter. c. No, it isn’t. d. That’s right. 10. What does he do? a. He’s good at maths. b. He’s confident. c. He’s a student. d. He is fine.

แบบทดสอบ Post-test หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 เร่อื ง What do you want to be? กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ วิชาภาษาองั กฤษ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 Choose the correct answer. 1. Mary and Tom work in a hospital. What are their jobs? a. A teacher and an engineer. b. A doctor and a nurse. c. An actor and a model. d. A musician and a footballer. 2. Why do you want to be a writer? Because I like …………… . a. drawing b. dancing c. reading and writing d. playing the piano 3. What does she do? a. She’s friendly. b. She’s a teacher. c. She’s Mike’s sister. d. She plays tennis. 4. I ………………… good at maths. c. do d. am a. is b. does 5. Sam likes ……………… football. a. plays b. playing to c. playing d. to playing 6. What do you want to be? a. A musician. b. Play football. c. Reading and writing. d. Because it is interesting. 7. What is he like? a. Pizza . b. Friendly. c. A reporter. d. Yes, he is. 8. He is bossy. He always ……………….. me. a. controls b. plays with c. friendly d. kind 9. Rosy likes to travel and solve problems. She wants to be a …………….. . a. carpenter b. musician c. artist d. pilot 10. I like talking to people. I love reading. I want to be a ………………………. a. photographer b. reporter c. computer programmer d. musician

เฉลย แบบทดสอบ Pre-test หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 1 เร่อื ง What do you want to be? กลุม่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ วชิ าภาษาอังกฤษ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 6 Choose the correct answer. 1. Are you friendly? a. Yes, I do. b. Yes, I am. c. No, I don’t. d. No, I didn’t. 2. What is he like? a. Smart and kind. b. Pizza. c. He’s a boy. d. Orange juice. 3. What does he look like? a. He liked to play. b. He goes shopping. c. He likes hamburgers. d. He’s thin and tall. 4. She doesn’t like talking with new friends. She is ………………… . a. kind b. shy c. bossy d. friendly 5. She likes to help people. She is …………………… . a. kind b. shy c. bossy d. friendly 6. He always tells people to do things. He’s ……………. . a. bossy b. confident c. friendly d. shy 7. They love to sing on stage at the party. They are ……………… . a. bossy b. confident c. kind d. shy 8. We are ………………. at English and maths. a. well b. good c. fine d. more 9. Who’s that? a. It’s mine. b. That’s Peter. c. No, it isn’t. d. That’s right. 10. What does he do? a. He’s good at maths. b. He’s confident. c. He’s a student. d. He is fine.

เฉลย แบบทดสอบ Post-test หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เรือ่ ง What do you want to be? กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6 Choose the correct answer. 1. Mary and Tom work in a hospital. What are their jobs? a. A teacher and an engineer. b. A doctor and a nurse. c. An actor and a model. d. A musician and a footballer. 2. Why do you want to be a writer? Because I like …………… . a. drawing b. dancing c. reading and writing d. playing the piano 3. What does she do? a. She’s friendly. b. She’s a teacher. c. She’s Mike’s sister. d. She plays tennis. 4. I ………………… good at maths. c. do d. am a. is b. does 5. Sam likes ……………… football. a. plays b. playing to c. playing d. to playing 6. What do you want to be? a. A musician. b. Play football. c. Reading and writing. d. Because it is interesting. 7. What is he like? a. Pizza . b. Friendly. c. A reporter. d. Yes, he is. 8. He is bossy. He always ……………….. me. a. controls b. plays with c. friendly d. kind 9. Rosy likes to travel and solve problems. She wants to be a …………….. . a. carpenter b. musician c. artist d. pilot 10. I like talking to people. I love reading. I want to be a ………………………. a. photographer b. reporter c. computer programmer d. musician

บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ สรปุ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้ 1.นกั เรียนจำนวน..................คน ผ่ำนจุดประสงค์กำรเรยี นรู้.....................คน คิดเป็นร้อยละ.................. ไม่ผ่ำนจุดประสงคก์ ำรเรียนร้.ู .................คน คิดเปน็ ร้อยละ……............ 2. แนวทำงแก้ไขนักเรียนทีไ่ ม่ผำ่ นจุดประสงค์กำรเรยี นรู้ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. .............................. 3.คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ไมผ่ ่ำน............ คน ผำ่ น.............คน ดี..................คน ดีเยย่ี ม................คน ระดบั ดีขน้ึ ไป ร้อยละ..................... 4. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น ไมผ่ ่ำน............ คน ผ่ำน.............คน ดี..................คน ดเี ยี่ยม................คน ระดบั ดีขึ้นไป ร้อยละ..................... ผลการจดั การเรยี นการสอน/ปญั หา/ อุปสรรค และแนวทางแกไ้ ข  แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี 1 เร่อื ง.................................................................................................. ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ............................................................................................................................. ............................. …………………………………………………………………………………………………………………………………….……  แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ 2 เร่ือง................................................................................................. …………………………………………………………………………………………………………………………..………… ...................................................................................................................................................... …………………………………………………………………………………………………………….……………………….  แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี 3 เรอื่ ง................................................................................................. …………………………………………………………………………………………………………………………..………… ............................................................................................................................. ......................... …………………………………………………………………………………………………………….……………………….  แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ 4 เรอ่ื ง................................................................................................. …………………………………………………………………………………………………………………………..………… ...................................................................................................................................................... …………………………………………………………………………………………………………….………………………. ............................................................................................................................. ......................... ลงช่อื .................................................. (นำงสำวอรวรรณ พดุ มอญ)

ความคดิ เหน็ หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้/ผทู้ ีไ่ ด้รับมอบหมาย ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รับรอง ............................................................................................................................................................................ .............................................................................................. ...................................................... ........................ ............................................................................................................................. ............................................... ................................................................................................................................. ........................................... ลงช่ือ…………………………………………………… (นำงสำวอรวรรณ พดุ มอญ) หวั หนำ้ กลุม่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ ...................../......................./......................... ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา ตรวจ/นิเทศ/เสนอแนะ/รับรอง ............................................................................................................................. ............................................... ................................................. ................................................................................................... ........................ ............................................................................................................................. ............................................... ลงช่อื (นำงสำวกันยำภัทร ภัทรโสตถ)ิ โรงเรียนวดั พชื นิมิต (คำสวสั ดิ์รำษฎรบ์ ำรุง) ...................../......................./.........................

แบบสงั เกตพฤติกรรมการอ่านออกเสียง แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท.่ี .........เรื่อง................................................................ชน้ั ประถมศึกษำปที ่ี.............. ครั้งที.่ ................วนั ท.ี่ ......................เดอื น.............................................................พ.ศ. .............................. รายการประเมนิ เลขที่ ชอ่ื – สกลุ กำรอำ่ น อำ่ นออกเสียง อำ่ นออกเสียง ควำมถูกต้อง รวม ออกเสยี ง เนน้ เสียง เวน้ วรรคตอน ของคำศัพท์ คะแนน หนกั เบำ สำนวน และ ได้ถูกต้อง ประโยค 4321432143214321 หมายเหตุ ค่ำของคะแนน 4 หมำยถงึ ดมี ำก 3 หมำยถงึ ดี 2 หมำยถึง พอใช้ 1 หมำยถึง ปรบั ปรุง ลงชอ่ื ..........................................ผู้ประเมนิ (............................................) วนั ท.่ี ........เดือน...................พ.ศ. .........

