ใบงานที่ 2 กระบวนการ เปลี่ยนแปลงทาง ธรณี ภาค ของโลก เฉลย

ใบงานที่ 2 กระบวนการ เปลี่ยนแปลงทาง ธรณี ภาค ของโลก เฉลย
เฉลยคำถามท้ายบท เรื่อง ธรณีภาคและธรณีกาล
ใบงานที่ 2 กระบวนการ เปลี่ยนแปลงทาง ธรณี ภาค ของโลก เฉลย

1.อธิบายความแตกต่างระหว่างคำต่อไปนี้ "ศูนย์เกิดแผ่นดินไหว" กับ "จุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหว" 

ตอบ -ศูนย์เกิดแผ่นดินไหว คือ ตำแหน่งที่เป็นจุดกำเนิดการไหวสะเทือนของแผ่นดินหรือเกิดแผ่นดินไหว เกิดได้หลาย จุดในพื้นที่ตามแนวรอยเลื่อน -จุดเหนือศูนย์เกอดแผ่นดินไหว คือ ศูนย์เกิดแผ่นดินไหว จะอยู่ใต้ผิวโลกที่ระดับความลึกต่างๆน ตำแหน่งบนผิวโลกที่อยู่เหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหว

2.แนวที่เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณใดของพื้นโลก ในประเทศไทยมีแนวที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดหรือไม่ อยู่บริเวณใด 

ตอบ ตามแนวรอยต่อ ประเทศมีความสเยงน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเกิดจากการเกิดสั่นไหว ของประเทศข้างเคียงทำให้ได้รับแรงสั่นสะเทือน

3. แมกมาที่แทรกตัวอยู่ตามรอยแตก รอยแยกของหินใต้พื้นผิวโลก เมื่อแข็งตัวจะกลายเป็นหินชนิดใด 

ตอบ หินไรโอไลต์,หินแอนดีไซต์,หินบะซอลต์,หินทัฟฟ์,หินแอกโกเมอเรต,หินพัมมิซ,หินสคอเรีย,หินออบซีเดียน เป็นต้น


4.อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหว

ตอบ การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณี ทำให้หินเปลี่ยนลักษณะเลื่อนตัวแตกตัว และถ่ายโอนพลังงาน อย่างรวดเร็วให้กับพื้นที่ติดกันในรูปของคลื่นไหวสะเทือน



5.ท่านคิดอย่างไรจากคำกล่าวที่ว่า"ภูเขาไฟเป็นเสมือนหน้าต่างที่สามารถมองเห็นถึงภายในของโลก" 

ตอบ เป้นการเปรียบเทียบถึงการทีเราสารมารถนำวัตถุที่ภูเขาไฟพ่นนำออกมาศึกษา และองค์ประกอบของหินสารถนำมาวิเคราะห์ได้

6.บอกประโยชน์และโทษของการเกิดแผ่น ดินไหว และภูเขาไฟระเบิด

ตอบ  ประโยชน์ของภูเขาไฟระเบิด 1) ทำให้เกิดแผ่นดินใหม่ 2) แร่ธาตุมหาศาลทำให้เกิดความอุดมสมบูรณ์บนพื้นดิน โทษของภูเขาไฟ 1) สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อชีวิตและทรัพย์ต่อพื้นที่โดยรอบ 2) ภูเขาไฟทำให้เกิดควันพิษและเขม่าปริมาณมหาศาลขึ้นชั้นบรรยากาศทำให้โลกเสียสมดุล



7.อธิบายความหมายของคำต่อไปนี้ "ภูเขาไฟมีพลัง" และ"คาบอุบัติซ้ำ"ตอบ ภูเขาไฟมีพลัง หมายถึง ภูเขาไฟที่ยังสามารถประทุขึ้นได้อีก คาบอุบัติซ้ำ หมายถึง ระยะเวลาครบรอบของแผ่นดินไหวที่เคยเกิดขึ้น ณ ที่ใดที่หนึ่ง

8.เพราะเหตุใดปรากฏการณ์ภูเขาไฟระเบิดและแผ่นดินไหว มักเกิดตามเขตมุดตัวของแผ่นธรณี

ตอบ      เพราะ แผ่นธรณีภาคใต้มหาสมุทรชนกับแผ่นธรณีภาคใต้มหาสมุทร แผ่นธรณีภาคจะมุดลงใต้อีกแผ่นหนึ่ง ปลายของแผ่นที่มุดลงจะหลอมตัวกลายเป็นแมกมาและปะทุขึ้นมาบนแผ่นธรณีภาคใต้ มหาสมุทร

9.รอยคดโค้ง รอยแตก รอยเลื่อนในหินมีลักษณะเหมือนกันหรือไม่ และเกิดขึ้นได้อย่างไร

ตอบ      - รอยคดโค้งเกิดจากชั้นหินถูกเปลี่ยนรูป-ในระดับเกินขีดอิลาสติก(elastic limit)ชั้นหินจะมีการเปลี่ยนรูปแบบพลาสติก(plastic deformation)เมื่อมีความดันรอบข้าง(confining pressure)กระทำทุกทิศทางหรือหินหนืดดันขึ้นมา หินจะเกิดการเคลื่อนที่แบบ flow ในทิศทางใดก็ได้

รอยแตก(Fracture)เป็นการแตกอย่างไม่มีทิศทางที่แน่นอนและพื้นผิวของรอยแตกไม่เป็นระนาบเรียบ

รอยเลื่อน(Fault) เมื่อหินถูกความเค้นหรือถูกแรงกระทำ จนมีความเครียดเกินขีดพลาสติกหินจะแตกหักเคลื่อนที่ออกจากกันเป็นรอย เลื่อน(fault)ขึ้น ปกติการเคลื่อนที่ของหินจะเกิดในทิศทางขนานกับรอยเลื่อน

10.จากแนวการเคลื่อนที่จากแผ่นธรณีต่างๆ จะมีผลต่อภูมิประเทศของโลกอย่างไรในอนาคต

ตอบ      ธรรมชาติ : อย่างรวดเร็ว เช่น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟ --อย่างช้า ๆ  เช่น  การกร่อน

มนุษย์ : การดำรงชีวิต และ ทดลองนิวเคลียร์

หนว่ ยที่ 2 การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของโลก

ธรณภี าค
บรรยากาศภาค
อุทกภาค
ชวี ภาค
การเปล่ียนแปลงทางกายภาพท่สี ง่ ผลต่อ ภูมิประเทศ ภมู อิ ากาศ และ
ทรัพยากรธรรมชาติ

แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ 2 การเปลย่ี นแปลงทางกายภาพของโลก

คาชีแ้ จง: ให้นกั เรยี นเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว

1. ข้อใดเป็นส่วนของเปลือกโลกทีเ่ รียกวา่ ธรณีภาค

ก. ช้นั เปลอื กโลกเพยี งอยา่ งเดยี ว ข. ช้ันเน้ือโลกส่วนกลางกับชั้นแกน่ โลก

ค. ช้ันเนือ้ โลกส่วนบนกบั ชั้นเปลอื กโลก ง. ชัน้ เปลอื กโลกท้งั หมดกบั ช้นั ในเนื้อโลก

2. การเลอื่ นของทวีปทเ่ี รยี กวา่ แผน่ ดินพันเจีย มลี กั ษณะอยา่ งไร

ก. พ้นื ผิวทเ่ี ปน็ ทะเล ข. ทวปี ที่แยกกันเปน็ 2 ทวีป

ค. แผน่ ดินท่ีจมอยู่ใตม้ หาสมุทร ง. เปลือกโลกท่เี ชือ่ มต่อกันเป็นทวปี เดียว

3. เทอื กเขาหมิ าลัย เกดิ จากปรากฏการณท์ างธรณภี าคแบบใด

ก. การชนกันของแผ่นเปลอื กโลก ข. การแยกกนั ของแผน่ เปลอื กโลก

ค. การเฉอื นกันของแผ่นเปลือกโลก ง. การคดโคง้ โกง่ งอของแผ่นเปลือกโลก

4. ข้อใดสาคญั เปน็ อันดับแรกในการบ่งบอกถึงการเปน็ บริเวณวงแหวนแห่งไฟ

ก. มีแนวรอยต่อของแผ่นธรณภี าคหลายแผ่น

ข. มีการเคลื่อนท่ขี องแผ่นธรณีภาคตลอดเวลา

ค. มีภเู ขาไฟระเบดิ มากทส่ี ุดในโลก ท้งั ในแผน่ ดนิ และใต้มหาสมุทร

ง. มแี ผ่นดนิ ไหวรุนแรงมากทสี่ ดุ ในโลกถึงร้อยละ 80 ของการเกิดแผ่นดนิ ไหวในโลก

5. กระแสนา้ ลม ธารน้าแขง็ แรงโนม้ ถ่วงของโลก เรยี กกระบวนการนว้ี ่าอะไร

ก. การกรอ่ น ข. การพัดพา ค. การตกตะกอน ง. การผุพังอยู่กบั ท่ี

6. บรรยากาศช้ันใดของโลกทีเ่ กดิ เมฆพายฝุ นฟ้าคะนอง

ก. เมโซสเฟียร์ ข. โทรโฟสเฟียร์ ค. เทอร์โมสเฟียร์ ง. สแตรโทสเฟียร์

7. เพราะเหตุใด อณุ หภูมบิ นยอดเขาจึงเย็นกว่าอุณหภมู ิของอากาศบรเิ วณเชงิ เขา

ก. บนยอดเขามลี มพัดแรงกว่าเชงิ เขา ข. บนยอดเขามีต้นไมม้ ากลมจงึ พัดไดแ้ รง

ค. บนยอดเขามีความกดอากาศนอ้ ยกว่าเชงิ เขา ง. บนยอดเขามีความกดอากาศมากกว่าเชิงเขา

8. การเคล่อื นทีข่ องลมมีทิศทางเปน็ อย่างไร

ก. จากหยอ่ มความกดอากาศสูงไปสู่หย่อมความกดอากาศตา่

ข. จากหย่อมความกดอากาศตา่ ไปสู่หย่อมความกดอากาศสูง

ค. จากหย่อมความกดอากาศสูงไปสู่หย่อมความกดอากาศสูง

ง. จากหยอ่ มความกดอากาศตา่ ไปส่หู ย่อมความกดอากาศตา่

9. ชัน้ โอโซนมปี ระโยชนต์ ่อโลกอยา่ งไร

ก. ชว่ ยให้อากาศสดชื่น ข. ช่วยดดู กลนื รงั สีอลั ตราไวโอเลต

ค. ชว่ ยลดปรมิ าณสารพษิ ในอากาศ ง. ชว่ ยเพ่ิมปริมาณออกซเิ จนในอากาศ

10. ข้อใดเป็นลกั ษณะการเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ

ก. น้าในมหาสมุทรแปซฟิ ิกดา้ นตะวนั ตกมีอณุ หภูมคิ งท่ี

ข. นา้ ในมหาสมทุ รแปซฟิ ิกดา้ นตะวนั ตกมีอณุ หภมู ิสงู ข้ึน

ค. นา้ ในมหาสมุทรแปซฟิ ิกดา้ นตะวนั ออกมีอุณหภูมิสงู ขึน้

ง. นา้ ในมหาสมทุ รแปซิฟิกดา้ นตะวันออกมีอุณหภมู ลิ ดลง

11. ปัจจยั ในขอ้ ใดท่ีสาคัญที่สุดในการเกิดวัฏจักรของน้า

ก. ลม ข. ป่าไม้ ค. สิ่งมีชวี ติ ง. ความรอ้ น

12. หากใช้แหล่งน้าจืดข้อใดในปริมาณมาก จะมีผลต่อการทรดุ ตวั หรือยบุ ตัวของแผ่นดิน

ก. น้าในดิน ข. น้าผวิ ดนิ ค. น้าบาดาล ง. น้าในอา่ งเก็บนา้

13. เพราะเหตใุ ด การสรา้ งเขือ่ นกั้นแมน่ า้ โขงของประเทศจนี จึงส่งผลกระทบต่อระบบนเิ วศของแมน่ า้ โขง

ตอนล่าง

ก. ทาให้นา้ ต้ืนเขิน ข. ทาให้มีสารพิษในนา้

ค. ทาให้ตลงิ่ ก้ันน้าพงั ทลาย ง. ทาให้การขนึ้ ลงของน้าผิดปกติ

14. ข้อใดเป็นสาเหตุท่ีทาให้ลักษณะทางกายภาพของท้องทะเลเมืองดไู บ มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

ก. การทิง้ ของเสยี จากครัวเรือน ข. การขยายพืน้ ทด่ี ว้ ยการถมทะเล

ค. การจับสัตว์น้าและเกบ็ ปะการังมากเกินไป ง. การรั่วไหลของน้ามันเชื้อเพลงิ จากเรือประมง

15. “ครู ลิ แบงส์” พบได้ในบริเวณใด

ก. มหาสมทุ รอินเดยี ข. กลางมหาสมุทรแปซิฟกิ

ค. ทางตะวนั ตกของประเทศญีป่ ุน่ ง. ทางตะวันออกของประเทศญป่ี ุ่น

16. ปา่ ทขี่ ึ้นไดด้ ใี นสภาพแวดล้อมท่เี ป็นดินเลนและน้ากรอ่ ยมีพันธ์ไุ ม้และสัตว์น้าเจรญิ เติบโตได้ดคี อื ปา่ ชนิดใด

มคี วามสาคญั อยา่ งไร

ก. ปา่ สน : แหลง่ ประมง ข. ป่าแดง : แหล่งท่องเท่ียว

ค. ป่าดงดบิ : แหลง่ เก็บปะการงั ชายฝ่ัง ง. ปา่ ชายเลน : แหลง่ รักษาสมดุลของระบบนเิ วศชายฝ่ัง

17. ปจั จัยทางกายภาพข้อใดมอี ิทธพิ ลตอ่ การเปล่ียนแปลงระบบชวี นิเวศของโลกมากทส่ี ดุ

ก. ดนิ ข. ไฟป่า ค. อุณหภมู ิ ง. ความชน้ื

18. ระบบนิเวศในบริเวณใดที่มคี วามหลากหลายของสิ่งมีชีวิตมากท่ีสุด

ก. ป่าฝนเขตร้อนในแถบศูนย์สูตร ข. ทุง่ หญา้ สะวันนาในทวปี แอฟริกา

ค. ปา่ เขตอบอนุ่ ในทวีปออสเตรเลีย ง. ป่าสนหรือไทกาในไซบีเรยี ประเทศรัสเซยี

19. เมอ่ื เกิดการเปลย่ี นแปลงแทนทีแ่ บบปฐมภมู บิ รเิ วณภเู ขาไฟทีป่ ะทใุ หม่ ๆ สงิ่ มชี ีวติ ที่จะเขา้ มาอย่ใู นพ้นื ที่

ได้เปน็ กลุ่มแรกคอื ขอ้ ใด

ก. ไม้ล้มลุก ข. หญา้ และวัชพืช

ค. มอสสแ์ ละไลเคน ง. เห็ดราและสาหร่าย

20. ปจั จยั ร้ายแรงที่สดุ ทีท่ าให้เกดิ การเปลยี่ นแปลงแทนท่ีของสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติคือข้อใด

ก. ปัจจัยทางเคมี ข. ปจั จยั ทางฟิสกิ ส์

ค. ปจั จัยทางชีวภาพ ง. ปัจจยั ทางกายภาพ

ชือ่ ………………………………………………………………………………...เลขท่ี………………..ห้อง………………..

