สเปรย์สมุนไพรปรับอากาศ หัวข้อโครงงาน : สเปรย์สมุนไพรปรับอากาศ ประเภทของโครงงาน :
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน ที่มาและความสำคัญ ปัจจุบันนี้ สังคมของเรามักประสบปัญหากับมลภาวะที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น ภายในห้อง ในรถยนต์ โดยเฉพาะในเขตชุมชนเมือง ที่ ผู้คนอาศัยกันอย่างแออัด ซึ่งมีปัญหาขยะเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็นให้กับ ชุมชน และโรงเรียน มีการใช้ห้องน้าร่วมกันของนักเรียนแล้วขาดความ รักษาความสะอาด ทาให้ห้องน้ำนักเรียนมีกลิ่นเหม็น ขาดความน่าใช้ ปัญหาเหล่านี้ทำให้ผู้คนหันมาซื้อสเปรย์ปรับอากาศ ตามท้องตลาดมาใช้ซึ่งจะมีราคาแพง และมีสารประกอบส่วนใหญ่จากสารเคมีทำให้เกิด อันตรายต่อสภาพแวดล้อม คณะผู้จัดทำจึงศึกษาสมุนไพรที่หาง่ายในท้องถิ่นและเป็นสมุนไพรที่มีกลิ่นหอม คือ ต้นตะไคร้ ซึ่งต้นตะไคร้มีสรรพคุณช่วยดับกลิ่นคาวหรือ กลิ่นเหม็นได้ แถมกลิ่นของตะไคร้ยังสามารถช่วยไล่ยุงและกำจัดยุงได้ เป็นอย่างดี ทำให้สเปรย์สมุนไพรปรับอากาศที่จะจัดทำขึ้น มีประโยชน์ 2 ต่อ และมีผลิตภัณฑ์ที่ราคาไม่แพง ต้นทุนต่ำเพราะทามาจากสมุนไพร พื้นบ้าน โดยสเปรย์สมุนไพรปรับอากาศได้ประยุกต์มาจากหลัก“เศรษฐกิจ
พอเพียง”ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งโครงงานนี้ได้ประยุกต์ใช้ กับแนวคิด คือ ความพอประมาณ การรู้จักเลือกใช้สมุนไพรให้พอดีกับ สัดส่วนที่จะทำ ความมีเหตุผล การรู้จกเลือกใช้สมุนไพรพื้นบ้านที่มี สรรพคุณและประโยชน์ต่อผลิตภัณฑ์ การมีภูมิคุ้มกัน สามารถนำมาใช้ เอง ประหยัดค่าใช้จ่ายหรือนาไปขายเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัว จุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า สมมติฐานของการศึกษาค้นคว้า ตัวแปร
1. เพื่อศึกษาการทำสเปรย์ปรับอากาศสมุนไพร 2. เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของสมุนไพรในการดับกลิ่นอับ
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1. การเพิ่มคุณค่าให้กับสมุนไพรในท้องถิ่น 2. การลดมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อม 3. การใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นกับวิทยาศาสตร์ให้เกิดประโยชน์ นิยามศัพท์เฉพาะ สารสกัด หมายถึง การเอาชิ้นส่วนของพืชมาบดหรือโขลกแล้วใส่น้ำ หรือสารเคมีลงไป แล้วจึงกรองแยกเอากลากออก จากนั้น นำมาระเหยตัวทา ละลายออก
สารสำคัญที่พบในตะไคร้ สารสำคัญที่พบในตะไคร้ พบน้ำมันหอมระเหย (Volatile oil) ในเหง้าและกาบใบ ซึ่ง
ประกอบด้วยสารซิทราล (Citral) ยูจนอล (Eugenol) เจอรานิออล (Geraniol) ซิโทรเนลลอล (Citronellol) เมอร์ซีน (Myrcene) การบูร (Camphor) เป็นต้น
2.ต้นใบเตย
นอกจากนี้ใบเตยยังประกอบด้วยวิตามินและแร่ธาตุสำคัญอีกหลายชนิด โดยใบเตยหอม 100 กรัมนั้นจะมีเบต้าแคโรทีน 3 ไมโครกรัม, วิตามินซี 8 มิลลิกรัม, วิตามินบี2 0.2 มิลลิกรัม, วิตามินบี3 1.2 มิลลิกรัม, ธาตุแคลเซียม 124 มิลลิกรัม, ธาตุเหล็ก 0.1 มิลลิกรัม, ธาตุฟอสฟอรัส 27 มิลลิกรัม นอกจากนี้ยังมีคาร์โบไฮเดรต 4.6 กรัม, โปรตีน 1.9 กรัม และให้พลังงานถึง 35 กิโลแคลอรี ใบเตยเป็นพืชที่คนไทยทุกคนต่างก็รู้จักกันดี เนื่องจากมีการนำมาใช้กันอย่างหลากหลายตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำมาปรุงแต่งอาหารอย่างขนมไทยให้มีกลิ่นหอม อร่อย และยังให้สีสันน่ารับประทานอีกด้วย สรรพคุณของใบเตย ต้นและราก ใบสด วิธีและปริมาณที่ใช้ ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ ใช้เป็นยาแก้เบาหวาน วิธีการปลูกเตย
วัสดุอุปกรณ์ และวิธีการทดลอง
อุปกรณ์ 1. หม้อ 2. กรวย 3. ขวดสเปรย์ 4. ภาชนะตวง วัสดุและสารเคมี 1. ตะไคร้ 30 กรัม 2. ใบมะกรูด 30 กรัม 3. ใบเตย 30 กรัม 4. .แอลกอฮอล์ 600 มิลลิลิตร (เจือจาง 70%) วิธีการทดลอง 1. นำใบเตย ตะไคร้ ใบมะกรูดมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ(เพื่อให้สมุนไพรสามารถออกกลิ่นได้เร็วกว่าการที่ต้มโดยไม่หั่น)
ตะไคร้ ใบเตย ใบมะกรูด 2. ต้มแอลกอฮอล์แล้วนำสมุนไพรทั้ง 3 ชนิดลงไปต้ม
ต้มใบเตยกับแอลกอฮอร์ ต้มตะไคร้กับแอลกอฮอร์
ต้มใบมะกรูดกับแอลกอฮอล์ ผลการทดลอง จากการทดลองเรื่อง สเปรย์สมุนไพรปรับอากาศทำให้คณะผู้จัดทำได้สำรวจประสิทธิภาพของสเปรย์สมุนไพรปรับอากาศ จากการเปรียบเทียบประสิทธิภาพจะเห็นได้ดังนี้
จากการทดลองสรุปได้ว่า สเปรย์ปรับอากาศกลิ่นตะไคร้สามารถดับกลิ่นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีดสเปรย์ เพราะขณะสกัดสารคลอโรฟิลล์จากต้นมะกรูด มะกรูดใช้ระยะเวลาที่สั้นกว่าสมุนไพรทั้ง 2 ชนิด แล้วยังมีกลิ่นที่มีประสิทธิภาพในการดับกลิ่นกว่าสมุนไพรทั้ง 2 ชนิด สรุปผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง
ลิงค์วิดีโอที่เกี่ยวข้อง บรรณานุกรม ก้องกานดา ชยามฤต. (2540). สมุนไพรไทย. กรุงเทพ ฯ : ภูมิปัญญา. |