เกณฑ์ประเมินพฤติกรรมการอา่ นออกเสียง รายการประเมิน 4 (ดีมำก) คาอธิบายระดับคณุ ภาพ 1 (ปรบั ปรงุ ) 3 (ดี) 2 (พอใช้) กำรอ่ำนออกเสียง อ่ำนออกเสียงถกู ต้อง มขี ้อบกพร่องบ้ำง มีขอ้ บกพร่อง มีข้อบกพร่องมำก ตำมหลัก เล็กน้อย ส่วนใหญ่ ค่อนข้ำงมำก มี สว่ นใหญ่ กำรออกเสยี ง ตลอด สำมำรถอ่ำน บำงสว่ นท่ีออกเสยี ง อำ่ นออกเสียง กำรอ่ำนท้งั หมด ออกเสียงถูกต้องตำม ไม่ถูกตอ้ งตำม ไมถ่ ูกต้องตำม หลกั กำรออกเสยี ง หลกั กำรออกเสยี ง หลกั กำรออกเสยี ง อ่ำนออกเสียงถูกตอ้ ง อำ่ นออกเสียงถกู ตอ้ ง อ่ำนออกเสียงถกู ต้อง อำ่ นออกเสยี งคำ/ อ่ำนออกเสยี ง ตำมหลัก ตำมหลกั ตำมหลัก ประโยคไม่ถกู ต้อง เนน้ เสยี ง กำรออกเสียง มี กำรออกเสยี ง มี กำรออกเสยี ง มี แต่ยังสำมำรถ หนกั เบำ เน้นหนักในคำ/ เน้นหนักในคำ/ เนน้ หนกั ในคำ/ ส่ือสำรได้ ประโยคอยำ่ งถูกตอ้ ง ประโยคเป็น ประโยคบ้ำง สื่อสำร สว่ นใหญ่ ได้พอสมควร อ่ำนออกเสียง อำ่ นออกเสียง อำ่ นออกเสียง อำ่ นออกเสยี ง อำ่ นออกเสียง เวน้ วรรคตอน คำศัพท/์ ประโยค เว้น คำศัพท/์ ประโยค คำศัพท/์ ประโยค คำศัพท/์ ประโยค ได้ถูกต้อง วรรคตอนได้อยำ่ ง เวน้ วรรคตอนได้ เปน็ เว้นวรรคตอนได้บำ้ ง เวน้ วรรคตอน ถกู ต้อง ส่วนใหญ่ ผดิ มำก ควำมถูกต้อง อำ่ นคำศพั ท์ สำนวน อ่ำนคำศัพท์ สำนวน อ่ำนคำศัพท์ สำนวน มีข้อบกพร่องใน ของคำศัพท์ สำนวน และประโยคได้ และประโยคได้ และประโยคได้ กำรอำ่ นคำศัพท์ และประโยค ถูกต้องตลอด ถูกต้อง โดยมี ถูกต้อง โดยมี ส่วนใหญอ่ ่ำน กำรอ่ำนออกเสยี ง ขอ้ บกพร่องเลก็ น้อย ข้อบกพร่อง ไมถ่ ูกตอ้ ง ค่อนข้ำงมำก คะแนนตัดสนิ ระดับคณุ ภาพ ระดบั คณุ ภำพ คะแนน 14 - 16 ดีมำก 11 - 13 ดี 8 - 10 พอใช้ 1-8 ปรบั ปรุง

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการพูด แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ที่.......เร่ือง................................................................. ช้นั ประถมศึกษำปที ่ี .......... ครัง้ ท.่ี ...............วนั ท.่ี ...................เดือน...........................................พ.ศ. ............................... รายการประเมิน เลขที่ ชือ่ – สกลุ กำรออกเสียง กำรพดู ถกู ต้อง กำรแสดงทำ่ ทำง/ รวม ตำมหลกั ภำษำ ควำมคลอ่ งแคล่ว น้ำเสยี งประกอบ คะแนน กำรพูด 4321432143214321 หมายเหตุ ค่ำของคะแนน 4 หมำยถึง ดมี ำก 3 หมำยถึง ดี 2 หมำยถงึ พอใช้ 1 หมำยถึง ปรบั ปรุง ลงชอ่ื ..........................................ผู้ประเมิน (............................................) วนั ท.่ี ........เดอื น...............................พ.ศ. ...........

เกณฑ์ประเมนิ พฤติกรรมการพดู รายการประเมนิ คาอธบิ ายระดบั คณุ ภาพ กำรออกเสยี ง 4 (ดีมำก) 3 (ดี) 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรงุ ) กำรพูดถกู ต้องตำม หลักภำษำ ออกเสียงถูกตอ้ งตำม ออกเสยี งถูกตอ้ งตำม ออกเสยี งดี ประโยค ออกเสียงคำ/ ควำมคลอ่ งแคลว่ หลกั กำรออกเสียง หลักกำรออกเสียง ผิดพลำดบ้ำง มีเสยี ง ประโยค กำรแสดงทำ่ ทำง/ นำ้ เสียงประกอบ มเี นน้ หนกั ในคำ/ มีเน้นหนกั ในคำ/ เนน้ หนกั ในคำ/ประโยค ไมถ่ ูกตอ้ งแต่ยัง กำรพูด ประโยคอย่ำงถูกตอ้ ง ประโยคเปน็ บ้ำง สำมำรถสอื่ สำรได้ สว่ นใหญ่ ส่อื สำรได้พอสมควร พูดได้ถกู ต้องตำม พดู ได้ถกู ต้องตำม พดู ได้ถกู ต้องตำม พดู ได้ถกู ต้องตำม หลักกำรใชภ้ ำษำ หลกั กำรใชภ้ ำษำได้ หลกั กำรใชภ้ ำษำบำ้ ง หลกั กำรใชภ้ ำษำ เปน็ สว่ นใหญ่ น้อยท่ีสดุ พูดตอ่ เนอ่ื งไมต่ ิดขดั พูดตอ่ เน่ืองติดขัด พดู ตะกุกตะกักบ้ำง แต่ พูดตะกกุ ตะกัก พูดชัดเจนทำให้ บำงคร้ัง แตย่ ัง ยังพอสื่อสำรได้ มำก ส่ือสำรได้ สอื่ สำรได้ สำมำรถส่ือสำรได้ น้อย ชดั เจน แสดงท่ำทำงและพดู แสดงท่ำทำงและพูด พดู โดยไม่คอ่ ยแสดง พดู โดยไม่แสดง ด้วยน้ำเสยี งตำม ด้วยน้ำเสียงตำม ท่ำทำงประกอบ ท่ำทำงประกอบ บทบำทและ บทบำทและ สถำนกำรณ์ไดถ้ ูกต้อง สถำนกำรณ์ได้ ถูกต้องเปน็ สว่ นใหญ่ คะแนนตดั สนิ ระดับคุณภาพ คะแนน ระดบั คุณภำพ 14 - 16 ดีมำก 11 - 13 ดี 8 - 10 พอใช้ 1 -8 ปรบั ปรงุ

แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่..........เร่อื ง..........................................................ชั้นประถมศึกษำปีที่................... ครัง้ ที่.................วนั ท่ี.......................เดือน.............................................................พ.ศ. .............................. รายการท่ปี ระเมนิ รวม เลขที่ ชอื่ - สกลุ มีวนิ ยั มุ่งมน่ั ใน รกั กำรอ่ำน มีควำมม่ันใจใน คะแนน ใฝเ่ รยี นรู้ กำรทำงำน กำรแสดงออก 321321321321 หมายเหตุ ค่ำของคะแนน 3 หมำยถึง ดี 2 หมำยถงึ พอใช้ 1 หมำยถงึ ปรับปรุง ลงช่ือ..........................................ผ้ปู ระเมนิ (............................................) วนั ที่.........เดอื น..............................พ.ศ. .........

เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ รายการประเมิน คาอธิบายระดับคุณภาพ มวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) มงุ่ มั่นในกำรทำงำน ปฏบิ ตั ิตำมระเบียบและ ปฏบิ ตั ิตำมระเบยี บและ ไมป่ ฏบิ ัติตำมระเบยี บและ รกั กำรอ่ำน กฎเกณฑต์ ่ำง ๆไดด้ ว้ ย มคี วำมมั่นใจใน ตนเอง ไมต่ ้องอำศัย กฎเกณฑ์ต่ำง ๆ ต้องอำศัย กฎเกณฑต์ ่ำง ๆ กำรแสดงออก กำรควบคมุ ใด ๆ กำรตดิ ตำมอยู่บ้ำง ขำดกำรควบคุมไม่ได้เลย ปฏิบัตงิ ำนดว้ ย ปฏบิ ัตงิ ำนดว้ ย ปฏบิ ัตงิ ำนดว้ ย ควำมมุ่งมน่ั เอำใจใส่ ควำมมงุ่ ม่นั เอำใจใส่ ควำมมุ่งมน่ั เอำใจใส่ สม่ำเสมอ จนงำนสำเร็จมี สมำ่ เสมอ จนงำนสำเรจ็ มี ไมส่ มำ่ เสมอ งำนสำเรจ็ แต่ คุณภำพอย่ำงดีทสี่ ุด คณุ ภำพปำนกลำง ไมม่ ีคณุ ภำพ มพี ฤติกรรมในกำรอ่ำน มีพฤติกรรมในกำรอำ่ นไม่ มีพฤติกรรมในกำรอำ่ น อย่ำงสมำ่ เสมอ ตอ่ เนอื่ ง นอ้ ยมำก มีควำมมน่ั ใจ กลำ้ มีควำมมนั่ ใจ กลำ้ ไม่กล้ำแสดงออก แสดงออก ถำม – ตอบ และร่วมกจิ กรรมด้วย แสดงออกในบำงครง้ั รว่ ม ไม่มีกำรถำม – ตอบ และ ควำมสนุกสนำน กิจกรรมเม่ือครูกำหนด ร่วมกจิ กรรม คะแนนตัดสินระดับคุณภาพ คะแนน ระดบั คุณภำพ 9 - 12 ดี 6-8 พอใช้ 1-5 ปรับปรุง ลงช่อื ..........................................ผ้ปู ระเมิน (............................................) วันท.ี่ ........เดือน..............................พ.ศ. .........

