เตรียมตัว ก่อนแต่งงาน 1 เดือน

การจัดงานแต่งงานไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ การ วางแผนแต่งงาน จึงสำคัญมาก เพราะถือเป็นก้าวแรกในการวางแผนชีวิตคู่ร่วมกัน การจัดงานแต่งงานนั้น มีรายละเอียดปลีกย่อยและขั้นตอนมากมาย เริ่มตั้งแต่การเลือกชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว การเลือกทรงผม เชิญแขกที่มาร่วมงาน เลือกแบบการ์ดเชิญ ของชำร่วย แล้วยังต้องเลือกเฟ้นหาสถานที่จัดงาน รวมไปถึงช่างแต่งหน้า ช่างทำผม และช่างภาพอีกด้วย

ดังนั้น “50 Checklists วางแผนแต่งงาน ฉบับสมบูรณ์” ที่ Amoriz เรียบเรียงไว้ให้ จะช่วยให้คุณและคนรัก ไม่พลาดขั้นตอนที่จำเป็นสำหรับวันสำคัญของคุณทั้งสอง และยังทำให้คุณวางแผนจัดการกับงานแต่งงานของคุณได้ง่ายขึ้น ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้ครับ

Table of Contents

เตรียมตัว ก่อนแต่งงาน 1 เดือน

12 เดือนก่อนวันแต่งงาน

1. คุยกับผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย

เมื่อคุณและคนรักตกลงที่จะแต่งงานกันแล้ว สิ่งแรกที่ควรทำใน “50 Checklists วางแผนแต่งงาน ฉบับสมบูรณ์” ก็คือ การเข้าไปพบและพูดคุยกับผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย เนื่องจากประเพณีของไทย เราควรให้เกียรติคุณพ่อคุณแม่ ในการรับทราบถึงการตัดสินใจใช้คู่ชีวิต รวมถึงแนวทางงานแต่งงานที่คุณและคนรักได้เลือกด้วย

2. พาญาติผู้ใหญ่มาทาบทามสู่ขอ

พิธีสำคัญของการเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่ คือการที่ผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายรับทราบ และผู้ใหญ่ฝ่ายชายได้เข้ามาทาบทามสู่ขอฝ่ายหญิง รวมถึงตกลงกันเรื่องสินสอดทองหมั้นให้เรียบร้อย

3. หาฤกษ์กำหนดวันแต่งงาน

ปกติแล้วตามประเพณีไทย มักจะหาฤกษ์งามยามดี ที่เหมาะแก่งานแต่งมากที่สุด แต่หากคุณและคู่รักไม่ได้ถือเรื่องฤกษ์งามยามดีมากนัก อาจเลือกเป็นวันที่ทั้งสองเคยสร้างความหมายดีๆร่วมกันแทนก็ได้

เตรียมตัว ก่อนแต่งงาน 1 เดือน

4. กำหนดงบประมาณที่จะใช้สำหรับงานให้ชัดเจน

ลองประเมินค่าใช้จ่ายงานแต่งงานในเบื้องต้น หารูปแบบงานที่ต้องการ แล้วนำมาเปรียบเทียบกับงบประมาณของคุณและคู่รัก หากงบประมาณมีจำกัด สิ่งไหนไม่จำเป็นตัดได้ตัด การ วางแผนแต่งงาน ต้องวางไปควบคู่กับการวางแผนการเงิน เพื่อไม่ให้กระทบกับชีวิตคู่หลังแต่งงาน แล้วก็อย่าลืมนึกถึง Hidden Cost ต่างๆด้วยนะครับ แนะนำให้เปิดบัญชีร่วมกันขึ้นมาใหม่ เพื่อใช้สำหรับเก็บและจ่ายในเรื่องงานแต่งทั้งหมดครับ

