Subaru forester 7 ม อ สอง ด ไหม

อันที่จริงต้องบอกว่า ถ้างานของคุณคือการบรรทุกสินค้าหนักตันเศษ รถคันนี้ยังทำให้คุณไม่ได้ ซึ่งมันไม่มีรถคันไหนในโลกหรอกที่มันเกิดมาแล้วทำได้ทุกอย่างทุกงานแล้วดีหมด Subaru Forester XT นี้ก็เช่นเดียวกัน ทำได้หลายอย่างแต่อาจจะไม่ได้ดีสุดในทุกด้าน

แล้วใครก็เล่าที่อยากได้รถแบบนี้? คุณอาจจะไม่เชื่อแต่มีไม่น้อยเลยล่ะครับ ผมได้รับข้อความจากผู้อ่านทางบ้าน สอบถามว่าอยากได้รถสักคันที่เป็นทรงอเนกประสงค์ เป็นคนขับรถเรียบร้อย (เวลาลูกเมียอยู่ด้วย) และขับเร็ว เล่นโค้ง (เวลาขับคนเดียว) อยากได้รถที่แรงแบบที่พอป้องกันตัวเองจากการโดนรังแกบนถนนได้บ้าง แต่ไม่ต้องถึงกับแรงปัสสาวะทะเล็ด

ที่สำคัญคือ คุณคนนี้อาศัยอยู่บ้านทาวน์เฮาส์ซึ่ง มีช่องจอดรถ 2 คัน 1 ช่องเป็น Toyota Vios เกียร์อัตโนมัติ และความยาวช่องจอดของทาวน์เฮาส์ยุค 80s ชานเมืองนั้นไม่พอสำหรับรถกระบะยุคใหม่ๆ ในงบประมาณไม่เกินล้านบาทนั้น หมดสิทธิ์จับรถป้ายแดงที่มีพละกำลังสูง หรือ SUV พื้นฐานรถปิกอัพตัวโตๆ ไปแล้ว ครั้นผมจะให้เขามองตัวเลือกรถเก๋งและรถทรงสูงขนาดเล็กเครื่อง 1.5 ลิตร ก็เกรงว่าจะต้องโมดิฟายกันเยอะจนภรรยารำคาญ

สิ่งที่ผมพอจะนึกออก ก็คือ เมื่อเงินคือข้อจำกัด คุณต้องเลือกบางอย่าง สละในบางสิ่ง เช่น ถ้าหากคุณยอมได้ที่จะคบรถมือสองอายุ 6-9 ปี มันมีรถอยู่คันหนึ่งที่น่าจะพอตอบโจทย์การใช้งานอันหลากหลายที่สุด และมันก็คือ Subaru Forester XT รหัสตัวถัง SJ ซึ่งเข้ามาขายในบ้านเราตั้งแต่ปี 2013 นั่นเอง คำว่า XT นั่น ก็บ่งบอกถึงความเป็นรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบตัวท็อปที่สมรรถนะเหนือกว่ารุ่นธรรมดาไปอีกขั้น

บางคนอาจจะบอกว่า คุณแพนครับ แกแนะนำรถอะไรฟะเนี่ย หน้าตาเป็นกล่อง กล่องไม่พอนะ ยังมีลุคที่สุดแสนจะเชยเหมือนคนที่ใส่เสื้อผ้าตกยุคไปทุกงาน อันดับแรกนะครับ น้องต้องแยกก่อนว่าจะเอารถหล่อ หรือเลือกที่การใช้งาน รถบางคันไม่ได้หล่อ แถมออกพิลึกแต่พอคุณมองข้ามหน้าตามันได้แล้วเห็นถึงอรรถประโยชน์ที่แท้จริง คุณอาจจะเปรียบได้ดังสตรีที่เลือกผู้ชาย โดยยอมมองข้ามความหล่อ แล้วดูชายจากความสามารถในการเป็นผู้ปกป้องแห่งครอบครัว ..เรียกว่าเป็นผู้ปกป้องพอแหละ

