งาน สํา ห รับ คน ขี้ เกียจ

เชื่อไหมว่า ความขี้เกียจไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมันจะช่วยขจัดความเครียดในการใช้ชีวิตออกไปได้บ้าง ความเครียดไม่ได้ทำลายแค่จิตใจ แต่ยังสามารถลามไปทำลายร่างกาย และจิตวิญญาณของคนเราอีกด้วย

  คนที่มีจิตใจเข้มแข็งจะสามารถรับมือกับความเครียดได้มากกว่าคนที่มีจิตใจอ่อนแอ เพราะฉะนั้น สำหรับคนที่อ่อนแอแล้ว การหาอาชีพที่ไม่ได้เครียดมาก หรือการยอมให้ตัวเองได้ขี้เกียจบ้างก็คงจะเป็นเรื่องดีไม่น้อย และนี่คือ เทรนด์อาชีพทั่วโลก ที่ต้องใช้ทักษะความขี้เกียจ หรือเป็นอาชีพที่เปิดโอกาสให้คุณได้ขี้เกียจบ้าง

 

งาน สํา ห รับ คน ขี้ เกียจ

1.การเป็นครูสอนภาษาอังกฤษในฐานะภาษาที่สองให้กับนักเรียนที่ประเทศจีน 

นักออกแบบเกมส์นามว่า Andy Lee Chaisiri บอกว่า หากไปสอบถามคุณครูสอนภาษาอังกฤษสามคนในเมืองปักกิ่ง ทุกหนึ่งคนในสามคนนั้นจะอธิบายคุณลักษณะของตนเองว่า ฉลาดแต่ขี้เกียจ

  เหตุผลอาจเป็นเพราะว่า ความต้องการคุณครูสอนภาษาอังกฤษในประเทศจีนนั้นมีสูงมาก มากเกินกว่าที่สถาบันต่างๆ จะสามารถใส่ใจในรายละเอียด และมีมาตรฐานในการเลือกรับคุณครูได้มากพอ ถึงแม้ว่า นักเรียนจะพึงพอใจมากกว่า หากได้เรียนกับครูที่มีวุฒิปริญญาตรี แต่ด้วยความต้องการที่สูง หลายโรงเรียนและมหาวิทยาลัยจึงต้องรับครูที่อาจไม่มีวุฒฺปริญญาตรี แต่สามารถพูดและเขียนภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่วราวกับเจ้าของภาษาแทน

  นอกจากนี้ เวลาการทำงานอาชีพนี้ที่ประเทศจีนยังถือว่ายืดหยุ่นมากทั้งในแง่ของเวลาการเข้างาน หรือชั่วโมงในการทำงานที่จะทำเท่าไรก็ย่อมได้ ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย ส่วนรายได้ของผู้ประกอบอาชีพนี้นั้นก็ถือว่าค่อนข้างสูง โดยถือว่าเทียบเท่ากับชาวจีนระดับชนชั้นกลางที่เรียนจบปริญญาและต้องทำงาน 50 ชม. ต่อสัปดาห์ ความจริงที่น่าสลดใจคือ หากคุณไม่ใช่คนจีน แล้วประกอบอาชีพนี้ในประเทศจีน คุณจะได้รับค่าจ้างมากกว่าคนจีนที่เรียนจบด้านการสอนมาโดยตรง และทำงานแบบเต็มเวลา ถึงสามเท่าตัวเลยทีเดียว

 

งาน สํา ห รับ คน ขี้ เกียจ

2.การเป็นชาวต่างชาติ

ยังคงอยู่ที่ประเทศจีน ที่นี่.. คุณอาจได้รับค่าตอบแทนในการที่คุณเป็น “ชาวต่างชาติ”

นักศึกษาปริญญาเอก Rob Donnelly ให้ความคิดเห็นในประเด็นนี้ว่า สิ่งเดียวที่คุณต้องทำหากคุณเป็นชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศจีน และอยากได้รับค่าตอบแทนคือยื่นใบสมัคร และพยายามหางานให้ได้ในขั้นต้น

หลายบริษัทใหญ่ๆในประเทศจีนจ่ายมากถึง 1,000 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ (ราว 30,000 บาทต่อสัปดาห์) เพียงเพื่อให้ชาวต่างชาติคนนั้นใส่สูท และเป็นหน้าเป็นตาให้กับบริษัท ออกพบปะผู้คนในอีเวนท์ต่างๆในฐานะตัวแทนจากบริษัท หรือจะเรียกว่า Celebrity ก็ได้ เพราะมันมีความเชื่อหนึ่งที่ว่า หากมีชาวต่างชาติที่ถูกจ้างให้ไปร่วมอีเวนท์ๆ หนึ่งในประเทศจีน จะถือว่า อีเวนท์นั้นถูกยกระดับไปอีกขั้นหนึ่งเลยทีเดียว

งาน สํา ห รับ คน ขี้ เกียจ

3.นักประดิษฐ์คิดค้น

คุณอาจคิดว่า นักประดิษฐ์คิดค้นอะไรบางอย่าง หรืออาจเรียกได้ว่านักวิทยาศาสตร์ สมควรเป็นคนสุดท้ายในโลกนี้ที่ขี้เกียจไม่ใช่หรือ แต่ นักเคมีอย่าง Chuck Cronan บอกว่า ความขี้เกียจนี่แหละ ทำให้เกิดการคิดค้นอะไรใหม่ๆ

