Show คู่มือการปิดบริษัทอย่างละเอียด เพื่อธุรกิจขนาดเล็กและขนาดใหญ่โดยเฉพาะ เมื่อเริ่มต้นทำธุรกิจแน่นอนว่าเมื่อเวลาผ่านไป ธุรกิจอาจจะไม่ได้เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุสุดวิสัยอะไร ที่ส่งผลให้ต้องปิดกิจการลง การเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับการปิดบริษัทเป็นเรื่องที่ควรจะต้องรู้ไว้ ไม่ว่าจะธุรกิจขนาดเล็กหรือธุรกิจขนาดใหญ่ เพราะแน่นอนว่าเมื่อเราต้องเจอกับสภาวการณ์ที่เริ่มมีสัญญาณไม่ดี บริษัทไม่ควรที่จะต้องปล่อยให้ถึงวันที่พังพินาศย่อยยับไม่เป็นท่า หรือเรียกว่าเจ๊งอย่างสมบูรณ์ ซึ่งก็เปรียบเสมือนได้กับการซื้อหุ้นนั่นแหละ มันเรารู้ว่าสัญญาณมันดิ่งแล้ว การถอนตัวก่อนก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการรับมือกับความเลวร้ายนั่นเอง อย่างไรก็ตามการปิดบริษัทควรจะต้องทำอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งก็จะได้อธิบายไว้ทีละขั้นอย่างละเอียด ดังต่อไปนี้ เช็ค 10 สัญญาณเตือนว่าธุรกิจเข้าขั้นวิกฤต ก่อนจะตัดสินใจปิดกิจการ แน่นอนว่าเจ้าของธุรกิจหรือผู้ประกอบการทั้งหลายก็ต้องพบเจอกับวิกฤต ที่ทำให้ต้องมาปรึกษาหารือในที่ประชุมแล้วว่า เราอาจจะต้องปิดบริษัทหรือปิดกิจการลงนั้นเอง แต่สัญญาณอะไรล่ะที่เป็นตัวบ่งชี้ปัญหาเหล่านั้นว่า แบบนี้แหละชัดเลย เราจึงได้รวบรวมสัญญาณเตือนครั้งใหญ่ที่อาจจะส่งผลทำให้บริษัทปิดตัวลง ซึ่งแบ่งได้เป็น 10 อย่าง ดังต่อไปนี้
สาเหตุการเลิกกิจการ ปิดบริษัทการเลิกกิจการอย่างแท้จริงสามารถเป็นไปได้กรณี ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วผู้ถือหุ้นของบริษัทได้ตกลงเลิกทำกิจการ ในนามบริษัทก็เลยมาจดทะเบียนเลิกบริษัทกัน ทั้งนี้บริษัทต้องแยกประเภทให้ออกว่าเกิดจากสาเหตุอะไรเป็นหลัก ดังต่อไปนี้
คณะกรรมการผู้ถือหุ้นของบริษัทได้ลงมติในที่ประชุมกันแล้วว่าต้องการเลิกกิจการหรือปิดบริษัท และถ้ามีเจ้าหนี้หรือลูกหนี้ สามารถตกลงกันเรื่องการชำระหนี้ได้และยินยอมเลิกกิจการได้ โดยจะต้องเลิกและชำระบัญชีบริษัทจำกัดในกรณีที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติพิเศษให้เลิกบริษัท โดยดำเนินการจัดประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น เพื่อลงมติพิเศษให้เลิกบริษัทด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนหุ้นที่เข้าประชุม
กล่าวคือบริษัทจะต้องถูกยกเลิกกิจการไม่ว่าจะเห็นชอบในที่ประชุมหรือไม่ก็ตามเนื่องจากกฎหมายบังคับปิดกิจการ โดยจะมีเหตุผลจากกฎหมายว่าด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
บางกิจการหรือบริษัทจำกัดจะต้องถูกปิดบริษัทลงโดยจะถูกยินยอมจากมติที่ประชุมบริษัทหรือไม่ก็ตาม ซึ่งก็จะมีความคล้ายกันกับการปิดตัวลงด้วยเหตุทางกฎหมาย เพราะเหตุที่ศาลจะสั่งเลิกบริษัทจะมีผลบังคับทางกฎหมาย ซึ่งเหตุผลเลิกกิจการด้วยคำสั่งศาลจะมีดังต่อไปนี้
เริ่มต้น..เลิกกิจการหรือปิดบริษัทต้องทำอย่างไรดี ในส่วนขั้นตอนการเริ่มต้นจะค่อนข้างวุ่นวายเกี่ยวข้องกับเรื่องของขั้นตอนตามกฎหมายสักเล็กน้อย โดยเมื่อมีการตกลงกันแล้วว่าจะมีการเลิกกิจการ หรือปิดบริษัทลง จะต้องมีขั้นตอนตามกฎหมาย ดังต่อไปนี้
(กรณีการชำระบัญชีปรากฏว่าทรัพย์สินไม่พอชำระหนี้สิน ให้ผู้ชำระบัญชีร้องขอต่อศาล เพื่อให้ศาลสั่งให้บริษัทจำกัดล้มละลาย)
และในกรณีชำระบัญชีไม่เสร็จเกินกว่า 1 ปี ผู้ชำระบัญชีต้องจัดประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อครบปีทุกปี เพื่อรายงานความเป็นไปของการชำระบัญชี
อย่างไรก็ตามขั้นตอนการเลิกกิจการเหล่านี้สามารถปรับได้ตามขนาดหรือรูปแบบกิจการ หากเป็นธุรกิจขนาดเล็กซึ่งเป็นธุรกิจที่ทำกันเอง มีผู้ถือหุ้นที่ไว้ใจได้ หรือเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ก็สามารถตกลงกันเองได้โดยไม่จำเป็นต้องมีวาระการประชุมก็ได้ เซ็นเอกสารยินยอมรวมกันก็เป็นอันเสร็จสิ้นได้เลย ขั้นตอนการปิดบริษัทขั้นตอนการปิดบริษัท (ตั้งแต่จดทะเบียนเลิกตลอดจนชำระบัญชี)
