Show
ทุกวันนี้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตของเราไปแล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ อินเตอร์เน็ต ซึ่งมีประโยชน์มาก ๆ ในยุคนี้ มันสามารถทำให้โลกของเรา มีขนาดเล็กลงจนเราพูดคุยกับคนที่อยู่อีกซีกโลกได้ง่าย ๆ ทำให้อุปกรณ์ทั้ง มือถือ, แท็บเล็ต, โน็ตบุ๊ค หรือคอมพิวเตอร์ กลายเป็นสิ่งที่ผู้คนในยุคนี้ขาดไม่ได้ครับ หรือแม้แต่อุปกรณ์ธรรมดา ๆ อาทิเช่น สมาร์ททีวี, กล้องวงจรปิด, กริ่งประตูบ้าน, หลอดไฟ หรือประตูดิจิตอลเป็นต้น ล้วนเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตได้ ทำให้เราสามารถควบคุมอุปกรณ์ทั้งหมดนี้ ในระยะไกลได้ง่าย ๆ โดยในวันนี้เราจะมาพูดถึงหนึ่งในอุปกรณ์ที่กำลังมาแรงมาก ๆ นั่นก็คือ สมาร์ทวอทช์ (Smartwatch) ครับ ซึ่งเป็น นาฬิกาข้อมือ ที่ไม่ใช่แค่นาฬิกาข้อมือแบบทั่ว ๆ ไป แต่เป็นอุปกรณ์น้องใหม่ที่มาแทนที่นาฬิกาแบบเดิม ๆ ครับ เนื่องจากมันมีคุณสมบัติที่เพิ่มขึ้นมามากมาย โดยเฉพาะเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ที่สามารถวิเคราะห์สุขภาพของคุณได้แบบเรียลไทม์ โดยในปัจจุบันสมาร์ทวอทช์ก็มีอยู่มากมายหลายแบบครับทั้ง สายสุขภาพ สายออกกำลังกาย และสายแฟชั่น ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็ปล่อยออกมาหลายรุ่นมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น Realme, Samsung, Huawei, OPPO, Garmin, Xiaomi หรือ Suunto เป็นต้น รวมถึงแบรนด์ระดับโลก อย่าง Apple ด้วย ฉะนั้นในวันนี้เราจะมาเอาใจ สาวกแอปเปิ้ล กันครับ Apple Watch สมาร์ทวอชท์จากแบรนด์แอปเปิ้ลเราทุกคนต่างทราบกันดีอยู่แล้วว่า Apple เป็นแบรนด์โดดเด่น ในเรื่องเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าอยู่แล้ว ซอฟแวร์ และฮาร์ดแวร์ ล้วนมีคุณภาพที่สูง วัสดุที่ใช้ก็มีความแข็งแรง ซึ่งด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลนี้ มันจึงไม่แปลกเลย ที่แอปเปิ้ลเป็นแบรนด์ที่มีสาวกอยู่ทั่วโลก สำหรับ Apple Watch ถือเป็นอุปกรณ์ที่พร้อมจะสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพที่ดี ด้วยฟังก์ชันต่าง ๆ มากมายที่พร้อมให้คุณได้สัมผัส ซึ่งในปัจจุบัน Apple Watch ได้มีการเปิดตัวออกมาแล้ว หลายรุ่น อาจจะยากสำหรับการตัดสินใจ ฉะนั้นวันนี้เราไปดูกันว่า มีรุ่นอะไรบ้างที่น่าสนใจ ? และรุ่นไหนที่เหมาะกับคุณที่สุด ?