งานที่น่าตื่นเต้นของเขาในทุกวันนี้ คือการพัฒนางานที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น หรือทำให้มันไปไกลได้เร็วกว่าเดิม ไม่ใช่การคิดค้นอะไรใหม่ๆ เช่นเดียวกับคำพูดที่ว่า ลูกจ้างที่ขี้เกียจในบางครั้งก็เป็นลูกจ้างที่บริษัทควรจ้าง เพราะพวกเขาจะเรียนรู้ที่จะหาทางลัดให้กับงานต่างๆ เพื่อให้เกิดปัญหาน้อยที่สุด ไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้เร็วที่สุด ชีวิตก็จะสบายดีสุด ง่ายที่สุด การเป็นนักประดิษฐ์คิดค้นก็เช่นกัน

เพราะฉะนั้น ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ความขี้เกียจไม่ใช่ข้อบกพร่องไปเสียหมด เพราะคุณเองแหละที่จะได้เรียนรู้ว่ามันจะนำไปสู่ทางเดินใหม่ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งเป้าหมายที่ต้องการ โดยที่ทางเหล่านั้นอาจเคยถูกมองข้ามไปเพียงเพราะมันดูง่ายเกินไปเท่านั้นเอง

งาน สํา ห รับ คน ขี้ เกียจ

4.นักเขียนโปรแกรม/ วิศวกรคอมพิวเตอร์ 

การเขียนโปรแกรมถือเป็นกระบวนการการเรียนรู้ที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ แต่ในความสม่ำเสมอนั้น คุณอาจไม่จำเป็นต้องทำงานหนักมาก แล้วในที่สุดคุณก็จะได้เรียนรู้ว่า เรื่องท้าทายมากมายที่เกิดขึ้นในชีวิตนั้นเป็นเพียงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และคุณเพียงต้องแก้ปัญหา และทำสิ่งเดิมซ้ำๆ ไปก็เท่านั้น

นักเขียนโปรแกรมที่ดีจะเขียนโค้ดให้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ และเป็นโค้ดที่ทำงานได้ดีโดยใช้พละกำลังการทำงานที่น้อยที่สุด และนี่แหละคือสิ่งที่ก่อให้เกิดความขี้เกียจได้ หรือกล่าวอีกนัยคือ มันช่างเป็นอาชีพที่เหมาะกับคนขี้เกียจเสียจริง

งาน สํา ห รับ คน ขี้ เกียจ

5.กูรู หรือผู้รู้

นักข่าวสืบสวนสอบสวน Fred Landis กล่าวว่า ในช่วงที่เขาเพิ่งจะย้ายไปอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนียใหม่ๆ เขาแปลกใจมากที่ได้พบว่า  ในคน 100 คนที่เขาได้พบเจอในแถบเบเวอร์รี ฮิลส์, ซานตา บาบารา, ลา โจลลา จะต้องมีสัก 1 คนที่เป็นกูรู ไม่ว่าจะในด้านใดด้านหนึ่ง

เขายังบอกอีกว่า มันมีแรงผลักจากสังคมที่ผลักดันให้บุคคลที่เป็นคนสาธารณะในแง่ต่างๆ เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นกูรู ไม่ว่าจะด้านไหนก็ตาม คล้ายๆ กระแสนิยมมาสักระยะหนึ่งแล้ว

  โดยคำว่า กูรู มาจากภาษาสันสกฤต ที่มีความหมายว่า ครู แต่เป็นครูในแบบที่เน้นไปทางจิตวิญญานมากกว่าคำว่าครูในความหมาย ความเข้าใจของคนทั่วไป เพราะฉะนั้น กูรูคือคนที่สอน หรือให้คำแนะนำกับบุคคลอื่นไม่เพียงแต่ความรู้ทั่วไป แต่ยังรวมถึงความเข้าใจด้านจิตใจและจิตวิญญานอีกด้วย

งาน สํา ห รับ คน ขี้ เกียจ

6.ผู้เชี่ยวชาญ (Expert)

หากจะเปรียบเทียบความต่างของกูรู กับผู้เชี่ยวชาญแล้ว กูรูจะเน้นไปที่ความรู้ทางจิตวิญญานและวิธีคิดมากกว่าผู้เชี่ยวชาญ

นักวิเคราะห์ธุรกิจ Matthew Kuzma กล่าวว่า งานที่เหมาะสมกับคนฉลาดแต่ขี้เกียจที่สุดก็คือ การเป็นผู้เชี่ยวชาญ หรือ Professional กับงานบางอย่าง กล่าวคือ เป็นงานที่จะได้ค่าจ้างจากการแบ่งปันไอเดียและความคิดเห็นที่จะสามารถช่วยเหลือผู้คนอื่นให้ดีขึ้น หรือเก่งขึ้นได้

การที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญได้นั้น อาจจะต้องมาจากการตรวจสอบตนเองว่า มีอะไรที่คุณทำอยู่บ้างที่ไม่ใช่งาน แต่เป็นสิ่งที่คุณรู้สึกสนุก และรู้สึกว่ามันง่าย ในขณะที่คุณอื่นอาจรู้สึกว่ายากเพราะพวกเขาไม่ถนัด จนต้องยอมจ่ายเงินคุณเพื่อพวกเขาจะได้รู้ในสิ่งเหล่านั้นจากคุณ

  แปลและเรียบเรียงจาก https://www.businessinsider.com/great-jobs-for-smart-people-who-dont-want-to-work-too-hard-2015-9