ความคิดสร้างสรรค์คืออะไรประกอบด้วยอะไรบ้าง

ความคิดสร้างสรรค์คืออะไรประกอบด้วยอะไรบ้าง


            เมื่อพูดถึงความคิดสร้างสรรค์ หลายคนอาจนึกถึงศิลปะหรือผลงานที่ใช้หัวคิดดีไซน์ให้ออกมาเฉพาะตัว แท้จริงแล้วความคิดสร้างสรรค์มีอยู่ในทุกผลงาน และการแทรกตัวเข้าไปของความคิดเหล่านั้นก็เพื่อให้เกิดเป็นความสุขและสุนทรียภาพในการทำงาน

            Creativity มีรากศัพท์มาจากภาษาละติน Creo = to creat, to make แปลว่า สร้าง หรือ ทำให้เกิด

            กระบวนการคิดของสมองสามารถคิดได้หลากหลายและแปลกใหม่อยู่เสมอ เพราะภูมิหลังพื้นเพที่มีความแตกต่าง ส่งผลให้เกิดความคิดจินตนาการที่ไม่เหมือนใครและสามารถนำไปประยุกต์ได้กับศิลปะทุกแขนง ไม่ว่าจะเป็นทฤษฎีหรือปฏิบัติ ความคิดสร้างสรรค์ จะเชื่อมโยงความคิดที่หลากหลาย แสวงหาทางเลือกใหม่อยู่เสมอ กระบวนการของความคิดสร้างสรรค์อาจเกิดขึ้นโดยบังเอิญหรือโดยตั้งใจ ซึ่งทำได้โดยการฝึกฝน ระดมสมอง อีกทั้งความสามารถในการมองเห็นความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ ขยายขอบเขตความคิดเดิมๆ ให้กว้างและหลากหลายแง่มุม เหล่านี้ทำให้เกิดเป็นความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ เช่นกัน

            องค์ประกอบของความคิดสร้างสรรค์ ได้แก่ ความคิดนั้นต้องเป็นสิ่งใหม่ไม่เคยมีมาก่อน (New Original) ใช้การได้ (Workable) และมีความเหมาะสม (Appropriate) การคิดเชิงสร้างสรรค์จึงเป็นการคิดเพื่อการเปลี่ยนแปลงจากสิ่งเดิมไปสู่สิ่ง ใหม่ที่ดีกว่า ซึ่งจะได้ผลลัพธ์ที่ต่างไปโดยสิ้นเชิงหรือที่เรียกว่า "นวัตกรรม" (Innovation)

ความคิดสร้างสรรค์ อาจสรุปได้คร่าวๆ ดังนี้
      1.ความสามารถ (ability) ในการจินตนาการหรือสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อาจเริ่มจากการสร้างสรรค์ความคิดใหม่จากการผสมผสาน (combining หรือ synthesizing) การเปลี่ยนแปลง (changing) หรือการนำกลับมาใช้ใหม่ (reapplying) ความคิดสร้างสรรค์บางเรื่องอาจน่าทึ่งและยอดเยี่ยม บางเรื่องอาจจะเป็นเรื่องธรรมดาที่คนส่วนใหญ่มองข้าม ความจริงแล้วทุกคนมีความคิดสร้างสรรค์ สังเกตได้ตั้งแต่วัยเด็ก แต่เมื่อมีอายุมากขึ้น ความคิดสร้างสรรค์มักจะถูกครอบงำด้วยกระบวนการศึกษา และสามารถรื้อฟื้นให้กลับมาได้แต่ทั้งนี้ต้องประกอบกับความถนัด ความต้องการ พร้อมของใจและวันเวลาที่จะเป็นตัวช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ขึ้น
      2.ทัศนคติ (attitude) คือ การยอมรับการเปลี่ยนแปลงและสิ่งใหม่ พร้อมที่จะเล่นกับความคิดที่หลากหลายและความเป็นไปได้ (probability) มีความคิดที่ยืดหยุ่น ชอบเห็นสิ่งที่ดีขึ้นและพร้อมที่จะปรับปรุงอยู่เสมอ
      3.กระบวนการ (process) ผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์จะทำงานหนักเพื่อพัฒนาความคิดและแนวทางแก้ปัญหาของตนให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยวิธีการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไปหรือปรับปรุงให้มีความสมบูรณ์ขึ้นตามลำดับ ความคิดสร้างสรรค์ที่เยี่ยมยอดไม่เคยปรากฏว่าเกิดจากการคิดเพียงครั้งเดียวหรือจากกิจกรรมสั้นๆ ผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์รู้ดีว่า การปรับปรุงให้ดีขึ้นสามารถทำได้เสมอ

