รายงานวิธีการปฏบิ ัตทิ ่ีเปน็ เลศิ (Best Practice) เร่ือง โรงเรยี นป่าซาง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพนู นายนพดล บญุ ภา กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี คำนำ รายงานผลการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ นพดล บญุ ภา สารบัญ ความเปน็ มาและความสำคญั หน้า 1 รายงานผลการปฏบิ ัตทิ ีเ่ ปน็
เลศิ (Best Practice) ช่ือผลงาน ผลการจดั การเรียนรแู้ บบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ผูเ้ สนอผลงาน นายนพดล บญุ ภา พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายปฏิรูป
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์มุ่งหวังให้ผู้เรียนได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์ ที่เน้นการเชื่อมโยงความรู้กับ จากการสังเกตการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวชิ าชีววิทยา หน่วยท่ี 1 เร่ือง โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ครูจึงสืบค้นวิธีการ เทคนิคและรูปแบบการจัดกิจกรรมรู้ที่สอดคล้องกับธรรมชาติรายวิชาชีววิทยา
ซ่ึง 2 ควบคุม ดำเนินการ ให้คำปรึกษา ชี้แนะ ช่วยเหลือ ให้กำลังใจ เป็นผู้กระตุ้นส่งเสริมให้ผู้เรียนคิด
อยากรู้อยากเห็น ทั้งนี้ การจะออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อทำให้ห้องเรียนเกิดการเรียนรู้แบบ Active Learning อีกทั้งธรรมชาติวิชาชีววิทยา ซึ่งมีเนื้อหาจำนวนมากและต้องใช้เวลาในเรียนรู้ จากการจัดกิจกรรม จากปัญหาและการค้นคว้าแนวทางการพัฒนาที่กล่าวมาข้างต้น ครูจึงมีความสนใจที่จะพัฒนาผล แนวคิดหลกั ของการปฏบิ ตั ิท่เี ปน็ เลศิ (Best Practice) 3 1) ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) เป็นการจัดกิจกรรมหรือสถานการณ์ที่กระตุ้น ยั่วยุ ให้ผู้เรียน 2) ขน้ั สำรวจและค้นหา (Exploration) เปน็ การจัดกิจกรรมหรือสถานการณ์ที่ใหผ้
ู้เรียนมีประสบการณ์ 3) ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) เป็นการจัดกิจกรรมหรือสถานการณ์ที่ให้ผู้เรียนได้สร้าง 4) ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) จัดกิจกรรมหรือสถานการณ์ที่ให้ผู้เรียนได้เพิ่มเติมหรือเติมเต็มองค์ 5) ขั้นประเมินผล (Evaluation) เป็นการจัดกิจกรรมหรือสถานการณ์ที่ให้ผู้เรียนได้ประเมิน 2. แนวคดิ หอ้ งเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom) 1) นกั เรยี นเรียนรู้และค้นคว้าด้วยตนเองผ่านวิดีโอการสอนแบบออนไลน์จากที่บ้าน สามารถพูดคุยกับ 2) เปลี่ยนบ้านเป็นห้องเรียนกิจกรรม นักเรียนและคุณครูมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน พูดคุย แสดงความ 6
ขนั้ ตอนการสอนของห้องเรยี นกลับดา้ น (Flipped Classroom) 4 ขั้นที่ 1 ครูออกแบบแผนการสอน กำหนดวัตถุประสงค์การสอน การเลือกใช้สื่อการสอน กิจกรรมเสริม ขั้นท่ี 2 เตรยี มวดิ โี อการสอน ครูอาจบันทึกการสอนของตัวเอง หรือใช้บริการจากวิดโี อการสอนท่ีมีเน้ือหา ขั้นที่ 3 ครูแชร์วิดีโอการสอน ส่งให้กับนักเรียน และอธิบายว่าเนื้อหาในวิดีโอจะนำมาพูดคุยกันใน ขั้นที่ 4 แลกเปลี่ยน เพื่อสนับสนุนการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน ครูเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้ร่วมพูดคุย ขั้นที่ 5 แบ่งกลุ่ม เพื่อให้ได้ผลสัมฤทธิ์ตามที่วางแผนไว้ ครูแบ่งกลุ่มเพื่อให้นักเรียนได้ร่วมกันทำงาน ขั้นที่ 6 รวมกลุ่มกันอีกครั้ง เพื่อนำเสนอผลงานกลุ่ม เปิดเวทีให้เพื่อน ๆ ร่วมกันแสดงความคิดเห็น และ หลังจบการสอน Authoring Tool (AT):
สร้างและอัปโหลดเนื้อหาอิเล็กทรอนิกส์ เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการสร้างเนื้อหา Content Verification System (CVS): ตรวจสอบเนื้อหาอิเล็กทรอนิกส์
เป็นระบบที่ใช้ใน 5 Content Center (CC): ใช้งานเน้ือหาอิเล็กทรอนิกส์แอปพลเิ คชันสำหรับเขา้ ถึงและใช้งานเน้ือหา Content Management System (CMS): บรหิ ารจัดการเนื้อหาอิเล็กทรอนิกสร์ ะบบท่ีใช้ในการบริหาร Local Content Server (LCS):
ให้บริการเนื้อหาอิเล็กทรอนิกส์ระบบที่ติดตั้งและให้บริการเนื้อหา 4. ผลการเรียนรู้ หมายถึง คะแนนที่ได้จากการเปรียบเทียบระหว่างการทดสอบก่อนเรียนและหลัง 1. เพื่อเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง การสืบพันธุ์ของพืชดอก 2. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เชิงปริมาณ 6 ขนั้ ตอนการดำเนนิ งาน 1. การออกแบบผลงาน ใช้แนวคิดของวงจรคุณภาพ PDCA เป็น แนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อ พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับแนวทางการจัด กิจกรรมการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom) โดยใช้สื่อเทคโนโลยใี นระบบ OBEC Content Center ประกอบด้วยขั้นตอนการ พัฒนา 4 ขั้นตอน ดงั นี้ ภาพที่ 1 : วงจร PDCA ขั้นตอนที่ 1 (P : Plan) : วางแผน โดยศึกษาวิเคราะห์ นโยบายของโรงเรียนป่าซางการจัดกิจกรรม การเรยี นการสอน การออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอน การสรา้ งส่ือ/นวตั กรรม และแบบวดั