วิธีแก้โทรศัพท์ดับเอง ทั้งที่แบตเตอรี่ก็ยังไม่หมด เกิดจากอะไร แก้ปัญหาได้อย่างไรบ้าง ใครมีมือถือจอดับ โทรศัพท์ดับเอง เปิดไม่ติด ลองมาดูวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นกัน คงมีคนจำนวนไม่น้อยที่ใช้โทรศัพท์มือถือตามปกติ แต่อยู่ดี ๆ เครื่องก็ดับหรือรีสตาร์ตเองทั้ง ๆ ที่แบตเตอรี่ก็ยังไม่ได้หมดหรือใกล้หมดเสียด้วยซ้ำ เมื่อเปิดเครื่องใหม่ใช้ได้สักพักก็อาจดับอีก หรือถ้าโชคร้ายหน่อยก็อาจเปิดไม่ติดอีกเลย วันนี้เราก็เลยจะมาแนะนำวิธีแก้ปัญหาแบบเบื้องต้นกัน ใครที่กำลังประสบปัญหาดังกล่าวก็ลองนำไปใช้กันได้ 1. ลองรีสตาร์ตเครื่องดู ขั้นแรกถ้าหากพบปัญหามือถือดับเองหรือรีสตาร์ตเรื่อย ๆ ก็ให้ลองจัดการรีสตาร์ตเครื่องด้วยตัวเองหรือปิดเครื่องแล้วเปิดใหม่สักรอบ หรือถ้าหากเครื่องค้างก็ให้ใช้วิธี Hard Reset ด้วยการกดปุ่ม Power กับปุ่มเพิ่มหรือลดเสียงค้างไว้ (แล้วแต่รุ่นมือถือ) ซึ่งในบางกรณีการทำแค่นี้ก็อาจช่วยแก้ปัญหาให้มือถือสามารถกลับมาใช้เป็นปกติก็ได้ 2. เสียบที่ชาร์จแบตเตอรี่ บางครั้งปัญหามือถือดับเองก็อาจเกิดจากปัญหาภายในตัวเครื่องหรือแบตเตอรี่ก็เป็นได้ และถ้าหากเป็นเช่นนั้น การลองชาร์จแบตเตอรี่ทิ้งไว้สักพักก็อาจช่วยแก้ปัญหาได้ หรือถ้าหากเครื่องดับแล้วเปิดไม่ติด ก็ให้ลองนำที่ชาร์จแบตเตอรี่มาเสียบแล้วกดเปิดเครื่องดูอีกครั้ง นอกจากนี้ถ้าหากมือถือรองรับชาร์จไร้สายก็อาจลองใช้วิธีชาร์จแบบไร้สายดู เผื่อในกรณีที่พอร์ตชาร์จของมือถือมีปัญหา 3. Factory Reset ล้างเครื่องใหม่ ถ้าหากทำตามวิธี 2 ข้อแรกแล้วยังไม่ได้ผล ก็คงต้องยอมทำใจจัดการ Factory Reset เพื่อล้างเครื่องดูสักรอบ ซึ่งจะเป็นการทำให้เครื่องกลับไปสู่การตั้งค่าแบบจากโรงงานใหม่อีกครั้ง และแน่นอนว่าแอปฯ รวมทั้งข้อมูลต่าง ๆ ในเครื่องจะถูกลบล้างหายไปทั้งหมด โดยวิธีนี้จะสามารถแก้ปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดจากด้านซอฟต์แวร์ได้ สำหรับคำสั่ง Factory Reset นั้นจะอยู่ใน Settings ของเครื่อง ซึ่งอาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับรุ่นมือถือที่ใช้อยู่ 4. ส่งศูนย์ซ่อม ถ้าหากทำตามวิธีข้างต้นหมดแล้ว แต่ปัญหาก็ยังอยู่ แก้ไม่หายสักที นั่นก็อาจเป็นเพราะปัญหาเกิดจากด้านฮาร์ดแวร์ ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่หรือส่วนอื่น ๆ ภายในตัวเครื่อง ก็คงต้องใช้วิธีสุดท้ายคือส่งเครื่องให้ศูนย์บริการซ่อม แต่ถ้าหากเป็นเครื่องที่หมดประกันหรือเก่ามากแล้ว ซ่อมไม่คุ้ม ก็อาจลองพิจารณาซื้อเครื่องใหม่ อาจจะดีกว่าก็ได้ ขอบคุณข้อมูลจาก androidcentral.com, androidpit.com โทรศัพท์มือถือชาร์จไฟไม่เข้า อยู่ๆมือถือชาร์จไฟไม่เข้าซะงั้น ก่อนที่จะซื้อสายชาร์จเส้นใหม่หรือส่งมือถือให้ทางร้านซ่อม
เราลองมาตรวจสอบปัญหาด้วยตัวเองก่อนว่าอาการมือถือชาร์จไม่เข้ามาจากสาเหตุอะไรบ้าง บางครั้งอาจจะไม่ต้องซื้อสายชาร์จใหม่เลยก็ได้นะ ลูกค้าบางท่านสงสัยว่าทำไมมือถือชาร์จช้า แบตมือถือหมดไว หรือชาร์จไม่เข้าขึ้นแจ้งเตือนเป็นรูปหยดน้ำ เรามีวิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ในบทความนี้
