งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

บริษัทมีการปฏิบัติตามกฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด โดยมีการแต่งตั้ง 1) คณะกรรมการความปลอดภัยฯ (คปอ.) ระดับพื้นที่ ที่มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของพนักงานโดยการเลือกตั้งตัวแทนจากนายจ้างและลูกจ้าง ตามสัดส่วนที่กฎหมายกำหนดและมีการประชุมเป็นประจำทุกเดือน นอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนดแล้ว บริษัทมีการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ครอบคลุมทุกพื้นที่การดำเนินการของบริษัท โดยจัดให้มี 2) คณะอนุกรรมการความปลอดภัยฯ ระดับสายงาน มีวาระและการคัดสรรคณะกรรมการทุก 2 ปี มีหน้าที่ในการพิจารณาประเด็นปัญหาจากคณะกรรมการความปลอดภัยฯ (คปอ.) ระดับพื้นที่ รวมถึงพิจารณาอนุมัติงบประมาณ ซึ่งดำเนินงานภายใต้การกำกับดูแลของ 3) คณะกรรมการนโยบายความปลอดภัยฯ ซึ่งมีหน้าที่เป็นผู้ประกาศและถ่ายทอดนโยบายให้แต่ละสายงานนำไปปฏิบัติเป็นมาตรฐานเดียวกัน ครอบคลุมพนักงานทุกระดับในองค์กร รวมไปถึงผู้รับเหมาและคู่ค้าตลอดห่วงโซ่คุณค่าของบริษัท

Show

นอกจากนี้ บริษัทยังมีการนำผลการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานมาปรับปรุงขั้นตอนการดำเนินงาน พื้นที่การทำงาน การอบรมพนักงาน รวมถึงปรับปรุงอุปกรณ์ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น

งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

ยกระดับอาชีวอนามัย สร้างความปลอดภัยน่าทำงาน

บริษัทตระหนักถึงสิทธิด้านความมั่นคงปลอดภัยของ โดยมุ่งเป็นองค์กรที่ปราศจากอุบัติเหตุ ภายในปี 2573 รวมถึงมอบความสุข และคุณภาพชีวิตที่ดีแก่พนักงาน บริษัทจึงดำเนินการจัดสภาพแวดล้อม และพื้นที่การทำงานให้ปลอดภัยตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยกำหนดคณะกรรมการตรวจประเมินประสิทธิผลการจัดการด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ทำหน้าที่กำหนดนโยบาย แนวทางการดำเนินงาน และแผนการพัฒนาระบบอาชีวอนามัยและความปลอดภัย พร้อมทั้งดำเนินตลอดจนยกระดับการจัดการให้เทียบเคียงระดับสากล เพื่อดูแลพนักงานให้มีสภาพการทำงานที่ปลอดภัย และไม่ส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมทั้งภายใน และภายนอกองค์กร

นโยบายและเป้าหมายความปลอดภัย กลุ่มธุรกิจการตลาดและการจัดจำหน่าย

บริษัทกำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายการบริหารด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน โดยมีความมุ่งมั่นสู่การดำเนินธุรกิจที่ไม่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ และโรคจากการทำงาน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ==> ดาวน์โหลด

ปัจจัยตัวชี้วัดหน่วยวัดเป้าหมาย ปี พ.ศ. 2565-2573อาชีวอนามัยและความปลอดภัยจำนวนและอัตราผู้เสียชีวิตอันเนื่องมาจากการทำงานของพนักงานและผู้รับเหมา(หน่วย : ราย / 1 ล้านชั่วโมงทำงาน)0 รายจำนวนและอัตราการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงานจากการทำงานของพนักงานและผู้รับเหมา (Lost Time Injury Rate: LTIFR)(หน่วย : ราย / 1 ล้านชั่วโมงทำงาน)มีแนวโน้มลดลง 40% และเป็น 0 ในปี 2573

รวมทั้งสนับสนุนทรัพยากรในการจัดการ สร้างบรรยากาศ จัดสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัย จัดสรรเครื่องมือ และอุปกรณ์ป้องกันภัยที่เพียงพอและเหมาะสมให้กับผู้ปฏิบัติงาน เพื่อให้เกิดการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง มุ่งมั่นจัดเตรียมสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัย เพื่อลด ควบคุมและป้องกันอุบัติเหตุใด ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายด้านความปลอดภัยที่วางไว้ ผ่านการดำเนินการ ดังนี้

การประเมินความเสี่ยง โดยการระบุสิ่งที่อาจก่อให้เกิดอันตรายในสถานที่ทำงาน

ขั้นตอนการประเมินความเสี่ยง

1. ระบุกิจกรรม/พื้นที่/ลักษณะงาน

  • งานที่ทำเป็นประจำ (Routine)
  • งานที่ทำเป็นครั้งคราว (Non-Routine)
  • กิจกรรมหรืองานจากพื้นที่ภายนอกที่มีความเสี่ยง (Out side Workplace)
  • กิจกรรมหรืองานที่เกี่ยวกับผู้รับเหมา/หน่วยงานอื่น (Contractor)

2. ชี้บ่งอันตราย

  • สภาพแวดล้อม (Environmental)
  • เครื่องจักร/เครื่องมือ/อุปกรณ์ (Equipment)
  • วัสดุ/วัตถุดิบ (Materials)
  • การกระทำหรือพฤติกรรม (Human Behavior)
  • สภาพการทำงาน (Condition)
  • คน (เกิดจากตัวพนักงานเอง)
  • ปัจจัยทางสังคม

3. ประเมินความเสี่ยง

ความรุนแรง/โอกาสเกิดL (น้อย)M (ปานกลาง)H (สูง)L (น้อย)ความเสี่ยงเล็กน้อย (1)ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (2)ความเสี่ยงปานกลาง (3)M (ปานกลาง)ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (2)ความเสี่ยงปานกลาง (3)ความเสี่ยงสูง (4)H (สูง)ความเสี่ยงปานกลาง (3)ความเสี่ยงสูง (4)ความเสี่ยงที่ยอมรับไม่ได้ (5)

