นิยาย ยั ย ขี้เหร่ ธัญ วลัย จบแล้ว

ไม่อยากจะเชื่อวันวันนี้พี่เท็นจะเข้ามาทักฉันก่อนแต่ฉันพยายามไม่ให้เข้ารูว่านี่คือยัยขี้เหร่คนนั้นแต่ยัยแพรวดิดันเรียกชื่อฉันจนทำให้พี่เท็นได้ยินเต็มๆ ซวยจริงๆแต่ก็ช่างเหอะพี่เขาคงเห็นฉันเปลี่ยนไปมากเพราะเห็นหน้าพี่เท็นแล้วก็อดขำไม่ได้เพราะพี่เท็นหน้าเอ๋อไปเลยรู้ว่าฉันคือยัยขี้เหร่นั้น แต่ก็ยังหวั่นไหวแปลกๆทั้งที่ไม่ได้เจอกันหลายปี

“แกไปอยู่ที่นั้นเป็นไงบ้าง”ยัยแพรวเอ่ยถาม

“ก็ดีอ่ะแก แต่อยากอยู่ที่นี้มากกว่า”ฉันตอบพร้อมทำหน้าตาเบื่อๆ

“แล้วนี่แกยังรักพี่เท็นอยู่ป่ะ”นั้นคำภามนี้ แล้วจะตอบยังไงเนี่ย

“ก็ไม่รู้ดิ มันยังรู้สึกแปลกๆอยู่อ่ะแก บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ะ”เลี่ยงๆไปก่อน เพราะคำตอบยังไม่แน่นอน

“อ่า...”ยัยแพรวจะพูดอะไรสักอย่าง

“งั้นไปกินข้าวเหอะหิวแล้วอ่ะแก”ฉันรีบพูดตัดหน้าขืนรอให้ยัยแพรวถามคงไม่พ้นเรื่องพี่เท็นแน่นแน

โรงอาหาร

“แกนั่งจองโต๊ะน่ะ ฉันไปซื้อก๋ยวเตี๋ยวเอง”ยัยแพรวพยักหน้า ทำไมโรงอาหารคนเยอะจังเนี่ย จะเดินก็ลำบาก

“ว้าย! นี่”ระหว่างที่ฉันจะเดินไปซื้อน้ำก็ไปชนกับใครก็ไม่รู้เสียงนี่ยิ่งกว่านกหวีดอีก

“เอ่อ ขอโทดค่ะ”ฉันขอโทดเพราะไม่อยากให้มีเรื่อง

“นี่รู้มั้ยย่ะ ว่าเธอทำให้น้ำหกใส่กระเป๋าของฉันน้ะ”นี่น่ะเรียกว่าหกมันก็แค่เป็นลอยหยดน้ำไม่กี่หยดจากแก้วน้ำที่หล่นพื้นแล้วกระเด็นมาโดนเท่านั้น

