แยมมะมว่ งหาวมะนาวโห่ (Bengal Currants Jam) จดั ทาโดย เสนอ รายงานนเ้ี ปน็ ส่วนหน่งึ ของการศกึ ษา รายวชิ า โครงการ แยมมะมว่ งหาวมะนาวโห่ (Bengal Currants Jam) โดย เสนอ รายงานนี้เปน็ ส่วนหน่ึงของการศกึ ษา รายวชิ า โครงการ ใบรับรองโครงการ วิทยาลยั อาชวี ศกึ ษาชลบรุ ี โครงการ โดย ช้ัน ปวส.2/1 สาขาวชิ าการบญั ชี พิจารณาเหน็ ชอบโดย (นางนพิ ร จุทัยรตั น์) ช่ือโครงการ : แยมมะมว่ งหาวมะนาวโห่ (Bengal Currants Jam) ผู้จดั ทา : จดิ าภา เน่อื งจานงค์ ภชู เนศ สร้อยสน ขวัญฤดี งามสม สาขาวชิ า : การบัญชี ประเภทวชิ า : บริหารธรุ กิจ ปีการศึกษา : 2563 ช่ือสถานศกึ ษา : วิทยาลยั อาชวี ศึกษาชลบุรี บทคัดยอ่ วัตถุประสงค์การศึกษา 1. เพื่อพฒั นาผลิตภัณฑ์มะม่วงหาวมะนาวโห่ในรูปของแยม 2. เพ่ือ ผลการศึกษาพบวา่ ค ทส่ี ุด รองลงมาคอื รสชาติของแยมมะม่วงหาวมะนาวโห่ ผลิตภัณฑ์สะอาดและถูกหลกั อนามยั วัตถุดิบ คาสาคัญ : มะมว่ งหาวมานะโห่ แยม บรรจภุ ัณฑ์ กิตติกรรมประกาศ โครงการแยมมะม่วงหาวมะนาวโห่ (Bengal Currants Jam) ในคร้ังน้ี สามารถสาเร็จลุล่วง ขอขอบพระคุณบิดา มารดา
และผู้ปกครอง ทุกคนที่ได้ให้คาแนะนาช่วยเหลือสนับสนุนผู้ สุดท้ายน้ี คุณค่าและประโยชน์ของโครงการน้ี ทางผู้จัดทาขอมอบเป็นกตัญญูกตเวทิตาแด่ จดิ าภา เน่อื งจานงค์ สารบญั หนา้ ใบรบั
รองโครงการ…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………ก ความเปน็ มาและความสาคัญ……………………………………………………………………………………………………1 สารบญั (ตอ่ ) หนา้
ประชากรและกลุม่ ตวั อย่าง……………………………………………………………………………………………………..……………..47 สารบญั ตาราง หนา้ ตารางท่ี 1 แสดงความถ่แี ละร้อยละของกลมุ่ เปา้ หมาย จาแนกตามเพศ………………………………………………..51 สรุปเป็นรายดา้ น ดา้ นคณุ ภาพ (Quality) ดา้ นราคาและความคุ้มคา่ (Price and value) ด้านความสะดวกและความน่าสนใจ (Facility and Piquancy) ด้านรูปลกั ษณ์และความทันสมัย (Appearance and Modernization) สารบัญภาพ หน้า ภาพท่ี 1 ล้างมะมว่ งหาวมะนาวโหด่ ว้ ยน้าสะอาด…………………………………………………………………………………………80 บทที่ 1 ความเปน็ มาและสาคัญของปญั หา อาหารจาพวกผักผลไม้ เพราะเน่ืองจากผักผลไม้เหล่าน้ีจะช่วยในเรอื่ งของการบารงุ สุขภาพ เช่น ช่วยใน ซง่ึ ผคู้ นสว่ นใหญ่นามะม่วงหาวมะนาวโหม่
าเเปรรูปเป็น เเบบเเช่อิ่มเพื่อลดความฝาดของมะมว่ ง ดังนั้นคณะผู้จัดทาจึงได้ศึกษา
ค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์แยมมะม่วงหาวมะนาวโห่ ให้ วตั ถปุ ระสงค์ของโครงการ 2 ขอบเขตของการศึกษา อาเภอเมือง จังหวดั ชลบรุ ี 20000 จานวน 30 คน บรรจุภัณฑ์ท่ีมีความทันสมัย สะดวกต่อการพกพา และมีความน่าสนใจ อีกท้ังเป็นการประเมินความ 3. ดา้ นระยะเวลาทีใ่ ชใ้ นการศกึ ษา ต้งั แต่ 1 กรกฎาคม 2563 ถึง 30 ตุลาคม 2563 ประโยชนท์