เพราะถ้าบอกว่าเป็นผู้นำ..ชาวผัวรู้ๆ กันอยู่ว่าคุณสละเก้าอี้ตั้งแต่ก่อนแต่งแล้ว ความน่าใช้ของ Forester ไม่ว่าจะ XT หรือรุ่นธรรมดา เริ่มต้นตั้งแต่การสละความหล่อแล้วมุ่งปั้นความสบายในการใช้งาน ทรงที่คล้ายกล่องนั่นแหละ ทำให้ประตูแต่ละบานของมันนั้นโคตรใหญ่ ขึ้นลงง่ายทั้งด้านหน้าและหลัง ความสูงของตัวรถ ทำมาเพื่อให้คนไซส์ปกติตัวสูง 5.5-6 ฟุต สามารถสไลด์ไถลทวารเข้าไปนั่งได้โดยไม่ต้องใช้แรงขามากนัก

มันเป็นรถ 5 ที่นั่ง ซึ่งบางคนอาจจะอยากได้ 7 แต่นั่นก็ทำให้พื้นที่บรรทุกด้านท้ายของมันนั้นมีเหลือพอสำหรับการขนของเดินทางไกลในแบบชาวเต็นท์ บังกะโลมีให้นอนไม่นอน ไปกางเต็นท์นอนข้างบังกะโลนั่นล่ะ

นอกจากนี้ ความสูงใต้ท้องรถที่อยู่ระหว่าง 200-220 มิลลิเมตรนั้น แม้จะยังไม่สูงจนต้องการบันไดแบบรถกระบะขับสี่ แต่ก็ช่วยให้ลุยน้ำท่วม ลุยทางสมบุกสมบันได้อุ่นใจระดับหนึ่ง และเมื่อคุณเข้ามานั่งข้างใน จะพบความละเอียดของ Subaru ในเรื่องการออกแบบรถเพื่อการขับขี่ คุณเพียงแต่ลองนั่งดูสักนิดว่าเบาะนั้นถือว่านุ่มไปหรือแข็งไปสำหรับตัวคุณ (แต่ละคนชอบความแข็งของเบาะต่างกัน)

แต่นับจากจุดนั้น เกือบทุกส่วนออกแบบมาให้เข้ากับสรีระ และความถนัดของผู้ขับหลายไซส์ พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง เข็มขัดนิรภัยปรับระดับสูงต่ำได้ ตัวเบาะปรับไฟฟ้า สามารถปรับยกทั้งตัวและปรับเทหน้าหลังได้ ที่สำคัญคือ แม้แต่พนักพิงศีรษะก็ยังสามารถปรับตำแหน่งได้ทั้งสูงต่ำและองศาการดัน Subaru คือค่ายหนึ่งที่เข้าใจหลักง่ายๆ ในการออกแบบภายใน (ซึ่งรถสมัยนี้บางค่ายช่างมารดาเรื่องนี้ไปแล้ว) นั่นก็คือ การควบคุมรถในสภาวะฉุกเฉิน ผู้ขับต้องขยับตัวตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้เร็วโดยไม่ติดขัด มีการจัดความสำคัญของตำแหน่งสวิตช์ใช้งานต่างๆ สิ่งที่มักถูกปรับถูกกดในระหว่างการขับ อยู่ในตำแหน่งที่เอามือคลำก็เจอ หรือมองเห็นได้โดยง่าย แต่แน่นอน เทรนด์แบบนี้กำลังจะหมดไปจากโลก เพราะวิจัยเท่าไร คิดให้มากเท่าใด ท้ายสุด จอใหญ่กับแสงสีพราวแพรว ชนะเลิศในสายตาคนซื้ออยู่ดี

เรื่องความหรูหรานั้น Forester XT จัดว่าเป็นรถที่ให้อุปกรณ์ลูกเล่นมาสมเหตุผลตามรูปแบบของรถ ทว่าการที่ราคาตอนป้ายแดงนั้นสูงถึง 2.4 ล้านบาท บางคนจึงอาจจะหวังวัสดุชั้นเลิศน้องๆ รถยุโรปโดยลืมไปว่าที่ราคามันแพงขนาดนี้ เพราะเครื่องยนต์กำลังสูง และภาษีนำเข้าจากญี่ปุ่นที่พอมาบวกสรรพสามิต และค่าธรรมเนียมต่างๆ ในไทย ทำให้แพงกว่า Forester 2.0 ธรรมดาประกอบมาเลย์ไปเกือบล้านบาท