กระดาษคาตอบ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 การเปลย่ี นแปลงทางกายภาพของโลก
คาส่งั จงเลอื กคาตอบท่ถี ูกท่ีสุดเพียงข้อเดยี ว ใชเ้ วลาในการสอน 20 นาที
ข้อท่ี 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20




หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การเปล่ียนแปลงทางกายภาพของโลก

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
คงกงกขคกขค
11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
งคงขง งขกคค

แบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยท่ี 2 การเปลีย่ นแปลงทางกายภาพของโลก

เร่ือง ธรภี าค

คาช้ีแจง: ให้นกั เรียนเลือกคาตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว

1. ขอใดกลาวถกู ตองท่ีสุดเก่ียวกบั ธรณภี าค

ก. เปนสวนของเนื้อโลกทั้งหมดท่ีอยูดานในจนถึงแกนโลก

ข. เปนสวนเฉพาะสวนเปลือกโลกลกึ ลงไปจากพื้นผิวโลกประมาณ 70 กิโลเมตร

ค. เปนของแข็งและหินหลอมละลายปะปนกนั อยูใตผิวโลก

ง. เปนชนั้ ที่เปนหินทั้งหมดของโลก

2. แกนโลกชนั้ ในมีลักษณะตามขอใดมากที่สดุ

ก. ประกอบดวยเหล็กและนิกเกลิ ในสภาพหลอมละลาย

ข. ประกอบดวยเหลก็ และนิกเกิลในสภาพของแข็ง

ค. เปนซลิ กิ อนและอลมู ินาท่เี รยี กวาไซอลั

ง. สวนประกอบเปนหินหนดื จานวนมากที่ผสมระหวางแมกนเี ซียมและซิลิกอน

3. เนือ้ โลกชนั้ ใดมีความหนามากท่สี ดุ

ก. เน้อื โลกชนั้ บนสุด ข. เน้ือโลกชั้นบน ค. เนื้อโลกชั้นลาง ง. ทุกชน้ั มีความหนาเทากัน

4. การแปรสณั ฐานของเปลือกโลกทเี่ กดิ ขึน้ มคี วามสัมพันธกับขอใดมากทส่ี ุด

ก. การละลายของน้าแขง็ ข้วั โลกขนาดมหึมา

ข. พลังงานความรอนใตพภิ พทาใหแมกมาเคล่ือนตวั

ค. พลังงานความรอนจากดวงอาทิตยท่ีทาใหแมกมาเคล่ือนที่

ง. แกนโลกช้ันในสดุ มีการเคล่ือนตวั ของหินหนืด

5. การเคล่ือนทข่ี องแผนธรณีภาคตามทฤษฎีทวีปเล่ือนของ อลั เฟรด เวเกเนอร แผนดนิ ลอเรเซียและแผนดิน

กอนดวานา เรม่ิ แยกจากกนั ในยคุ ใด

ก. ยุคไทรแอสสคิ ข. ยุคจแู รสสคิ ค. ยุคครเี ทเซยี ส ง. ยคุ เพอรเมียน

6. จากทฤษฎีทวีปเล่ือนของ อลั เฟรด เวเกเนอร ทาใหเกิดเทอื กเขาหิมาลัยจากการเคลอ่ื นท่ตี ามเหตุการณใด

ก. การเคลือ่ นที่ของแผนอินเดยี ไปชนกบั แผนยูเรเซีย

ข. การเคลือ่ นท่ีของแผนแอฟริกาไปชนกับแผนยเู รเซยี

ค. การเคลอ่ื นตัวแยกของแผนอเมริกาจากแผนยเู รเซีย

ง. การดันตัวของหินหนดื จากการเคลื่อนท่ีของทวปี เลื่อน

7. การผุผงั อยกู ับท่ี (weathering) ไมเก่ยี วของกบั ขอใด

ก. อุณหภมู แิ ละความชื้น

ข. กระบวนการทางเคมีท่ีเกิดจากนา้

ค. การท่ีรากพืชแทรกตัวเขาไปในกอนหนิ แลวทาใหหินแตก

ง. การเกิดเปนตะกอนรปู พักบริเวณปากแมน้าในขณะน้าหยุดไหล

8. ขอใดเปนการผพุ ังอยูกับที่ทางเคมี

ก. การเกดิ ถ้าโพลง หินงอกและหินยอย

ข. การดนั ตวั ของรากไมทาใหหนิ แตกจากกระบวนการจรุ นิ ทรียยอยสลายอนิ ทรียวตั ถุ

ค. การเกิดหลุมยบุ ขนาดใหญจากการทรดุ ตัวของดิน

ง. หินแตกเปนกาบจากรงั สีความรอนของดวงอาทติ ย

9. กระบวนการพัดพาโดยน้าเปนไปตามขอใดมากทสี่ ุด

ก. การครดู ถู การพัดกราด การพัดพา

ข. การพัดพา การทับถม การพัดกราด

ค. การพดั กราด การทับถม การพดั พา

ง. การกระทบ การพดั พา การทับถม

10. ขอใดเปนตวั กระตุนที่ทาใหมวลของดนิ เคลอ่ื นท่ี

ก. แรงสน่ั สะเทือน คล่ืนทะเล ข. ลม น้า

ค. นา้ หนกั แรงสน่ั สะเทือน ง. หิน คล่นื ทะเล

ชือ่ ………………………………………………………………………………...เลขท่ี………………..หอ้ ง………………..

กระดาษคาตอบ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 การเปลีย่ นแปลงทางกายภาพของโลก เร่ือง ธรณีภาค
คาส่ัง จงเลอื กคาตอบท่ถี ูกที่สุดเพยี งข้อเดยี ว ใชเ้ วลาในการสอน 10 นาที

ขอ้ ท่ี 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10




หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของโลก เร่อื ง ธรณภี าค

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
ขขคขงกงกงค

ใบงานที่ 2.1 ชือ่ …………………………………………………………………………

หนว่ ยที่: 2 การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของโลก เลขที่……………………..ห้อง…………………………………………

เรอื่ ง: ธรณีภาค ครผู ูส้ อน…………………………………………………………………

วิชา: ภมู ิศาสตร์ ม.4-6 (เลม่ 1) โรงเรียน…………………………………………………………………

คาชแี้ จง: ใหนกั เรยี นตอบคาถามตอไปน้ใี หถกู ตอง คะแนนเต็ม 10 คะแนน (ขอละ 2 คะแนน)

1. เปลือกโลกมีลกั ษณะเป็นอยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

2. เปลือกโลกสวนท่ีเป็นภาคพื้นทวีป มีองค์ประกอบส่วนใหญเ่ ป็นอะไรและมชี ือ่ เรียกวา่ อย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

3. เนอ้ื โลกชนั้ ใดมีความหนามากท่สี ดุ และมลี ักษณะเป็นอยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

4. เนอ้ื โลกชน้ั ใดท่มี ีสถานะแตกต่างจากชั้นอ่ืนๆ มากที่สุด เพราะเหตุใด
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

5. จงอธิบายความแตกต่างระหว่างแกนโลกชัน้ นอกกับแกนโลกชัน้ ในมาให้เข้าใจและถูกต้อง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ใบงานท่ี 2.1 ชอื่ …………………………………………………………………………

หนว่ ยท่ี: 2 การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของโลก เลขท่ี……………………..ห้อง…………………………………………

เร่อื ง: ธรณภี าค ครูผู้สอน…………………………………………………………………

วชิ า: ภมู ศิ าสตร์ ม.4-6 (เลม่ 1) โรงเรยี น…………………………………………………………………

คาชี้แจง: ใหนักเรยี นตอบคาถามตอไปนีใ้ หถกู ตอง คะแนนเต็ม 10 คะแนน (ขอละ 2 คะแนน)

1. เปลอื กโลกมลี กั ษณะเป็นอยา่ งไร

เปลือกโลกเปนสวนทีอ่ ยนู่ อกสดุ ของโลก มีสถานะเปนของแขง็ มีความหนาประมาณ 70 กิโลเมตร โดยแบง ออกเปน 2 สวน คอื
เปลือกโลกสวนภาคพืน้ ทวีปและเปลือกโลกสวนภาคพน้ื สมุทร

2. เปลือกโลกสวนท่เี ป็นภาคพ้ืนทวีป มีองค์ประกอบส่วนใหญเ่ ป็นอะไรและมีชื่อเรียกวา่ อย่างไร

เปลอื กโลกภาคพ้นื ทวีปองคประกอบสวนใหญเปนซลิ กิ อน (silicon) และอลมู นิ า (alumina) เรยี กวา ไซอลั (sial)

3. เน้ือโลกชัน้ ใดมีความหนามากทส่ี ดุ และมลี ักษณะเป็นอยา่ งไร

เน้อื โลกทม่ี ีความหนามากทส่ี ุด คือ เนอื้ โลกช้ันลาง มคี วามหนาประมาณ 1,000 – 2,900 กิโลเมตร ประกอบดวยหินหนดื ท่ีมีความ
หนืดมาก

4. เน้ือโลกชนั้ ใดที่มีสถานะแตกต่างจากชนั้ อ่นื ๆ มากทีส่ ุด เพราะเหตุใด

เน้ือโลกชน้ั บนสดุ มสี ถานะเปนของแขง็ สวนเนื้อโลกชั้นบนกับเนอ้ื โลกชั้นลางเปนหินหนดื และแมกมา

5. จงอธิบายความแตกต่างระหว่างแกนโลกชนั้ นอกกับแกนโลกช้นั ในมาให้เข้าใจและถูกต้อง

แตกตางกันทแ่ี กนโลกชั้นนอกอยูในสภาพหลอมละลายแตแกนโลกชน้ั ในอยูในสภาพแข็ง
โดยประกอบดวย เหล็กและนิกเกลิ ท้ัง 2 ชนั้

ใบงานที่ 2.2 ชือ่ …………………………………………………………………………

หน่วยท่ี: 2 การเปลยี่ นแปลงทางกายภาพของโลก เลขท่ี……………………..หอ้ ง…………………………………………

เร่ือง: ธรณภี าค ครูผสู้ อน…………………………………………………………………

วชิ า: ภูมศิ าสตร์ ม.4-6 (เล่ม 1) โรงเรยี น…………………………………………………………………

คาช้ีแจง: ใหนกั เรยี นนาตัวอกั ษรหนาขอความในกรอบเล็กมาเขียนลงในชองวางหนาขอความในกรอบใหญที่มี

ความสัมพันธกันอยางถูกตอง คะแนนเต็ม 10 คะแนน

ก. ธรณีภาค ข. ไซอัล ค. ไซมา ง. แกนโลกช้นั ใน
ฉ. แกนโลกช้ันนอก ฉ. เน้ือโลกชน้ั บนสุด ช. เนอื้ โลกชั้นบน ซ. เนอ้ื โลกช้นั ล่าง

……………………... 1. เหล็กและนกิ เกิลในสภาพหลอมละลาย
……………………... 2. เปลือกโลกท่ีมสี วนประกอบของซิลิคอนและแมกนเี ซียม
……………………... 3. เปนช้ันหินหนืดท่ีมคี วามหนดื มาก
……………………... 4. เหลก็ และนิกเกลิ ในสภาพของแข็ง
……………………... 5. เปลือกโลกที่มสี วนประกอบของซิลิคอนและอลมู นิ า
……………………... 6. อยูชน้ั ลางของธรณีภาค
……………………... 7. ฐานธรณภี าค มคี วามลึก 400 กิโลเมตร
……………………... 8. สวนเปลือกโลกทีเ่ ปนของแข็ง อยูช้นั นอกสดุ ของเปลอื กโลก
……………………... 9. สวนท่อี ยูดานในสดุ ของโลก
……………………... 10. สวนทห่ี นาที่สดุ ของเน้ือโลก
คาชแ้ี จง: ใหนักเรยี นหาข่าวเกี่ยว การเปลย่ี นแปลงทางกายภาพของโลก เรื่อง ธรณภี าค มา 1 หวั ขอ้ ข่าว (พร้อม
ติดขา่ วและสรปุ ใจความจากข่าวท่ีศกึ ษา)

ใบงานที่ 2.2 ช่อื …………………………………………………………………………

หนว่ ยท่ี: 2 การเปลยี่ นแปลงทางกายภาพของโลก เลขท่ี……………………..หอ้ ง…………………………………………

เร่อื ง: ธรณภี าค ครผู ู้สอน…………………………………………………………………

วิชา: ภูมิศาสตร์ ม.4-6 (เลม่ 1) โรงเรยี น…………………………………………………………………

คาชี้แจง: ใหนักเรยี นนาตัวอกั ษรหนาขอความในกรอบเล็กมาเขียนลงในชองวางหนาขอความในกรอบใหญทมี่ ี

ความสัมพันธกนั อยางถกู ตอง คะแนนเต็ม 10 คะแนน

ก. ธรณีภาค ข. ไซอัล ค. ไซมา ง. แกนโลกชนั้ ใน
จ. แกนโลกช้นั นอก ฉ. เน้ือโลกชน้ั บนสดุ ช. เนอ้ื โลกชนั้ บน ซ. เนือ้ โลกช้นั ล่าง