ี่คาดวา่ จะได้รบั จากโครงการ นยิ ามศัพทเ์ ฉพาะ เป็นช่อ ผลอ่อนมีสีชมพูอ่อนจะมีรสเปรี้ยวฝาดและจะค่อยๆ เข้มเป็นสีแดง เมื่อสุกเต็มท่ีจะมีสีม่วงดามี 2. แยม หมายถึง
อาหารมีรสหวานประเภทหน่ึงใช้ทานคู่กับขนมปัง มีลักษณะคล้ายเยลลี่แต่ 3. บรรจุภัณฑ์ หมายถึง สินค้าทุกชนิดท่ีทาจากวัสดุใดๆ ที่นามาใช้สาหรับห่อหุ้ม ป้องกัน บทที่ 2 การดาเนนิ โครงการ แยมมะม่วงหาวมะนาวโห่ ณ บา้ นเลขที่ 119 ถนนเปรมใจราษฎร์
ตาบล 1. จุดประสงคร์ ายวชิ า สมรรถนะรายวิชา และคาอธิบายรายวิชา 1. จุดประสงคร์ ายวชิ า สมรรถนะรายวชิ า และคาอธิบายรายวชิ า ขนั้ ตอน วชิ าชพี ตามกระบวนการวางแผน ดาเนินงานแกไ้ ขปัญหาประเมินผลทารายงานและนาเสนอผลงาน ความรับผิดชอบ มวี ินัย คุณธรรม จรยิ ธรรม ความคิดริเร่ิมสรา้ งสรรค์ ขยัน อดทนและสามารถทางาน 1.2 สมรรถนะรายวิชา อยา่ งเปน็ ระบบ 4 1.2.2 เขยี นโครงการสร้างและหรือพฒั นางานตามหลกั การ 2. ทฤษฎกี ารวิเคราะหส์ ถานการณท์ างการตลาด (SWOT Analysis) ผบู้ ริหารกาหนดจุดแข็งและจุดอ่อนจากสภาพแวดลอ้ มภายในโอกาสและอุปสรรคจากสภาพแวดล้อม 2.1 การวเิ คราะห์ SWOT พิจารณาความสมั พนั ธร์
ะหว่างผลการประเมนิ สภาพแวดล้อมภายในระหวา่ งจดุ แข็งและจุดอ่อน และ 5 2.2 ความหมายของ SWOT ความสามารถและสถานการณ์ภายในองคก์ รท่เี ป็นบวก ซงึ่ องค์กรนามาใชป้ ระโยชน์ในการทางานเพ่ือ 2.2.2 จุดอ่อน W หรือ Weaknesses หมายถึง จุดด้อยหรือจุดอ่อนหรือข้อเสียเปรียบ
2.2.3 โอกาส O หรือ Opportunities หมายถึง ปัจจัยสภาพแวดล้อมภายนอกของ 2.2.4 อุปสรรค T หรือ Threats ข้อกาหนด หรือปัจจัยที่คุกคามการดาเนินงานของ 2.3 การประเมนิ สภาพแวดลอ้ มภายใน ระบุจดุ
แข็งและจุดอ่อนของธรุ กิจ แหล่งทีม่ าเบ้ืองต้นของข้อมลู เพือ่ การประเมนิ สภาพแวดล้อมภายใน 6 2.4 การประเมนิ สภาพแวดล้อมภายนอก อุปสรรค
การดาเนินงานของบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจทั้งในประเทศ 3. ทฤษฎวี เิ คราะหผ์ ู้บรโิ ภค (STP Strategy) ข้ันตอนสาคัญ 3 ขั้นตอน ดังน้ี การแบ่งส่วนตลาด (Market segmentation)/การเลือกตลาด 3.1.1 การแบ่งส่วนตลาด (Segmentation) หมายถึง เป็นกระบวนการแบ่งตลาดใน การแบ่งส่วนตลาดท่มี ปี ระสิทธิภาพ จะมลี ักษณะดังนี้ เชงิ ปรมิ
