การประกันภัยภาคบังคับมีขอบเขตการคุ้มครองอะไรบ้าง

พ.ร.บ. และ ประกันภัยรถมอเตอร์ไซค์ คุ้มครองอะไรบ้าง

สรุปเรื่องที่เราอยากเล่าให้คุณฟัง...

  • พ.ร.บ. และประกันภัย มีความสำคัญต่อผู้ขับขี่ให้ความคุ้มครองต่างกัน
  • พ.ร.บ. คือประกันภาคบังคับที่ผู้ขับขี่รถทุกคนต้องมี ใช้คุ้มครองตัวผู้ขับขี่และผู้โดยสารทันทีหลังเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูก และรวมถึงบุคคลที่สามด้วย
  • ประกันภัย เป็นประกันภาคสมัครใจมีหลายประเภทแตกต่างกันตามความคุ้มครอง
  • สุดท้ายแล้วไบเกอร์ทุกคนควรทำประกันโดยเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน หากซื้อรถกับ Peera Motosports ก็จะได้ประกันชั้น 1 ไปด้วย และรับต่อประกันภัยในราคาพิเศษ

การประกันภัยภาคบังคับมีขอบเขตการคุ้มครองอะไรบ้าง

เมื่อคุณออกรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์จากศูนย์จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ สิ่งหนึ่งที่คุณต้องทำควบคู่กันไปด้วยนั่นก็คือ การทำพ.ร.บ.รถจักรยานยนต์และประกันภัย ซึ่งมักเป็นการบังคับทำประกันชั้นที่ 1
สำหรับพรบ. นั้นเป็น “ประกันภัยภาคบังคับ” ที่เจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทุกคนต้องมี ขณะที่ประกันภัยนั้นเป็น “ประกันภัยภาคสมัครใจ” ที่เจ้าของรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์จะทำหรือไม่ทำก็ได้
เมื่อถามว่าประกันภัยจำเป็นหรือไม่ต่อผู้ใช้รถยนต์และจักรยานยนต์หรือไม่ สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับก็คืออุบัติเหตุที่คร่าชีวิตคนไทยไปมากที่สุดในแต่ละปีนั้นก็หนีไม่พ้นอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์นั่นเอง ดังนั้นการทำประกันภัยก็เป็นทางเลือกที่ดีเพื่อให้คุณหรือญาติพี่น้องไม่ต้องมาแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในกรณีเกิดอุบัติเหตุ

ทั้งนี้พ.ร.บ.และประกันภัยมีความแตกต่างกันในเรื่องของขอบเขตการคุ้มครอง และตัวประกันภัยเองก็ยังแบ่งย่อยเป็นประกันชั้น1,ชั้น2, ชั้น2+ และชั้น3+ ซึ่งให้ความคุ้มครองแตกต่างกันไปเช่นกัน

  • พ.ร.บ. คืออะไร คุ้มครองอะไรบ้าง?

พ.ร.บ. คือ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เป็นกฎหมายที่บังคับให้รถทุกคันที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกจะต้องทำและมีไว้เป็นหลักประกันให้กับผู้ขับขี่, ผู้โดยสาร รวมถึงผู้ที่ใช้รถใช้ถนนว่าจะได้รับสิทธิความคุ้มครองและรับค่ารักษาพยาบาลจากการเกิดอุบัติเหตุจากเงินกองกลางที่รถทุกคันได้ทำ พ.ร.บ. ไว้ โดยพ.ร.บ. ให้ความคุ้มครอง ดังต่อไปนี้

ค่าเสียหายเบื้องต้น

พ.ร.บ. จะให้การคุ้มครองทันทีทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารหลังจากเกิดอุบัติเหตุโดยไม่จำเป็นต้องรอพิสูจน์ว่าใครถูกหรือผิด ผู้มีพ.ร.บ.จะได้รับเงินชดเชยภายใน 7 วัน ตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้

  1. กรณีบาดเจ็บ จะได้รับเงินชดเชยสูงสุดคนละไม่เกิน 30,000 บาท
  2. กรณีเสียชีวิตหรือสูญเสียอวัยวะ จะได้รับเงินชดเชยสูงสุดคนละไม่เกิน 35,000 บาท
  3. กรณีที่ได้รับบาดเจ็บแล้วสูญเสียอวัยวะตามมา จะได้รับเงินชดเชยคนละไม่เกิน 65,000 บาท
  4. กรณีรักษาพยาบาลแล้วเสียชีวิตก็จะได้รับค่าชดเชยคนละไม่เกิน 65,000 บาท