“ขอโทด จบยัง”ฉันไม่รอให้ยัยนั้นพูดต่อก็เดินมาที่แพรว น่าเบื่อจริงๆเลย

“ทำไมไปนานจังอ่ะ”แพรวบ่น คงจะหิวจริงๆ

“คนเยอะอ่ะ”ฉันตอบ

“ขอโทดน่ะครับสาวๆ”ใครเนี่ย

“อ่ะเอ่อค่ะ”หล่ออ่ะ หล่อจริงๆ น้ำชอบค่า

“ขอนั้งด้วยได้มั้ยค่ะ”ขอแบบนี้เลยหรอ

“ไม่ได้/คะ”แพรวเห็นแย้งเพราะไม่อยากให้เขานั่ง

“ขอบคุณครับ”อย่ายิ้มสิจะละลายอยู่แล้วเนี่ย

“ค่ะ”ยิ้มส่งเลยจ้า

“ผมนนท์น่ะครับบริหารปี3”หนุ่มบริหารหล่อมาก

“ฉันน้ำน่ะค่ะ นี่แพรวนิเทศปี2ค่ะ”นนท์ น้ำเข้ากันจริง

น้ำจบ

ระหว่างที่น้ำและนนท์นั่งคุยกันเท็นก็มองที่น้ำด้วยเช่นกัน เพราะเขารูว่าคนที่น้ำคุยนั้นคือใคร นนท์คู่อริของเท็นเพราะแค่เรื่องผู้หญิง ไม่รูเป็นเพราะอะไรถึงทำให้เท็นสนใจน้ำแปลกๆ คงเป็นเพราะเธอสวยขึ้นหรือเป็นเพราะเขาเคยทำร้ายจิตใจเธอมาก่อน น้ำเห็นว่าเท็นหำลังนั่งมองอยู่จากตอนแรกที่ยิ้มอย่างร่าเริงกลับหุบยิ้มทันทีเพราะน้ำไม่อยากยิ้มให้กับคนที่ทำร้ายจิตใจเธอมาก่อนแบบเท็น

“น้ำ แพรว พี่ไปก่อนน่ะ”นนท์ขอตัวเพราะต้องมีเรียน แต่นนท์เดินยังไม่ทันพ้นดต๊ะของเท็นก็ต้องหยุดเพราะเท็นยืนมาขวางทางของนนท์

เด็กสาวร่างอ้วนที่เพื่อนๆในห้องต่างรังเกียจกับรูปร่างหน้าตาของเธอ            เธอมักโดนแกล้งเป็นประจำ   เด็กร่างอ้วนกำลังร้องไห้อย่างหน้าสงสารน้ำตาเห็นความเจ็บปวดหลั่งไหลออกมาเหมือนปานเขื่อนน้ำเเตก! ขาของเด็กสาวค่อยๆอ่อนแรงลงอย่างช้าๆก่อนร่างของเด็กร่างอ้วนจะล้มตัวลงไปนั่งที่พื้นห้อง

"อีอ้วน อีช้างน้ำ อีมนุษย์ต่างดาว อย่าโดนตัวฉัน สกปรก!"คำพูดพวกนนี้ที่เธอได้ยินเเทบทุกวันมันเป็นดังเหมือนเหล็กแหลมทิ่มแทงใจเด็กสาว  คนพูดอาจจะชินปากไปแล้วที่ต้องด่าแต่คนฟังกลับไม่!!

เพราะเมื่อไหร่ที่เด็กร่างอ้วนอย่างบีถูกเพื่อนล้อเรื่องปมด้อยเรื่องหน้าตาหรือรูปร่างของเธอ  เธอเสียใจและเจ็บปวดทุกครั้ง  เสียงในใจของเธออยากจะบอกให้พวกเค้าเหล่านั้นหยุดสักที !! แต่มันคงดังอยู่แค่ในใจของเธอเท่านั้นเพราะเธออ่อนแอเกินไป

🥀7ปีต่อมา🥀

สาวร่างเพรียวใบหน้าสวยกำลังนั่งทานอาหารกับเพื่อนสาวที่ร้านอาหารหรู

"แกๆ ดูคนนั้นสิ ทำจมูกเปล่าว่ะ ฉันว่าทำนะ!! ปลอมทั้งตัวอ่ะ"เสียงผู้หญิงสองคนกำลังนั่งนินทราหญิงสาวสวยที่ทุกคนในร้านต่างจับตามองกันทั้งร้านอาหารหรู บางคนก็อิจฉาบางคนก็ชื่มชมในรูปร่างหน้าตาที่สวย

"พูดอะไรกันอ่ะ ฟังด้วยสิ พูดต่อสิ !!"

"อ้าว นึกว่าใครที่ไหน อีเอเลี่ยนนี่เอง"หญิงสาวปากแดงยกยิ้มอย่างดูถูก

"นี่ก็นึกว่าใครที่ไหน  อีหมาหัวเน่า!!นี่เอง"

บี:อ่อนแอก็แพ้ไป  ฉันจะไม่มีวันแพ้อีกเด็ดขาด เพราะฉันไม่อยากอ่อนแอ

"จุ๊ๆ เรื่องนี้อย่าบอกให้ใครรู้ล่ะ เก็บไว้รู้กันเเค่สองคนนะ"ศิมันต์ชายร่างสูงใบหน้าหล่อเป็นถึงลูกนักธุรกิจที่ติดอันดับรวยเป็นอันดับต้นๆของประเทศไทยที่ไม่ว่าจะมีธุรกิจส่งออกสินค้า ธุรกิจด้านความงาม ด้านอสังหารริมทรัพท์และอีกมากมายนับไม่ถ้วนที่ตระกูลของชายที่เพรียบพร้อมทั้งด้านรูปร่างหน้าตาชื่อเสียเงินทองอย่างศิมันต์จะมี เค้าเพอร์เฟ็ต!!

