7.1 การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านและการนับถือพระพุทธศาสนาของประเทศเพื่อนบ้าน ในปัจจุบัน หลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพานที่เมืองกุสินาราแล้ว ได้มีการทำสังคายนาพระธรรมวินัย
จัดไว้เป็นหมวดหมู่จนกระทั่งสมัย 1. พระพุทธศาสนาในประเทศสหภาพพม่า หรือเมียนมาร์(MYANMAR พระพุทธศาสนาที่เผยแผ่เข้าสู่ประเทศสหภาพพม่าในระยะแรกคือพระพุทธศาสนาสัทธิเถรวาทหรือนิกายหินยานได้เข้าไปประดิษฐานที่เมืองสุธรรมบุรีหรือเมืองสะเทินซึ่งเป็นเมืองหลวงของมอญซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศส่วนพม่าตอนเหนือมีเมืองพุกามเป็นเมืองหลวง พระพุทธศาสนาในประเทศกัมพูชาประชาธิปไตย ก่อนที่พระพุทธศาสนาจะเผยแผ่เข้าสู่ประเทศกัมพูชาในช่วงที่อาณาจักรฟูนันและอาณาจักรเจนละเจริญรุ่งเรืองแต่เดิมประชาชนในอาณาจักรเหล่านี้นับถือนิกายไศวะ คือนับถือพระศิวะประพระอิศวรตามคติความเชื่อของศาสนาพราหมณ์
พระพุทธศาสนาในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว พระพุทธศาสนาได้เผยแผ่เข้าสู่ประเทศลาวสมัยอาณาจักรหนองแส ราวๆ พุทธศตวรรษที่ 7 ต่อมาในรัชสมัยของเจ้าฟ้างุ้ม(ประมาณ พ.ศ. 1890) ซึ่งเป็นราชโอรสของเจ้าผีฟ้า เจ้าฟ้างุ้มได้อภิเษกสมรสกับพระนางแก้วยอดฟ้า ผู้เป็นพระราชธิดาของพระเจ้าศรีจุลราช เมื่อสิ้นสุดรัชกาลของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชพระพุทธศาสนาในประเทศลาวไม่ค่อยเจริญรุ่งเรืองนักแต่ด้วยเหตุที่ประเทศลาวกับประเทศไทยมีอาณาเขตติดต่อกัน ทำให้ประเทศทั้ง 2 มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นต่อกัน ไทยได้ให้ความช่วยเหลือทางศาสนามาโดยตลอดและเมื่อลาวตกเป็นอาณานิคมของประเทศฝรั่งเศส ใน พ.ศ. 2436พระพุทธศาสนาก็เสื่อมโทรมลงเพราะขาดการทำนุบำรุงและเมื่อลาวได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสแล้ว คณะสงฆ์ไทยก็มีส่วนช่วยปรับปรุงการศึกษาด้านศาสนาในลาว แต่เมื่อลาวตกอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลคอมมิวนิสต์แล้ว การติดต่อให้ความช่วยเหลือทางศาสนาระหว่างประเทศก็หยุดชะงักลง แต่ถึงกระนั้นก็ตามชาวลาวส่วนใหญ่ก็ยังมีศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแนบแน่นและพยายามประคับประคองพระพุทธศาสนาให้ตั้งมั่นอยู่ในจนถึงปัจจุบัน พระพุทธศาสนาในประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศเวียดนามตั้งแต่สมัยใด ยังไม่ชัดเจนนักแต่จากหลักฐานจดหมายเหตุของจีนที่ปรากฎอยู่สรุปได้ว่า เวียดนามทางตอนใต้เป็นที่ตั้งของอาณาจักรจัมปา แต่เดิมนั้นประชาชนในดินแดนนี้นับถือศาสนาพราหมณ์ฮินดูและมีการนับถือพระพุทธศาสนาประมาณกว่า พ.ศ. 950 ต่อมาในรัชสมัยของพระเจ้าอินทรวรมันที่ 2 (พ.ศ. 1403-1433)พระองค์ทรงเสื่อมใสในพระพุทธศาสนามากทรงโปรดฯให้สร้างวัดทางพระพุทธศาสนาแห่งหนึ่งที่ดองเดือง ชื่อวัดมีโซนในพระพุทธศตวรรษที่ 8 พระภิกษุชาวอินเดียชื่อมหาชีวกะได้นำพระพุทธศาสนาเข้าไปเผยแผ่ยังเวียดนามและหลังจากนั้นก็ได้มีพระภิกษุหลายรูปได้เข้าไปมีบทบาทเกี่ยวกข้องกับพระพุทธศาสนาอย่างหลากหลาย เช่นการแปลคัมภีร์ประกาศคำสอน เป็นต้น แต่เรื่องทางศาสนาก็หยุดชะงักลง แต่คราวใดบ้านเมืองสงบสุขเพระพุทธศาสนาก็กลับมาเจริญรุ่งเรืองขึ้นอีก จนถึงรัชสมัยของพระเจ้าดินห์โมดินห์ พระองค์ได้ทรงรวบรวมประเทศชาติให้เป็นปึกแผ่นเดียวกันได้สำเร็จและพ้นจากอำนาจของจีนและพระองค์ได้เอาใจใส่ฟื้นฟูพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ทำให้พระพุทธศาสนามีความเจริญรุ่งเรืองและเป็นที่นับถือกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น ส่วนในสมัยราชวงศ์เล และราชวงศ์ลี พระพุทธศาสนามีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก เพราะพระมหากษัตริย ์ทรงเอาพระทัยใส่ทำนุบำรุงมาโดยตลอดเมื่อเวียดนามตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสใน พ.