ดังนั้นเรื่องวัสดุเริด แสงสีแพรวพราว อาจไม่ใช่เสน่ห์ของมัน แต่คุณมีแอร์ออโต้ เบาะหนัง Cruise Control รวมถึงจอ Multi-information ตรงกลางที่โชว์การทำงานของระบบขับสี่และข้อมูลอื่นๆ ได้ ส่วนพวกกล้องรอบคันหรือเครื่องเสียงรองรับ Apple CarPlay นั้น ยังไม่ใช่ของป๊อปปูลาร์ในปี 2013 ดังนั้นคุณอาจต้องมาหาติดเพิ่มเอาเอง ให้คิดถึง SUV คลาส C ราคาล้านกลางในยุคนั้นว่ามีอะไรบ้าง XT ก็มีประมาณนั้นแต่มากกว่าอยู่หน่อยๆ

เบาะนั่งด้านหลังนั้น อาจจะไม่ถือว่าสบายที่สุดในคลาส แต่ยังมีพื้นที่วางขา กับพื้นที่เหนือศีรษะสู้กันกับรถครอบครัวแบบ Honda CR-V ได้ อย่างไรก็ตาม ลูกเล่นพวกจอ หรือสารพัดช่องเสียบ จะสู้รถที่ออกแบบมาในเจเนอเรชันหลังๆ ไม่ได้ รุ่น XT นั้น จะพิเศษตรงที่ได้หลังคาซันรูฟ กับฝากระโปรงท้ายแบบเปิด/ปิดด้วยไฟฟ้า ซึ่งสามารถปรับระยะความสูงในการเปิดได้สำหรับกรณีที่พักอาศัยมีเพดานโรงรถเตี้ย

การใช้งานรถจะมีความสุขหรือไม่ 70% อยู่ที่การขับ และใน Subaru Forester XT นั้น ไม้เด็ดอยู่ที่ความใจกว้าง ตอบรับคนขับได้หลายนิสัย วันไหนคุณไม่ว่าง ภรรยาของคุณสามารถขับไปช้อปปิ้งได้สบาย ด้วยความที่กระจกรถโปร่งตา และตัวรถเป็นเหลี่ยมทั้งก้อน มองมุมไหนก็เห็น กะระยะก็ง่าย ขนาดตัวก็พอๆ กับ CR-V 2012 ซึ่งก็ยังถอยเข้าจอดได้ง่ายแบบไม่ต้องพึ่งพาระบบแสนกลใดๆ

พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า น้ำหนักเบาคล่องมือ คุณขับ Vios สบายยังไง Forester XT ก็จะสบายยิ่งกว่าอีก ถ้าไม่เชื่อก็ลองได้ครับ ช่วงล่างเดิมๆ มากับรถนั้น ถ้าใครบอกแข็งผมคงเกาหัวแกร็กๆ เพราะเท่าที่ขับทดสอบมา มันนุ่มสบายดีแท้ ไปถามเจ้าของตัวจริงมีแต่คนบอกว่าย้วยไปด้วยซ้ำถ้าคุณเป็นขาซิ่ง และถ้าคุณอยากปลดปล่อยความเป็นซาตานออกมา กับรถคันนี้คุณต้องทำใจอยู่อย่างหนึ่งคือ มันใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ซึ่งจะไม่มีทางออกตัวจี๊ดหลังติดเบาะให้คุณได้แน่นอน แต่ความน่ารักของ CVT ก็คือในช่วงที่คุณต้องเร่งแซง เกียร์มันจะมีอัตราทดที่เหมาะสมเพื่อรับใช้คุณในช่วงความเร็วนั้นเสมอ

