แนวโน้มการประยุกต์ใช้ไอทีในปัจจุบันมีอะไรบ้าง

แนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาในอนาคต

                   เทคโนโลยีในปัจจุบันมีวิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว  ทำให้มีวัสดุ อุปกรณ์ และเทคนิควิธีการใหม่ๆ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์อย่างไม่มีขีดจำกัดในทุกวงการ  เช่นเดียวกับวงการศึกษาที่นำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอนและการบริหารจัดการ รวมถึงใช้ในการกำหนดแนวโน้มของการใช้เทคโนโลยีเพื่อความเปลี่ยนแปลงในอนาคตว่า ควรมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างเพื่อให้มีการใช้เทคโนโลยีอย่างได้ผล  นักเทคโนโลยีการศึกษาจึงควรทราบถึงพัฒนาการของเทคโนโลยีและแนวโน้มในอนาคตในการเรียนการสอน   ดังนี้

–                   พัฒนาการของเทคโนโลยีและการเรียนการสอน

–                   การบรรจบกันของเทคโนโลยีและสื่อการสอน

–                   ศักยภาพของการสื่อสารในสถาบันการศึกษา

–                   พัฒนาการของอีเลิร์นนิ่ง :  Learning Object

–                   Grid Computing

–                   ความเป็นจริงเสมือนและสภาพแวดล้อมเชิงเสมือน

–                   การรู้จำคำพูดและการสื่อสาร

–                   บทสรุป : วงการศึกษาและความเปลี่ยนแปลงในอนาคต

–                   คอมพิวเตอร์ : อุปกรณ์หลักในการเรียนการสอน

–                   ไอซีทีและการบูรณาการการเรียนการสอน

–                   การเรียนในสภาพแวดล้อมการเรียนรู้เชิงเสมือน

–                   การเปลี่ยนบทบาทของผู้สอนและผู้เรียน

–                   สถานศึกษาอิเล็กทรอนิกส์

        ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีสารสนเทศจะเข้ามีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนมากรวมถึงองค์กรต่างๆ การเปลี่ยนแปลงเช่นนี่ย่อมมาจากปัจจัยต่างๆนั้นคือ

  1. กระแสโลกาภิวัฒน์
  2. การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี
  3. เศรษฐกิจระหว่างประเทศที่มีการค้าอย่างเสรี

และปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตเราไปแล้ว เพราะมันช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ และมีแนวโน้มการใช้ในอนาคตจะยิ่งเพิ่มขึ้น มีรูปแบบหลากหลายมากขึ้น โดยเทคโนโลยีสารสนเทศมีองค์ประกอบสำคัญๆ 2 อย่าง คือ

  1. เทคโนโลยีเพื่อการประมวลผล
  2. เทคโนโลยีเพื่อเพื่อการเผยแพร่

 เทคโนโลยีเพื่อการประมวลผล

คือ ระบบคอมพิวเตอร์ จำพวกคอมพิวเตอร์, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคต่างๆ, โปรแกรมต่างๆ ซึ่งมีองค์ประกอบ 2 อย่าง คือ

  1. ฮาร์ดแวร์

1.1  แท็บเล็ต ( tablet ) ได้รับความนิยมตั้งแต่ปี 2554 และเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะ iPad ของ Apple และ Kindle ของ Amazon

1.2  สมาร์ทโฟน ( smartphone )  ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและให้มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับคอมพิวเตอร์มากที่สุด ( แม้มันจะห่างกันมากก็เถอะ -_- )  โดยที่ได้รับความนิยมมาก เช่น      iPhone,  Sumsung Galaxy Tab, Nokia  เป็นต้น

  1. ซอฟต์แวร์

2.1 SaaS : Software as a  Service  เป็นซอฟร์แวร์เพื่อองค์กรธุรกิจ ซึ่งมีลักษณะการใช้ซอฟร์แวร์เหมือนการรับบริการ     กล่าวคือ   เป็นการใช้งานซอฟร์แวร์ที่สามารถใช้งานได้ตามต้องการผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตด้วยโปรแกรมเว็บบราวเซอร์ โดยไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และซอฟร์แวร์มาติดตั้งก่อน  แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือนหรือรายปี เป็นทางเลือกหนึ่งที่ประหยัดต้นทุนในการใช้งานซอฟร์แวร์ธุรกิจ

2.2 mobile application เป็นซอฟร์แวร์เพื่อผู้บริโภค มีการใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือจำพวกสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต

2.3 cloud computing มีลักษณะรูปการใช้เหมือน SaaS แต่สามรถใช้ได้กับองค์กร และบุคคล

เทคโนโลยีเพื่อการเผยแพร่

       คือ ระบบสื่อสารโทรคมนาคม ในอนาคตจะนำระบบนี้มาผสมผสานเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์กลายเป็นเทคโนโลยีคอนเวอร์เจนซ์ ( Convergence )   ปัจจุบันรูปแบบที่นิยมใช้กัน    คือ