4. จัดทำทะเบียนความเสี่ยง

ระดับความเสี่ยงการดำเนินการยอมรับไม่ได้ (5)หยุดการทำงานในกิจกรรมงานทันที แล้วแก้ไขให้ระดับความเสี่ยงลดลงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ โดยต้องมีการตรวจสอบการแก้ไขดังกล่าวก่อนอนุญาตให้ปฏิบัติงาน พร้อมจัดทำเป็นมาตรการควบคุม ทั้งนี้ต้องมีหลักฐานพร้อมให้ตรวจสอบตลอดระยะเวลาดำเนินการสูง (4)ลดระดับความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ โดยทบทวนมาตรการควบคุมที่มีอยู่/ยกเลิก/จัดทำมาตรการใหม่/จัดทำวัตถุประสงค์ เป้าหมาย และโครงการ ทั้งนี้ต้องมีหลักฐานพร้อมให้ตรวจสอบตลอดระยะเวลาดำเนินการปานกลาง และยอมรับได้ (2,3)ทบทวนความเหมาะสมของมาตรการควบคุมที่มีอยู่ เพื่อควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้อย่างต่อเนื่องและตรวจสอบการปฏิบัติการโดยหัวหน้างานอย่างเข้มงวดเล็กน้อย (1)ตรวจสอบการทำงานเป็นประจำโดยหัวหน้างาน,จป.,คปอ.

คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (คปอ.) มอบหมายให้ผู้บริหารระดับแผนกหรือเทียบเท่าของแต่ละพื้นที่ประเมินความเสี่ยงระบุกิจกรรม/พื้นที่/ลักษณะงาน อาทิ การขับขี่ยานยนต์/มอเตอร์ไซต์ สารเคมี แสง เสียง โดยพิจารณาจากงานที่ทำงานจากพื้นที่ภายนอกที่มีความเสี่ยง รวมถึงงานที่เกี่ยวกับผู้รับเหมา รวมถึงทบทวนความเสี่ยงกรณีเกิดการเปลี่ยนแปลงการควบคุม วัตถุดิบ / กิจกรรม / กระบวนการ / ผลิตภัณฑ์ใหม่ /ผังของกระบวนการทำงาน รวมถึงกรณีมีกฎหมายใหม่ / พบข้อร้องเรียน / การเกิดอุบัติเหตุ และการพิจารณาลดระดับความเสี่ยง ปีละครั้ง โดยการประเมินความเสี่ยงครอบคลุมทั้งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำปกติ และสถานการณ์ไม่ปกติของการทำงานที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว ควบคู่ไปกับการประเมินความเสี่ยงของพฤติกรรมที่มีผลต่อกิจกรรมการทำงาน พร้อมทั้ง
ชี้บ่งอันตรายและประเมินหานัยสำคัญของลักษณะปัญหาความปลอดภัย ภายใต้กรอบการพิจารณาทั้ง 7 หมวด ประกอบด้วย 1) สภาพแวดล้อม (Environmental) 2) เครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ (Equipment) 3) วัสดุ / วัตถุดิบ (materials) 4) การกระทำหรือพฤติกรรม (Human behavior) 5) สภาพการทำงาน (Condition) 6) ตัวพนักงาน 7) ปัจจัยทางสังคม

จากนั้นร่วมกันประเมินความเสี่ยงโดยใช้หลักเกณฑ์การพิจารณา 1) พิจารณาถึงโอกาสที่จะเกิดความสูญเสียของอันตราย 2) พิจารณาถึงความรุนแรงจากความสูญเสียของอันตราย จากนั้นจัดทำทะเบียนความเสี่ยงเพื่อนำไปพิจารณาจัดลำดับความสำคัญ และพิจารณามาตรการควบคุมความเสี่ยง

งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

การจัดลำดับความสำคัญและบูรณาการแผนปฏิบัติการกับเป้าหมายเชิงปริมาณเพื่อจัดการความเสี่ยง

ผู้รับผิดชอบของแต่ละพื้นที่พิจารณาจัดลำดับความสำคัญของความเสี่ยง เพื่อพิจารณากำหนดมาตรการการจัดการ ความเสี่ยง และเสนอขอการอนุมัติจากคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน

ระดับความเสี่ยงการดำเนินการยอมรับไม่ได้ (5)หยุดการทำงานในกิจกรรมงานทันที แล้วแก้ไขให้ระดับความเสี่ยงลดลงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ โดยต้องมีการตรวจสอบการแก้ไขดังกล่าวก่อนอนุญาตให้ปฏิบัติงาน พร้อมจัดทำเป็นมาตรการควบคุม ทั้งนี้ต้องมีหลักฐานพร้อมให้ตรวจสอบตลอดระยะเวลาดำเนินการสูง (4)ลดระดับความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ โดยทบทวนมาตรการควบคุมที่มีอยู่/ยกเลิก/จัดทำมาตรการใหม่/จัดทำวัตถุประสงค์ เป้าหมาย และโครงการ ทั้งนี้ต้องมีหลักฐานพร้อมให้ตรวจสอบตลอดระยะเวลาดำเนินการปานกลาง และยอมรับได้ (2,3)ทบทวนความเหมาะสมของมาตรการควบคุมที่มีอยู่ เพื่อควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้อย่างต่อเนื่องและตรวจสอบการปฏิบัติการโดยหัวหน้างานอย่างเข้มงวดเล็กน้อย (1)ตรวจสอบการทำงานเป็นประจำโดยหัวหน้างาน,จป.,คปอ.

