กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัล

สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.​ หรือ ETDA) เปิดให้ดาวน์โหลด “กฎหมายดิจิทัล” ในรูป eBook ซึ่งได้รวมรวมชุดกฎหมายดิจิทัลในไทยทั้ง 8 ชุดไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น กฎหมายธุุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์, กฎหมายการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์, กฎหมายดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิลและสังคม รวมไปถึงกฎหมายใหม่ล่าสุดอย่าง กฎหมายความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์และคุุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดไปศึกษาได้ฟรี

กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัล

ปัจจุบันธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์หรือธุรกรรมออนไลน์มีความหมายครอบคลุมทั้ง e-Commerce และ e-Government ซึ่งนับวันจะมีปริมาณการช้งานเพิ่มมากขึ้น และมีบทบาทเป็นอย่างมากในชีวิตประจำวันของพวกเรา เพื่อผลักดันให้ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์หรือธุรกรรมออนไลน์กลายเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์จึงได้กำหนดยุทธศาสตร์เชิงรุก เพื่อส่งเสริมความเชื่อมั่นและผลักดันใให้การทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มีความมั่นคงปลอดภัย ภายใต้มาตรฐานที่น่าเชื่อถือ

ด้วยเหตุนี้ สำนักกฎหมาย ศูนย์กฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของ ETDA จึงได้รวบรวมกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำธุุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีดิจิทัล จัดทำเป็น eBook แล้วเปิดให้ผู้ที่สนใจดาวน์โหลด เพื่อใช้เป็นแหล่งข้อมูลสำหรับศึกษาหาความรู้ด้านกฎหมายดิจิทัล

ผู้ศึกษาจำเป็นต้องมีความเข้าใจสิทธิและข้อจำกัดที่ควบคุมการใช้สื่อดิจิทัลในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งได้ถูกกำหนดโดยภาครัฐ เพื่อที่จะได้สามารถปฏิบัติงานและดำเนินชีวิตได้อยู่ถูกต้องตามกฎระเบียบ สังคม ซึ่งจะเป็นการเคารพสิทธิของผู้อื่นอีกด้วย

  • เราจะใช้งานอินเทอร์เน็ตและสื่อดิจิทัลอย่างไรให้ไม่ผิดกฏหมาย?

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2565 นายพชร นธกิจไพศาล ผู้โชคดีที่ถูกรางวัลสลากดิจิทัลรางวัลที่ 1 งวด 1 ธันวาคม 2565 จำนวน 16 ใบ เงินรางวัล 96 ล้านบาท ได้เดินทางมาขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สนามบินน้ำ นนทบุรี ด้วยตัวเอง โดยได้รับเงินรางวัลสุทธิทั้งสิ้น 95,520,000 บาท และมีการหักค่าอากรแสตมป์ตามกฎหมายที่ 480,000 บาท

นายพชร นธกิจไพศาล ผู้โชคดีที่ถูกรางวัลสลากดิจิทัล 16 ใบ เปิดเผยความรู้สึกว่า รู้สึกดีใจอย่างมาก ซึ่งปกติตนได้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลประจำทุกงวดอยู่แล้ว โดยเลือกซื้อตามตัวเลขที่ชอบไม่ได้มีเลขเด็ดจากสำนักอะไร ส่วนจำนวนที่ซื้อแต่ละงวดก็ไม่แน่นอน ถ้างวดไหนมีเลขที่ชอบมากก็จะซื้อจำนวนมากหน่อย โดยเลือกซื้อเฉพาะสลากกินแบ่งฯ อย่างเดียว ไม่ได้เล่นหวยใต้ดิน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

สำหรับการซื้อสลากดิจิทัลในงวดนี้ ตอนแรกคิดว่าจะไม่ซื้อแล้ว เพราะงวดที่ผ่านมาซื้อไปเยอะแต่ไม่ถูก แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ในช่วงเช้าตอนพอเดินผ่านหิ้งพระเลยจุดธูปขอโชคขอลาภเสร็จแล้วก็กดซื้อสลากดิจิทัลจากแอพฯเป๋าตัง 16 ใบ ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย.ทันที ซึ่งพอรู้ว่าถูกก็ดีใจมากๆ

ส่วนแผนการใช้เงินรางวัลที่ได้รับนั้น ตนยังคงทำงานใช้ชีวิตเป็นปกติ แต่จะแบ่งเงินรางวัลที่ได้รับเป็น 3 ส่วน

1. บำรุงตัวเอง อาจจะซื้อบ้าน วางแผนอนาคตครอบครัว และกำลังจะแต่งงานเร็วๆ นี้

2. ลงทุนเพื่อนำดอกผลไปใช้ประโยชน์เพื่อสังคม และดูแลครอบครัว ทั้งพ่อพี่น้องตามสมควร แต่ทุกคนยังต้องทำงานเหมือนเดิม