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุม่ แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี......เรอื่ ง...........................................................................ช้นั ประถมศึกษำปีท่.ี ...... ครั้งท่.ี .......วนั ที่..........เดอื น..........................................พ.ศ. ................. กลมุ่ .............................................. รายการท่สี ังเกต เลขที่ ชื่อ – สกลุ ควำมรบั ผิดชอบ กำรแบง่ หน้ำที่ใน มคี วำมเออื้ เฟื้อ กำรรว่ มแสดง รวม ในงำนท่ีได้รับ กำรปฏิบัตงิ ำน เผ่อื แผ่ อำทร ควำมคิดเหน็ คะแนน มอบหมำย เพือ่ นในกลมุ่ 321321321321 หมายเหตุ คำ่ ของคะแนน 3 หมำยถึง ดี 2 หมำยถึง พอใช้ 1 หมำยถึง ปรับปรุง ลงชอ่ื ..........................................ผปู้ ระเมิน (............................................) วนั ที.่ ........เดอื น..............................พ.ศ. .........

เกณฑป์ ระเมนิ พฤติกรรมการทางานกลุม่ รายการประเมนิ คาอธิบายระดับคุณภาพ 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) ควำมรบั ผิดชอบในงำน มีควำมเอำใจใสใ่ น มคี วำมเอำใจใสใ่ น มีควำมเอำใจใส่ใน ท่ีไดร้ ับมอบหมำย กำรทำงำนอย่ำงต่อเนื่อง กำรทำงำนบ้ำง แต่ไม่ กำรทำงำนน้อย ยอมรบั ควำมผิดพลำด ต่อเน่ือง ยอมรบั ไม่ต่อเนื่อง ไม่ยอมรับ และพยำยำมแก้ไข ควำมผิดพลำด แต่ ควำมผิดพลำดและ ไมพ่ ยำยำมแกไ้ ข ไมพ่ ยำยำมแก้ไข กำรแบ่งหน้ำท่ีใน มกี ำรแบง่ หนำ้ ท่ีใน มกี ำรแบ่งหน้ำทใ่ี น ไมม่ ีกำรแบง่ หนำ้ ท่ีใน กำร กำรปฏิบตั งิ ำน กำรปฏิบัติงำน และ กำหนดบทบำทหน้ำที่ กำรปฏบิ ตั งิ ำน แต่กำหนด ปฏิบัตงิ ำน และไมม่ ีกำร อยำ่ งชดั เจน บทบำทหนำ้ ที่ไมช่ ดั เจน กำหนดบทบำท หน้ำทไ่ี ว้ ชดั เจน ควำมร่วมมือใน สมำชกิ ในกลุ่ม ให้ สมำชกิ ในกลุม่ ให้ สมำชิกในกลมุ่ ไม่ให้ กำรปฏิบตั ิงำน ควำมรว่ มมือใน กำรปฏิบตั งิ ำนอย่ำง ควำมร่วมมือใน ควำมรว่ มมอื ใน ตอ่ เนือ่ ง กำรปฏิบตั งิ ำนเปน็ บำงคร้งั กำรปฏบิ ัตงิ ำน ไมต่ ่อเน่ือง กำรร่วมแสดง สมำชิกในกลุ่มรว่ มแสดง สมำชิกในกลมุ่ รว่ มแสดง สมำชกิ ในกลุ่มไม่รว่ ม ควำมคิดเหน็ ควำมคิดเหน็ มสี ่วนรว่ ม ในกำรประเมินผล ควำมคิดเห็น แต่ไม่มสี ่วน แสดงควำมคดิ เหน็ และ รว่ มใน ไม่มีสว่ นรว่ มใน กำรประเมนิ ผล กำรประเมินผล คะแนนตดั สนิ ระดับคุณภาพ คะแนน ระดบั คณุ ภำพ 9 - 12 ดี 6 - 8 พอใช้ 1 - 5 ปรบั ปรงุ

แบบบันทกึ คะแนนการตรวจแบบฝกึ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปที ี่............................. แผนการจัดการเรียนรู้ท่.ี ..............เรอ่ื ง....................................................................................................... วนั ท.ี่ .......................เดอื น............................................................พ.ศ. ......................... ชอ่ื - สกุล เลขท่ี คะแนนเตม็ แบบฝึกท่ี................ แบบฝึก ่ีท................ แบบฝึก ่ที................ แบบฝึกที่................ แบบฝึกที่................ สรุปผลการประเ ิมน เกณฑ์การประเมนิ นักเรียนผำ่ นเกณฑก์ ำรประเมนิ แต่ละแบบฝกึ ไม่ตำ่ กว่ำร้อยละ 60 จึงถือวำ่ ผ่ำน ลงชอ่ื ..............................................ผูบ้ นั ทึก (................................................)

กลมุ่ สำระกำรเรียนรูภ้ ำษำต่ำงประเทศ แบบประเมินตัวชวี้ ดั ชนั้ ประถมศึกษำปีท่ี 6 เรื่อง What do you want to be ? หน่วยกำรเรียนรูท้ ี่ 1 ครผู ู้สอน นำงสำวอรรรณ พุดมอญ รำยวชิ ำภำษำองั กฤษ รหสั อ16101 เวลำเรียน 13 ชัว่ โมง แบบบนั ทึกผลตวั ชว้ี ัด สรปุ ที่ ขอ้ ท่ี 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 เต็ม ตดั สนิ ชือ่ – สกลุ 1. 2. ลงชือ่ ..............................................ผ้บู ันทึก (................................................)

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ วชิ าภาษาอังกฤษ เวลา 3 ช่วั โมง หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 What do you want to be? เรื่อง I am a teacher 1.สาระสาคญั กำรเรียนรู้คำศัพท์บอกลักษณะนิสัย ประโยคคำถำมและคำตอบเกี่ยวกับลักษณะนิสัย ทำให้ผู้เรียน สำมำรถพดู ขอและให้ข้อมูลส่วนตวั ของตนเองและผู้อื่นได้ 2. ตัวช้ีวดั มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรอ่ื งที่ฟงั และอ่านจากส่ือประเภทต่างๆ และแสดงความ คดิ เห็นอยา่ งมเี หตผุ ล ตวั ชวี้ ัด 2. อ่ำนออกเสยี งข้อควำม นทิ ำน และบทกลอนส้ันๆ ถกู ตอ้ งตำมหลกั กำรอำ่ น ตวั ช้ีวดั 4. บอกใจควำมสำคัญ และตอบคำถำมจำกกำรฟังและอำ่ นบทสนทนำ นทิ ำนงำ่ ยๆ และเรือ่ งเล่ำ 3.จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.ออกเสียง สะกดคำ และบอกควำมหมำยคำศัพท์บอกลักษณะ บอกใจควำมสำคัญของเรอื่ งท่ีอำ่ นได้ 4.สาระการเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) 1. กลุ่มคำ ประโยค และควำมหมำยเกยี่ วกบั กำรบอกลกั ษณะนิสยั 2. กำรออกเสยี งเน้นหนัก-เบำในคำ 3. Pronunciation: /∫/, /ʧ/ 4. ประโยค บทสนทนำ และเน้ือเร่ืองสัน้ ๆ ท่ีมภี ำพประกอบ 5. คำศัพท์ ประโยคขอและให้ข้อมูลเก่ียวกบั ตนเอง เพ่ือน เช่น A: Is he/she (คำคุณศัพท์)? B: Yes, he/she is (คำคณุ ศัพท์). / No, he/she isn’t (คำคุณศัพท์). 6. กำรใชภ้ ำษำในกำรฟังและพดู /อำ่ นในสถำนกำรณ์ท่ีเกดิ ขน้ึ ในห้องเรยี น ทกั ษะ / กระบวนการ (Process : P) ทักษะกำรฟัง กำรพดู กำรอ่ำน กำรเขยี น เจตคติ (Attitude : A) 1. มคี วำมรับผิดชอบ ขยนั ใฝร่ ใู้ ฝเ่ รียน

