เทคโนโลยีในอนาคต 5 ปีข้างหน้า

อนาคตของเราจะเป็นอย่างไร ทั้งคนและเมืองในยุคดิจิทัล

     แม้อนาคตจะเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยาก ถึงกระนั้นมนุษย์เราก็ชอบที่จะทำนายหรือคาดการณ์สิ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะ 5 ปี หรือ 10 ปี ข้างหน้า เพื่อเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วของโลกยุคปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อให้เราขยับตัวได้ทัน เพื่อให้เรายอมรับสิ่งใหม่ เพื่อให้เราไม่ตกขบวนท่ามกลางระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม

ประชากรโลก

     การเปลี่ยนแปลงด้านประชากรเป็นสิ่งที่สะท้อนว่าโลกของเราจะไปในทิศทางไหน โดยสหประชาชาติ หรือ UN คาดการณ์ว่าจำนวนประชากรโลกจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 9.7 พันล้านคนภายในปี 2050 และอาจเพิ่มสูงเกือบ 1.1 หมื่นล้านคนในช่วงปี 2100 

     ปัจจัยที่ทำให้สัดส่วนประชากรโลกขยายตัว คือจำนวนประชากรที่อายุยืนยาวมีมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศพัฒนาแล้วอย่างญี่ปุ่นและประเทศในเครือสหภาพยุโรป ซึ่งต่างประสบภาวะอัตราการเกิดต่ำกว่าเกณฑ์

     โดย 60 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโลกอาศัยอยู่ในเอเชีย 16 เปอร์เซ็นต์ในแอฟริกา 10 เปอร์เซ็นต์ในยุโรป 9 เปอร์เซ็นต์ในลาตินอเมริกาและแคริบเบียน และ 5 เปอร์เซ็นต์ในอเมริกาเหนือและโอเชียเนีย ซึ่งจีนและอินเดียเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยรวมกันแล้วคิดเป็น 40 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโลก

เทคโนโลยีในอนาคต 5 ปีข้างหน้า

     เดอะ วอชิงตัน โพสต์ (The Washington Post) วิเคราะห์ว่าประชากรโลกค่อยๆ มีอัตราการเพิ่มขึ้นช้าลงจาก 1.24 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี เหลือเพียง 1.18 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี ขณะที่ทวีปแอฟริกาจะมีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กล่าวคือเพิ่มขึ้นถึง 25 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2050 และ 49 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2100 ส่วนยุโรปมีคนสูงวัยมากขึ้น โดย 1 ใน 4 เป็นคนอายุ 60 ปีขึ้นไป และจะขยับเป็น 1 ใน 3 ภายในปี 2100

     ขณะที่อินเดียจะแซงหน้าจีนขึ้นแท่นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก โดยอินเดียจะมีประชากรราว 1.5 พันล้านคนในปี 2030 และ 1.7 พันล้านคนในปี 2050 ส่วนหนึ่งที่ทำให้จีนอาจมีประชากรลดลงมาจากนโยบายลูกคนเดียว

     ที่น่าสนใจคือความเป็นพลเมืองโลกเป็นเทรนด์ชัดขึ้นเรื่อยๆ การย้ายถิ่นฐานเป็นทั้งโอกาสและความหวัง โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและยุโรปกำลังต้องการแรงงานคนหนุ่มสาวเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ 

‘เมือง’ ก่อนและหลังโควิด-19

     โควิด-19 ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไป ทั้งวิถีชีวิต เศรษฐกิจ สังคม และอาจรวมถึงความเป็นเมือง (Urbanization) ที่ต้องกลับมาคิดใหม่ว่าการเกิดโรคระบาดทำให้การขยายตัวของเมืองจะยังเป็นแบบเดิมอยู่หรือไม่

     UN ระบุว่าในปี 1975 มีเพียง 4 เมืองในโลกเท่านั้นที่จัดว่าเป็นมหานคร (Megacity) และปี 2000 เพิ่มขึ้นเป็น 18 เมือง ขณะที่ปี 2015 เพิ่มขึ้นเป็น 22 เมืองและมีแนวโน้มจะมีมากขึ้นในอนาคต