และมอบหมายไปยังผู้เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำโครงการ แผนปฏิบัติการ พร้อมกำหนดวัตถุประสงค์ เป้าหมายเชิงปริมาณและผู้รับผิดชอบ เสนอคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานพิจารณาอนุมัติโครงการและแผนงาน อ่านรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่ ==> ดาวน์โหลด เอกสารหน้า 66-70 , ดาวน์โหลด PDF. หน้า 68-72

ตัวอย่างโครงการวัตถุประสงค์และเป้าหมาย

ลำดับที่มาของโครงการชื่อโครงการวัตถุประสงค์เป้าหมาย ตัวชี้วัด/หน่วยผู้รับผิดชอบผลการดำเนินงาน1– นโยบายด้านความปลอดภัย
– สถิติอุบัติเหตุในงาน1. หน่วยงานดีเด่นด้านความปลอดภัย– ลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุ– อุบัติเหตุในแต่ละหน่วยงานลดลง
– เข้าร่วมกิจกรรมทุกหน่วยงานครบ 12ครั้งปี1. อนุกรรมการด้านไต่สวน
2. จป.วิชาชีพมีการร่วมกิจกรรม 6 ครั้ง 6 เดือน2– นโยบายด้านความปลอดภัยฯ
– สถิติอุบัติเหตุในงาน2. วารสาร SHE DC ขอนแก่น ปี 2564– ลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุ– จัดทำวารสารเดือนละ 1 เล่ม
– พนักงานมีส่วนร่วมตอบคำถามท้ายวารสารทุกเดือน1. อนุกรรมการด้านไต่สวน
2. จป. วิชาชีพมีการร่วมกิจกรรม 6 ครั้ง 6 เดือน3– นโยบายด้านอาชีวอนามัยฯและป้องกันโรคจากการทำงาน3. เฝ้าระวังป้องกันโรคติดต่อร้ายแรงโควิด-19ซ 2564– ป้องกันการเกิดและการระยาดของโรคติดต่อโควิด-19 ภายในศูนย์กระจายสินค้า– ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในศูนย์กระจายสินค้า RDC ขอนแก่น1. อนุกรรมการด้านอาชีวอนามัย
2. จป. วิชาชีพยังไม่พบผู้ติดเชื้อ4– นโยบายด้านความปลอดภัย4. Safety Start at School :(รร.ราชประชานุเคราะห์ 50)– เพื่อเป็นการขยายเครือข่ายความปลอดภัยสู่ชุมชนและสังคม ครอบคลุมบริบทองค์กรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย– จัดกิจกรรมเซฟตี้ เริ่มที่โรงเรียนของหนู อย่างน้อย 1 โรงเรียน/ปี1. อนุกรรมการด้านกิจกรรมและฝึกอบรม
2. จป. วิชาชีพรร.ราชประชานุเคราะห์ 50 สำเร็จตามเป้าหมาย5– นโยบายด้านความปลอดภัย5. รณรงค์สร้างวินัย ขับขี่ปลอดภัยในวันสงกรานต์ 2564:DC ขอนแก่น– เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกความปลอดภัยของพนักงานในการขับขี่ยานยนต์ทุกประเภท ทั้งในและนอกพื้นที่ DC ขอนแก่น– พนักงานมีความพึงพอใจในการจัดกิจกรรม ระดับดีมาก ขึ้นไปมากกว่า 70%1. คณะอนุกรรมการด้านจราจรและยานยนต์
2. จป. วิชาชีพพนักงานมีความพึงพอใจในการจัดกิจกรรม 82.5% สำเร็จตามเป้าหมาย

ตัวอย่างแผนงานอาชีวอนามัย ความปลอดภัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน

แผนงานและกิจกรรมเป้าหมายงบประมาณผู้รับผิดชอบไตรมาสที่ 1ไตรมาสที่ 2ไตรมาสที่ 3ไตรมาสที่ 4ม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.1. รายงานการสอบสวนอุบัติเหตุในงาน-นอกงานทุกเดือน–จปXXXXXXXXXXXX2. วิเคราะห์อุบัติเหตุ กรณีเกิดอุบัติเหตุในงานและนอกงานทุกเดือน–จป/หัวหน้างานXXXXXXXXXXXX3. จัดทำสถติอุบัติเหตุ และแสดงแนวโน้มการเกิดอุบัติเหตุรายงานข้อมุลสถิติต่อหัวหน้างาน ลูกจ้าง และผู้บริหารทุกเดือน–จปXXXXXXXXXXXX4. ทบทวนการประเมินความเสี่ยงครอบคลุมลักษณะงานที่มีความเสี่ยง1 ครั้ง/ปี–จป/หัวหน้างานXXXXXXXXXXXX5. โครงการอุบัติการณ์/Near Miss/BBSTทุกเดือน–จป/หัวหน้างานXXXXXXXXXXXX

นอกจากนี้ บริษัทเปิดโอกาสให้พนักงานรายงานอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงผ่านช่องทางต่างๆ พร้อมทั้ง กำหนดขั้นตอนการสืบสวนอุบัติเหตุ และแนวทางการแก้ไขที่เหมาะสม จากการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของพนักงานและผู้รับเหมาในปี 2564 พบว่ามีกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงทั้งหมด 4 กิจกรรม ดังนี้

กิจกรรมความเสี่ยงสูงขั้นตอนการสอบสวนแนวทางแก้ไข

งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

การทำงานเครื่องจักรในการทำงาน (รถ RT & PT)
  • การรายงานอุบัติเหตุ
  • การสอบสวนและวิเคราะห์อุบัติเหตุ
  • การจัดทำมาตรการป้องกัน
  • การจัดสร้างอุปกรณ์ควบคุม
  • การฝึกอบรมสร้างความตระหนัก
งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

การทำงานในที่อับอากาศ
  • การวิเคราะห์งานเพื่อความปลอดภัย (Job Safety Analysis)
  • การขออนุญาตการทำงานในที่อับอากาศ
  • การตรวจวัดอากาศและก๊าซพิษ
  • การใช้อุปกรณ์ในการทำงานที่อับอากาศ
  • การตรวจและซักซ้อมความเข้าใจจากการวิเคราะห์งานเพื่อความปลอดภัย
  • การรายงานผลค่าวัดออกซิเจนและก๊าซพิษ
งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

การทำงานบนที่สูง
  • การวิเคราะห์งานเพื่อความปลอดภัย (Job Safety Analysis)
  • การขออนุญาิการทำงานบนที่สูง
  • การใช้อุปกรณ์ในการทำงานที่สูง
  • การตรวจและซักซ้อมความเข้าใจจากการวิเคราะห์งานเพื่อความปลอดภัย
  • การใช้อุปกรณ์ป้องกันตกจากที่สูง
งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