3. นำไปตอบแทนสังคมและศาสนา

ท้ายนี้ ขอฝากถึงประชาชนผู้รักการเสี่ยงโชค ขอให้เลือกซื้อสลากตามกำลังของตนเอง อย่าซื้อมากเกินไปจนทำให้ตัวเองเดือดร้อน เพราะการถูกรางวัลเป็นเรื่องของดวงและโชคชะตาโดยแท้ ซึ่งที่ผ่านมาตนก็ซื้อสลากและไม่ถูกรางวัลบ่อย แต่ก็ไม่ได้เดือดร้อนเพราะซื้อตามกำลังของตนเอง และยังขอฝากขอบคุณสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ได้จัดทำโครงการสลากดิจิทัลออกมา เพราะสามารถช่วยให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการซื้อ ที่สำคัญสามารถเข้าถึงสลากใบละ 80 บาทได้จริง

นี่คือข้อมูลที่คุณแจ้งแก่เราและเป็นการระบุถึงตัวคุณ เช่น ชื่อ ที่อยู่อีเมล หรือข้อมูลสำหรับการเรียกเก็บเงิน หรือข้อมูลอื่นๆ ที่ Google เชื่อมโยงถึงข้อมูลดังกล่าวได้ เช่น ข้อมูลที่เราเชื่อมโยงกับบัญชี Google ของคุณ

นี่คือข้อมูลส่วนบุคคลในหมวดหมู่ที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับหัวข้อต่างๆ เช่น ข้อมูลทางการแพทย์ที่เป็นความลับ ต้นกำเนิดเชื้อชาติหรือชาติพันธุ์ ความเชื่อทางการเมืองหรือศาสนา หรือข้อมูลเพศสภาพ

คุกกี้เป็นไฟล์ขนาดเล็กที่ประกอบด้วยสตริงอักขระซึ่งส่งมายังคอมพิวเตอร์ของคุณเวลาที่เข้าชมเว็บไซต์ต่างๆ เมื่อกลับไปที่เว็บไซต์เดิมอีกครั้ง คุกกี้จะยอมให้เว็บไซต์นั้นจดจำเบราว์เซอร์ของคุณไว้ คุกกี้อาจจัดเก็บค่ากำหนดของผู้ใช้และข้อมูลอื่นๆ ไว้ คุณกำหนดค่าเบราว์เซอร์ให้ปฏิเสธคุกกี้ทั้งหมดหรือแจ้งเมื่อมีการส่งคุกกี้ได้ อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์บางอย่างของเว็บไซต์หรือบริการต่างๆ อาจทำงานผิดปกติหากไม่มีคุกกี้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Google ใช้คุกกี้และวิธีที่ Google ใช้ข้อมูลต่างๆ ซึ่งรวมถึงคุกกี้ เมื่อคุณใช้เว็บไซต์หรือแอปของพาร์ทเนอร์ของเรา

แคชข้อมูลของแอปพลิเคชันคือพื้นที่เก็บข้อมูลบนอุปกรณ์ แคชข้อมูลช่วยให้แอปพลิเคชันเว็บทำงานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และปรับปรุงประสิทธิภาพของแอปพลิเคชันโดยทำให้โหลดเนื้อหาได้เร็วขึ้น เป็นต้น

ตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันคือสตริงอักขระที่ใช้เพื่อให้ระบุเบราว์เซอร์ แอป หรืออุปกรณ์ได้อย่างเฉพาะเจาะจง ตัวระบุต่างๆ จะแตกต่างกันไปในด้านความถาวร ความสามารถในการรีเซ็ตตัวระบุโดยผู้ใช้ และรูปแบบการเข้าถึง

ตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันอาจใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น การรักษาความปลอดภัยและการตรวจหาการประพฤติมิชอบ การซิงค์บริการต่างๆ เช่น กล่องจดหมายอีเมล การจำค่ากำหนด และการแสดงโฆษณาที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล เช่น ตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันซึ่งคุกกี้จัดเก็บไว้จะช่วยให้เว็บไซต์แสดงเนื้อหาในเบราว์เซอร์เป็นภาษาที่คุณต้องการได้ คุณกำหนดค่าเบราว์เซอร์ให้ปฏิเสธคุกกี้ทั้งหมดหรือแจ้งเมื่อมีการส่งคุกกี้ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Google ใช้คุกกี้

ในแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่ไม่ใช่เบราว์เซอร์ ตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันจะใช้เพื่อจำอุปกรณ์หรือแอปในอุปกรณ์ดังกล่าว เช่น ตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันอย่างรหัสโฆษณาจะใช้เพื่อแสดงโฆษณาที่เกี่ยวข้องในอุปกรณ์ Android และจัดการได้ในการตั้งค่าของอุปกรณ์ ผู้ผลิตอุปกรณ์อาจรวมตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันไว้ในอุปกรณ์ด้วย (บางครั้งเรียกว่ารหัสสากลที่ไม่ซ้ำกันหรือ UUID) เช่น หมายเลข IMEI ของโทรศัพท์มือถือ เช่น ตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันของอุปกรณ์อาจใช้เพื่อปรับแต่งบริการของเราในอุปกรณ์ของคุณหรือวิเคราะห์ปัญหาของอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับบริการของเรา

อุปกรณ์ทุกเครื่องที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตจะมีหมายเลขประจำ เรียกว่า ที่อยู่ Internet Protocol (IP) เนื่องจากโดยปกติแล้ว หมายเลขเหล่านี้มักกำหนดตามพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ ที่อยู่ IP จึงมักสามารถใช้ระบุตำแหน่งต้นทางได้เมื่ออุปกรณ์นั้นๆ เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