จ. แกนโลกช้นั นอก 1. เหลก็ และนิกเกิลในสภาพหลอมละลาย
ค. ไซมา 2. เปลอื กโลกที่มสี วนประกอบของซลิ ิคอนและแมกนีเซียม
ซ. เน้ือโลกช้ันลา่ ง 3. เปนช้นั หนิ หนืดทมี่ คี วามหนดื มาก
ง. แกนโลกชั้นใน 4. เหล็กและนกิ เกิลในสภาพของแข็ง
ข. ไซอลั 5. เปลือกโลกท่มี สี วนประกอบของซลิ ิคอนและอลูมินา
ช. เนื้อโลกช้นั บน 6. อยูชั้นลางของธรณภี าค
ช. เนือ้ โลกชนั้ บน 7. ฐานธรณภี าค มีความลึก 400 กโิ ลเมตร
ก. ธรณีภาค 8. สวนเปลอื กโลกที่เปนของแขง็ อยูชัน้ นอกสุดของเปลือกโลก
ง. แกนโลกช้ันใน 9. สวนท่ีอยูดานในสดุ ของโลก
ซ. เนื้อโลกชน้ั ลา่ ง 10. สวนทห่ี นาทีส่ ดุ ของเน้ือโลก
คาช้ีแจง: ใหนกั เรยี นหาข่าวเกยี่ ว การเปล่ียนแปลงทางกายภาพของโลก เรอ่ื ง ธรณภี าค มา 1 หวั ข้อข่าว (พร้อม
ติดข่าวและสรุปใจความจากข่าวท่ีศึกษา)

พจิ ราณาตามความเหมาะสมของครผู สู้ อน

ใบงานที่ 2.3 ชอ่ื …………………………………………………………………………

หน่วยที่: 2 การเปล่ยี นแปลงทางกายภาพของโลก เลขท่ี……………………..หอ้ ง…………………………………………

เรือ่ ง: ธรณีภาค ครผู สู้ อน…………………………………………………………………

วิชา: ภมู ิศาสตร์ ม.4-6 (เล่ม 1) โรงเรียน…………………………………………………………………

คาชแี้ จง: ใหนักเรยี นตอบคาถามตอไปนี้

1. กระบวนการเปล่ียนแปลงของธรณีภาคประกอบดวยกระบวนการใดบาง……………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. การแปรสณั ฐานของเปลือกโลก เกิดขน้ึ ไดอยางไร……………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. การเคล่ือนท่ีของแผนธรณีภาคมีกี่ลกั ษณะ อะไรบาง………………………………………………………………………..

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

4. รอยคดโคงของแผนธรณภี าคเกดิ ขึ้นไดอยางไร………………………………………………………………………………..

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

5. ภเู ขาไฟเกดิ ขน้ึ ไดอยางไร และสงผลใหธรณีภาคเปลย่ี นแปลงอยางไรบาง…………………………………………..

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

6. รอยเลื่อนเกิดข้นึ ไดอยางไร และมกี ่แี บบ…………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

7. กระบวนการลดระดบั บนพนื้ ผวิ โลก ไดแกกระบวนการใดบาง……………………………………………………………

8. การผุพังอยกู ับที่มีก่ลี กั ษณะ อะไรบาง และเกดิ ขึ้นไดอยางไร……………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

9. จงอธบิ ายความสัมพนั ธระหวางกระบวนการกรอนกับการพดั พาและทบั ถม มาใหเขาใจและถูกตอง

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10. จงอธิบายความแตกตางระหวางดินถลมและดนิ ไหลมาใหเขาใจและถูกตอง

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ใบงานท่ี 2.3 ชือ่ …………………………………………………………………………

หน่วยท่ี: 2 การเปลย่ี นแปลงทางกายภาพของโลก เลขท่ี……………………..หอ้ ง…………………………………………

เรื่อง: ธรณภี าค ครผู ูส้ อน…………………………………………………………………

วชิ า: ภมู ิศาสตร์ ม.4-6 (เลม่ 1) โรงเรียน…………………………………………………………………

คาชีแ้ จง: ใหนักเรียนตอบคาถามตอไปนี้

1. กระบวนการเปล่ียนแปลงของธรณีภาคประกอบดวยกระบวนการใดบาง กระบวนการเปลย่ี นแปลงจากแรงภายใน

โลก (endogenic process) และ กระบวนการเปลย่ี นแปลง บนพ้นื ผิวโลก (exogamic process)

2. การแปรสณั ฐานของเปลือกโลก เกดิ ข้ึนไดอยางไร เกิดข้ึนจากการที่ความรอนภายในโลกทาใหแมกมาเคล่อื นตวั อยาง

ชาๆ เปนผลทาใหธรณภี าคทเ่ี ปนของแขง็ เกดิ การเคลือ่ นที่และแตกออกเปนแผนขนนาดตางๆ

3. การเคลอ่ื นทีข่ องแผนธรณีภาคมกี ีล่ ักษณะ อะไรบาง 3 ลักษณะ คือ การเคลอื่ นที่ชนกัน การเคล่อื นทีแ่ ยกออกจากก

กัน แลการเคล่อื นท่ีผานกัน

4. รอยคดโคงของแผนธรณีภาคเกดิ ข้ึนไดอยางไร เกิดจากแผนธรณีภาคเคล่ือนชนกนั และมีแรงเคนและแรงเครยี ดของ

เปลอื กโลกทาใหเกดิ การโคงงอและพบั เปนรูปคดโคงตามแรงดนั น้ัน

5. ภเู ขาไฟเกดิ ข้นึ ไดอยางไร และสงผลใหธรณีภาคเปลย่ี นแปลงอยางไรบาง เกิดจากแรงดันภายในเมื่อเกิดอณุ หภมู ิ

สูงขึ้นหรือแรงดันเพมิ่ ข้นึ โดยจะดนั หนิ หนืดใหขน้ึ มาบนผวิ โลก ตามรอยแตกหรือปลองภเู ขา เม่ือหินหนดื ดันตัวออกมาภายนอก

แลวจะไหลไปตามพนื้ ลาดเอยี งของ ภมู ิประเทศและเกิดการทบั ถม

6. รอยเล่ือนเกดิ ขน้ึ ไดอยางไร และมีกแี่ บบ เกิดจากการทเี่ ปลือกโลกมีรอยแตกและเกิดแรงดนั ภายในโลกทาใหเปลอื กโลก

ขยับตวั โดยเกิดได 3 ลักษณะ คอื รอยเลอ่ื นปกติ รอยเลือ่ นยอน และรอยเล่อื นตามแนวระนาบ

7. กระบวนการลดระดับบนพ้นื ผวิ โลก ไดแกกระบวนการใดบาง

1. การผพุ ังอยกู บั ท่ี 2. กระบวนการกรอน 3. การเคลื่อนทีข่ องมวล

8. การผพุ งั อยกู ับท่ีมีก่ีลักษณะ อะไรบาง และเกิดขน้ึ ไดอยางไร 3 ลกั ษณะ คือ การผพุ งั อยูกบั ทท่ี างฟสิกส การผพุ งั อยู

กบั ทท่ี างเคมี และการผพุ ังอยกู บั ทท่ี างชวี ภาพ

9. จงอธบิ ายความสัมพนั ธระหวางกระบวนการกรอนกบั การพัดพาและทับถม มาใหเขาใจและถูกตอง

กระบวนการกรอนเปนการกดั เซาะโดยตัวกระทาทางธรรมชาติ ไดแกแมน้า ลม ธารนา้ แข็ง และคลนื่ โดยมวลสารทกี่ รอนออกจะ

กลายเปนตะกอนขนาดตางๆ แลวตวั กระทาจะเปนตวั พัดพาตะกอนเหลานน้ั ไปตกทบั ถมกลายเปนภูมิปะเทศตางๆ

10. จงอธบิ ายความแตกตางระหวางดนิ ถลมและดนิ ไหลมาใหเขาใจและถูกตอง แผนดินถลมจะเปนการเคล่อื นทีข่ อง

มวลแผนดิน สิ่งทอี่ ยบู นแผนดินจะเคลื่อนลงมาดวย สวนดินไหลเปนดนิ หรือหินที่เทานัน้ ทไ่ี หลมาตามทลี่ าดเชิงเขาหรอไหลเขา

ใบงานท่ี 2.4 ชอื่ …………………………………………………………………………

หนว่ ยที่: 2 การเปลีย่ นแปลงทางกายภาพของโลก เลขที่……………………..ห้อง…………………………………………

เร่อื ง: ธรณีภาค ครูผูส้ อน…………………………………………………………………

วชิ า: ภมู ิศาสตร์ ม.4-6 (เลม่ 1) โรงเรียน…………………………………………………………………

คาชีแ้ จง: นักเรยี นใสเครื่องหมาย หนาขอความท่ีเหน็ วาถกู ตองและใสเคร่ืองหมาย X หนาขอความท่เี หน็ วาผิด

…………………….. 1.การแปรสัณฐานของเปลือกโลกเกดิ จากพลงั งานความรอนใตเปลือกโลก

…………………….. 2.พนั เจีย (Pangea) ทป่ี ระกอบดวยแผนดินขนาดใหญ 2 สวน คือ แผนดนิ ลอเรเซยี ทางซีกโลก
เหนอื และแผนดินกอนดวานาทางซีกโลกใต

…………………….. 3.ทฤษฎีทวีปเล่ือนเปนของ อัลเฟรด เวเกเนอร นักฟสิกสชาวเยอรมน

…………………….. 4.การเคลือ่ นทข่ี องเปลอื กโลกทมี่ ีความหนาแนนนอยกวาจะมดุ เขาไปใตเปลือกโลกที่มีความ
หนาแนนมากกวา

…………………….. 5.เทอื กเขาหมิ าลัยเกดิ ข้นึ ในยุคจแู รสสคิ

…………………….. 6.การทรี่ ากไมไปดันใหหินแตก เราเรียกวาเปนกระบวนการกรอน

…………………….. 7.น้าจะพัดพาอนุภาคที่มขี นาดเลก็ ไปไดไกลกวาอนุภาคที่มีขนาดใหญ

…………………….. 8.การทนี่ ้าพัดพาตะกอนไปตกทับถมบรเิ วณปากแมนา้ จะทาใหเกิดตะกอนรูปพัดได

…………………….. 9.นา้ หนักและแรงส่นั สะเทือนเปนตวั กระตุนใหมวลเคล่ือนที่

…………………….. 10.การกระทาจากแรงภายในเปลอื กโลกไมสงผลใหเกิดการเปลี่ยนแปลงบนพ้นื ผิวโลก

ใบงานท่ี 2.4 ชอื่ …………………………………………………………………………

หน่วยที่: 2 การเปลยี่ นแปลงทางกายภาพของโลก เลขท่ี……………………..หอ้ ง…………………………………………

เร่อื ง: ธรณีภาค ครผู สู้ อน…………………………………………………………………

วชิ า: ภูมิศาสตร์ ม.4-6 (เล่ม 1) โรงเรียน…………………………………………………………………

คาชแ้ี จง: นักเรยี นใสเคร่ืองหมาย หนาขอความทเี่ หน็ วาถูกตองและใสเครื่องหมาย X หนาขอความที่เหน็ วาผดิ

…………………….. 1.การแปรสัณฐานของเปลือกโลกเกิดจากพลังงานความรอนใตเปลอื กโลก

…………………….. 2.พนั เจยี (Pangea) ทปี่ ระกอบดวยแผนดินขนาดใหญ 2 สวน คอื แผนดินลอเรเซยี ทางซีกโลก
เหนือ และแผนดนิ กอนดวานาทางซีกโลกใต

…………………….. 3.ทฤษฎีทวปี เลือ่ นเปนของ อัลเฟรด เวเกเนอร นักฟสกิ สชาวเยอรมนี

…………X………….. 4.การเคลอื่ นทข่ี องเปลือกโลกที่มคี วามหนาแนนนอยกวาจะมดุ เขาไปใตเปลือกโลกที่มีความ

หนาแนนมากกวา

…………X………….. 5.เทือกเขาหิมาลยั เกิดข้ึนในยุคจแู รสสคิ
…………X………….. 6.การทรี่ ากไมไปดันใหหินแตก เราเรยี กวาเปนกระบวนการกรอน

…………………….. 7.น้าจะพดั พาอนุภาคท่ีมีขนาดเล็กไปไดไกลกวาอนุภาคท่ีมีขนาดใหญ

…………………….. 8.การทน่ี ้าพัดพาตะกอนไปตกทบั ถมบริเวณปากแมน้าจะทาใหเกดิ ตะกอนรปู พัดได

…………………….. 9.น้าหนกั และแรงสนั่ สะเทือนเปนตวั กระตุนใหมวลเคลือ่ นท่ี

…………X………….. 10.การกระทาจากแรงภายในเปลือกโลกไมสงผลใหเกิดการเปลีย่ นแปลงบนพื้นผิวโลก

ใบงานที่ 2.5 ชอ่ื …………………………………………………………………………

หนว่ ยที่: 2 การเปล่ยี นแปลงทางกายภาพของโลก เลขที่……………………..ห้อง…………………………………………

เรื่อง: ธรณีภาค ครูผ้สู อน…………………………………………………………………

วิชา: ภมู ิศาสตร์ ม.4-6 (เล่ม 1) โรงเรยี น…………………………………………………………………

คาช้ีแจง: ใหนกั เรยี นอธบิ ายตามรปู ภาพท่ีกาหนดใหใหถูกตอง

เป็นการเคล่อื นท่ีแบบ……………………………….…………………………………………
ลกั ษณะการเกิด……………………………….……………………………………………………

……………………………….…………………………………………..……………………………….…
……………………………………………………………………………….………………………………

เปน็ การเคลอื่ นทีแ่ บบ……………………………….…………………………………………
ลกั ษณะการเกดิ ……………………………….……………………………………………………

……………………………….…………………………………………..……………………………….…
……………………………………………………………………………….………………………………

เป็นการเคล่ือนท่แี บบ……………………………….…………………………………………
ลักษณะการเกิด……………………………….……………………………………………………

……………………………….…………………………………………..……………………………….…
……………………………………………………………………………….………………………………

เป็นการเคล่ือนที่แบบ……………………………….…………………………………………
ลกั ษณะการเกิด……………………………….……………………………………………………

