เมื่อเสื้อผ้านักเรียนเปื้อนโคลน

เชื่อว่าทั้งคุณสาวๆ และหนุ่มๆ ต่างเคยเผชิญกับคราบสกปรกบนเสื้อตัวโปรดที่ซักยังไงก็ไม่ออกเสียที แถมในแต่ละวัน เรายังต้องเจอหลากหลายเหตุการณ์ที่จะทำให้เสื้อผ้าของคุณเลอะ เปรอะ เปื้อน ได้อย่างง่ายดาย แต่ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไป เพราะเบโคมีเคล็ดลับดีๆ มาฝากพ่อบ้านแม่บ้านทุกคน ให้ลองนำไปใช้กันดู แล้วคุณจะพบว่าชุดโปรดของคุณจะกลับมาใหม่พร้อมใส่อย่างมั่นใจได้เหมือนเดิม

เมื่อเสื้อผ้านักเรียนเปื้อนโคลน

Advertisment

เริ่มต้นเช้าวันใหม่ แต่ดันทำกาแฟหกใส่ชุดทำงานสีขาว

ปัญหาสากลที่หลายคนพบเจอโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาทำงาน ที่คุณดันเผลอทำกาแฟหกใส่เสื้อตัวเองและยิ่งถ้าเป็นเสื้อสีขาวด้วยแล้วนั้น คงต้องกุมขมับกันเลยทีเดียว แต่ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปเพียงแค่คุณขยี้คราบกาแฟออกด้วยน้ำอุ่นหรือใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นแล้วซับคราบออกให้ได้มากที่สุด หรือขยี้ออกด้วยสบู่และน้ำ และที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการ  ถูคราบออกแรงๆ เพราะจะทำให้เนื้อผ้าเป็นขุยและทำให้พื้นผิวของผ้าแตกต่างจากบริเวณอื่นๆ หรือหากเป็นคราบที่ทิ้งไว้นานสามารถขจัดออกได้ด้วยกลีเซอรีน โดยการนำมาทาลงไปบนคราบเปื้อนและทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นนำไปขยี้ในน้ำร้อน แล้วใส่เครื่องซักผ้าก็จะช่วยขจัดคราบได้หมดจด นอกจากนี้ เทคโนโลยี Aqua Wave ของเครื่องซักผ้าเบโคยังช่วยสามารถถนอมเนื้อผ้าของคุณให้มีอายุการใช้งานที่นานขึ้นกว่าเดิม

Advertisement

เพลิดเพลินกับของว่างและอาหารมื้อเที่ยง แต่เผลอทำอาหารเลอะชุดระหว่างวัน

พอถึงช่วงเวลาพักเที่ยง หนุ่มสาวออฟฟิศส่วนใหญ่ก็จะออกไปสรรหาอาหารมื้ออร่อยทาน แต่ถ้าต้องเจอกับเหตุการณ์ เสื้อผ้าเลอะขณะทานอาหารไม่ว่าจะเป็นคราบเปื้อนจากซอสปรุงรสหรืออื่นๆ วิธีการที่ดีที่สุดก็คือ นำเบกกิ้งโซดามาผสมน้ำสะอาดแล้วทาลงบนรอยเปื้อนให้ทั่ว และทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จากนั้นก็นำไปล้างและขยี้ให้สะอาดในน้ำเย็น จากนั้นก็สามารถนำไปซักพร้อมกับผงซักฟอกได้ตามปกติ สำหรับเครื่องซักผ้าของเบโคจะช่วยประหยัดน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มด้วยเทคโนโลยี AquaFusion ซึ่งทำให้คุณสามารถประหยัดปริมาณการใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าได้มากขึ้นกว่าเดิม

Advertisement

สภาพอากาศอันร้อนอบอ้าวในเมืองไทย ทำให้เกิดคราบเหงื่อไคลบนเสื้อผ้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ไม่ว่าคุณจะทำงานบ้านหรือทำงานอยู่ในห้องแอร์เย็นๆ ของออฟฟิศ พอตกเย็นทีไรก็ต้องฝ่าอากาศร้อนและสภาพรถติดของกรุงเทพกว่าจะได้ถึงบ้านพักผ่อน ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ร่างกายของเราผลิตเหงื่อไคลออกมามากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะบริเวณปกคอเสื้อ ขอบแขนเสื้อ และบริเวณอื่นๆ ซึ่งทำให้ผ้าของคุณดูเก่าหรือสีซีดเร็วขึ้นกว่าเดิม แต่คุณสามารถขจัดคราบเหล่านี้ให้ดีขึ้นด้วยการนำน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชูเทลงไปตรงบริเวณคราบเหล่านั้นให้ชุ่ม และทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที หรือลองนำน้ำยาขจัดคราบป้ายลงบนคราบเปื้อนและทิ้งไว้สักพักจากนั้นจึงนำไปซักกับเครื่องซักผ้า เพียงเท่านี้ผ้าก็จะดูกลับมาขาวสะอาดเหมือนใหม่ นอกจากนี้ด้วยเทคโนโลยี Steam Therapy™ ของเบโค ที่จะคืนความสดใสให้ทุกเนื้อผ้าด้วยการพ่นไอน้ำที่มีอุณหภูมิสูงลงบนเนื้อผ้าเป็นเวลา 15 นาทีและยังช่วยลดรอยยับของเนื้อผ้าหลังการซักได้อีกด้วย อีกทั้งกำจัดเชื้อแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของกลิ่นอับบนเนื้อผ้าได้เป็นอย่างดี