5. คำนวณจำนวนแขกของทั้งสองฝ่ายคร่าวๆ

เริ่มคุยกับคนรัก และผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ว่าจะเชิญแขกทั้งหมดประมาณกี่คน จะได้วางแผนว่าควรจัดสถานที่แบบไหน จุคนได้เท่าไหร่ โดยส่วนมากรายชื่อแขกมักจะไม่เคยนิ่งครับ ดังนั้นรีบทำไว้ตั้งแต่แรกเลยดีกว่า จะได้ไม่วุ่นวายตอนใกล้วันงานครับผม

11 เดือนก่อนวันแต่งงาน

6. เลือกสถานที่จัดงาน

เมื่อคุณตั้งงบประมาณที่จะใช้ทั้งหมดได้แล้ว ก็ให้รีบจองสถานที่จัดงานเอาไว้แต่เนิ่นๆ หลายๆคู่ก็มักจะเลือกฤกษ์งานแต่งงานในวันเดียวกับคุณ ทำให้วันนั้นๆอาจมีงานแต่งพร้อมกันหลายงาน และนั่นหมายความว่า ค่าใช้จ่ายสถานที่ หรือค่าจัดงานแต่งโดยรวม ก็อาจจะสูงขึ้นไปด้วย ซึ่งอาจเป็นปัญหาได้หากคุณวางแผนจองสถานที่ช้าเกินไป

เตรียมตัว ก่อนแต่งงาน 1 เดือน

7. กำหนด Theme ของงานแต่ง

เริ่มหา Reference คุยกับคนรักว่า Theme ของงานควรเป็นเรื่องราวแบบไหน เพราะตัว Theme นี่แหล่ะครับ ที่จะเป็นสิ่งตีกรอบให้การเตรียมงานส่วนอื่นๆไปในทิศทางเดียวกัน รวมถึงเลือกเพลงสำหรับเปิดในงานพิธีด้วยนะครับ

8. เลือกเพื่อนเจ้าบ่าว-เจ้าสาว

เพื่อนของเจ้าบ่าว และเจ้าสาว ก็ถือเป็นบุคคลที่จะมีบทบาทสำคัญในงานแต่ง ดังนั้นจึงควรเลือกไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้เพื่อนๆของคุณได้มีเวลาเตรียมตัว รวมถึงระบุหน้าที่ของเพื่อนในวันงานให้ชัดเจน

10 เดือนก่อนวันแต่งงาน

9. เลือกร้านชุดแต่งงาน

ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากๆ เพราะจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกความเป็นเจ้าบ่าวและเจ้าสาวในวันสำคัญ ซึ่งทั้งสองควรจะดูดีและโดดเด่นที่สุดในงาน ต้องตกลงกันให้ดีว่าจะตัดชุดหรือเช่าชุด รวมถึงชุดของเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวแต่ละคนนั้นแมทช์กันหรือเปล่า ในกรณีเลือกที่จะตัดชุดแต่งงาน เมื่อเลือกร้านได้แล้ว ให้เริ่มตัดชุดทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาว รวมถึงเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวได้เลยครับ

เตรียมตัว ก่อนแต่งงาน 1 เดือน

10. เลือกช่างภาพ ช่างถ่ายวีดีโอ และช่างแต่งหน้าทำผม

หากอยากได้ช่างฝีมือดีที่มีชื่อเสียง ปกติแล้วต้องจองกันข้ามปี เพราะฉะนั้นรีบเลือก รีบจองดีกว่าครับ ช่างก็จะได้กำหนดคิวไว้ให้คุณครับ และที่สำคัญช่างต่างๆ มักจะมีการปรับเรทราคาขึ้นทุกปี ถ้าจองมัดจำก่อนนานๆ จะได้ป้องกันการขึ้นราคาของช่างดังๆได้ด้วยครับ

11. ควรเริ่มฟิตร่างกาย และบำรุงผิวพรรณ

งานแต่งงานถือเป็นวันสำคัญที่สุดที่ของการเริ่มต้นชีวิตคู่ ในวันงานจะมีแขกมากมาย ไม่ว่าจะแขกระดับ VVIP ญาติ ผู้ใหญ่ หัวหน้า หรือเพื่อน ดังนั้นคุณและคนรัก จะต้องสวยหล่อที่สุดในวันงาน เริ่มฟิตร่างกาย และดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ จะทำให้คุณพร้อมที่สุดสำหรับวันงานครับ

