โครงงาน Show
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง สเปรย์สมุนไพรปรับอากาศ ผู้จัดทำ น.ส. สุนิสา จันทา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่4/4 เลขที่23 อาจารย์ที่ปรึกษา คุณครู ธนดล คำเสมอ โรงเรียนบัวเชดวิทยา ระยะเวลาในการดำเนินงาน 15 พ.ย. ถึง 15 ธ.ค. พ.ศ. 2556 สารบัญ เรื่อง หน้า กิตติกรรมประกาศ ก บทคัดย่อ ข บทที่ 1บทนำ 1-2 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง 3-7 บทที่ 3 วัสดุอุปกรณ์ และวิธีการทดลอง 9-10 บทที่ 4ผลการทดลอง 11 บทที่ 5สรุปผลการทดลอง 12 ก กิตติกรรมประกาศ โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่อง สเปรย์สมุนไพรปรับอากาศ เพื่อทดลองประสิทธิภาพของสมุนไพรในการดับกลิ่นเหม็นอับต่างๆ โดยได้รับคำปรึกษาคุณครู ธนดล คำเสมอ ที่ได้ให้คำปรึกษาในการทำโครงงานและการทำรูปเล่มโครงงาน ผู้จัดทำ ขอขอบคุณทุกท่านดังที่ได้กล่าวมาข้างต้นและที่ไม่ได้กล่าวถึงไว้ ณ ที่นี้เป็นอย่างสูง
ผู้จัดทำ สุนิสา จันทา ข บทคัดย่อ ปัจจุบันสภาวะแวดล้อมมีกลิ่นเป็นมลพิษต่อระบบหายใจหากเราซื้อน้ำยาดับกลิ่นตามท้องตลาดมาใช้นั้นจะมีราคาแพงซึ่งส่วนใหญ่จะผลิตจากสารเคมีทำให้เกิดอันตรายต่อสภาพแวดล้อมมากขึ้น คณะผู้จัดทำจึงศึกษาสมุนไพรที่หาง่ายในท้องถิ่นและเป็นสมุนไพรที่มีกลิ่นหอม เช่น ใบเตย ผิวมะกูด ใบตะไคร้ มาทดลองสกัดคลอโรฟิลล์เพื่อเปรียบเทียบปริมารที่เหมาะสมและชนิดของสมุนไพรที่สามารถกำจัดกลิ่นในสถานที่ต่าง ๆเช่น ห้องน้ำ สถานที่ ที่มีกลิ่นอับ 1 บทที่ 1 บทนำ ที่มาและความสำคัญ“เศรษฐกิจพอเพียง”เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีเพื่อชี้แนะแนวทางดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทย ทรงเน้นย้ำแนวทางการพัฒนาที่อยู่บนพื้นฐานของการพึ่งตนเอง ความพอมี พอใช้ การรู้จักพอประมาณการคำนึงถึงความมีเหตุผล ส่งเสริมความประหยัดในครัวเรือนจากแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การซื้อน้ำยาดับกลิ่นห้องน้ำตามท้องตลาดมาใช้นั้นจะมีราคาแพงซึ่งส่วนใหญ่จะผลิตจากสารเคมีทำให้เกิดอันตรายต่อสภาพแวดล้อม คณะผู้จัดทำจึงศึกษาสมุนไพรที่หาง่ายในท้องถิ่นและเป็นสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมเช่น ใบเตย ผิวมะกูด ใบตะไคร้ มาทดลองสกัดคลอโรฟิลล์เพื่อเปรียบเทียบปริมาณที่เหมาะสมและชนิดของสมุนไพรที่สามารถกำจัดกลิ่นในสถานที่ต่าง ๆเช่น ห้องน้ำ สถานที่ ที่มีกลิ่นอับจากการศึกษาพบว่าสารสกัดจากสมุนไพรในปริมาณที่เหมาะสมสามารถกำจัดกลิ่นได้ดีคือ อัตราส่วนระหว่างสมุนไพร 20 กรัม ต่อ แอลกอฮอล์ 200 มิลลิลิตร และสมุนไพรที่กำจัดกลิ่นได้ดีที่สุดคือสารสกัดจากผิวมะกูด จุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า1. เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการกำจัดกลิ่นของสารสกัด ใบเตย ผิวมะกูด และใบตะไคร้หอม ในอัตราส่วนที่แตกต่าง2. เพื่อสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับความสามารถในการกำจัดกลิ่นของสารสกัดจากใบเตย ผิวมะกูดและใบตะไคร้3. เพื่อเพิ่มคุณค่าของสมุนไพรในท้องถิ่นตัวแปรตัวแปรตัวแปรต้น สารสกัดจากสมุนไพรตัวแปรตาม ความสามารถในการกำจัดกลิ่นตัวแปรควบคุม ปริมาณของสมุนไพร และแอลกอฮอล์
3 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
2.ต้นใบเตยกลุ่มพืชหอม เป็นยาบำรุงหัวใจ 4 เตยหอม ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pandanus amaryllifolius Roxb. ชื่อสามัญ : Pandanus Palm , Fragrant Pandan , Pandom wangi. วงศ์ : Pandanaceae ชื่ออื่น : ปาแนะวองิง (มาเลเซีย-นราธิวาส) ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวลักษณะแตกกอเป็นพุ่มขนาดเล็ก ลำต้นเป็นข้อ ใบออกเป็นพุ่มบริเวณปลายยอด เมื่อโตจะมีรากค้ำจุนช่วยพยุงลำต้นไว้ ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับเวียนเป็นเกลียวขึ้นไปจนถึงยอด ลักษณะใบยาวเรียวคล้ายใบหอก ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ผิวใบเป็นมัน เส้นกลางใบเว้าลึกเป็นแอ่ง ถ้าดูด้านท้องใบจะเห็นเป็นรูปคล้ายกระดูกงูเรือ ใบมีกลิ่นหอม ส่วนที่ใช้ : ต้นและราก, ใบสด สรรพคุณ : ต้นและราก - ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ แก้กระษัย 5 ใบสด - ตำพอกโรคผิวหนัง - รักษาโรคหืด - น้ำใบเตย ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจให้ชุ่มชื่น - ใช้ผสมอาหาร แต่งกลิ่น ให้สีเขียวแต่งสีขนม วิธีและปริมาณที่ใช้ : ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ ใช้ต้น 1 ต้น หรือราก ครึ่งกำมือ ต้มกับน้ำดื่ม ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ ใช้ใบสดไม่จำกัดผสมในอาหาร ทำให้อาหารมีรสเย็นหอม รับประทานแล้วทำให้หัวใจชุ่มชื่น หรือเอาใบสดมาคั้นน้ำรับประทาน ครั้งละ 2-4 ช้อนแกง ใช้เป็นยาแก้เบาหวาน ใช้ราก 1 กำมือ ต้มน้ำดื่ม เข้าเย็น สารเคมี : สารกลุ่ม anthocyanin 6 3.ต้นมะกูด
วงศ์ : RUTACEAEชื่อที่เรียก : ในไทยทั่วไปเรียก มะกูด ภาคใต้เรียก ส้มมั่วผี ทางภาคอีสานเรียกมะหูด ทางภาคกลางเรียก ส้มมะกรูดลักษณะ : ต้นมะกรูด เป็นไม้ยืนต้นขนาดย่อม ใบเขียวหนา มีคอดกิ่วที่กลางใบเป็นตอนๆ ดอกสีขาว เกสรมีสีเหลือง กลิ่นหอมเล็กน้อย ผลคล้ายผลส้มซ่า ผิวหนาเป็นร่องขรุขระทั้งลูก มีขั้วจุกสูง ตามต้นและกิ่งมีหนามยาวเล็กน้อย น้ำในลูกมีรสเปรี้ยวการเจริญเติบโต : ปลูกได้ไม่ต้องเลือกดิน มีปลูกกันตามบ้านเรือกส4.