คุณเข้าถึงบริการบางอย่างของเราได้โดยลงชื่อสมัครใช้บัญชี Google และให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับเรา (โดยทั่วไปคือชื่อ ที่อยู่อีเมล และรหัสผ่าน) เราจะใช้ข้อมูลบัญชีนี้เพื่อตรวจสอบสิทธิ์ของคุณเวลาที่เข้าถึงบริการต่างๆ ของ Google และป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเข้าถึงบัญชีของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต คุณจะแก้ไขหรือลบบัญชีได้ทุกเมื่อโดยไปที่การตั้งค่าบัญชี Google

เช่นเดียวกับเว็บไซต์ส่วนใหญ่ เซิร์ฟเวอร์ของเราจะบันทึกคำขอหน้าเว็บของผู้ใช้ในขณะเยี่ยมชมไซต์โดยอัตโนมัติ โดยทั่วไปแล้ว “บันทึกเซิร์ฟเวอร์” รวมถึงคำขอเว็บไซต์ของคุณ ที่อยู่ Internet Protocol ชนิดของเบราว์เซอร์ ภาษาของเบราว์เซอร์ วันที่และเวลาของคำขอของคุณ ตลอดจนคุกกี้หนึ่งไฟล์หรือมากกว่านั้นที่สามารถระบุเบราว์เซอร์ของคุณได้

รายการบันทึกทั่วไปสำหรับการค้นหา “รถยนต์” มีลักษณะดังนี้

123.45.67.89 - 25/Mar/2003 10:15:32 -
http://www.google.com/search?q=cars -
Firefox 1.0.7; Windows NT 5.1 -
740674ce2123e969
  • 123.45.67.89 คือที่อยู่ Internet Protocol·ที่ ISP ของผู้ใช้กำหนดให้กับผู้ใช้ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตอาจกำหนดที่อยู่ IP ที่แตกต่างกันในแต่ละครั้งที่ผู้ใช้งานเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้บริการ
  • 25/Mar/2003 10:15:32 คือวันที่และเวลาของคำค้นหา
  • http://www.google.com/search?q=cars คือ URL ที่ขอ รวมถึงคำค้นหา
  • Firefox 1.0.7; Windows NT 5.1 คือเบราว์เซอร์และระบบปฏิบัติการที่ใช้
  • 740674ce2123a969 คือรหัสคุกกี้ที่ไม่ซ้ำกันที่กำหนดให้คอมพิวเตอร์เครื่องนี้โดยเฉพาะในครั้งแรกที่เข้าชม Google (ผู้ใช้ลบคุกกี้ออกได้ หากผู้ใช้ลบคุกกี้ออกจากคอมพิวเตอร์ตั้งแต่เข้าชม Google ครั้งล่าสุด ในครั้งถัดไปที่ผู้ใช้เข้าชม Google จากอุปกรณ์เครื่องเดียวกันนี้ ระบบจะกำหนดรหัสคุกกี้ที่ไม่ซ้ำนี้ให้แก่อุปกรณ์ดังกล่าว)

พาร์ทเนอร์คือหน่วยงานที่อยู่ในกลุ่มบริษัท Google ซึ่งรวมถึงบริษัทที่ให้บริการแก่ผู้บริโภคในสหภาพยุโรป ได้แก่ Google Ireland Limited, Google Commerce Ltd, Google Payment Corp และ Google Dialer Inc. ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทที่ให้บริการธุรกิจในสหภาพยุโรป

พิกเซลแท็กเป็นเทคโนโลยีประเภทหนึ่งที่วางไว้ในเว็บไซต์หรือภายในเนื้อหาอีเมลเพื่อวัตถุประสงค์ในการติดตามกิจกรรมบางอย่างในเว็บไซต์ เช่น การดูเว็บไซต์หรือเมื่อมีการเปิดอีเมล พิกเซลแท็กมักใช้งานร่วมกับคุกกี้

พื้นที่จัดเก็บข้อมูลเว็บในเบราว์เซอร์ช่วยให้เว็บไซต์จัดเก็บข้อมูลในเบราว์เซอร์ไว้ในอุปกรณ์ได้ เมื่อใช้ในโหมด "พื้นที่จัดเก็บข้อมูลในตัวเครื่อง" จะช่วยให้จัดเก็บข้อมูลข้ามเซสชันได้ ซึ่งทำให้เรียกข้อมูลได้แม้ว่าจะปิดเบราว์เซอร์ไปแล้วหรือเปิดเบราว์เซอร์ขึ้นมาใหม่ เทคโนโลยีหนึ่งที่ช่วยให้ใช้งานพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเว็บได้คือ HTML 5

ขั้นตอนหรือชุดกฎที่ควบคุมให้คอมพิวเตอร์ดำเนินการแก้ไขปัญหา

อุปกรณ์คือคอมพิวเตอร์ที่ใช้เข้าถึงบริการของ Google ได้ เช่น คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป แท็บเล็ต ลำโพงอัจฉริยะ และสมาร์ทโฟน ถือว่าเป็นอุปกรณ์ทั้งหมด