เทคโนโลยีในอนาคต 5 ปีข้างหน้า

     ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน แพลตฟอร์มออนไลน์และโซเชียลมีเดียทำให้ความเป็นเมืองไปสู่ทุกหนทุกแห่ง คนที่อยู่ในเมืองกับคนที่อยู่ชานเมืองต่างรับรู้สิ่งเดียวกัน มีวิถีชีวิตที่คล้ายกัน และโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรพอๆ กัน

     สอดคล้องกับประชากรที่ย้ายมาอาศัยแถบชานเมืองเพิ่มมากขึ้น ทำให้โครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะขยายตัวตามเพื่อรองรับการดำเนินชีวิต พร้อมกับการเกิดขึ้นของแนวคิดเมืองอัดแน่น (Compact City) และแนวคิดเมืองอัจฉริยะ (Smart City) 

     วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ เขียนไว้ในเว็บไซต์ the101 ระบุว่า เมืองหลังโรคระบาดจะเปลี่ยนไป โดยเมืองใหญ่ๆ ที่มีคนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นอาจไม่ใช่คำตอบของคนในการมองหาความมั่นคงในชีวิตอีกต่อไป และเมืองเล็กๆ อาจปลอดภัยกว่า

     นอกจากนั้นจะเกิดการกระจายอำนาจและความเจริญไปทั่วประเทศ เพื่อให้แต่ละเมืองอยู่รอดได้ด้วยเศรษฐกิจมั่นคงเลี้ยงตัวเอง ไม่ต้องพึ่งพาส่วนกลาง ส่วนคนที่หางานทำในเมืองอาจคิดแล้วว่า อนาคตของตัวเองคือกลับไปสร้างงานที่บ้านเกิด ซึ่งอาจจะมั่นคงและปลอดภัยกว่าในเมืองใหญ่

เทคโนโลยีที่กำลังมา

     เคลาส์ ชวาบ (Klaus Schwab) ผู้ก่อตั้งและประธานสภาเศรษฐกิจโลก World Economic Forum บอกว่า โลกในยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 (The Fourth Industrial Revolution) ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง (Internet of Things) และอื่นๆ ซึ่งมีส่วนอย่างมากในการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเรา

     แนวโน้มของการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะมีมากขึ้น และมีบทบาทมากโดยเฉพาะในภาคการผลิต ทำให้สามารถผลิตสินค้าได้มีคุณภาพมากขึ้น รวดเร็วขึ้น และต้นทุนต่ำลงได้อีก 

     อนาคตอันใกล้ในปี 2025 จะเป็นยุคใหม่ของคอมพิวเตอร์ นั่นคือ Quantum Computing ที่จะมีความแพร่หลายมากขึ้นกว่าการอยู่แค่ในวงการวิทยาศาสตร์ ด้วยประสิทธิภาพของมันจะทำให้อุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น วงการยา ยานยนต์ และวัสดุ เกิดนวัตกรรมด้วยข้อดีคือช่วยลดต้นทุนและกระบวนการในงานวิจัย

     ในด้านการสื่อสารและโทรคมนาคม การมาถึงของ 5G จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในเชิงของวิถีชีวิตและขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ผลักดันให้เกิดภาพของ Internet of Things ชัดเจนขึ้น การสื่อสารกันระหว่างอุปกรณ์ การสั่งงานผ่านเสียง และการควบคุมจากทางไกล

เทคโนโลยีในอนาคต 5 ปีข้างหน้า

     ขณะที่หุ่นยนต์เริ่มเข้ามามีบทบาทในธุรกิจค้าปลีกอย่างมาก เราจะเห็นร้านค้าปลีกดังๆ เช่น วอลมาร์ต (Walmart) ของสหรัฐฯ ที่ใช้หุ่นยนต์ในการจัดสต็อกสินค้า หรืออาลีบาบา (Alibaba) ก็ใช้หุ่นยนต์ในการส่งขนสินค้า เป็นต้น ซึ่งแนวโน้มการใช้หุ่นยนต์ในธุรกิจค้าปลีกจะมีมากขึ้นตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ

     รถยนต์ไร้คนขับที่เริ่มเห็นมากขึ้นจากแบรนด์ดังอย่างเทสล่า (Tesla) และยังมีข่าวว่าแอปเปิล (Apple) ก็เตรียมทำรถยนต์เช่นกัน หรือในเมืองจีนก็เริ่มมีการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับแล้ว ซึ่งเป็นอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์เลยก็ว่าได้