9 เดือนก่อนวันแต่งงาน

12. เลือกแบบการ์ดแต่งงาน หาของชำร่วย สมุดเขียนคำอวยพร

การที่คุณจะสั่งการ์ดได้ คุณก็ต้องทราบจำนวนก่อนนะครับ แล้วพิมพ์เผื่อไปสัก 10% เผื่อมีจำนวนแขกที่ต้องการเชิญเพิ่มเกินจากที่คาดการณ์ไว้ครับ ส่วนมากร้านการ์ดจะมีซองมาให้อยู่แล้ว แต่เรามักจะพิมพ์รายชื่อแขกหน้าซองผิดพลาดเสมอ ดังนั้นอาจจะซื้อซองสีเดียวกันเผื่อไว้ก่อนก็ดีนะครับ จากนั้นจัดแบ่งแขกออกเป็นกลุ่มๆตามประเภทการเชิญ ได้แก่ ส่งให้ด้วยตัวเอง ส่งไปรษณีย์ หรือฝากเพื่อนให้

ทั้งนี้การ์ดเชิญควรไปถึงมือแขกล่วงหน้าก่อนถึงวันงาน 60 วัน ส่วนของชำร่วย สมุดเขียนคำอวยพร และของรับไหว้ สั่งทำไม่นานครับ แต่เสียเวลาตอนหาร้านที่มีของถูกใจ ราคาพอดีงบ หรือเข้ากับ theme งานครับผม

เตรียมตัว ก่อนแต่งงาน 1 เดือน

13. ติดต่อร้านจัดดอกไม้ เพื่อดูแลตกแต่งสถานที่ และร้านทำเค้ก

ติดต่อร้านดอกไม้ เพื่อพูดคุยถึงลักษณะ Theme งานที่คุณอยากได้ กำหนดเวลาของงาน รวมถึงบอกงบประมาณที่ตั้งไว้ เพื่อสรุปแบบที่ลงตัวที่สุด และที่สำคัญหากมีการตัดเค้กในวันแต่งงาน ต้องติดต่อร้านเค้กไว้ด้วยนะครับ

เตรียมตัว ก่อนแต่งงาน 1 เดือน

8 เดือนก่อนวันแต่งงาน

14. ตรวจดูกฎหมายแต่งงาน

ศึกษากฎหมายต่างๆเกี่ยวกับการใช้ชีวิตคู่ไว้ล่วงหน้า การจดทะเบียนสมรส ก่อนหรือหลังแต่งดี จดทะเบียนแล้วมีผลผูกพันธ์ทางกฎหมาย รวมไปถึงเรื่องทรัพย์สิน หนี้สิ้น ตลอดจนการทำนิติกรรมต่างๆ ต้องดูรายละเอียดให้ครบถ้วนครับ

15. เริ่มวางแผนฮันนีมูน

ช่วยกันวางแผนเรื่องฮันนีมูน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคุณและคนรัก และถือโอกาสพักผ่อน หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการเตรียมงานแต่งงานมาตลอดระยะเวลา 1 ปี ลองเริ่มหาข้อมูลสถานที่ที่น่าสนใจ หรือถ้าไปต่างประเทศต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างเป็นต้นครับ

เตรียมตัว ก่อนแต่งงาน 1 เดือน

16. เริ่มวางแผนกิจกรรมพิเศษ

หากคุณและคนรัก ต้องการมีกิจกรรมพิเศษหลังแต่งงาน เช่น อาฟเตอร์ปาร์ตี้ ก็ต้องเตรียมข้อมูล จองสถานที่ รวมถึงรายละเอียดของแขกที่เชิญให้พร้อม

