อุปกรณ์ในการตัดต่อวิดีโอ มีอะไรบ้าง

Short Description: การทำวีดีโอมีขั้นตอนอย่างไร สามารถทำเองได้หรือไม่ และอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้มีอะไรบ้าง

Show

เชื่อว่าหลายคนคงจะเป็นเหมือนกัน คือเวลาที่เห็นวีดีโอสวย ๆ แล้วรู้สึกว่าอยากลองทำวีดีโอขึ้นมาเป็นของตัวเองบ้าง แต่ติดตรงที่ไม่รู้ว่าควรเริ่มจากตรงไหน การสร้างวีดีโอมีขั้นตอนอย่างไร และมีอุปกรณ์อะไรที่ต้องใช้บ้าง วันนี้เราจึงได้นำการสร้างวีดีโอมาบอกกันว่ามีขั้นตอนอย่างไรและมีอุปกรณ์อะไรที่ต้องใช้บ้าง

อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการถ่ายทำวีดีโอ

  • กล้องถ่ายวีดีโอ เป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในการถ่ายทำวีดีโอ โดยกล้องถ่ายวีดีโอนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายชนิด ได้แก่ กล้องวีดีโอ กล้อง DSLR กล้องแอคชันแคม โดรน โทรศัพท์มือถือ และอื่น ๆ
  • เลนส์ เป็นอุปกรณ์เสริมที่ใช้ในการถ่ายวีดีโอเพื่อให้ได้ภาพหลาย ๆ มุมมอง ใช้ถ่ายได้ทั้งภาพใกล้ ภาพไกล ภาพมุมแคบ และภาพมุมกว้าง
  • ขาตั้งกล้องวีดีโอ เป็นอุปกรณ์ถ่ายวีดีโอที่ขาดไม่ได้เลยก็ว่าได้ เพราะการถ่ายวีดีโอเป็นการถ่ายภาพเคลื่อนไหวที่ต้องมีการเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา ขาตั้งวีดีโอจึงช่วยเพิ่มความสมดุลในการถ่ายวีดีโอได้ดี ช่วยให้เคลื่อนไหวง่ายขึ้นและช่วยกันสั่นได้
  • ไมโครโฟน ใช้สำหรับขยายเสียงให้ดังและคมชัดมากขึ้น ช่วยเพิ่มคุณภาพเสียงและช่วยลดเสียงรบกวนได้
  • ไฟติดหัวกล้องหรือไฟแบบตั้งพื้น ใช้สำหรับเพิ่มแสงในพื้นที่ที่มีแสงน้อยหรือต้องการเพิ่มแสงเข้าไปที่วัตถุใดวัตถุหนึ่งให้เด่นชัด
  • แบตเตอรี่และเมมโมรี่ ควรเตรียมแบตเตอรี่และเมมโมรี่ไว้ให้เพียงพอสำหรับการถ่ายวีดีโอแต่ละครั้ง

ขั้นตอนการถ่ายทำวีดีโอมีอะไรบ้าง ควรเริ่มอย่างไร

  • คิดคอนเซปต์การถ่าย ก่อนถ่ายทำวีดีโอต้องมีคอนเซปต์ที่แน่ชัดก่อนว่าจะถ่ายวีดีโอออกมาในคอปเซปต์ไหนและถ่ายวีดีโอประเภทใด เช่น การถ่ายวีดีโอสอนแต่งหน้าคอนเซปต์สนุกสนานเฮฮา คอนเทนต์ที่ใช้ก็ต้องเป็นภาษาที่ไม่เป็นทางการหรือภาษาวัยรุ่น และบุคลิกจะต้องดูสนุกสนานเฮฮาเพื่อเรียกความสนใจ
  • เลือกสถานที่ เลือกสถานที่ถ่ายทำที่เหมาะสำหรับคอนเซปต์การถ่าย เช่น การถ่ายวีดีโอนอกสถานที่สำหรับวีดีโอท่องเที่ยว และการถ่ายวีดีโอในสถานที่สำหรับการถ่ายวีดีโอสอนแต่งหน้า ฯลฯ
  • เลือกอุปกรณ์ เมื่อเลือกสถานที่แล้วก็เลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสำหรับการถ่ายแต่ละประเภท เช่น การถ่ายวีดีโอท่องเที่ยวที่เกาะกูด อุปกรณ์ที่ควรใช้คือ กล้อง DSLR กล้องแอคชันแคม โดรน ฯลฯ
  • ตัดต่อ หลังได้ภาพมาแล้วก็มาถึงขั้นตอนการตัดต่อเพื่อเรียบเรียงเนื้อหาสำหรับการเล่าเรื่องให้เข้าใจง่าย       