เครื่องยนต์ของ Forester XT นั้น ก็เป็นเครื่องเทอร์โบ แบบเดียวกับที่อยู่ใน Subaru WRX แต่นำมาปรับลดแรงม้าลง..ลดลงไม่ได้แปลว่าไม่แรงนะ SUV ครอบครัวตัวเท่านี้ พกม้า 240 ตัว กับแรงบิด 350 นิวตันเมตร พอมาอยู่กับเกียร์ CVT แล้ว ต้นไม่ตึงแต่ท้ายเดินปลายอร่อยอย่าบอกใคร ลองไปถามคนขับรถแต่งซิ่งดูได้ครับว่าเคยโดน “ลุงเชย” XT นี้ไล่บี้ให้สยองหัวกันบ้างไหม รถยุโรปเก๋งอย่าง 3-Series หรือ C-Class ถ้าม้าไม่ทะลุสองร้อย อย่าไปปาดหน้าลุงเชยเล่นนะครับ เพราะลุงเชยในสภาพเดิมๆ สามารถไล่ล่าคุณไปได้ถึง 220 กม./ชม. บอกเพื่อทราบ..แต่ไม่แนะนำให้ทำครับ โดนตัดแต้มใบขับขี่เดี๋ยวจะเหงา

สำหรับคนที่จะแต่งเสริมเติมหล่อ ของเล่นมีให้คุณเลือกเพียบครับ ระวังอย่าแต่งจนหมดตัวก็พอ ส่วนการเพิ่มความแรงนั้น เครื่องเดิม FA20DIT ของ Forester XT นั้น ไม่ได้เปราะบางหรือเจ้าปัญหามาก แต่ถ้าคิดจะอัป Step ความแรง ผมคิดว่า คุมแรงม้าที่ล้ออย่าให้เกิน 280 และเติมออยล์คูลเลอร์ ใช้น้ำมันเครื่องดีกว่าสเปกศูนย์ อย่าเสียดายที่ราคา เพราะน้ำมันเครื่องดีๆ ลดการสึกหรอระหว่างการทรมานเครื่องได้ชะงัดสุดครับ

คุณสามารถจูนรีแมพกล่อง ECU เพื่อเน้นการเติมน้ำมัน E20 อย่างเดียวได้ แรงม้าจะเพิ่มด้วย แลกกับอัตราสิ้นเปลืองกิโลเมตรต่อลิตรที่จะหนาวๆ หน่อย ช่วงล่างมีของแต่งให้เลือกมากมาย แต่ในแบบช่วงล่างเดิมๆ คนใช้รถทั่วไปหรือเร็วแค่ทางตรงจะชอบ เพราะมันนุ่ม ส่วนสายซิ่งจะบอกว่าย้วยไปขอเปลี่ยนโช้คสักหน่อยดีกว่า ส่วนผมนั้นคิดว่าโช้คเดิมๆ ให้ผมซัดเต็มตึงก็ไม่ได้กลัว เพราะถึงแม้ตัวรถจะย้วย

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาที่พัฒนามานานกว่า 40 ปี บวกกับระบบการทรงตัว VDC ของ Subaru นั้น ยิงเข้าโค้งแบบหนึบเป็นตุ๊กแก ถ้าคุณไม่กล้าลองเองว่าระบบนี้ทำอะไรได้บ้าง แอบหลอกให้เซลส์ Subaru หรือ Trainer ที่ขับเจนงานลองทำให้คุณดูก็ได้ครับว่าตีนตุ๊กแกของจริงเป็นยังไง ความน่าใช้ของ Forester XT อีกอย่างคือ แม้จะเป็น SUV เมืองพื้นฐานรถเก๋ง เกียร์ Low แบบรถออฟโรดก็ไม่มี แต่เขามีปุ่ม X-Mode ครับ พอกดแล้วสมองกลของรถจะ Alert ระวังตัวเรื่องการลื่นไถลมากเป็นพิเศษ และประสานกับระบบจัดสรรกำลังลงในแต่ละล้ออย่างเหมาะสม