2. มคี วำมเชือ่ มัน่ ในตนเอง กล้ำแสดงออก 3. มีเจตคติทดี่ ตี ่อกำรเรยี นภำษำองั กฤษ 5.สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 1. ควำมสำมำรถในกำรสอื่ สำร 2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ 6.คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มุ่งม่นั ในกำรทำงำน 7.กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 1 I am a teacher ขัน้ นา (Warm up) 1. ครูเขำ้ มำในห้องและพูดทกั ทำยกับนักเรยี นในชน้ั Teacher: Good morning. How are you today? Students: I’m fine, thank you. And you? Teacher: I’m great. ครูเขียนคำว่ำ I’m great. บนกระดำน และบอกนักเรยี นว่ำ เวลำที่เรำรู้สึกสบำยดีไม่จำเป็นต้องตอบ ว่ำ I’m fine. เสมอไป เรำสำมำรถใช้คำอ่ืนได้ ครูให้นักเรียนช่วยกันคิด จำกน้ันครูเขียนบนกระดำน เช่น I’m OK/happy/good. ครใู หน้ กั เรียนพูดประโยคเหล่ำน้ีตำมครู 2-3 ครง้ั เสร็จแลว้ ครูถำมนักเรียนหลำยๆ คน ว่ำ How are you? โดยใหน้ ักเรียนพูดตอบครวู ำ่ สบำยดี แต่ไม่ใหใ้ ช้ I’m fine. ต่อมำครูถำมนักเรียนว่ำ แล้วถ้ำนักเรียนไม่สบำย นักเรียนจะตอบคำถำม How are you? อย่ำงไร จำกนั้นครูให้นักเรียนพูดถำมครู แล้วครูทำท่ำทำงไม่สบำย เช่น ไอ แล้วพูดตอบว่ำ I’m not fine. ครูใหน้ ักเรียนช่วยกันคิดว่ำ เรำใชค้ ำอะไรได้อีก โดยครชู ไ้ี ปที่คำว่ำ not บนกระดำน และเขียนคำตอบท่ีถกู ตอ้ ง ของนักเรียนบนกระดำน เช่น I’m not OK/happy. เสร็จแล้วครูให้นักเรียนผลัดกันพูดถำมตอบกับคนท่ีน่ัง ข้ำงๆ ด้ำนซ้ำย 2 คนและข้ำงขวำ 2 คน โดยให้มีทั้งที่ตอบสบำยดีและไม่สบำย โดยถ้ำไม่สบำย ให้ทำท่ำทำง ประกอบดว้ ย 2. ครูทบทวนประโยคคำส่งั ทใี่ ช้ในช้ันเรียนด้วยกำรพูดประโยคคำสั่ง และให้นักเรยี นปฏิบตั ิตำมคำสั่ง เช่น Open your book. Listen and repeat. Listen and point. Listen and say. Listen and draw. Read and match. Read after me. Raise your hand. Work in pairs. 3. ครูทบทวนคำศัพทเ์ กี่ยวกบั อำชพี ดงั นี้ Teacher: (ครชู ท้ี ตี่ นเอง) I am a teacher.

(ครชู ท้ี น่ี ักเรยี น) You are students. จำกนนั้ ครูชบู ัตรภำพเกี่ยวกับอำชพี ทน่ี กั เรียนเคยไดเ้ รยี นแลว้ และใหน้ ักเรยี นพดู ตอบคำถำมครู ดงั นี้ Teacher: What does he do? (ครชู ูบัตรภำพนักบนิ ) Students: He’s a pilot. (บัตรภำพอื่น ๆ เช่น a taxi driver, a shop assistant, a reporter, a police officer, a football player) แล้วครูถำมนักเรียนบ้ำงว่ำ What do you want to be? และรวบรวมคำตอบจำกนักเรียนหลำยๆ คน ขัน้ นาเสนอ (Presentation) 1. นักเรียนดูภำพใน หนังสือเรียน หน้า 4 ข้อ 1 What can you see? ครูถำมนักเรียนว่ำเห็น อะไรในภำพบ้ำง Teacher: What can you see in the pictures? Students: A doctor, a nurse, computers, cinema, etc. Teacher: Very good. 2. นักเรียนทำกิจกรรมใน หนังสือเรียน หน้า 4 ข้อ 2 Look, listen and answer. ครูเปิด Track 2 ให้นักเรียนฟังคำถำม พร้อมกับดูภำพในข้อ 1 ตำมไปด้วย จำกนั้นครูเปิด Track ให้นักเรียนฟังคำถำมทีละ ข้อ เพ่อื ให้เวลำนกั เรียนเขียนคำตอบ 1. Where are the people in picture 1? 2. What is the woman in a blue T-shirt doing? 3. Look at picture 2. What are they doing? 4. Where are the people in picture 3? 5. What does the man in an orange shirt do? เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนชว่ ยกันเฉลยคำตอบ 1. In the hospital. 2. She is interviewing a doctor. 3. They are working on the computers. 4. They are in front of the cinema. 5. He is selling clothes to a girl. ข้ันฝึก (Practice) นกั เรียนดูภำพบุคคลใน หนังสือเรยี น หนา้ 5 ขอ้ 1 Listen, point and repeat. ครูชี้ทีละภำพ ให้ นกั เรยี นช่วยกันแสดงควำมคิดเหน็ เกีย่ วกบั ลักษณะของบุคคลในแต่ละภำพ

แล้วครูเปิด Track 3 ให้นักเรียนฟัง ช้ีภำพ และออกเสียงตำม Track 3 โดยครูเปิด Track 3 ให้ นกั เรียนฝกึ ออกเสยี งตำม 2 ครัง้ bossy friendly confident kind shy ตอ่ มำครูเขียนคำศพั ท์ตอ่ ไปนบี้ นกระดำน bossy friendly confident ครถู ำมนักเรียนว่ำคำศัพทเ์ หล่ำนี้เนน้ เสียงหนักที่พยำงคใ์ ด โดยครูอำจเปดิ Track 3 ใหน้ กั เรียนฟังอีก รอบครูรวบรวมคำตอบจำกนักเรียนหลำยๆ คน จำกน้ันครูเฉลยด้วยกำรขีดเส้นใต้พยำงค์ท่ีเน้นเสียงหนักใน คำศพั ท์บนกระดำน ดังน้ี bossy friendly confident และให้นักเรยี นฝึกออกเสียงด้วยตนเอง ครเู น้นให้นักเรยี นออกเสยี งเนน้ หนกั ในคำให้ถูกต้อง ตอ่ มำครเู ขยี นประโยคต่อไปนี้บนกระดำน She is bossy. She is friendly. She is confident. He is kind. He is shy. ให้นักเรียนสังเกตคำศัพท์ที่ขีดเส้นใต้ ครูถำมนักเรียนว่ำคำเหล่ำน้ีเป็นชนิดใดจนได้คำตอบว่ำ คำคุณศัพท์ (adjective) แล้วครูให้นักเรียนดูตำแหน่งของคำคุณศัพท์ในประโยค และช่วยกันบอกว่ำ คำคณุ ศัพทจ์ ะวำงไว้หลงั คำชนิดใด จนไดค้ ำตอบว่ำ verb to be (is, am, are, was, were) ข้นั นาไปใช้ (Production) 1. ครูนำบัตรภำพคำศัพท์ตอ่ ไปน้ี bossy, friendly, confident, kind, shy มำแสดงให้นักเรียนดู หรืออำจใชภ้ ำพในหนงั สือเรยี น หนำ้ 5 ข้อ 1 และใหน้ กั เรียนฝกึ พดู แสดงควำมคิดเหน็ เกี่ยวกบั ลักษณะของ บคุ คลน้ัน โดยใชโ้ ครงสรำ้ งประโยค I think … เช่น ครูชีท้ เี่ ด็กผชู้ ำยเสอ้ื สเี ขียวในภำพ He is shy. ให้นักเรียน พูดแสดงควำมคดิ เหน็ ว่ำ I think he is shy. 2. ครชู ้ีไปท่เี ดก็ นักเรียนคนหน่ึงในชน้ั ทช่ี ือ่ Ken แล้วถำมเดก็ อีกคนหน่ึง (ครูเตรียมกับนักเรียนมำ ก่อน) Teacher: Is he bossy? (ชไ้ี ปท่ี ด.ช. Ken) Student: Yes, he is bossy. Teacher: Well done! ครอู ธิบำยให้นักเรียนฟงั วำ่ กำรถำมลกั ษณะนิสยั ของบุคคล จะใชป้ ระโยคคำถำม คือ Is he/she (คำคุณศพั ท)์ ? สว่ นคำตอบ คือ Yes, he/she is (คำคุณศพั ท)์ . หรือ Yes, he/she is. No, he/she isn’t (คำคุณศพั ท)์ . หรือ No, he/she isn’t.