……………………………….…………………………………………..……………………………….…
……………………………………………………………………………….………………………………

เป็นการเคลอื่ นท่แี บบ……………………………….…………………………………………
ลักษณะการเกดิ ……………………………….……………………………………………………

……………………………….…………………………………………..……………………………….…
……………………………………………………………………………….………………………………

ใบงานที่ 2.5 ชื่อ…………………………………………………………………………

หน่วยที่: 2 การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของโลก เลขท่ี……………………..หอ้ ง…………………………………………

เรื่อง: ธรณีภาค ครูผสู้ อน…………………………………………………………………

วชิ า: ภูมิศาสตร์ ม.4-6 (เลม่ 1) โรงเรยี น…………………………………………………………………

คาชีแ้ จง: ใหนกั เรียนอธิบายตามรปู ภาพที่กาหนดใหใหถูกตอง

เป็นการเคล่ือนทแ่ี บบ ชนกนั ระหวางแผนธรณีภาคพืน้ ทวปี

ลักษณะการเกิด แผนทวีป 2 แผน เคลอ่ื นทเ่ี ขาหากัน โดยแผน

ความหนาแนน่ มากกวา่ จะมดุ ไปอยใู่ ตแ้ ผนทม่ี คี วามหนาแนน่ นอ้ ยกวา่
บรเิ วณท่ีแผนมุดตวั เกิดเป็นสนั เขาได้

เปน็ การเคลื่อนท่แี บบ รอยเลอ่ื นย้อน
ลักษณะการเกดิ คือ เปลอื กโลกสวนที่อยบู่ นแนวระนาบรอยเล่อื น

เคล่อื นตวั ขึน้ ในขณะท่อี ยขู่ า้ งล่างเคล่อื นลง ถา้ รอยเลื่อนยอนมคี ่ามมุ
เทา่ กับหรอื นอ้ ยกวา่ 45 องศา เรยี กว่า รอยเล่ือนยอ้ นมมุ ต่า

เปน็ การเคล่ือนทีแ่ บบ การผุพงอยกู่ ับทที่ างฟสกิ ส์
ลกั ษณะการเกิด เกิดจากอณุ หภมู แิ ละความช้นื ท่ีทาใหแ้ ร่ประกอบหิน

ขยายตวั และหดตวั ทาให้หนิ แตกออก

เป็นการเคลอ่ื นท่ีแบบ กระบวนการกร่อน
ลกั ษณะการเกดิ นา้ ในธารพัดกรวดทรายมาหมนุ วนในแอง่ เลก็ ๆ

บนหนา้ หิน กรวดทรายจะเป็นตวั ครดู ถทู าใหเ้ ป็นแอ่งลึกลงและ
กวา้ งข้ึน

เปน็ การเคล่ือนทแี่ บบ การทบั ถม
ลกั ษณะการเกดิ น้าพัดพาตะกอนไหลลงมาตามลกั ษณะภมู ิประเทศ

จากนัน้ ตะกอนจะตกลงมาทับถมกันเป็นลกั ษณะตะกอนรปู พัด

ใบงานที่ 2.6 ชื่อ…………………………………………………………………………

หน่วยที่: 2 การเปล่ียนแปลงทางกายภาพของโลก เลขที่……………………..ห้อง…………………………………………

เรอื่ ง: ธรณภี าค ครผู สู้ อน…………………………………………………………………

วิชา: ภูมศิ าสตร์ ม.4-6 (เลม่ 1) โรงเรียน…………………………………………………………………

คาชี้แจง: ให้นักเรียนสบื คน้ ข้อมลู ปรากฏการณท์ างธรณีภาคทีน่ ักเรียนสนใจมา 1 เหตกุ ารณ์ แล้วนามาวเิ คราะห์

ตามหวั ขอ้ ที่กาหนด (พร้อมติดรูปประกอบ)

เร่ือง………………………………………………………………………………………

1. ปรากฏการณ์ดังกลา่ วเป็นกระบวนการเปลีย่ นแปลงทางกายภาพท่เี กดิ จากปจั จยั อะไรบ้าง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. กระบวนการเปล่ียนแปลงนม้ี ีลกั ษณะอยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ปรากฏการณ์ดงั กล่าวสง่ ผลต่อลักษณะทางกายภาพอยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. ปรากฏการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สนิ อย่างไร สามารถปอ้ งกันได้หรอื ไม่ อธิบายเหตุผล
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ใบงานท่ี 2.7 ชอ่ื …………………………………………………………………………

หน่วยท่ี: 2 การเปล่ยี นแปลงทางกายภาพของโลก เลขท่ี……………………..หอ้ ง…………………………………………

เรือ่ ง: การเลื่อนของทวีป ครผู สู้ อน…………………………………………………………………

วชิ า: ภมู ิศาสตร์ ม.4-6 (เลม่ 1) โรงเรียน…………………………………………………………………

คาชแี้ จง: ให้นกั เรียนนารปู ท่ีกาหนดให้ มาเรยี งต่อกนั ใน เรอ่ื ง ทฤษฎกี ารเล่อื นของทวีป พร้อมอธิบายตามรูป

ยุคเพอรเ์ มยี น (Permian) ยคุ ไทรแอสซกิ (Triassic)

………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………
…..
ยคุ ครีเทเชยี ส (Cretaceous)
ยคุ จแู รสซกิ (Jurassic)
…………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………

ยุคปัจจบุ นั

…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………

เรือ่ ง "Continental Drift Pangea Final"

Pangea Plate Tectonics (English version)

ใบงานท่ี 2.7 ช่อื …………………………………………………………………………

หนว่ ยที่: 2 การเปลีย่ นแปลงทางกายภาพของโลก เลขท่ี……………………..ห้อง…………………………………………

เรอื่ ง: การเล่ือนของทวีป ครูผ้สู อน…………………………………………………………………

วิชา: ภมู ศิ าสตร์ ม.4-6 (เล่ม 1) โรงเรยี น…………………………………………………………………

คาช้แี จง: ให้นักเรยี นนารปู ท่ีกาหนดให้ มาเรยี งตอ่ กนั ใน เร่ือง ทฤษฎกี ารเลื่อนของทวีป พร้อมอธิบายตามรปู

ยุคเพอร์เมยี น (Permian) ยคุ ไทรแอสซิก (Triassic)
เม่ือ 250 ล้านปีมาแลว้ เปลอื กโลก เม่ือประมาณ 200 ล้านปมี าแล้ว แผ่น
เชื่อมต่อกนั เปน็ ผืนแผน่ ดินขนาด ธรณีภาคคอ่ ยแยกออกจากกัน เกดิ
ใหญ่เพียงผนื เดียวครอบคลุม แผ่นธรณภี าคขนาดใหญ่ 2 แผน่
ทง้ั ซกี โลกเหนอื และใต้

ยคุ จูแรสซิก (Jurassic) ยคุ ครเี ทเชยี ส (Cretaceous)
เม่ือ 145 ลา้ นปีมาแลว้ แผน่ ดินลอเร เม่ือ 65 ลา้ นปีมาแล้ว แผน่ เปลือก
เซียและแผน่ ดนิ กอนดว์ านาเริม่ แยก โลกแยกออกจากกันมากข้นึ เกดิ เปน็
ออกจากกัน แผ่นดินลอเรเซยี เปน็ แผ่นดินยูเรเชียกบั แผ่นดินแอฟรกิ า
ทวปี

ยคุ ปจั จุบนั เร่อื ง "Continental Drift Pangea Final"
แผ่นดนิ ยงั คงมีการเลือ่ นไหลอย่าง
ต่อเนือ่ งจนเมอ่ื นประมาณ 55- 50 Pangea Plate Tectonics (English version)
ล้านปที ผ่ี ่านมา แผน่ ดนิ อนิ เดีย
เริม่ ชนกบั แผน่ ดนิ ยูเรเชีย ซ่ึงคือ
เอเชียในปจั จปุ นั

ใบงานท่ี 2.8 ชอื่ …………………………………………………………………………

หนว่ ยที่: 2 การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของโลก เลขที่……………………..หอ้ ง…………………………………………

เรือ่ ง: บรรยากาศภาค ครูผสู้ อน…………………………………………………………………

วชิ า: ภมู ศิ าสตร์ ม.4-6 (เล่ม 1) โรงเรียน…………………………………………………………………

คาชแี้ จง: ใหน้ ักเรยี นพจิ ารณาภาพท่กี าหนดให้ แล้ววิเคราะหเ์ ชอ่ื มโยงเพื่อบรรยายความสัมพนั ธข์ องบรรยากาศ

ภาคกบั การเปลี่ยนแปลงทีเ่ กิดข้นึ ทางบรรยากาศภาคตามภาพท่ีกาหนดให้ จานวน 6-8 บรรทดั พรอ้ มหาขา่ วมา

เปรียบเทียบกบั ภาพทก่ี าหนด

เรอ่ื ง นรรยากาศภาคและการเบลยี่ ธแบลงถางนรรยากาศภาค

……………………………….………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………

………….…………………………………………..……………………………….………………………………………………………………………………….…………

…………………………………….………………………………………………………………………….……………………………………………………………………

……………….…………………………………………..……………………………….………………………………………………………………………………….……

ข่าว…ธ…่า…ร…ู้ ……………… ติดขา่ วทน่ี กั เรยี นศึกษา

ใบงานท่ี 2.9 ชื่อ…………………………………………………………………………

หน่วยท่ี: 2 การเปล่ยี นแปลงทางกายภาพของโลก เลขที่……………………..ห้อง…………………………………………

เรือ่ ง: บรรยากาศภาค (การแบง่ ชน้ั บรรยากาศ) ครูผูส้ อน…………………………………………………………………

วชิ า: ภูมศิ าสตร์ ม.4-6 (เล่ม 1) โรงเรยี น…………………………………………………………………

คาชแี้ จง: จงเตมิ คาหรือข้อความในช่องว่างให้ถูกต้อง

1. การแบ่งชนั้ บรรยากาศท่ีห่อหุ้มโลก ใช้เกณฑ์อะไรบา้ งในการแบง่ ชัน้ บรรยากาศ

............................................................................................................. .......................................................................

............................................................................................................................. .......................................................

2. การแบง่ ชัน้ บรรยากาศโดยใชอ้ ณุ หภูมิเป็นเกณฑ์ แบ่งได้เปน็ กี่ชน้ั อะไรบา้ ง

........................................................................................................................................... .........................................

................................................................................................................................... .................................................

3. บรรยากาศชนั้ ที่มคี วามแปรปรวนมากทสี่ ุด คอื ...................................................................................................

4. บรรยากาศช้นั ท่ีมแี ก๊สโอโซนมาก คอื ...................................................................................................................

5. โอโซน มีความสาคัญตอ่ สิ่งมีชีวติ บนโลก คอื .......................................................................................................

............................................................................................................................. .......................................................

6. ลกั ษณะเดน่ ของบรรยากาศช้ันเทอรโ์ มสเฟยี ร์ คือ...............................................................................................

....................................................................................................................................................................................

7. ส่วนประกอบสาคญั ของบรรยากาศช้ันโทรโพสเฟียร์ คือ....................................................................................

8. บรรยากาศชัน้ ใดทม่ี ีอณุ หภูมิสงู มาก เนอื่ งจากสาเหตุใด.................................................................………………..

…………………………………….............................................................................................................................. ............

9. โฮโมสเฟียร์ คือ......................................................................................................................................................

……………………………………..........................................................................................................................................

10. กัปตันเครอ่ื งบินจะนาเครื่องบนิ บินอยู่ในบรรยากาศชั้นใด เน่อื งจากอะไร

…………………………………….................................................................................................. ........................................

ใบงานที่ 2.9 ช่ือ…………………………………………………………………………

หนว่ ยท่ี: 2 การเปลย่ี นแปลงทางกายภาพของโลก เลขที่……………………..หอ้ ง…………………………………………

เรื่อง: บรรยากาศภาค (การแบง่ ช้ันบรรยากาศ) ครูผ้สู อน…………………………………………………………………

วิชา: ภูมิศาสตร์ ม.4-6 (เล่ม 1) โรงเรยี น…………………………………………………………………

คาชี้แจง: จงเตมิ คาหรือข้อความในช่องว่างให้ถกู ต้อง

1. การแบ่งชน้ั บรรยากาศท่ีห่อหุ้มโลก ใชเ้ กณฑ์อะไรบา้ งในการแบง่ ช้นั บรรยากาศ

อาจใชเ้ กณฑต์ า่ ง ๆ ในการแบง่ ไดห้ ลายรูปแบบ เชน่ ใชอ้ ุณหภูมขิ องอากาศ ใช้สมบัติของแก๊สหรือสว่ นผสมของอากาศ ใช้สมบตั ิทาง

อตุ ุนยิ มวทิ ยา เปน็ เกณฑ์

2. การแบ่งชนั้ บรรยากาศโดยใชอ้ ณุ หภูมิเปน็ เกณฑ์ แบ่งได้เปน็ กช่ี นั้ อะไรบา้ ง

แบง่ ได้เปน็ 5 ช้ัน ดังน้ี 1) ชั้นโทรโพสเฟียร์ 2) ชั้นสตราโตสเฟยี ร์ 3) ชั้นมีโซสเฟยี ร์ 4) ชน้ั เทอรโ์ มสเฟยี ร์ 5) ชนั้ เอกโซสเฟยี ร์

3. บรรยากาศช้นั ท่ีมคี วามแปรปรวนมากทส่ี ุด คอื ชั้นโทรโพสเฟยี ร์

4. บรรยากาศชั้นที่มีแกส๊ โอโซนมาก คอื ชน้ั สตราโตสเฟียร์ และช้นั โอโซโนสเฟียร์

5. โอโซน มีความสาคญั ตอ่ สิ่งมีชีวิตบนโลก คอื ช่วยกรองรงั สีอัลตราไวโอเลต ทาใหป้ รมิ าณรงั สีอัลตราไวโอเลตเหลอื

ปริมาณเลก็ นอ้ ยเม่อื ถงึ พน้ื ผวิ โลก

6. ลกั ษณะเด่นของบรรยากาศชน้ั เทอร์โมสเฟียร์ คือ อณุ หภูมขิ องบรรยากาศจะสงู ขึน้ อย่างรวดเร็วในช่วง 80-100 km มี