สำหรับวิธีการคิดสร้างสรรค์ มีวิธีการที่หลากหลายแต่ที่สำคัญมี 5 วิธีการ คือ
      1.วิวัฒนาการ (evolution) เป็นวิธีการปรับปรุงให้ดีขึ้นด้วยวิธีการแบบสะสมทีละขั้นตอน ความคิดใหม่เกิดจากความคิดหลากหลาย แนวทางแก้ปัญหาใหม่ๆ เกิดจากแนวทางเก่าที่ปรับปรุงให้ดีขึ้น
      2.การผสมผสาน (synthesis) เป็นการผสมผสานหรือสังเคราะห์แนวคิดที่ ๑ กับ  ๒ เป็นแนวคิดที่ ๓ ซึ่งกลายเป็นความคิดใหม่
      3.การปฏิวัติ (revolution) ในบางครั้งความคิดใหม่เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก
      4.ปรับเปลี่ยนวิธีการใหม่ (reapplication) ปรับมุมมองเรื่องเก่า ด้วยมุมมองใหม่หรือมองแบบนอกกรอบ
      5.ปรับเปลี่ยนทิศทาง (changing direction) เป็นการปรับเปลี่ยนทิศทางการมองปัญหาด้วยวิธีการที่หลากหลายยิ่งขึ้น

เพราะไม่ว่าเราต้องการความคิดสร้างสรรค์ไปใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานใดๆ ก็แล้วแต่ กระบวนความคิดหรือเหตุผลดังกล่าวข้างต้นมีความน่าสนใจชวนให้เราฉุกความคิดและกระตุกความคิดให้ลองปรับเปลี่ยนแนวความคิดในการสร้างสรรค์ผลงานได้ นอกจากจะได้แนวทางเพิ่มขึ้นและยังอาจได้ผลงานใหม่ๆ โดยไม่รู้ตัวอีกก็เป็นได้

ในยุคที่ความรู้และข้อมูลเป็นสิ่งที่ทุกคนก็สามารถ​ค้นหา​และเรียนรู้​ได้ด้วยตนเองนั้น  ปฏิเสธ​ไม่ได้เลยว่าหนึ่ง​ในทักษะที่ผู้คนจำเป็นต้องฝึกฝนมากที่สุดเลยก็คือ กระบวน​การคิดเพื่อที่จะสร้างความแตกต่าง หรือทำให้เกิดสิ่งใหม่ขึ้นมาด้วยวิธีการใช้ความคิดสร้างสรรค์​นั่นเอง 

แต่ก็มีหลายคนที่ไม่รู้​ว่า​ต้องทำอย่างไร​ถึงจะมีความคิดสร้างสรรค์​หรือยังไม่เข้าใจเลยว่าความคิดสร้างสรรค์​คืออะไรกันแน่ วันนี้​มีคำตอบมาให้ครับ

Table of Contents

  • ความคิดสร้างสรรค์ คืออะไร
  • ความคิดสร้างสรรค์เกิดจากอะไร
  • ตัวอย่างของความสร้างสรรค์
  • ประโยชน์ของความคิดสร้างสรรค์
  • วิธีทำให้เรามีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
  • สุดท้ายนี้ เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์