7 เดือนก่อนวันแต่งงาน

17. ในกรณีที่จัดงานต่างจังหวัด

เมื่อแขกจำเป็นต้องมีการเดินทาง อย่าลืมหารายละเอียดของที่พัก บริเวณใกล้เคียงของงานแต่งคุณให้ครบถ้วน เพื่อจะได้เป็นข้อมูลช่วยแขกในการตัดสินใจเข้าพัก

18. นัดพูดคุยกับฝ่ายตกแต่งสถานที่

หากคุณเลือกจองสถานที่จัดงานแต่งงานที่เป็นโรงแรม หรือสถานที่ที่มีแพคเกจงานแต่งโดยเฉพาะก็จะช่วยประหยัดเวลาได้ เพราะจะมีรายละเอียดการตกแต่ง ดอกไม้ และลักษณะวงดนตรีให้คุณเลือกได้ตามใจชอบ

แต่หากไม่ใช้แพคเกจงานแต่ง ก็ต้องดูแลรายละเอียดให้ดี อย่าให้ตกหล่น เช่น ธีมงาน เก้าอี้ โต๊ะ แสง สี เสียงภายในงาน รวมไปถึงตกลงกับทางสถานที่ว่า สิ่งไหนทำได้ทำไม่ได้ เช่น การจัดดอกไม้ หรือการวาง Backdrop เป็นต้นครับ

19. นัดพูดคุยกับฝ่ายจัดเลี้ยงของสถานที่

หากคุณเลือกแพคเกจงานแต่งของสถานที่ ก็ถึงเวลาที่พูดคุยกันถึงรายละเอียดอาหาร เครื่องดื่มในวันงานว่าเพียงพอต่อจำนวนแขกหรือไม่ ต้องเพิ่มตรงไหน หรืออยากให้มีเมนูอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า แต่หากคุณไม่ได้เลือกแพคเกจ คุณต้องตัดสินใจว่าจะเป็นแบบค็อกเทล โต๊ะจีน หรือบุฟเฟ่ต์ และติดต่อให้พร้อมครับ

เตรียมตัว ก่อนแต่งงาน 1 เดือน

6 เดือนก่อนวันแต่งงาน

20. ได้รายชื่อแขกที่มาร่วมงานโดยละเอียด

ตอนนี้คุณควรจะได้รายชื่อของแขกที่จะมาร่วมงานคุณอย่างละเอียด และนิ่งเกือบ 80% แล้ว สามารถเริ่มพิมพ์ลงบนซองจดหมายได้เลยครับ

21. หาทรงผม และสไตล์การแต่งหน้าที่ตัวเองต้องการ

ลองหา Reference ของสไตล์แต่งหน้า ทำผม ที่คุณชอบหลายๆแบบ เลือกสไตล์ที่เข้ากับตัวคุณ และชุดแต่งงานของคุณ แล้วลองปรึกษาช่างแต่งหน้า และช่างทำผมที่คุณดีลไว้ว่าสามารถทำได้หรือเปล่า หรือให้ช่างแนะนำตามความเหมาะสมก็ได้เช่นกันครับ เพราะช่างเก่งๆจะมีประสบการณ์มากกว่าครับผม

22. ถ่ายพรีเวดดิ้ง และทำวีดีโอพรีเซ็นเตชั่น

จริงๆการถ่ายพรีเวดดิ้งนั้นสามารถทำได้เวลาไหนก็ได้ เพียงแค่คุณและคนรัก หาช่างภาพในสไตล์ที่ตรงกับรูปแบบงานแต่งของคุณ เลือกสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง ว่าจะเป็นในสตูดิโอ นอกสถานที่ หรือต่างประเทศ ตกลงเรื่องราคา และวันเวลาให้เรียบร้อย และอย่าลืมทำความคุ้นเคยกับช่างกล้อง เพื่อที่วันถ่ายรูปจริงจะได้ไม่เขินน่ากล้องมาก โดยรูปพรีเวดดิ้งของคุณสามารถนำมาทำเป็น Presentation งานแต่งงานได้ด้วยนะครับ