าณได้ จะตอ้ งมคี วามตอ้ งการซ้ือทม่ี ากพอ 7 5. มีลักษณะแตกต่าง (Differentiable) เป็นส่วนตลาดที่ลูกค้ามองเห็นความ ระดับของการแบ่งสว่ นตลาด แบง่ ออกเปน็ 3 ระดบั คือเน้นการผลิตจานวนมาก และขายให้กับลูกค้าทุกคนเหมือนกัน ถือว่าไม่มีการแบ่งส่วนตลาดเลย 2. การตลาดแบบแบ่งส่วน (Segment Marketing) เป็นการแบ่งตลาดออกเป็น 3. การตลาดส่วนย่อย (Niche Marketing) เป็นการแบ่งตลาดออกเป็นส่วนย่อยๆ หลักเกณฑก์ ารแบ่งส่วนตลาดผบู้ ริโภค (Bases for Segmenting Consumer Markets) แบ่งตลาดตามพื้นท่ีหรืออาณาเขตของภูมิประเทศ เช่น ประเทศ ภาค จังหวัด อาเภอ ตาบล หรือ 1.1 ภมู ิภาค (Region) เช่น ทวีปเอเชีย ทวปี ยุโรป ทวปี อเมรกิ า ภาคเหนือ ภาค 1.2 ภมู ิอากาศ (Climate) เชน่ เขตร้อน เขตหนาว เขตอบอ่นุ เป็นต้น 8 ศาสนา ซ่ึงตัวแปรด้านประชากรจะมีความสัมพันธก์ ับอัตราการใช้ผลิตภัณฑ์ จึงเป็นท่ีนิยมนามาใช้ใน 2.1 เพศ (Sex) ได้แก่ ชาย หญงิ 9 3.1.2 การเลือกตลาดเป้าหมาย (Targeting) หมายถึง การประเมินและเลือกตลาดใน
ตลาดเป้าหมาย (Target Market หรือ Target Group) หมายถึง กลุ่มผู้บริโภค 1. การประเมินส่วนตลาด (Evaluating the Market Segment) เป็นการ 1.1 ขนาดของสว่ นตลาดและอตั ราการขยายตัว 10 2.2 การตลาดแบบแตกต่าง หรือการตลาดมุ่งต่างส่วน ( Differentiated 2.2.1 ใชก้ ลยทุ ธก์ ารตลาดมงุ่ หมายส่วน 11 หรู ร้านอาหารราคาแพงโรงแรมที่มีบริการเสริมมากมายเพื่อการพักผ่อนเต็มท่ี คอนโดระดับพรีเมี่ยม 2. จุดยืนด้านการใช้งาน (Functional) คือ เป็นการวางจุดยืนของผลิตภัณฑ์ หรือ 3. จุดยืนด้านความแตกต่าง (Differentiation) คือ การวาง Positioning ด้วยการ ประโยชน์ของจุดยืนด้านความแตกต่าง คือ การท่ีไม่ต้องแข่งขันกับคู่แข่งรายอ่ืน 4. ทฤษฎีกลยทุ ธท์ างการตลาด (4P’s) (8P’s) เพ่ือใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างความสาเร็จ และส่งผลให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางการตลาดที่ตั้งไว้ ซ่ึง กลยุทธ์การตลาด (Marketing Strategy) หมายถึง แบบแผนพื้นฐานหรือแนวทางท่ีถูก 12 โดยผู้ประกอบการจะต้องจัดสรรทรัพยากรของประเทศมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อผลผลิต แบ่งใช้ 4.1 ความหมายของหลักการตลาด (4P’s) ออกเป็น สนิ คา้ ประเภทจับต้องได้ และสนิ ค้าประเภทจับต้องไม่ได้ สาหรับการบริการนัน้ แบ่งออกเป็น 4.1.2 ราคา (Price) หมายถึง จานวนเงินที่บุคคลต้องจ่ายเพ่ือตอบแทนกับการได้รับ 4.1.2.1 ลกั ษณะท่วั ไปของราคา การแลกเปล่ยี นระหว่างสนิ คา้ กบั สนิ ค้าทก่ี
ระทา 4.1.2.2 วตั ถปุ ระสงค์ในการตง้ั ราคา ราคาเพอื่ เผชิญการแขง่ ขนั และการตัง้ ราคาเพอ่ื รักษาเสถียรภาพของการตั้งราคา 13 3) การกาหนดราคาโดยคานึงถึงลักษณะประเภทสินค้าท่ีขาย สินค้า 4) การกาหนดราคาดโดยคานงึ ถงึ สว่
นประสมการตลาดอ่ืนของธรุ กจิ 14