"ก็แค่หลอกให้รัก ก็เเค่อยากเล่นกับความรู้สึกของเด็กคนหนึ่งตามกระเเส!!        ก็แค่หลอกให้รัก!  เด็กโง่เอ้ย"

"เออ  สนุกดี น้องแม่งชอบกูจริงๆว่ะ"ศิมันต์พูดอย่างตลกขบขันในกลุ่มเพื่อน

"ศิมันต์อ่า ไม่น่าไปแกล้งเพื่อนนัทเชลแบบนั้นเลยนี่คะ"หล่อนยิ้มอย่างสนุกสนานจะใครล่ะที่ยุยงให้รุ่นพี่คนหล่อไปแกล้งคนที่ตัวเองเเสเเสร้งแกล้งเรียกว่าเพื่อน

"อ๊ะ ฮ๊า  อือ  อ่าาา   แน่นจังเลยของ มึงเนี่ย"เสียงการร่วมรักของหญิงชายอย่างดิบเถื่อน

"ได้เงินแล้วก็ออกไปซะ"

ศิมันต์:นิยามผู้หญิงสำหรับผมน่ะหรอ  ที่ระบายอารมณ์เงี่ยนของผมมั้ง  ยกยิ้มที่มุมปาก

จะเป็นยังไงที่เด็กสาวคนที่พวกเค้าต่างมองว่าเป็นเศษขยะที่รอวันเก็บใส่ถังขยะอย่างบีกลับ เปลี่ยนเเปลงตัวเองจนสวยชนิดที่นางแบบในนิตยยายสารยังอายเธอมาพร้อมกับความมั่นใจที่เปี่ยมล้มและโชคชะตาดูเหมือนจะเล่นตลกนำพาให้บีกลับมาเจอคนพวกนั้นอีกครั้ง ในเมื่อเธอพยายามหลบและหลีกยังไงก็ไม่อาจหลุดพ้นจากคนพวกนี้ได้   งั้น  !!! ถ้าจะต้องสู้กับพวกเค้าเหล่านั้นอีกครั้ง                    