แก๊สตา่ ง ๆ นอ้ ยมาก อยู่ในลักษณะทีเ่ ปน็ อนุภาคทีเ่ ปน็ ประจไุ ฟฟ้าเรยี กว่า ไอออน สามารถสะทอ้ นคลน่ื วทิ ยไุ ด้

7. สว่ นประกอบสาคญั ของบรรยากาศช้ันโทรโพสเฟยี ร์ คือ ไอน้า

8. บรรยากาศชั้นใดทีม่ ีอุณหภมู ิสงู มาก เนือ่ งจากสาเหตุใด ชั้นเอกโซสเฟยี ร์ เน่ืองจาก เปน็ ชั้นบรรยากาศที่ต่อเน่อื งกับ

อวกาศ ได้รบั พลังงานจากดวงอาทติ ยม์ าก

9. โฮโมสเฟียร์ คือ ช่อื ทเ่ี รยี กบรรยากาศชั้นโทรโพสเฟียร์ สตราโตสเฟยี ร์ และมีโซสเฟยี ร์ ทง้ั สามชนั้ นีร้ วมกัน

10. กัปตันเคร่ืองบนิ จะนาเคร่อื งบนิ บินอยใู่ นบรรยากาศช้ันใด เน่ืองจากอะไร

ชนั้ สตราโตสเฟยี ร์ เนอ่ื งจาก มปี รมิ าณไอนา้ น้อย อากาศไม่แปรปรวน

ใบงานท่ี 2.10 ช่ือ…………………………………………………………………………

หน่วยที่: 2 การเปลีย่ นแปลงทางกายภาพของโลก เลขท่ี……………………..หอ้ ง…………………………………………

เร่ือง: บรรยากาศภาค (การแบง่ ชน้ั บรรยากาศ) ครูผ้สู อน…………………………………………………………………

วชิ า: ภูมิศาสตร์ ม.4-6 (เลม่ 1) โรงเรยี น…………………………………………………………………

คำชี้แจง: ใหน้ กั เรียนจบั คู่ช้นั บรรยากาศและลกั ษณะสาคญั ของช้นั บรรยากาศใหถ้ ูกตอ้ งสัมพนั ธ์กนั

การแน่งชธ้ั นรรยากาศ

1. เป็นช้นั บรรยากาศที่อย่รู ะหว่างโทรโพสเฟียร์และสตราโตส ก. โทรโพสเฟยี ร์
………………. เฟยี รเ์ ปน็ เขตท่แี บ่งชชั้นท่ีมีไอนา้ และไมม่ ีไอนา้
ข. สตราโตสเฟียร์

2.สว่ นผสมบรรยากาศท่ีสาคัญ คอื อากาศแตกตัวเป็นไอออน ค. มโี ซสเฟียร์
………………. สามารถสะท้อนคลน่ื วทิ ยบุ างความถี่ได้
ง. เทอรโ์ มสเฟียร์

3.บรรยากาศท่ีอยู่ในระดบั ความสงู จากผวิ โลก 500 km ข้นึ ไป จ. โทรโพพอส
………………. ไมม่ ีแรงดึงดูดของโลก มีแก๊สเบาบางมาก จนไม่ถอื ว่า
ฉ. บรรยากาศชน้ั สูง

เปน็ สว่ นหนึ่งของบรรยากาศ ช. โอโซโนสเฟียร์

4.ช่อื เรยี กบรรยากาศชน้ั โทรโพสเฟยี ร์ สตราโตสเฟียร์ และ ซ. ไอโอโสเฟียร์
………………. มีโซสเฟยี ร์ รวมกนั
ฌ. เอกโซสเฟียร์

5.อณุ หภูมลิ ดลงตามระดับความสูง ซึ่งมีอุณหภูมปิ ระมาณ ญ. โฮโมสเฟยี ร์
………………. 140 องศาเซลเซยี ส

………………. 6.ดาวตกและอกุ กาบาตจะเร่ิมลกุ ไหม้ในบรรยากาศชนั้ น้ี

7.ชัน้ บรรยากาศท่มี ผี ลต่อการดารงชวี ิตประจาวันของมนุษย์
………………. มากท่ีสดุ

………………. 8.ส่วนผสมบรรยากาศทีส่ าคัญคือ โอโซน

9.อากาศเบาบาง มีเมฆน้อย อากาศไม่แปรปรวน นักบนิ จึงนา
………………. เคร่อื งบนิ บนิ อยใู่ นชน้ั นี้

10.เปน็ ชนั้ บรรยากาศท่ีอย่เู หนือสตราโตสเฟยี ร์จนถึง
………………. ขอบนอกสดุ ของบรรยากาศ

ใบงานท่ี 2.10 ชื่อ…………………………………………………………………………

หน่วยท่ี: 2 การเปล่ยี นแปลงทางกายภาพของโลก เลขที่……………………..ห้อง…………………………………………

เรอื่ ง: บรรยากาศภาค (การแบง่ ช้นั บรรยากาศ) ครผู ู้สอน…………………………………………………………………

วิชา: ภมู ิศาสตร์ ม.4-6 (เลม่ 1) โรงเรียน…………………………………………………………………

คำชี้แจง: ใหน้ กั เรียนจบั คู่ช้นั บรรยากาศและลกั ษณะสาคญั ของช้นั บรรยากาศใหถ้ ูกตอ้ งสมั พนั ธ์กนั

การแนง่ ชธั้ นรรยากาศ

จ 1. เป็นชน้ั บรรยากาศท่ีอยรู่ ะหว่างโทรโพสเฟียร์และสตราโตส ก. โทรโพสเฟยี ร์

เฟียรเ์ ปน็ เขตทแ่ี บ่งชชนั้ ทมี่ ีไอน้าและไมม่ ีไอนา้ ข. สตราโตสเฟียร์

ซ 2.ส่วนผสมบรรยากาศทส่ี าคัญ คอื อากาศแตกตัวเป็นไอออน ค. มีโซสเฟยี ร์

สามารถสะท้อนคลนื่ วทิ ยุบางความถีไ่ ด้ ง. เทอร์โมสเฟียร์

ฌ 3.บรรยากาศที่อย่ใู นระดับความสงู จากผวิ โลก 500 km ข้นึ ไป จ. โทรโพพอส

ไม่มแี รงดึงดูดของโลก มีแกส๊ เบาบางมาก จนไม่ถอื ว่า ฉ. บรรยากาศชั้นสูง

เป็นส่วนหน่ึงของบรรยากาศ ช. โอโซโนสเฟียร์

ญ 4.ช่ือเรยี กบรรยากาศชัน้ โทรโพสเฟยี ร์ สตราโตสเฟียร์ และ ซ. ไอโอโสเฟยี ร์

มีโซสเฟียร์ รวมกัน ฌ. เอกโซสเฟียร์

ค 5.อณุ หภูมลิ ดลงตามระดบั ความสูง ซึ่งมีอุณหภมู ปิ ระมาณ ญ. โฮโมสเฟยี ร์
140 องศาเซลเซยี ส

ง 6.ดาวตกและอกุ กาบาตจะเร่ิมลุกไหม้ในบรรยากาศชั้นนี้

ก 7.ชั้นบรรยากาศท่ีมผี ลต่อการดารงชีวติ ประจาวนั ของมนษุ ย์
มากท่ีสดุ

ช 8.ส่วนผสมบรรยากาศท่สี าคัญคือ โอโซน

ข 9.อากาศเบาบาง มีเมฆน้อย อากาศไม่แปรปรวน นักบินจงึ นา
เครอื่ งบนิ บินอยใู่ นชัน้ น้ี

ฉ 10.เป็นช้นั บรรยากาศที่อย่เู หนอื สตราโตสเฟยี ร์จนถงึ
ขอบนอกสุดของบรรยากาศ

ใบงานที่ 2.11 ชือ่ …………………………………………………………………………

หน่วยท่ี: 2 การเปลยี่ นแปลงทางกายภาพของโลก เลขที่……………………..หอ้ ง…………………………………………

เร่อื ง: บรรยากาศภาค ครูผสู้ อน…………………………………………………………………

วิชา: ภมู ศิ าสตร์ ม.4-6 (เลม่ 1) โรงเรียน…………………………………………………………………

คาชี้แจง: ใหน้ กั เรียนอธบิ าย การเปลีย่ นแปลงทางบรรยายกาศภาค เรอ่ื ง ฤดกู าล ตามความคดิ สรา้ งสรรค์ (พร้อมระบายสี)

ฤดูกาล

ใบงานท่ี 2.11 ชื่อ…………………………………………………………………………

หน่วยที่: 2 การเปล่ยี นแปลงทางกายภาพของโลก เลขที่……………………..ห้อง…………………………………………

เร่ือง: บรรยากาศภาค ครผู ูส้ อน…………………………………………………………………

วชิ า: ภมู ิศาสตร์ ม.4-6 (เล่ม 1) โรงเรียน…………………………………………………………………

คาชแ้ี จง: ใหน้ กั เรียนตอบคาถามที่กาหนดให้ต่อไปน้ี

1.บรรยายกาศภาคมีความสาคัญต่อสงิ่ มชี ีวิตบนผวิ โลก เชน่ …………………………………………………………………………

2.ส่วนประกอบของบรรยายกาศ ได้แก่………………………………………………………………………………………………….

3. จงวาดรปู อธิบายสว่ นประกอบของบรรยากาศ ในช่องว่างท่กี าหนดให้ (พร้อมตกแตง่ ให้เรยี บรอ้ ย)

4.อากาศชืน้ จะมไี อนา้ ผสมอยู่ในอากาศประมาณเท่าไร……………………………………………………………………………….
5.แกส๊ ไนโตรเจน มลี ักษณะอยา่ งไง……………………………………………………………………………………………………………..
6.การแบ่งชั้นบรรยากาศทีห่ ่อหุ้มโลก ใช้เกณฑ์อะไรบ้างในการแบ่งช้นั บรรยากาศ…………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
7.การแบ่งชั้นบรรยายกาศโดยใช้ลักษณะการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของอากาศเป็นเกณฑ์ มีท้ังหมดก่ีช้ัน
อะไรบ้าง……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
8.บรรยากาศชนั้ ท่ีมีความแปรปรวนมากที่สุด คอื …………………………………………………………………………………………
9.บรรยากาศชน้ั ทีม่ ีแก๊สโอโซนมาก คือ……………………………………………………………………………………….………………
10.โทรโพสเฟยี ร์ ชน้ั บรรยายกาศของโลกท่ีอยตู่ ดิ กับอะไร……………………………………………………………………………
11.จงวาดรูปอธิบาย โทรโพสเฟยี ร์ (Troposphere) หรอื ตดิ รปู จากอนิ เตอร์เนต็ ในช่องว่างทก่ี าหนด

12.โทรโพสเฟียร์ (Troposphere) มอี ากาศเคลอื่ นที่ทง้ั ในแนวรอบและแนวดง่ิ สภาพอากาศช้ันนม้ี สี งิ่ ใด
ประกอบอยู่……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
13.ชนั้ สตราโตสเฟียร์มลี กั ษณะเฉพาะ คอื ……………………………………………………………………………………………..
14.ช้นั มีโซสเฟยี ร์ มลี ักษณะเฉพาะ คือ………………………………………………………………………………………………….
15.ชนั้ เทอร์โมสเฟยี ร์ มีลกั ษณะเฉพาะ คือ…………………………………………………………………………………………….
16.การเปลี่ยนแปลงทางบรรยายกาศ หมายถงึ ……………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
17.อุณหภมู ิ หมายถึง…………………………………………………………………………………………………………………………………
18.ให้นักเรยี นอธิบาย การเปล่ียนแปลงทางบรรยายกาศภาค เรือ่ งฤดูกาล ตามความคดิ สร้างสรรค์
(พรอ้ มระบายส)ี

19.ความกดอากาศ คือ………………………………………………………………………………………………………………………………
20.ลมเกดิ จากสิ่งใด……………………………………………………………………………………………………………………………………
21.อากาศที่พัดจากบรเิ วณความกดอากาศสงู ของซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ คือ…………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
22.อากาศท่พี ดั จากบรเิ วณความกดอากาศสูงของซีกโลกเหนอื และซีกโลกใต้ แถบเส้นศนู ยส์ ตู ร เรียกวา่ ……….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
23.ประเภทของลม มกี ีแ่ บบ……………………………………………………………………………………………………………………….
24.ลมประจาเวลา คือ………………………………………………………………………………………………………………………………..
25.ลมประจาถน่ิ คอื …………………………………………………………………………………………………………………………………..
26.ลมประจำภมู ิภำคตา่ งๆของโลก ได้แก่……………………………………………………………………………………………………
27.ลมค้า คอื …………………………………………………………………………………………………………………………………………….
28.ลมประจาฤดู ไดแ้ ก่………………………………………………………………………………………………………………………………

29.ในประเทศไทยมีฤดูมรสุมอยู่ 2 ฤดู คือ…………………………………………………………………………………………………..
30.ลมพายุหมนุ หรอื ลมแปรปรวน คือ…………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
31.ให้นกั เรยี นอธบิ าย ลมประจาปี โดยการวาดภาพหรือหารูปจากอินเตอรเ์ นต็ มาติด

32.ลมมรสุมตะวนั ตกเฉยี งเหนอื หรอื ลมมรสมุ ฤดูหนาว พัดจากประเทศใด……………………………………………………
33.ความชนื้ ของอากาศ หมายถงึ ……………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
34.เมฆ (Cloud) คอื ……………………………………………………………………………………………………..…………………………
35.รปู ลักษณะของเมฆมี 3 แบบอะไรบาง (พร้อมตดิ รปู )

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ใบงานท่ี 2.11 ชื่อ…………………………………………………………………………

หนว่ ยที่: 2 การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของโลก เลขที่……………………..ห้อง…………………………………………

เร่อื ง: บรรยากาศภาค ครผู ู้สอน…………………………………………………………………

วิชา: ภูมศิ าสตร์ ม.4-6 (เล่ม 1) โรงเรียน…………………………………………………………………

คาชีแ้ จง: ให้นกั เรียนตอบคาถามท่ีกาหนดใหต้ อ่ ไปน้ี

1.บรรยายกาศภาคมคี วามสาคัญต่อส่งิ มีชีวิตบนผวิ โลก เชน่ การเกิดลม เมฆ ฝน หยาดน้าฟ้า

