ไม่มี ความสุขกับชีวิตคู่ Pantip

ภรรยาขอหย่า เหตุผล เนื่องจากไม่มีความสุข หากต้องใช้ชีวิตคู่ดำเนินต่อไป ผมควรต้องทำอย่างไรครับ

ภรรยาขอหย่า เหตุผล เนื่องจากไม่มีความสุข หากต้องใช้ชีวิตคู่ดำเนินต่อไป ผมควรต้องทำอย่างไรครับ
ผมต้องขอโทษ ในบ้างสิ่งผมอาจจะพิมคำผิดไปบ้างนะครับ  เรื่องจะยาวหน่อยครับ
ผมเจอภรรยาผมโดยผ่านทาง facebook แล้วก็นัดเจอกันปกติ แล้วคุยกันเปิดอก เวลาผ่านไป เกือบ 1ปี เราตกลงแต่งงานกันโดยการไปจดทะเบียนสมรสกัน
โดยเห็นเหตุผลที่ว่า ผมต้องการใช้ชิวิต ครอบครัวกับคนนึง แบบจริงจังสร้างครอบครัวไปด้วย พร้อมทั้งบอก ภาระ หนี้ที่มี ให้ทราบ อย่างละเอียด เช่น ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ค่าเลี้ยงดูพ่อแม่ แล้วจะมีแกร๊ป ของเงินที่เหลือ แกร๊ปนี้ ผมจะไม่เป็นคนจัดการบริหาร พร้อมทั้งบอกว่า คนที่เป็นคู่ชีวิตผม ผมไม่ต้องการนำ ใครถึงผมจะเป็นผู้ชาย ที่ผู้หญิงอยากให้นำ แต่ถ้า ถามผมแล้ว ถ้าผมเป็นฝ่ายนำ คุณ(ภรรยาผม)ก็จะไม่ตามผม เพราะเท่าที่รู้จักนิสัย ในความหมาย ผมจะแนะนำด้วยเหตุและผล ถ้าเห็นทางของตัวเขา(ภรรยา)ดีกว่าก็ไปแล้ว ค่อยมาแก้ปัญหาด้วยกัน และเราก็คุยกันเรื่องของการสร้างครอบครัว plan ว่าจะมีลูกปีไหน พร้อมตั้งชื่อ รอ กันแล้ว
หลังจาก นี้ 1 ปี เราจัดงานแต่งงานกัน 
เราซื้อบ้านอยู่ด้วยกัน ทั้งที่ในใจผม ไม่อยากออกมา เนื่องด้วยเรายังไม่พร้อม ในสถานะการเงิน ที่ไม่แน่นอน สำหรับเราสองคน แต่ผมก็เลือกทำความสุข ให้ภรรยาของผม ซื้อบ้านอยู่ด้วยกัน เดิมที่ตกลงว่าจะ ยังไม่ย้ายเข้า บ้านหลังใหม่เนื่องจาก สถานะการเงินเราไม่สามารถ ซื้อของใช้ เข้าบ้านได้เลย สุดท้ายโดยเหตุผล ปัญหาทางบ้านของภรรยาผม มีความจำเป็นจะต้องพา คุณตาที่เลี้ยงดูเขาแทนพ่อแม่ ตั้งแต่เด็กมาอยู่เนื่องจาก แม่ของภรรยา มีปากเสียงกับคุณตาของภรรยาผม แทบทุกวัน
ทางผม จึงตัดสินใจเลือกที่จะใช้พวกบัตรเครดิด ในการซื้อของใช้เข้าบ้าน ประจวบการที่เราสองคน ไม่ระมัดระวัง การใช้บัตร ในการเที่ยวกิน ไปด้วยกัน ผมยอมรับที่ผมพลาด ไม่เคยเข้าไปดูเอกสารการเงินแบบจริงจังๆ จนทำให้หนี้ มันเยอะ จนเกินตัว เพราะผมมั่นใจว่า ภรรยาผมจะสามารถบริหารได้ ผมได้แต่พูดกับภรรยา ว่า ตอนนี้ผมว่าเราใช้เกินแล้วนะ จะไม่ไหวเอา คำตอบที่ได้คือ เขา(ภรรยา)บริษัท ที่เขาทำมั่นคง เงินโบนัสก็ได้ ค่า อื่นๆก็ได้ สินปีก็ปิดได้หมด 
ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมว่าเป็นที่ตัวผมเองละ ที่ไม่เข้าไปเบรกในส่วนนี้ ด้วยเงือนไข ข้อตกลง ก่อนที่เราจะไปจดทะเบียนกัน สุดท้ายสินปีได้โบนัสเดือนเดียว แถมเจอย้ายแผนก ไม่มีค่าอื่นๆที่บอกว่าได้เลย
มันเริ่มที่จะหนักขึ้น พ่อผมป่วยหนักจะต้องใช้เงินก้อนในการรักษา ประมาณ แสนกว่าบาท แต่พีชายของทางผมทำงาน รพ. สามารถ ผ่อนชำระ ได้
แต่เนื่องด้วย สภาวะการเงินของผม คือผม ไม่มี แกร๊ป ที่ว่า ผมก็ต้องบอกภรรยา ว่าจะต้องช่วยเหลือตงนี้ ผมไม่ทราบหลอกว่าเขา(ภรรยา) หามาจากส่วนไหนมาให้ แต่สิ่งที่ผมคิดคือ เราก็ผ่อนไปเลือยๆ ซึ่งมันหน้าจะจบ แต่ผมคงคิดผิด ในเรื่อง 
ต่อมาภรรยาผม ลงทุน เป็นตัวแทนขาย ผลิตภัณฑ์ ลดน้ำหนักเจ้า นึงสุดท้าย สุดท้ายวูป
ซึ่งเวลาต่อมาหลังจากนี้ เราเที่ยวกันน้อยลง กินร้านอาหารดีกันน้อยลงเยอะ ช่วงเวลาผ่านไป ปี3-ปี5 คือระยะ2ปี ผมก็เริ่มเอ๊ะใจทำไหม หนี้บัตรเครดิต ถึงไม่สามารถปิดได้เลยสักใบ แถมบ้างใบผมจำได้ผมเปิดวงเงินที่ 2หมื่นบาท แต่หนี้ที่แจ้งมา 8หมื่นบาท ผมถามภรรยาผมว่ามันเพิ่มได้ คำตอบที่ได้ คือ บอกว่าเขา(ภรรยา)เอาโทรศัพผมไปกดขอเพิ่มวงเงินเอง  ผมก็เลยเสนอวิถี เดือนนี้เราจะปิดที่ใบ ยอมติดโบรู ไปเลย ไม่งั้นมันไม้จบสักใบ 
ผมเข้าใจว่า ภรรยา จะทำตามที่ผมแนะนำ
และโชดดีของทางผม ผมได้งานใหม่ ทำให้ผมได้รับเงินสำรองเลี้ยงชีพ ค่อยข้างเยอะ หลักแสน ผมดีใจมากกับการที่จะได้ปิดบัตร อย่างน้อยใบถึงสองก็ยังดี ผมนำเงินให้ภรรยา พร้อมทั้งบอกว่า ปิดบัตรเลย แต่ภรรยานำไปปิดใบเดียวที่เหลือจ่ายขั้นต่ำ อ้อ อีกอย่างผมเอาเงินก้อนซื้อโทรศัพท์ ให้ภรรยาใช้ด้วย ราคาประมาน 2หมื่น ผมว่ามีความจำเป็นกับเนื้องานที่ต้องใข้ราคานี้  ยังไม่จบเท่านั้น ขอยืมเงิน ที่ผมจะต้องจ่ายงวดรถ เกือบ 15000 ไปหมุนก่อน ทำให้ผมต้องค้าชำระ แล้วจะต้องจ่ายค่าทวนถามเพิ่มอีกเดือนละ 500 กว่าบาทได้ ทุกเดือน บอกว่าโบนัสออกจะคืน สุดท้ายโบนัสออก ทางผมไม่ได้คืน บอกคำเดี่ยวว่าไม่มี เอาไปใช้หนี้ ฝั่งเขาหมดแล้ว
ผมก็ไม่ได้คิดอะไร ปัญหามีให้แก้ บัตรเราก็เริ่มจะปิดได้ตามที่บอกบ้าง มียืมเพือนมาปิดบ้าง แต่ก็ได้แค่ 2ใบ