“อ่ามาแต่งหน้ากันเร็วมัวแต่คุยกันอยู่นั้นแหละ” ประโยคจากครูที่บอกให้นักเรียนมาแต่งหน้าแต่งตัวเพราะวันนี้มีการแสดงให้กับนายกประจำจังหวัดที่ให้เกียรติมาเปิดงานโรงเรียน ซึ่งทุกคนก็ต้องมากันตั้งแต่ตี5 ซึ่งฉันมาถึงที่นี่ตี5:30  อ้อ!! ฉันลืมแนะนำตัวฉันชื่อ โฮยอนที่แปลว่าขาวราวหิมะ(ชื่อไทยฉันคือเค้กตั้งเองแหละเพราะอยู่ที่นี่เรียกแล้วเบ้าหน้าไม่เข้าคริๆๆ^_^) ฉันเป็นลูกครึ่งไทยเกาหลี พ่อฉันเป็นคนเกาหลีส่วนแม่เป็นคนไทย พ่อกับแม่ฉันดูดีมาก(แฮร่ๆ)ขาวผิวดีหุ่นดีว่าได้ ฉันมีพี่2คนคือพี่ชายคนโต(อินแจ) กับพี่สาวคนกลาง(จีซอน) ซึ่งเขาทั้งสวยและหล่อแต่ทำไมฉันถึงกลับมาเป็นน้องสาวที่ดำอ้วนด้วยก็ไม่รู้(แย่จังT_T) ก็เพราะว่าฉันเลือกที่จะอยู่ประเทศไทยนะสิ่ฮ่าๆ พี่ชายกับพี่สาวฉันเลือกที่จะไปเรียนที่ Seoul International School (SIS) หรือ โรงเรียนนานาชาติโซล ที่ตั้งอยู่ในเขตซองนัม กรุงโซล เกาหลีใต้(อ่านชื่อก็หรูแล้วใช่มั้ยล่ะ) พ่อฉันมีปัญญาส่งเพราะพ่อฉันเป็นทนายอยู่ที่โซลได้เงินเดือนละ 50,000,000วอน หรือแปลงเป็นเงินไทยก็ 1,499,914บาท รวยเลยจ่ะ) “เค้กก!!!”เสียงคุณครูอีกท่าน(ครูอิมอิม)ที่มาช่วยแต่งหน้า ทำเอาฉันตกใจที่กำลังเหม่อคิดถึงใครบางคน“ค่ะ!!!ครู” และฉันก็ขานตอบรับตามมรรยาท “นั่งเหม่ออะไรอยู่นั้นแหละ เร็วมาแต่งหน้า!!!” ประโยคที่ถามและสั่งทำให้เค้กรีบไปนั้งขัดตมาดตรงหน้าครูเพื่อที่จะแต่งหน้าและแต่งตัวเตรียมพร้อมสำหรับการแสดง “เค้กก จะกลับเกาหลีเมื่อไรหรอ” เสียงถามจากคุณครูที่กำลังค่อยๆลงรองผื้นหลังจากการลงครีมบำรุงหน้าแล้ว “อ้อก็หลังจากสอบเสร็จหนึ่งวันค่ะ” ฉันตอบไปด้วยความงัวเงียที่กำลังจะหลับเพราะต้องหลับตา “อืมจ่ะ แล้วจะกลับมามั้ย” ครูตอบหลังยิ้มให้กับเค้กแล้วค่อยๆลากดินสอเขียนคิ้วสีน้ำตาลตามโคลงเดิมตามเส้นตรงแล้วค่อยๆโค้งหางเล็กน้อยเพื่อให้ดูดี “ครูมีไรรึป่าวค่ะ” ฉันตอบกลับไปด้วยความสงสัยที่กำลังหลับตาอยู่ “ป่าวจ่ะครูแค่สงสัยกลัวว่าเธอจะไปแล้วไม่กลับมานะสิ่” ครูตอบด้วยน้ำเสียงหวั่นๆนิดๆแล้วหยิบพาเลทอายชายโดว์ขึ้นแล้วใช่แปรงลงบนสีน้ำตาลเข้มแล้วทาบนเปลือกตาให้เกิดโคลงทั้งสองสองเปลือกตา “โธ่!!ครูอย่าคิดมากสิ่ หนูไปอยู่หนูก็ต้องกลับมาสิ่หนูรักที่นี่” ฉันตอบปัดความเศร้าไปด้วยตากำลังหลับ “รักที่นี่จริงอ่า หรือว่ารักอย่างอื่นกันแน่!!!” ครูพูดเพราะรู้ความลับของเค้ก(มีคนรู้ความลับของเค้กอยู่ไม่กี่คนส่วนมากเป็นเพื่อนในกลุ่มเค้กทั้งนั้น)แล้วค่อยเปลี่ยนสีมาเป็นสีน้ำตาลอ่อนประการมุกเพื่อให้มีความวิ๊งหวับบนตรงกลางเปลือกตา“แหม่ครูก็พูดไป” ฉันตอบกลับด้วยกิริยท่าทางที่กำลังเขิลฮ่าๆ แล้วครูอิมก็ค่อยๆกรีดอายไลน์เนอร์และติดขนตาปลอมงอนและหนา แล้วก็ทาอายชายโดว์สีขาวตรงล่างคิ้วเพื่อให้คิ้วดูโดดเด่นและก็บรัชออนสีชมพูส้มบนแก้มหน้าเสร็จแต่ผมยังไม่เสร็จเค้กก็ต้องเดินไปนั่งบนเกาอี้เพื่อทำผมครูฝนได้จับผมแล้วหวีให้ราบเรียบแล้วก็ม้วนผมให้ลอนเหมือนใบเตยเพราะการแสดงคือเพลงติดหนึบของประโยคไม่สั้นเสมอหูอย่าเรียกหนูใบเตยฮ่าๆ พอทุกอย่างเสร็จครูฝนก็ปล่อยให้นักเรียนที่แต่งหน้าทำผมแล้วไปหาไรกินก่อนค่อยมาแต่งตัวแล้วทาปาก