ค่าสินไหมทดแทน

คือ เงินชดเชยที่ผู้ที่ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นฝ่ายถูกจะได้รับค่าสินไหมทดแทนทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ดังนี้

  1. กรณีได้รับบาดเจ็บจะได้รับค่ารักษาพยาบาลตามจริงคนละไม่เกิน 80,000 บาท
  2. กรณีสูญเสียอวัยวะ มีหลักเกณฑ์การรับเงินชดเชย ดังนี้
  • สูญเสียอวัยวะ 2 ส่วนขึ้นไป – 300,000 บาท
  • สูญเสียอวัยวะ 1 ส่วน – 250,000 บาท
  • สูญเสียนิ้ว ตั้งแต่ 1 นิ้วขึ้นไป – 200,000 บาท
  1. กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร ได้รับค่ารักษาพยาบาลตามจริงคนละไม่เกิน 300,000 บาท
  2. ได้รับค่าชดเชยการรักษาตัว กรณีผู้ป่วยในได้รับค่าชดเชยวันละ 200 บาท ในระยะเวลาไม่เกิน 20 วัน

*รวมค่าสินไหมทดแทนทั้งหมดคนละไม่เกิน 304,000 บาท

พ.ร.บ. เคลมประกันอย่างไร?

การเคลมประกัน คือ  การเรียกร้องสิทธิประโยชน์ของผู้มีพ.ร.บ. หรือประกันภัยใดๆ ก็ตาม ซึ่งการขอใช้สิทธิ์ พ.ร.บ.จะต้องดำเนินการภายใน 180 วันหลังจากวันที่เกิดเหตุ

ขั้นตอนการเคลมพ.ร.บ. นั้นต้องยื่นเอกสารต่างๆ ต่อไปนี้

  • ใบบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจเก็บไว้เป็นหลักฐาน
  • ใบรับรองแพทย์พร้อมใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล
  • สำเนาบัตรประชาชนของผู้ที่ประสบเหตุหรือใบมรณะบัตร
  • สำเนาบัตรประชนชนของทายาท

หากค่ารักษาพยาบาลเกินวงเงิน สามารถหักค่าใช้จ่ายจากสิทธิอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ประกันสังคม, 30 บาทรักษาทุกโรค, บัตรทอง หรือแม้แต่ประกันสุขภาพและประกันชีวิตตามลำดับ หลังจากนั้นจะได้รับค่าชดเชยตามสิทธิ์ภายใน 7 วันหลังจากยื่นเอกสารครบถ้วน

การประกันภัยภาคบังคับมีขอบเขตการคุ้มครองอะไรบ้าง

  • ประกันภัยรถมอเตอร์ไซค์มีกี่รูปแบบ แตกต่างกันอย่างไร?

ประกันรถจักรยานยนต์นั้นแม้จะเป็นประกันแบบสมัครใจ แต่คุณก็ควรมีประกันติดตัวไว้เผื่อใช้ในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝันต่างๆ เนื่องจากบิ๊กไบค์นั้นเป็นยานพาหนะที่หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นแล้วก็มีอันตรายเทียบเท่ากับอุบัติทางรถยนต์ อีกทั้งปัจจุบันก็มีบริษัทประกันที่หลากหลายให้คุณเลือกใช้บริการได้อย่างสะดวกตามความพอใจ สำหรับประกันภัยแต่ละประเภทก็มีความคุ้มครองแตกต่างกันไป ดังนี้

  • ประกันรถจักรยานยนต์ชั้น 1

บริษัทประกันนั้นจะรับทำประกันชั้น 1 เฉพาะรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ที่มีอายุไม่เกิน 5 ปีและเครื่องยนต์ 250cc ขึ้นไปเท่านั้น

ประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้เอาประกันและคู่กรณี รวมถึงคุ้มครองความเสียหายของรถจากการเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ชน ล้ม ลื่นล้ม รวมถึงการสูญหายและเกิดเพลิงไหม้ด้วย

ประกันชั้น 1 นั้นเป็นที่นิยมมากที่สุดในหมู่ไบค์เกอร์เนื่องด้วยราคาของรถบิ๊กไบค์บางรุ่นนั้นมีราคาสูงเทียบเท่ากับรถยนต์เลยทีเดียว

  • ประกันรถจักรยานยนต์ชั้น 2+

สำหรับประกันชั้น 2+ นั้นจะซื้อได้ทั้งรถบิ๊กไบค์และรถจักรยานยนต์ทั่วไป โดยรถจักรยานยนต์คันนั้นๆ ต้องมีอายุไม่เกิน 5 ปี โดยให้ความคุ้มครองเหมือนกันประกันชั้น1 คือ คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้เอาประกันและคู่กรณี คุ้มครองกรณีรถสูญหายและไฟไหม้ แต่จะไม่คุ้มครองในอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี เช่นรถล้มหรือลื่น