ตัวอย่ำงเชน่ A: Is he friendly? B: Yes, he is friendly. ข้ันสรุป (Wrap up) 1. นกั เรยี นดูภำพใน หนงั สือเรียน หน้า 5 ข้อ 2 Listen and complete. และครถู ำมนักเรียนวำ่ มี ใครอยู่ในภำพบ้ำง ให้นักเรียนดูชื่อท่ีอยู่ใต้ภำพและตอบครู ต่อมำครูให้นักเรียนฟัง Track 4 สองคร้ัง แล้วเติม คำคุณศพั ทล์ งในชอ่ งวำ่ ง จำกนัน้ ให้นักเรียนชว่ ยกนั เฉลยคำตอบ a. David likes helping his friends and other people. He’s kind. b. Pat likes meeting and talking to people. She’s friendly. c. Kate always tells her sister to clean their room. She’s bossy. d. Polly loves meeting people and doing new things. She’s confident. e. John doesn’t like meeting people. He’s shy. a. David is kind. b. Pat is friendly. c. Kate is bossy. d. Polly is confident. e. John is shy. 2. ครูให้นักเรียนอ่ำนประโยคคำถำมและคำตอบใน หนังสือเรียน หน้า 6 ข้อ 3 Read and match. แลว้ จบั คปู่ ระโยคคำถำมใหส้ ัมพนั ธก์ บั ประโยคคำตอบ ซึ่งนกั เรียนอำจปรกึ ษำกบั เพอื่ นๆ กไ็ ด้ เมอ่ื ทำเสร็จแล้วใหน้ กั เรยี นช่วยกนั เฉลยคำตอบ โดยครอู ่ำนคำถำม ให้นักเรยี นอ่ำนคำตอบ 1. d 2. f 3. e 4. a 5. b 6. c

ช่ัวโมงที่ 2 I am a teacher (2) กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นา (Warm up) นักเรียนดูภำพใน แบบฝึกหัด หน้า 4 ข้อ 1 Listen and point. ครูให้เวลำนักเรียน 1 นำที เพ่ือดู ภำพ แล้วครเู ปิด Track 10 ใหน้ ักเรยี นฟงั และช้ีภำพให้ตรงตำมประโยคท่ีไดย้ ิน จำกนั้นครูเปดิ Track 10 อีก คร้งั เพอ่ื เฉลยคำตอบ โดยชี้ตำมภำพทถี่ กู ตอ้ งให้นักเรยี นท้ังช้ันเห็น 1. A reporter is interviewing a doctor. 2. The doctor is standing near a nurse. 3. Three students are working on the computers. 4. Three people are in front of the cinema. 5. Two girls are in the clothes shop. 1. a 2. a 3. b 4. c 5. d ขั้นนาเสนอ (Presentation) 1. นักเรียนอ่ำนประโยคใน แบบฝกึ หัด หน้า 4 ข้อ 2 Look at the pictures. Then complete the sentences. แล้วดูภำพในข้อ 1 จำกน้ันนำคำที่กำหนดให้ในกรอบไปเติมลงในประโยค ครูให้นักเรียน ปรึกษำกับเพอื่ นได้ เสร็จแลว้ ชว่ ยกันเฉลยคำตอบ และอ่ำนประโยคทเี่ ตมิ สมบรู ณ์แลว้ พร้อมกนั 1. interviewing 2. nurse 3. computers 4. in front of 5. shop assistant 2. ครูให้นักเรียนทำงำนเป็นคู่ โดยให้ช่วยกันไขปริศนำอักษรไขว้ใน แบบฝึกหัด หน้า 5 ข้อ 1 Complete the puzzle. คู่ท่พี บคำตอบทกุ ขอ้ เป็นคู่แรก จะเป็นผู้ชนะ Across 2. bossy 3. shy 1. confident 2. friendly Down 1. kind

ข้ันฝกึ (Practice) นักเรียนอ่ำนชื่อตัวละครใน แบบฝึกหัด หน้า 5 ข้อ 2 Listen and complete. แล้วครูเปิด Track 11 ใหน้ กั เรียนฟงั 2 ครั้ง แลว้ เตมิ คำคณุ ศัพท์ลงในชอ่ งว่ำงให้ถกู ต้องตำมข้อมลู ท่ีได้ฟังจำก Track 11 1. A: Is Ben friendly? B: Yes, he’s friendly. 2. A: Is Henry shy? B: No, he isn’t. He’s confident. 3. A: Is Susan confident? B: No, she isn’t. She’s shy. 4. A: Is Joe kind? B: Yes, he’s kind. 5. A: Is Linda bossy? B: Yes, she’s bossy. เสร็จแล้วให้นักเรยี นชว่ ยกันเฉลยคำตอบ โดยส่งตัวแทน 1 คน ออกมำเขียนคำตอบบนกระดำน และ ครตู รวจควำมถูกต้อง แล้วใหน้ ักเรียนอำ่ นประโยคท่ีสมบรู ณ์แล้วพร้อมกัน โดยครูสังเกตกำรออกเสยี งเน้นหนัก ในคำของนักเรียน และย้ำกบั นักเรยี นใหอ้ อกเสยี งเน้นหนักในคำให้ถกู ต้อง 1. friendly 2. confident 3. shy 4. kind 5. bossy ขน้ั นาไปใช้ (Production) ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน แล้วแจกกระดำษให้กลุ่มละ 1 แผ่น ให้แต่ละกลุ่ม ช่วยกันระดมควำมคิดหำคำคุณศัพท์เก่ียวกับลักษณะนิสัย นอกเหนอื จำกที่ได้เรยี นมำแล้ว นักเรยี นสำมำรถหำ คำศัพท์ได้จำกพจนำนุกรมหรืออินเทอร์เน็ต ครูเดินตรวจรอบ ๆ ชั้นเรียน เพื่อให้นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมใน กิจกรรม เม่อื นักเรียนรวบรวมคำศัพทไ์ ด้แล้ว ให้ผลัดกันพูดบอกครูทีละกลุ่ม และครูเขียนบนกระดำน โดยแยก ตำมลกั ษณะนิสัยด้ำนบวกและด้ำนลบ เชน่

ลกั ษณะนิสัยด้านบวก ลกั ษณะนิสัยด้านลบ active กระฉบั กระเฉง clumsy ชำ้ , งุ่มง่ำม weak อ่อนแอ brave กลำ้ หำญ boring น่ำเบ่ือ serious เอำจริงเอำจงั cheerful ร่ำเริง selfish เห็นแก่ตวั cunning ข้ีโกง, เจำ้ เล่ห์ funny ตลก lazy ข้ีเกียจ helpful ชอบช่วยเหลือผอู้ ่ืน honest ซื่อสตั ย์ hard-working ขยนั ทำงำน จำกนน้ั ใหน้ กั เรยี นอ่ำนคำศัพท์เหลำ่ นี้ตำมครู พยำงค์ทขี่ ีดเสน้ ใต้คอื พยำงคท์ ่ีเน้นเสยี งหนักในคำ แลว้ ให้นักเรยี นอำ่ นเองทลี ะกลมุ่ ครแู นะนำให้นักเรยี นรู้จักกำรใชพ้ จนำนกุ รมเพ่ือชว่ ยฝึกฝนกำรออกเสียงเนน้ หนักในคำใหถ้ ูกต้อง โดย ครแู นะนำว่ำในพจนำนุกรมเกือบทกุ เลม่ จะมเี คร่อื งหมำยที่ระบุว่ำพยำงคใ์ ดในคำที่ออกเสียงเนน้ หนกั ให้ นกั เรียนศึกษำที่คำอธบิ ำยวธิ ีกำรใช้พจนำนุกรมแตล่ ะเล่ม เพรำะบำงเลม่ อำจใชเ้ ครื่องหมำยตำ่ งกันออกไป ครูใช้พจนำนกุ รมทค่ี รูมี และชี้ใหน้ ักเรยี นดูเคร่ืองหมำยท่รี ะบุพยำงค์ท่เี น้นเสยี งหนักในพจนำนกุ รม เลม่ นนั้ ตวั อยำ่ งเชน่ ครแู นะนำวำ่ มีอีกวิธีหน่งึ ทจ่ี ะชว่ ยใหน้ ักเรยี นฝกึ ฝนกำรออกเสียงไดง้ ่ำยขน้ึ คอื ใช้พจนำนกุ รมองั กฤษ- อังกฤษ ซ่งึ ในปจั จุบันมีพจนำนกุ รม Online จำนวนมำก ซง่ึ นักเรียนสำมำรถกดปมุ่ ลำโพงเพอื่ ฟังกำรออกเสียง ได้เลย ครูบอกชื่อเว็บไซตใ์ หน้ ักเรียนจดบันทกึ เพื่อไปคน้ หำคำศัพท์และฝกึ ออกเสียงดว้ ยตนเอง เชน่ พจนำนุกรม Oxford Learner’s Dictionaries: http://www.oxfordlearnersdictionaries.com/