การถ่ายทำวีดีโอนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด หากฝึกฝนก็สามารถทำได้ แต่หากเป็นการถ่ายวีดีโอสินค้าหรือวีดีโอในงานสำคัญต่าง ๆ จะนิยมจ้างบริษัทที่รับถ่ายวีดีโอกันมากกว่า เพราะมีอุปกรณ์ที่เพียบพร้อมและทันสมัย ทำให้ภาพออกมาสวยงาม แต่หากใครที่คิดว่าจะถ่ายจริง ๆ จัง ๆ ก็สามารถหาซื้ออุปกรณ์ถ่ายวีดีโอแบบมืออาชีพมาใช้กันได้ แต่จะมีราคาที่ค่อนข้างสูง.

บริการสื่อความรู้ออนไลน์ Vlearn นี้ เป็นบริการของบริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (“บริษัทฯ”) สำหรับผู้ใช้บริการซึ่งลงทะเบียนสำเร็จผ่านช่องทางที่บริษัทฯ กำหนด โดยมีข้อกำหนดและเงื่อนไขดังนี้

1. สื่อความรู้ออนไลน์ Vlearn ที่ผู้ใช้บริการสามารถรับชมได้นั้น เป็นลิขสิทธิ์ของบริษัทฯ และ/หรือ ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ตัวแทนของเจ้าของ หรือบุคคลใดตามที่กฎหมายกำหนด โดยบริษัทฯ ไม่อนุญาตให้มีการทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่ ไม่ว่ากรณีใดๆ

2. บริการนี้มีไว้สำหรับรับชมส่วนบุคคลเท่านั้น ไม่สามารถนำไปเผยแพร่ หรือเปิดเผยต่อสาธารณะได้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากบริษัทฯ เป็นลายลักษณ์อักษรหรือแบ่งปัน(Share) ตามช่องทางที่บริษัทฯ อนุญาต

3. ผู้ใช้บริการสามารถรับชมสื่อการเรียนออนไลน์ Vlearn ผ่านเว็บไซต์ https://www.vlearn.world/ ซึ่งสามารถลงทะเบียนและเข้าชมได้ทันทีสำหรับสื่อความรู้ฟรี และสามารถซื้อคอร์สต่างๆ เพิ่มเติมของบริการ VCourse

4. การสมัครสมาชิก

4.1 ผู้ใช้บริการประเภทบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล จำเป็นต้องสมัครสมาชิกผ่านช่องทางที่บริษัทฯกำหนด ด้วย Email address (Username) และ รหัสผ่าน (Password) พร้อมกับยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขบริการของบริษัทฯ

4.2 ผู้ใช้บริการจะต้องกรอกข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อยืนยันความเป็นผู้ใช้บริการและสามารถสมัครสมาชิกได้เพียง 1 Email address (Username) ต่อ 1 สมาชิกเท่านั้น

4.3 บริษัทฯ มีสิทธิยกเลิกหรือจำกัดความเป็นสมาชิกได้ หากปรากฏว่าผู้ใช้บริการผิดเงื่อนไขการใช้บริการหรือนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจทำให้บริษัทฯได้รับความเสียหายอย่างหนึ่งอย่างใด รวมถึงการกระทำอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย

4.4 ความเป็นสมาชิกจะมีผลอยู่ตลอดไปจนกว่าจะมีการบอกเลิกการเป็นสมาชิก หรือบริษัทยกเลิกการเป็นสมาชิกอันเนื่องจากสมาชิกปฏิบัติผิดข้อกำหนดหรือเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่ง หรือไม่ทำการแก้ไขภายในระยะเวลาที่บริษัทได้แจ้งให้ทราบ หรือกระทำผิดกฎหมายใด ๆ รวมถึงกรณีที่บริษัทยุติการให้บริการ

4.5 ผู้ใช้บริการจะต้องรักษาบัญชีผู้ใช้ (Username) และรหัสผ่าน (Password) ไว้เป็นความลับเฉพาะตน และจะไม่ยินยอมให้บุคคลใดนำบัญชีผู้ใช้ (Username) และรหัสผ่าน (Password) ไปใช้ ไม่ว่าจะโดยความประมาทเลินเล่อ หรือโดยเจตนา หรือโอนสิทธิ หรือโดยประการใด ๆ เป็นอันขาด อย่างไรก็ดี การที่ผู้ใช้บริการยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีผู้ใช้ (Username) และรหัสผ่าน (Password) ของผู้ใช้บริการนั้น ผู้ใช้บริการต้องรับผิดชอบในความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับบริษัทฯ และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องแต่เพียงผู้เดียว

5. บริษัทฯ เป็นเพียงเจ้าของลิขสิทธิ์ และ/หรือ ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ตัวแทนของเจ้าของ หรือบุคคลใดตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น มิได้เป็นผู้รับรองความถูกต้องของเนื้อหาแต่อย่างใด

6. บริษัทฯ มีสิทธิเปลี่ยนแปลงเนื้อหา ข้อกำหนดและเงื่อนไขของบริการ ตามความเหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้า

7. หากบริษัทฯ ตรวจสอบพบว่ามีการนำบริการไปใช้โดยไม่สุจริต ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือนำบริการไปใช้ในทางที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ แก่บริษัทฯ หรือ ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการใช้บริการ บริษัทฯมีสิทธิระงับการใช้บริการได้ทันที

8. การให้ความยินยอมและคำรับรองของผู้ใช้บริการ

ผู้ใช้บริการรับทราบว่ายินยอมให้ผู้ให้บริการ เก็บรวบรวม ประมวลผล ใช้ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อประโยชน์ในการให้บริการ หรือเพื่อปรับปรุงการให้บริการ และเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือเพื่อวัตถุประสงค์การวิจัยตลาดและการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย หรือเพื่อวิเคราะห์และนำเสนอบริการหรือผลิตภัณฑ์ใด ๆ ของผู้ให้บริการ และ/หรือบุคคลที่เป็นผู้จำหน่าย เป็นตัวแทน หรือมีความเกี่ยวข้องกับผู้ให้บริการ และ/หรือของพันธมิตรทางธุรกิจของผู้ให้บริการ และ/หรือ บริษัทในกลุ่มทรู หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่ไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบที่ใช้บังคับใช้กับผู้ให้บริการทั้งขณะนี้และในภายภาคหน้า โดยผู้ให้บริการสามารถส่ง โอน และ/หรือเปิดเผยข้อมูลข้างต้นให้แก่บริษัทในกลุ่มของผู้ให้บริการ พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ประมวลผลข้อมูล หรือหน่วยงาน/องค์กร/นิติบุคคลหรือบุคคลใดๆ ที่มีสัญญา ข้อตกลง หรือนิติสัมพันธ์ กับผู้ให้บริการหรือมีความสัมพันธ์ด้วยทั้งในประเทศและต่างประเทศ

9. ผู้ใช้บริการยินยอมให้บริษัทฯเชื่อมโยงข้อมูลที่ให้ไว้กับทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้นบนวีเลิร์นเข้ากับบัญชีผู้ใช้ (Username) ที่ลงทะเบียนไว้

10. ผู้ใช้บริการตกลงจะไม่กระทำการหรือร่วมกับบุคคลอื่นกระทำการใด ๆ ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมในการใช้ส่วนใดส่วนหนึ่งของบริการวีเลิร์นที่ผิดวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ หรือผิดกฎหมาย หรือขัดกับความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดี หรือก่อให้เกิดความเสียหายใด ๆ กับบุคคล และ/หรือผู้ใช้บริการรายอื่น

11. การใช้บริการ Vlearn ไม่ว่าด้วยอุปกรณ์ใด หรือเวลาใด ผู้ใช้บริการรับทราบและตกลงว่าจะปฏิบัติตามข้อกําหนดและเงื่อนไขการใช้ทุกประการ รวมทั้งเงื่อนไขอื่น ๆ ที่บริษัทฯจะได้กำหนดให้มีขึ้นเพิ่มเติมภายหลังตามที่บริษัทเห็นสมควร หรือเพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย

12. บริษัทฯ มีสิทธิเปลี่ยนแปลงบริการหรือระงับบริการได้ตามความเหมาะสม โดยไม่ต้องแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้า

13. ผู้ใช้บริการตกลงใช้นามจริงหรือนามแฝง ที่เหมาะสม สุภาพ โดยห้ามใช้คำหยาบ ดูถูก เสียดสี สร้างความแตกแยก ยั่วยุ ส่อไปในทางลามกอนาจาร ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน แสดงถึงการหมิ่นต่อพระบรมเดชานุภาพแห่งสถาบันพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ หรือแอบอ้าง อ้างอิง พาดพิงถึงบุคคลหนึ่งคนใด สมาชิกที่ปฏิบัติผิดเงื่อนไข จะต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นเองโดยตรงทั้งสิ้น และตกลงยินยอมชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัทฯ หากการฝ่าฝืนดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทฯ

14. บริษัทฯไม่ต้องรับผิดชอบและชดใช้ค่าเสียหายใด ๆ อันเกิดขึ้นหรือเกี่ยวเนื่องกับการใช้บริการวีเลิร์นแก่ผู้ใช้บริการหรือบุคคลอื่นใด ไม่ว่าในกรณีใด ๆ หากบริษัทฯไม่สามารถให้บริการบางส่วนหรือทั้งหมด อันเนื่องจากระบบหรืออุปกรณ์ใด ๆ ของผู้ใช้บริการชำรุดหรือขัดข้อง หรือระบบโทรศัพท์ หรือระบบสื่อสารโทรคมนาคมขัดข้องหรือเหตุใด ๆ ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัทฯ

15. พบปัญหาการเข้าชมสื่อความรู้ออนไลน์ Vlearn หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ 02-700-8044 หรือ 064-132-2929  (จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.00 – 17.00 น.)

Knowledge > Digital Skills

สอนตัดต่อวิดีโอ หลักการ Jump Cut และเทคนิคการตัดภาพให้วิดีโอสมูทขึ้น

3404 views | 02/06/2022

อุปกรณ์ในการตัดต่อวิดีโอ มีอะไรบ้าง

อุปกรณ์ในการตัดต่อวิดีโอ มีอะไรบ้าง

อุปกรณ์ในการตัดต่อวิดีโอ มีอะไรบ้าง

Copy link to clipboard

อุปกรณ์ในการตัดต่อวิดีโอ มีอะไรบ้าง

Apple W.

Content Creator

ไหนใครเคยมีปัญหาเมื่อจะตัดต่อวิดีโอแล้วไม่รู้ว่าจะตัดอะไรไว้ตรงไหนไหมคะ ? เช่น จะใส่ฟุตเทจที่ถ่ายมาไว้ตรงไหนดี จะเอาคลิปไหนไว้ก่อนหลัง และจะเชื่อมคลิปหนึ่งไปยังอีกคลิปหนึ่งอย่างไรให้มันสมูทและน่าดู ไม่โดดไปโดดมาให้คนดูเขางง ศาสตร์การตัดต่อนี้เขาเรียกว่า หลักการลำดับและตัดภาพนั่นเองค่ะ ไปดูกันว่าเราจะลำดับภาพ ตัดภาพในการตัดต่อครั้งต่อไปอย่างไรให้เทพมากขึ้น 


อุปกรณ์ในการตัดต่อวิดีโอ มีอะไรบ้าง


ว่ากันว่าการจะตัดต่อวิดีโอให้ดีได้ ไม่ใช่แค่รู้ว่าใช้โปรแกรมไหนก็จบ มีเหล่าครีเอเตอร์หลายคนที่ใช้โปรแกรมตัดต่อฮิต ๆ อย่าง Adobe Premiere Pro, Final Cut Pro หรือแม้แต่แอปตัดต่อในมือถืออย่าง KineMaster ได้คล่องแคล่ว แต่หลายคนก็ยังไม่สามารถคลอดวิดีโอดี ๆ ที่มีสไตล์ชัดเจน มีมุมกล้องเจ๋ง ๆ ออกมาได้ 



เพราะการตัดต่อวิดีโอที่ดีต้องมีสิ่งที่เรียกว่า ‘จังหวะ’ แห่งการตัดต่อใส่ลงไปด้วย จังหวะที่จะเชื่อมซีนหนึ่งไปยังอีกซีนหนึ่งให้ไม่สะดุด แต่สมูทจนคนดูต้องติดตามจนจบ แถมยังบิ้วอารมณ์คนดูให้คล้อยตามไปกับเรื่องที่เราอยากจะสื่อได้ ทั้งนี้อย่าลืมว่า การตัดต่อคือการเปลี่ยนภาพและเสียงจากหนึ่งช็อต (Shot) ไปยังช็อตต่อไปโดยให้มีความต่อเนื่องและเรียงลำดับเรื่องราว ไม่มีการกระโดดหรือซ้อนกัน และสามารถรักษาคุณภาพของภาพและเสียงให้กลมกลืนกันได้โดยตลอด  



ดังนั้นใครที่สามารถเข้าใจจังหวะแห่งการตัดต่อ ไปจนถึงเทคนิคการลำดับภาพได้ ก็ยิ่งจะเพิ่มความน่าสนใจให้กับวิดีโอให้เพิ่มมากขึ้น โดยหลักการลำดับภาพมี 2 ข้อสำคัญ ดังนี้


1. ความยาวของภาพหรือช็อต การเปลี่ยนภาพแต่ละครั้งจะทำให้ผู้ชมถูกกระตุ้นความรู้สึกขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แล้วความรู้สึกนั้นจะค่อย ๆ ลดลงจนกระทั่งมีการตัดภาพอีกครั้งหนึ่ง ถ้าความยาวของช็อตพอเหมาะกับอารมณ์ของผู้ชม ผู้ชมก็จะถูกกระตุ้นตามจังหวะ ถ้าช็อตยาวเกินไป ถ้าคนดูไม่ได้ชอบสไตล์นี้อยู่แล้วเขาก็อาจเบื่อได้ 


2. ความถี่ของการเปลี่ยนภาพ หรือถ้าจะเรียกง่าย ๆ ว่าการตัดภาพนั้น ตามธรรมดารายการที่มีความยาว 30 นาที จะมีความถี่ในการตัดภาพประมาณ 20 ครั้ง แต่ความถี่นี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามเนื้อเรื่องของเรื่องที่แสดง ถ้าเป็นเรื่องที่แสดงถึงการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว เช่น การวิ่ง การกระโดด อาจตัดภาพที่มีความถี่สูง ความจริงแล้วความยาวช็อต และความถี่ของการเปลี่ยนภาพนี้มีความสัมพันธ์กันอยู่แล้ว



7 เทคนิคการตัดต่อและการลำดับภาพ (Editing)


1. การตัดภาพแบบ Cut 



ตัวอย่างเทคนิค Cut จากเพลง Daydreaming ของ Radiohead


Cut หรือ Straight cut คือเทคนิคการตัดต่อที่เราจะเห็นมากที่สุด เป็นการนำคลิปวิดีโอสองคลิป หรือเหตุการณ์ การกระทำที่อยู่ในซีนเดียวกันมาต่อกัน ในลักษณะของการตัดไปตรง ๆ เพื่อแสดงถึงความต่อเนื่อง เทคนิค Cut ชน Cut นี้มักจะไม่ต้องการให้ผู้ชมตีความใด ๆ เป็นพิเศษ แค่ต้องการแสดงให้เห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปเท่านั้น ซึ่งการทำ YouTube หรือ Music video ส่วนใหญ่ก็มักจะใช้เทคนิคนี้  



2. การตัดแบบ Jump Cut 



ตัวอย่างเทคนิค Jump Cut ในหนังเรื่อง Little Shop of Horrors (1986)


การตัดแบบ Jump Cut ก็คือการตัดจากช็อตหนึ่งไปอีกช็อตหนึ่ง ซึ่งทั้งสองช็อตนั้นมักจะอยู่ในตำแหน่ง มุมกล้อง สถานที่เดียวกันหรือคล้ายกัน ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมาก ใช้เมื่อต้องการตัดสิ่งที่ยาวไป ไม่ต้องการออกไป หรือว่ามีช่วงที่ถ่ายวิดีโออยู่ดี ๆ ก็มีเหตุการณ์นอกสคริปต์เกิดขึ้น ซึ่งเราไม่อยากให้มันอยู่ในวิดีโอ แต่หากทำไม่เนียนก็จะทำให้คนดูรู้สึกว่าวิดีโอสะดุด กระตุก โดดไปโดดมา ไม่น่าเชื่อถือ ดังนั้นจึงไม่นิยมให้ Jump Cut บ่อย ๆ ถ้าไม่จำเป็น หรือวิดีโอยาวแค่ 10 นาทีแต่ Jump Cut คำต่อคำไปแล้ว 50 กว่าครั้ง เป็นต้น เทคนิค Jump Cut มักนิยมใช้ในวิดีโอสัมภาษณ์ รีวิว คลิปอธิบายยาว ๆ ยาก ๆ ฯลฯ  



3. การตัดสลับเหตุการณ์ Cross Cutting 


 

 ตัวอย่างการใช้เทคนิค Cross Cutting ในหนังเรื่อง Dunkirk 


เป็นเทคนิคการตัดต่อเมื่อเราต้องการนำเสนอเหตุการณ์ตั้งแต่ 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน แต่ต่างสถานที่กัน แต่ดำเนินอยู่ในเส้นเรื่องเดียวกัน เพื่อให้คนดูเข้าใจความแตกต่างหรือเปรียบเทียบให้เห็นชัดขึ้น โดยทั้งสองเหตุการณ์จะมีความหมายทั้งคู่ ไม่ใช่ภาพที่แทรกมาเพื่อเสริมความหมายให้กับภาพหลักเท่านั้น บางครั้งเทคนิค Cross Cutting ก็ทำเพื่อหลอกล่อให้ผู้ชมหลงทาง เดาไม่ถูก เพิ่มความสนุกหรือใช้สะท้อนความย้อนแย้งบางอย่าง มักจะเห็นเทคนิคนี้ในวิดีโอชาเลนจ์ต่าง ๆ เป็นต้น 