หลักๆ มี 5 สาเหตุที่ใกล้ตัวผู้ใช้มือถือมากที่สุด 1. สายชาร์จเสียบ่อย ในเรื่องของการชาร์จแบตเตอรี่หนีไม่พ้นเรื่องสายชาร์จมือถือเสียแน่นอน ดังนั้นสิ่งแรกที่เราควรจะต้องเช็คก่อนก็คือสายชาร์จที่เราใช้นั้นยังอยู่ในสภาพดีและสมบูรณ์อยู่หรือเปล่า อย่าเพิ่งไปคิดไกลว่ามือถือของเราพังแน่ๆ เพราะสายชาร์จมือถือคืออุปกรณ์ที่พังง่ายสุดโดยเฉพาะตรงบริเวณขั้วของสายชาร์จที่ตัวหุ้มสายไฟที่มักจะขาดหรือไม่ก็สายขาดภายใน ดังนั้นถ้าหากเกิดปัญหาเกี่ยวกับการชาร์จแบตเตอรี่ก็ลองเปลี่ยนสายชาร์จดูก่อน แต่ควรใช้เป็นสายชาร์จที่ได้มาตรฐานหรือใช้ของแท้ เพราะถึงแม้จะมีราคาแพงกว่าแต่ก็มีคุณภาพและมีความปลอดภัยมากกว่า แถมยังปลอดภัยกับตัวผู้ใช้ด้วยนะ สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้สายชาร์จเสียเร็ว คือ เกิดจากสายชาร์จหัก งอ, ชอบกระชากสายชาร์จ, เสียบสายชาร์จทิ้งไว้กับเต้าเสียบ, สายชาร์จไม่ได้มาตรฐาน 2. ช่องเสียบ USB เสีย อาการเสียนี้ส่วนมากจะเกิดจากการใช้งานของลูกค้าเอง เพราะก้นชาร์จของโทรศัทพ์มือถือทำจากทองเหลือง หรือวัสดุที่มีการนำไฟฟ้า ซึ้งไม่แปลกที่จะเสียบ่อย เพราะเราต้องใช้งานทุกวัน การเสียบเข้าเสียบออกอยู่บ่อย ๆ นั่นก็ทำให้เกิดการเสียดสีระหว่างแผ่นทองเหลืองกับสายชาร์จ อีกสาเหตุส่วนมากจะเกิดจากโดนความชื้นทำให้เกิดคลาบเขียว หรือสนิมจับเป็นก้อนที่ขั่วนำไฟฟ้า ปัญหาช่องเสียบ USB
เสียนี้เราไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเองได้ต้องส่งร้านหรือส่งศูนย์ซ่อมเท่านั้น 3. แบตเตอรี่มือถือเสื่อม
4. วงจรชาร์จแบตมือถือ ผมคิดว่าหลายคน คงคิดว่าเวลาเสียบสายชาร์จ ไฟที่เราชาร์จคงวิ่งเข้าไปเก็บในแบตเตอรี่เลย แต่มันไม่ใช้แบบนั้น เพราะในวงจรมือถือจะมีวงจรหนึ่งที่เรียกว่าวงจรชาร์จภายในโทรศัพท์มือถือ ถ้าวงจรนี้เสียยังไงก็ชาร์จไฟไมเข้า แถมเปิดเครื่องไม่ติดอีกด้วยนะ วงจรนี้จะทำหน้าที่เช็คกระแส และแรงดันไฟซึ้งควบคุมโดย CPU เป็นหลัก บางเครื่องอาจจะทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟไปเลี้ยงบางวงจรอีกด้วยนะ ส่วนมากที่จะเสียคือ โดนน้ำกับชาร์จไปด้วยเล่นไปด้วย 5. ชาร์จขึ้นหยดน้ำ ชาร์จมือถือแล้วแจ้งเตือนขึ้นรูปหยดน้ำ ส่วนมากที่เจอจะเป็นมือถือยี่ห้อ ซัมซุงชาร์จแบตไม่เข้า ขึ้นรูปสายฟ้า บ่อยมาก อาการแบบนี้ไม่ต้องหาสาเหตุเลยครับ โดนน้ำทางช่องเสียบ USB โดยตรงหรือไม่ตกน้ำทั้งเครื่อง วิธีแก้ไขเบื้องต้นไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ครับนอกจากนำไปร้านซ่อมมือถือ เพื่อที่จะเปลี่ยนก้นชาร์จใหม่ บางครั้งอาจะจะมีอาการแทรกเข้ามาด้วย สมัยนี้มือถือรุ่นใหม่ๆ ในระบบวงจรมือถือจะมี R Temp ซึ่งเป็นตัวตรวจวัดอุณหภูมิ เมื่อโดนความชื้นเวลาเราชาร์จไฟอุณหภูมิจะสูงผิดปกติ ระบบภายในจะไม่ปล่อยกระแสไฟวิ่งเข้าไปเก็บในแบตเตอรี่ได้ จึงทำให้มือถือชาร์จไฟไม่ได้ ดังนั้นต้องแก้ที่เมนบอร์ดมือถือโดยตรง โดยการหา R Temp มาเปลี่ยนบางครั้งอาจจะต้องเปลี่ยนก้นชาร์จอันใหม่ด้วย ค่าใช้จ่ายจะสูงตามไปด้วย สรุป ดังนั้นถ้าเจอปัญหามือถือชาร์จไฟไม่เข้า อย่าเพิ่งตกใจให้ตรวจสอบจากสิ่งใกล้ตัวก่อน เช่น สายชาร์จและหัวชาร์จว่ายังปกติไหม ก่อนจะนำมาร้านซ่อมเพราะบางครั้งสายชาร์จเสียก็เป็นไปได้มากถึง 95 % ส่วนอาการชาร์จไฟไม่เข้าสาเหตุอื่นส่วนมากจะเกี่ยวกับ โดนน้ำหรือความชื่น หรืออายุการใช้งานที่สมควรที่จะต้องเปลี่ยน ช่องเสียบ USB |