2.สว่ นประกอบของบรรยายกาศ ได้แก่ แก๊สไนโตรเจน แกส๊ ออกซเิ จน แก๊สอารก์ อน และแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์

3.จงวาดรปู อธิบายส่วนประกอบของบรรยากาศ ในช่องวา่ งท่ีกาหนดให้ (พร้อมตกแตง่ ใหเ้ รียบรอ้ ย)

พิจราณาตามความเหมาะสมของครผู ู้สอน

4.อากาศชื้น จะมีไอน้าผสมอย่ใู นอากาศประมาณเทา่ ไร ร้อยละ 0.1-4.0
5.แกส๊ ไนโตรเจน มลี ักษณะอย่างไง เป็นแก๊สไมม่ สี ี ไมม่ ีกล่นิ ไม่ไว้ตอ่ ปฏกิ ริ ิยาเคมี
6.การแบง่ ชั้นบรรยากาศทีห่ ่อหุ้มโลก ใชเ้ กณฑ์อะไรบ้างในการแบ่งช้ันบรรยากาศ อาจใช้เกณฑต์ ่าง ๆ ในการแบง่ ได้

หลายรูปแบบ เช่นใช้อณุ หภมู ขิ องอากาศ ใช้สมบตั ิของแกส๊ หรือส่วนผสมของอากาศ ใช้สมบตั ทิ างอตุ ุนยิ มวิทยา เปน็ เกณฑ์

7.การแบ่งช้ันบรรยายกาศโดยใช้ลักษณะการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของอากาศเป็นเกณฑ์ มีทั้งหมดก่ีช้ัน
อะไรบา้ ง 4 ชนั้ 1) ชัน้ โทรโพสเฟียร์ 2) ชั้นสตราโตสเฟยี ร์ 3) ชั้นมโี ซสเฟยี ร์ 4) ชัน้ เทอร์โมสเฟยี ร์ (หรือ 5ชั้น) 5) ช้ันเอกโซสเฟียร์
8.บรรยากาศชั้นทม่ี คี วามแปรปรวนมากทส่ี ุด คอื ชั้นโทรโพสเฟยี ร์
9.บรรยากาศชั้นท่มี ีแก๊สโอโซนมาก คือ ชัน้ สตราโตสเฟียร์ และช้นั โอโซโนสเฟยี ร์
10.โทรโพสเฟียร์ ช้ันบรรยายกาศของโลกทีอ่ ยตู่ ิดกับอะไร พื้นผิวโลก
11.จงวาดรูปอธบิ าย โทรโพสเฟยี ร์ (Troposphere) หรือตดิ รปู จากอนิ เตอร์เน็ตในชอ่ งว่างทก่ี าหนด

พิจราณาตามความเหมาะสมของครผู ู้สอน

12.โทรโพสเฟยี ร์ (Troposphere) มีอากาศเคล่อื นที่ทั้งในแนวรอบและแนวดิง่ สภาพอากาศชัน้ นม้ี สี ง่ิ ใด
ประกอบอยู่ มไี อนา้ เมฆ หมอก ฝน หมิ ะ พายุ และอากาศแปรปรวน
13.ช้ันสตราโตสเฟียร์มลี กั ษณะเฉพาะ คอื อากาศมกี ารเคลอื่ นทเี่ ฉพาะในระดับเพยี งอย่างเดียว
14.ชัน้ มโี ซสเฟียร์ มีลักษณะเฉพาะ คือ อุณหภมู ติ า่ ลงตามความสูงจนถงึ แนวแบง่ เขตบรรยายกาศ
15.ช้นั เทอรโ์ มสเฟยี ร์ มีลกั ษณะเฉพาะ คือ อณุ หภูมมิ คี ่าคงทร่ี ะยะต้นและสงู ข้ึนตามความสูง
16.การเปลย่ี นแปลงทางบรรยายกาศ หมายถงึ สิ่งมีชวี ติ ท้ังหลายอาศยั อยูภ่ ายใต้บรรยายกาศชัน้ โทรโพสเฟียรข์ องโลก

เทา่ นั้น มีปรากฏการณต์ า่ งๆ เกดิ ขนึ้ ได้แก่ ลมฟ้าอากาศ และภมู อิ ากาศ

17.อุณหภูมิ หมายถึง ปรมิ าณที่ใช้บอกระดบั ความรอ้ น ซึง่ นยิ มวดั ด้วยอุปกรณท์ เ่ี รยี กวา่ เทอร์โมมเิ ตอร์
18.ใหน้ กั เรียนอธิบาย การเปลยี่ นแปลงทางบรรยายกาศภาค เร่อื งฤดูกาล ตามความคดิ สรา้ งสรรค์
(พรอ้ มระบายส)ี

พจิ ราณาตามความเหมาะสมของครูผู้สอน

19.ความกดอากาศ คือ นา้ หนกั ของอากาศที่กดทบั เหนือบริเวณนั้นๆ
20.ลมเกิดจากสิ่งใด ลมเกดิ จากการเคลอื่ นท่ขี องอากาศตามแนวระนาบ เมอ่ื มีความตา่ งกันของค่าความกดอากาศ
21.อากาศทีพ่ ัดจากบรเิ วณความกดอากาศสูงของซีกโลกเหนือและซกี โลกใต้ คอื ลมค้าตะวันออกเฉยี งเหนือ (ของ

ซกี โลกเหนอื ) พัดเบียดเข้าหากนั กบั ลมค้าตะวันออกเฉียงใต้ (ของซกี โลกใต)้

22.อากาศทพี่ ดั จากบรเิ วณความกดอากาศสูงของซีกโลกเหนอื และซีกโลกใต้ แถบเสน้ ศูนยส์ ตู ร เรียกว่า แนว

รอ่ งความกดอากาศตา่ ซึ่งเคล่ือนข้นึ ลงตามการเปลยี่ นแปลงของแสงตั้งฉากดวงอาทติ ย์

23.ประเภทของลม มีกีแ่ บบ ลมประจาเวลา ลมประจาถ่ิน
24.ลมประจาเวลา คือ ลมที่เกิดขึ้นในชว่ งเวลาต่างกัน
25.ลมประจาถิ่น คอื ลมท่เี กิดข้นึ เฉพาะแหง่ เชน่ ลมวา่ ว พดั จากอ่าวไทยไปส่ภู าคตะวันออกเฉียงเหนอื

ในเดือนมนี าคม-เมษายน

26.ลมประจำภูมิภำคตา่ งๆของโลก ได้แก่ ลมในซีกโลกใตจ้ ะมีลมพดั จากทิศตะวันออกเฉยี งใต้ไปยงั ทิศตะวันออกเฉยี งเหนอื

เรยี กว่า ลมค้า

27.ลมค้า คือ ลมในซกี โลกใต้จะมีลมพดั จากทศิ ตะวันออกเฉียงใต้ไปยงั ทศิ ตะวนั ออกเฉยี งเหนือ

28.ลมประจาฤดูได้แก่ ลมทพ่ี ดั เป็นประจาตามฤดูกาล
29.ในประเทศไทยมฤี ดูมรสุมอยู่ 2 ฤดู คือ ลมมรสุมตะวนั ตกเฉยี งใต้ และลมมรสมุ ตะวกั ออกเฉยี งเหนือ
30.ลมพายุหมุนหรือลมแปรปรวน คือ ลมที่เกิดจากความกดอากาศลดต่าลงหรือสูงข้ึนในทันทีทันใดโดยกระแสลมจะพัด

เวียนเข้าหาศนู ยก์ ลางความกดอากาศตา่ ถา้ พายุหมนุ นีเ้ กดิ ในเขตร้อน เรียกวา่ พายุเขตรอ้ น ถา้ เกดิ นอกเขตรอ้ น เรียกว่า พายุนอก
เขตร้อน ตามข้อตกลงระหวา่ ง ประเทศแบ่งชนดิ ของพายุหมุนเขตรอ้ น ตามความรนุ แรงพายุ

31.ให้นักเรยี นอธิบาย ลมประจาปี โดยการวาดภาพหรอื หารูปจากอนิ เตอร์เน็ตมาตดิ
พจิ ราณาตามความเหมาะสมของครผู ูส้ อน

32.ลมมรสุมตะวนั ตกเฉียงเหนือหรอื ลมมรสุมฤดูหนาว พัดจากประเทศใด จนี และไซบเี รยี
33.ความชน้ื ของอากาศ หมายถึง ปริมาณของไอน้าที่มีอยใู่ นอากาศ ถา้ ในอากาศมปี ริมาณไอน้าปะปนอยมู่ าก แสดงวา่

อากาศมีความชืน้ มาก และถา้ ในอากาศมีปรมิ าณไอน้าปะปนอยนู่ อ้ ยแสดงวา่ อากาศมีความช้ืนน้อยแตถ่ า้ ในอากาศมปี ริมาณไอนา้
อย่มู ากทีส่ ดุ จนไมส่ ามารถรบั ไอนา้ ต่อไปได้อีก เรียกวา่ อากาศอม่ิ ตัวไปด้วยไอนา้

34.เมฆ (Cloud) คอื กลุ่มของละอองน้าขนาดเล็กซ่งึ เกิดจากการควบแน่นของหยดนา้ ในอากาศ แตเ่ มฆชน้ั สงู ซง่ึ มอี ุณหภูมิต่า

กวา่ จดุ เยือกแขง็ จะเป็นกลมุ่ ของผลึกน้าแข็งขนาดเล็ก

35.รปู ลกั ษณะของเมฆมี 3 แบบอะไรบาง (พร้อมติดรูป)

เมฆซรี ร์ สั ลกั ษณะเปน็ เสน้ ปยุ ฝอยตอ่ เน่ืองกัน เมฆคิวมลู ัส ลักษณะเป็นก้อนขนาดต่างๆกัน เมฆสเตรตสั ลักษณะเป็นแผน่ เชอ่ื มกัน
ตอ่ เนอ่ื งกนั

ใบงานท่ี 2.12 ชอื่ …………………………………………………………………………

หน่วยที่: 2 การเปล่ยี นแปลงทางกายภาพของโลก เลขที่……………………..ห้อง…………………………………………

เรอ่ื ง: ปรากฏการณ์ทางอุทกภาค ครูผสู้ อน…………………………………………………………………

วชิ า: ภมู ศิ าสตร์ ม.4-6 (เล่ม 1) โรงเรยี น…………………………………………………………………

คาชแ้ี จง: ให้นักเรียนเขียนแผนภาพแสดงวัฏจักรทางอุทกวิทยา แล้วตอบคาถามตามประเด็นท่กี าหนดให้

บรากฏการณถ์ างอถุ กภาค

1. จากแผนภาพ สามารถอธิบายวัฏจักรทางอทุ กวทิ ยาไดอ้ ย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. การเกดิ วัฏจักรของนา้ ตามธรรมชาติ มีขนั้ ตอนอย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. มนุษย์ใช้ประโยชนจ์ ากแหล่งนา้ จดื และแหล่งน้าเค็มอยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. การไหลเวยี นของกระแสน้าในมหาสมุทร มีอิทธพิ ลต่อการดาเนนิ ชีวติ ของมนุษย์อยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ใบงานท่ี 2.12 ชื่อ…………………………………………………………………………

หน่วยที่: 2 การเปลีย่ นแปลงทางกายภาพของโลก เลขท่ี……………………..หอ้ ง…………………………………………

เรื่อง: ปรากฏการณท์ างอุทกภาค ครูผูส้ อน…………………………………………………………………

วิชา: ภูมิศาสตร์ ม.4-6 (เลม่ 1) โรงเรียน…………………………………………………………………

คาชีแ้ จง: ให้นักเรียนเขียนแผนภาพแสดงวฏั จกั รทางอุทกวิทยา แลว้ ตอบคาถามตามประเดน็ ท่กี าหนดให้

บรากฏการณถ์ างอถุ กภาค

1. จากแผนภาพ สามารถอธบิ ายวัฏจกั รทางอุทกวทิ ยาได้อย่างไร

วฏั จักรทางอุทกวทิ ยา เป็นการหมนุ เวียนของน้าในธรรมชาติ จากมหาสมุทรสู่อากาศ จากอากาศสพู่ น้ื ดนิ แล้วไหลสมู่ หาสมุทรอกี
ครง้ั โดยนา้ ในโลกหมนุ เวยี นในรปู แบบไอน้าอันเกิดจากการระเหยของนา้ ตามแหลง่ น้าตา่ ง ๆ เมอ่ื อ่ิมตวั กจ็ ะกล่นั ตัวเป็นละอองนา้
แล้วตกลงส่ผู วิ โลก เชน่ ฝน หิมะ ลกู เห็บ

2. การเกดิ วฏั จกั รของน้าตามธรรมชาติ มีข้นั ตอนอย่างไร

การเกดิ วฏั จักรทางของน้ามี 4 ข้นั ตอน คอื การระเหย การควบแน่น การเกดิ ฝน และการรวมตัวของน้า

3. มนษุ ยใ์ ช้ประโยชน์จากแหล่งนา้ จืดและแหลง่ นา้ เคม็ อย่างไร

มนษุ ยใ์ ช้ประโยชน์จากแหลง่ นา้ จดื และแหลง่ นา้ เคม็ ในการอุปโภค บรโิ ภค การตั้งถิ่นฐาน การคมนาคมขนส่ง การเป็นแหลง่ อาหาร
แหลง่ เพาะเล้ียงสตั ว์ แหลง่ ท่องเท่ียว รวมไปถึงการเป็นแหลง่ พลังงาน

4. การไหลเวียนของกระแสน้าในมหาสมทุ ร มีอิทธพิ ลต่อการดาเนินชวี ติ ของมนษุ ย์อยา่ งไร

กระแสนา้ ในมหาสมุทรมอี ทิ ธิพลตอ่ ลกั ษณะภูมปิ ระเทศ ภมู อิ ากาศ ทรัพยากรธรรมชาติ และสง่ ผลตอ่ การดารงชีวติ ของมนษุ ย์ใน
พืน้ ที่ เช่น การเกดิ กระแสน้าอุ่น-กระแสน้าเยน็ การเกิดความช้ืนในอากาศ รวมถงึ การกอ่ ใหเ้ กดิ ทรัพยากรทางทะเลที่อดุ มสมบรู ณ์

ใบงานที่ 2.13 ช่อื …………………………………………………………………………
หนว่ ยท่ี: 2 การเปลีย่ นแปลงทางกายภาพของโลก เลขที่……………………..ห้อง…………………………………………
เรื่อง: อุทกภาค ครผู ูส้ อน…………………………………………………………………
วิชา: ภมู ศิ าสตร์ ม.4-6 (เลม่ 1) โรงเรยี น…………………………………………………………………

คาชแี้ จง: ใหน้ ักเรยี นเขยี นผงั มโนทศั น์ เรอ่ื งอุทกภยั ตามประเดน็ ที่กาหนดให้ โดยจับกลุ่ม 5 คน โดยใสก่ ระดาษ
A3 พร้อมตกแต่งใหเ้ รียบร้อย

กลมุ่ ชอ่ื ………………………………………………………

สมาชกิ

1. ………………………………………………………………………….. เลขที่…………..
2. ………………………………………………………………………….. เลขท่ี…………..
3. ………………………………………………………………………….. เลขที่…………..
4. ………………………………………………………………………….. เลขท่ี…………..
5. ………………………………………………………………………….. เลขที่…………..