ประเมินผล ขั้นตอนท่ี 2 (D : Do) : ลงมือปฏิบัติ โดยสำรวจสภาพข้อมูลพื้นฐาน วิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคลเพื่อ การจัดการเรียนรู้ใหเ้ ต็มตามศักยภาพ และใช้กระบวนการ Active Learning ในการจัดกิจกรรมการเรียนการ สอนดว้ ยรปู แบบการจดั การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกบั แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้แบบ ห้องเรียนกลับดา้ น (Flipped Classroom) โดยใช้ส่อื เทคโนโลยใี นระบบ OBEC Content Center ขั้นตอนที่ 3 (C : Check) : ประเมิน โดยจัดให้มีการประเมินตามสภาพจริงและวัดความรู้จากแบบทดสอบ ก่อนเรียนและหลังเรียนเปรียบเทียบผลการเรียน เรื่อง การสืบพันธุ์ของพืชดอก เพื่อให้ทราบว่าต้องปรับปรุงแก้ไข อยา่ งไร ขั้นตอนที่ 4 (A : Act) : ปรับปรุงแก้ไข ได้แก่ การนำข้อสังเกตจาก การประเมินตามสภาพจริง และการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมา วิเคราะห์ ปรบั ปรุงแกไ้ ขเพื่อใหเ้ กิดการพัฒนาท่ดี ีข้ึนตามวงจรคุณภาพ PDCA 2. กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ การจดั กจิ กรมการเรยี นรู้ใชร้ ูปแบบการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้แบบ สืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ ห้องเรยี นกลบั ดา้ น (Flipped Classroom) โดยมีขัน้ ตอนดงั น้ี 1) ครูชี้แจงจุดผลการเรียนรู้ ประสงค์การเรียนรู้ และรูปแบบการ จัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับแนวทางการจัด กิจกรรมการเรียนรู้แบบห้องเรยี นกลับด้าน (Flipped Classroom) โดยใช้ ภาพที่ 2 :
ระบบสมาชิกของนักเรยี น สมัครเปน็ สมาชกิ ระบบเทคโนโลยี OBEC Content Center (ภาพที่ 2) 2) ครูให้นักเรียนประเมินความรู้เดิมของตนเองด้วยการทดสอบก่อนเรียนด้วยระบบเทคโนโลยี OBEC Content Center เรื่อง การสืบพนั ธขุ์ องพืชดอก 3) ครูนัดหมายให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าความรู้ เรื่อง การสืบพันธุ์ของพืชดอก ด้วยระบบเทคโนโลยี OBEC Content Center เช่น clip โครงสร้างดอก 7 4) นักเรียนศึกษาและค้นควา้ ความรู้เก่ียวกับเรือ่ ง การสืบพันธุข์ องพชื ดอก ด้วยระบบเทคโนโลยี OBEC Content Center ด้วยตนเองก่อนเข้าเรียน ในชวั่ โมงถัดไป (ภาพท่ี 4) 5) ครูจดั กจิ กรรมการรตู้ ามแผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้แบบสืบ เสาะหาความรู้ (5E) จำนวน 11 ชว่ั โมง โดยนกั เรยี นวางแผน ปฏิบัติกิจกรรม กลมุ่ กิจกรรมเดย่ี ว เพื่อศกึ ษาคน้ ควา้ เก่ยี วกับเร่ือง การสบื พันธุ์ของพืชดอก ด้วยการลงมือปฏิบัติการทดลอง การแลกเปล่ียนความคิด การวิพากษ์ช้นิ งาน การประเมนิ ชิ้นงาน และสะท้อนคดิ สิง่
ท่ีได้จากการเรียนรู้ ร่วมกันในช้ันเรยี น ภาพท่ี 3 : qr-code clip 6) ครูให้นกั เรยี นประเมินความรดู้ ว้ ยการทดสอบหลังเรยี น ดว้ ยระบบ เทคโนโลยี OBEC Content Center เรอื่ ง การสืบพนั ธุ์ของพืชดอก ซึ่งการจดั กิจกรรมการเรยี นร้ตู ามแผนฯ จำนวน 11 ช่ัวโมง เรมิ่ จากข้อ 1) และ 2) ต่อ จากนน้ั กิจกรรม การเรียนรู้ในชวั่ โมงถัดไปจะปฏบิ ัติเป็นวงจรการเรียนรู้ ข้อ 3) 4) และ 5) สลับกนั ไปจนครบ 11 ชวั่ โมง ซึ่งเป็น การจัดกิจกรรมการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom) และดำเนินการประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียน เรื่อง การสืบพันธุ์ของพืชดอก ในชั่วโมง สดุ ทา้ ย คอื ข้อ 6) ภาพท่ี 5 : นักเรียน เรยี นรู้เนอ้ื หา ภาพที่ 6 : นักเรยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ภาพท่ี 7 : การประเมนิ ระหว่างเรียน ผลการดำเนินงาน ร่วมกับแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรูแ้ บบห้องเรียนกลบั ด้าน (Flipped Classroom) โดยใชส้ ่อื เทคโนโลยี เมื่อเปรียบเทียบผลการจัดการเรียนรู้ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนพบว่า การจัดกิจกรรมการ 8 ตารางท่ี 1 : ผลการเรียนรู้ เร่ือง การสบื
พันธ์ขุ องพชื ดอก ของนักเรียนท่ีดว้ ยรูปแบบการจัดการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ การประเมิน ผลการประเมิน หลังเรยี น สรุปว่านักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนป่าซาง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน จำนวน 32 ราย ทำแบบทดสอบก่อนเรียนผ่านคลังข้อสอบ OBEC Content Center เรื่อง การสืบพันธุ์ของพืชดอก ได้คะแนน เฉลี่ย 9.69 จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 48.44 และเมื่อเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom) โดยใช้สื่อระบบเทคโนโลยี OBEC Content Center เรื่อง การสืบพันธุ์ของพืชดอก แล้วทำ แบบทดสอบหลังเรียนผ่านคลังข้อสอบ OBEC Content Center เรื่อง การสืบพันธุ์ของพืชดอก ผลปรากฏว่า นักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนป่าซาง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ได้คะแนนเฉลี่ย 16.88 คิดเป็น รอ้ ยละ 84.38 ความสำเรจ็ ของการดำเนนิ งานท่ีเกิดจากการนำไปใชก้ บั สถานศกึ ษา รปู แบบการเรยี นรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) และแนวทางการจัดการเรยี นรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom) เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาคุณภาพ ผูเ้ รยี น เม่อื นำมาประยุกตร์ ่วมกันระบบส่ือเทคโนโลยี OBEC Content Center ซงึ่ เปน็ คลงั สอื่ ประกอบการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น E-book , clip , ข้อสอบ , Application ฯลฯ ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ของ ผ้เู รียนสงู ขึ้น และผู้เรยี นเกิดทกั ษะกระบวนการเรียนรู้ โดยเฉพาะทกั ษะการสืบคน้ ข้อมลู การใชส้ อ่ื ทห่ี ลาหลาย ในการศึกษาค้นคว้าได้มากขึ้น ซึ่งผลของวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศนี้สามารถเป็นแนวทางการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ให้แก่คณะครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนป่าซาง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ และ สมรรถนะให้แก่ผูเ้ รยี นตอ่ ไป ความสำเรจ็ ของการดำเนินงานท่เี กดิ จากการนำไปใชก้ ับชุมชน วิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศนี้เกิดขึ้นจากการออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) รว่ มกบั แนวทางการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรยี นกลบั ด้าน (Flipped Classroom) โดยใช้เทคโนโลยีระบบ OBEC Content Center ซึ่งผู้เรียนจะต้องเรียนรู้จากสื่อในระบบดังกล่าว จากที่บ้านของตนเอง และต้อง ปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ทัง้ ที่บ้านและที่โรงเรียน โดยเฉพาะการเลือกสื่อการเรียนรู้ ในเรื่อง การสืบพันธุข์ อง พืชดอก ในครั้งนี้ ผู้เรียนจะต้องปฏิบัติกิจกรรมโดยการออกสำรวจบ้าน/ชุมชนของตนเอง แล้วเลือกพืช/ดอก ในการนำมาเรียนรู้ท่ีโรงเรียน (Flip classroom) ซึ่งกระบวนการเรียนรู้ดังกล่าวจะเกิดการสือ่ ระหว่างผู้เรียน/ ผ้ปู กครอง คนในชุมชน ดงั นนั้ การจดั กิจกรรมการเรยี นรใู้ นคร้ังนี้จึงประสบความสำเร็จได้เพราะครไู ดอ้ อกแบบ และวางแผนการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงระหวา่ งผลการเรียนรู้ เนื้อหา โรงเรียน และชุมชน ได้อย่างเหมาะสม ส่งผล ให้ผู้เรียนเกิดทักษะการเรียนรู้ได้ดี เกิดความรู้สึกในการเรียนรู้ที่ดี ไม่เครียด เพราะได้เลือกใช้สื่อธรรมชาติ (รอบตัว) จดั สรรเวลาในการศกึ ษาค้นคว้าไดด้ ว้ ยตนเองกอ่ นเข้าเรียนในชัว่ โมงถดั ไป 9
ประโยชน์ทีไ่ ด้รับจากผลงาน มดี งั น้ี 10 5. ครูมีความพร้อมและความตั้งใจ นำประสบการณ์การทำงานมาพัฒนาปรับปรุงระบบการทำงาน การเผยแพร่ผลงาน ได้แก่ เว็บไซต์นวัตกรรมสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาลำปาง ลำพูน, กรงุ เทพฯ. โรงพิมพช์ มุ นุม สหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย จำกดั
. ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบการสืบเสาะที่ขับเคลื่อนด้วยกลวิธีการ ปรญิ ญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาวทิ ยาศาสตร์ศกึ ษา บัณฑติ วทิ ยาลยั มหาวิทยาลัยนเรศวร. แหลง่ ท่มี า
https://drpiyanan.com/2020/07/29/5e-instructional-model/ ออนไลน์. สืบคน้ เม่อื 15 กรกฎาคม 2565. แหลง่ ทีม่ าhttps://www.spk.ac.th/home/news/obecccenter/ รูปแบบวฏั จักรการสบื เสาะหาความรู้ (5E) รว่ มกับการเรียนรู้แบบร่วมมอื สำหรบั นกั เรยี น 11 ภาคผนวก 12 แผนการจัดการเรยี
นรู้ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565 ผลการเรยี นรู้ การปฏสิ นธขิ องพชื ดอก 1. อธบิ ายกระบวนการสร้างเซลลส์ บื พันธแ์ุ ละการปฏิสนธขิ องพืชดอกได้ (K) 13 มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ ด้านสมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น ความสามารถในการคดิ 1) ทักษะการระบุ 2) ทักษะการสงั เกต ภาระ/ชิน้ งาน/ร่องรอย/หลักฐานการเรียนรู้ 1. ใบงาน เร่อื ง ประเภทของดอก 2. ใบงาน เร่ือง การสรา้ งเซลล์สบื พันธ์ขุ องพืชดอก 3. ใบงาน เรือ่ ง การปฏสิ นธิของพืชดอก 4. ชิน้ งาน เรื่อง การสร้างเซลลส์ บื พันธ์ขุ องพชื ดอก 5. ผังมโนทศั น์ เรือ่ ง การถ่ายเรณู 6. ช้นิ งาน เรื่อง ดอกสรา้ งสรรคง์ านศิลป์ การวดั และประเมินผล รายการวัด วธิ ีการ เครือ่ งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ ประเมินระหว่างการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1) กิจกรรมนำสกู่ ารเรียน - สงั เกตจากการตอบคำถามและ - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - รอ้ ยละ 60 ผา่ น - การตอบคำถาม แสดงความคดิ เหน็ รายบุคคล เกณฑ์ 2) การสร้างเซลลส์ ืบพนั ธ์ุ - ตรวจใบงาน เร่อื ง ประเภท - ใบงาน เรอื่ ง ประเภท - ระดับคณุ ภาพ 2 ของพชื ดอก ของดอก ของดอก ผา่ นเกณฑ์ - ตรวจใบงาน เรอื่ ง การสรา้ ง - ใบงาน เรอื่ ง การสร้าง เซลล์สืบพนั ธข์ุ องพืชดอก เซลล์สืบพนั ธุข์ องพชื ดอก - ตรวจใบงาน เร่อื ง - ใบงาน เร่ือง การปฏสิ นธิ การปฏสิ นธิของพชื ดอก พืชดอก - ประเมนิ ชนิ้ งาน เรอื่ ง การ - แบบประเมินช้ินงาน สร้างเซลลส์ บื พนั ธข์ุ องพืชดอก - ประเมินผงั มโนทัศน์ เร่ือง - ผงั มโนทัศน์ เรอ่ื ง การถา่ ยเรณู การถ่ายเรณู - ประเมนิ ช้นิ งาน เร่ือง ดอก - ช้นิ งาน เร่ือง ดอก สรา้ งสรรค์งานศิลป์ สร้างสรรคง์ านศลิ ป์ 3) พฤตกิ รรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดบั คณุ ภาพ 2 รายบุคคล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ 4) พฤติกรรมการทำงานกล่มุ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพ 2 การทำงานรายบุคคล การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ 5) คณุ ลกั ษณะอันพงึ - สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ - แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ - ระดับคุณภาพ 2 ประสงค์ และมงุ่ มัน่ ในการทำงาน อันพึงประสงค์ ผา่ นเกณฑ์ 14 การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1-2 (120 นาที) กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูชี้แจงเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนช้ัน มธั ยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้รูปแบบการจดั การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) รว่ มกบั เทคโนโลยีระบบ OBEC Content Center และให้นักเรยี นสมัครสมาชิก OBEC Content Center 2. ครูแจ้งผลการเรียนรูแ้ ละจุดประสงค์การเรยี นร้ใู ห้นกั เรียนทราบ 3. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนจากคลังข้อสอบ OBEC Content Center เรื่อง การสบื พันธ์ขุ องพืชดอก ก่อนเรมิ่ บทเรียน 4. ครกู ระตุ้นความสนใจของนักเรยี นโดยนำกจิ กรรมมาใหน้ ักเรยี นมีส่วนร่วมใน ห้องเรียน โดยเริ่มเข้าสู่บทเรียนครูถามคำถามเพื่อทบทวนความรู้เดิม โดยมีแนวคำถาม แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เรอ่ื ง - พชื สืบพนั ธ์ุได้อย่างไร แนวตอบ: พืชใช้อวัยวะที่เรียกว่า ดอก ในการสืบพันธุ์ โดยมีส่วนประกอบของ ดอกทีม่ ีสว่ นสำคัญในการสืบพันธุ์ คือ เกสรเพศผ้แู ละเกสรเพศเมยี ซ่ึงอาจอยู่ภายในดอก เดียวกันหรือคนละดอก 5. นักเรียนสืบค้นและศึกษาขอ้ มูลเกี่ยวกบั โครงสร้างและประเภทของดอก จาก สอ่ื เทคโนโลยี OBEC Content Center เรือ่ ง การสืบพันธุ์ของพชื ดอก E-book 6. ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียนโดยครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม ออกเป็น 4 ละ 4 ชนดิ 7. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั สำรวจและเขียนสว่ นประกอบของดอกไม้ท่ีได้จาก การสำรวจ แลว้ บนั ทกึ และเขยี นสว่ นประกอบของดอกไม้ลงในใบงาน 8. นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการวิเคราะห์ส่วนประกอบของดอกหน้าชั้น เรยี น แล้วให้นกั เรยี นทง้ั ชั้นรว่ มกันวเิ คราะหว์ ่าตวั แทนกลุม่ เขียนคำตอบถกู ต้องหรือไม่ 9. ครูนัดหมายให้นักเรียนทบทวนเนื้อหา และศึกษาเนื้อหาเพิ่มจากสื่อ Clip VDO กิจกรรมที่บ้านถ่ายภาพ มุมเจ๋งกับความรู้สึกที่บ้านของฉัน (ทั้งนี้ ครูแจ้งรายละเอียดและลิงค์การเข้าศึกษา คน้ ควา้ ในกลุ่มไลน์ Biology 5/1-1-2565 อีกครั้ง) 10. นักเรยี นสะทอ้ นคิดสิ่งท่ีไดจ้ ากการเรียนรู้ , ทกั ษะท่ีฉนั ได้ใช้ในวันนี้ , จะดีกวา่ นถ้ี า้ ชว่ั โมงที่ 3 (60 นาที) 1. ครนู ำเข้าสู่บทเรียนด้วยกจิ กรรมเตรยี มความพร้อม “ถา้ เปรียบเทียบดอกกับความรสู้ ึก ความรสู้ กึ ของ 2. จากนนั้ ครูให้นักเรยี นวาดรูปและสรปุ องคป์ ระกอบของดอกลงในสมุดบนั ทึก 15 3. นักเรียนวิเคราะห์ว่าดอกไม้ที่ครูนำมาใช้ในการเรียนการสอนเป็นดอก สมบรู ณ์เพศหรอื ไม่ จากน้ันครเู ขียนคำถามบนกระดาน โดยมแี นวคำถามดังนี้ - ดอกครบสว่ นคืออะไร แนวตอบ: ดอกที่มีส่วนประกอบครบทั้ง 4 ส่วน คือ เกสรเพศผู้ (Stamen) เกสรเพศเมีย (Pistil) กลีบดอก (Petal) กลีบเลีย้ ง (Sepal) Clip VDO - ดอกไมค่ รบส่วนคอื อะไร โครงสรา้ งของดอก แนวตอบ: ดอกทีม่ ีส่วนประกอบไมค่ รบทง้ั 4 ส่วน - ดอกไม่สมบรู ณเ์ พศ (Imperfect flower) คืออะไร แนวตอบ: ดอกที่มีเพียงเกสรเพศผู้ (Stamen) หรือเกสรเพศเมยี (Pistil) อยา่ งใดอยา่ งหน่ึง - ดอกสมบรู ณเ์ พศ (Perfect flower) คืออะไร แนวตอบ: ดอกทม่ี ีทงั้ เกสรเพศผู้ (Stamen) และ เกสรเพศเมีย (Pistil) 4. นักเรียนสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับดอกเดี่ยวและดอกช่อจากแหล่งการเรียนรู้ ส่ือ เทคโนโลยี OBEC Content Center เรื่อง โครงสร้างของดอก (Structure of Flower) วิทยาศาสตร์ ม.4-6 (ชวี วิทยา) เพ่มิ เติม Login: Liveworksheets ตรวจสอบผล (Evaluate) 6. ครูสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ 7. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั ตรวจใบงาน เร่ือง ประเภทของดอก 8. ครนู ดั หมายกจิ กรรมบูรณาการกจิ กรรมวนั แหเ่ ทียนเขา้ พรรษา โดยให้นำดอกไม้มาร่วมตกแต่งเทียน แหพ่ รรษา และกจิ กรรมถา่ ยภาพ “สำรวจดอกรอบบา้ นฉนั ” 9. นกั เรยี นสะท้อนคิดส่ิงทไ่ี ดจ้ ากการเรยี นรู้ , สง่ิ ท่ฉี ันอยากเรียนรูเ้ พ่ิมเตมิ ช่ัวโมงที่ 4-5 (120 นาที) Padlet 1. ครูให้นักเรียนแชร์ภาพถ่ายการ สำรวจดอกรอบบ้านฉัน ผ่าน Padlet พร้อม Canva 2. นักเรียนแต่ละคนทบทวนความรู้เดิมโดยให้นักเรียนบอกประเภทของดอกที่ 3. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายผลจากการทำใบงาน
โดยมีแนวโน้มการ 16 ครบส่วน (Complete flower) ดอกไม่ครบส่วน (Incomplete flower) ดอกสมบูรณ์เพศ (Perfect flower) 4. ครูชี้แจงกิจกรรมบูรณาการ “กิจกรรมวันแห่เทยี นเข้าพรรษา” ให้นักเรียนบอกประเภทของดอกท่ี ช่ัวโมงท่ี 6 (เวลา 60
นาที) 1. นกั เรยี นแบ่งกล่มุ กลุ่มละ 5-6 คน ทำกจิ กรรม เร่อื ง โครงสรา้ งของดอก - สมาชิกคนท่ี 1 : ทำหนา้ ท่ีเตรยี มวัสดุอุปกรณ์กจิ กรรมการจำแนกองคป์ ระกอบของดอก 17 แนวตอบ: ดอกที่มีรังไข่เพียงออวุลเดียว (Ovule) ได้แก่ เข็ม มะเขือ มะลิ มะละกอ ส่วนดอกที่รัง ไข่มี ออวลุ จำนวนมาก ได้แก่ กลว้ ย ตำลึง พุทธรกั ษา ตรวจสอบผล (Evaluate) 8. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ โดยใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ 9. ครูประเมินปฏบิ ตั ิการ เรื่อง การจำแนกองคป์ ระกอบของดอก โดยใชแ้ บบ ประเมินชน้ิ งาน 10. ครนู ดั หมายให้นักเรียนศึกษาและค้นคว้าข้อมลู เรอื่ ง โครงสร้างของดอก และการสร้างสปอร์ จากคลิปสื่อเทคโนโลยี OBEC Content Center ก่อนเข้าเรียนใน ชวั่ โมงถัดไป Clip VDO 12. นกั เรียนสะท้อนคิดสิง่ ทไ่ี ด้จากการเรยี นรู้, ทกั ษะท่ีฉันไดใ้ ช้ในวนั นี้, จะ ดกี ว่านถ้ี ้า ชว่ั โมงที่ 7-8 (เวลา 120 นาท)ี สำรวจความรู้ (Explore) 1. นักเรยี นแบ่งกลมุ่ ออกเปน็ 2 กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มมหี น้าท่ี ดังน้ี - กลุ่มที่ 1 ศึกษาการสร้างเซลลส์ ืบพันธ์เุ พศผู้ - กลุ่มที่ 2 ศกึ ษาการสรา้ งเซลล์สืบพนั ธ์เุ พศเมยี 2. สมาชิกในกลุ่มที่ 1 จับคู่กับสมาชิกในกลุ่มที่ 2 จากนั้นให้นักเรียนแต่ละคู่แลกเปลี่ยนข้อมูล จากนน้ั ทำใบงาน เรอ่ื ง การสร้างเซลลส์ ืบพันธข์ุ องพืชดอก 3. นกั เรยี นวางแผนและปฏบิ ัติกิจกรรมกลุ่ม เร่ือง สำรวจลกั ษณะละอองเรณู กลุม่ ละ 4-5 ชนดิ ถ่ายรปู และแชร์ผลการสำรวจในกลมุ่ ไลน์ Biology 5/1-1-2565 อธิบายความรู้ (Explain) 4. ครูสมุ่ นักเรยี น 3-4 คู่ ออกมานำเสนอใบงานหนา้ ชน้ั เรียน 5. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายผลจากการทำใบงานให้ได้ใจความว่า Login: Liveworksheets ปอร์จะแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสได้ 2 นิวเคลียส คือ เจอเนอเรทีพนิวเคลียสกับทิวบ์ นิวเคลียส ส่วนภายในรังไข่มีออวุล ซึ่งภายในมีเมกะสปอร์มาเทอร์เซลล์ เมื่อแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสได้เมกะ สปอรจ์ ำนวน 4 เซลล์ ซึง่ ในจำนวน 4 เซลล์จะสลายไป 3 เซลล์ เหลือเพียง 1 เซลล์ แล้วเกิดการแบง่ เซลล์แบบ ไมโทซิส 3 ครั้ง ได้ 7 เซลล์ 8 นิวเคลียส ซึ่งประกอบด้วยแอนติโพแดลจำนวน 3 เซลล์ ซินเนอร์จิดจำนวน 2 เซลล์ เอนโดสเปริ ม์ จำนวน 1 เซลล์ (2 นวิ เคลียส) และเซลลไ์ ข่ 1 เซลล์” 6. หลงั จากจบการอภปิ ราย ครูถามนกั เรยี นเพือ่ นำเข้าส่บู ทเรียนถัดไป โดยมแี นวคำถาม ดังน้ี - กระบวนการผสมเกสรของพชื เกดิ ขน้ึ ไดอ้ ยา่ งไร แนวตอบ: เกิดขึ้นจากเรณู (Pollen) ที่แตกออกจากอับเรณู (Anther) ไปตกลงบนยอดเกสรเพศเมีย (Pistil) - การถา่ ยเรณู (Pollen) ของพืชดอกมีกี่แบบ อย่างไร 18 แนวตอบ: 2 แบบ คอื การถ่ายเรณูในดอกเดียวกนั หรือต้นเดยี วกัน และการถ่ายเรณขู ้ามตน้ - การปฏสิ นธคิ อื อะไร แนวตอบ: การบวนการทีส่ เปริ ์ม (Sperm) เข้าไปผสมกบั เซลลไ์ ข่ท่อี ยภู่ ายในรังไข่ 7. ครูยกตัวอย่างดอกไม้ ได้แก่ ดอกชบา ดอกฟักทอง ดอกมะละกอ แล้วให้นักเรียนได้ศึกษาและ อธิบายรว่ มกนั เกี่ยวกบั รูปแบบการถา่ ยเรณู - ดอกชบา 1 ดอก: อาจเกิดการถา่ ยเรณูภายในดอกเดยี วกัน - ดอกฟักทองเพศผู้ และดอกฟักทองเพศเมีย: เกิดการถ่ายเรณูข้ามดอก ภายในตน้ เดียวกัน - ต้นมะละกอ ซึ่งเป็นต้นแยกเพศที่มีเฉพาะดอกเพศผู้ และดอกเพศเมีย เทา่ น้ัน: เกิดการถ่ายเรณู ขา้ มดอกและข้ามตน้ Padlet 8. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรม “ดอกสร้างสรรค์งานศิลป์” หลังจากนั้นแชร์ ดอกสรา้ งสรรค์งานศลิ ป์ ผลงานความคิดสร้างสรรคผ์ ่าน Padlet ตรวจสอบผล (Evaluate) 9. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม โดยใชแ้ บบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ 10. ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานของนักเรียน โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงาน 11. ครูและนกั เรียนประเมนิ ชิ้นงานความคิดสร้างสรรค์ ดอกสร้างสรรคง์ านศลิ ป์ โดยใช้แบบประเมิน ช้ินงานผา่ นการโหวตออนไลน์ใน Padlet และให้ข้อเสนอแนะ 12. ครูและนกั เรียนรว่ มกันตรวจใบงาน เรื่อง การสร้างเซลล์สืบพันธขุ์ องพืชดอก 13. ครูนัดหมายให้นักเรียนศึกษาและค้นคว้าข้อมูล เรื่อง การปฏิสนธิในพืชดอก จากคลิปสื่อ เทคโนโลยี OBEC Content Center ก่อนเขา้ เรยี นในช่วั โมงถัดไป 14. นักเรียนสะท้อนคิดสิ่งที่ได้จากการเรียนรู้, ทักษะที่ฉันได้ใช้ในวันน้ี, ฉันจะนำความรู้นี้ไป ประยกุ ตใ์ ช้ ชว่ั โมงท่ี 9 (เวลา 60 นาที) Clip VDO 1. ครูเปิดคลิป OBEC Content Center เรื่อง การปฏิสนธิในพืชดอก Login: Liveworksheets 