URL (Uniform Resource Locator) ผู้อ้างอิงคือข้อมูลที่เบราว์เซอร์ส่งไปยังหน้าเว็บปลายทาง โดยทั่วไปจะส่งเมื่อคุณคลิกลิงก์ไปยังหน้าดังกล่าว URL ผู้อ้างอิงมี URL ของหน้าเว็บล่าสุดที่เบราว์เซอร์เข้าชม

บริบทเพิ่มเติม

เช่นเดียวกับบริษัทด้านเทคโนโลยีและการสื่อสารบริษัทอื่นๆ Google มักได้รับคำขอจากรัฐบาลและศาลทั่วโลกให้เปิดเผยข้อมูลของผู้ใช้ การปฏิบัติตามคำขอทางกฎหมายเหล่านี้ตั้งอยู่บนรากฐานของการเคารพในความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลที่คุณเก็บไว้กับ Google ทีมกฎหมายของเราตรวจสอบคำขอทุกรายการ โดยไม่คำนึงว่าจะเป็นคำขอประเภทใด และเรามักจะตีกลับคำขอที่กว้างเกินไปหรือที่ไม่ทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ดูข้อมูลเพิ่มเติมในรายงานเพื่อความโปร่งใสของเรา

เช่น ผู้ลงโฆษณาอาจอัปโหลดข้อมูลจากโปรแกรมบัตรสะสมคะแนนของตนเพื่อให้เข้าใจประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาได้ดีขึ้น เราจัดเตรียมรายงานแบบรวมให้แก่ผู้ลงโฆษณาที่ไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลทั่วไปเท่านั้น

เช่น เรารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการดูและการโต้ตอบกับโฆษณาเพื่อที่จะจัดทำรายงานแบบรวมให้แก่ผู้ลงโฆษณา เช่น บอกให้ผู้ลงโฆษณาทราบว่าเราแสดงโฆษณาของเขาในหน้าเว็บหนึ่งและผู้ชมมองเห็นโฆษณาดังกล่าวหรือไม่ เราอาจวัดผลการโต้ตอบอื่นๆ ด้วย เช่น วิธีที่คุณเลื่อนเมาส์เหนือโฆษณา หรือคุณโต้ตอบกับหน้าที่มีโฆษณาปรากฏขึ้นมาหรือไม่

กิจกรรมนี้อาจมาจากการใช้บริการต่างๆ ของ Google ของคุณ เช่น จากการซิงค์บัญชีของคุณกับ Chrome หรือการเข้าชมเว็บไซต์และแอปที่ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับ Google เว็บไซต์และแอปจำนวนมากเข้าเป็นพาร์ทเนอร์กับ Google เพื่อปรับปรุงเนื้อหาและบริการของตน เช่น เว็บไซต์อาจใช้บริการโฆษณาของเรา (เช่น AdSense) หรือเครื่องมือวิเคราะห์ (เช่น Google Analytics) หรืออาจฝังเนื้อหาอื่นๆ (เช่น วิดีโอจาก YouTube) บริการเหล่านี้จะแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของคุณกับ Google ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าบัญชีของคุณและผลิตภัณฑ์ที่ใช้งาน (เช่น เมื่อพาร์ทเนอร์ใช้งาน Google Analytics ร่วมกับบริการโฆษณาของเรา) อาจมีการเชื่อมโยงข้อมูลนี้กับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ

เรียนรู้เพิ่มเติมว่า Google ใช้ข้อมูลอย่างไรเมื่อคุณใช้งานเว็บไซต์หรือแอปของพันธมิตรของเรา

เช่น หากคุณเพิ่มบัตรเครดิตหรือวิธีการชำระเงินอื่นๆ ลงในบัญชี Google คุณก็ใช้วิธีการชำระเงินเหล่านั้นซื้อสินค้าต่างๆ ในบริการของเราได้ เช่น แอปใน Play Store เราอาจขอข้อมูลอื่นๆ ด้วย เช่น หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของธุรกิจ เพื่อช่วยดำเนินการการชำระเงิน ในบางกรณี เราอาจต้องยืนยันตัวตนของคุณและอาจขอข้อมูลจากคุณเพื่อการยืนยันตัวตนด้วย

เราอาจใช้ข้อมูลการชำระเงินเพื่อยืนยันว่าคุณมีอายุครบตามข้อกำหนดด้วย เช่น หากคุณป้อนวันเกิดที่ไม่ถูกต้องซึ่งระบุว่าคุณอายุไม่ถึงเกณฑ์ที่จะมีบัญชี Google ดูข้อมูลเพิ่มเติม

หากคุณใช้บริการตำแหน่งของ Google ใน Android เราช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของแอปที่ต้องใช้ตำแหน่งของคุณได้ เช่น Google Maps หากคุณใช้บริการตำแหน่งของ Google อุปกรณ์จะส่งข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งของอุปกรณ์ เซ็นเซอร์ (เช่น ตัวตรวจวัดความเร่ง) ตลอดจนเสาสัญญาณมือถือใกล้เคียงและจุดเชื่อมต่อ Wi-Fi (เช่น ที่อยู่ MAC และความแรงของสัญญาณ) ไปให้ Google ข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ช่วยระบุตำแหน่งของคุณ คุณใช้การตั้งค่าของอุปกรณ์เพื่อเปิดใช้บริการตำแหน่งของ Google ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม

อุปกรณ์อาจมีเซ็นเซอร์ที่ช่วยให้เข้าใจเกี่ยวกับตำแหน่งและการเคลื่อนไหวของคุณได้ดียิ่งขึ้น เช่น ตัวตรวจวัดความเร่งอาจใช้เพื่อระบุความเร็ว และเครื่องวัดการหมุนอาจใช้เพื่อคำนวณหาทิศทางการเดินทางของคุณ

ตัวอย่างเช่น คุณเลือกได้ว่าจะให้ Google จัดเก็บเสียงที่บันทึกไว้ลงในบัญชี Google หรือไม่เมื่อโต้ตอบกับ Google Search, Assistant และ Maps เมื่ออุปกรณ์ได้ยินคำสั่งการเปิดใช้งานเสียง เช่น "Ok Google" Google จะบันทึกเสียงพูดและเสียงของคุณ รวมถึงช่วง 2-3 วินาทีก่อนการเปิดใช้งาน ดูข้อมูลเพิ่มเติม

ตัวอย่างบางส่วนของวิธีที่เราใช้ข้อมูลของคุณเพื่อช่วยให้บริการของเราปลอดภัยและเชื่อถือได้มีดังนี้

  • การรวบรวมและการวิเคราะห์ข้อมูลที่อยู่ IP และคุกกี้เพื่อป้องกันการละเมิดแบบอัตโนมัติ การละเมิดนี้เกิดขึ้นได้ในหลายรูปแบบ เช่น การส่งสแปมไปยังผู้ใช้ Gmail, การขโมยเงินจากผู้ลงโฆษณาโดยการคลิกโฆษณาแบบฉ้อโกง หรือการตัดเนื้อหาออกโดยเรียกใช้การโจมตีแบบปฏิเสธการให้บริการแบบกระจาย (DDoS)
  • ฟีเจอร์ “กิจกรรมล่าสุดของบัญชี” ใน Gmail จะช่วยให้คุณทราบว่ามีใครเข้าถึงอีเมลของคุณโดยที่คุณไม่รู้หรือไม่และเข้าถึงเมื่อใด ฟีเจอร์นี้จะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมล่าสุดใน Gmail ให้คุณดู เช่น ที่อยู่ IP ที่เข้าถึงอีเมลขอองคุณ ตำแหน่งที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนวันที่และเวลาที่เข้าถึง ดูข้อมูลเพิ่มเติม

คุณอาจเห็นโฆษณาที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลโดยอิงตามข้อมูลจากผู้ลงโฆษณาด้วย เช่น หากคุณซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ของผู้ลงโฆษณา ผู้ลงโฆษณาอาจใช้ข้อมูลการเข้าชมดังกล่าวเพื่อแสดงโฆษณาให้คุณดู ดูข้อมูลเพิ่มเติม

เช่น หากคุณดูวิดีโอเกี่ยวกับการทำขนมใน YouTube คุณอาจเห็นโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับการทำขนมมากขึ้นเวลาท่องเว็บ เราอาจใช้ที่อยู่ IP เพื่อระบุตำแหน่งโดยประมาณของคุณด้วย เพื่อให้เราแสดงโฆษณาสำหรับบริการส่งพิซซ่าในละแวกใกล้เคียงหากคุณค้นหา “พิซซ่า” ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโฆษณา Google และเหตุผลที่คุณอาจเห็นโฆษณาบางอย่าง

เราจะบันทึกประวัติการท่องเว็บใน Chrome ลงในบัญชีเมื่อคุณเปิดใช้การซิงค์ Chrome กับบัญชี Google ของคุณไว้เท่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติม

เช่น เราดำเนินการศูนย์ข้อมูลที่ตั้งอยู่ทั่วโลกเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ใช้งานผลิตภัณฑ์ของเราได้อย่างต่อเนื่อง

เช่น เราวิเคราะห์วิธีที่ผู้คนโต้ตอบกับโฆษณาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพโฆษณาของเรา

เช่น เราตรวจสอบระบบของเราอยู่เสมอเพื่อตรวจหาปัญหา และหากเราพบสิ่งผิดปกติในบางฟีเจอร์ การตรวจสอบข้อมูลกิจกรรมที่รวบรวมไว้ก่อนปัญหาจะเกิดขึ้นช่วยให้เราแก้ไขสิ่งต่างๆ ได้เร็วขึ้น

เมื่อเราตรวจพบสแปม มัลแวร์ เนื้อหาผิดกฎหมาย และการละเมิดรูปแบบอื่นๆ ในระบบซึ่งละเมิดนโยบายของเรา เราอาจปิดใช้บัญชีของคุณหรือดำเนินการอย่างอื่นตามความเหมาะสม ในบางกรณี เราอาจรายงานการละเมิดต่อหน่วยงานที่เหมาะสมด้วย