“นิ่เค้กเมื่อไรเธอจะผอม กินเยอะอยู่นั้นแหละ”เสียงเพื่อนสนิทของเค้กที่กำลังบ่นเค้กที่กำลังกินโจ้กใส่ไข่พิเศษ(เธอชื่อม่อน) “โอ้ยยบ่นจัง ก็ฉันหิวนิ่” ตอบไปด้วยความโมโหเล็กน้อย”นิ่จะกินไรดูส้ะบ้างนะอยากจะสวยทีหลังเนี่ยมันยากก ยัยอ้วนน “เอ้า!!!อีนี่ปากเสีย คนเราอยู่เพื่อกินและกินเพื่ออยู่” ฉันตอบไปด้วยและกิริยารำคาญเล็กน้อย “ระวังเหอะ สักวันพี่เค้ารู้ว่าแกชอบเค้าจะไม่อยากอยู่ใกล้แกนะ” ม่อนตอบไปด้วยความหวังดี “อ่าววอีนี้แม่งแช่งกันนิ่ ถ้าเขาไม่อยากอยู่ใกล้ฉันก็จะกลับโซล” ฉันตอบไปด้วยความกัวเล็กน้อย “ฉันไม่ได้แช่ง ฉันหวังดี” ในขณะนั้นกลุ่มรุ่นพี่นักเรียนชายเดินผ่านกลุ่มเค้กที่กำลังกินข้าวอยู่(หนึ่งในมีคนที่เค้กชอบด้วยนั้นก็คือพี่บี เค้กแอบชอบพี่บีมา2ปีกว่าแล้วตั้งแต่สมัยป.5 พอพี่บีจบป.6เค้าก้อมาต่อที่โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรีเพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องกีฬามากพี่เค้าเป็นนักฟุตบอล ส่วนฉันย้ายตามพี่เค้ามาฮ่าๆ) “อ่าววอีเค้ก!!มึงจะหลบทำหน้านิ่งทำไม” ม่อนถามด้วยที่ตัวเองรู้อยู่แล้วว่าเวลาเค้กเจอพี่บีชอบหลบหรือไม่ก้อทำนิ่งๆใส่ “เอ่อนะ!!!” เค้กตอบด้วยอาการนิ่งๆ “ว่าไงจะน้องอ้วนน เอ้ยยไม่ใช่สิ่น้องเค้ก” รุ่นพี่อีกคนแซวเค้ก(ชื่อออฟ) “ทำไมมีไร เรียกชื่อกลัวจำชื่อไม่ได้ไง” เค้กตอบกลับอย่างกวน “อุ้ยยๆน่ากลัวจัง ไม่ใช่สิ่ชื่อไรนะ อ๋อโฮยอน” พี่ออฟตอบกลับด้วยกิริยาท่ากวน “ไปเหอะม่อนรำคาญแหละ” เค้กรีบพูดตัดบทแล้วจูงมือม่อนหนีออกจากกลุ่มตรงนั้น “เอ้าจะไปไหนล่ะน้องเค้ก!!!” เสียงที่เรียกนั้นเป็นเสียงของพีคนหนึ่งที่ขาวหล่อใสออร่าเปร่งปรั่งกับทรงผมรองทรงสูงที่เดินผ่านไปทางไหนก็จะมีแต่เสียงกรี๊ดกร๊าดด แต่ทว่าเสียงนี้ทำให้เค้กที่กำลังเดินจูงม่อนหยุดชงัก!! ม่อนหันหน้าไปแล้วรีบสกิดเค้กยังเร็ว “เค้กกพี่บีเค้าเรียกแกว่ะ” ม่อนพูดอย่างดีใจแทนเค้กก เค้กยิ้มแล้วหันหน้าไปพร้อมกับรีบทำหน้านิ่งใสพี่บี “มีไรค๊ะ” เค้กรีบพูดพร้อมกับน้ำเสียงเข้มแข็ง “ชื่อโฮยอนหรอเรา” พี่บีพูดพร้อมกับสแยะยิ้มใส่ “อืมค่ะ!! แล้วทำไมค่ะ” เค้กพูดกลับด้วยเสียงหวั่นๆเพราะเค้กเขิลจนจะไม่ไหว(เพราะเค้กไม่เคยพูดคุยกับพี่บีเลยสักครั้ง) “ชื่อเหมือนเกาหลีเลย