เลือกซื้อ Apple Watch อย่างไร ?1. เลือกจากฟังก์ชันการใช้งานอย่างที่บอกครับ Apple Watch มีอยู่หลายรุ่น หลายราคาครับ โดยในแต่ละรุ่นก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นหากคุณต้องการใส่ไปทำงานเป็นหลัก คุณก็ไม่จำเป็นต้องเลือก Apple watch ที่มีโหมดสำหรับออกกำลังการโดยเฉพาะ เพราะถ้ายิ่งรุ่นนั้น ๆ มีฟังก์ชันที่เสริมเกี่ยวกับการออกกำลังกายมากเท่าไหร่ ราคาก็จะยิ่งสูงขึ้นด้วย ดังนั้นถ้าหากคุณไม่ได้เน้นสวมใส่เพื่อออกกำลังกายคุณก็สามารถเลือกรุ่นธรรมดาที่ราคาไม่สูงได้ครับ และไม่ต้องเป็นห่วง รุ่นธรรมดายังคงมีฟังก์ชันเกียวกับสุขภาพมาให้อยู่ครับ 2. เลือก Apple Watch ที่เป็นรุ่น GPS หรือ GPS+Cellular อันไหนดี ?ยังคงเกี่ยวข้องอยู่กับฟังก์ชันการใช้งานครับ สำหรับการเลือก Apple Watch ที่เป็น รุ่น GPS หรือ รุ่น GPS+Cellular หลาย ๆ คนคิดไม่ตกว่า จะเลือกซื้อรุ่นไหนดี ? ฉะนั้นเราไม่ทำความรู้จักกับทั้งสองรุ่นนี้ให้ดีกันก่อนครับ จะเห็นได้ว่าทั้งสองรุ่นมีความสามารถที่แตกต่างกัน ฉะนั้นคุณก็สามารถลองพิจารณาจากความต้องการในการใช้การใช้งาน หรือลักษณะการใช้งานของคุณได้ อย่างเช่น ถ้าคุณเป็นคนที่ติดมือถือ มือถืออยู่ใกล้ตัวตลอดเวลา คุณก็สามารถที่จะเลือก รุ่น GPS ได้ เพราะคุณไม่ต้องใช้ Cellular แล้วจะจ่ายแพงขึ้นทำไม ? เว้นเสียแต่ว่าคุณจะมีงบประมาณเหลือมากพอ และคุณอยากที่จะมี Cellular เผื่อเอาไว้ สำหรับตอน ไปวิ่ง, เล่นกีฬา, ว่ายน้ำ, เข้าฟิตเนส หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ไม่อยากนำมือถือติดตัวไปด้วย 3. ขนาด และวัสดุ ที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณควรเลือกซื้อขนาดหน้าจอของ Apple Watch ที่เหมาะกับขนามข้อมือของคุณสำหรับในปัจจุบัน Apple Watch แต่ละรุ่นมีทั้ง ขนาด, วัสดุตัวเรือน และตัวสายรัดข้อมือ ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเราขอแนะนำให้คุณเลือกตามความต้องการของคุณเองครับ โดยพิจารณาได้ดังต่อไปนี้ 3.1) ขนาด : ซึ่งถ้าหากคุณเลือกรุ่นที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ การแสดงผลต่าง ๆ แน่นอนครับ มันจะทำให้มองได้ง่าย แต่ถ้าคุณเป็นผู้หญิง ที่มีข้อมือเล็ก ๆ การเลือกขนาดหน้าจอที่ใหญ่เกินไป เวลาใส่มันก็จะดูไม่สวย ฉะนั้นควรเลือกให้เหมาะสมกับข้อมือของคุณ ซึ่ง Apple Watch แต่ละรุ่นจะมี 2 ขนาดหน้าจอให้เลือก นั่นคือ รุ่น 40 มม. (324 × 394) และ รุ่น 44 มม. (368 × 448) 3.2) วัสดุตัวเรือน : ในส่วนของวัสดุตัวเรือนก็มีทั้ง สแตนเลสสตีล, อะลูมิเนียม