2. หลังจากนักเรียนดูคลิปจบ ครูเขียนข้อความบนกระดาน แล้วให้นกั เรยี น พืชดอก 1) สเปริ ์มไปผสมกบั โพลาร์นวิ คลไี อและเซลล์ไข่ 19 4. นักเรียนสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อการงอกหลอดเรณู แล้วให้นักเรียนสรุปลงใน สมุดบนั ทกึ ของตนเอง 5. นกั เรียนจับคู่ แลกเปลีย่ นข้อมลู และข้อสรปุ ทไ่ี ดจ้ ากการศึกษาใบงาน อธบิ ายความรู้ (Explain) 6. นักเรียนและครูร่วมกันเฉลยขั้นตอนการปฏิสนธิของพืชดอก โดยครูอธิบาย คำตอบว่า เมื่อเรณูตก ลงบนยอดเกสรเพศเมีย เรณู ทิวบ์เซลล์จะแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส เพื่องอกหลอดเรณูไปตามก้านเกสรเพศเมียแทงเข้า ไปในรังไข่ จากนั้นเจเนอเรทีฟเซลล์จะ แบ่งเซลล์ ได้ 2 นิวเคลยี ส ไดจ้ ำนวนสเปิรม์ 2 เซลล์ เขา้ ไปผสมกบั โพลารน์ ิวคลีไอและเซลล์ ได้ โดยสเปริ ม์ ทผ่ี สมกับโพลาร์นวิ คลีไอจะเจริญเปน็ เอนโดสเปริ ์ม ส่วนสเปิร์มท่ีผสมกับเซลล์ ไขจ่ ะเจรญิ เป็นไซโกต ดงั น้นั หมายเลขควรเรยี งจาก 2) 4) 3) 1) Clip VDO ตรวจสอบผล (Evaluate) การงอกของหลอดเรณู 7. ครูสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ 8. ครูสุ่มตัวแทนกลุ่มออกมานำเสนอใบงาน เรื่อง การปฏิสนธิของพืชดอก และให้สมาชิกในชั้นเรียน รว่ มเสนอแนะ/สอบถาม/วพิ ากษ์ 9. ครสู มุ่ ตัวแทน 1 คู่ นำเสนอข้อสรปุ ทีไ่ ดจ้ ากการศกึ ษาการงอกหลอดเรณู 10. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจใบงาน เรื่อง การปฏสิ นธขิ องพืชดอก 11. ครนู ัดแนะนกั เรยี นทำกจิ กรรมถ่ายภาพ “มมุ เจง๋ กบั ความรูส้ ึกท่ีบ้านของฉนั ” 12. นักเรียนสะท้อนคิดสิ่งที่ได้จากการเรียนรู้, ฉันจะนำความรู้นี้ไปประยุกต์ใช้..., สิ่งที่ฉันสงสัย/อยากรู้ เพม่ิ ช่ัวโมงท่ี 10-11 (เวลา 120 นาท)ี Padlet 1. ครูใหน้ ักเรยี นแสดงมีมความรู้สึกของตนเองพร้อมภาพถ่ายมมุ เจ๋งกับความรสู้ กึ Login: Liveworksheets 2. นักเรยี นทบทวนความรู้เดิมของตนเอง เร่ือง การสืบพันธข์ุ องพชื ดอก จากสอื่ พชื ดอก 3. นักเรียนทำแบบฝึกหัดชีววิทยา ใน Live worksheets เรื่อง การสืบพันธุ์ของ 4. นักเรียนทำผังสรุปกระบวนการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ของพืชดอก
พร้อมนำเสนอ 5. นกั เรยี นทำผังมโนทศั น์ เรอ่ื ง การถา่ ยเรณู พร้อมตกแต่งใหส้ วยงาม 1. ครูตรวจแบบฝึกหัดในแบบฝึกหัดชีววิทยา เรื่อง การสืบพันธุ์ของพืชดอก ใน 2. ครูและนักเรียนร่วมกันประเมินชิ้นงานผังสรุปกระบวนการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ 20 3. ครปู ระเมนิ ผงั มโนทัศน์ เรือ่ ง การถา่ ยเรณู โดยใช้แบบประเมินชิ้นงาน ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้ แบบทดสอบกอ่ นเรียน เร่อื ง ดอก 2) สื่อเทคโนโลยี OBEC Content center -หนังสอื อเิ ลกทรอนกิ ส์ เร่อื ง การสบื พันธุ์ของพชื ดอก https://app.contentcenter.obec.go.th/#/detail/book/77172 -ข้อสอบ เร่ือง การสบื พนั ธขุ์ องพืชดอก https://app.contentcenter.obec.go.th/#/detail/test/77181 -คลิป เรอ่ื ง โครงสรา้ งของดอก (Structure of Flower) วทิ ยาศาสตร์ ม.4-6 (ชีววิทยา) https://app.contentcenter.obec.go.th/#/detail/vdo/7004 (20 นาท)ี -คลปิ เรือ่ ง เรื่อง โครงสร้างของดอกและการสรา้ งสปอร์ https://app.contentcenter.obec.go.th/#/detail/vdo/26436 (40 นาที) -คลปิ เร่ือง การปฏสิ นธใิ นพืชดอก วิทยาศาสตร์ ม.4-6 (ชีววิทยา) https://app.contentcenter.obec.go.th/#/detail/vdo/7128 (7 นาท)ี -คลิป เร่ือง การงอกของหลอดเรณู วทิ ยาศาสตร์ ม.4-6 (ชีวะ) https://app.contentcenter.obec.go.th/#/detail/vdo/7116 (6 นาที) -คลปิ เรอ่ื ง การเกิดและโครงสร้างผล วิทยาศาสตร์ ม.4-6 (ชวี วทิ ยา) https://app.contentcenter.obec.go.th/#/detail/vdo/7020 (18 นาท)ี 3) ใบงาน เร่อื ง ประเภทของดอก 4) ใบงาน เรื่อง การสร้างเซลล์สืบพันธข์ุ องพชื ดอก 5) ใบงาน เรือ่ ง การปฏิสนธขิ องพืชดอก 6) วสั ดุอุปกรณ์กจิ กรรมโครงสรา้ งของดอก แหล่งการเรยี นรู้ 1) ห้องปฏิบตั ิการชวี วทิ ยา 2) อนิ เทอรเ์ น็ต 3) สอื่ OBEC Content Center 21 ใบงาน เรอื่ ง ประเภทของดอก ตอนท่ี 1 จำแนกดอกตามส่วนประกอบของดอก คำชแ้ี จง : ให้นกั เรยี นพิจารณาดอกไม้ท่ีกำหนดให้ แลว้ ทำเคร่ืองหมาย ✓ ลงในตาราง ชอื่ ดอกไม้ ประเภทของดอก ดอกสมบูรณเ์ พศ ดอกไมส่ มบรู ณเ์ พศ ดอกครบสว่ น ดอกไมค่ รบส่วน มะเขือ บานเย็น อินทผาลมั ข้าวโพด มะละกอ กล้วยไม้ ตอนที่ 2 จำแนกดอกตามจำนวนดอกที่อยบู่ นกา้ น คำชแ้ี จง : ให้นกั เรยี นพิจารณาดอกไม้ทกี่ ำหนดให้ แลว้ ทำเครอ่ื งหมาย ✓ ลงในตาราง ชอ่ื ดอกไม้ ประเภทของดอก ดอกเดย่ี ว ดอกช่อ ดอกการะเวก ดอกฝรงั่ ดอกผกากรอง ดอกหางนกยูง ดอกมะเขือ 22 ตอนที่ 3 จำแนกดอกตามตำแหน่งของรังไข่เทยี บกบั ตำแหนง่ ของวงกลีบ คำชแี้ จง : ใหน้ ักเรยี นพิจารณาดอกไม้ท่กี ำหนดให้ แล้วทำเครื่องหมาย ✓ ลงในตาราง ช่อื ดอกไม้ ประเภทของดอก ดอกท่ีมีรงั ไข่อยู่เหนอื วงกลีบ ดอกที่มีรงั ไขอ่ ยูใ่ ต้วงกลีบ ย่ีหุบ ทับทิม พริก ถว่ั แตงกวา 23 ใบงาน เรื่อง การสร้างเซลล์สบื พนั ธขุ์ องพชื ดอก ตอนที่ 1 คำชี้แจง : จงเตมิ คำลงในตารางกระบวนการสรา้ งเซลลส์ บื พันธุ์ ลักษณะท่ีพิจารณา การสร้าง การสรา้ ง male gametophyte female gametophyte แหลง่ สรา้ งเซลลส์ บื พนั ธุ์ …............................... รังไข่ เซลลเ์ ริม่ ต้น (mother cell) ................................... เมกะสปอร์มาเทอรเ์ ซลล์ เซลลท์ ไ่ี ด้จาก meiosis ของเซลลแ์ ม่ ไมโครสปอร์
................................... เซลล์ทไี่ ด้จากการแบ่งเซลล์แบบ mitosis ................................... ................................... ตอนที่ 2 ตอบ 2. การสรา้ งถงุ เอม็ บริโอ ของพชื ดอก 24 ใบงาน เรื่อง การปฏิสนธขิ องพืชดอก ตอนที่ 1 ตอบ ถุงเอม็ บรโิ อ A B C D ตอบ ตอบ 1 2 ตอบ 25 คำชแ้ี จง : ให้นกั
เรียนวาดแผนผังกระบวนการสร้างเซลลส์ ืบพนั ธุ์ของพืชดอกจนกระทั่งเกิดกระบวนการ 26 แบบประเมนิ ช้นิ งาน คำชแ้ี จง : ใหผ้ ู้สอนประเมนิ ชนิ้ งานตามรายการท่ีกำหนดแล้วขดี ✓ ลงในชอ่ งทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน ลำดบั ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1 ความถูกต้องของช้ินงาน 2 การจดั รปู แบบช้นิ งาน 3 ความตรงต่อเวลา รวม ลงช่ือ ................................................... ผูป้ ระเมิน รายการประเมิน เกณฑ์การประเมินชนิ้ งาน ระดบั คะแนน 4 3 21 1. ความถูกตอ้ งของ ชิ้นงานมีความถูกต้อง ชิ้นงานมีความถูกต้อง ชิ้นงานมีความถูกต้อง ชิน้ งานไม่ถูกตอ้ ง และ ชิน้ งาน ครบทกุ หวั ข้อ ครบทุกหัวข้อเป็นส่วน ครบทุกหัวข้อเพียง ไม่ครบตามหัวข้อท่ี 2. การจัดรปู แบบ ใหญ่ บางส่วน กำหนด มคี วามน่าสนใจ ใหญ่ บางส่วน ส่งแบบช้นิ งานภายใน ส่งแบบชิน้ งานชา้ กว่า สง่ แบบชน้ิ งานช้ากว่า สง่ แบบช้ินงานชา้ กว่า เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 10-12 ดมี าก 7-9 ดี 4-6 พอใช้ 0-3 ปรบั ปรุง 27 แบบประเมนิ การปฏิบัติการ คำช้แี จง : ให้ผ้สู อนประเมนิ การปฏิบตั ิการของนักเรยี นตามรายการท่ีกำหนดแลว้ ขดี ✓ลงในช่องทต่ี รงกับระดบั คะแนน ลำดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน ลงชือ่ ................................................... ผปู้ ระเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ การปฏบิ ัติการ ประเดน็ ทีป่ ระเมิน ระดับคะแนน 4 3 21 1. การปฏิบัติการ ท ำ ต า ม ท ด ล อ ง ต า ม ทำตามทดลองตามขั้นตอน ต้องให้ความช่วยเหลือ ต ้ อ ง ใ ห ้ ค ว า ม ทดลอง ขั้นตอนและใช้อุปกรณ์ และใช้อุปกรณ์ได้อย่าง บ้างในการทำการทดลอง ชว่ ยเหลอื อยา่ งมากใน ได้อยา่ งถูกตอ้ ง ถูกต้อง แต่อาจต้องได้รับ และการใชอ้ ุปกรณ์ การทำการทดลอง คำแนะนำบ้าง และการใช้อปุ กรณ์ 2. ความคล่องแคล่ว มีความคล่องแคล่วใน มีความคล่องแคล่วในการ ขาดความคล่องแคล่ว ทำการทดลองเสรจ็ ไม่ ขณะปฏิบัติการ การทำการทดลองโดยไม่ ทำการทดลองแต่ต้องได้รับ ใ น ข ณ ะ ก า ร ท ำ ก า ร ท ั น เ ว ล า แ ล ะ ท ำ ต้องได้รับคำชี้แนะ และ คำแนะนำบ้าง และทำการ ทดลองจึงทำการทดลอง อปุ กรณ์เสยี หาย ท ำ ก า ร ท ด ล อ ง เ ส ร็ จ ทดลองเสรจ็ ทันเวลา เสรจ็ ไมท่ นั เวลา ทนั เวลา 3. การบันทึก สรุป บันทกึ และสรุปผลการ บันทึกและสรุปผลการ ต้องให้คำแนะนำในการ ต ้ อ ง ใ ห ้ ค ว า ม และการนำเสนอ ทดลองได้ถกู ตอ้ ง รดั กุม ทดลองได้ถูกต้อง แต่การ บันทกึ สรปุ และนำเสนอ ช่วยเหลืออยา่ งมากใน ผลการทดลอง นำเสนอผลการทดลอง นำเสนอผลการทดลองยงั ไม่ ผลการทดลอง การบันทึกสรุป และ เป็นขน้ั ตอนชดั เจน เป็นขัน้ ตอน นำเสนอผลการ ทดลอง เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 11-12 ดมี าก 9-10 ดี 6-8 พอใช้ ต่ำกวา่ 6 ปรบั ปรุง 28 แบบประเมนิ ผลงานแผนผงั มโนทัศน์ (ความคิดรวบยอด) คำชี้แจง : ให้ผ้สู อนประเมินผลงาน/ชิ้นงานของนักเรยี นตามรายการที่กำหนด แล้วขดี ✓ลงในช่องท่ีตรงกับ ระดับคะแนน ลำดับท่ี รายการประเมิน ระดับคณุ ภาพ 4 3 21 1 ความสอดคลอ้ งกับจุดประสงคท์ กี่ ำหนด 2 ความถกู ต้องของเนอ้ื หา 3 ความคดิ สรา้ งสรรค์ 4 ความตรงตอ่ เวลา รวม ลงช่ือ ................................................... ผู้ประเมนิ เกณฑ์การประเมนิ ผงั มโนทัศน์ ประเด็นทปี่ ระเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 ทศั น์ถกู ตอ้ งครบถ้วน ถูกตอ้ งเป็นสว่ นใหญ่ ทศั นถ์ ูกต้องบางประเด็น ไม่ถูกตอ้ งเป็นส่วนใหญ่ 3. ความคดิ ผงั มโนทัศน์แสดงถึง ผงั มโนทัศนแ์ สดงถงึ ความคิด ผงั มโนทัศน์มคี วาม ผังมโนทัศน์ไม่มีความ กำหนด 1 วัน กำหนด 2 วัน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 14-16 ดีมาก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ตำ่ กวา่ 8 ปรับปรุง 29 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล คำช้แี จง : ใหผ้ ูส้ อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 3 21 1 การแสดงความคดิ เห็น 2 การยอมรับฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ ืน่ 3 การทำงานตามหนา้ ท่ีทีไ่ ด้รับมอบหมาย 4 ความมีนำ้ ใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชอ่ื ................................................... ผปู้ ระเมนิ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตำ่ กว่า 8 ปรับปรุง 30 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม คำชีแ้ จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องท่ี ตรงกบั ระดับคะแนน ลำดับที่ ช่อื –สกลุ การแสดง การยอมรบั การทำงาน ความมี การมี รวม ของนกั เรยี น ความ ฟังคนอื่น ตามทไ่ี ดร้ บั น้ำใจ ส่วนรว่ มใน 15 คิดเห็น มอบหมาย การ คะแนน ปรับปรุง ผลงานกลมุ่ 321321321321321 เกณฑ์การให้คะแนน ลงชื่อ ................................................... ผปู้ ระเมิน เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตำ่ กวา่ 8 ปรับปรุง 31 แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คำชีแ้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงในชอ่ งท่ี ตรงกบั ระดับคะแนน คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อนั พึงประสงคด์ ้าน 321 1. มวี นิ ัย รับผิดชอบ 1.1 ปฏิบัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคบั ของช้ันเรยี น มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัติกิจกรรมตา่ ง ๆ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 2.1 รจู้ ักใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ และนำไปปฏิบัตไิ ด้ 2.2 รู้จักจัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม 2.3 กล้าคิด กล้าทำ กล้าตดั สนิ ใจ วิพากษแ์ ละมสี ่วนรว่ ม 2.4 ตัง้ ใจเรียน 3. มุง่ ม่นั ในการทำงาน 3.1 มคี วามตั้งใจและพยายามในการทำงานที่ได้รบั มอบหมาย 3.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่ือใหง้ านสำเร็จ ลงชอื่ .................................................. ผูป้ ระเมิน เกณฑ์การให้คะแนน
เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ 41-50 ดี 30-40 พอใช้ ตำ่ กวา่ 30 ปรบั ปรงุ 32 การใช้สอ่ื ระบบเทคโนโลยี OBEC Content Center โดยใชส้ ่อื ระบบเทคโนโลยี OBEC Content Center แผนท่ี 3-1 เรอื่ ง การสืบพนั ธข์ุ องพืชดอก เวลา 11 ช่ัวโมง ช่วั โมงที่ ส่ือประกอบการสอน การเขา้ ถงึ ตัวอยา่ ง 1-2 ขอ้ สอบแบบประเมนิ ความรู้ e-book การสบื พันธ์ขุ องพชื 3 คลปิ โครงสรา้ งของดอก 4-5 คลปิ โครงสรา้ งดอกและการ 6 คลปิ การงอกของหลอดเรณู 7-8 คลปิ การปฏิสนธใิ นพืชดอก 33 ชวั่ โมงท่ี สื่อประกอบการสอน การเขา้ ถงึ ตวั อย่าง 9 คลิป การเกดิ และโครงสร้าง 10-11 ข้อสอบแบบประเมินความรู้ 34 ตัวอย่าง 35 36 37 บนั ทึกหลังการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. สรปุ ผลการเรยี นการสอน 1) นักเรยี น จำนวน คน ผ่านจุดประสงค์การเรยี นรู้ จำนวน คน คดิ เป็นร้อยละ ไมผ่ า่ นจดุ ประสงค์การเรียนรู้ จำนวน คน คิดเป็นร้อยละ ได้แก่ - ............................................................................................................................. ....... นักเรยี นมคี วามสามารถพิเศษ ไดแ้ ก่ - .................................................................................................................................... 2) นกั เรียนมีความร้คู วามเขา้ ใจ (K) 3) นกั เรยี นมีความรเู้ กิดทักษะ (P) 5) นกั เรียนมีคุณลักษณะอนั พึงประสงคต์ ามหลักสตู รฯ 2. ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข 3. ขอ้ เสนอแนะ ลงช่ือ 38 ความเหน็ ของหัวหน้าสถานศึกษา/ผทู้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ……………………………………...............................……………………………………............................................................ ลงชื่อ ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นปา่ ซาง 39 กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามแผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ (5E) ชัว่ โมงท่ี 1-2 ภาพประกอบ ตวั อยา่ งผลการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เร่อื ง นักเรยี นศกึ ษาข้อมลู เกี่ยวกบั ชั่วโมงที่ 3 ภาพประกอบขน้ั ตอนการเรยี นรู้ 40 นกั เรียนทกุ คนศึกษาความรดู้ ้วย Clip
VDO นักเรยี นสบื คน้ ข้อมูลเก่ยี วกบั ชัว่ โมงที่ 4-5 ภาพประกอบข้ันตอนการเรียนรู้ 41 นกั เรยี นแชร์ภาพถ่ายจากการ Padlet นกั เรียนปฏิบตั ิกจิ กรรมบรู ณา Canva ช่ัวโมงที่ 6 ภาพประกอบขัน้ ตอนการเรียนรู้ 42 นักเรียนทกุ คนศึกษาความรดู้ ้วย Clip VDO นักเรียนปฏิบัตกิ จิ กรรมกลุ่ม ชว่ั โมงท่ี 7-8 ภาพประกอบขน้ั ตอนการเรยี นรู้ 43 Clip VDO การสรา้ งสปอร์ นกั เรียนวางแผนและปฏิบัติ 44 ช่ัวโมงที่ 9 ภาพประกอบขน้ั ตอนการเรยี นรู้ ตัวอยา่ งช้นิ งาน/ภาระงาน
นกั เรียนทุกคนศึกษาความรู้ด้วย Clip VDO ประเมินปฏิบัติการ (นอกเวลา) กจิ กรรมกลมุ่ สบื คน้ และนำเสนอ ชวั่ โมงท่ี 10-11 45 นกั เรยี นทบทวนการเรียนรู้ E-book Clip VDO Clip VDO Clip VDO การสร้างสปอร์ Clip VDO แบบทดสอบหลงั เรยี น เรอ่ื ง นกั เรยี นทำแบบฝึกหัดชีววิทยา ใน Live worksheets เร่ือง การ 46 ประมวลภาพนกั เรียนศกึ ษาเนื้อหาด้วยตนเองจากท่ีบา้ นก่อนเรียนด้วยส่ือ |