ความคิดสร้างสรรค์ คืออะไร

ความคิด​สร้างสรรค์​ คือ ความสามารถ​ทางความคิดของมนุษย์ที่แปลกใหม่จากเดิม มีหลากหลาย​รูปแบบ​หลายแง่มุมที่กว้างไกลโดยไร้กรอบและขอบเขต เพื่อสรรค์​สร้างสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนหรือต่อยอดจากสิ่ง​ที่​แต่เดิมที่มีอยู่แล้วให้​พัฒนาต่อไป​ได้ในทิศทางที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

พูดถึงคำว่า ‘ความคิดสร้างสรรค์​’ หรือ ‘Creativity’ เชื่อว่าหลายคนอาจจะนึกถึงหน้าของ อัลเบิร์ต​ ไอน์สไตน์ หรือคนที่เป็นอัจฉริยะ​ที่สามารถ​คิดอะไรที่แตกต่าง หลายคนคิดว่า ความคิด​สร้างสรรค์นั้น​เป็นพรสวรรค์​ เป็นสิ่งมหัศจรรย์​ที่ไม่ใช่ว่าทุกคน​จะมีความคิดสร้างสรรค์​ได้ คนๆ นั้นจะต้องทำงานที่มีหน้าที่เป็นครีเอทีฟ​ เป็นดีไซเนอร์​ เป็นนักร้อง เป็นศิลปิน ถึงจะมีความคิด​สร้างสรรค์​ออกมาได้ 

ความคิด​แบบนี้พวกเราถูก​ปลูกฝัง​กันมาอย่างยาวนาน ทำให้พวกเรากลัวที่จะสร้างความคิดสร้างสรรค์​หรือกล้าที่จะคิดนอกกรอบ ทั้งๆ ที่ทุกคนรู้อยู่​แล้ว​ว่า​ความคิดสร้างสรรค์​เป็นจุดกำเนิดของนวัตกรรม​ เป็นสิ่งที่สำคัญ​ที่สุดในยุคนี้ 

สิ่งที่เกิดขึ้นใหม่อาจเป็นผลิตผล​ในรูปแบบของงานศิลปะ​ ดนตรี วรรณ​กรรมหรือระเบียบวิธีการ​ต่างๆ ในมุมมองแบบ​ใหม่​

ตลอดจนการคิดค้นนวัตกรรม​ใหม่​ๆ สิ่งประดิษฐ์​ต่างๆ ที่ส่งผลดีและเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต​ของผู้คนในสังคมและความก้าวหน้า​ทางเทคโนโลยี​ ซึ่งถูกใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน​และยังสามารถ​นำไปพัฒนา​ได้อีกต่อไปในอนาคต

อีกทั้งยังเชื่อมโยง​ไป​สู่การค้นพบวิธีแก้ปัญหา​ต่างๆ อย่างชาญฉลาดและสร้างสรรค์​อีก​มากมาย ซึ่งมีผลดีต่อตัวเองและสังคมอีกด้วย

แล้วความคิดสร้างสรรค์​นั้นเกิดจากอะไร คุณเคยสงสัยกันบ้างไหม

ความคิดสร้างสรรค์เกิดจากอะไร

ความคิดสร้างสรรค์เกิดจากการทำงานของสมองมนุษย์ ที่ประกอบไปด้วยหน้าที่ส่วนตรรกะและความสร้างสรรค์ ซึ่งต้องทำงานร่วมกันถึงจะเกิดผลลัพธ์ที่ดีที่ ความคิดสร้างสรรค์สามารถมาจากความต้องการของมนุษย์ในการแก้ปัญหาด้วยวิธีใหม่ หรือความบังเอิญจากการลองผิดลองถูกก็ได้

​สมองของมนุษย์นั้นจะ​แบ่งได้เป็น 2 ซีก คือ สมองซีกซ้ายและสมองซีกขวา ซึ่งจะมีลักษณะ​การทำงานที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งในหนึ่งมุมมอง ความคิดสร้างสรรค์ ​ก็เป็นผลมาจากการทำงานของสมอง