เธอ้ื หา

 ปัจจัยทท่ี าใหเ้ กิดอุทกภัย
 ตัวอย่างบรเิ วณทีเ่ กดิ อุทกภัยที่รา้ ยแรง
 การระวงั ภัยจากอทุ กภัย
 ผลกระทบทเี่ กิดจากอุทกภยั ทาให้เกดิ ความเสียหาย

ใบงานท่ี 2.14 ช่ือ…………………………………………………………………………

หน่วยท่ี: 2 การเปล่ียนแปลงทางกายภาพของโลก เลขท่ี……………………..หอ้ ง…………………………………………

เร่อื ง: ปรากฎการณท์ างภมู ิศาสตร์ (ชุดรวม) ครผู สู้ อน…………………………………………………………………

วชิ า: ภูมศิ าสตร์ ม.4-6 (เลม่ 1) โรงเรียน…………………………………………………………………

คาชีแ้ จง: ให้นักเรยี นตอบคาถามตอนไปน้ใี ห้ถูกต้อง ในเรื่อง ปรากฎการณท์ างภูมิศาสตร์ (ชุดรวม)

โครงสร้างของโลก บฏสิ ัมพธั ท์เชงิ ภูมิศาสตร์
1. จงบอกลักษณะสณั ฐานของโลก

............................................................................................................................. ......................................................

............................................................................................................................. ......................................................

2.จากภาพ โครงสร้างของโลก ประกอบด้วยก่ีส่วน มีอะไรบา้ ง
............................................................................................................................. ......................................................
.......................................................................................................................................................................... .........
3.จงบอกรายละเอยี ดของแก่นโลก
............................................................................................. ......................................................................................
............................................................................................................................. ......................................................
4.จงบอกรายละเอยี ดของเน้ือโลก
............................................................................................................................. ......................................................
.............................................................................................................................................................................. .....
5.จงบอกรายละเอยี ดของชน้ั เปลอื กโลก (Crust)
...................................................................................................................................................................................

............................................................................................................................. ......................................................
6.จงบอกสว่ นประกอบของเปลือกโลก
............................................................................................................................. ......................................................
7.ธาตุ คอื อะไร...........................................................................................................................................................
8.ธาตุทม่ี ีปริมาณมากท่สี ดุ ที่ประกอบเป็นเปลือกโลกคืออะไร..................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................

บฏสิ มั พธั ทเ์ ชงิ ภูมิศาสตร์ของโลก

9.การดาเนินชวี ิตของมนุษย์ท้ังในประเทศไทยและในส่วนตา่ งๆ ของโลกจะสัมพนั ธก์ ับปรากฏการณ์อนั
เกย่ี วข้องกับส่วนต่างๆ ของโลกท้งั 4 ประการ คอื อะไร
............................................................................................................................. ......................................................
............................................................................................................................. ......................................................
10.บรรยากาศ คืออะไร.............................................................................................................................................
11.บรรยากาศมีความสาคญั ตอ่ สง่ิ มชี ีวติ อยา่ งไร.....................................................................................................
.................................................................................................................................... ...............................................
...................................................................................................................................................................................
12.ชัน้ บรรยากาศของโลกมีกชี่ ้นั แตล่ ะช้ันช่ืออะไร มคี วามสาคัญอยา่ งไร
............................................................................................ .......................................................................................
............................................................................................................................. ......................................................
............................................................................................................................. ......................................................
...................................................................................................................................................................................
13.กลางวันกลางคืนเกิดจากอะไร................................................................................................................ ............
............................................................................................................................. ......................................................
14.ฤดูกาลเกิดจากอะไร…………….............................................................................................................................
............................................................................................................................. ......................................................
15.อุณหภูมขิ องโลกท่ีสูงมากขึน้ และภมู ิอากาศของโลกเปล่ียนแปลงไป และสง่ ผลต่อเน่ืองทาใหเ้ กดิ ภยั พิบัตติ อ่
มวลมนุษย์ ภัยพิบตั ิดังกลา่ วมอี ะไรบ้าง...................................................................................................................
............................................................................................................................. ......................................................
...................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................... ...............................................

บฏิสัมพัธทเ์ ชิงภมู ิศาสตร์ “ทรณีภาค”

16.ธรณีภาคคืออะไร……………………………………......................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
17.ปรากฏการณท์ างธรรมชาติทีเ่ กิดจากการเคลือ่ นตวั ของเปลือกโลก ได้แก่
....................................................................................... ............................................................................................
............................................................................................................................. ......................................................
............................................................................................................................. ......................................................

บฏสิ ัมพธั ทเ์ ชงิ ภมู ิศาสตร์ “อถุ กภาค”

18.อุทกภาค หมายถงึ อะไร.......................................................................................................................................
............................................................................................................................. ......................................................
19.ปรากฏการณจ์ ากอทุ กภาคท่ีสาคัญ มีอะไรบา้ ง.................................................................................................
...................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ......................................................
20.จงบอกอทิ ธิพลทางอุทกภาคทม่ี ตี อ่ โลก..............................................................................................................
............................................................................................. ......................................................................................
............................................................................................................................. ......................................................
21.จงบอกปฏสิ ัมพนั ธม์ นุษย์กับแหลง่ น้า.................................................................................................................
............................................................................................. ......................................................................................

บฏสิ มั พัธทเ์ ชิงภูมิศาสตร์ “ชีวภาค”

22. ชวี ภา (Biosphere) หมายถึงอะไร...................................................................................................................
............................................................................................................................................... ....................................
.............................................................................................. .....................................................................................
23.ปรากฏการณ์ทางชวี ภาคของพชื ทีส่ าคัญมีอะไรบ้าง........................................................................................
............................................................................................................................................................... ....................
24.ปรากฏการณ์ทางชวี ภาคของสตั ว์ ทีส่ าคญั มีอะไรบ้าง
...................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ......................................................

ใบงานที่ 2.14 ชอื่ …………………………………………………………………………

หนว่ ยท่ี: 2 การเปลีย่ นแปลงทางกายภาพของโลก เลขท่ี……………………..ห้อง…………………………………………

เรอ่ื ง: ปรากฎการณท์ างภูมศิ าสตร์ (ชดุ รวม) ครูผู้สอน…………………………………………………………………

วชิ า: ภูมิศาสตร์ ม.4-6 (เล่ม 1) โรงเรียน…………………………………………………………………

คาชแ้ี จง: ให้นักเรยี นตอบคาถามตอนไปนีใ้ ห้ถกู ต้อง ในเรื่อง ปรากฎการณท์ างภูมศิ าสตร์ (ชุดรวม)

โครงสรา้ งของโลก บฏสิ ัมพัธทเ์ ชิงภูมิศาสตร์
1. จงบอกลกั ษณะสัณฐานของโลก

โลกมรี ปู ทรงสณั ฐานเกือบเปน็ วงกลม มีรัศมีเฉลีย่ 6,370 กโิ ลเมตร มวลบรเิ วณขว้ั โลกทั้งสองยุบลงมากกว่าบรเิ วณศูนย์
สตู รเลก็ น้อย โดยมเี สน้ ผา่ นศูนยก์ ลางจากซกี โลกเหนอื -ใต้ ประมาณ 12,714 กิโลเมตร น้อยกว่าเส้นผา่ นศนู ย์กลางตามแนวเส้น

ศนู ยส์ ตู รท่ียาวประมาณ 12,756 กิโลเมตร

2.จากภาพ โครงสร้างของโลก ประกอบดว้ ยก่ีส่วน มีอะไรบ้าง

โลกแบง่ ออกเปน็ 3 ชน้ั หลักๆ คอื แกน่ โลก (Core), เนอ้ื โลก (Mantle), และเปลือกโลก (Crust)

3.จงบอกรายละเอียดของแก่นโลก

แก่นโลก เป็นส่วนทอี่ ยู่ชั้นในสดุ ของโลก มีความหนาประมาณ 3,470 กโิ ลเมตร แบง่ เป็นแก่นโลกชน้ั นอก และแกน่ โลกชัน้ ใน

4.จงบอกรายละเอยี ดของเน้ือโลก

เน้อื โลก ชัน้ เนอื้ โลกมีความหนาประมาณ 2,880 กิโลเมตร มีองคป์ ระกอบส่วนใหญ่เป็นแรซ่ ลิ เิ กต (Silicates) แบ่งออกไดเ้ ปน็ เน้ือ
โลกช้นั ลา่ งและเนือ้ โลกชน้ั บน และยังแบ่งออกเปน็ เนื้อโลกช้ันบนตอนบน และเนือ้ โลกชัน้ บนตอนล่างอกี ด้วย

5.จงบอกรายละเอียดของชัน้ เปลือกโลก (Crust)

ชั้นเปลือกโลกเปน็ ชัน้ ที่อยูน่ อกสดุ มคี วามหนาเฉลีย่ 22 กโิ ลเมตร แบ่งออกเป็นเปลอื กโลกมหาสมทุ รและเปลอื กโลกส่วนทวีป

6.จงบอกสว่ นประกอบของเปลอื กโลก เปลือกโลกท่ีเปน็ ทวปี และเปลอื กโลกสว่ นที่เปน็ มหาสมุทร ชัน้ เปลือกโลกยังแบง่ ออก

ยอ่ ยไดอ้ ีก 2 ช้ัน คือเปลือกโลกช้ันบน เรียกว่าไซแอล (SIAL) และเปลอื กโลกชัน้ ล่าง เรียกวา่ ไซมา (SIMA)

7.ธาตุ คอื อะไร ธาตุ (Element) คือ สารบรสิ ทุ ธทิ์ ่ปี ระกอบดว้ ยอะตอมเพยี งชนดิ เดียว เชน่ ออกซิเจน คารบ์ อน โซเดยี ม เปน็ ต้น

ธาตุ มีมากกว่า 100 ธาตุทป่ี ระกอบเปน็ โลก

8.ธาตทุ ่มี ปี ริมาณมากท่ีสดุ ที่ประกอบเป็นเปลือกโลกคืออะไร เปลือกโลกประมาณรอ้ ยละ99 ประกอบขึ้นจากธาตุ 9

ชนิด โดยมอี อกซเิ จน และซลิ ิคอนรวมกันมากถึงร้อยละ 72 ของมวลโลก

บฏสิ มั พธั ท์เชิงภมู ิศาสตร์ของโลก

9.การดาเนนิ ชีวิตของมนุษย์ทงั้ ในประเทศไทยและในสว่ นต่างๆ ของโลกจะสัมพนั ธก์ ับปรากฏการณ์อนั
เกย่ี วข้องกับสว่ นต่างๆ ของโลกทง้ั 4 ประการ คอื อะไร อุทกภาค ชีวภาค ธรณภี าค บรรยากาศ
10.บรรยากาศ คอื อะไร มวลอากาศสว่ นท่ีหอ่ หุม้ โลกช้ันลา่ งจะมคี วามหนาแนน่ และเบาบางลงเมอื่ หา่ งจากพนื้ ผิวโลก

ความรสู้ ึกหรอื ส่งิ ท่ีอยรู่ อบ ๆ ตวั

11.บรรยากาศมคี วามสาคัญตอ่ สงิ่ มีชีวติ อยา่ งไร เพือ่ ใหส้ ่ิงมชี วี ติ สามารถดารงชีวิตอยไู่ ด้
12.ชัน้ บรรยากาศของโลกมีกชี่ นั้ แต่ละช้นั ชอื่ อะไร มีความสาคญั อยา่ งไร

5 ชั้น (1ช้ันโทรโพสเฟียร์ (2ชนั้ สตราโตสเฟยี ร์ (3ช้ันมโี ซสเฟยี ร์ (4ชน้ั เทอร์โมสเฟยี ร์ (5ชนั้ เอกโซสเฟี
(พิจราณาตามความเหมาะสมของครผู สู้ อน)

13.กลางวันกลางคนื เกดิ จากอะไร กลางวันกลางคืนเกดิ ขึ้นจากการหมุนรอบตัวเองของโลกจากทิศตะวนั ตกไปยังทศิ

ตะวันออก ดา้ นทีห่ ันรบั แสงอาทิตยเ์ ป็น “กลางวนั ” และดา้ นตรงขา้ มทไ่ี มไ่ ดร้ บั แสงอาทติ ยเ์ ป็น “กลางคืน”

14.ฤดูกาลเกิดจากอะไร ฤดูกาล เป็นช่วงเวลาในแต่ละปีท่ีแบ่งตามสภาพอากาศที่เปล่ียนแปลงไป เกิดข้ึนจากการที่โลกโคจร

รอบดวงอาทิตย์ เนื่องจากแกนโลกเอียงเป็นมุม 23.5 องศา จึงทาให้ในแต่ละช่วงของปี แต่ละบริเวณจะได้รับแสงแดดไม่เท่ากัน
ทาให้มีอณุ หภูมิต่างกนั จงึ เกิดเปน็ ฤดูกาลต่าง ๆ ขนึ้

15.อุณหภูมขิ องโลกท่ีสูงมากขน้ึ และภมู อิ ากาศของโลกเปลี่ยนแปลงไป และสง่ ผลต่อเนือ่ งทาใหเ้ กิดภัยพิบตั ติ ่อ
มวลมนษุ ย์ ภยั พิบัตดิ งั กล่าวมีอะไรบ้าง