ลูกครึ่งหรอเรา” พี่บีพูดอย่างมีลับลมคมใน “ใช่ค่ะ” เค้กรีบพูดจะฟังประโยคต่อไป “ฮ่าๆๆๆๆๆ” เสียงพี่บีขำขึ้นพร้อมกับเพื่อนที่ขำตาม “ขำทำไมค่ะพี่บี” เค้กรีบถามเพราะรู้ว่าพี่บีไม่ได้อยากมาคุยด้วย แต่อยากมาแกล้ง “ชื่อไม่เข้ากับหน้าเลยยฮ่าๆ ลูกครึ่งไรอึ่งอ่างหรอฮ่าๆโอ้ยยดำๆอ้วนๆอย่างี้ฮ่าๆ” พี่บีพูดด้วยความตลก ผลักก!!! ผัวะ!! “เค้กไม่คิดเลยว่าพี่บีจะพูดแทงใจดำกับเค้กได้ขนาดนี้” เค้กพูดแล้วรีบดึงม่อนออกจากตรงนั้น “เฮ้ยยๆ นี่พ่อหนุ่ม!!” เสียงป้าที่ขายอาหารมานาน “ครับป้า” ออฟตอบกลับด้วยค้วยความอยากรู้ว่าเรียกทำไม “ไอ้นั้นชื่อไร ชื่อบีใช่ไหมเป็นนักฟุตบอลด้วยนิ่ หน้าตาใช้ได้ แต่การกระทำไม่น่าทำงั้นเลยนะ” ป้าตอบกลับด้วยความสงสารเค้ก “ผมก็แกล้งนิ่ป้าสนุกจะตายฮ่าๆ” พี่บีตอบด้วยความสนุก “ระวังเห๊อะ น้องเค้าสวยมาเองจะจีบไม่ทัน” ป้าตอบกลับด้วยความมั่นใจ “ไม่มีทางหรอกป้าอ้วนๆดำๆขนาดนั้น” “ถ้าสวยกูจะจีบ” หลังจากพี่บีพูดด้วยความมั่นใจแต่ออฟกลับพูดแทรกทำท่าเอาจริง “เอาเหอะพ่อหนุ่มแต่ว่าน้องคนนั้นชอบเองนะบี” ป้าพูดอย่างกะรู้ พี่บีมองหน้าป้าแล้วยิ้ม เค้กเดินมาถึงหน้าห้องนาฏศิลป์แล้วนั่งลงตรงระเบียงที่ตรงข้ามกับหน้าห้อง “เค้ก!! แกเป็นไรมั้ย” ม่อนเดินเข้าถามแล้วปลอมใจเค้กเล็กน้อย “ฉันไม่เป็นไรหรอก” เค้กตอบไปพร้อมกับน้ำตาที่คลอเบ้าอยู่ “ฉันก็ไม่คิดเลยนะว่าพี่บีแกจะแกล้งแกได้ขนาดนี้” ม่อนตอบไปด้วยที่บรรยากาศที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไร “หือออๆToT ฉันมันไม่สวยฉันไม่มีอะไรที่จะทำให้พี่บีสนใจฉันเลยใช่มั้ยห้ะ!!!” เค้กร้องไห้แล้วพูดระบายที่อัดอั้นในใจออกมา “ไม่ร้องนะแก!! ฉันเชื่อสักวันแกจะต้องสวยจนพี่เขาต้องมาจีบแก” ม่อนปลอบเค้กพร้อมกับให้กำลังใจเค้กอย่างมันใจ “ไม่มีทางหรอกที่ฉันจะสวยเหมือนคนที่พี่เขาหมายปอง” เค้กพูดตอบอย่างเป็นไปไม่ได้พร้อมกับมีความในใจอีกอย่าง “คนในใจ??” ม่อนตอบด้วยความสงสัยพร้อมกับขมวดคิ้ว”ใช่คนใน...”  “ไปไหนกันมาเด็กๆ เร็วๆเลยรีบแต่งตัวเลย” เค้กยังไม่ทันได้เล่าเรื่องเลยก็มีเสียงครูอิมกับครูฝนที่สั่งให้รีบไปแต่งตัวเพราะใกล้เวลาเริ่มงานแล้ว