- การตั้งราคาตามเขต (Zone delivered pricing) เป็นการต้ังราคาสินค้า - การตั้งราคาแบบผขู้ ายรับภาระค่าขนส่ง ผูข้ ายจะยอมใหล้ กู ค้าหกั ค่าขนส่ง - การต้ังราคาจากจุดฐานที่กาหนด (Basing point pricing) บริษัทจะ 2)
การต้ังราคาให้แตกต่างกัน (Discrimination pricing) เป็นการตั้งราคา - การต้ังราคาตามกลมุ่ ลูกคา้ 15 5) การตั้งราคาสินค้าท่ีเสื่อมความนิยม (Declining product pricing) 6) การต้ังราคาส่วนประสมผลิตภัณฑ์ (Product mix pricing) เป็นการตั้ง - การตั้งราคาสาหรับสายผลิตภัณฑ์ (Product line pricing) เป็นการตั้ง - การต้ังราคาสินค้าท่ีเลือกซ้ือประกอบหรือไม่ซ้ือก็ได้ (Optional feature - การตั้งราคาสินค้าเป็นสองส่วน ( Two part pricing) เป็นการตั้งราคา - การตัง้ ราคาสินค้าที่ขายรวมห่อ ( Product – bunding pricing) เป็นการ - การตั้งราคาสนค้าประกอบท่ีผู้ผลิต ผลิตข้ึนสาหรับใช้กับสินค้า (Captive 7) การต้ังราคาเพื่อส่งเสริมการตลาด (Promotion pricing) เป็นการต้ัง - การตั้งราคาลอ่ ใจ (Loss – event pricing) 16 - การให้สาวนลดตามหลักจิตวิทยา (Psychological
discounting) เป็น - การลดราคาเพ่ือการส่งเสริมการขาย (Cent – off promotion) เป็นการ - การคนื เงิน ( Cash rebates) เป็นกลยทุ ธ์การตง้ั ราคาเพ่อื สง่ เสริมการขาย 8) นโยบายการให้ส่วนลดและส่วนยอมให้ (Discount and allowances) 9) นโยบายระดับราคา (The level of price policy) ผู้ผลิตจะตั้งราคา - การตงั้ ราคา ณ ระดบั ราคาตลาด 17 ของความสามารถในการทากาไรของธุรกิจนั้น ทั้งน้ีเน่ืองจากกาไรนั้นคานวณจาก รายรับหักลบด้วย 4.1.3 ช่องทางการจัดจาหน่าย (Place) การนาสินค้าไปให้ถึงมือของลูกค้า โดยยึดหลัก 1. ช่องทางการจัดจาหน่าย (Channel of Distribution หรือ Distribution 2. การกระจายตัวสินค้า หรือการสนับสนุนการกระจายตัวสินค้าสู่ตลาด 18 การกระจายตัวสินค้าท่ีสาคัญ มีดงั นี้ 4.1.4 การส่งเสริมการขาย (Promotion) เป็นเคร่ืองมือการสื่อสารเพื่อสร้างความพึง 1. การโฆษณา (Advertising) เป็นกิจกรรมในการเสนอขา่ วสารเก่ยี วกบั องค์การ 1.1
กลยุทธ์การสร้างสรรคง์ านโฆษณา (Creative Strategy) และยทุ ธวธิ กี าร 1.2 กลยุทธ์ส่ือ (Media Strategy) 2.1 กลยทุ ธก์ ารขายโดยใชพ้ นกั งานขาย (Personal Selling Strategy) 19 3. การส่งเสริมการขาย (Sales Promotion) เป็นส่ิงจูงใจท่ีมีคุณค่าพิเศษที่ 3.1 การกระตุ้นผู้บริโภค เรียกว่า การส่งเสริมการขายท่ีมุ่งสู่ผู้บริโภค 3.2 การกระตุ้นคนกลาง เรียกว่า การส่งเสริมการขายทม่ี ุ่งสู่คนกลาง (Trade 3.3 การกระตุ้นพนักงานขาย เรียกว่า