และไทเทเนียมครับ ซึ่งคุณก็สามารถที่จะเลือกได้ตามความต้องการครับ โดยมันจะต่างกันที่ความสวยงาม ความแข็งแรง และราคา 3.3) สายข้อมือ : ส่วนสายข้อมือวัสดุก็จะมีเป็น Sport band, Milanese loop และ Nike Sport band เอาไว้ให้คุณเลือกสำหรับใส่ออกงาน ใส่ออกกำลังกาย หรือใส่ไปทำงาน คุณก็สามารถเลือกได้ตามสไตล์ของตัวเองได้เลยครับ รีวิว Apple Watch Series 6 GPS แอปเปิ้ลวอช รุ่นท๊อป ในราคาเบา ๆApple Watch Seriesราคา 8,040 บาท* Apple Watch Series 6 อดีตแอปเปิ้ลวอช รุ่นท๊อป ที่เปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2020 ครับ ซึ่งถึงแม้รุ่นนี้จะกลายเป็นรุ่นเก่าไปแล้ว แต่ด้วยราคาที่ลดลงมาก ทำให้รุ่นนี้มีความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นครับ โดยทำงานด้วยชิพ S6 โปรเซสเซอร์ Dual-core 64 บิต ที่ทำงานได้เร็วกว่ารุ่น Series 5 ถึง 20% และยังช่วยประหยัดพลังงานมากขึ้น พร้อมกับชิพ W3 ที่เป็นชิพระบบไร้สาย และชิพ U1 ที่เป็นอัลตร้าไวด์แบนด์ ทำให้รองรับ Wi-Fi แบบ 5GHz ได้ ในส่วนคุณสมบัติต่าง ๆ รุ่นนี้ก็มีครบครันครับ พูดง่าย ๆ ว่าแทบไม่ได้ต่างไปจาก Watch Series 6 เลย และมีประสิทธิภาพน้อยกว่ารุ่นใหม่อย่าง Watch Series 7 เล็กน้อยเท่านั้นครับ โดยเฉพาะในด้านสุขภาพที่มีเซ็นเซอร์สำคัญ ๆ มีทั้ง เซ็นเซอร์การวัดออกซิเจนในเลือดได้ (SpO2) และเซ็นเซอร์ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) พร้อมกับการเช็คจังหวะการเต้นของหัวใจ หากพบสิ่งปกติ นาฬิกาจะมีการแจ้งเตือนทันที นอกจากนี้ยังมีทั้ง ติดตามกิจกรรมประจำวัน, ดูแนวโน้มในแอปพลิเคชันฟิตเนสใน iPhone เพื่อวัดค่าการออกกำลังกายต่าง ๆ ปรับปรุงให้ดีขึ้น การซิงค์เพลง พ็อดคาสท์ และหนังสือ ที่คุณชอบ เพื่อให้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมของคุณได้ มีเข็มทิศ ระบบการอ่านระดับความสูงแบบเรียลไทม์ มีการตรวจจับการล้ม พร้อม SOS ฉุกเฉิน แจ้งให้หน่วยฉุกเฉินให้กับคุณโดยอัตโนมัติ ซึ่งมันขอรับความช่วยเหลือได้ทั่วโลก ถือเป็นแอปเปิ้ลวอชราคาประหยัดที่คุ้มค่ามาก ๆ ครับ สามารถดูแลสุขภาพของคุณได้โดยตรง คอยเฝ้าติดตามกิจกรรมของคุณตลอดเวลา จุดเด่น
ข้อควรพิจารณา