เตรียมตัว ก่อนแต่งงาน 1 เดือน

5 เดือนก่อนวันแต่งงาน

23. ศึกษาข้อมูลร้านแหวนเพชรแต่งงาน

ในการเลือกแหวนเพชรแต่งงาน คุณและคนรัก ควรพิถีพิถัน และใช้เวลาในเลือกแหวนเพชรที่เหมาะสม ก่อนอื่นเลย Amoriz อยากแนะนำให้คุณได้อ่าน “9 เคล็ดลับ ก่อนการเลือกแหวนเพชรแต่งงาน” เพื่อที่จะได้มองเห็นภาพรวมของขั้นตอนการเลือกแหวน และจะทำให้คุณเลือกแหวนเพชรแต่งงานที่แทนความหมายดีๆของทั้งคู่ได้มากที่สุด เพราะแหวนเพชรแต่ละแบบ จะมีความหมายที่ต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น

  • แหวนเพชรเม็ดเดี่ยว (Solitaire Ring) หมายถึง รักเดียวใจเดียว
  • แหวนเพชรสามเม็ด (Three stones Ring) หมายถึง อดีต ปัจจุบัน และอนาคต รักที่เหนือกาลเวลา
  • แหวนเพชรที่มีบ่าข้าง (Side stones Ring) หมายถึง ครอบครัวมีสุข มีลูกหลานที่อบอุ่น
  • แหวนเกลี้ยง (Classic Ring) หมายถึง รักที่มั่นคงตลอดไป
  • แหวนเพชรรอบวง (Eternity Ring) หมายถึง รักที่ไม่มีวันสิ้นสุด

โดยพิจารณาอย่างน้อย 3-4 ร้าน เริ่มศึกษาข้อมูล และกำหนดงบประมาณไว้ในใจ เมื่อได้ร้านที่คุณชอบแล้ว ลองสอบถามราคา พูดคุยกับทางร้าน และดูว่าแต่ละร้านมีการบริการอย่างไร ร้านไหนเคมีเข้ากับคุณมากที่สุด เพื่อจะได้มีเวลาตกลงเลือกแบบแหวนเพชร เลือกกะรัตเพชร คุณภาพเพชร และสั่งทำแหวนเพชรแต่งงานที่ชื่นชอบมากที่สุดครับ

ในโอกาสนี้ ขอฝาก แหวนแต่งงาน แบรนด์ Amoriz เป็นหนึ่งตัวเลือกในใจคุณผู้อ่านด้วยนะครับ เพราะเบื้องหลังการคัดเลือกเพชรของ Amoriz เป็นไปอย่างเข้มข้น เพื่อให้ได้เพชรที่สวยงาม และคุ้มค่าตามหลักการ คัดเลือกเพชรด้วย 4C’s ที่ดีที่สุด และที่สำคัญ Amoriz มีบริการให้คำปรึกษา พร้อมทั้งสอนปูพื้นฐานด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย จนคุณสามารถดูเพชรเป็น และตัดสินใจเองได้ สำหรับผู้ที่เริ่มจากศูนย์ อุ่นใจได้เลยครับ

เตรียมตัว ก่อนแต่งงาน 1 เดือน

4 เดือนก่อนวันแต่งงาน

24. ได้รับชุดแต่งงานที่สั่งตัดไว้

หากคุณเลือกสั่งตัดชุดแต่งงาน ตอนนี้ทางร้านคงดำเนินการตัดเย็บจนเสร็จแล้ว คุณสามารถเข้าไปลองชุดได้ หากต้องการแก้ไขเพิ่มเติมควรแจ้งให้ช่างทราบ เมื่อคุณได้ชุดแต่งงานเรียบร้อย คุณและคนรัก ต้องพยายามรักษาหุ่นให้ดี หากมีการเปลี่ยนแปลงของรูปร่าง ควรรีบเข้าไปปรึกษาช่างตัดชุดแต่งงาน เพื่อให้แก้ชุดให้พอดีกับหุ่นได้ทันการ เพื่อให้คุณสวมชุดในวันงานออกมาสวยสง่าที่สุดครับผม