การส่งเสริมการขายที่มุ่งพนักงาน 4. การใหข้ ่าวและการประชาสัมพันธ์ (Publicity and Public Relations หรือ 4.1 การให้ข่าว (Publicity) เป็นการเสนอข่าวเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ 4.2 การประชาสัมพันธ์ (Public Relations หรือ PR) หมายถึง
ความ 5. การตลาดทางตรง (Direct Marketing หรือ Direct Response Marketing) 5 . 1 ก า ร ต ล า ด ท า ง ต ร ง ( Direct Marketing ห รื อ Direct Response 20 ตอบสนองในทันที ทั้งน้ีต้องอาศัยฐานข้อมูลลูกค้าและการใช้ส่ือต่าง ๆ เพื่อสื่อสารโดยตรงกับลูกค้า 5.2 การโฆษณาเพ่ือให้เกิดการตอบสนองโดยตรง (Direct
Response 5.3 การตลาดเชื่อมตรงหรือการโฆษณาเช่ือมตรง (Online Advertising) 5.3.1 การขายทางโทรศัพท์ 21 4. การได้เปรียบทางการแข่งขัน คือ กลยุทธ์ทางการตลาดจะต้องมีการระบุการ 5. พลังเสริมแรง คือ กลยุทธ์ทางการตลาดจะต้องสามารถส่งเสริม และสนับสนุน 4.2 ความหมายของหลกั การตลาด (8P’s) วางแผนท่ีมีการนากลยุทธ์ทางการตลาด ซ่ึงมีอยู่มากมายมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจแต่ละ 4.2.1 กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ (Product Strategy) ซึ่งจะเก่ียวข้องกับผลิตภัณฑ์ 4.2.2 กลยุทธ์ด้านราคา (Price Strategy)
คือการกาหนดราคาสินค้าที่คานวณจาก 22 1. ตั้งราคาตามคู่แข่ง
หากสินค้าท่ีผลิตหรือนามาจาหน่ายไม่ได้มีความแตกต่าง 2. ต้งั ราคาน้อยกว่าหรือใกล้เคียงกับคู่แข่ง ในกรณีที่เป็นสินค้าประเภทเดียวกัน 3. ต้ังราคาสูงกว่า การตั้งราคาผลิตภัณฑ์หรือตั้งราคาสินค้าให้สูงกว่าสินค้า 4.2.3 กลยุทธ์ดา้ นการจาหน่าย (Place Strategy) ปัจจบุ ันชอ่ งทางการจาหน่ายสินค้า 4.2.4 กลยุทธ์ด้านการส่งเสริมการตลาด (Promotion Strategy) การนากลยุทธ์นี้มา 23 เพื่อใหล้ ูกค้าซือ้ สนิ ค้ามากขึ้น เชน่ ซ้ือสินค้า 3
ช้ินคิดราคาพิเศษหรือราคาส่ง และลกั ษณะท่ี 2 มุ่งเน้น 4.2.5 กลยุทธ์ด้านบรรจุภัณฑ์ (Packaging Strategy) หลักสาคัญในการนากลยุทธ์ 4.2.6
กลยุทธ์ด้านการใช้พนักงานขาย (Personal Strategy) การขายโดยใช้พนักงาน 4.2.7 กลยุทธ์ดา้ นการให้ข่าวสาร (Public Strategy) การให้ขอ้ มูลขา่ วสารเป็นกลยทุ ธ์ 24 4.2.8 กลยุทธด์ ้านการใช้พลัง (Power Strategy) นามาใช้กับร้านขายสินคา้ ออนไลน์มี 5. ทฤษฎีพฤติกรรมผบู้ ริโภค (Buyer Behavior’s Model) แสดงออกโดยไม่รู้ตัว
การแสดงออกหรือการกระทาโดยธรรมชาติของมนุษย์สามารถส่งอิทธิพลทาง 5.1 ประโยชนข์ องการศกึ ษาพฤติกรรมผ้บู รโิ ภค ผบู้ รโิ ภค 25 5.1.2
