ได้เคยกล่าวถึง Present Perfect (เพเซ่นทฺ เพอเฟ็กทฺ) และ Past Simple (พาสทฺ ซิมเพิล) มาแล้ว เพื่อเป็นการทบทวนรูป (form ฟอม) ของทั้ง 2 tenses นี้จะขอสรุปเฉพาะ ภาคกริยาช่วย และกริยาแท้ไว้ดังนี้คือ ข. Past Simple ต่อไปนี้
จะขอกล่าวเชิงเปรียบเทียบการใช้ระหว่าง Past Perfect และ Past Simple เพื่อท่านผู้อ่านจะได้สามารถแยกแยะความแตกต่างได้โดยชัดเจน อธิบาย ในตัวอย่างที่ 1 เป็นการกล่าวถึงการกระทำที่เริ่มขึ้นในอดีตและ ดำเนินมาจนถึงปัจจุบันครบ 10 ปีแล้ว ขณะนี้ก็ยังอยู่ ยังมิได้ย้ายไปไหนจึงใช้ Present Perfect ส่วนในประโยคที่ 2 เป็นการกล่าวถึงการกระทำที่เริ่มต้นและจบสิ้นไปแล้วในอดีต ตอนนี้ย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว จึงใช้ Past Simple 2. ผลของการกระทำในอดีตที่เกี่ยวเนื่องถึงปัจจุบัน (the result of a past action that is
connected to the present) อธิบาย ในตัวอย่างที่ 1 กล่าวถึงผลของการกระทำที่ใด้เกิดขึ้นในอดีต และยังมีผลเกี่ยวเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน จึงใช้ Present Perfect ส่วนในตัวอย่างที่ 2 กล่าวถึงในอดีต และตอนนี้ได้คืนมาแล้ว จึงใช้ Past Simple 3. การแจ้งข่าว
(to announce news) กับการให้รายละเอียดของข่าว (to give details of the news) อธิบาย ในตัวอย่างที่ 1 ผู้หญิงรายหนึ่งแจ้งว่า “มีคนลักขโมยจักรยาน ของเธอไป” เธอยังไม่ได้จักรยานคืนมา จึงใช้ Present Perfect ส่วนในตัวอย่างที่ 2 ผู้หญิงคนดังกล่าวได้ให้รายละเอียดกับตำรวจว่า เธอได้จอดจักรยานไว้นอกห้างเซฟแลนด์ พอกลับออกมาก็พบว่าจักรยานได้หายไปแล้ว จึงใช้ Past Simple 4. การกระทำที่เกิดขึ้นในอดีตถึงปัจจุบัน แต่ไม่ระบุเวลาแน่นอน (an action in the past up to the present with an indefinite time) กับการกระทำที่เกิดและจบสิ้นในอดีตที่ระบุเวลาแน่นอน (an action in the past with a definite time) อธิบาย ในตัวอย่างที่ 1 คำว่า recently (ริเซ็นลิ) แปลว่า “เมื่อเร็วๆ นี้” มิได้ระบุเวลาแน่นอนว่าเมื่อไร จึงใช้ Present Perfect ซึ่งมีคำอื่นๆ อีกที่ไม่ระบุเวลาแน่นอน ที่ใช้ tense นี้เช่นเดียวกับ recently ได้แก่ ever (เอเวอะ = เคย นิยม ใช้ในรูปประโยคคำถาม), never (เนเวอะ =ไม่เคย), lately (เลทลิ = เมื่อเร็วๆ นี้), already (ออลริดิ = เรียบร้อยแล้ว), yet (เย็ท = หรือยัง ใช้เป็น adverb วาง ไว้ท้ายประโยคคำถามหรือปฏิเสธ) ส่วนในตัวอย่างที่ 2 คำว่า a week ago (เออะ วีค เออะโก) ระบุเวลาไว้แน่นอนแล้ว จึงใช้ Past Simple ซึ่งมีคำอื่นๆ ที่ระบุเวลา แน่นอนที่ใช้ tense นี้เช่นเดียวกับ ago ได้แก่ yesterday (เยสเทอะเดย์ = เมื่อ วานนี้), last week (ลาสทฺ วีค = สัปดาห์ที่แล้ว), last month (ลาสทฺ มันธฺ = เดือนที่แล้ว), last year (ลาสทฺ เยีย = ปีที่แล้ว) เป็นต้น 5. ช่วงเวลาของการกระทำนั้นยังไม่สิ้นสุด (the periods of time of