รีวิว Apple Watch SE (GPS) แอปเปิ้ลวอช ตัวประหยัดรูปภาพจาก apple.comราคา 9,900 บาท* หากคุณกำลังมองหา Apple Watch เรือนแรกของคุณ Apple Watch SE คือ รุ่นที่เราจะแนะนำให้กับคุณครับ โดย Watch SE เปิดตัวมาพร้อม ๆ กับ Watch Series 6 ครับ ซึ่งถือเป็นแอปเปิ้ลวอชระดับเริ่มต้นที่มีราคาประหยัด แต่มาพร้อมกับสเปกที่จัดเต็ม ใช้จอภาพ Retina ที่มีทั้ง 40 มม. และ 44 มม. พร้อมขอบจอที่บางขึ้น โดยมีความกว้างเพียง 3 มม. เท่านั้น ส่งผลให้รุ่นนี้มีหน้าจอใหญ่ขึ้นจาก Watch Series 3 กว่า 30% ครับ ช่วยให้คุณเห็นข้อมูลต่าง ๆ ได้มากขึ้น โดยทำงานด้วย SiP รุ่น S5 โปรเซสเซอร์ แบบ Dual-core 64 บิต ที่เร็ว แรง กว่า S3 ที่อยู่ใน Watch Series 3 ถึง 2 เท่า ช่วยให้การทำงานที่รวดเร็ว ทันใจ สำหรับคุณสมบัติด้านสุขภาพและการติดตามการออกกำลังกาย รุ่นนี้มีให้ครบครันครับ ซึ่งคุณสมบัติด้านสุขภาพ จะมีเซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบออปติคัล ที่ช่วยวัดอัตราการเต้นของหัวใจ หากตรวจพบอัตราการเต้นของหัวใจที่ผิดจังหวะ เร็วหรือช้าผิดปกติ จะมีการแจ้งเตือนทันที มีการดูแลความปลอดภัยของคุณ จากเหตุการณ์ฉุกเฉิน ด้วยคุณสมบัติที่มีอยู่ใน Watch Series 7 ทั้ง ระบบ SOS ฉุกเฉิน พร้อมการโทรฉุกเฉินได้ทั่วโลก และการตรวจจับการล้ม โดยการตรวจจับแรง G (สูงสุดถึง 32G) นอกจากนี้ยังมีการติดตาม การนอนหลับ, เข็มทิศ, มาตรวัดความสูงที่ทำงานแบบเรียลไทม์, เซ็นเซอร์ตรวจวัดแสงโดยรอบ, GymKit ช่วยให้การออกกำลังกายง่ายขึ้น และอื่น ๆ ครับ จุดเด่น
ข้อควรพิจารณา
รีวิว Apple Watch Series 7 (GPS) ตัวเรือนอะลูมิเนียม พร้อมสาย Sport Bandรูปภาพจาก apple.comราคา 13,200 บาท* Apple Watch Series 7 เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2021 ครับ ซึ่งในปัจจุบันถือเป็น Apple Watch ที่ดีที่สุด แต่ยังไม่ถือเป็นการอัพเกรดครั้งใหญ่จาก Watch Series 6 ครับ ซึ่งรุ่นนี้มาพร้อมจอที่ใหญ่ขึ้น มีการปรับขนาดใหม่ เป็น 41 มม. และ 45 มม. ใช้จอภาพ Retina แบบติดตลอดเวลา พร้อมมีการทำขอบหน้าจอให้บางเฉียบ เพื่อให้ได้พื้นที่จอมากขึ้น โดยมากกว่า Watch SE เกือบ 20% และมากกว่า Series 3 ถึง 50% เลยทีเดียว และเพิ่มคีย์บอร์ดแบบ QWERTY เข้าไป ช่วยให้การใช้งานที่ง่ายขึ้น สำหรับรุ่นที่เราเลือกมานี้จะเป็นรุ่น ตัวเรือน อะลูมิเนียม ครับ ซึ่งจะมีสีให้เลือกถึง 5 สี โดยใช้กระจกหน้าจอ Ion‑X ที่แข็งแรง ทนทาน ทำงานด้วย SiP รุ่น S7 พร้อมโปรเซสเซอร์ Dual‑core 64 บิต ที่เร็วกว่า Watch SE ถึง 20% ซึ่งในด้านคุณสมบัติต่าง ๆ ก็ตามสไตล์รุ่นไฮเอนด์ครับ มาพร้อมคุณสมบัติด้านสุขภาพที่ล้ำสมัยมากที่สุด เท่าที่เคยมีมา ใน Apple Watch รุ่นก่อนหน้า ซึ่งรุ่นนี้อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ มากมายครับ เริ่มที่ฝาหลังคริสตัล มาพร้อมกับไฟ LED จำนวน 4 ดวง รวมไปถึงเซ็นเซอร์วัดระดับออกซิเจนในเลือด (SpO2) เซ็นเซอร์ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) และก็จะมีการแจ้งเตือนเมื่อนาฬิกาตรวจพบ การเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ ไม่สม่ำเสมอ มีการใส่คุณสมบัติ SOS สำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน มีทั้ง การโทรขอความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ไปพร้อม ๆ กับการแจ้งเตือนให้คนในรายชื่อติดต่อฉุกเฉินของคุณทราบด้วย นอกจากนี้ยังตรวจจับการล้มอย่างรุนแรงได้ หากตรวจพบจะมีการโทรหาหน่วยฉุกเฉินให้กับคุณโดยอัตโนมัติ จุดเด่น
ข้อควรพิจารณา
รีวิว Apple Watch Series 6 (GPS + Cellular) แอปเปิ้ลวอช ตัวเรือนอะลูมิเนียม สาย Sport Bandรูปภาพจาก apple.comราคา 14,900 บาท* Apple Watch Series 6 เคยเป็นแอปเปิ้ลวอชรุ่นที่ดีที่สุดของ Apple มาพร้อมเทคโนโลยีด้านสุขภาพแห่งอนาคตมากมาย นำทุกสิ่งที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับ Series 5 มาใช้ ไม่ว่าจะเป็น รูปลักษณ์ที่ดูมีสไตล์ คุณสมบัติด้านการออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยม เครื่องมือด้านสุขภาพที่แม่นยำ การแจ้งเตือน และแอปฯ ที่ลื่นไหล พร้อมกับนำมาปรับปรุงให้ดีขึ้น ซึ่งรุ่นที่เราเลือกมาเป็น GPS + Cellular ทำให้คุณสามารถโทรออก ส่งข้อความ และดูเส้นทางได้ โดยที่ไม่ต้องมีโทรศัพท์อยู่กับตัว ดังนั้นหากคุณใช้ Watch Series 5 อยู่ เราขอแนะนำให้คุณข้ามไปที่ Series 7 ได้เลยครับ โดย Watch Series 6 มีทั้งตัวเรือนที่เป็น สแตนเลสกราไฟท์ และอะลูมิเนียม มีขนาด 40 มม. และ 44 มม. ซึ่งรุ่นที่เราเลือกมานี้เป็นตัวเรือนอะลูมิเนียม มีให้เลือก 5 สี ทำงานด้วยชิป S6 ที่ได้มีการปลดล็อกคุณสมบัติด้านต่าง ๆ ส่งผลให้เร็วกว่ารุ่น Series 5 ถึง 20% ส่วนหน้าจอใช้แบบแสดงผลตลอดเวลา โดยในเวลากลางวันมีการปรับให้สว่างขึ้นถึง 2.5 เท่า ส่วนในแง่ของคุณสมบัติต่าง ๆ รุ่นนี้มีให้คุณครบครัน เช่น การตรวจวัดออกซิเจนในเลือด (SpO2) เซนเซอร์วัดระยะความสูงแบบเรียลไทม์ เซ็นเซอร์ตรวจจับการล้ม พร้อมกับมีการโทรหาหน่วยฉุกเฉินโดยอัตโนมัติ ระบบ SOS ให้คุณขอความช่วยเหลือจากข้อมือคุณได้ทันที อีกทั้งยังมีการวัดค่าการออกกำลังกายที่ครอบคลุม จุดเด่น
ข้อควรพิจารณา