 หน้าฝนแบบนี้ งานโคลนเปื้อนเสื้อผ้ามีมาให้ปวดหัวไม่เว้นวัน

ฤดูกาลที่ทำให้เสื้อผ้าของคุณหมองหม่นขึ้นอย่างรวดเร็วคงหนีไม่พ้นหน้าฝนในช่วงนี้ ที่ฝนตกติดกันเกือบทุกวันโดยเฉพาะช่วงเวลาหลังเลิกงาน! ยิ่งสำหรับผู้ใช้งานรถสาธารณะและต้องเดินบนฟุตบาทริมถนนร้อยทั้งร้อยต้องเคยโดนคราบดินโคลนเปื้อนเสื้อผ้าอย่างแน่นอน ทีนี้มาลองดูเทคนิคในการจำกัดคราบโคลนบนเสื้อกันโดยวิธีง่ายๆ ลำดับแรกเลยคือ อย่าเพิ่งล้างออกทันที แต่ปล่อยให้โคลนแห้งก่อน เมื่อโคลนแห้งเรียบร้อยดีแล้วก็ให้ปัดเศษดินและโคลนออกไป จากนั้นนำผงซักฟอกหรือน้ำยาขจัดคราบ มาป้ายจุดที่เลอะโดยทาบริเวณที่เปื้อน ทิ้งไว้สัก 15 นาที จากนั้นใช้แปรงซักผ้าที่เปียกน้ำมาขัดบริเวณที่เปื้อนซึ่งไม่ควรให้ผ้าเปียกน้ำมาก เพราะจะทำให้น้ำยาละลาย หรือเจือจางไปกับน้ำทำให้ขจัดคราบได้น้อยลง และในการใช้แปรงขัด ก็ให้ขัดทั้งด้านในและด้านนอกของผ้า ขัดเป็นวงกลม เพื่อให้คราบสกปรกไม่กระจายออกไปนั่นเอง ยิ่งถ้าใช้ร่วมกับโปรแกรมซัก Cool Hygiene 20° จากเบโคที่จะช่วยให้เสื้อผ้าของคุณสะอาดหมดจด ด้วยการเทคโนโลยีซักที่อุณหภูมิ 20°C ปกป้องเสื้อผ้าของคุณให้เหมือนใหม่อยู่เสมอ กำจัดแบคทีเรียและสารก่อภูมิแพ้ได้อย่างหมดจด

เปลี่ยนเสื้อผ้าคุณหนูให้กลับมาสดใส่ สวมใส่ได้อย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์

เมื่อลูกน้อยของคุณต้องทำกิจกรรมแต่ละวันที่โรงเรียนอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเล่นกีฬา  ออกกำลังกาย ทัศนศึกษาและสารพัดกิจกรรมที่จะทำให้เสื้อผ้าขาวดูหมองคล้ำไว้กว่าเดิม หนึ่งในเคล็ดลับง่ายๆ ให้คุณพ่อคุณแม่ลองนำไปใช้ก็คือ การใช้ยาสีฟันช่วยขจัดคราบสกปรกบนเสื้อขาว ด้วยการจุ่มเสื้อขาวตรงบริเวณที่มีคราบฝังแน่นลงในน้ำให้เปียกหมาดๆ จากนั้นให้ใช้ยาสีฟันป้ายลงบนรอยเหล่านั้น แล้วก็ขยี้คราบสกปรกซึ่งทำให้หลุดออกได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเหมาะเป็นอย่างยิ่งถ้าใช้กับบริเวณคราบฝังแน่นเฉพาะที่ จากนั้นก็สามารถนำไปซักได้ตามปกติ และด้วยโปรแกรมพิเศษ Baby Protect+ จากเบโคที่สามารถซักและอบชุดตัวโปรดของเด็กๆ ให้สะอาดปราศจากเชื้อโรค กำจัดสารก่อภูมิแพ้ที่มีผลระคายเคืองต่อผิวหนังของเด็กและให้ประสิทธิภาพความสะอาดมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

วิธีขจัดคราบโคลนบนเสื้อผ้า คราบฝังแน่นแค่ไหนก็หายเกลี้ยง!!

โพสเมื่อ 02/08/2016 13:06 น.