การทำงานที่มีความร้อนและประกายไฟ
  • การวิเคราะห์งานเพื่อความปลอดภัย (Job Safety Analysis)
  • การขออนุญาตการทำงานที่มีความร้อนและประกายไฟ
  • การเคลียร์พื้นที่ไม่มีเชื้อเพลิงในรัศมี
  • การใช้และการเตรียมถังดับเพลิง
  • การตรวจและซักซ้อมความเข้าใจจากการวิเคราะห์งานเพื่อความปลอดภัย
  • การใช้อุปกรณ์ป้องกันสะเก็ดไฟกระเด็นและการเตรียมถังดับเพลิงพร้อมใช้งาน

ในปี 2564 บริษัทดำเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน รวมถึงส่งเสริมการมีคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่พนักงานในองค์กร ผ่าน 3 โปรแกรมหลัก ดังนี้

1) โปรแกรมความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานและครอบครัวพนักงาน

โครงการจัดรูปแบบการทำงานแบบยืดหยุ่น (Flexible Work Arrangement)

บริษัทส่งเสริมการสร้างสมดุลให้กับพนักงานระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว (Work-life Balance) โดยพนักงานประจำสำนักงานสามารถเลือกเวลาการทำงานให้สอดคล้องกับรูปแบบการใช้ชีวิตของตนเองได้ตามช่วงเวลาที่บริษัทกำหนด ได้แก่

งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

ช่วงเวลา

07.30-17.00 น.

08.00-17.30 น.

08.30-18.00 น.

09.00-18.30 น.

09.30-19.00 น.

นอกจากนี้ บริษัทยังมีนโยบาย และแนวทางให้พนักงานสามารถเลือกทำงาน ณ สถานที่ใดก็ได้ (Work Anywhere) รวมไปถึงให้พนักงานสามารถทำงานที่บ้านได้ (Work from Home) จำนวนสูงสุด 3 วันต่อสัปดาห์ โดยต้องปฏิบัติตามหลัก D M H T T อย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 พร้อมกันนี้ บริษัทสนับสนุนระบบการทำงานต่างๆ เพื่อรองรับการทำงานแบบ Work Anywhere ให้พนักงานสามารถติดต่อสื่อสารและเข้าระบบในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ระบบประชุม Online (Webex, BlueJeans, Microsoft Team, Zoom) ระบบการสื่อสารผ่าน CP ALL Connect และ True Virual Connect รวมถึงสนับสนุนให้พนักงานใช้ Notebook ที่มีโปรแกรมของบริษัทแทน Desktop Computer เป็นต้น


โครงการบ้านนี้มีรัก สวัสดิการเพื่อบุตรหลานพนักงาน

นอกเหนื่อจากการสนับสนุนสวัสดิการที่ดีและเหมาะสมสำหรับพนักงานแล้ว บริษัทยังเล็งเห็นการสร้างคุณค่าและให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของครอบครัวของพนักงาน โดยมุ่งสนับสนุนสวัสดิการสำหรับครอบครัวพนักงานที่หลากหลาย ดังนี้

  • สถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับรองรับบุตรหลานของพนักงานที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เพื่อลดความเสี่ยงจากอันตรายเนื่องจากวุฒิภาวะของเด็ก และเยาวชนในพื้นที่การปฏิบัติงานของบริษัท
  • จัดกิจกรรมสำหรับบุตรหลานของพนักงานและผู้บริหารเพื่อแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง สร้างประสบการณ์การเรียนรู้และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ อาทิ กิจกรรม “SPIM Active Learning Science” เรียนรู้วิทยาศาสตร์ใกล้ตัว ผ่าน 2 กิจกรรมการทดลองออนไลน์กับคุณครูชีววิทยาระดับประเทศพร้อมอุปกรณ์การทดลองส่งตรงถึงบ้านแบบไม่มีค่าใช้จ่าย กิจกรรมการอบรมหลักสูตร “หุ่นยนต์และโค้ดดิ้ง” กิจกรรม “บ้าน ซีพีแรม นี้มีรัก” ให้พนักงานและครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกัน เสริมสร้างสัมพันธ์ที่ดีและเหนียวแน่นในครอบครัว
  • จัดตั้งชมรมหนังสือเล่มแรกสำหรับเด็กเล็ก โดยแบ่งโครงการต่างๆ ตามช่วงวัยของเด็ก ดังนี้
    – โครงการหนังสือเล่มแรก (Bookstart) : กลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ตั้งครรภ์ -3 ปี ส่งเสริมให้พ่อแม่อ่านหนังสือให้ลูกฟังทุกวัน อย่างน้อยวันละ 10-15 นาที เพื่อปลูกฝังให้เด็กรักการอ่าน และเสริมสร้างสายสัมพันธ์ครอบครัว
    – โครงการพ่ออ่านบ้านอุ่น : กลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่ตั้งครรภ์ -3 ปี ส่งเสริมให้พ่อมีส่วนร่วมในการเลี้ยงลูกด้วยตนเองมากขึ้น ผ่านการอ่านหนังสือให้ลูกฟังอย่างน้อยวันละ 10-15 นาที
    – โครงการสมรรถนะเด็กปฐมวัยในการพัฒนาตามวัย : กลุ่มเป้าหมาย 3 ปี – 6 ปี ส่งเสริม และให้แนวทางสำหรับพ่อแม่ ในการสนับสนุนให้เด็กทำกิจกรรม และกิจวัตรจนเป็นนิสัยกระทั่งเกิดสมรรถนะตามวัย
    – โครงการเสริมทักษะชีวิต : กลุ่มเป้ามหมาย ไม่จำกัดอายุ ส่งเสริมและให้แนวทางสำหรับพ่อแม่ในการเลี้ยงลูกให้เหมาะสมกับวัย พร้อมค้นหาบุคลิกภาพเฉพาะตัวของลูกตามแนวทาง “เลี้ยงลูกให้ถูกทาง”


โครงการ “มุมนมแม่”

บริษัทมีสวัสดิการสำหรับพนักงานหญิงในการเตรียมความพร้อมสำหรับการเป็นคุณแม่ ตั้งแต่ระยะตั้งครรภ์ คลอดบุตร จนถึงการเลี้ยงดูบุตรให้เติบโต ดังนี้