ช่วยให้ผู้เก่ียวข้องสามารถหาหนทางแก้ไขพฤติกรรมในการตัดสินใจซ้ือ 5.1.3 ช่วยใหก้ ารพัฒนาตลาดและการพัฒนาผลติ ภณั ฑ์สามารถทาได้ดีขฯ้ึ 26 5.4 ปจั จัยทางสังคม เป็นปัจจัยท่ีเกีย่ วขอ้ งในชีวิตประจาวนั และมอี ิทธพิ ลต่อพฤติกรรม 5.4.1 กลุ่มอ้างอิง หมายถึงกลุ่มใดๆท่ีมีการเกี่ยวข้องกัน ระหว่างคนในกลุ่ม 5.4.1.1 กลุ่มปฐมภูมิ ได้แก่ครอบครัว เพื่อนสนิท มักมีข้อจากัดในเร่ือง 5.4.1.2 กลมุ่ ทตุ ิยภูมิ เปน็ กลุ่มทางสังคมท่ีมีความสัมพนั ธแ์ บบตัวต่อตวั แต่ 5.4.2 ครอบครัว เป็นสถาบันที่ทาการซื้อเพื่อการบริโภคท่ีสาคัญท่ีสุด นักการ 5.4.3 บทบาททางสถานะ บคุ คลทจ่ี ะเก่ยี วข้องกับหลายกลมุ่ เชน่ ครอบครวั กลุ่ม 5.4.4 ปัจจัยทางจิตวิทยา การเลือกซ้ือของบุคคลได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทาง 5.4.4.1 ความสาเร็จสว่ นตัว 27 5.5.2 การค้นหาข้อมูล ในขั้นน้ีผู้บริโภคจะแสวงหาข้อมูลเพ่ือตัดสินใจ ในขั้นแรก 5.5.3 การประเมินผลทางเลือก ผู้บริโภคจะนาข้อมูลที่ได้รวบรวมไว้มาจัดเป็น 5.5.4
การตัดสินใจเลือกทางเลือกที่ดีท่ีสุด หลังการประเมิน ผู้ประเมินจะทราบ 5.5.5 การประเมินภายหลังการซ้ือ เป็นขั้นสดุ ท้ายหลังจากการซือ้ ผ้บู ริโภคจะนา 6. แนวความคดิ ทางการบัญชี ของรฐั บาล หรืออื่น ๆ ซึ่งในบางครัง้ บคุ คลท่ีใชข้ ้อมูลทางการบัญชีเหลา่ นี้มีความตอ้ งการที่จะใชข้ ้อมูล ดังน้ันเพื่อให้ข้อมูลทางการบัญชีที่ฝ่ายบัญชีนาเสนอเช่ือถือได้และเป็นธรรมต่อผู้ใช้ข้อมูล สมาคมนักบญั ชแี ละผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแหง่
ประเทศไทย ได้กาหนดขอ้ สมมตุ ิทางการบญั ชี 6.1 เกณฑค์ งค้าง งบการเงินจัดทาข้ึนโดยใชเ้ กณฑ์คงค้างเพื่อให้บรรลวุ ตั ถุประสงค์ดงั ทก่ี ลา่ ว 28 จา่ ยเงินสดหรือรายการเทียบเทา่ เงนิ สด โดยรายการตา่ ง ๆ จะบันทกึ บัญชีและแสดงในงบการเงนิ ตาม 6.2 การดาเนินงานต่อเน่ือง
โดยทั่วไปงบการเงินจัดทาข้ึนตามข้อสมมติที่ว่ากิจการจะ 6.2.1 ความเข้าใจได้ ข้อมูลในงบการเงินต้องสามารถเข้าใจได้ในทันทีที่ผู้ใช้งบการเงิน 6.2.2 ความเกี่ยวข้องกับการตัดสนิ ใจ ข้อมูลที่มปี ระโยชน์ตอ้ งเกย่ี วข้องกับการตัดสินใจ 29
ข้อมูลเก่ียวกับฐานะการเงินและผลการดาเนินงานในอดีตของกิจการมักถือเป็น 6.2.3 ความมนี ยั สาคัญ ความเกย่ี วข้องกับการตดั สินใจของขอ้ มูลข้นึ อยกู่ ับลกั ษณะและ ข้อมูลจะถือว่ามีนัยสาคัญหากการไม่แสดงข้อมูลหรือการแสดงข้อมูลผิดพลาดมี 6.2.4 การเป็นตัวแทนอันเท่ียงธรรม
ข้อมูลจะมีความเชื่อถือได้เมื่อรายการและ 30 ขอ้ มูลทางการเงนิ อาจไม่เป็นตัวแทนอันเทยี่ งธรรมของรายการทต่ี ้องการใหแ้ สดง 6.2.5 ความเช่ือถือได้ ข้อมูลท่ีเป็นประโยชน์ต้องเชื่อถือได้ ข้อมูลจะมีคุณสมบัติของ
ข้อมูลอาจมีความเก่ียวข้องกับการตัดสินใจแต่การรับรู้ของข้อมูลดังกล่าวอาจทา 6.2.6 เน้ือหาสาคัญกว่ารูปแบบ ข้อมูลเป็นตัวแทนอันเที่ยงธรรมของรายการและ 31 6.2.7 ความเป็นกลาง ข้อมูลที่แสดงอยู่ในงบการเงินมีความน่าเช่ือถือเม่ือมีความเป็น 6.2.8