เช่น เราใช้คุกกี้ที่เรียกว่า "lbcs" ซึ่งทำให้คุณเปิด Google เอกสารจำนวนมากในเบราว์เซอร์เดียวได้ การบล็อกคุกกี้นี้ทำให้ Google เอกสารทำงานไม่ได้ตามที่คาดหวังไว้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม

เช่น เราใช้คุกกี้เพื่อวิเคราะห์วิธีที่ผู้คนโต้ตอบกับบริการของเรา และการวิเคราะห์ช่วยเราสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดียิ่งขึ้นได้ เช่น การวิเคราะห์อาจช่วยให้เราทราบว่าผู้คนต้องใช้เวลานานเกินไปในการดำเนินการบางอย่าง หรือทำขั้นตอนบางอย่างไม่ได้เลย จากนั้นเราจะได้ออกแบบฟีเจอร์ดังกล่าวใหม่และปรับปรุงผลิตภัณฑ์สำหรับทุกคน

ตัวอย่างบริการเหล่านี้มีดังนี้

  • Google Voice สำหรับการโทรออกและรับสาย การส่ง SMS และการจัดการข้อความเสียง
  • Google Meet สำหรับการโทรออกและรับสายวิดีโอคอล
  • Gmail สำหรับการส่งและรับอีเมล
  • Google Chat สำหรับการส่งและรับข้อความ
  • Google Duo สำหรับการโทรออกและรับสายวิดีโอคอลและการรับส่งข้อความ
  • Google Fi สำหรับแพ็กเกจมือถือ

เช่น คุณอาจลบบล็อกออกจาก Blogger หรือลบเว็บไซต์จาก Google Sites ที่คุณเป็นเจ้าของออกจาก Google Sites หรือจะลบรีวิวที่เขียนไว้เกี่ยวกับแอป เกม และเนื้อหาอื่นๆ ใน Play Store ก็ได้เช่นกัน

เช่น เราประมวลผลข้อมูลของคุณเพื่อรายงานสถิติการใช้งานให้ผู้ถือสิทธิ์ทราบเกี่ยวกับการใช้งานเนื้อหาของเขาในบริการของเรา เราอาจประมวลผลข้อมูลของคุณหากมีคนค้นหาชื่อของคุณและเราแสดงผลการค้นหาของเว็บไซต์ที่มีข้อมูลสาธารณะเกี่ยวกับคุณด้วย

เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับภัยคุกคามด้านความปลอดภัยอาจช่วยให้เราแจ้งคุณได้เมื่อคิดว่ามีผู้บุกรุกบัญชีของคุณ (ซึ่งเราจะช่วยคุณดำเนินการขั้นตอนต่างๆ เพื่อปกป้องบัญชีได้)

มีเว็บไซต์และแอปที่ไม่ใช่ของ Google กว่า 2 ล้านรายการที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ Google เพื่อแสดงโฆษณา ดูข้อมูลเพิ่มเติม

เช่น เมื่อลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google และเปิดใช้ส่วนควบคุมกิจกรรมบนเว็บและแอปไว้ คุณจะได้รับผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องมากขึ้นซึ่งอิงตามการค้นหาและกิจกรรมก่อนหน้าจากบริการอื่นๆ ของ Google ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ คุณอาจได้รับผลการค้นหาที่กำหนดเองแม้จะออกจากระบบไปแล้วด้วย หากไม่ต้องการการปรับแต่งการค้นหาในระดับนี้ คุณอาจค้นหาและท่องเว็บแบบเป็นส่วนตัวหรือปิดการปรับเปลี่ยนการค้นหาในแบบของคุณเมื่อออกจากระบบ

เช่น เวลาคุณพิมพ์ที่อยู่ลงในช่อง "ถึง" "สำเนา" หรือ "สำเนาลับ" ของอีเมลที่กำลังเขียน Gmail จะแนะนำที่อยู่โดยอิงตามผู้คนที่คุณติดต่อบ่อยที่สุด

ตัวอย่างเช่น Google จะแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับคำขอให้นำเนื้อหาออกจากบริการของเรากับ Lumen ซึ่งจะเก็บรวบรวมและวิเคราะห์คำขอเหล่านี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การวิจัยเพื่อช่วยให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทราบสิทธิของตน ทั้งนี้เพื่อป้องกันการละเมิด เพิ่มความโปร่งใสและความรับผิดชอบในแนวทางปฏิบัติด้านการกลั่นกรองเนื้อหาออนไลน์ ดูข้อมูลเพิ่มเติม

เช่น เราอนุญาตให้ครีเอเตอร์ YouTube และผู้ลงโฆษณาทำงานร่วมกับบริษัทวัดผลเพื่อดูข้อมูลเกี่ยวกับผู้ชมวิดีโอ YouTube หรือโฆษณา โดยใช้คุกกี้หรือเทคโนโลยีที่คล้ายกัน อีกตัวอย่างหนึ่งคือผู้ขายในหน้า Shopping ซึ่งใช้คุกกี้เพื่อดูข้อมูลจำนวนผู้ที่มองเห็นข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่แสดง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพาร์ทเนอร์เหล่านี้และวิธีที่พาร์ทเนอร์ใช้ข้อมูลของคุณ

