กาลกิณี ประการ สุดท้าย ที่ ว่า โลภ ลาภ บาป บ คิด โจทก์ จับผิด ริษยา

มีพระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่งมีพระนามว่า พระไชยสุริยา ครองเมืองสาวัตถีมีมเหสีทรงพระนามว่า พระนางสุมาลี พระไชยสุริยาครองบ้านเมืองมาด้วยความผาสุกบ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุขอุดมสมบูรณ์ ขุนนางทั้งหลายอยู่ในศีลธรรม พ่อค้า ชาวเมือง ชาวไร่ ชาวนา มีความสุขกับถ้วนหน้า ดังกาพย์ต่อไปนี้

                     ต่อมาได้เกิดเหตุอาเพศถึงคราวที่บ้านเมืองต้องพินาศ ล่มจม เพราะพวกข้าราชการ เสนาอำมาตย์ขาดศีลธรรมไม่ประพฤติตนตามทำนองคลองธรรม มัวเมา ลุ่มหลงในอิสตรี เเละความโลภไม่นับถือศาสนา ใฝ่ใจในไสยศาสตร์ ถืออำนาจไม่มีความเมตตาต้องกาพย์ต่อไปนี้

อยู่มาหมู่ข้าเฝ้า      ก็หาเยาวะนารี

ที่หน้าตาดีดี     ทำมะโหรีที่เคหา

ค่ำเช้าเฝ้าสีซอ      เข้าเเต่หอล่อกามา

หาได้ให้กริยา    โลโก้พาให้บ้าใจ

ไม่จำคำพระเจ้า     เหไปเข้าภาษาไสย

ถือดีมีข้าไทย     ฉ้อเเต่ไพรใสขื่อคา

                   พวกตุลาการก็รับสินบนไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ของตนเอง ไม่ยุติธรรม ไม่ดูถูก ดูหมิ่นผู้ที่ยึดมั่นในศาสนา

คะดีที่มีคู่        คือไก่หมูเจ้าสุภา

ใครเอาเข้าปลามา       ให้สุภาก็ว่าดี

ที่เเพ้แก้ชะนะ        ไม่ถือพระประเวณี

ขี้ฉ้อก็ได้ดี                ไล่ด่าตีมีอาญา

ที่ชื่อถือพระเจ้า            ว่าโง้เง่าเเต่ปูปลา

ผู้เฒ่าเหล่าเมธา       ว่าใบ้บ้าสาระยำ

                   พระสงค์ก็มีพฤติกรรมผิดเเบบเเผน  ไม่สนใจในธรรมะ  ไม่ปฏิบัติกิจของสงฆ์เเละถือดีไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่

ภิก์ษุสะมะณะ        เหล่าก็ละพระสะธำม์

คาถาว่าลำนำ                 ไปเร่ร่ำทำเฉโก

ไม่จำคำผู้ใหญ่             ศีรษะไม้ใจโยโส

ที่ดีมีอะโข                ข้าขอโมทนาไป

                      ทำให้ในช่วงเวลานั้น เมืองสาวัตถีมีสภาพสังคมที่เลวร้ายเพราะไม่มีความเมตตาปราณีต่อกัน ผู้มีอำนาจมากกว่าจะข่มเเหงรังเเกผู้ที่อ่อนเเอกว่า ต่างประพฤติตนไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ไม่ยึดถือขนประเพณี เห็นเเก่ตัว หาเอาเข้าพกเข้าพ่อของตนเอง พวกข้าเฝ้าเหล่าเสนาก็ไม่ควบคุม ข้าทาสของตัว ซ้ำตัวขุนนาเองก็ไม่ซื่อสัตย์เหมือนดังถ้อยคำที่ได้สาบานไว้ในพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา ดังกาพย์พระไชยสุริยา

พาราสาวะถี      ใครไม่มีปราณีใคร

ดุดื่อถือเอาใจ       ที่ใครได้ใส่เอาพอ

ผู้ที่มีฝีมือ      ทำดุดื้อไม่ซื้อขอ

ไล่คว้าผ้าที่คอ       อะไรล่อก็เอาไป

ข้าเฝ้าเหล่าเสนา       มิได้ว่าหมู่ข้าไทย

ถือน้ำร่ำเข้าไป      เเต่น้ำใจไม่นำพา

หาได้ใครหาเอา          ไพร่ฟ้าเศร้าเปล่าอุรา

ผู้ที่มีอาญา          ไล่ตีด่าไม่ปราณี

                        เมื่อบ้านเมืองมีศีลธรรมเสื่อมโทรม จึงเกิดอาเพศ มีผีป่าเข้ามาย้ำยีในเมือง ทำให้ผู้คนล้มตายไปเป็นอันมาก น้ำป่าก็ไหลเข้าท่วมเมือง ทำให้ประชาชนไม่มีที่อยู่อาศัยต่างหลบหนีออกจากเมืองจนหมด ทิ้งให้เมืองสาวัตถีเป็นเมืองร้าง