ความระมัดระวัง โดยทั่วไปผู้จัดทางบการเงินต้องประสบกับความไม่แน่นอนอัน 6.2.9 ความครบถ้วน ข้อมูลในงบการเงินท่ีเชื่อถือได้ต้องครบถ้วนภายใต้ข้อจากัดของ 6.2.10 การเปรียบเทียบกันได้ ผู้ใช้งบการเงินต้องสามารถเปรียบเทียบงบการเงินของ การเปรียบเทียบกันได้เป็นลักษณะเชิงคุณภาพท่ีสาคัญกล่าวคือ ผู้ใช้งบการเงิน 32 แตกต่างระหว่างนโยบายการบญั ชีทก่ี ิจการใช้สาหรบั รายการและเหตกุ ารณ์ทางบญั ชที ี่คลา้ ยคลึงกนั ใน
การท่ีข้อมูลจาเป็นต้องเปรียบเทียบกันได้มิได้หมายความว่าข้อมูลต้องอยู่ใน 6.2.11 ทันต่อเวลา การรายงานข้อมูลล่าช้าอาจทาให้ข้อมูลสูญเสียความเก่ียวข้องกับ 6.2.12 ความสมดุลระหว่างประโยชน์ท่ีได้รับกับต้นทุนท่ีเสียไป ความสมดุลระหว่าง 33 ความสมดุลระหว่างประโยชน์ที่ได้รับกับต้นทุนท่ีเสียไปเพื่อนามาปฏิบัติได้ในทุกกรณี อย่างไรก็ตาม 6.2.13 ความสมดุลของลักษณะเชิงคุณภาพ ในทางปฏิบัติ การสร้างความสมดุล 6.2.14
การแสดงข้อมูลที่ถูกต้องตามควร โดยท่ัวไป งบการเงินแสดงข้อมูลที่ถูกต้อง 7. แนวความคิดของหลักการบัญชีต้นทุน ทางด้านต้นทุนของธุรกิจ ประเภทอุตสาหกรรม โดยมีวัตถุประสงค์พื้นฐานในการจัดทารายงาน 7.1 เพื่อให้ทราบถงึ ตน้ ทนุ การผลิต ตลอดจนต้นทุนขาย (Cost of goods sold) ประจางวด 7.2 เพ่ือใช้ในการตีราคาสินค้าคงเหลือ (Inventory Evaluation) ในธุรกิจอุตสาหกรรม 34 การแสดงมูลค่าของสินค้าคงเหลือเหล่านี้ได้อย่างถูกต้อง หรือใกล้เคียงความเป็นจริงมากท่ีสุด 7.3 เพ่ือให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับการตดั สินใจวางแผนและควบคุม (Planning and Control) ซง่ึ จะ 7.4 เพ่ือใช้เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ปัญหาเพื่อตัดสินใจ (Decision Making) ท้ังน้ีใน ขอบเขตของหลักการบัญชีได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ บัญชีการเงิน บัญชีตน้ ทุน เปน็ หลักการบัญชที ี่เก่ียวกับการสะสมและวิเคราะห์ข้อมูลเพอื่ การตัดสินใจ 35 ต้นทุนจะทาหน้าที่หลักในการสะสมข้อมูลทางด้านต้นทุนที่เป็นข้อมูลที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต เพื่อ จากขอบเขตหน้าท่คี
วามรับผิดชอบของการบัญชีการเงิน และการบัญชีต้นทุน ทาให้เรา 1. การคานวณต้นทุนขาย (Cost of Goods sold) การจัดทางบการเงินเพ่ือเสนอต่อ 2. การแสดงสินค้าคงเหลือ (Inventories) งบดุล (Balance Sheet) เป็นงบการเงิน การบัญชีบริหาร คือ กระบวนการทางบัญชีที่มุ่งไปในส่วนของการนาข้อมูลทางบัญชี 36 ท้ังในด้านการวางแผน การควบคุม