ตัวอย่างบางส่วนของวิธีที่เรารวมข้อมูลที่รวบรวมมามีดังนี้

  • เวลาที่คุณลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google และค้นหาใน Google คุณจะเห็นผลการค้นหาจากเว็บสาธารณะ รวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากเนื้อหาที่คุณมีในผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Google เช่น Gmail หรือ Google ปฏิทิน ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลต่างๆ เช่น สถานะเที่ยวบินที่กำลังจะมาถึง ร้านอาหาร และการจองโรงแรม หรือรูปภาพของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
  • เช่น หากคุณได้ติดต่อกับใครบางคนผ่าน Gmail และต้องการเพิ่มเขาใน Google เอกสารหรือกิจกรรมใน Google ปฏิทิน Google ช่วยให้คุณทำสิ่งเหล่านั้นได้ง่ายขึ้นด้วยการเติมที่อยู่อีเมลของพวกเขาโดยอัตโนมัติเมื่อคุณเริ่มพิมพ์ชื่อพวกเขา ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณแชร์สิ่งต่างๆ กับผู้คนที่คุณรู้จักได้ง่ายขึ้น ดูข้อมูลเพิ่มเติม
  • แอป Google ใช้ข้อมูลที่คุณเก็บไว้ในผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Google เพื่อแสดงเนื้อหาที่ปรับเปลี่ยนในแบบของคุณได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า เช่น หากคุณจัดเก็บการค้นหาไว้ในกิจกรรมบนเว็บและแอป แอป Google จะแสดงบทความข่าวและข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับสิ่งที่คุณสนใจ เช่น ผลการแข่งขันกีฬา โดยอิงตามกิจกรรมของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
  • หากคุณลิงก์บัญชี Google ไว้กับ Google Home คุณจะจัดการข้อมูลและทำสิ่งต่างๆ ได้ผ่าน Google Assistant เช่น คุณอาจเพิ่มกิจกรรมลงใน Google ปฏิทินหรือขอดูกำหนดการของแต่ละวัน สอบถามอัปเดตสถานะเที่ยวบินที่กำลังจะมาถึง หรือส่งข้อมูลอย่างเช่นเส้นทางการขับขี่ไปยังโทรศัพท์ ดูข้อมูลเพิ่มเติม

ตัวอย่างเช่น เราประมวลผลข้อมูลเกี่ยวกับคำขอให้นำเนื้อหาออกจากบริการของเราภายใต้นโยบายการนำเนื้อหาออกของ Google หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินคำขอ และเพื่อสร้างความโปร่งใส ปรับปรุงความรับผิดชอบ ตลอดจนป้องกันการละเมิดและการประพฤติมิชอบในแนวทางปฏิบัติเหล่านี้

เมื่อผู้คนมากมายเริ่มค้นหาบางสิ่ง เรามอบข้อมูลที่มีประโยชน์เกี่ยวกับเทรนด์บางอย่าง ณ เวลานั้นได้ Google เทรนด์ใช้ตัวอย่างจาก Google ค้นเว็บเพื่อคาดคะเนความนิยมของการค้นหาในช่วงเวลาที่กำหนด และแชร์ผลการวิเคราะห์ดังกล่าวต่อสาธารณะในแบบสรุปรวม ดูข้อมูลเพิ่มเติม

เวลาแสดงโฆษณาที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล เราจะใช้หัวข้อที่เราคิดว่าคุณจะสนใจโดยอิงตามกิจกรรมของคุณ เช่น คุณอาจเห็นโฆษณาสำหรับ "การทำอาหารและสูตรอาหาร" หรือ "การเดินทางทางอากาศ" เราจะไม่ใช้หัวข้อหรือแสดงโฆษณาที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลโดยอิงตามหมวดหมู่ที่ละเอียดอ่อน เช่น เชื้อชาติ ศาสนา รสนิยมทางเพศ หรือสุขภาพ และเรากำหนดให้ผู้ลงโฆษณาที่ใช้บริการของเราปฏิบัติเช่นเดียวกัน

หากคุณเพิ่มหมายเลขโทรศัพท์ลงในบัญชี อาจมีการใช้หมายเลขโทรศัพท์ของคุณเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ในบริการของ Google ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า เช่น อาจมีการใช้หมายเลขโทรศัพท์เพื่อช่วยให้คุณเข้าถึงบัญชีได้หากลืมรหัสผ่าน ช่วยให้ผู้อื่นค้นพบและติดต่อกับคุณได้ และทำให้โฆษณาที่คุณเห็นมีความเกี่ยวข้องมากยิ่งขึ้น ดูข้อมูลเพิ่มเติม

ตัวอย่างเช่น เราอาจรวบรวมข้อมูลที่พร้อมใช้งานแบบสาธารณะหรือจากแหล่งที่มาสาธารณะอื่นๆ เพื่อช่วยฝึกรูปแบบทางภาษาและสร้างฟีเจอร์ต่างๆ อย่างเช่น Google แปลภาษา หรือหากข้อมูลธุรกิจของคุณปรากฏในเว็บไซต์ เราก็อาจจัดทำดัชนีไว้และแสดงในบริการของ Google