4. การตัดแบบ Coverage 



ตัวอย่างการใช้เทคนิค Coverage จากหนัง Stranger Things 


หมายถึงการนำเสนอภาพในฉากจากหลายมุมกล้องของตัวแสดงหลายครั้งเพื่อให้ยังคงความต่อเนื่องเอาไว้ได้ โดยเฉพาะวิดีโอที่ถูกถ่ายในสถานที่เดิม ไม่ได้ย้ายฉากไปไหน โดยเราจะเห็นเทคนิคนี้บ่อย ๆ ในวิดีโอประเภทสอนแต่งตัว การแกะกล่องสินค้า วิธีใช้สินค้าหรือว่ารูมทัวร์ที่จะมีวัตถุเดียวหรืออยู่ในซีนเดียวกัน แต่ต้องการให้คนดูเห็นหลาย ๆ มุม โดยจะต้องมีการถ่ายมุมดังต่อไปนี้        


  • ซูมเข้า : ภายจากมุมไกล ๆ แล้วจึงขยับเข้ามาใกล้วัตถุ 
  • ซูมออก : ภายจากมุมใกล้ แล้วจึงซูมออกให้เห็นภาพกว้าง
  • ถ่าย 3 มุม : ถ่ายวัตถุ คน แล้วก็คนกับวัตถุ 

  


5. การตัดแบบ Montage 



ตัวอย่างการใช้เทคนิค Montage ในโฆษณา Colin Kaepernick ของ Nike 


คือการตัดต่อแบบรวบรวมหลายเหตุการณ์ โดยที่แต่ละคลิปไม่จำเป็นต้องต่อเนื่อง หรือเป็นเหตุการณ์เดียวกันเลย เพื่อเล่าเรื่องผ่านธีมหลัก สรุปเรื่องราวโดยใช้เวลาเพียงสั้น ๆ การตัดต่อแบบนี้จะนิยมใช้เพื่อเล่าเรื่องโดยมีธีมเรื่องเป็นหลักอยู่แล้ว บ่อยครั้งก็มีการใช้เพลงเข้ามาประกอบ โดยเพลงนั้นจะมีความหมายหรือทำนองสอดคล้องกับเรื่องราวที่ต้องการสื่อออกไป เทคนิคนี้ใช้บ่อย ๆ ในการถ่าย Vlog, วิดีโอโฆษณาขายของ


  • เป็นการตัดต่อที่เน้นจังหวะของภาพ แต่ไม่เน้นความต่อเนื่องของภาพและการแสดง
  • รวมฉากเหตุการณ์ตัวละครที่อยู่ต่างเวลา ต่างสถานที่กัน ให้มาอยู่ในที่เดียวกัน
  • สร้างความหมายแฝงเร้น (Implicit) จากภาพที่นํามาต่อเรียงกัน และให้ความหมายใหม่ และภาพที่นํามาผสมสานกัน มีความแตกต่างกันทั้งด้านความหมาย มุมกล้อง และแสง



6. การตัดภาพ Match Cut 



ตัวอย่างเทคนิค Match Cut ในหนังเรื่อง Pirates of the Caribbean Curse Of The Black Pearl


Match Cut เป็นการเชื่อมช็อตสองช็อตเข้าด้วยกัน โดยคำนึงถึงความต่อเนื่องลื่นไหลเป็นหลัก ด้วยการตัดต่อวีดีโอจากภาพ ๆ หนึ่งไปเป็นอีกภาพหนึ่ง โดยทั้งสองภาพมักจะมีความคล้ายกันผ่านการจับคู่ ซึ่งเราจะใช้องค์ประกอบจากฉากก่อนหน้าในการตัดต่อวีดีโอเพื่อนำไปยังฉากต่อไปอย่างลื่นไหล เพื่อสร้างความรู้สึกของการเชื่อมต่อระหว่างสองเหตุการณ์ที่แตกต่างกัน โดยแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท


  • Action – Movement เน้นการเชื่อมของทิศทาง การเคลื่อนไหวเดียวกัน  
  • Composition – Graphics เน้นการเชื่อมต่อของสีและแสง ตัดทั้งรูปแบบและรูปร่าง
  • Sound ใช้เสียงเดียวกัน แต่ระดับเสียงแตกต่างกัน เช่น ขณะที่ใส่หูฟังก็จะเป็นเสียงออกจากหูฟัง แต่หากถอดหูฟังก็จะเป็นเสียงที่เปิดจากเครื่อง แต่เป็นเพลงเดียวกัน



7. การตัดแบบ Cutaway 



ตัวอย่างการใช้เทคนิค Cutaway จากหนังเรื่อง Eternal Sunshine of the Spotless Mind 


Cutaway คือการตัดภาพไปยังภาพอื่น ขณะที่ภาพเหตุการณ์นั้นยังดําเนินอยู่ แล้วจึงตัดย้อนกลับมาภาพหลักอีกครั้ง เทคนิคนี้อาจทำให้ขาดความต่อเนื่องไปบ้าง แต่หากแช่ภาพหลักนานเกินไปคนดูอาจหมดความสนใจได้ โดยเทคนิคนี้จะใช้เพื่อข้ามเวลาไปในฉากอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อเปรียบเทียบหรือสื่อความหมายเชิงสัญลักษณ์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมและเสริมความเข้าใจให้กับเหตุการณ์หลัก โดยภาพที่แทรกเข้ามาจะมีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์หลัก  






ที่มาข้อมูล

  • https://www.beartheschool.com/share-1/2019/5/22/the-art-of-editing-2-creative-transition-vdofilm-editing

    ความสําคัญของการตัดต่อวิดีโอ คืออะไร

    ช่วยแก้ไขส่วนบกพร่อง ในการถ่ายวิดีโอบางครั้งมีการระมัดระวังและพิจารณากันอย่างรอบคอบแล้วก็ตาม ยังมักจะพบข้อบกพร่องอยู่เสมอ การตัดต่อสามารถช่วยได้โดยการตัดภาพที่ไม่ต้องการออกไปหรือแทรกภาพที่ดีเข้าไปแทนที่ หรือต้องการแต่ภาพที่ไม่ต้องการเสียงที่มากับภาพนั้นก็สามารถเอาออกไปได้

    การตัดต่อวีดีโอสามารถนำไปใช้ประโยชน์ด้านใดบ้าง

    ทำวีดีโอช่วยบันทึกภาพความทรงจำ ... .
    ช่วยแนะนำองค์กรต่อผู้อื่นได้ดี ... .
    ช่วยนำเสนอวิทยานิพนธ์ งานวิจัย รายงานต่าง ๆ ... .
    เผยแพร่ความสำคัญของบุคคลตามโอกาสพิเศษ ... .
    เป็นสื่อการเรียนการสอนผ่านการทำวีดีโอ.

    โปรแกรม ตัด ต่อ วิดีโอ คืออะไร

    เครื่องมือหลักในการทำงานวิดีโอคือโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ มีหน้าที่รวบรวมไฟล์มีเดีย, วางองค์ประกอบภาพ เสียง ข้อความ,ใส่เอฟเฟ็กต์ตกแต่งให้น่าสนใจ,และการเผยแพร่ออกไปเป็นไฟล์รูปแบบต่างๆตามความ

    ใช้แอพอะไรตัดต่อวีดีโอ

    10 แอปพลิเคชันตัดต่อวิดีโอ ทำคลิป ทำคลิปสั้น บนมือถือ ฟรี !.
    1. แอป FilmoraGo..
    2. แอป VivaVideo..
    3. แอป Quik Video Editor..
    4. แอป KineMaster..
    5. แอป Funimate..
    6. แอป Magisto..
    7. แอป WeVideo..
    8. แอป AndroVid..