  1. เครือข่ายสังคมออนไลน์ (  Social Network Online )
  2. ธุรกิจออนไลน์แบบโซเซียลคอมเมิร์ส ( Social Commerce )

แนวโน้มเทคโนโลยีสารสนเทศด้านอื่นๆ

  1. ด้านข้อมูล ต้องสามารถจัดการข้อมูลต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความหยืดหยุ่นในการใช้งานและทำงานกับข้อมูลขนาดใหญ่ได้
  2. การวิเคราะห์ธุรกิจ เครื่องมืออัจฉริยะสามารถกรั่นกรองวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำไปใช้ในการตัดสินใจได้ของคนในการทำกิจกรรมต่างๆได้
  3. กรีนไอที เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
  4. มาตรฐานไอทีและการรักษาความปลอดภัย ระบบรักษาความปลอดภัยจะมีความฉลาด เก่ง มากขึ้นและทำงานที่ซับซ้อนมากขึ้นเพื่อป้องกันกับภัยคุกคามต่างๆที่สามารถพัฒนาได้เองตลอดเวลา
  5. สมาร์ทซิตี้ เมืองจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านเทคโนโลยีสารเทศต่างๆ

เทคโนโลยีสารสนเทศกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

   ด้านสังคม

  1. ระดับบุคคล ประกอบ 3 สิ่ง คือ – การเป็นผู้รับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

– การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์

– การตัดสินใจที่วางใจได้

1.1 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีจริยธรรม และถูกต้องตามกฎหมายที่ได้กำหนด

1.2 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างสร้างสรรค์ และเป็นมิตรที่ดีกับคนอื่น

1.3 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อก่อให้เกิดความรักสามัคคีในหมู่คณะ

1.4 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสร้างกิจกรรมทางสังคมที่เป็นประโยชน์

1.5 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รักษาสิ่งแวดล้อม และคำนึงถึงการประหยัดพลังงาน

  1. ระดับองค์กร ดำเนินธุรกิจคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมในชุมชนและสังคม อย่างมีจริยธรรม การดูแลที่ดี ตอบสนองประเด็นทางสังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งผลประโยชน์ให้แก่คน ชุมชน สังคมเพื่อควาสำเร็จขององค์กรอย่างยั่งยืน

 ด้านสิ่งแวดล้อม

  1. เทคโนโลยีกรีนไอที เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

เป้าหมาย คือ

1.1  สร้างผลิตภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้

1.2  ลดมลพิษและขยะ

1.3  การผลิตเชื้อเพลิงทดแทน

1.4  การใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะมแก่สภาพแวดล้อม ภูมิศาสตร์

1.5  การผลิตพลังงานทางเลือกใหม่

1.6   สร้างผลิตภัณฑ์ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด

ตัวอย่าง เช่น กรีนคอมพิวเตอร์ ทีสามารถลดการสิ้นเปลืองพลังงานน้อยที่สุด

กรีนดาต้าเซ็นเซอร์ ที่สามารถจัดการ สั่งการอุปกรณ์ เครื่องจักรต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพและผล ให้กระทบสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด   เป็นต้น

แนวโน้มใน ด้านบวก

-การพัฒนาเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมโยงกันทั่วโลก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ช่องทางการดำเนินธุรกิจ เช่น การทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ดูหนัง ฟังเพลงและเกมส์ออนไลน์

-การพัฒนาให้คอมพิวเตอร์สามารถฟังและตอบเป็นภาษา พูดได้ อ่านตัวอักษรหรือลายมือเขียนได้ การแสดงผลของคอมพิวเตอร์ได้เสมือนจริง เป็นแบบสามมิติ และการรับรู้ด้วยประสาทสัมผัส เสมือนว่าได้อยู่ในที่นั้นจริง

-การพัฒนาระบบสารสนเทศ ฐานข้อมูล ฐานความรู้ เพื่อพัฒนาระบบผู้เชี่ยวชาญและการจัดการความรู้

-การศึกษาตามอัธยาศัยด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-learning) การค้นคว้าหาความรู้ได้ตลอด 24 ชั่วโมงจากห้องสมุดเสมือน (virtual library)

-การพัฒนาเครือข่ายโทร คมนาคม ระบบการสื่อสารผ่านเครือข่ายไร้สาย เครือข่ายดาวเทียม ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ ทำให้สามารถค้นหาตำแหน่งได้อย่างแม่นยำ

-การบริหารจัดการภาครัฐสมัยใหม่ โดยการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและเครือข่ายการสื่อสารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการ ดำเนินการของภาครัฐที่เรียกว่า รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-government)

แนวโน้มใน ด้านลบ

-ความผิดพลาดในการทำงานของระบบ คอมพิวเตอร์ ทั้งส่วนฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ที่เกิดขึ้นจากการออกแบบและพัฒนา ทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบและสูญเสียค่าใช้จ่ายในการแก้ปัญหา

-การละเมิดลิขสิทธิ์ของทรัพย์สินทางปัญญา การทำสำเนาและลอกเลียนแบบ

-การก่ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ การโจรกรรมข้อมูล การล่วงละเมิด การก่อกวนระบบคอมพิวเตอร์