  • จัดอบรมให้ความรู้เรื่องนมแม่สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
  • กิจกรรมโภชนาการที่ดีสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
  • กิจกรรมเยี่ยมคุณแม่หลังคลอด เพื่อสร้างขวัญ กำลังใจ และความสัมพันธ์อันดี
  • จัดสถานที่ให้คุณแม่สำหรับให้นมบุตรภายในพื้นที่ปฏิบัติงานศูนย์กระจายสินค้า ซีพี ออลล์

งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ


ลดอัตราการการลาออกของพนักงานหญิงหลังจากคลอดบุตร

ก่อเกิดความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนายจ้างและลูกค้า

ความพึงพอใจของพนักงาน

ร้อยละ 100


โครงการ Health for ALL

บริษัท ตระหนักถึงสิทธิด้านสุขภาพของพนักงาน จึงส่งเสริมและสนับสนุนให้พนักงานมีสุขภาพแข็งแรง สร้างความตื่นตัวในการออกกำลังกาย กิจกรรมสุขภาพที่หลากหลาย เพื่อลดความเสี่ยงโรคต่างๆ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน เป็นต้น

  • บริษัท ซีพีแรม จำกัด ดำเนินกิจกรรม “รักษ์สุขภาพ” ต่อเนื่องกว่า 2 ปี ให้แก่พนักงาน พร้อมจัดให้มีการวัดผลสมรรถภาพร่างกายทั้งหมด 5 ด้าน ได้แก่ ค่าระดับน้ำตาลในเลือด การเผาผลาญโดยการออกกำลังกาย การลดลงของน้ำหนัก สัดส่วนไขมันในร่างกาย และระยะการเดินและวิ่ง
  • บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ Fit From Home เชิญชวนพนักงานออกกำลังกายและวัดผลจากการเผาผลาญแคลอรี่ส่งมาร่วมรับของรางวัล กิจกรรมออกกำลังกายตามกรุ๊ปเลือด โดยการส่งภาพถ่ายขณะออกกำลังกายพร้อมระบุเหตุผลที่เลือกการออกกำลังกายนั้นๆ
  • จัดตั้งกลุ่มคนสุขภาพดี ร่วมสร้างสังคมสุขภาพดีให้สมาชิกได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ร่วมกิจกรรมสุขภาพและเข้าถึงข้อมูลสุขภาพต่างๆ

2) โปรแกรมลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

โครงการส่งเสริมความปลอดภัยในการขับขี่สำหรับพนักงานร้าน 7-Eleven

ในปีที่ผ่านมาบริษัทรายงานการเกิดอุบัติเหตุ โดยมีสาเหตุจากการไม่ปฏิบัติตามกฎจราจรของคู่กรณี จึงส่งผลให้พนักงานส่งสินค้าขับขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิต 2 ราย ในปี 2564 นอกเหนือจากการให้พนักงานจัดส่งสินค้า (Rider) ทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เช่น สวมหมวกกันน็อก มีใบขับขี่ มี พ.ร.บ. มีประกันภาคสมัครใจ ผ่านการอบรมขับขี่ปลอดภัย แล้วบริษัทยังมุ่งส่งเสริมการสร้างความปลอดภัยในการขับขี่สำหรับพนักงานร้าน 7-Eleven อย่างเข้มข้น ดังนี้

  • ปรับปรุงมาตรการความปลอดภัยในการใช้ยานยนต์ สำหรับร้าน 7-Eleven โดยเพิ่มแนวปฏิบัติ 7 ข้อควรปฏิบัติ และ 11 ข้อห้ามปฏิบัติของพนักงาน การตรวจสอบความพร้อมของยานยนต์และห้ามไม่ให้ขับขี่ยานยนต์ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและข้อร้องเรียน บทบาทผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงบทลงโทษ
  • สร้างวัฒนธรรมการขับขี่ปลอดภัย มุ่งเน้นการอบรม ให้ความรู้เรื่อง “ขับขี่ปลอดภัย” การสื่อสารเชิงรุกด้วยสื่อรณรงค์ที่เข้าใจง่าย และเข้าถึงพนักงานร้าน 7-Eleven ซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศได้มากขึ้น อาทิ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Books) คลิปวีดีโอ โปสเตอร์ 7 ต้อง 11 ห้าม รวมถึงมีการวัดผลการรับรองข่าวสารของพนักงานร้าน 7-Eleven เป็นรายสัปดาห์
  • สนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันอุบัติเหตุ สำหรับไรเดอร์ (Rider) อาทิ เสื้อพนักงานติดแถบสะท้อนแสง ชุดจับมือถือจักรยานยนต์
  • เพิ่มความเข้มข้นมาตรการการกำกับดูแล และตรวจสอบการปฏิบัติงานของไรเดอร์ (Rider) ดังนี้

งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

  • ทดลองใช้รถมอเตอร์ไซไฟฟ้า จำกัดความเร็วไม่เกิน 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อควบคุมความเร็ว ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุอีกทั้งยังช่วยลดมลพิษให้กับชุมชน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดลองใช้ในร้าน 7-Eleven จำนวน 27 สาขา

3) โปรแกรมลดความเสี่ยงด้านการยศาสตร์ และการจัดการความเครียด

โครงการยืดเหยียดลดโรค

โครงการยืดเหยีดลดโรคในรูปแบบออนไลน์ ดำเนินงานต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยเชิญผู้เชียวชาญเฉพาะด้านมาให้ความรู้เกี่ยวกับโรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrom) แก่พนักงาน พร้อมคำแนะนำเรื่องท่าทางการทำงานที่ถูกต้องเพื่อป้องกันอาหารปวดกล้ามเนื้อ ในปี 2564 มีพนักงานและผู้บริหารเข้าร่วม จำนวน 70 ราย

งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง
งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง


โครงการห้องสวัสดิการ Health Center (กายภาพบำบัด)

ให้บริการบำบัดฟื้นฟูอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ตึง ขาอ่อนแรง ปวดหลัง หรือมีอาการออฟฟิศซินโดรม พร้อมทั้งให้บริการคำปรึกษาและดูแลสุขภาพ โดยนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญ ในปี 2564 มีพนักงานและผู้บริหารเข้าร่วมโครงการ จำนวน 50 คน