     ส่วนใครที่เป็นสายแก็ดเจ็ตอาจถึงเวลาของ Wearable Screen โดยเราไม่จำเป็นต้องพกโทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ตอีกต่อไป อาจจะมีแค่อุปกรณ์ขนาดจิ๋วที่ติดอยู่กับร่างกายหรือพกติดตัว แล้วสามารถใช้งานผ่านการแสดงผลบนร่างกาย ถนน กำแพงบ้าน หรือลอยขึ้นกลางอากาศเหมือนหนังไซ-ไฟสักเรื่องที่เราดู

     วงการอาหาร นอกจากเทรนด์การกินเนื้อสัตว์ที่ทำจากพืช (Plant-based Meat) ที่ก้าวหน้ามากขึ้น มีเท็กซ์เจอร์และรสสัมผัสใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์จริงๆ แล้ว หนึ่งในเทคโนโลยีที่กำลังมา คือการพิมพ์อาหารสามมิติ (3D Food Printing) ที่ในอดีตอาจจะดูไกลตัว แต่ปัจจุบันเราจะมีเครื่องพิมพ์อาหารสามมิติติดบ้านเหมือนกับที่เรามีหม้อทอดไร้น้ำมันนั่นแหละ

     ปิดท้ายที่การเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งเทรนด์การท่องเที่ยวอวกาศ (Space Tourism) น่าจะได้รับความนิยมในอนาคต เพราะน่าจะเติมเต็มความฝันของคนที่อยากไปท่องอวกาศจริงๆ สักครั้ง

ในอนาคตจะมีเทคโนโลยีอะไรบ้าง

Technology แห่งโลกอนาคต ที่จะมาเปลี่ยนแปลงโลกของเราให้ดีขึ้น.
1. เครือข่ายมือถือ 5G/6G (Mobile Network 5G/6G) ... .
2. การคำนวณและวิศวกรรมควอนตัม (Quantum Computing & Engineering).
3. เอไอแห่งอนาคต (Future AI) ... .
4. การเดินทางแบบไร้รอยต่อ (Mobility-as-a-Service, Maas) ... .
5. เซลล์แสงอาทิตย์เพอรอฟสไกต์ (Perovskite Solar Cell).

เทคโนโลยีอีก 10 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร

7 เทรนด์เทคโนโลยีในอนาคต 10 ปี ข้างหน้าที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ได้แก่ AI และระบบ Automation, เทคโนโลยี R (Reality Technology), เทคโนโลยี Blockchain, เทคโนโลยี Brain-machine, เทคโนโลยีโครงข่ายอินเทอร์เน็ตดาวเทียมและอินเทอร์เน็ต 6G ความเร็วสูง, เทคโนโลยี IoT สรรพสิ่งมีชีวิต และเทคโนโลยี Edge computing & ​Cloud ...

เทคโนโลยีมีอะไรบ้าง20

20 เทรนด์เทคโนโลยีแห่งปี 2020.
1 Green Gets Mean นวัตกรรมรักษ์โลกก้าวหน้าไปไกลมาก ... .
2 The internet of boies อินเทอร์เน็ตบนร่างกาย ... .
3 การผสมผสานเทคโนโลยี ... .
4 สร้างเครือข่ายของตัวเอง ... .
5 ข้อมูลสกปรก คือ Fake News แบบใหม่ ... .
6 ของฟรีไม่มีในโลก ... .
7 eSim. ... .
8 รถยนต์พลังงานไฟฟ้า.

เทคโนโลยีสมัยใหม่มีอะไรบ้าง2022

มาดูกันว่าเทรนด์ของเทคโนโลยีเครือข่ายที่น่าสนใจในปี 2022 มีอะไรบ้าง?.
1.5G and WiFi6 Technology. ... .
2.Artificial Intelligence (AI) และ Machine Learning (ML) ... .
3.Augmented Reality และ Virtual Reality. ... .
4.Cloud Computing. ... .
5.DevOps. ... .
6.Digital transformation. ... .
7.Intent-based Networking (IBN) ... .
8.Internet of Things (IoT).