(พิจราณาตามความเหมาะสมของครูผู้สอน)

บฏสิ ัมพธั ท์เชิงภูมิศาสตร์ “ทรณีภาค”

16.ธรณีภาคคืออะไร ช้ันเนื้อโลกสว่ นบนกบั ช้ันเปลือกโลกรวมกนั ช้นั ธรณีภาคมคี วามหนา ประมาณ 100 กโิ ลเมตรนบั จากผิว

โลกลงไป เปลือกโลกมีการเปลีย่ นแปลงตลอดเวลา การศกึ ษาการเปลีย่ นแปลง ของเปลอื กโลกท้ังส่วนท่เี ปน็ พืน้ ดนิ พนื้ นา้

17.ปรากฏการณท์ างธรรมชาติท่เี กดิ จากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ไดแ้ ก่

(พจิ ราณาตามความเหมาะสมของครผู สู้ อน)

บฏิสมั พธั ทเ์ ชงิ ภมู ิศาสตร์ “อุถกภาค”

18.อทุ กภาค หมายถึงอะไร ส่วนทีเ่ ป็นนา้ ท่ีอยบู่ นพนื้ โลกทงั้ หมด ประกอบดว้ ย น้าจืด )fresh water) ทีอ่ ยู่ในแหล่งนา้ ผวิ ดนิ

และน้าใตด้ ินรอ้ ยละ 3.0 และนา้ เค็ม (Salt Wate) ที่อยู่ในทะเลและมหาสมุทรถงึ รอ้ ยละ 97.0

19.ปรากฏการณ์จากอทุ กภาคท่สี าคัญ มอี ะไรบ้าง

 วฎั จักรของนา้ หมายถึง การหมนุ เวียนเปลย่ี นสถานะของน้า จากแหล่งน้าตา่ งๆ เช่น มหาสมทุ ร ทะเล แมน่ า้ หนอง บงึ
ทะเลสาบ กระแสนา้ ในมหาสมทุ ร

 กระแสน้าในมหาสมทุ ร คือ การเคลือ่ นทข่ี องนา้ ในมหาสมทุ รอยา่ งสมา่ เสมอ ซึง่ จะไหลอยูต่ ลอดเวลา และไหลเวยี นไปท่ัว

โลกอยา่ งช้าๆ ในทิศทางเดียวกนั

20.จงบอกอิทธิพลทางอุทกภาคที่มีตอ่ โลก (พิจราณาตามความเหมาะสมของครูผสู้ อน)

 น้าขน้ึ นา้ ลง
 นา้ เกดิ นา้ ตาย

21.จงบอกปฏสิ ัมพนั ธม์ นุษย์กับแหล่งน้า 1.อปุ โภค บรโิ ภค 2.การชลประทานและการเกษตร 3.อุตสากรรม

4.ผลติ พลังงานไฟฟา้ 5. การคมนาคมขนสง่ 6.การพกั ผอ่ นหยอ่ นใจ

บฏสิ มั พธั ทเ์ ชงิ ภูมิศาสตร์ “ชีวภาค”

22. ชวี ภา (Biosphere) หมายถงึ อะไร บริเวณของผิวโลก รวมทั้งในบรรยากาศและใตด้ ินท่ีมีสง่ิ มีชีวิตเกดิ ขึ้นทง้ั ทีม่ ชี วี ติ อยู่

และตายไปแล้ว ได้แก่ พืช สัตว์ มนษุ ย์ โดยพื้นที่หรือถิน่ ทีอ่ ยู่อาศยั ของสง่ิ มชี วี ิตทัง้ พืชและสัตวท์ มี่ ีความสัมพันธก์ ันและมกี าร
ปรบั ปรุงตวั ของสงิ่ มชี ีวิตใหเ้ ข้ากบั สภาวะแวดล้อมของทอ้ งถ่ินนั้นๆ ท้งั ในด้านบรรยากาศ ธรณภี าค และอทุ กภาค

23.ปรากฏการณ์ทางชีวภาคของพืช ทีส่ าคญั มีอะไรบา้ ง พืชมีองคป์ ระกอบทางชวี ภาพเฉพาะทีม่ ีความแตกตา่ ง สามารถ

เหน็ ไดช้ ัดเชน่ ขนาดและความสงู ของลาตน้ ประเภทไมย้ ืนต้น ไมล้ ม้ ลุก ไม้เถา ไม้เกาะหรือกาฝาก การแผร่ ม่ เงา ลกั ษณะของขนาด
ของใบ รูปร่าง เช่น พืชในเขตแหง้ แล้งจะมใี บมัน เป็นตน้

24.ปรากฏการณ์ทางชีวภาคของสตั ว์ ทีส่ าคญั มีอะไรบ้าง

สตั วช์ นดิ ตา่ งๆ ทอี่ าศัยอยู่ในโลกมแี หล่งหรอื ถ่นิ ท่อี ย่หู ลกั

ใบงานท่ี 2.14 ชือ่ …………………………………………………………………………

หนว่ ยท่ี: 2 การเปล่ียนแปลงทางกายภาพของโลก เลขท่ี……………………..ห้อง…………………………………………

เร่อื ง: อุทกภาค ครูผสู้ อน…………………………………………………………………

วิชา: ภมู ิศาสตร์ ม.4-6 (เล่ม 1) โรงเรียน…………………………………………………………………

คาช้ีแจง: ใหน้ กั เรียนเลือกอธิบาย ระบบน้าจดื กับระบบน้าเค็ม อยา่ งใดอย่างหน่ึง โดยเขียนเป็น mind map

ใบงานท่ี 2.15 ชือ่ …………………………………………………………………………

หนว่ ยท่ี: 2 การเปลย่ี นแปลงทางกายภาพของโลก เลขท่ี……………………..ห้อง…………………………………………

เรอ่ื ง: ระบบชีวนิเวศ ครผู ูส้ อน…………………………………………………………………

วิชา: ภมู ศิ าสตร์ ม.4-6 (เลม่ 1) โรงเรยี น…………………………………………………………………

คาชี้แจง: ใหน้ ักเรียนสืบคน้ ข้อมลู ระบบนิเวศของแต่ละพนื้ ที่ แลว้ วเิ คราะห์ตามประเดน็ ที่กาหนด โดยใช้

ความสามารถทางภูมศิ าสตร์

1.

ลักษณะระบบนเิ วศ……………………..…………………………………………………………………………………………………….
บรเิ วณทพ่ี บ……………………..………………..…………………………………………………………………………………………….
ส่งิ มีชวี ติ ที่พบ……………………..……………..……………………………………………………………………………………………..
2.

ลกั ษณะระบบนิเวศ……………………..…………………………………………………………………………………………………….
บรเิ วณที่พบ……………………..………………..…………………………………………………………………………………………….
สง่ิ มีชีวิตท่ีพบ……………………..……………..……………………………………………………………………………………………..

3.

ลกั ษณะระบบนิเวศ……………………..…………………………………………………………………………………………………….
บรเิ วณท่พี บ……………………..………………..…………………………………………………………………………………………….
สง่ิ มีชีวติ ท่ีพบ……………………..……………..……………………………………………………………………………………………..
4.

ลักษณะระบบนเิ วศ……………………..…………………………………………………………………………………………………….
บริเวณที่พบ……………………..………………..…………………………………………………………………………………………….
สง่ิ มีชวี ิตที่พบ……………………..……………..……………………………………………………………………………………………..

ใบงานท่ี 2.15 ช่อื …………………………………………………………………………

หน่วยท่ี: 2 การเปล่ยี นแปลงทางกายภาพของโลก เลขท่ี……………………..ห้อง…………………………………………

เรอ่ื ง: ระบบชวี นิเวศ ครูผ้สู อน…………………………………………………………………

วิชา: ภมู ศิ าสตร์ ม.4-6 (เลม่ 1) โรงเรยี น…………………………………………………………………

คาชแ้ี จง: ให้นักเรียนสบื ค้นข้อมลู ระบบนเิ วศของแต่ละพน้ื ที่ แลว้ วิเคราะหต์ ามประเดน็ ที่กาหนด โดยใช้

ความสามารถทางภมู ิศาสตร์

1.

ลักษณะระบบนเิ วศ ปา่ ฝนเขตร้อน
บรเิ วณท่พี บ เขตร้อนใกล้เสน้ ศนู ย์สตู ร เช่น ป่าในประเทศอินโดนเี ซีย ปา่ ในลุ่มนา้ แอมะซอน ทวปี อเมริกาใต้
สงิ่ มีชีวิตที่พบ พันธ์ุพืช สัตว์ป่า นก แมลง
2. (พิจราณาตามความเหมาะสมของครูผ้สู อน)

ลกั ษณะระบบนิเวศ……………………..…………………………………………………………………………………………………….
บรเิ วณท่พี บ……………………..………………..…………………………………………………………………………………………….
สง่ิ มีชีวติ ที่พบ……………………..……………..……………………………………………………………………………………………..

3.

ลกั ษณะระบบนเิ วศ ทุ่งหญ้าเขตร้อน
บริเวณทีพ่ บ ทวปี แอฟรกิ า ทวีปอเมริกาใต้ ทางเหนือของประเทศออสเตรเลยี
สิ่งมีชีวิตที่พบ พนั ธพุ์ ชื ท่ีมีลักษณะเป็นตน้ หญา้ ยาว ไม้พมุ่ สิงโต ม้าลาย ควายปา่
4. (พจิ ราณาตามความเหมาะสมของครูผูส้ อน)

ลกั ษณะระบบนิเวศ……………………..…………………………………………………………………………………………………….
บรเิ วณท่ีพบ……………………..………………..…………………………………………………………………………………………….
สิ่งมีชีวติ ท่ีพบ……………………..……………..……………………………………………………………………………………………..

ใบงานที่ 2.16 ช่อื …………………………………………………………………………

หนว่ ยท่ี: 2 การเปลย่ี นแปลงทางกายภาพของโลก เลขท่ี……………………..หอ้ ง…………………………………………
เรื่อง: การเปลีย่ นแปลงทางกายภาพทส่ี ง่ ผลต่อ ครูผู้สอน…………………………………………………………………
ภูมปิ ระเทศ ภมู ิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ โรงเรียน…………………………………………………………………

คาชี้แจง: ให้นกั เรยี นสบื คน้ ข้อมลู การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่ส่งผลต่อภมู ปิ ระเทศ ภมู อิ ากาศ และ
ทรพั ยากรธรรมชาติท่ีนกั เรียนสนใจมา 1 เหตกุ ารณ์ แล้ววเิ คราะห์ตามประเด็นท่ีกาหนด

การเบลย่ี ธแบลงถางกายภาพถ่สี ง่ ปลตอ่ ภมู ิบระเถศ ภมู อิ ากาศ และถรัพยากรทรรมชาติ

(ภาพตวั อย่างการเปล่ียนแปลงฯ)

สาเหตุ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ปลกระถนตอ่ มธษุ ย์ ปลกระถนตอ่ ระนนธเิ วศ
……………………………………………………………… ………………………………………………………………
……………………………………………………………… ………………………………………………………………
……………………………………………………………… ………………………………………………………………
……………………………………………………………… ………………………………………………………………
……………………………………………………………… ………………………………………………………………
……………………………………………………………… ………………………………………………………………
……………………………………………………………….

ใบงานท่ี 2.17 ช่ือ…………………………………………………………………………

หนว่ ยที่: 2 การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของโลก เลขที่……………………..ห้อง…………………………………………

เรอ่ื ง: การเปล่ยี นแปลงทางกายภาพที่ส่งผลต่อ ครูผู้สอน…………………………………………………………………

ภูมปิ ระเทศ ภมู ิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ โรงเรยี น…………………………………………………………………

คาชแ้ี จง: ใหน้ ักเรียนตอบคาถามตอนไปนใี้ ห้ถูกต้อง

1.การเปล่ยี นแปลงทางกายภาพทีส่ ่งผลต่อภมู ิประเทศ คือ……………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2.ภูมิประเทศท่ีเกิดจากการกระทาของน้าและแม่น้า สง่ ผลใหเ้ กิดภูมิประเทศได้หลายลกั ษณะ คือ

2.1…………………………………………………….คอื ……………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2.2…………………………………………………….คือ…………………………………………………………………………………….

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3.ใหน้ ักเรยี นเลอื ก อธิบายลักษณะประเทศทเี่ กดิ จาก ภูมิประเทศจากการรอ่ นโดยนา้ และแมน่ ้าและภมู ปิ ระเทศ

จากการทบั ถมโดยนา้ และแม่น้า อย่างใดอยา่ งหนึ่ง โดยการวาดภาพประกอบ พร้อมระบายสีลงในช่องวาง

4.ภมู ปิ ระเทศทีเ่ กิดจากการกระทาของธารน้าแข็ง คอื …………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5.การกรอ่ นโดยธารนา้ แขง็ เกดิ จากสง่ิ ใด……………………………………………………………………………………………………..
6.เซริ ก์ เปน็ ลักษณะอย่างไร……………………………………………………………………………………………………………………….
7.อาแร็ต เป็นลักษณะอย่างไร…………………………………………………………………………………………………………………….
8.หบุ เขาลอย เปน็ ลักษณะอย่างไร………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

9.ยอดเขารปู พรี ะมดิ เป็นลกั ษณะอยา่ งไร……………………………………………………………………………………………………
10.จงเตมิ คาตอบลงในชอ่ งว่างท่กี าหนดให้ถูกต้อง เกี่ยวกับภาพ ภูมิประเทศท่ีเกดิ จากการกร่อนโดยธาร
น้าแข็ง

11.ฟอี อร์หรือฟนอรด์ เกิดจากสง่ิ ใด……………………………………………………………………………………………………………
12.ฟอี อรห์ รือฟนอร์ดมีลกั ษณะอย่างไร……………………………………………………………………………………………………….
13.เนนิ คมกับหลมุ ธารน้าแขง็ มีความแตกต่างกันอย่างไร…………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
14.เขารปู หงอนไก่ เกดิ จากสิ่งใด………………………………………………………………………………………………………………..
15.จงอธิบายภูมิประเทศทะเลทรายลกั ษณะต่าง ๆ จากการพดั พาและทับถมของลม ตามรปู ที่กาหนด