ใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์แบบ ก

ก.ล.ต. เพิ่มใบอนุญาตตัวกลางด้านตราสารทุนและการจัดการกองทุนส่วนบุคคล...

Posted by สำนักงาน กลต. on Friday, March 12, 2021

                 ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ที่ กน. 10/2541
เรื่อง แบบคำขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภท
การจัดการกองทุนส่วนบุคคล หลักฐานประกอบคำขอ
และระยะเวลาการยื่นคำขอ
(ฉบับที่ 2)
____________________
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และข้อ 8 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2539) ออกตามความในพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 คณะกรรมการ ก.ล.ต. ออกข้อกำหนดไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 การขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนส่วนบุคคล ให้ผู้ที่ประสงค์จะขอรับใบอนุญาตดังกล่าวยื่นคำขอรับใบอนุญาตตามแบบ 90-7 พร้อมด้วยหลักฐานประกอบคำขอตามที่ระบุไว้ในประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กน. 12/2539 เรื่อง แบบคำขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการจัดการกองทุนส่วนบุคคล หลักฐานประกอบคำขอ และระยะเวลาการยื่นคำขอ ลงวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2539 โดยให้ยื่นได้ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2541 เป็นต้นไป
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2541
(นายธารินทร์ นิมมานเหมินท์)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ประธานกรรมการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

     บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อบริษัทกับกระทรวงพาณิชย์เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2553 จากชื่อเดิมคือบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ยูไนเต็ด จำกัด ซึ่งจัดตั้งเป็นบริษัทจำกัดตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม 2551 ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว 300 ล้านบาท บริษัทได้รับใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจประเภทต่างๆ ดังนี้

  • ใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ แบบ ก. จากกระทรวงการคลัง ใบอนุญาตเลขที่ ลค-0013-01 ตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2554
  • ใบอนุญาตประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดทรัพย์ (ก.ล.ต.) การเป็นผู้จัดการเงินทุนสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ใบอนุญาตเลขที่ สด04-0013-0 ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2554
  • ใบอนุญาตประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) การเป็นที่ปรึกษาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าใบอนุญาตเลขที่ สด03-0013-11 ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2554

บริษัทได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) 

  • ให้เริ่มประกอบธุรกิจการจัดการกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2554
  • ให้เริ่มประกอบธุรกิจการจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2555
  • ให้เริ่มเป็นผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอหังสาริมทรัพย์เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2557

เพื่อขยายการประกอบธุรกิจของกลุ่มบริษัทให้มีบริการที่หลากหลายขึ้น และเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้สนใจลงทุนโดยการลงทุนผ่านกองทุนรวม และกองทุนส่วนบุคคลซึ่งมีผู้บริหารจัดการลงทุนที่เป็นมืออาชีพดูแลจัดการลงทุนให้

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด จะเป็นบริษัทที่มีมาตรฐานประกอบธุรกิจ โดยคำนึงถึงหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีโดยมุ่งเน้นให้มีการปฏิบัติงานที่คำนึงและรักษาผลประโยชน์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าภายใต้หลัก

GULF ทุ่ม 1.09 หมื่นล้านบาท ซื้อหุ้น THCOM 41.13% จาก INTUCH -ทำเทนเดอร์ อีก 58.87% ในราคาเดียวกันที่ 9.92 บาท/หุ้น หวังลงทุนธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยี ต่อยอดสู่ธุรกิจ New Space ด้าน INTUCH แจ้งเตรียมนำเงินที่ได้จากการขายหุ้น จ่ายปันผล

 

นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 12/2565 เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2565 อนุมัติให้บริษัทฯ และหรือ บริษัท กัลฟ์ เวนเชอร์ส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ รวมเรียกว่า(“กลุ่มบริษัทฯ”)

 

เข้าซื้อหุ้นสามัญใน บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือTHCOM จากบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH จำนวนทั้งสิ้น 450,870,934 หุ้น คิดเป็น 41.13% ของหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ THCOM ในราคาหุ้นละ 9.92 บาท มูลค่ารวมประมาณ 4,472.64 ล้านบาท  โดยจะชำระเป็นเงินสด

 

ทั้งนี้การเข้าซื้อหุ้นTHCOM จาก INTUCH จะเกิดขึ้นต่อเมื่อเงื่อนไขบังคับก่อนที่สำคัญดังต่อไปนี้ ได้สำเร็จเสร็จสิ้น หรือได้รับการยกเว้นไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนโดยกลุ่มบริษัทฯ ซึ่งในเบื้องต้น บริษัทฯ คาดว่าเงื่อนไขบังคับก่อนทั้งหมดน่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1ของปี 2566

 

 

ภายหลังจากการเข้าซื้อหุ้นสามัญ THCOM  41.13%จาก INTUCH ดังกล่าวข้างต้นเสร็จสิ้น กลุ่มบริษัทฯ จะดำเนินการซื้อหุ้นสามัญส่วนที่เหลือทั้งหมดของ THCOM โดยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์(เทนเดอร์)ทั้งหมดของ THCOM จำนวนทั้งสิ้น 645,231,020 หุ้น (คิดเป็นร้อยละ 58.87 ของหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ THCOM)

 

ในราคาเดียวกันกับราคาซื้อหุ้นสามัญ THCOM จาก INTUCH คือ ราคาหุ้นละ 9.92 บาท โดยคิดเป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 6,400.69 ล้านบาท และ/หรือการซื้อหุ้นสามัญ THCOM ผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯในราคาที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ และ/หรือราคาอื่นใด และ/หรือวิธีอื่นใด

 