สมองซีกซ้ายหรือสมองส่วนของเหตุผล​ จะมีลักษณะ​การทำงานที่เน้นไปในด้านการใช้สติปัญญา​​ คิดเกี่ยวกับ​ตัวเลข การวิเคราะห์​ ตรรกะ​ความมีเหตุมีผล​ซึ่งไม่เกี่ยว​กับ​จินตนาการ​

และในส่วนของสมองซีกขวา หรือสมองส่วนของอารมณ์​ความรู้สึก​ จะมีลักษณะ​การทำงานที่​สามารถ​คิดได้โดยอิสระ ไม่เป็นเส้นตรง ไม่เป็นไปตามลำดับ​ขั้นตอน และสามารถ​เห็นเป็นภาพทั้งหมด​ในหัวได้

จากการทำงานของสมองทั้งสองซีกแม้จะมีลักษณะ​การทำงานที่ดูเหมือนจะตรงกันข้ามกันเลย 

บางคนอาจจะเคยอ่านเจอบทความ​ที่​บอกว่า​การใช้ความคิด​สร้างสรรค์​นั้นเป็นการทำงานในส่วนของสมองซีกขวา นั่นก็ถือว่าไม่ผิด

แต่ก็ไม่ได้ถูกต้อง​ทั้งหมด เพราะการใช้ความคิด​สร้างสรรค์​ได้อย่างมีประสิทธิภาพ​นั้น มีความจำเป็นต้องใช้สมองทั้งสองซีก เพื่อคอยเสริมซึ่งกันและกัน ซึ่งจะทำให้เกิดความคิดที่แปลก​ใหม่และมีความสมบูรณ์​ไปในตัวนั่นเอง

ความคิด​สร้างสรรค์​นั้นโดยทั่วไป​แล้ว สามารถเกิดขึ้นได้โดยเริ่มจากการจินตนาการ​ ซึ่งเป็นเพียงความคิดความฝันที่ยังไม่เป็นความจริง แต่มีความปรารถนาอย่างแรงกล้า​ที่ต้องการ​ให้เกิดจริงๆ และลงมือทำตามความฝันนั้นให้เป็นจริง

และยังเริ่มจากความรู้​ที่มีอยู่แล้วนำมาทำการต่อยอดเพื่อให้เกิดเป็น นวัตกรรม​ ซึ่ง​ก็คือ การทำสิ่งต่างๆ ด้วยความรู้ที่มีผ่านวิธีใหม่ๆ กระบวนการที่แตกต่าง​โดยไม่ยึดติดกับกรอบความคิดแบบเดิมๆ กฎเกณฑ์แบบเดิมๆ

ตัวอย่างของความสร้างสรรค์

ความสร้างสรรค์นั้น​สามารถ​มองได้หลายมิติ หลายมุมมองโดยการคิดด้วยมุมมอง​ที่แตกต่างทำให้เกิดเป็นชิ้นงานศิลปะ​ที่มีคุณค่าหรือการค้นพบทฤษฎี​ตลอดสามารถ​สร้างสิ่งประดิษฐ์​ใหม่ขึ้นมาได้เลย

เช่น คนที่มองเห็นความสวยงามของหญิงสาวก็จะเกิดความรู้สึก​ในความงามแล้วกล่าวว่าวาจาเป็นคำชมและแต่งกลอนโดยอาจจะเปรียบเทียบ​หญิง​สาวเป็นดอกไม้ซึ่งมีความงดงามไม่แพ้กัน

หรือการที่นักวิทยาศาสตร์​ชื่อดังของโลกค้นพบ​ทฤษฎี​ต่างๆมากมาย ​เช่น ไอแซก นิวตัน เห็นผลแอปเปิลหล่นลงมา ก็คิดทฤษฎี​เกี่ยวกับ​แรงโน้มถ่วง​ขึ้นมาได้หรือเจมส์ วัตต์ ที่เขาเห็นไอน้ำที่ทำให้ฝาของกาเผยอก็คิดประดิษฐ์​เครื่อง​จักรไอน้ำได้สำเร็จ

แค่พูดถึงความสร้างสรรค์​ในเมนู​อาหารอย่าง​เดียวก็คงไม่สามารถจะหยิบยกมาบรรยาย​ได้หมดแล้ว วันนี้จะขอยกตัวอย่าง​เมนู​อาหาร​ที่คนทั่วไป​อาจจะคิดว่าแปลกและไม่น่าจะนำมารับประทาน​ด้วยกันได้ นั่นก็คือ ราเมงกาแฟ จากแดนปลาดิบนั่นเอง สร้างสรรค์​โดยการนำอาหารขึ้นชื่อของญี่ปุ่นอย่างราเมงมารับประทาน​ร่วมกับน้ำซุปกาแฟ แล้วรสชาติ​เหมือนจะออกมาดีด้วย กลายเป็นความแปลกใหม่ที่ลงตัวในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน 

ประโยชน์ของความคิดสร้างสรรค์

ความคิด​สร้างสรรค์​ที่ดีนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของความแตกต่าง ซึ่งเป็นประโยชน์​ทั้งในการแก้ไขปัญหารอบตัวเรา และการสร้างสีสันในชีวิต ความคิด​สร้างสรรค์เป็นประโยชน์​ต่อตัวเราเอง ต่อสังคมรอบข้าง และในหน้าที่​การงาน​ที่​เรา​ทำด้วย

โดยประโยชน์ขงอความคิดสร้างสรรค์ได้แก่:

ประโยชน์ต่อตัวเอง – ความคิด​สร้างสรรค์​ที่ดีนั้น ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้วยแนวทางใหม่ๆ ในการดำเนินชีวิต วิธีคิดในแง่มุมใหม่ๆ และสนุกกับการประดิษฐ์​คิดค้นอะไรใหม่ๆ อยู่​ตลอดเวลา ซึ่ง​เป็นการพัฒนา​สมองไปในตัว ทำให้เรามีสติปัญญา​ที่เฉียบแหลมขึ้น มีไหวพริบ​ปฏิภาณ​ในการแก้ปัญหา​ต่างๆ ได้ดีขึ้น จนเกิดเป็นความภาคภูมิใจ​ใน​ตัวเอง

ประโยชน์ต่อคนรอบข้าง – ความคิด​สร้างสรรค์เป็นสิ่งที่​ทำให้เกิดนวัตกรรม​ใหม่ๆ อย่างไร้ขีดจำกัด ซึ่งนำมาสู่สิ่งประดิษฐ์​และวิธีการ​ต่างๆ มากมายที่​สามารถ​ช่วยเหลือ​และแก้ไขปัญหา​ให้คนอื่นในสังคมได้ และทำให้ผู้คนรอบข้าง​เริ่มรู้จักที่จะเรียนรู้​และฝึกฝนการใช้ความคิดสร้างสรรค์​เพื่อนำมาพัฒนา​ชีวิตของตัวเองและคนรอบข้าง​ให้ดียิ่งขึ้น​อีกด้วย

ประโยชน์ต่อการทำงาน – การเป็นบุคคลมีไอเดีย​ที่ดี ความคิดสร้างสรรค์​ที่ดีนั้นจะสามารถ​ที่จะทำให้เราได้เปรียบอย่างโดดเด่น​และสามารถ​เอาตัวรอดในโลกธุรกิจ​หรือสามารถ​แก้ปัญหา​ต่างๆ ในการทำงานทั่วไป​ๆ ได้อย่างราบรื่น​

เรายังสามารถ​กลายเป็นผู้นำทางด้านความคิดและยังช่วยยกระดับความสามารถความอดทนและความคิดของการเป็นผู้นำให้มากขึ้น​อีกด้วย

แล้วถ้าเราอยากจะเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์​มากขึ้นต้องทำอย่างไร​ มีวิธีมาให้ครับ

วิธีทำให้เรามีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น

  1. ฝึกใช้ความคิดตลอดเวลา คิดบ่อยๆ โดยให้ลองตั้งคำถามในประเด็นหรือหัวข้อที่อยากรู้แล้วลองหาคำตอบประกอบเหตุผลในเรื่องนั้น เมื่อเราฝึกคิดบ่อยๆ ก็จะเกิดความชำนาญไปเองโดนอัตโนมัติ​
  1. ฝึกคิดให้รอบด้าน มองให้หลากหลายมุมมอง ไม่ยึดติดกับแนวคิดใดแนวคิดหนึ่งเพียงอย่างเดียวหรือแค่มุมมอง​แบบเดิมๆ เท่านั้น
  1. ขจัดความคิดที่ครอบงำตีกรอบตัวเองออกไป โดยไม่จำกัดกรอบความคิดของตนเองไว้กับความเคยชินแบบเดิมๆ ที่เคยเชื่อเคยเห็นและเคยทำมาแล้ว
  1. ลองจัดระบบความคิดใหม่เพื่อที่จะเปรียบเทียบในมุมมองที่แตกต่างออกไปหรืออาจจะนำมาค้นหาความจริง
  1. มั่นฝึกการฟังแล้วคิดตาม ไม่เข้าใจให้ซักถาม เมื่อรู้แล้วนำไปเขียนบันทึก เหมือนดั่งคาถาหัวใจนักปราชญ์​อันได้แก่ การฟัง การคิด การถาม และการเขียน
  1. ฝึกเป็นคนใฝ่เรียน​รู้ตลอดเวลา รับข้อมูล เสพสื่อที่เป็นประโยชน์​และเป็นคนช่างสังเกตแล้วจดจำ เพื่อสะสมความรู้​ประสบการณ์ที่จะนำไปสู่การกระตุ้นให้เกิดแนวคิดใหม่ๆ ที่ดีและมีคุณค่า​
  1. ฝึกระดมสมองเพื่อรวบรวมความคิดสร้างสรรค์หรือที่เรียกว่า ‘Brainstorming’ ซึ่งเป็นเทคนิคเพื่อรวบรวมทางเลือกและการแก้ปัญหาโดยเปิดโอกาสให้ทำการคิดอย่างอิสระและไม่มีการวิพากษ์วิจารณ์ใดๆ ในระหว่างการเสนอความคิด เพราะการวิพากษ์วิจารณ์จะเป็นการขัดขวางความคิดสร้างสรรค์กับเพื่อนๆ หรือบุคคลในกลุ่มที่ระดมสมอง​กันอยู่​
  1. ฝึกแสดงความคิดเห็นในเชิงบวกหรือด้านที่ดี​บ่อยๆ โดยอย่าไปกลัวที้จะล้มเหลวหรือเสียหน้า เพราะการเสนอความคิดเห็นไม่มีถูกหรือผิด มีแต่จะทำให้ตัวเองได้ฝึกใช้ความคิดมากขึ้น และเมื่อได้ฝึกคิดมากขึ้นก็จะทำให้มีความคิดสร้างสรรค์​ได้ง่ายขึ้น
  1. เป็นคนที่มีทัศนคติ​แบบต้องการพัฒนาตัวเองตลอดเวลา ต้องทำอนาคตให้ดีกว่าปัจจุบัน และทุกอย่างที่ทำเมื่อเห็นว่าดีหรือประสบความสำเร็จแล้ว ครั้งต่อไปจะต้องพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมด้วยวิธีการใหม่ๆ

สุดท้ายนี้ เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์

จากที่กล่าวมาข้างต้น​เห็นไหมครับว่าการเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์​ที่ดีนั้น ส่งผลดีต่อตัวเอง หน้าที่การงานและสังคม​ขนาดไหน และยังเป็นความสามารถ​ที่มนุษย์​ทุกคน​มีติดตัว​มา​ตั้งแต่​กำเนิด ขึ้นอยู่กับว่าคุณ​ให้ความสำคัญ​กับการฝึกฝน​พัฒนา​ความสามารถ​นี้มากน้อยแค่ไหน ขอแค่มีความตั้งใจที่พัฒนาตัวเองในทุกๆ วันอย่างมีวินัย ตัวคุณ​ก็สามารถ​เก่งขึ้นและมีความคิดสร้างสรรค์​ได้ไม่ยากครับ