เตรียมตัว ก่อนแต่งงาน 1 เดือน

25. จองตั๋วเที่ยวบินฮันนีมูนและโรงแรม

หลังจากคุณหาข้อมูลสถานที่ฮันนีมูนมาสักพัก ก็ถึงเวลาที่คุณต้องตัดสินใจ รวมถึงจองตั๋วเครื่องบิน และที่พักให้เรียบร้อยครับ

3 เดือนก่อนวันแต่งงาน

26. ตัดสินใจเลือกร้านแหวนเพชรแต่งงาน

เมื่อคุณและคนรักได้หาข้อมูลร้านแหวนเพชรแต่งงาน รวมถึงพูดคุยกับทางร้านจนได้ร้านที่คุณไว้ใจได้แล้ว คุณสามารถเข้าไปสั่งผลิตแหวนแต่งงานในดีไซน์ที่คุณชอบ พร้อมนัดวันรับแหวนให้เรียบร้อย

เตรียมตัว ก่อนแต่งงาน 1 เดือน

27. ตรวจสอบรายละเอียดของพิธีการทั้งหมด

เริ่มจัดเรียงลำดับกิจกรรมของพิธีการแต่งงานตั้งแต่ต้นจบจน ให้ละเอียดและครบถ้วน ระบุขั้นตอนทุกอย่าง ตรงไหนต้องหรี่ไฟ เปิดไฟ เปิดเพลงเปิดตัว เปิดเพลงตัดเค้ก เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน และทำให้มองเห็นภาพรวมของงานทั้งหมดได้อย่างถูกต้อง จะได้มีเวลาปรับลดหรือเพิ่มในสิ่งที่จำเป็นได้ทันเวลา ทั้งนี้ควรลองเปิดทั้ง Video Presentation และเพลงในสถานที่จัดงานจริงๆด้วยนะครับ จะได้รู้ว่าภาพขึ้นจอไหม ความละเอียดของภาพได้หรือเปล่า เสียงเพลงชัดเจนหรือไม่ จะได้รีบแก้ได้ทันเวลาครับผม

28. คอนเฟิร์มรูปแบบการตกแต่งสถานที่ และการจัดเลี้ยง

คุณและคนรัก ต้องคอนเฟิร์มการตกแต่งสถานที่ ทั้งในเรื่องโทนสีในการจัดดอกไม้ เค้ก แนววงดนตรี อาหาร เครื่องดื่ม รวมถึงจำนวนแขกแบบ Final กับทางสถานที่ให้เรียบร้อย หากมีสิ่งที่ใดเปลี่ยนแปลงจากการคุยกันครั้งที่แล้ว ให้แจ้งผู้ให้บริการด้วย และอย่าลืมนัดวันเข้าไปซ้อมคิวกับทางสถานที่ด้วยนะครับ เพื่อจะได้เข้าใจตรงกันว่าลำดับขั้นตอนของงานมีอะไรบ้าง

2 เดือนก่อนวันแต่งงาน

29. จัดส่งการ์ดแต่งงานให้กับแขกที่ต้องการจะให้มาร่วมงาน

คุณและคนรักสามารถแจกการ์ดแต่งงานด้วยตัวเอง ถือเป็นการให้เกียรติแขกที่มาร่วมงาน ซึ่งทำได้ทั้งกับแขกระดับ VIP หัวหน้า ญาติผู้ใหญ่ และคนที่คุณและคนรักใกล้ชิดสนิทสนม แต่หากแขกที่มาร่วมงาน ไม่ได้เป็นคนใกล้ชิด หรืออยู่ต่างจังหวัด คุณก็สามารถเชิญแขกโดยการส่งการ์ดแต่งงานไปให้ที่บ้าน หรือฝากเพื่อนไปอีกทีก็ได้ครับ

30. เตรียมสภาพร่างกาย และจิตใจให้พร้อม

เมื่อจัดการทุกอย่างเข้าที่เรียบร้อยแล้ว ก็เป็นคิวของบ่าวสาวที่จะต้องไปเตรียมเนื้อเตรียมตัว เข้าคอร์สเจ้าสาว เพื่อจะได้สวยและโดดเด่นที่สุดในวันแต่งงานครับ