ทั้งนี้ มูลค่าการลงทุนรวมจะอยู่ภายใต้วงเงินลงทุนสูงสุดที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัทฯ โดยกลุ่มบริษัทฯ อาจทำการซื้อขายหุ้นสามัญ THCOM ผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ และ/หรือวิธีอื่นใดดังกล่าวในช่วงเวลาหลังการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ THCOM เสร็จสิ้น 

 

สำหรับการซื้อหุ้น THCOM รวมการทำคำเสนอซื้อ จะใช้เงินลงทุนมูลค่าเงินลงทุนรวมประมาณ 10,873.33 ล้านบาท

 

 

ใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์แบบ ก

ใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์แบบ ก

 

อย่างไรก็ตามการลงทุนดังกล่าว มีความน่าสนใจและเหมาะสมกับบริษัทฯ ในหลายมิติ ทั้งด้านยุทธศาสตร์ การเติบโต และเพิ่ม ศักยภาพการต่อยอดไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดังนี้

 

  •  เป็นการลงทุนในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยี ซึ่งมีโอกาสในการพัฒนาธุรกิจได้หลายรูปแบบอย่าง ต่อเนื่อง
  • เป็นบริษัทไทยที่ประกอบธุรกิจในหลากหลายประเทศ ไม่ได้อิงรายได้จากภายในประเทศ (Local based) เพียง อย่างเดียว
  •  มีโอกาสในการต่อยอดไปสู่ธุรกิจ New Space ที่มีศักยภาพการเติบโตในอนาคต

 

สำหรับแหล่งที่มาของเงินทุนที่ใช้ เงินทุนที่ใช้สำหรับธุรกรรมการซื้อขายหุ้นนั้นจะเป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ และ/หรือวงเงินสินเชื่อจาก สถาบันการเงิน และ/หรือการออกหุ้นกู้ และ/หรือตราสารหนี้อื่น ๆ

 

นายคิมห์ สิริทวีชัย กรรมการผู้อำนวยการ  INTUCH  แจ้งตลาดหลักทรัพย์ ฯ  ระบุ เตรียมจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2565 ในวันที่ 28 ธ.ค.2565 เวลา 10.00 น. เพื่อพิจารณาอนุมัติขายหุ้นไทยคม สัดส่วน 41.13% ให้ GULF สำหรับเงินที่ได้จากการขายหุ้น THCOM บริษัทจะพิจารณามาจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นของ INTUCH

 

ทั้งนี้ ภายหลังจากการจำหน่ายหุ้น THCOM ให้กับกลุ่มบริษัท GULF จะทำให้ THCOM สิ้นสภาพการเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ฯ

 

โบรกฯ มองบวกกับ INTUCH แต่เป็นกลาง GULF

 

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซียพลัส (ASPS) ระบุ มีมุมมองบวกกับข่าวนี้ต่อ INTUCH เพราะมองว่าเป็นการโครงสร้างการลงทุนของ INTUCH ให้สอดคล้องกับนโยบายใหม่ ที่เน้นลงทุนเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ ในขณะที่ THCOM แทบไม่ได้มีนัยสำคัญต่อผลการดำเนินงานของ INTUCH 

 

โดยปี 2564 ที่ผ่านมา THCOM มีกำไรสุทธิเพียง 144 ล้านบาท หรือเพียง 1% ของกำไรสุทธิทั้งหมดในปี 2564ของ INTUCH อีกทั้งยังช่วยลดภาระในอนาคตอันใกล้ที่จะเกิดขึ้นจาก THCOM ซึ่งเตรียมจะประมูลวงโคจรดาวเทียมดวงใหม่เพิ่มจาก กสทช. ซึ่งจะต้องใช้เงินสร้างดาวเทียมดวงใหม่ 100 – 200 ล้านเหรียญสหรัฐ/ดวง 

 

นอกจากนี้คาดการขายหุ้น THCOM จะส่งผลบวกในระยะสั้นจากกระแสเงินสดที่จะเข้ามาเพิ่มให้ INTUCH นำไปลงทุนในโครงการอื่นๆได้ รวมทั้งคาดบริษัทจะสามารถบันทึกกำไรจากการขายหุ้นได้ราว 141 ล้านบาท สำหรับผลประกอบการในงวดไตรมาส1/66

 

 

ด้านบล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บล.ดาโอ มีมุมมองเป็นกลางต่อ GULF สำหรับดีลดังกล่าว ทั้งนี้หาก GULF สามารถซื้อหุ้น THCOM ได้ทั้งหมด 100% ดีลจะมีมูลค่ารวมราว 1.09 หมื่นล้านบาท โดยหากใช้เงินทุนหมุนเวียนทั้งหมดจะมี upside ต่อประมาณการกำไรปกติของ GULF ปี 2023E-24E ราว 2% แต่หากใช้เงินกู้ในการ funding ทั้งหมด ดอกเบี้ยจ่ายจะหักล้างกำไรของ THCOM (อิงประมาณการ consensus กำไร THCOM 300-400 ล้านบาท) ทำให้ไม่มีผลต่อกำไรของ GULF ในระยะสั้นอย่างมีนัยสำคัญ
         

เราเชื่อว่าการจัดโครงสร้างผู้ถือหุ้นใน THCOM ใหม่ เพื่อให้บริษัทสามารถเข้าประมูลวงโคจรดาวเทียมใหม่ในฐานะบริษัทคนไทยอย่างเต็มตัว ในขณะที่ราคาซื้อ THCOM มี discount จากราคาตลาดและ consensus อยู่ 10-20% ซึ่งหากคิดเป็น gap contribution per share ของ GULF จะอยู่ที่ 1-2 บาท/หุ้น เบื้องต้น GULF เรายังคงคำแนะนำ "ถือ" ราคาเป้าหมาย 50.00 บาท อิง SOTP