การประเมินและวัดผลการดาเนินงานของบุคคลในองค์กร หรือ 8. แนวคิดในการวัดผลกาไร ได้ 2 หน่วยวดั ตัวเลขในงบการเงิน โดยใช้เกณฑ์ในการวัดค่าด้วยเกณฑ์ใดๆ ต้องพิจารณาถึงความสมดุลระหว่าง 2. หน่วยอานาจซ้ือ มักถูกใช้ในภาวะเศรษฐกิจผันผวนมีเงินเฟ้อหรือเงินฝืดรุนแรง จนทาให้ ทุนทางการผลิตหรือทุนทางกายภาพ เป็น แนวคิดของทุนที่ใช้หน่วยวัดท่ีอยู่ในรูปของกาลัง แนวคดิ น้ยี ังสามารถใชอ้ ้างอิงในการแสดงงบกาไรขาดทนุ เบด็ เสร็จ ในการรักษาระดบั ทุน ซึง่ ถอื ว่าเปน็ ผลตอบแทนจากการลงทุน รักษาระดับทนุ ตามที่ควร 37 8.1 ความหมายของกาไรในแต่ละทศั นะ เนือ่ งจากการขาย ดังนั้น กาไรทางเศรษฐศาสตร์ จึงหมายถึง ผลต่างของรายไดจ้
ากการขายสินค้าหรือ 8.1.2 กาไรของกิจการกาไรของกิจการ ดาเนินงาน ดังน้นั กาไรของกจิ การจึงไม่ควรรวมรายการทไี่ ม่เกยี่ วข้องกบั การดาเนินงาน เช่น ดอกเบ้ีย 8.1.3 กาไรของผลู้ งทนุ กาไรของผู้ลงทนุ กิจการ แต่เจ้าหนม้ี สี ิทธเิ รียกร้องเหนือเจ้าของ และรัฐไม่ไดเ้ ปน็ ผูล้ งทุน ดังนั้น กาไรในความหมายนีจ้ ึง 8.1.4 กาไรของผ้ถู ือหุ้นกาไรของผู้ถอื ห้นุ ดว้ ยดอกเบี้ยจ่ายและภาษีเงินได้ กาไรที่เหลอื จึงเป็นของผู้ถือหนุ้ สามัญและผู้ถือหุ้นบุริมสิทธกิ าไรของ 8.1.5 กาไรของผู้ถือหุ้นสามัญ สามัญเป็นเจ้าของโดยแท้จริง เป็นผู้มีสิทธิในการบริหาร ดังนั้นกาไรของผู้ถือหุ้นสามัญคือกาไรต่อหุ้น 38 8.2 แนวคดิ การวัดผลกาไร เกิดขน้ึ ในงวดบญั ชกี บั ตน้ ทนุ และค่าใชจ้ า่ ยท่ีเกี่ยวข้องท้ังหมด ซ่งึ เป็นผลมาจาก 2 ทางดงั น้ี ราคาทนุ หลักการจบั คู่รายได้กบั คา่ ใชจ้ ่าย หลกั รอบระยะเวลา การดาเนนิ งานตอ่ เนื่อง เช่น การกู้ยืมเงิน การซ้ือสินค้า การขายสินค้า เป็นต้นข้อดีของแนวคิดนี้ คือกิจการสามารถแสดง 8.3.2 การวัดผลกาไรจากกิจกรรมกาไรตามแนวคิดน้ีจะวัดกาไรโดยพิจารณาจาก 8.4 แนวคิดในการวัดผลกาไร - แนวคิดทางเศรษฐศาสตร์ ดังน้ีกาไร หมายถึง การเพิ่มขึ้นของเศรษฐทรัพย์ หรือทุนท่ีได้จากฐานะของเศรษฐทรัพย์หรือทุน ณ
8.4.2 แนวคิดเกี่ยวกับทุนและการรักษาระดับทุนกาไรทางเศรษฐศาสตร์ หมายถึง 39 งวดเท่ากับเม่ือตน้ งวด ดังนั้น จานวนเงินที่เกินว่าทุนทตี่ ้องรกั ษาระดับไว้ คือ กาไรกาไร หมายถึง การ
แนวคิดเกี่ยวกับทุนและการรักษาระดับทุน มีปัญหา คือมูลค่าของทุนหรือ 1. วิ ธี มู ล ค่ า ปั จ จุ บั น ( Present Value) ก า ร ตั้ ง ร า ย จ่ า ย ขึ้ น เ ป็ น ทุ น 2. การวัดมูลค่าตลาด (Market Valuation) วิธีน้ีคานวณจานวนหุ้นท้ังหมด 3. มูลค่าเงินสดเทียบเท่าในปัจจุบัน (Current Cash Equivalent) วิธีน้ี 4. ราคาทุนเดิม (Historical Input Price) ราคาทุนเดิมเป็นราคาที่มีหลักฐาน 5. ราคาปัจจุบันในการจัดหา (Current Input Price) เป็นราคาที่ได้มาจาก |