เตรียมตัว ก่อนแต่งงาน 1 เดือน

31. ตรวจสุขภาพ

หากคู่รักคู่ไหนวางแผนว่าจะมีลูกภายหลังแต่งงานเลย ก็สามารถพากันไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล เพื่อที่จะได้วางแผนสร้างครอบครัวในอนาคตได้อย่างปลอดภัยครับ

1 เดือนก่อนวันแต่งงาน

32. รับแหวนเพชรแต่งงาน

ทดลองสวมแหวน และตรวจสอบความเรียบร้อยของแหวนอย่างละเอียด หากแหวนคับไป หลวมไป สวมไม่พอดี หรือมีตำหนิที่ไม่เรียบร้อย ตอนนี้ยังมีเวลาแก้ไขทัน ให้ทางร้านดำเนินการแก้ไขให้เรียบร้อยครับ

33. ลองชุดแต่งงานอีกครั้ง

ตรวจสอบความเรียบร้อย และลองสวมชุดแต่งงานอีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าชุดพร้อมสำหรับการสวมในวันงาน

34. นัดเทสต์การแต่งหน้าทำผม

เพื่อดูว่าลุคการแต่งหน้า ทำผม จะเข้ากับชุดแต่งงาน และเครื่องประดับที่สวมใส่ในวันจริงไหม หากไม่เข้ากัน จะได้ดำเนินการแก้ไขทันครับ

เตรียมตัว ก่อนแต่งงาน 1 เดือน

35. เตรียมจัดหาพิธีกรมาดำเนินงานในพิธี

เพื่อซักซ้อมเกี่ยวกับลำดับขั้นตอนของพิธีในงาน

36. เจ้าบ่าวเจ้าสาวเตรียมสคริปต์

สำหรับพูดกล่าวขอบคุณในงานพิธี รวมถึงฝึกฝนการพูดให้คล่องด้วย

37. หาของขวัญพิเศษให้กับเพื่อนและครอบครัว

เพื่อแทนคำขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือในการเตรียมงาน และมาร่วมในงานสำคัญของคุณ

38. หากคุณต้องการนำชุดแต่งงานมาเปลี่ยนที่งาน

ให้เตรียมสถานที่เปลี่ยนชุด และเก็บสิ่งของให้เรียบร้อย

39. เตรียมแผนผังที่นั่งสำหรับแขกให้เสร็จสมบูรณ์

หากจะให้เรียบร้อย ก็ให้ระบุตำแหน่งที่นั่งไปเลยว่าใครนั่งตรงไหน ในวันงานจริงจะได้ไม่วุ่นวายครับ

เตรียมตัว ก่อนแต่งงาน 1 เดือน

40. เช็กเรื่องที่จอดรถ

เพื่อตรวจสอบว่าเพียงพอสำหรับจำนวนแขกหรือไม่ รองรับได้ทั้งหมดกี่คัน และต้องมีที่จอดสำรองเผื่อในกรณีฉุกเฉิน

41. เชิญบุคคล VIP อีกครั้ง

ถึงเราจะเคยเรียนเชิญท่านแล้ว แต่ช่วงใกล้ๆงานก็ต้องเตือนท่านอีกรอบครับ พร้อมขอเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ หรือขอทะเบียนรถไว้ ในกรณีที่จะเตรียมที่จอดรถ VIP ไว้ให้ท่านครับผม

42. โทรศัพท์ไปยืนยันกับผู้ให้บริการต่างๆ

เช่น รถเช่า อาหาร เครื่องดื่ม สถานที่จัดงาน จัดดอกไม้ ตากล้อง พิธีกร ฯลฯ รวมถึงสอบถามรายละเอียดว่าทุกอย่างที่ดำเนินการไปนั้นเรียบร้อยดีหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบทุกๆ เรื่องที่จัดการไปทั้งหมดอีกครั้งว่าเรียบร้อยดีหรือเปล่า