พจนำนกุ รม Cambridge Dictionary Online: http://dictionary.cambridge.org/dictionary/english/ เคร่ืองหมายและพยางค์ที่ เน้นเสยี งหนกั ป่ มุ ลาโพงสาหรับกดฟัง การออกเสยี ง ข้ันสรปุ (Wrap up) จำกนั้นครูมอบหมำยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเลือกคำศัพท์ที่เก่ียวกับลักษณะนิสัยบนกระดำนมำ กลุ่มละ 8 คำ โดยให้เป็นคำศัพท์ที่มี 2 พยำงค์ขึ้นไป แล้วไปเปิดพจนำนุกรมเพ่ือหำพยำงค์ที่เน้นเสียงหนักในคำ เสร็จ แล้วให้คัดลอกคำศัพท์ใส่ลงในกระดำษโปสเตอร์ พร้อมท้ังขีดเส้นใต้พยำงค์ที่เน้นเสียงหนักในคำ พร้อมทั้งเขียน ควำมหมำย หรืออำจใส่ภำพประกอบลงไปด้วย แล้วตกแต่งให้สวยงำม ครูตรวจโปสเตอร์ของนักเรียนและนำมำ ติดแสดงที่บอร์ดของชั้นเรียน ครูแนะนำให้นักเรียนฝึกอ่ำนออกเสียงคำศัพท์เหล่ำนี้ในเวลำว่ำง เช่น ระหว่ำงรอ ครเู ขำ้ ห้องเรียน หรอื หลังเลิกเรยี น

ช่วั โมงที่ 3 I am a teacher. (3) กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั นา (Warm up) 1. ครูและนักเรยี นทกั ทำยกัน จำกนน้ั ใหน้ ักเรยี นทบทวนคำศพั ท์ท่ีไดเ้ รียนมำได้แก่คำวำ่ bossy, friendly, confident, kind, shy 2. ครูสุม่ เรยี กนักเรยี น 7-8 คน ใหย้ นื ขนึ้ พูดประโยคบอกลักษณะนสิ ัยของตนเองทลี ะคน เช่น Emma: I am friendly. Beth: I am shy. Mark: I am polite. Frank: I am smart. 3. ครใู หน้ ักเรียนเปดิ หนังสือเรียน หน้ำ 6-7 และดูเน้ือหำอย่ำงครำ่ วๆ แล้วให้นักเรียนเดำว่ำในชว่ั โมง ต่อไปน้ี นักเรยี นจะเรียนเก่ียวกับอะไร ขั้นนาเสนอ (Presentation) 1. นักเรียนดภู ำพใน หนงั สือเรยี น หน้า 6 ขอ้ 4 Point to the pictures. Then ask and answer. แลว้ ครชู ี้ภำพเดก็ แต่ละคนในภำพทีใ่ หม้ ำ และถำมนักเรียนว่ำคือใคร เช่น Teacher: Who is this? (ครชู ูหนังสือ และชี้ท่ภี ำพ Kate) Students: Kate. ครูทำกิจกรรมเช่นเดยี วกันน้กี ับภำพอืน่ ๆต่อมำครูใหน้ ักเรียนอำ่ นตวั อย่ำงประโยคคำถำมและคำตอบ ทใี่ หม้ ำพรอ้ มกนั แลว้ ใหน้ กั เรียนจบั คู่กับเพ่ือนทนี่ ่งั ทำงซำ้ ย ฝกึ พดู ถำม-ตอบ โดยครชู ว่ ยเขียน โครงสร้ำงประโยคคำถำมและคำตอบบนกระดำน ดงั น้ี Who’s this/that? Is he/she + (คาคณุ ศพั ท)์ ? Yes, he/she is + (คาคณุ ศพั ท์). หรือ Yes, he/she is. This/That is . No, he/she isn’t + (คาคณุ ศพั ท์). หรือ No, he/she isn’t. ครทู บทวนเกี่ยวกับกำรใช้ this และ that สนั้ ๆ และใหน้ ักเรยี นเลือกใชใ้ ห้ถูกต้อง จำกนั้นให้เวลำ นกั เรยี นฝกึ พูดถำม-ตอบ เสร็จแล้วครูส่มุ เรยี กนกั เรยี น 3 คู่ ให้ออกมำพดู สนทนำหนำ้ ช้นั เรียน 2. ครใู หน้ ักเรียนดูประโยคคำถำมในหนังสือเรยี น หน้ำ 6 ข้อ 4 อีกคร้งั และถำมนักเรยี นว่ำคำถำมใดเปน็ คำถำมแบบ Yes-No questions เมื่อได้คำตอบว่ำ Is she bossy? แล้วครูใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั อธบิ ำย ลกั ษณะของ Yes-No questions จำกน้ันครูถำมนักเรียนวำ่ Who’s that? เป็นคำถำมชนดิ ใด เมือ่ ได้คำตอบว่ำ Wh-questions แล้ว ครูถำมนกั เรยี นว่ำ คำถำมชนดิ นถี้ ำมเกี่ยวกบั อะไร และนอกจำก who แลว้ มี Wh-words คำใดอกี ท่ใี ช้ในคำถำมชนดิ น้ีอีกบ้ำง

Background Information 1) ประโยคคำถำมแบบ Yes-No questions คือ คำถำมที่ตอ้ งกำรใหต้ อบรับ (Yes) หรือ ตอบปฏิเสธ (No) คำถำมชนิดน้ีจะข้ึนตน้ ประโยคดว้ ย verb to be, verb to do และ กริยำช่วย เช่น can, will, may ยกตวั อยำ่ งเช่น - Do you like English? Yes, I do. - Is she confident? No, she isn’t. - Can you swim? Yes, I can. - Did they go to London? No, they didn’t. 2) ประโยคคำถำมแบบ Wh-questions คือ ประโยคคำถำมที่ไม่ตอ้ งกำรคำตอบวำ่ Yes หรือ No แตต่ อ้ งกำรเป็นรำยละเอียด โดยประโยคคำถำมเหล่ำน้ีจะข้ึนตน้ ประโยค ดว้ ย Question words ไดแ้ ก่ Who - ใคร How - อยำ่ งไร What - อะไร Whose - ของใคร When - เม่ือไร Which - สิ่งไหน, อนั ไหน Where - ที่ไหน Whom - ใคร (กรรม) Why - ทำไม How much มากเทา่ ไร How many ยกตวั อยำ่ งเช่น - Who’s that? She’s Jane. - What does she do? She’s a student. - How old is she? She’s twelve years old. - Where does she live? She lives in Chiang Mai. - How many sisters does she have? She has got three sisters. ขน้ั ฝกึ (Practice) นักเรียนดูภำพเด็กผู้หญิงใน หนังสือเรียน หน้า 7 ข้อ 5 Read the e-mail and answer the questions. แลว้ ครูถำมนกั เรียนว่ำเด็กผหู้ ญงิ ในภำพมลี กั ษณะอย่ำงไร โดยใช้คำถำมต่อไปน้ี Teacher: Has she got long hair? Students: Yes, she has. Teacher: Has she got black hair? Students: No, she hasn’t.

Teacher: What colour is her hair? Students: Her hair is brown. ครูให้นักเรียนอ่ำนคำถำมท่ีกำหนดให้ เพื่อให้รู้จุดมุ่งหมำยในกำรอ่ำน แล้วให้นักเรียนอ่ำนอีเมลของ Linda ท่ีส่งถึง Laura และตอบคำถำมท่ีกำหนดให้ จำกน้ันใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันเฉลยคำตอบ 1. She’s eleven years old. 2. She’s tall with brown hair and brown eyes. 3. She’s Australian. 4. Yes, she is friendly. 5. Yes, she has. 6. She likes tennis and basketball. ขั้นนาไปใช้ (Production) ครเู ขยี นประโยคคำถำม What does she look like? บนกระดำน และอธบิ ำยว่ำคำถำมนใ้ี ช้ถำม ลักษณะภำยนอก เชน่ ดวงตำ ผม รปู ร่ำง อำยุ สผี ิว ฯลฯ ซ่งึ สำมำรถแบ่งแยกได้ดังน้ี Eyes - ดวงตำ Hair - ผม Shape - รูปร่ำง Age - อำยุ brown - น้ำตำล straight - ผมตรง short - ตวั เต้ีย baby - ทำรก black - ดำ curly – ผมหยกิ tall - ตวั สูง teenage - วยั รุ่น blue - น้ำเงิน fat - อว้ น young - วยั เยำว์ big - ตำโต small - ตวั เลก็ old - วยั ชรำ เช่น A: What does she look like? B: She is tall. She has got short black hair. แล้วครใู ห้นกั เรยี นช่วยกันบอกลักษณะของเพื่อนในชั้น 3 คน ทคี่ รเู ลอื ก Background Information ในกำรถำมลกั ษณะนิสยั จะใชค้ ำถำม What + verb to be + (ประธำน) + like? เช่น What’s he like? He’s bossy. ขัน้ สรปุ (Wrap up) นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 7 ข้อ 6 Write an e-mail to Linda. Use the e- mail above as a model. เขียนอีเมลถึง Linda โดยใชข้ ้อมลู เกี่ยวกับตนเอง ซึ่งนักเรียนสำมำรถดูอีเมลใน ข้อ 5 เปน็ ตัวอย่ำง โดยครอู ำจให้นักเรยี นเขียนรว่ มกันบนกระดำน