รีวิว Apple Watch Nike Series 7 (GPS + Cellular) ตัวเรือนอะลูมิเนียม สาย Nike Sport Bandรูปภาพจาก apple.comราคา 15,766 บาท* Watch Nike Series 7 เป็นรุ่นย่อยของ Watch Series 7 ครับ มีสเปกเดียวกัน แต่ต่างกันที่ดีไซน์ และคุณสมบัติที่เพิ่มเข้ามาครับ โดยรุ่นนี้มาพร้อมตัวเรือนอะลูมิเนียมเกรดอวกาศ และให้ความสปอร์ตด้วยสาย Nike Sport Band ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษจากแบรนด์ดังอย่าง Nike โดยจะใช้จอภาพ Retina แบบติดตลอด ขนาดใหญ่ 41 มม. และ 45 มม. พร้อมกับทำขอบจอให้บางลง ทำให้มีพื้นที่หน้าจอเพิ่มขึ้นจาก Watch Series 6 ถึง 20% ครับ ทำให้มีการแสดงผลข้อมูลได้ครบถ้วน ไม่ว่าจะดูหรือใช้งานอะไร ก็ทำได้ง่ายกว่าเดิม และรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับระบบเซลลูลาร์ในตัว คุณจึงมีอิสระในการติดตามข่าวสารอย่างเต็มที่ ในด้านสเปก Watch Nike Series 7 ทำงานด้วยชิป S7 Dual core 64 บิต เช่นเดียวกับ Watch Series 7 รุ่นปกติครับ แต่จะมีการเพิ่มคุณสมบัติเข้าไปแทน โดยเน้นให้เหมาะกับการออกกำลังกายมากขึ้น ด้วยแอปฯ Nike Run Club ที่ช่วยสร้างแรงจูงใจ ด้วยคำแนะนำในการวิ่งที่มีประโยชน์ พร้อมมีการติดตามกิจกรรมการออกกำลังกายอื่น ๆ ที่คุณชื่นชอบ ให้คุณตรวจสอบกิจกรรมของคุณได้ง่าย ๆ บน Apple Watch และสามารถดูแนวโน้มในแอปฯ ฟิตเนสบน iPhone นอกจากนี้คุณสมบัติด้านสุขภาพที่ล้ำสมัยที่สุด ใน Apple Watch ของ Watch Series 7 ก็ยังอยู่ครบถ้วน ไม่ตัดออกเลย เช่น เซ็นเซอร์วัดระดับออกซิเจนในเลือด (SpO2) ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) คุณสมบัติ SOS ฉุกเฉิน และอื่น ๆ จุดเด่น
ข้อควรพิจารณา
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
บทส่งท้ายมาถึงตรงนี้ เราหวังว่าคุณคงได้รู้จัก นาฬิกาอัจฉริยะ Apple Watch กันมากขึ้นแล้วนะครับ ซึ่งเราจะเห็นว่านาฬิกาอัจฉริยะมันมีประโยชน์หลายด้าน ทั้ง ด้านความบันเทิง, การสื่อสาร, การฟังเพลง, โทรเข้า-โทรออก, ข่าวสาร, การแจ้งเตือนต่าง ๆ และมีคุณสมบัติในด้านการติดตามสุขภาพด้วยทั้ง การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ผลการออกกำลังกาย เพื่อให้คุณได้เห็นพัฒนาการด้านสุขภาพ และสามารถนำข้อมูลต่าง ๆ มาวิเคราะห์เพื่อวางแผนให้เหมาะกับสุขภาพของเราได้ ซึ่งมันช่วยให้เราไปได้ถูกทางมากขึ้น สุดท้ายนี้เราก็หวังว่า บทความนี้มันจะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจในการเลือกซื้อ Apple Watch ของคุณนะครับ แต่หากรุ่นที่เราได้เลือกมามันมีราคาที่สูงจนเกินไป เราก็ได้รวมรวม สมาร์ทวอทช์ ไม่เกิน 2,000 บาท และ สมาร์ทวอทช์ ไม่เกิน 5,000 บาท เอาไว้แล้วครับ แต่ถ้าหากใครที่เป็นสายออกกำลังกายจริง ๆ ต้องการสมาร์ทวอทช์รุ่นที่ดีกว่านี้ เราขอแนะนำเจ้า Garmin Fenix 6x Pro Solar ครับ ประสิทธิภาพสุดยอดแน่นอน |