1-2 สัปดาห์ ก่อนวันแต่งงาน

43. ตรวจสอบขั้นตอนตามคู่มือ 50 Checklists วางแผนแต่งงาน

ตรวจสอบขั้นตอนทุกขั้นตอน ตามคู่มือ 50 Checklists วางแผนแต่งงาน ว่ามีสิ่งใดตกหล่น ยังไม่ได้ทำ หรือข้ามขั้นตอนไปบ้าง ให้รีบดำเนินการแก้ไขให้เรียบร้อย

เมื่อตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยแล้ว ส่งขั้นตอนต่างๆไปให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนในการจัดงาน เพื่อการประสานงานที่ตรงกัน ป้องกันความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นในวันงาน

เตรียมตัว ก่อนแต่งงาน 1 เดือน

44. คอนเฟิร์มเวลานัดบุคคลที่เกี่ยวข้อง

สำหรับคนตกแต่งสถานที่ ช่างแต่งหน้าทำผม ช่างภาพ ช่างวีดีโอ และช่างอื่นๆให้เรียบร้อย

45. ตรวจสอบรายชื่อแขกที่มาร่วมงาน

ตรวจสอบ และคอนเฟิร์มจำนวนแขกตอบรับคำเชิญว่าจะมาร่วมงานอีกครั้ง เพื่อความแน่ใจว่าไม่ได้ตกหล่นใครไป

46. เตรียมค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายหน้างาน

ในวันงาน จะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นในระหว่างงานด้วย ให้คุณเตรียมเงินในส่วนนี้ให้พร้อม เช่น ค่าขบวนขันหมาก ค่าผ่านประตู ค่าดอกไม้ และอื่นๆ

47. ดูแลรักษาสุขภาพของตนให้ดี

พักผ่อนให้เพียงพอ ทำเล็บ ทำผม ขัดผิว เสริมความงามให้พร้อมที่สุด

เตรียมตัว ก่อนแต่งงาน 1 เดือน

1 วัน ก่อนวันแต่งงาน

48. ซักซ้อมพิธีแต่งงาน

เพื่อให้พิธีการเป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่างเรียบร้อยที่สุด ให้คุณและบุคคลที่เกี่ยวข้องซักซ้อมพิธีการ ทบทวนหน้าที่ของเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว และพิธีกรให้ชัดเจน

49. ทำตัวสบายๆ ทานอาหารให้อิ่ม ผ่อนคลาย

ไม่ต้องกังวลว่างานจะออกมาไม่สมบูรณ์ เพราะคุณได้ วางแผนแต่งงาน มาอย่างดีที่สุดแล้ว ให้เชื่อใจเพื่อนๆ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดงาน ยิ้มแย้ม และสนุกไปกับวันสำคัญของคุณนะครับ

เตรียมตัว ก่อนแต่งงาน 1 เดือน

50. นอนตั้งแต่หัวค่ำ

จะได้ตื่นมาพร้อมความสดใส เพราะวันพรุ่งนี้เป็นวันที่ผองเพื่อน ครอบครัว และคนสำคัญมารวมตัวกัน เพื่อแสดงความยินดีกับคุณและคนรัก เป็นวันที่สำคัญ และดีที่สุดไปเลยยยยยย

.. ในที่สุดวันสำคัญของคุณก็มาถึง ..

เตรียมตัว ก่อนแต่งงาน 1 เดือน

ในโอกาสนี้ AMORIZ ยินดีด้วยนะครับ คุณจะไม่ตัวคนเดียวอีกต่อไปแล้ว 🙂

สำหรับคุณผู้อ่านที่สนใจแหวนเพชรจาก Amoriz  หรือต้องการ Download ไฟล์ “50 Checklists วางแผนแต่งงาน ฉบับสมบูรณ์” แบบ PDF สามารถติดต่อเราได้ที่
Facebook : Amoriz Jewelry
Instagram : Amoriz Jewelry
Tel : 087-5452612