ตวั อย่าง Hi Linda, My name’s Sudapa. I am 12 years old. I am Thai. I live in Nakhon Ratchasima Province, Thailand. I am tall and I have got black hair and brown eyes. I like talking with new friends. I like dogs. I have got a Shih Tzu and a Dach shund. I also love sports. I often go swimming and jogging during my free time. Well, that’s all for now. I hope to hear from you soon. Goodbye, Sudapa 8. การวดั และประเมินผล วธิ กี าร เครื่องมือ เกณฑก์ ารผา่ น สงั เกตกำรพูดถำม-ตอบ แบบสงั เกตกำรพดู ถำม-ตอบ ผำ่ นเกณฑ์กำรประเมนิ ในระดับดีขน้ึ ไป ตรวจใบกจิ กรรม ใบกิจกรรม ผำ่ นเกณฑ์กำรประเมินร้อยละ 60 ขน้ึ ไป ประเมินกำรทำแผนผังควำมคิด แผนผังควำมคิด ผ่ำนเกณฑ์กำรประเมินในระดับดขี น้ึ ไป ประเมินกำรพดู นำเสนอ แบบประเมินกำรพดู ผำ่ นเกณฑ์กำรประเมนิ ในระดับดขี น้ึ ไป โครงงำน 9. สื่อ / แหล่งเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน Smile ป. 6 2. แบบฝึกหัด Smile ป. 6 3. Audio Smile ป. 6 4. พจนำนุกรม

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ วชิ าภาษาอังกฤษ เวลา 3 ชั่วโมง หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 1 What do you want to be? เรื่อง What do you want to be? 1.สาระสาคัญ กำรเรียนรู้คำศัพท์เก่ียวกับอำชีพ ประโยคคำถำมและคำตอบเก่ียวกับอำชีพท่ีอยำกเป็น ทำให้ผู้เรียน สำมำรถใชภ้ ำษำเปน็ เครือ่ งมือพน้ื ฐำนในกำรรวบรวมขอ้ มลู เกย่ี วกับอำชพี ท่ีสนใจได้ 2. ตวั ชี้วดั มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ขา่ วสาร แสดง ความรูส้ กึ และความคดิ เห็นอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ตวั ชี้วดั 1. พดู /เขียนโตต้ อบในกำรส่ือสำรระหวำ่ งบคุ คล ตวั ชว้ี ดั 2. ใช้คำสงั่ คำขอรอ้ ง และให้คำแนะนำ ตัวชีว้ ดั 4. พูดและเขยี นเพอ่ื ขอและใหข้ ้อมูลเกีย่ วกบั ตนเอง เพื่อน ครอบครวั และเรื่องใกลต้ ัว 3.จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.พูด/เขียนโต้ตอบในกำรสือ่ สำรระหว่ำงบคุ คล ใช้คำส่งั คำขอร้อง และให้คำแนะนำ ให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพ่ือน ครอบครัว และเรือ่ งใกลต้ ัวได้ 4. สาระการเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) 1. กลุม่ คำ ประโยค และควำมหมำยของคำศัพท์เกยี่ วกับอำชพี 2. ประโยค บทสนทนำ และเน้อื เรอื่ งสั้นๆ ทีม่ ภี ำพประกอบ ทกั ษะ / กระบวนการ (Process : P) ทกั ษะกำรฟงั กำรพดู กำรอ่ำน กำรเขยี น เจตคติ (Attitude : A) 1. มีควำมรบั ผิดชอบ ขยนั ใฝ่รใู้ ฝ่เรยี น 2. มคี วำมเชื่อม่ันในตนเอง กลำ้ แสดงออก 5. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น 1. ควำมสำมำรถในกำรส่อื สำร 2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ 3. ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ 4. ควำมสำมำรถในกำรใช้ชีวติ

6. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ซ่ือสตั ยส์ จุ ริต 2. มวี ินัย 3. ใฝ่เรยี นรู้ 4. มุ่งมัน่ ในกำรทำงำน 5. มจี ติ สำธำรณะ 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ช่วั โมงที่ 1 What do you want to be? (1) ขนั้ นา (Warm up) ครูทำเสียง Shhhhhh! ยำวๆ เพื่อบอกให้นักเรียนเงียบเสียงลง ครูทำเช่นน้ี 3-4 คร้ัง เมื่อนักเรียนท้ัง ห้องเงียบเสียงลงแล้ว ครูเขยี นตัวอักษร sh และเขียนคำศัพท์ต่อไปน้ีบนกระดำน ship, share, shoe จำกน้ัน ครูชี้ไปทีค่ ำศัพท์แตล่ ะคำ แลว้ ครูบอกใหน้ กั เรยี นอ่ำนออกเสียงคำศัพท์เหลำ่ นตี้ ำมครู Teacher: Shhhhhh! ship ครูลำกเสียง sh ยำวๆ ก่อนท่ีจะออกเสียงคำศัพท์ Shhhhhh! share เพอ่ื ให้นักเรยี นสังเกตว่ำ เวลำครอู อกเสยี ง sh ครูจะ Shhhhhh! shoe ห่อรมิ ฝีปำกย่ืนออกมำ ครูอำจให้นักเรียนในชั้นแข่งกันออกเสียง Shhhhhh! วำ่ ใครจะสำมำรถออกเสยี งได้ยำวที่สดุ เมื่อได้ ผู้ชนะแล้วครูให้เพื่อนๆ ปรบมือให้กับนักเรียนคนดังกล่ำว และครูพูดสรุปให้นักเรียนฟังว่ำ เสียง sh เป็นเสียงที่เรำสำมำรถเปลง่ ได้ยำวเทำ่ ท่เี รำกล้ันลมหำยใจไวใ้ นปอดได้ ซึง่ จะไม่มเี สียงเดยี วกนั นี้ในภำษำไทย ต่อมำครูเขียน ch และคำศัพท์คำว่ำ chop, chair, chew บนกระดำน แล้วออกเสียง ch ด้วยกำร ใช้ลิน้ แตะท่ีเพดำนหลังแนวปุ่มเหงอื กอย่ำงเร็วกอ่ นจะระเบิดเสียง เชอะ ออกไป จำกนั้นครูชี้ไปท่ี sh บนกระดำน และออกเสียง Shhhhhh! และชี้ไปท่ี ch และออกเสียง เชอะ (ล้ิน แตะที่เพดำนแข็งหลังแนวปุ่มเหงือก) ครูถำมนักเรียนว่ำเสียงใดฟังนุ่มนวลกว่ำกัน (sh) เสียงใดที่ออกเสียงได้ ยำวกว่ำกนั (sh) และเสยี งใดที่ออกเสียงคลำ้ ยกบั เสียงพยัญชนะ “ช” ในภำษำไทย (ch) จำกนั้นครูให้นักเรียนออกเสียง ch และคำศัพท์คำว่ำ chop, chair, chew ตำมครู เสร็จแล้วให้ นักเรียนฟังกำรออกเสียงคำศัพท์ใน หนังสือเรียน หน้า 7 หัวข้อ English sounds จำก CD/Track 5 และ ฝกึ ออกเสยี งตำม shy child shoe chew กิจกรรมเพ่ิมเติม phonetic symbols หรอื สัญลกั ษณเ์ สียงในคำอ่ำนภำษำองั กฤษ

∫ คือ สัญลกั ษณท์ ่ีใช้แทนเสยี ง sh เชน่ ในคำว่ำ shy ʧ คือ สัญลกั ษณ์ที่ใช้แทนเสยี ง ch เชน่ ในคำวำ่ child กจิ กรรมเพิม่ เติม ครูเปดิ คลิปวิดโี อจำกเวบ็ ไซต์ต่อไปน้ี ในช้ันเรียน http://kidsnews.bectero.com/say-it-right/9526-shor-shang-sh-พูดอยำ่ งไรให้ชดั ! เมอื่ ไม่มี เสียง SH ในภำษำไทย หรอื แนะนำเว็บไซต์ใหน้ ักเรียนไปฝึกกำรออกเสียงด้วยตนเองที่บำ้ นหรือในห้องคอมพิวเตอร์ของ โรงเรยี นที่มีอนิ เทอรเ์ น็ต เพอ่ื ใหน้ ักเรียนเรยี นรเู้ กี่ยวกับควำมแตกตำ่ งของเสียง sh และ ch เพ่มิ เตมิ ขน้ั นาเสนอ (Presentation) นักเรียนอ่ำนคำถำมท่ีอยู่ในกรอบใน แบบฝึกหัด หน้า 6 ข้อ 4 Complete the dialogue and check the answers. และจับคู่กับเพ่ือน ช่วยกันเติมบทสนทนำให้สมบูรณ์ เสรจ็ แล้วนกั เรียนและครูช่วยกัน เฉลยคำตอบ แล้วอ่ำนบทสนทนำพร้อมกัน จำกน้ันครูให้นักเรียนฝึกพูดบทสนทนำกับคู่ของตน และสลั บ บทบำทกันจำก A เปน็ B และจำก B เปน็ A Who’s that? Is he kind? What does he do? ข้ันฝกึ (Practice) นักเรียนอ่ำนคำและข้อควำมท่ีกำหนดให้ใน แบบฝึกหัด หน้า 7 ข้อ 5 Read and complete. แล้วครูช้ีภำพประกอบซ่ึงเป็นรูปเด็กชำย 3 คน ให้นักเรียนสังเกตบุคลิกภำพของแต่ละคน จำกน้ันให้นักเรียน จบั กลมุ่ กัน กลุ่มละ 3 คน เพือ่ นำคำทีก่ ำหนดให้ในกรอบไปเติมลงในชอ่ งว่ำง เสรจ็ แล้วให้นักเรยี นช่วยกันเฉลย คำตอบ หรือครูอำจใหน้ ักเรียนทำกิจกรรมนีเ้ ปน็ กำรบ้ำน 1. are 2. is 3. kind 4. likes 5. bossy 6. different