เมื่อเสื้อผ้านักเรียนเปื้อนโคลน

เคล็ดลับ


advertisement


     หน้าฝนเป็นฤดูกาลที่เฉอะแฉะมากเลยทีเดียวนะคะ หลายต่อหลายครั้งที่เราจำเป็นต้องเหยียบย่ำโคลน หรือโคลนกระเด็นใส่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่นนี้แล้วก็สกปรกเลอะเทอะไปทั้งเนื้อทั้งตัวและเสื้อผ้าเลยทีเดียวนะคะ ในส่วนของเนื้อตัวนั้นยังสามารถอาบน้ำและชำระคราบสกปรกออกไปได้ด้วยสบู่ แต่คราบสกปรกจากขี้โคลนเปื้อนติดเสื้อผ้านั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย เมื่อไหร่ที่เห็นโคลนเปื้อนเสื้อผ้าเหล่านี้เป็นต้องหงุดหงิดทุกที เพราะมันซักออกยากมากๆ แต่ถ้าหากคุณได้รู้เคล็ดลับที่ Kaijeaw.com จะบอกในวันนี้ รับรองว่าคราบโคลนจะไม่สร้างปัญหาให้คุณได้อีกแล้วค่ะ

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมในการซักผ้าเปื้อนโคลน
     1. น้ำยาซักผ้า
     2. น้ำส้มสายชูกลั่นบริสุทธิ์
     3. น้ำ
     4. แปรงซักผ้า หรือแปรงสีฟันที่ไม่ใช้แล้ว

[ads]


advertisement

เมื่อเสื้อผ้านักเรียนเปื้อนโคลน

ขั้นตอนการซักผ้ากำจัดคราบโคลน
      1) ขั้นตอนแรกที่สำคัญคือ อย่าเพิ่งล้างคราบโคลนนั้นออกโดยทันที ไม่เช่นนั้นยิ่งล้างจะยิ่งเลอะเทอะเป็นวงกว้างเข้าไปอีก และโคลนจะยิ่งฝังแน่นเข้าไปในเนื้อผ้าได้ ควรปล่อยให้โคลนแห้งก่อน แล้วจึงปัดเอาโคลนออกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อาจจะได้แปรงสีฟันเก่า หรือเศษผ้า ถ้าหากว่าคราบหนาและฝังแน่นอาจใช้มีด (ระวังไม่ให้โดนเนื้อผ้า) ค่อยๆ ตัด แซะออกอย่างเบามือ
      2) ผสมน้ำส้มสายชู 1 ส่วนกับน้ำสะอาด 2 ส่วน แล้วชโลมลงไปบนคราบเปื้อนทิ้งไว้ 30 นาที ถึง 1 ชม. น้ำส้มสายชูจะช่วยกัดคราบเปื้อน คราบดินที่ฝั่งแน่นคลายตัวและหลุดร่อนออกได้ 

[ads]

     3) จากนั้นนำน้ำยาขจัดคราบหรือน้ำยาซักผ้า มาป้ายบริเวณที่เลอะคราบนั้น สิ่งที่สำคัญคือ ในขั้นตอนนี้ ไม่ควรให้ผ้าเปียกน้ำมาก เพราะจะทำให้น้ำยาละลาย หรือเจือจางไปกับน้ำ ทำให้ขจัดคราบได้น้อยลง และยังสิ้นเปลืองน้ำยาซักผ้ามากเกินไป ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที หรือ 1-2 ชม. 
     4) หลังจากเวลาผ่านไปตามที่ต้องการแล้ว ให้ใช้แปรงซักผ้า หรือแปรงสีฟันขัดคราบเปื้อนนั้นเบาๆ ในการใช้แปรงขัด ก็ให้ขัดทั้งด้านในและด้านนอกของผ้า ขัดเป็นวงกลม เพื่อให้คราบสกปรกไม่กระจายออกไป
     5) นำผ้านั้นไปซักด้วยผงซักฟอกตามขั้นตอนปกติ โดยให้เลือกใช้อุณหภูมิน้ำเป็นน้ำอุ่น เพราะจะทำความสะอาดคราบสกปรกจากโคลนได้ดีกว่าน้ำเย็น และควรแยกผ้าที่เปื้อนโคลน ออกจากผ้าอื่นๆ ด้วย ไม่ควรนำมาซักรวมกัน
     6) ตากเสื้อผ้าด้วยแสงแดด เพื่อให้รังสียูวีช่วยกำจัดคราบเปื้อนและความสกปรกอีกครั้ง

Tips : หากลองทำตามขั้นตอนทั้ง 6 ข้อนี้แล้ว โคลนยังออกไม่หมด ก็อย่าเพิ่งโยนเสื้อผ้านั้นทิ้งไปนะคะ ให้ลองตามตามขั้นตอนนี้ดูอีกครั้ง คราบโคลนนั้นก็จะค่อยๆ เลือนออกไปได้

      คราวนี้การกำจัดคราบเปื้อนโคลนบนเสื้อผ้า ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลใจแล้วนะคะ เพราะไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย เมื่อเรามีเคล็ดลับดีๆ แบบนี้ ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะเลย แล้วอย่าลืมแชร์เคล็ดลับดีๆ แบบนี้ให้เพื่อนของคุณได้รู้ด้วยนะคะ