ผีป่ามากระทำ        มะระณะกำม์เชาบุรี

น้ำป่าเข้าธานี       ก็ไม่มีที่อาไศรย

ข้าเฝ้าเหล่าเสนา       หนีไปหาพาราไกล

ชีบาล่าลี้ไป       ไม่มีใครในธานี

                          พระไชยสุรียาเเละพระมเหสีสุมาลีพร้อมด้วยเหล่านางกำนัลเสด็จหนีลงเรือสำเภา ทิ้งบ้านเมืองสู่ออกสู่ทะเล  เเต่ไปถูกพายุใหญ่พัดสำเภาเเเตก พระไชยสุรียามเหสีพยายามว่ายน้ำไปขึ้นฝั่ง เดินทางซัดเซพเนจรไปในป่า ประสมความทุกข์ยากลำบากค่ำที่ไหนนอนที่นั้น  ใช้เเผ่นดินเป็นที่นอน ไม้ขอนเป็นหมอน เเละมีเผือกมันเป็นอาหารดังกาพย์ต่อไปนี้

ขึ้นใหม่ในกน ก กา ว่าปน ระคนกันไป เอ็นดูภูธร 

มานอนในไพร  มณฑลต้นไทร  เเทนไพชยนต์สถาน

ส่วนสุมาลี  วันทาสามี  เทวีอยู่งาน  เฝ้าอยู่ดูเเล

เหมือนเเต่ก่อนกาล  ให้พระภูบาล  สำราญวิญญา

พระชวนนวลนอน   เข็ญใจไม้ขอน  เหมือนหมอนเเม่นา

ภูธรสอนมนต์ ให้บ่นภาวนา เย็นค่ำร่ำว่า กันป่าภัยพาล

           พระไชยสุริยาเเละพระนางสุมาลีมเหสีต้องรอนเเรมอยู่ในป่าเป็นเวลานาน จนกระทั่งได้พบกับพระดาบส ซึ่งได้ชี้สาเหตุเเห่งความวิบัติของบ้านเมืองว่าเป็นเพราะ "กาลกิณีสี่ประการ " คือ

ประกอบชอบเป็นผิด   กลับจริตผิดโบราณ

สามัญอันธพาล     ผลาญคนซื่อถือสัตย์ธรรม์

ลูกศิษย์คิดล้างครู    ลูกไม่คุณพ่อมัน

ส่อเสียดเบียดเบียนกัน    ลอบฆ่าฟันคือตัณหา

โลภลาภบาปบคิด    โจทก์จับผิดริษยา

อุระพะสุธา      ป่วนเป็นบ้าฟ้าบดบัง

บรรดาสามัญสัตว์    เกิดวิบัติปัตติปาปัง

ไตรยุคทุกขะตะรัง       สังวัจฉะระอะวะสาน

ด้วยความเมตตาพระไชยสุริยาซึ่งเป็นผู้ที่ซื่อตรงเเต่ได้รับความวิบัติเพราะหลงเชื่อขุนนางชั่วร้าย พระฤาษีจึงได้เทศนาโปรดกษัตริย์ทั้งสองพระองค์ว่า คนเราทุกคนเกิดมาเเล้วต้องตาย เพราะฉะนั้นอย่าเบียดเบียน ฉ้อโกงผู้อื่น บาปจะทำให้ได้รับความทุกข์ หากมีเมตตากรุณาจะได้ไปสวรรค์ ซึ่งเป็นความสุขที่ยั่งยืนดังกาพย์ต่อไปนี้

เปล่งเสียงเพียงพิณอินทรา       บอกข้อมรณา

คงมาวันหนึ่งถึงตน                                                      

เบียดเบียนเสียดส่อฉ้อฉน             บาปกรรมนำตน

ไปทนทุกข์นับกับกัลป์                                                  

เมตตากรุณาสามัญ                        จะได้ไปสวรรค์ 

เป็นสุขทุกวันหรรษา                                                   

           สมบัติสัตร์มนุษย์ครุธา                 กลอกกลับอัปรา

เทวาสมบัติชัชวาล                                   

สุขเกษมเปรมปริวิมาน                  อิ่มหนำสำราญ

ศฤงคารห้อมล้อมพร้อมเพรียง                       

กระจับปี่สี่ซอท่อเสียง                ขับรำจำเรียง

สำเนียงนางฟ้าน่าฟัง                                           

เมื่อพระไชยสุริยาเเละพระนางสุมาลีได้ฟังคำสั่งสอนของพระดาบสเเล้ว ทรงเลื่อมใส ศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง จึงบวชเป็นฤาษี เเล้วทรงปฏิบัติธรรม ถือศีลภาวนา ทำพิธีบูชาไฟ ครั้นวายชนม์จึงได้เสด็จไปสู่สวรรค์ มีชีวิตที่มีความสุขตลอดไป ดังกาพย์ต่อไปนี้

ขึ้นเกยเลยกล่าวท้าวไทย            ฟังธรรมน้ำใจ

เลื่อมใสศรัทธากล้าหาญ                                          

เห็นภัยในขันธสันดาน           ตัดท่วงบ่วงมาร

สำราญสำเร็จเมตตา                                              

สององค์ทรงหนังพยัคมา              จัดจีบกลีบชะฎา

รักษาศีลถือฤาษี                                                          

เช้าค่ำทำกิจพิธี                กิงกูณฑ์อัคคี

เป็นที่บูชาถาวร                                                     

ประถะพีเป็นที่บรรจฐรณ์                       เอนองค์ลงนอน

เหนือขอนเขนยเกยเศียร                                    

ค่ำเช้าเอากราดกวาดเตียน                  เหนื่อยยากพากเพียร

เรียนธรรมบำเพ็ญเคร่งครัน                                                       

สำเร็จเสร็จได้ไปสวรรค์      เสวยสุขทุกวัน

นานนับกัปกัลป์พุทธันดร