เทคโนโลยีสารสนเทศที่สำคัญในอนาคต มีดังนี้

  1. คอมพิวเตอร์ ได้มีการพัฒนาหน่วยความจำให้มีประสิทธิภาพสุงขึ้น แต่มีราคาถูกลง ซึ่งช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำงานของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในปัจจุบันตลอดจนการนำชุดคอมพิวเตอร์ชนิดลดคำสั่งมาใช้ในการออกแบบหน่วยประเมินผล ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้เร็วขึ้นโดยใช้คำสั่งพื้นฐานง่ายๆ
  2. ปัญญาประดิษฐ์ เป็นการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ให้มีความสามารถในการตอบสนองกับความต้องการของมนุษย์ได้ ให้มีพฤติกรรมเลียนแบบมนุษย์ มีความเข้าใจภาษามนุษย์ รับรู้ภาษามนุษย์ได้ เช่น หุ่นยนต์ เป็นต้น
  3. ระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหาร เป็นการพัฒนาระบบสารสนเทศที่สนับสนุนผู้บริหารในงานระดับวางแผนนโยบายและกลยุทธ์ขององค์กร
  4. การจดจำเสียงเป็นการพัฒนาเพื่อให้ผู้ใช้มามารถออกคำสั่งและตอบโต้กับคอมพิวเตอร์แทนการกดแป้นพิมพ์
  5. การแลกเปลี่ยนข้อมูลอิล็กทรอนิกส์ เป็นการส่งข้อมูลจากระบบคอมพิวเตอร์หนึ่งไปสู่ระบบคอมพิวเตอร์อื่นโดยผ่านระบบสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ เช่น การทำธุรกิจ ค้าขาย ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง
  6. เส้นใยแก้วนำแสง เป็นตัวกลางที่สามารถส่งข้อมุลข่าสารได้อย่างรวดเร็ว โดยอาศัยการส่งสัญญาณแสงผ่านเส้นใยแก้วนำแสงที่มัดรวมกัน เกิดแนวคิด ทางด่วนข้อมูล ที่เชื่อมโยงระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน
  7. อินเทอร์เน็ต เป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงกันทั่วโลกได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยสมาชิกสามารถติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้
  8. ระบบเครือข่าย เป็นระบบสื่อสารเครือข่ายที่ใช้ในระยะทางที่กำหนด ส่วนใหญ่จะอยุ่ในอาคารหรือในหน่วยงาน
  9. การประชุมทางไกล เป็นการผสมผสานกันระหว่าง คอมพิวเตอร์ เครื่องถ่ายโทรทัศน์ และ ระบบสื่อสารโทรคมนาคม ผู้ประชุมไม่จำเป็นอยู่ในห้องประชุม ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางและผู้ที่อยู่ห่างไกลกันมาก
  10. โทรทัศน์ตามสายและผ่านดาวเทียม เป็นการส่งสัญญาณโทรทัศน์ผ่านสื่อต่างๆไปยังผู้ชม ข้อมูลแพร่ไปได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง
  11. เทคโนโลยีมัลติมิเดีย เป็นการนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มาประยุกต์ใช้กับคอมพิวเตอรืในการเก็บข้อมูล เช่น รูปภาพ ข้อความ เสียง โดยสามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่
  12. การใช้คอมพิวเตอร์ในการฝึกอบรม เป็นการนำคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการฝึกอบรมในด้านต่างๆ หรือที่เรียกว่า คอมพิวเตอร์ช่วยสอน เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการเรียนรู้
  13. การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการออกแบบ ช่วยในการออกแบบผลิตภัณฑ์ รูปแบบหีบห่อ รวมทั้งด้านการออกแบบวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมให้เหมาะกับความต้องการ
  14. การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการผลิต ช่วยในการผลิตสินค้าในโรงงงานอุตสาหกรรม สามารถตรวจสอบรายละเอียดและข้อผิดพลาดของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ได้มาตรฐาน
  15. ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ เป็นการนำเอาระบบคอมพิวเตอร์ทางด้าน รูปภาพและข้อมูลทางภูมิศาสตร์ มาจัดทำแผนที่ในบริเวณที่สนใจ เป็นประโยชน์ในการดำเนินกิจการต่างๆ เช่น การวางแผนยุทธศาสตร์ การขนส่ง สำรวจและป้องกันภัยธรรมชาติ การช่วยเหลือและกู้ภัย เป็นต้น

สรุป

จากที่กล่าว ในสังคมสารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก คนในสังคมมีการปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง คนทุกระดับอายุ เกือบทุกอาชีพ มีความต้องการสารสนเทศอยู่ตลอดเวลาใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อให้สามารถนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาเป็นเครื่องมือช่วยอำนวยความสะดวกในการ ดำเนินชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาหาความรู้ การประกอบธุรกิจ การบริหารจัดการ การพักผ่อนและบันเทิง รวมทั้งการสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับชีวิตของตนเอง