การที่จะปฏิเสธเทคโนโลยีในยุคปัจจุบันนี้ถือเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตามทุกสิ่งจะถูกเชื่อมโยงด้วยระบบเครือข่ายโดยมีเบื้องหลังคือ TCP/IP และเทคโนโลยียังรวมไปถึงการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ ในชีวิตประจำวันนั้นอาจเจอกับการใช้งาน AI โดยที่ผู้ใช้งานไม่รู้ตัวเช่น
เทรนด์ของการนำ Artificial Intelligence มาใช้ในภาคธุรกิจและชีวิตประจำวันนั้นเริ่มมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหลักมาจากขีดความสามารถของเอไอที่พัฒนาไปไกลยิ่งกว่าเดิมมาก และสามารถนำไปใช้ในงานที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น รวมถึงการที่ผู้คนเริ่มปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้นนั้นก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญเช่นกัน (ยุค COVID-19 ทำให้คนจำนวนมากต้องใช้เทคโนโลยีและปรับตัวอย่างเลี่ยงไม่ได้) ในบทความนี้จะกล่าวถึงปัญญาประดิษฐ์ที่ใช้งานกันในปัจจุบันว่ามีประเภทไหน มีอะไรบ้าง เคยใช้กันมาบ้างแล้วหรือไม่? ไปจนถึงเทรนด์ในอนาคตว่าสิ่งนี้จะพัฒนาต่อไปในทิศทางไหนได้บ้าง ประเภทของ AI มีอะไรบ้าง?ปัญญาประดิษฐ์นั้นถูกนำมาใช้ในหลายอุตสาหกรรมหลายธุรกิจโดยมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไป แต่หลัก ๆ แล้วเอไอจะคำนวณโดยรับข้อมูลที่ระบบคอมพิวเตอร์สามารถรับได้ในปัจจุบันซึ่งถือว่าค่อนข้างรับข้อมูลได้เป็นจำนวนมากแล้วเพียงแต่ต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอนก่อนนำไปใช้กับปัญญาประดิษฐ์ และก่อนที่จะไปถึงตัวอย่างเอไอเจ๋ง ๆ นั้น จะต้องทบทวนความรู้เกี่ยวกับประเภทของ Artificial Intelligence กันก่อน โดยปัญญาประดิษฐ์นั้นแบ่งประเภทได้ดังนี้
และสำหรับความฉลาดของปัญญาประดิษฐ์นั้นจะแบ่งออกเป็น Knowledge-based System (ฉลาดเชิงฐานความรู้) และ Computational Intelligence (ฉลาดเชิงคำนวณ) ในส่วนของการเรียนรู้ของปัญญาประดิษฐ์นั้นจะเรียกว่า Machine Learning และ Deep Learning ตามที่ได้เห็นในบทความและตำราส่วนใหญ่ (Supervised Learning, Unsupervised Learning, Reinforcement Learning และ Neural Networks) ตัวอย่าง AI สุดเจ๋งDeepMind จับมือกับ Liverpool เพื่อพัฒนาเกมการเล่นฟุตบอล Deep Mind บริษัทด้านปัญญาประดิษฐ์ในเครือของ Alphabet (บริษัทแม่ของ Google โดย DeepMind ถูกกูเกิ้ลเข้าซื้อเมื่อปี 2014) DeepMind แจ้งเกิดด้วยปัญญาประดิษฐ์ที่มีชื่อว่า AlphaGo ในการเล่นหมากล้อม (โกะ) เอาชนะมืออาชีพและแชมป์โลกได้ แต่ DeepMind ไม่ได้มีดีแค่นั้นยังมี AI อีกมากมายที่ถูกพัฒนาขึ้น แต่ส่วนใหญ่จะนำเกมเข้ามาใช้ฝึกสอนโมเดลและสร้างปัญญาประดิษฐ์ ขอบคุณคลิปจาก Bringin’Across Kizuna AI Kizuna AI เป็น Vtuber (Virtual Youtuber) จากญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ทำให้สามารถยกระดับ CGI Influencers NVIDIA Tech Company ระดับโลกนี้ได้สร้างปัญญาประดิษฐ์จำนวนมากเกี่ยวกับการประมวลผลภาพขึ้นมามากมาย โดยมีความสามารถมากมายหลายด้านให้ได้ศึกษาและนำไปใช้งาน Trends AI ในอนาคตปัญญาประดิษฐ์นั้นจะถูกนำเข้ามาใช้ในภาคธุรกิจมากขึ้นอย่างแน่นอน สิ่งที่จะต้องมีเป็นพื้นฐานสำหรับธุรกิจในอนาคตอาจหนีไม่พ้น Chatbot เพราะการให้บริการผ่านช่องทางออนไลน์นั้นกำลังเพิ่มสูงขึ้นเป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมใดก็ตาม ดังนั้นการถามตอบข้อมูล ให้คำตอบ ให้บริการบางอย่างผ่านช่องทางแชทนั้นจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอนและ Chatbot ก็เป็นวิธีที่ตอบโจทย์กับเรื่องเหล่านี้ โดยใช้เพียงแค่ระดับ Reactive Machines ก็อาจเพียงพอแล้ว แต่ถ้าหากธุรกิขค่อนข้าง Mass นั้นก็อาจพัฒนาให้เป็นระดับ Limited Memory ได้ และนอกจากแชตบอทแล้วนั้นการนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้กับงานธุรกิจก็จะมีมากขึ้นด้วยเช่น งานเอกสาร งานบัญชี งานจดบันทึก และทุกอย่างที่เป็นกระบวนการทำซ้ำ จะถูกทดแทนด้วยเอไอ เพื่อลดภาระงานขององค์กรและใช้คนในงานที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และด้วยเทคโนโลยีด้าน Cloud Computing ที่มีประสิทธิภาพมากในปัจจุบันนั้นจะช่วยให้ธุรกิจ SME เข้าถึงการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ในราคาที่ถูกลงได้ นอกเหนือจากนี้แล้วปัญญาประดิษฐ์ระดับ Theory of Mind เองก็อาจเริ่มเกิดขึ้นจริงมากขึ้นอย่างเช่น Kizuna AI หากพัฒนาขีดความสามารถให้มีความฉลาดทางอารมณ์ได้ เป็นต้น สำหรับในชีวิตประจำวันในอนาคตนั้นจะได้เจอกับยานพาหนะระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติอย่างแน่นอน ไปจนถึงผู้ช่วยส่วนตัวที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอย่าง Google Assistant และ Siri ที่มีบนอุปกรณ์สมาร์ทโฟนของทุกคน ผู้ช่วยเหล่านี้จะมีส่วนในการค้นหาข้อมูลบนโลกออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นรวมถึงการทำความเข้าใจในความต้องการของผู้ใช้งานและนำเสนอผลลัพธ์ที่ต้องการในทันที Conclusionปัญญาประดิษฐ์นั้นจะถูกนำมาใช้ในธุรกิจมากขึ้นอย่างแน่นอนตั้งแต่ระบบการให้บริการลูกค้าอย่างช่องทางแชท ไปจนถึงการระบบงานภายในของธุรกิจ และระบบการผลิต/ซ่อมบำรุง/ดูแล ต่าง ๆ ในอุตสากรรมใหญ่ก็เช่นกัน นอกเหนือจากงานระบบเหล่านี้แล้วปัญญาประดิษฐ์จะมีส่วนในการเป็นเครื่องมือให้คนทำงานได้ใช้อีกมาก และสำหรับชีวิตประจำวันนั้นเอไอจะช่วยให้ผู้คนใช้ชีวิตได้ง่ายยิ่งขึ้นดังตัวอย่างข้างต้นและอีกมากมายเช่นระบบ Google Assistant ที่จะเป็นผู้ช่วยที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต ดังนั้นการเรียนรู้และใช้งานเทคโนโลยีให้คล่องแคล่วและปลอดภัยจึงเป็นสิ่งจำเป็นมาก (Digital Literacy) |