ตัวอย่างของวิธีที่เราใช้ข้อมูลของคุณเพื่อให้บริการของเรามีดังนี้

  • เราใช้ที่อยู่ IP ที่กำหนดให้อุปกรณ์ของคุณเพื่อส่งข้อมูลที่คุณขอให้แก่คุณ เช่น การโหลดวิดีโอ YouTube
  • เราใช้ตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันซึ่งจัดเก็บไว้ในคุกกี้ในอุปกรณ์เพื่อช่วยตรวจสอบสิทธิ์ว่าคุณคือผู้ที่ควรมีสิทธิ์เข้าถึงบัญชี Google
  • เราจะใช้รูปภาพและวิดีโอที่คุณอัปโหลดไปยัง Google Photos เพื่อช่วยคุณสร้างอัลบั้ม ภาพเคลื่อนไหว และผลงานสร้างสรรค์อื่นๆ ที่คุณแชร์ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
  • เราอาจใช้อีเมลยืนยันเที่ยวบินที่คุณได้รับเพื่อสร้างปุ่ม “เช็คอิน” ที่ปรากฏขึ้นใน Gmail ของคุณ
  • เมื่อซื้อบริการหรือสินค้าต่างๆ จากเรา คุณอาจให้ข้อมูลกับเรา เช่น ที่อยู่สำหรับจัดส่งหรือวิธีการนำส่ง เราใช้ข้อมูลนี้เพื่อทำสิ่งต่างๆ เช่น ประมวลผล ดำเนินการ และนำส่งสินค้าตามคำสั่งซื้อของคุณ ตลอดจนเพื่อให้การสนับสนุนที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่คุณซื้อ

Google Analytics ต้องใช้คุกกี้บุคคลที่หนึ่ง ซึ่งหมายความว่าลูกค้า Google Analytics จะเป็นคนตั้งค่าคุกกี้ Google หรือลูกค้า Google Analytics อาจใช้ระบบของเราลิงก์ข้อมูลที่สร้างผ่าน Google Analytics กับคุกกี้ของบุคคลที่สาม ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเข้าชมเว็บไซต์อื่นๆ เช่น ผู้ลงโฆษณาอาจต้องการใช้ข้อมูล Google Analytics เพื่อสร้างโฆษณาที่เกี่ยวข้องมากขึ้นหรือเพื่อวิเคราะห์การเข้าชมของตนต่อไป ดูข้อมูลเพิ่มเติม

เช่น เราอาจใช้ข้อมูลจากอุปกรณ์เพื่อช่วยคุณตัดสินใจเลือกอุปกรณ์ที่จะติดตั้งแอปหรือดูภาพยนตร์ที่ซื้อจาก Google Play เราอาจใช้ข้อมูลนี้เพื่อช่วยปกป้องบัญชีของคุณด้วย

อุปกรณ์ Android ที่มีแอป Google รวมถึงอุปกรณ์ที่ Google หรือพาร์ทเนอร์ของเราขาย เช่น โทรศัพท์ กล้องถ่ายรูป รถยนต์ อุปกรณ์ที่สวมใส่ได้ และทีวี อุปกรณ์เหล่านี้ใช้บริการ Google Play และแอปที่ติดตั้งมาล่วงหน้าอื่นๆ ซึ่งรวมถึงบริการอย่าง Gmail, Maps, กล้องถ่ายรูปและแป้นโทรศัพท์ของโทรศัพท์, การอ่านออกเสียงข้อความ, การป้อนข้อมูลด้วยแป้นพิมพ์ และฟีเจอร์ความปลอดภัย ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการ Google Play

พรบ ดิจิทัล มีอะไรบ้าง

Digital law กฎหมายดิจิทัล สำคัญอย่างไร ?.
กฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ... .
กฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ... .
กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ... .
กฎหมายความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์.

Digital Law คืออะไร

Digital Law หรือ กฎหมายดิจิทัล เล่มนี้ รวบรวมกฎหมายเกี่ยวกับการขับเคลื่อนดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม อัปเดตถึงปี 2562 โดยเฉพาะที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ ETDA ได้ผลักดันให้เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นอีกคู่มือสร้างความรู้ความเข้าใจ รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือในการทำธุรกรรม ...

เพราะเหตุใดจึงต้องมีกฎหมายดิจิทัล

เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้คือ เนื่องจาก ปัจจุบันมีการล่วงละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลเป็น จำนวนมากจนสร้างความเดือดร้อนรำคาญหรือความเสียหายให้แก่เจ้าของ ข้อมูลส่วนบุคคลประกอบกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทำให้การเก็บ รวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอันเป็นการล่วงละเมิดดังกล่าวทำ ได้โดยง่าย ...

กฎหมายดิจิทัล สำคัญอย่างไร

จุดประสงค์หลัก เข้าใจกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัล และรู้วิธีปฏิบัติตามกฎหมาย รวมถึงป้องกันตัวเองจากการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรมของเจ้าหน้าที่ เข้าใจเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา และความแตกต่างของทรัพย์สินทางปัญญาประเภทต่าง ๆ เข้าใจเรื่องลิขสิทธิ์ และความแตกต่างของข้อตกลงอนุญาตใช้สิทธิแบบต่าง ๆ