ล้อไหนจะลื่นหมุนฟรี สมองกลจะสั่งจับเบรกล้อนั้นแล้วถ่ายกำลังไปที่ล้อซึ่งมีแรงยึดเกาะแทน แล้วยังมีระบบช่วยควบคุมความเร็วเวลาขับลงเนิน พูดก็พูดเถอะว่าในบรรดา SUV พื้นฐานเก๋งพิกัดนี้ ถ้าคุณจับมันลงสนามออฟโรดโคลน Forester คือรถที่มีแนวโน้มจะรอดมากที่สุด ..ทำไมถึงทำแบบนี้ได้ ก็รถมันถูกพัฒนามาเอาใจชาวอเมริกาเหนือสายลุย ที่ใช้รถท่ามกลางหิมะบ้าง พอหิมะละลายก็เป็นโคลนไปทั่วทุกแห่ง ชาวอเมริกันสายลุยพวกนี้ใช้รถแบบไม่เสียดายของ แล้วบางทีก็ขับลุยเข้าไปยังที่ที่ไม่ควร แค่อยากไปตกปลาก็มี

เห็นแล้วหรือไม่ว่า ถ้าคุณกำเงินล้าน แล้วยอมโดนเพื่อนหัวเราะว่าเอาเงินล้านไปซื้อรถเก่า บ้าหรือเปล่า คุณปล่อยพวกเขาได้เลยเพียงแค่คุณรู้ว่าความสามารถจริงๆ ของ Forester XT นั้น ทำได้เกือบทุกอย่างแล้วยกเว้นบรรทุกผัก 1 ตัน อันที่จริง ถ้าคุณเอาเหล็กที่ใช้ทำโครงสร้าง Forester ไปทำรถกระบะ มันอาจบรรทุกหลายตันโดยที่แชสซีส์ไม่มีวันงอ เพราะในบรรดารถญี่ปุ่นนั้นต้องยอมรับว่าเหล็กของ Subaru ที่ใช้โครงสร้างภายใน เหนียวแบบสัตว์โลกกรีดร้อง แล้วไม่ใช่สักแต่แข็ง เพราะไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานการทดสอบชนประเทศไหนๆ Forester ก็ทำคะแนนได้ดีอันดับต้นๆในยุคของมัน นอกจากแรง เกาะ..แล้วยังปลอดภัย

ถ้าไม่เชื่อ ลองถามคนที่เอา Subaru คว่ำมาแล้วดูซิครับ (อ้าว) แต่ก่อนที่จะอวยจนพลิกโลก มันก็มีบางจุดที่คุณต้องยอมรับ ตามที่ผมบอกว่า งบเท่านี้ ไม่มีรถที่ดีเด่นทุกด้านอย่างไร้ที่ติ ผมได้ลองสอบถามข้อมูลจากคนที่คลุกคลีอยู่จริง คุณกัน จากเพจ Perform Hub ซึ่งเชี่ยวชาญเรื่อง Subaru เจ้าของเพจกับแฟนก็คือคนที่ใช้รถยุโรปหลายล้านแล้วขายมาขี่ Subaru กับคุณหมอภูผา จากอุดรธานี ซึ่งภรรยาใช้เจ้า XT อยู่ ก็บอกเลยว่า Forester XT นั้น เป็นรถที่อ่อนไหวเรื่องน้ำมันเครื่องนะครับ ความร้อนในเครื่องสูงแม้เทียบกับรถเทอร์โบม้าพอๆ กัน ดังนั้นน้ำมันเครื่องที่แพง แต่ดี คือสิ่งที่ควรเอามาป้อนรถ น้ำมันเกียร์ก็เช่นเดียวกัน ใช้ของดี เปลี่ยนถ่ายตรงเวลาแล้วจะช่วยยืดอายุเครื่องกับเกียร์ได้ ของสเปกสูงพวกนี้บางครั้งที่ศูนย์ไม่มี แต่สั่งเปลี่ยนเองข้างนอกได้ครับ รถเราเก่าแล้ว ไม่น่าซีเรียสเรื่องเข้าศูนย์