การปลูกใช้หน่อหรือเหง้าชอบขึ้นในดินร่วนซุย น้ำไม่ขัง ชอบแดดมากส่วนที่ใช้เป็นยา ใบและกาบใบสรรพคุณ ต้นแก้ริดสีดวงในปาก (คือปากแตกระแหง เป็นยาไทย แผลในปาก) สตรีมีครรภ์รับประทาน ทำให้แท้ง บีบรัดมดลูก ขับลมในลำใส้ แก้แน่นตะไคร้หอมได้ถูกนำมาใช้ไล่แมลง อย่างแพร่หลายนานมาแล้ว โดยละลายน้ำมันตะไคร้หอม 7 ส่วน ผสมในแอลกอฮอล์ (70%) 93 ส่วน ฉีดพ่นหรือตำใบสดหมักในแอลกอฮอล์ใน อัตราส่วน 1:1 ทาตรงขอบประตู ที่ปิดเปิดเสมอ หรือชุบสำลีแขวนเอาไว้หน้าประตูเข้าออก หรือใช้ใบตะไคร้หอม มัดแล้วทุบให้ช้ำวางใว้ตามมุมห้องหรือใต้เตียง5.สรรพคุณรากแก้ปัสสวะแดงใบแก้ท้องเสียสวนไร่นา (adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});6 .พันธุ์ได้ด้วยการเพาะเมล็ด การตอนกิ่งก็ได้ประโยชน์ : ใบนำมาปรุงกับอาหารดับกลิ่นคาว น้ำในผลใช้ในการย้อมผ้า ทำน้ำยาสระผมได้สรรพคุณ : ราก กระทุ้งพิษ ถอดพิษสำแดง แก้ลมจุกเสียด แก้พิษฝีภายใน แก้เสมหะเป็นโทษลูกมะกรูดนำมามักดองทำเป็นยาดองเปรี้ยวเค็ม รับประทานเป็นยาฟอกล้างและบำรุงโลหิต ลูกมะกรูดนี้ถ้าเอามาเผาไฟ ก่อนเผาคว้านเอาไส้ในออก แล้วเอามหาหิงคุ์ใส่ในกลางผล สุมไฟให้เกรียมจนกรอบบดเป็นผงละเอียด ละลายกับน้ำผึ้งป้ายลิ้นเด็กที่คลอดใหม่ขับผายลมดีนัก แก้ปวดท้องผิวของลูกมะกรูด ปรุงเป็นยาลม ขับลมในลำไส้ ขับระดู9 บทที่ 3 วัสดุอุปกรณ์ และวิธีการทดลอง อุปกรณ์และสารเคมีอุปกรณ์
วัสดุและสารเคมี
วิธีการทดลอง
ใบเตย ใบมะกรูด
ตะไคร้10 2.ต้มแอลกอฮอร์แล้วนำสมุนไพรทั้ง 3 ชนิดลงไปต้ม
ต้มใบเตยกับแอลกอฮอร์ ต้มตะไคร้กับแอลกอฮอร์ต้มใบมะกรูดกับแอลกอฮอร์
3. ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วกรองกากสมุนไพรออก จากนั้นสามารถบรรจุลงขวดสเปรย์ได้ทันที
บทที่ 4 จากการทดลองเรื่อง สเปรย์สมุนไพรปรับอากาศทำให้คณะผู้จัดทำได้สำรวจประสิทธิภาพของสเปรย์สมุนไพรปรับอากาศ จากการเปรียบเทียบประสิทธิภาพจะเห็นได้ดังนี้ ชนิดของสมุนไพร ผลการทดลอง ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 1.ใบเตย มีกลิ่นเล็กน้อย มีกลิ่นเล็กน้อย ไม่มีกลิ่น 2.ใบมะกรูด ไม่มีกลิ่น มีกลิ่นเล็กน้อย มีกลิ่นเล็กน้อย 3.ตะไคร้ มีกลิ่นเล็กน้อย มีกลิ่นเล็กน้อย ไม่มีกลิ่น จากการทดลองสรุปได้ว่า สเปรย์ปรับอากาศกลิ่นตะไคร้สามารถดับกลิ่นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีดสเปรย์ เพราะขณะสกัดสารคลอโรฟิลล์จากตมะกรูด มะกรูดใช้ระยะเวลาที่สั้นกว่าสมุนไพรทั้ง 2 ชนิด แล้วยังมีกลิ่นที่มีประสิทธิภาพในการดับกลิ่นกว่าสมุนไพรทั้ง 2 ชนิด
12 บทที่ 5 สรุปผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง
|