โครงการโค้ชจิตอาสา

มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือให้พนักงานสามารถจัดการความเครียดมีกำลังใจที่จะต่อสู้กับปัญหาและสามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่กำลังเผชิญอยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 โดยบริษัทร่วมมือกับโค้ชจิตอาสา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสมาชิกของ ICF Bangkok Chapter มาเป็นกำลังใจ ชวนพูด ชวนคุย และชวนคิดกับพนักงานของบริษัท โดยเฉพาะพนักงานร้าน 7-Eleven โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ในปี 2564 มีพนักงานตอบรับเข้าร่วมโครงการกว่า 300 ราย

การบูรณาการการดำเนินการเพื่อเตรียมพร้อมและตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน

บริษัท มีการจัดทำและคงไว้ซึ่งแผนป้องกันและตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อควบคุม ป้องกัน และลดผลกระทบด้านอาชีวอนามัย ความปลอดภัย ครอบคลุมถึงการระงับเหตุฉุกเฉินในความเสี่ยงแต่ละประเภทที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงคำนึงถึงผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินนั้น และสื่อสารข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมแผนการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินให้ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง ผู้รับเหมา ชุมชนใกล้เคียงตามความเหมาะสม โดยมีการทบทวนและซ้อมแผนฉุกเฉินอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

ตัวอย่างการดำเนินการ

งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

ตัวอย่างตารางฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินประจำปี

แผนฉุกเฉินม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.รวมร้อยละ1. ป้องกันและระงับอัคคีภัย    5326335 241002. สารเคมี กากของเสีย หรือน้ำมันรั่วไหล11  510112 1 221003. ก่อวินาศกรรม     121211191004. น้ำท่วม      1852 1171005. ไฟฟ้าดับ   13521151 191006. เครื่องทำความเย็นขัดข้อง   1 12232  111007. บ่อบำบัดไม่ทำงาน   1  1 1  141008. โรคระบาด Covid-1911111 2     71009. แก๊ซ LPG รั่วไหล    12332   1110010. แผนฉุกเฉินเกิดอันตรายจากงานเชื่อม  1 1    111510011. แผนฉุกเฉินเกิดอันตรายจากงานเชื่อม     1      110012. แผนฉุกเฉินอันตรายจากไฟฟ้าดูด ไฟฟ้าช็อต       1    110013. แผนฉุกเฉินกรณีติดอยู่ในห้อง SERVER/ติดในห้องบัตร (ขาดอากาศหายใจ)      1     110014. แผนสปริงเกอร์แตก    111     5100รวม124417241823191494140100

งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

โปรแกรมการประเมินความก้าวหน้าในการลด/ป้องกันปัญหาสุขภาพ/ความเสี่ยงต่อเป้าหมาย

คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ประเมินและติดตามความคืบหน้าของโครงการและแผนงานทุกเดือน ทั้งในเชิงคุณภาพ (Qualitative) เชิงปริมาณ (Quantitative) เชิงรุก (Proactive) อาทิ การตรวจสภาพแวดล้อมในการทำงาน การตรวจความปลอดภัยตามแผนการตรวจสอบเครื่องจักร อุปกรณ์ การบำรุงรักษาเครื่องจักร อุปกรณ์ การตรวจสุขภาพ พร้อมทั้งมีการทบทวนวัตถุประสงค์ และเป้าหมายของโครงการปีละครั้ง

ตัวอย่างการติดตามเชิงปริมาณเพื่อวัดความก้าวหน้าของวัตถุประสงค์ และเป้าหมาย ปี 2564

งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

เป้าหมาย ตัวชี้วัด/หน่วยการประเมินผลม.ค.ก.พ.มี.ค.เม.ย.พ.ค.มิ.ย.ก.ค.ส.ค.ก.ย.ต.ค.พ.ย.ธ.ค.1. อุบัติเหตุและการเจ็บป่วยจากการทำงาน             1.1อุบัติเหตุและการเจ็บป่วยจากการทำงาน (Injury Rate:IR) ลดลงการประเมินผลรายเดือนโดยตรวจข้อมูลสถิติอุบัติเหตุและการเจ็บป่วยประจำเดือนจากการทำงาน✓XXXXXXXXXหน่วยวัด:(รายx200,000)/ชั่วโมงการทำงาน1.2อัตราการสูญเสียวันทำงาน (Lost Day Rate:LDR) ลดลงประเมินผลรายเดือนโดยตตรวจข้อมูลสถิติอุบัติเหตุและการเจ็บป่วยประจำเดือนจากการทำงาน✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓หน่วยวัด:(วันx200,000)/ชั่วโมงการทำงาน1.3อัตราการเกิดโรคจากการทำงาน (Occupational Diseases Rate:ODR) ลดลงประเมินผลรายเดือนโดยตรวจข้อมูลสถิติการเจ็บป่วยประจำเดือนจากการทำงาน✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓หน่วยวัด:(วันx200,000)/ชั่วโมงการทำงาน1.4ไม่มีอุบัติเหตุในงานถึงขั้นหยุดงานเกิน 3 วันประเมินผลรายเดือนโดยตรวจข้อมูลสถิติอุบัติเหตุจากการทำงาน✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓หน่วยวัด: จำนวนกรณี1.5 ชั่วโมงการทำงานสะสมต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 1,000,000 ชั่วโมงประเมินผลรายเดือนโดยตรวจข้อมูลสถิติอุบัติเหตุจากการทำงาน✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓หน่วยวัด: จำนวนกรณี1.6จำนวนกรณีเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต (Work-releated fatalities:WF) เป็น 0ประเมินผลรายเดือนโดยตรวจข้อมุลสถิติอุบัติเหตุและการเจ็บป่วยประจำเดือนจากการทำงาน✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓✓หน่วยวัด: จำนวนกรณี

ตัวอย่างการติดตามเชิงรุกความปลอดภัยของสายปฏิบัติการร้าน 7-Eleven โดยหน่วยงานตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานร้าน (Quality Store Standard Inspector) เดือนละครั้ง

งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

ตัวอย่างการติดตามเชิงรุกตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยง

งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

โปรแกรมการตรวจประเมินภายใน

บริษัทกำหนดให้มีกระบวนการตรวจประเมินภายในอย่างเป็นระบบ เพื่อให้มั่นใจว่าระบบการจัดการอาชีวอนามัย และความปลอดภัยขององค์กรได้มีการนำไปปฏิบัติอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิผล โดยร่วมกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ จัดทำโครงการตรวจประเมินประสิทธิผลการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม (SHE) เพื่อป้องกันอุบัติเหตุร้ายแรงและลดผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยคณะกรรมการกลางปีละ 1 ครั้ง ภายใต้เกณฑ์การตรวจประเมินประสิทธิผลด้าน SHE  ดังนี้

งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง
งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

การตรวจสอบอาชีวอนามัย ความปลอดภัย และสภาพแวดล้อมการทำงานจากภายนอกโดยหน่วยงานอิสระ

บริษัทให้ความสำคัญกับการจัดการอาชีวอนามัย และความปลอดภัยในการทำงานของพนักงานซึ่งถือเป็นทรัพยากร อันมีค่าของบริษัทครอบคลุมไปยังผู้รับเหมาที่อยู่ภายใต้การดูแลของบริษํท ให้มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล บริษัทยกระดับแนวทางการจัดการระบบอาชีวอนามัยและความปลอดภัย (Occupational Health and Safety : OHS) อย่างต่อเนื่องเพื่อมุ่งสู่การรับรอง ISO 45001 : 2018 ในพื้นที่เป้าหมายศูนย์กระจายสินค้าของ ซีพี ออลล์ โดยดำเนินการจัดอบรมให้ความรู้ ประเมินช่องว่าง (Gap) ของระบบปัจจุบันเทียบกับ ISO 45001 : 2018 จัดทำแผนยกระดับ พิจารณาคัดเลือกพื้นที่ที่มีความพร้อมยื่นขอรับการรับรอง ตรวจประเมินโดย Third Party เพื่อเตรียมพร้อมก่อนรับการตรวจจริง รวมถึงตรวจประเมินประจำปี (Surveillance Audit) เพื่อรักษาระบบ โดยในปี 2564 บริษัทได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 45001 : 2018 เพิ่ม 3 พื้นที่ คือศูนย์กระจายสินค้าภูมิภาค (RDC) ศูนย์กระจายสินค้าควบคุมอุณหภูมิ (CDC) ศูนย์กระจายสินค้าอาหารแช่แข็ง (FDC) จังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่งผลให้พื้นที่เป้าหมายของบริษัท (ระยะที่ 1) ได้รับการรับรองมาตรฐานการ ISO 45001 : 2018 ครอบคลุมร้อยละ 100 และมีแผนขยายการดำเนินการไปยังพื้นที่เป้าหมาย (ระยะที่ 2) พร้อมทั้งยื่นขอการรับรองเพิ่มอีก 4 พื้นที่ ในปี 2565

2562 (Phase1)

  • อบรมให้ความรู้
  • นำมาตรฐาน ISO 45001 : 2018 ประยุกต์ใช้ในทุกพื้นที่
  • วิเคราะห์ช่องว่าง (Gap) ระบบปัจจุบันเทียบ ISO 45001 : 2018
  • จัดทำแผนยกระดับรายพื้นที่
  • คัดเลือกพื้นที่เป้าหมาย (ระยะที่ 1)

2563

  • ขอการรับรอง 7 พื้นที่
  • Pre-Audit โดยหน่วยงานภายนอก

2564

  • ขอการรับรองเพิ่ม 3 พื้นที่
  • Pr-Audit โดยหน่วยงานภายนอก
  • ตรวจประจำปี (Surveillance Audit) Maintain Certification ISO 45001 : 2018 7 พื้นที่
  • ตรวจติดตามโดยผู้ตรวจประเมินภายใน (Internal Audit)

2565-2566 (Phase 2)

  • คัดเลือกพื้นที่เป้าหมาย (ระยะที่ 2)
  • ขอการรับรองเพิ่ม 4 พื้นที่
  • Pre-Audit โดยหน่วยงานภายนอก
  • ตรวจประจำปี (Surveillance Audit) Maintain Certification ISO 45001 : 2018 10 พื้นที่
  • ตรวจติดตามโดยผู้ตรวจประเมินภายใน (Internal Audit)
  • ต่ออายุใบรับรอง 7 พื้นที่

แผนการตรวจ SCA สายงานกระจายสินค้า ปี 2564

งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

ขั้นตอนการตรวจสอบการบาดเจ็บ การเจ็บป่วย โรคและเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน

การตรวจสอบการบาดเจ็บจากการทำงาน

งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

การตรวจสอบการบาดเจ็บจากการทำงาน กลุ่ม Rider

งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

การตรวจสอบโรคทั่วไป / โรคจากการทำงาน

งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

การฝึกอบรม OHS ที่จัดให้กับพนักงานและ/หรือฝ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความตระหนักและลดเหตุการณ์ด้านสุขภาพและความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน

บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาความรู้ ความสามารถของบุคลากร สร้างความตระหนัก การสื่อสารข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นให้กับผู้มีส่วนได้เสีย รวมถึงวิเคราะห์หาความจำเป็นในการฝึกอบรม และดำเนินการอบรม ให้ความรู้ในหลักสูตรที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสม ปลอดภัยสำหรับการปฏิบัติงานที่มีความเสี่ยง ผ่านโครงการที่หลากหลาย ดังนี้

โครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการคณะกรรมการความปลอดภัย มุ่งสู่อุบัติเหตุเป็นศูนย์

งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

โครงการอบรมระบบการจัดการด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมเพื่อพัฒนาบุคลากร

งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

โครงการอบรมเพิ่มทักษะขับขี่ปลอดภัยให้กับพนักงานสายปฏิบัติการร้าน 7-Eleven

งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

โครงการสร้างความตระหนัก ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านความปลอดภัยให้กับพนักงานศูนย์กระจายสินค้าและผู้รับเหมาขนส่ง (Kiken Yochi Training : KYT)

งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

โครงการอบรมสอบใบขับขี่รถ PT รถ Fork Lift ชั่วคราว ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ให้กับผู้ขับขี่

งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

โครงการอบรมผู้รับเหมาก่อสร้างเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย ก่อนเข้าทำงานในร้าน 7-Eleven และพื้นที่ศูนย์กระจายสินค้า และพื้นที่โรงงาน ซีพี แรม

งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

โครงการอบรมผู้รับเหมาขนส่ง หลักสูตรการขับรถบรรทุกอย่างมืออาชีพ

งานอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีประโยชน์ต่อใครบ้าง

โครงการฝึกอบรมการเรียนรู้ความปลอดภัย (Safety DOJO) สำหรับผู้รับเหมาและพนักงานในสายการผลิต

โครงการฝึกอบรมการเรียนรู้ความปลอดภัย (Safety DOJO) สำหรับผู้รับเหมาและพนักงานในสายการผลิต

บริษัท ซีพีแรม จำกัด ส่งเสริมสร้างความเข้าใจและจิตสำนึก สร้างความตระหนักถึงพฤติกรรมความปลอดภัยให้กับผู้รับเหมาและพนักงานทุกคนเพื่อลดความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุในการทำงานสร้างเครื่องจำลองอุบัติเหตุใช้สำหรับการฝึกอบรม เช่น อุบัติเหตุไฟฟ้าดูด ของหนักกระแทกอันตรายจากเครื่องจักรที่ไม่มีเซฟตี้การ์ด อันตรายจากการมองไม่เห็นมือของตัวเองในขณะทำงานโครงการนี้เป็นโครงการสนับสนุนเป้าหมายลดอุบัติเหตุจากการทำงานเป็นศูนย์ ภายในปี 2573 โดยเป็นการจัดสถานที่ฝึกอบรมให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์ มีสถานีจำลองแสดงความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุจากสถานการณ์ต่างๆ และมีคำอธิบายทั้ง 3 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาเขมร และภาษาพม่า

ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ


ผู้รับเหมาและพนักงานได้รับการเรียนรู้สถานีงานความปลอดภัย

ร้อยละ 100

อัตราความถี่ของการบาดเจ็บ (IFR) ลดลง

ร้อยละ 80

การนำเกณฑ์ OHS มาใช้ในการจัดซื้อจัดจ้างและข้อกำหนดตามสัญญา

บริษัทตระหนักถึงสิทธิด้านความมั่นคงปลอดภัยของ โดยมุ่งเป็นองค์กรที่ปราศจากอุบัติเหตุ ภายในปี 2573 รวมถึงมอบความสุข และคุณภาพชีวิตที่ดีแก่พนักงาน บริษัทจึงดำเนินการจัดสภาพแวดล้อม และพื้นที่การทำงานให้ปลอดภัยตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยกำหนดคณะกรรมการตรวจประเมินประสิทธิผลการจัดการด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ทำหน้าที่กำหนดนโยบาย แนวทางการดำเนินงาน และแผนการพัฒนาระบบอาชีวอนามัยและความปลอดภัย พร้อมทั้งดำเนินตลอดจนยกระดับการจัดการให้เทียบเคียงระดับสากล เพื่อดูแลพนักงานให้มีสภาพการทำงานที่ปลอดภัย และไม่ส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมทั้งภายใน และภายนอกองค์กร

ข้อมูลอื่นๆ


ผลการดำเนินงานด้านการดูแลความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน

GRI Standaredข้อมูลหน่วย2561256225632564ชายหญิงชายหญิงชายหญิงชายหญิงพนักงาน403-9 (a) 2018– จำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดจากการทำงานราย002500002023– อัตราผู้บาดเจ็บทั่งหมดที่มีความรุนแรงสูง (ไม่รวมเสียชีวิต)กรณี/1,000,000 ชั่วโมงการทำงานN/A00.0040N/AN/A0000.0100– อัตราบาดเจ็บที่บันทึกทั้งหมดกรณี/1,000,000 ชั่วโมงการทำงานN/A1.222.143.25N/AN/A2.270.693.021.994.362.70– จำนวนชั่วโมงการทำงานรวมชั่วโมง192,955,020222,630,585251,718,321212,606,69367,743,167125,211,85374,829,447147,801,13883,430,837168,287,48469,947,807142,658,887403-10 (a) 2018– จำนวนผู้เสียชีวิตด้วยโรคจากการทำงานราย000000000000– อัตราผู้บาดเจ็บทั่งหมดที่มีความรุนแรงสูง (ไม่รวมเสียชีวิต)กรณีN/A000N/AN/A000000403-2 (a) 2016– อัตราการขาดงานร้อยละ2.262.342.2812.112.412.182.642.202.582.1310.5312.90– อัตราการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงานจากการทำงาน (LTIFR)กรณี/1,000,000 ชั่วโมงการทำงาน1.100.711.662.771.930.651.280.432.211.383.592.36– อัตราการเจ็บป่วยด้วยโรคจากการทำงานทั้งหมด (OIFR)กรณี/1,000,000 ชั่วโมงการทำงาน000000000000ผู้รับเหมา403-9 (a) 2018– จำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดจากการทำงานราย003600002151– อัตราผู้บาดเจ็บทั่งหมดที่มีความรุนแรงสูง (ไม่รวมเสียชีวิต)กรณี/1,000,000 ชั่วโมงการทำงานN/A000.013N/AN/A000000.005– อัตราบาดเจ็บที่บันทึกทั้งหมดกรณี/1,000,000 ชั่วโมงการทำงานN/A1.510.521.40N/AN/A2.020.930.800.342.370.86– จำนวนชั่วโมงการทำงานรวมชั่วโมง60,757,23463,698,344232,938,058210,483,28037,375,63623,381,59833,717,99529,980,34988,997,868143,940,19075,208,116135,275,163403-10 (a) 2018– จำนวนผู้เสียชีวิตด้วยโรคจากการทำงานราย000000000000– จำนวนกรณีที่เจ็บป่วยจากการทำงานทั้งหมดกรณี000000000000– อัตราการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงานจากการทำงาน (LTIFR)กรณี/1,000,000 ชั่วโมงการทำงาน000000000000