ศ. 2426พระพุทธศาสนาเริ่มเสื่อมและไม่ได้รับการทำนุบำรุงเท่าที่ควรพุทธศาสนานิกชนถูกกีดกันในการประกอบพิธีกรรมตามหลักศาสนาชาวพุทธจึงเริ่มมีการเคลื่อนไหวเพื่อฟื้นฟูพระพุทธศาสนาขึ้นแต ่ก็ได้รัการต่อต้านจากฝรั่งเศสที่เข้ามาครอบครองเวียดนาม ทั้งการยึดคัมภีร์และหนังสือทางพระพุทธศาสนาเอาไปเผาทำลายเสียเห็นจำนวนมากและเมื่อเวียดนามได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสแล้วก็ยังมีเหตุการณ์ทางการเมืองที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับศาสนา จนถึงกับมีการเดินขบวนประท้วงและเผาตัวเองของพระภิกษุ สามเณร และแม่ชี และเมื่อเวียดนามถูกรัฐบาลคอมมิวนิสต์เข้ามาปกครองพระพุทธศาสนาก็กลับเสื่อมโทรมลงอีกนับจากพุทธศตวรรษที่ 25 เป็นต้นมาพระพุทธศาสนาในประเทศเวียดนามทั้งนิกายมหายานและนิกายเถรวาทไม่ค่อยเจริญรุ่งเรืองมากนัก ตรงกันข้ามกลับเสื่อมโทรมลงตามลำดับมากทั้งนี้เป็นเพราะสภาพความวุ่วายภายในประเทศทั้งการเมืองและภาวะสงครามที่มีขึ้นอยู่ตลอดเวลา พระพุทธศาสนาในประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซีย
เมื่อตอนปลายพุทธศตวรรษที่ 20 ศาสนาพราหมณ์ฮินดูได้เข้ามาเจริญรุ่งเรืองยังดินแดนอินโดนีเซีย ต่อมาเมื่อศาสนาพราหมณ์ฮินดูเสื่อมลง ศาสนาอิสลามก็เข้ามาเจริญแทนที่ กษัตริย์พระองค์แรกของอินโดนีเซียที่นับถือศาสนาอิสลาม โดยมีเมืองมะลากาก็กลายเป็นศูนย์กลางศาสนาอิสลามและแพร่หลายเข้าสู่ชาวอินโดนีเซียในที่สุดส่วนชาวอินโดนีเซียที่นับถือพระพุทธศาสนานิกายมหายานก็ยังคงมีอยู่บ้างประปรายในเกาะชวาสุมาตรา และเกาะบาหลี
พระพุทธศาสนาเข้ามาเผยแผ่ยังประเทศมาเลเซียประมาณพุทธศตวรรษที่ 3 โดยเป็นแบบนิกายเถรวาทต่อมาบริเวณแหลมมลายูตกอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรศรีวิชัย พระพุทธศาสนานิกายมหายานจึงได้เผยแผ่เข้ามาสู่บริเวณนี้ เมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 12 พระพุทธศาสนาในมาเลเซียเสื่อมลงเนื่องจากมีการนับถือศาสนาอิสลามของราชวงศ์และประชาชนมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัชสมัยของพระเจ้าปรเมศวรแห่งอาณาจักรมะละกา พระองค์ได้ละทิ้งพระพุทธศาสนาหันไปนับถือศาสนาอิสลามและในสมัยสุลต่านมัลโมชาห์ พระองค์ศรัทธาในศาสนาอิสลามอย่างมาก รับสั่งให้ทำลายศาสนาสถาน พระพุทธรูป ตลอดถึงเทวรูปของศาสนาพุทธและศาสนาพราหมณ์ บังคับให้ประชาชนนับถือศาสนาอิสลาม ทำให้พระพุทธศาสนานิกายมหายานสิ้นสุดลงกลับกลายเป็นศาสนาอิสลามเข้ามาแทนที่ประเทศสิงคโปร์มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศมาเลเซีย แต่เดิมนั้นสิงคโปร์เป็นสหพันธ์เดียวกับมาเลเซีย การเผยแผ่พระพุทธศาสนาจึงมีลักษณะเป็นอย่างเดียวกัน และประชาชนส่วนใหญ่ของสิงคโปร์เป็นชาวจีน นับถือพุทธศาสนานิกายมหายานการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในสิงคโปร์มีการกระทำกันอย่างจริงจังมีการแปลตำราและคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาเป็นภาษาต่าง ๆ อีกด้วย |