คํา กล่าวเปิดอาคารโรงพยาบาล

เสด็จ ฯ เปิดอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปทรงประกอบพิธีเปิดอาคาร “ภูมิสิริมังคลานุสรณ์” โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร เมื่อเวลา 15.33 น. เมื่อวันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม 2562  เวลา 15.33 น.ณ ภูมิสิริมังคลานุสรณ์

การนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ทรงรอเฝ้าฯ รับเสด็จ พร้อมด้วยนายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และคณะกรรมการสภากาชาดไทย เฝ้าฯ รับเสด็จ

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ประทับพระราชอาสน์ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประธานสงฆ์ถวายศีล จบแล้ว สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์การดำเนินงานจัดสร้างอาคาร “ภูมิสิริมังคลานุสรณ์” โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย พร้อมทั้งกราบบังคมทูลเชิญเสด็จฯ ทรงประกอบพิธีเปิดอาคาร “ภูมิสิริมังคลานุสรณ์”

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปยังแท่นพิธี ทรงกดปุมไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้ายชื่ออาคาร “ภูมิสิริมังคลานุสรณ์” เสร็จแล้วทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถายอนุโมทนา ถวายอดิเรก และพระราชทานวโรกาสให้ นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย ทูลเกล้าฯ ถวายของที่ระลึกแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, ม.ร.ว.ปรียางค์ศรี วัฒนคุณ ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย ฝายการจัดหารายได้ ทูลเกล้าฯ ถวายของที่ระลึกแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี, ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย ฝ่ายการแพทย์ ทูลเกล้าฯ ถวายของที่ระลึกแด่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

โอกาสนี้ ม.ร.ว.ปรียางค์ศรี วัฒนคุณ ประธานคณกรรมการจัดหาทุนฯ กราบบังคมทูลเบิกผู้มีอุปการะคุณ และผู้บริจาคเงินสมทบทุนในการก่อสร้างอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ เข้ารับของที่ระลึก จำนวน 15 ราย อาทิ นายแผน วรรณเมธี, พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี, นายศุภกิต เจียรวนนท์, คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล, นายชาติศิริ โสภณพนิช, นายเฉลิม อยู่วิทยา เป็นต้น

จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี เสด็จเข้าภายในอาคาร “ภูมิสิริมังคลานุสรณ์” ทอดพระเนตรนิทรรศการ“ ธ คู่ฟ้าภูมิสิริมังคลานุสรณ์” บริเวณชั้น 1 และทรงลงพระปรมาภิไธย และพระนามาภิไธย ในสมุดที่ระลึก และพระราชทานวโรกาสให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมคณะผู้บริหารสภากาชาดไทย ผู้บริหารโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ฉายพระบรมฉายาลักษณ์ ก่อนเสด็จฯ กลับพระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิต

สำหรับอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ เป็นอาคารรักษาพยาบาลรวมที่ครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและในอาเซียน ก่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นมงคลอนุสรณ์ถวาย พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสและบรมราชาภิเษกปีที่ 66 อีกทั้งในวโรกาสมหามงคลที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงครองสิริราชสมบัติเป็นปีที่ 70 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา และทรงดำรงตำแหน่งสภานายิกาสภากาชาดไทยเป็นปีที่ 60 โดยโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต จากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  ให้ใช้ชื่ออาคารว่า “อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์” ซึ่งมีความหมายว่า “อนุสรณ์ที่เป็นมงคลของสองพระองค์” โดยเปิดให้บริการรักษาผู้ป่วยตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา

Submitted by tcepadmin on Thu, 2018-03-15 08:40

เรียน ท่านกรรมการบริหารวิทยาลัย หัวหน้าภาควิชา หัวหน้ากลุ่มงาน หัวหน้าหน่วยงาน วุฒิแพทย์ฉุกเฉิน วุฒิบัณฑิตวิทยาลัยแพทย์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย ท่านวิทยากร และท่านผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่าน

กระผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมวิชาการประจำปีวุฒิบัณฑิตวิทยาลัยแพทย์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย ครั้งที่ ๗ ในวันนี้

ในแผนยุทธศาสตร์ระบบการแพทย์ฉุกเฉิน 20 ปี ของกระทรวงสาธารณสุขได้เน้นด้านการผลิตและพัฒนากำลังคนสู่ความเป็นมืออาชีพ ต้องมีการพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินครบวงจร และต้องมีการส่งต่อที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังมีมติของคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดปัจจุบันที่ให้มุ่งเน้นการพัฒนาการบริบาลและบริการด้านการแพทย์ฉุกเฉิน

วิทยาลัยแพทย์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทยจึงมีภารกิจสำคัญมากขึ้นเพื่อรองรับนโยบายระดับชาติโดยเฉพาะในด้านการพัฒนาวุฒิแพทย์ฉุกเฉินและบุคคลากรด้านการแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อให้มีองค์ความรู้สาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉินให้ทันสมัย และปฏิบัติภารกิจตามนโยบาย Emergency Care System “ECS 4.0” และ Emergency Room คุณภาพ “ER คุณภาพ” ได้ดียิ่งขึ้น

การจัดการประชุมครั้งนี้เป็นการบริหารจัดการความรู้ในรูปแบบที่ผสมประสานอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกัน ทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนได้รับองค์ความรู้หลากหลายในสาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉินในตลอดระยะเวลาของการประชุมทั้ง 3 วัน ถึงแม้ว่าในการเตรียมงานประชุมครั้งนี้มีเวลาจำกัดและมีอุปสรรคหลายประการทั้งสถานที่จัดงานและงบประมาณ แต่ด้วยความมุ่งมั่นของประธานวิชาการวิทยาลัยแพทย์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทยและคณะทำงานที่เข้มแข็ง ทำให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีและได้ผลสัมฤทธิ์เป็นที่น่าชื่นชมยิ่งในนามของวิทยาลัยแพทย์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทยจึงขอขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้องในความเสียสละเพื่อองค์กรของเรา รวมทั้งขอขอบคุณคณาจารย์วุฒิแพทย์ฉุกเฉินทุกท่านจากสถาบันฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านทุกแห่ง อาจารย์แพทย์จากวิทยาลัยและราชวิทยาลัยต่างๆของแพทยสภาที่ได้มาเป็นวิทยากรในการประชุมครั้งนี้และขอขอบคุณผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่านที่ใช้เวลาอันมีค่ามาเข้าร่วมกิจกรรมที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อวิชาชีพของท่านไม่มากก็น้อย และขอให้รูปแบบการจัดประชุมครั้งนี้ได้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาวิชาการและระบบบริการด้านการแพทย์ฉุกเฉินของประเทศไทยให้ก้าวหน้าต่อไปให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของวิทยาลัยแพทย์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย ที่กำหนดไว้ว่า“ วิทยาลัยแพทย์เฉพาะทางที่เป็นที่ยอมรับของหน่วยงานระดับชาติและภูมิภาคอาเซียนในเวลา ๕ ปี ”

ด้วยได้เวลาอันสมควรแล้วกระผมขอเปิดงานการประชุมวิชาการประจำปีวุฒิบัณฑิตวิทยาลัยแพทย์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทยครั้งที่ ๗ ณ บัดนี้

Copyright © 2022, EM Training Board. Designed by Devsaran.