ประกันชั้น 2+ นั้นได้รับความนิยมอย่างมากเนื่องจากเป็นประกันที่ครอบคลุมแต่ราคาย่อมเยากว่าประกันชั้น 1

  • ประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 3+

สำหรับประกันชั้น 3+ นั้นจะซื้อได้ทั้งรถบิ๊กไบค์และรถจักรยานยนต์ทั่วไป โดยรถจักรยานยนต์คันนั้นๆ ต้องมีอายุไม่เกิน 6 ปี โดยประกันประเภทนี้จะมีความคุ้มครองเหมือนประกันชั้น 2+ คือคุ้มครองในอุบัติเหตุทุกกรณีที่มีคู่กรณีเป็นยานพาหนะด้วยกันเท่านั้น แต่จะไม่มีความคุ้มครองในส่วนของรถหาย ไฟไหม้

  • ประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 3

สำหรับประกันชั้น 3 นั้นจะซื้อได้ทั้งรถบิ๊กไบค์และรถจักรยานยนต์ทั่วไป โดยไม่จำกัดอายุของรถ

ประกันชั้น 3 ให้ความคุ้มครองแค่ความเสียหายและทรัพย์สินของคู่กรณีเท่านั้น โดยไมให้ความคุ้มครองผู้เอาประกันในทุกกรณี

ทั้งนี้ประกันชั้น 3 ไม่ค่อยเป็นที่นิยมในหมู่ ซึ่งไบเกอร์ส่วนมากจะเลือกซื้อประกันชั้น 2+ หรือ 3+ มากกว่า

  • ประกันรถมอเตอร์ไซค์สูญหาย

นอกจากความคุ้มครองต่างๆ แล้ว ปัจจุบันบริษัทประกันภัยยังมีกรมธรรม์พิเศษเฉพาะรถมอเตอร์ไซค์ ให้ความคุ้มครองกรณีถูกโจรกรรม ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ หรือเมื่อรถเสียหายจากอุบัติเหตุ แต่รถมอเตอร์ไซค์ต้องเข้าข่ายเงื่อนไขดังต่อไปนี้

  1. รถป้ายแดง มีทุนประกันประมาณ 80% ของราคารถ
  2. รถที่มีอายุ 1-3 ปี จะมีทุนลดลงต่อปี10%
  3. รถที่มีอายุ 4-9 ปี จะมีทุนเหลือเพียง 10,000 บาทจนถึง 6,000 บาทเท่านั้น

จะเห็นได้ว่าพ.ร.บ. และประกันภัยมีข้อแตกต่างกันตรงที่ประกันภัยภาคบังคับอย่าง พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ จะให้ความคุ้มครองที่ตัวบุคคลเท่านั้น ขณะที่ประกันภัยภาคสมัครใจให้ความคุ้มครองทั้งบุคคลผู้เอาประกันและความเสียหายของรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ด้วย ซึ่งประกันแต่ละบริษัทก็มีหลักเกณฑ์และเบี้ยประกันที่แตกต่างกันออกไป ควรเปรียบเทียบข้อมูลก่อนซื้อ

หากคุณออกรถใหม่กับศูนย์บริการอย่างเป็นทางการ Peera Motosports  ผู้แทนจำหน่ายและศูนย์บริการคาวาซากิอย่างเป็นทางการ คุณก็จะได้รับประกันชั้น 1 ไปพร้อมกัน ให้คุณขับขี่อย่างสบายใจ และมีบริการรับต่อ พรบ. และประกันภัยทุกประเภทกับบริษัทประกันภัยชั้นนำ

ที่มา
https://masii.co.th/blog/พ-ร-บ-มอเตอร์ไซค์คุ้มครอ
https://promotions.co.th/โปรโมชั่นอื่นๆ/insurance/motor/อยากรู้ไหม-ประกันรถมอเต.html
https://www.frank.co.th/blog/กูรูประกันรถ/พรบ-คืออะไร-เกิดเหตุแล้วเคลม-พ-ร-บ-อย่างไร
https://rabbitfinance.com/blog/why-big-bike-insurance-more-expensive-than-motorbike-insurance
https://misterprakan.com/th/ประกันรถมอเตอร์ไซค์/ประกันรถมอเตอร์ไซค์

การประกันภัยภาคบังคับมีขอบเขตการคุ้มครองอะไรบ้าง