that action are not finished) กับช่วงเวลาที่ได้เกิดการกระทำนั้นๆ ได้จบสิ้นไปแล้ว (the periods of time of that action are finished) อธิบาย ในกรณีของตัวอย่างทั้งสองที่ยกมา อาจจะใช้รูป Present Perfect หรือ Past Simple ก็ได้ โดยปกติหากรู้แน่นอนว่ายังเป็นช่วงเวลานั้นๆ ตามที่เอ่ยขึ้นมา ก็ใช้ Present Perfect ได้ แต่ถ้าถามว่าจะใช้ Past Simple ได้ไหม คำตอบคือ ได้ด้วยเช่นกัน ดังเช่นกรณีตัวอย่างที่ 2 ทั้งนี้ต้องอาศัยช่วงเวลาเป็นตัวกำหนด กล่าวโดยสรุป Present Perfect ใช้แสดงการกระทำที่มีการต่อเนื่อง (continuing actions) ส่วน Past Simple ใช้แสดงการกระทำที่ได้สิ้นสุดไปแล้ว (finished actions) ที่มา:รองศาสตราจารย์ทณุ เตียวรัตนกุล (Visited 27,038 times, 1 visits today) เรื่อง Tense เนี่ย…จะหลบจะหลีกจะเลี่ยงยังไงมันก็ต้องเลี้ยวมาเจอกับมันอยู่ดีค่ะ! แต่มีสอง Tense ที่พาคนไทยหัวใจอังกฤษทั้งหลายสับสนมานักต่อนักแล้ว นั่นก็คือ เจ้า Past simple Tense กับ Present Perfect Tense เรารู้มาว่า Past Simple ใช้กับเหตุการณ์ในอดีต ส่วน Present Perfect ใช้กับเหตุการณ์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ปัญหาคือ!!…มันมีความเป็นอดีตเหมือนกัน แล้วจะแยกใช้ยังไง?? เอาง่ายๆเลย ลองดูสองภาพด้านบนค่ะ ภาพบนเป็น Present perfect มีความหมายว่า “ฉันอยู่โรงพยาบาลมา 3 อาทิตย์แล้ว” ส่วนภาพล่างเป็น Past simple เจ้าหนุ่มบอกเพื่อนว่า “ตูเนี่ยไปอยู่ในโรงพยาบาลมา 6 อาทิตย์” มองจากภาพแล้วพอเห็นความแตกต่างมั๊ยคะ??….ใช่แล้วค่ะ….ภาพซ้ายที่ใช้ Present perfect เขาอยู่มาตั้งแต่ 3 อาทิตย์ที่แล้ว และปัจจุบันก็ยังอยู่ ยังใส่ชุดคนไข้ ให้น้ำเกลืออยู่ แต่ภาพขวาที่ใช้ Past Simple ตอนที่เขาพูด ตัวเขาไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว…ออกมาเที่ยวได้สบายอุราแล้วค่ะ สรุปคือ…Present perfect พูดถึงเหตุการณ์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งปัจจุบันก็ยังทำอยู่ แต่ Past simple พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดแล้ว จบแล้ว … ลองดูกันอีกสักตัวอย่างนึง…
นัยยะที่แฝงไว้ ที่ผู้ฟังสามารถอนุมานได้ก็คือ ประโยคแรก…ทำกุญแจหาย จนถึงปัจจุบันตอนที่พูดก็ยังหาไม่เจอ แต่ประโยคหลัง…ทำหาย แต่ตอนที่พูดหาเจอแล้ว แต่ความแตกต่างมันยังไม่หมดเพียงเท่านี้ค่ะ!! ถ้าเหตุการณ์ในอดีตที่พูดเนี่ย ไม่ได้บอกเวลาแน่นอนจะใช้ Present perfect ค่ะ แต่ถ้ามีเวลาในอดีตบอกแน่นอนจะใช้ Past simple เปรียบเทียบจาก 2 ประโยคนี้ค่ะ
สองประโยคนี้…..เกิดขึ้นแล้ว…..แต่ ประโยคแรก (Present perfect) บอกไปแล้ว แต่ตอนไหนไม่รู้ เน้นที่ผลของการกระทำมากกว่าว่า บอกแล้ว เขาก็จะต้องรู้แล้ว ส่วนประโยคหลัง (Past simple) บอกเขาไปแล้ว เน้นเวลาแน่นอนด้วยว่า บอกไปเมื่อวานนี้ สรุปคือ…Present perfect เล่าเหตุการณ์ในอดีตได้ แต่ไม่เวลาบอกแน่นอน แต่ Past simple เล่าเหตุการณ์ในอดีต แต่มีเวลาบอกแน่นอน… ** หลักใหญ่ใจความของความแตกต่างระหว่าง 2 Tense มันก็เป็นด้วยประการฉะนี้ล่ะค่ะ ^^ |