ชั้นตอนแรก เราต้องเรียกประชุมผู้เป็นหุ้นส่วน โดยการส่งจดหมายลงทะเบียนหรือลงประกาศหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น เพื่อเรียกประชุมและกำหนดวันเวลาว่า จะประชุมเมื่อใด เมื่อถึงกำหนดวันเวลา เราก็เริ่มจัดทำการประชุมกันเพื่อตกลงว่า ต้องการเลิกบริษัท ,แต่งตั้งผู้ชำระบัญชี,ผู้สอบบัญชี, ผู้ถือหุ้นลงลายมือชื่อในคำขอเลิกบริษัท
หลังจากที่จดทะเบียนเลิกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อมาที่ต้องทำนั่นคือการจัดทำงบการเงินและยื่นแบบภาษีต่าง ๆ ให้ครบถ้วน ซึ่งหน้าที่นี้ทางผู้ประกอบการจะต้องให้นักบัญชีเข้ามาช่วยจัดการ โดยมีรายละเอียดดังนี้
เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นการดำเนินการเลิก Vat เป็นเอกสารแบบฟอร์มเลิกบริษัท หนังสือชี้แจงเลิกกิจการ สรรพากร ในส่วนข้อนี้สรรพากรแต่ละพื้นที่จะขอเอกสารไม่เหมือนกัน ควรจะต้องโทรไปเช็คก่อน ซึ่งเอกสารเอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นทั่วไปมีดังนี้
เมื่อคุณยื่น ภพ.09 แล้ว ทางคุณต้องรอให้สรรพากรเรียกตรวจประเด็นต่าง ๆที่เกี่ยวกับบริษัทคุณว่าได้นำส่งภาษีถูกต้องครบถ้วนหรือยัง ถ้าสรรพากรไม่ติดใจแล้ว ทางคุณจะได้รับ “หนังสือขีดชื่อเลขประจำตัวผู้เสียภาษีออกจากระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม” ทางคุณจึงจะสามารถจดเสร็จชำระบัญชีได้
หลังจากที่คุณได้ดำเนินการทุกขั้นตอนมาแล้วต่อมาก็คือต้องลงประกาศหนังสือพิมพ์ว่าบริษัทได้เลิกแล้ว มีใครคัดค้านหรือไม่ และในกรณีที่คุณจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและได้รับ “หนังสือขีดชื่อเลขประจำตัวผู้เสียภาษี” คุณก็จะต้องดำเนินการขั้นตอนสุดท้ายนั่นคือการจดเสร็จชำระบัญชี
และในส่วนจัดทำขั้นตอนข้อที่ 1. การจดทะเบียนเลิกบริษัทและขั้นตอนที่ 4 การจดเสร็จชำระบัญชี จะต้องดำเนินการที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ส่วนขั้นตอนที่ 2 การจัดทำงบการเงินและยื่นแบบภาษีต่าง ๆ ให้ครบถ้วน และขั้นตอนที่ 3 การเลิกที่กรมสรรพากร (กรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม) จะต้องดำเนินการที่กรมสรรพากร สรุป ขั้นตอนการเลิกบริษัท ปิดบริษัท
การเตรียมเอกสารสำคัญสำหรับการจดเลิกบริษัทเอกสารที่ต้องเตรียมไว้ ในส่วนของเอกสารที่ประกอบคำขอจดทะเบียนต่าง ๆ สามารถไปโหลดจากเว็บกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ถ้าบริษัทจดเข้าระบบภาษีมูลเพิ่มด้วย
ข้อมูลที่ต้องใช้
การเลิกบริษัทเกี่ยวข้องกับหน่วยงานรัฐบาลดังนี้
สรุปเพราะการปิดบริษัทนั้นแท้จริงแล้วมีความซับซ้อนวุ่นวายมากกว่าตอนเปิดกิจการหรือเริ่มจัดตั้งธุรกิจขึ้นมาเสียอีก หลายท่านคงคิดว่าทำไมจะปิดกิจการทั้งที ยังจะต้องยุ่งยากอีก ก็เพราะว่าการปิดบริษัทให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์แบบนั้นถือเป็นหนึ่งในเรื่องที่เจ้าของกิจการต้องดำเนินการรับผิดชอบต่อธุรกิจของตนเองให้เสร็จสมบูรณ์ตามกฎหมาย ดังนั้นเราไม่ควรจะต้องปล่อยให้เกินจะรับมือ หากเกิดสัญญาณไม่ดีแล้ว พอจะมีหนทางแก้ไขปัญหาตรงนั้นหรือไม่ ก็ควรปรึกษาหารือในที่ประชุมให้แน่ใจว่าอยู่ในระดับวิกฤตขนาดไหน หากไม่สามารถไปต่อไปได้แล้วก็ควรจะตัดสินใจเสียตั้งแต่วันที่ยังพอจะตั้งหลักได้เพื่อปรับตัวให้ทัน หรือในวันที่ย่ำแย่ที่สุดไม่เหลืออะไรและยังติดลบอีกก็ต้องพร้อมที่จะรับมือและก้าวต่อไปเพื่อวันใหม่ที่จะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน ติดต่อทีมงานปรึกษาเรื่อง “เลิกกิจการ” โทร.081-931-8341 อัพเดทครั้งสุดท้าย เมื่อ 7 ตุลาคม 2022
|