ขั้นนาไปใช้ (Production) นักเรียนเขียนเกี่ยวกับ Jane และ Mary โดยใช้ข้อมูลท่ีกำหนดให้ใน แบบฝึกหัด หน้า 7 ข้อ 6 Write about Jane and Mary. Use the words in the chart to help you. ให้นักเรียนดูตัวอย่ำง กำรเขยี นจำกขอ้ 5 Jane and May are my best friends. Jane is twelve years old. She is Canadian. She lives in Ottawa. She is tall and has got brown hair. She has got blue eyes. She is friendly. And May is eleven years old. She is Chinese. She lives in Nanning. She is young but tall. She has got black hair. She is confident. ขั้นสรุป (Wrap up) 1. ให้นักเรียนฟังคำศัพท์จำก Track 12 ซ่ึงเป็นคำท่ีมีเสียง /∫/ และ /ʧ/ แล้วให้นักเรียนวงรอบ คำศัพท์ท่ีได้ยินจำก Track ใน แบบฝึกหัด หน้า 7 หัวข้อ English sounds กิจกรรม Listen and circle the words you hear. เสร็จแลว้ ครูเปิด Track ใหน้ ักเรยี นฟังอกี ครั้ง เพ่ือเฉลยคำตอบ shoe child chain shoe child chain 2. ครูให้นักเรียนไปค้นหำควำมหมำยของคำศัพท์ท่ีจะเรียนในบทเรียนถัดไปในหนังสือเรียน หน้ำ 8 กรอบ Word box ลว่ งหน้ำ พร้อมทั้งเปิดพจนำนกุ รมเพอ่ื หำพยำงคท์ ี่ออกเสยี งเน้นหนักในคำเหล่ำนี้ด้วย ช่ัวโมงท่ี 2 What do you want to be? (2) ขนั้ นา (Warm up) 1. ครูถำมคำถำมนักเรยี น เพ่ือใหน้ กั เรยี นสำรวจสิ่งท่ตี นเองชอบ โดยใช้คำถำมต่อไปนี้ - Who likes maths and science? - Who likes drawing and painting pictures? - Who likes making things? - Who likes working with computer - Who likes speaking with other people? - Who likes reading and writing? - Who likes acting? - Who likes asking questions? ครูให้นักเรียนท่ีตอบ Yes ยกมือขึ้น โดยสำมำรถยกมือตอบได้มำกกว่ำ 1 คร้ัง และให้นักเรียนจด บันทึกคำตอบของตนเองไว้ว่ำตนเองชอบอะไรบ้ำง จำกนั้นครูบอกว่ำหลังจำกเรียนจบบทเรียนนี้ นักเรียนจะ ได้รู้ว่ำคนท่ีชอบในแต่ละเรอ่ื งนัน้ สำมำรถทีจ่ ะทำอำชีพอะไรได้บ้ำง

2. ครูบอกนักเรียนว่ำ ในชั่วโมงน้ีจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับอำชีพต่ำง ๆ และเหตุผลที่คนประกอบอำชีพ แตกตำ่ งกนั รวมทง้ั ฝึกอำ่ นจับใจควำม และฝึกเขยี น ขัน้ นาเสนอ (Presentation) นกั เรยี นดภู ำพอำชพี ต่ำงๆ ในหนังสอื เรียน หนา้ 8 ข้อ 1 Listen, point and repeat. ครชู ้ีทลี ะ ภำพ แล้วถำมนกั เรยี นวำ่ Teacher: What does he do?(ครูชที้ ีภ่ ำพ actor ในหนงั สอื เรยี น) Students: He’s an actor. ครูทำกจิ กรรมเชน่ เดยี วกนั นกี้ ับภำพอน่ื ๆ ทเ่ี หลือ จำกน้นั ครูเขียนคำศัพท์แต่ละคำบนกระดำน และสุ่มเรียกนักเรยี นใหบ้ อกควำมหมำย เนื่องจำกครูให้ นกั เรยี นไปคน้ หำควำมหมำยของคำศัพทเ์ ป็นกำรบำ้ นแล้ว จำกน้นั ครถู ำมนักเรียนวำ่ คำศัพท์แตล่ ะคำ เนน้ เสียงหนักท่ีพยำงค์ใด และขดี เส้นใต้ทพ่ี ยำงคด์ งั กล่ำวในคำศัพท์บนกระดำน actor artist writer nurse computer programmer photographer musician เสร็จแล้วครูเปดิ Track 6 ให้นกั เรียนฟงั 2 คร้ัง นกั เรียนช้ีตำมทีละภำพให้ถูกต้อง และออกเสยี งตำม พร้อมๆ กนั จำกนน้ั ฝึกอ่ำนออกเสียงด้วยตนเองจนคล่อง actor artist writer nurse computer programmer photographer musician แลว้ ครสู ุ่มเรียกนกั เรียน 3 คน ให้อ่ำนออกเสียงคำศัพท์ ขัน้ ฝกึ (Practice) 1. ครูใหน้ ักเรียนอ่ำนประโยค 1-7 และประโยค a-g ในหนังสือเรียน หน้า 8 ขอ้ 2 Read and match. แลว้ จบั คปู่ ระโยคทงั้ 2 ฝงั่ ใหส้ มั พันธก์ ัน เสร็จแล้วชว่ ยกันเฉลยคำตอบ 1. d 2. f 3. a 4. g 5. b 6. c 7. e จำกนั้นครถู ำมเกย่ี วกับสง่ิ ที่แต่ละอำชีพทำ ให้นักเรียนชว่ ยกันตอบ เชน่ Teacher: What does a musician do? Students: A musician plays the piano and the guitar. Teacher: Yes. A musician is a person who plays a musical instrument such as a piano, a guitar, a drum or a saxophone. ครูเขียนคำวำ่ musical instrument (n) = a piano, a guitar, a drum, a saxophone บน กระดำน เพ่อื สอนคำศพั ท์ใหมใ่ หแ้ ก่นักเรียน 2. ครสู อนกำรใชก้ ริยำ “play” กบั กีฬำและเคร่อื งดนตรี ดงั นี้

  1. play + กฬี ำ เชน่ I play football. We play basketball. 2) play + the + เครอ่ื งดนตรี เชน่ She plays the violin. We play the guitar. ขนั้ นาไปใช้ (Production) ครูชภ้ี ำพตวั ละคร 4 คน ใน หนงั สอื เรียน หน้า 9 ขอ้ 3 Listen and match the names with the pictures. แล้วถำมนกั เรียนว่ำตวั ละครทงั้ 4 คน คอื ใครบ้ำง Teacher: Who are they? (ชท้ี ่ีภำพ) Students: They are Mark, Betty, Harry and Ben. Teacher: Well done! ครูช้ีภำพอุปกรณ์กำรทำงำนทั้ง 4 ภำพ ทลี ะภำพ แลว้ ถำมนักเรยี นวำ่ ใช้ประกอบอำชีพอะไร เช่น Teacher: What’s this? Students: It’s a camera. Teacher: What job uses this thing? Students: A photographer. ข้นั สรปุ (Wrap up) ครใู หน้ ักเรยี นฟงั Track 7 เก่ียวกับตวั ละครท้ัง 4 แล้วใหน้ กั เรียนจบั คู่อุปกรณ์กบั ตัวละครทัง้ 4 โดย ครเู ปดิ Track ใหน้ กั เรยี นฟงั 2 ครัง้ Julia: What do you want to be when you grow up, Mark? Mark: I want to be an artist. Julia: Why do you want to be an artist? Mark: Well, my favourite subject is art. I also like painting pictures in my free time. Julia: I see. Now Betty, what about you? Betty: I want to be a computer programmer. Julia: Why do you want to be a computer programmer? Betty: Because I am good at I.T. and I love computers. Julia: Now Harry, what do you want to be? Harry: I want to be an actor. Julia: An actor? Why? Harry: Because my favourite subject is drama and I love acting. Julia: And now Ben, what do you want to be?