ข้อต่อมาคือเรื่องการซ่อมนี่ล่ะครับ ถ้าคุณอยู่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ไม่มีปัญหา เพราะอู่ Subaru มีมากมายให้คุณเลือก แต่ถ้าอยู่ห่างไกล ก็ต้องวัดดวงกันหน่อยว่าแถวนั้นจะมีอู่ซ่อมให้ไหม เพราะแม้ช่วงล่างและการดูแลทั่วไปจะเหมือนรถญี่ปุ่นรุ่นอื่นๆ แต่ Forester โดยเฉพาะรุ่น XT นั้น อะไหล่บางตัวใช้ร่วมกับรุ่นอื่นไม่ได้ เกียร์ก็ไม่เหมือนรุ่น 2.0 ปกติ คุณต้องพึ่งอู่ที่รู้จัก Subaru ดีแล้วจะมีโอกาสทำแบบจ่ายตูมเดียวจบมากกว่า ส่วนจุดอ่อนอื่นๆ ของรถ ก็มีชุดเครื่องปรับอากาศ คอยล์ร้อน ซึ่งรถญี่ปุ่นทั่วไปอยู่กันเกินแสนกิโลเมตร แต่ของ Forester XT นั้นจะพังเร็วกว่า และบางชิ้นก็ต้องเบิกศูนย์ เท่านั้นยังไม่พอ บางครั้งเบิกแล้วต้องรอนาน บางครั้งก็ 2-3 เดือน จุดนี้ทำให้ XT นั้นไม่เหมาะจะเป็นรถเพียงคันเดียวในบ้านเท่าไร

ถ้ากรณีทั้งบ้านมีคันเดียว ผมยังแนะนำรถใหม่ป้ายแดงหรือรถประกอบในประเทศรุ่นยอดนิยมจะดีกว่า ส่วนเรื่องอัตราการสิ้นเปลืองนั้น คุณสามารถสร้างตัวเลขระดับ 13 กิโลเมตรต่อลิตรได้ ถ้าเดินทางไกลและใช้ความเร็วคงที่ไม่เกิน 120 กม./ชม. แต่ในชีวิตจริง คุณหมอภูผาจูนรถเติม E20 และขับเดินทาง มีเร่งแซงตามปกติ ทำได้ประมาณ 11.5 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งหลายคนบอกว่าโหด..ผมก็จะบอกว่า CR-V 2010 2.4 ลิตรของพ่อผม ก็ทำได้ประมาณนี้แหละครับถ้าขับเร็วเท่ากัน

แต่แน่นอนว่าถ้าคุณจะเน้นประหยัดน้ำมันทั้งในเมืองและนอกเมืองแบบจริงจัง ในงบล้านนึง Corolla Cross, HR-V หรือ Kicks E-Power น่าจะประหยัดน้ำมันกว่าแบบคนละโลก Forester XT มีจำนวนไม่เยอะนักในไทย เพราะมีแต่คนที่บ้ารถจริงจังเท่านั้นจะยอมซื้อรถญี่ปุ่นคันเท่า CR-V ในราคาสองล้านกลางในสมัยนั้น ทำให้การค้นหารถมือสอง ต้องใจเย็นเหมือนล่องเรือหาฝูงปลาที่ใช่ และแม้เจอแล้ว คุณก็จะมีทางเลือกของสีรถไม่มากนัก นอกจากสีโทนขาวหรือทำ ก็อาจมีสีฟ้า เท่าที่ผมเห็นมา มันมักจะไม่ค่อยมีให้เลือก

เมื่อทราบข้อดีข้อเสียต่างๆ แล้ว ก็ให้ท่านผู้อ่านลองชั่งใจดูครับว่าน่าเล่นไหม กับคำว่ารถคันเดียวที่พยายามเป็นให้คุณเกือบทุกอย่างในงบประมาณเท่านี้ ขอเพียงแค่คุณอย่าหวั่นไหวถ้าใครจะบอกว่ารถคุณไม่หล่อ ไม่ซิ่ง ดูแล้วหญิงไม่ชอบ ให้คิดไว้ว่า ตอนคุณเลือกแฟน แฟนคุณไม่ได้เป็นคนที่หน้าตาดีที่สุดในโลก ถูกไหม แต่มันคือคุณสมบัติและการ “ตอบโจทย์ของชีวิตและจิตใจ” ต่างหากที่จะบอกว่าเราจะอยู่กันได้ยาวขนาดไหน.