ในช่วงเวลานี้ ภรรยาผมพูดกรอกหูผมทุกวัน ไม่อยากมีลูก ภาระหนี้สินเยอะ ผมก็ได้แต่บอกว่าเดียวมันจบเอง ทำงานเก็บเงินใช้หนี้ ที่สร้าง เดี่ยวทางผมได้งานมันก็จะดีขึ้นเอง 
พูดทุกวันเรื่องไม่อยากมีลูก วันนึงผมดันหลุด ขึ้นมา อาจจะเพราะ เรื่องงานใหม่ของผมที่มันเครียดกับลูกน้องเ..ี้ยๆๆคนนึง ที่สร้างปัญหาให้ทางผมทุกวัน เรียกได้ว่าสะสม ผมเลยหลุดบอกกะภรรยาผมว่า ทำไหมถึงพูดทุกวันเลย เขา(ภรรยา)ต่อให้ภาระหนี้สิน หมดก็จะไม่มี ผมก็บอกว่า ก่อนแต่งงาน ก่อนจดทะเบียน ตั้งซื่อลูกแล้วนะ ผมเสียใจเป็นนะ ถ้าจะแบบนี้ผมคิดหนักมาก ก่อนที่จะไปจดทะเบียนหรือแต่งงานด้วย นี่คือ คำพูดที่ผมหลุด อาจจะด้วย ภาวะที่ผมเคลียดเรื่อง ลูกน้องสากกะเบือ ทำให้ภรรยาผมร้องไห้ ตลอด ผมก็ได้แต่ ผมขอโทษ ในสิ่งที่ทำให้ภรรยาเสียใจ แต่ผมก็เสียใจเหมือนกัน แล้วทางผมก็บอกว่า เราต้องพยายามกันก่อนถ้ามี ก็คือมี ถ้าไม่มีก็คือไม่มี ผมก็อยู้กะเขา(ภรรยา)ตลอด เลี้ยงหมาเลี้ยงแมว ก็ได้ คำตอบ ณ วันนั้น เรื่องนี้ทำให้ผมไม่มีอะไรภรรยา ตลอด 2-3 ปีเต็ม ผมได้แต่ฝันเปียก ครับตื่นเช้าต้องรีบไปซักกากเกง ทุกครั้ง ถามว่าผมสะกิดภรรยา ไหม ผมสะกิด แล้วก็เจอปฎิเสธ ตลอดเวลา ที่ผ่านผมว่าเขากัวการมีลูก ok ผมก็รับได้ เพราะถ้าลูกเกิดมาลำบากแน่ๆ เพราะหนี้ บัตรยังไม่หมด ถ้าพ่อป่วยแม่ป่วย ปัญหาก็จะตาม
ตลอดระยะเวลาที่เกิดขึ้นทั้งหมดเราสองคนผมกับภรรยาใช้เวลาอยู่ด้วยกันตลอดนะครับ ไปทำงานพร้อมกันกลับบ้านพร้อมกันทุกวัน ไปไหนไปด้วยกันตลอด จนแล้ว
ต้นปี 2020 มีการเปลี่ยนแปลง ภรรยาผมได้ปรับตำแหน่ง+กับงานที่หนักขึ้น
ส่วนตัวผมเดือนมีนาคมปลายเดือนได้งานใหม่ เงินเดือนที่ได้เยอะอยู่เกือบแสนเลยก็ว่าได้ มันเยอะสำหรับผมนะครับผมว่า แต่สุดท้าย ผมไม่กล้าเสี่ยงที่จะไปเริ่มงานใหม่ กัวไปแล้ว เจอเท เนื่องจากปัญหาของโควิด ผมทำงานด้านโรงแรมครับ กระทบโดยตรง
ผมเลือกอยู่ต่อที่เดิม เดือนแรกก็เจอหักเงินเดือน 3 -5วัน
เดิอนที่ 2 work from home แต่ผมยังต้องไปทำอยู่เพราะติดงาน project แต่ก็เจอลดเงินเดือน 25% แต่มาบวกๆๆแล้วเจอหักค่าโน้นนี่นั้น มัน เกิอบ 40 %เลย
ตอนนั้นผมแย่เอามากๆๆเลย โชดดีรถ ผมของ toyota สามารถ ลดหย่อนได้ ผมดีใจ มากผมกะว่าจะเอาเงินตงนี้สามเดือนไปปิดบัตรเคดิต แต่ผมก็ต้องไปคุยกะบ้านผม ซึ่งพี่ชายผม ok ไม่มีปัญหาอะไร ผมบอกว่า ผมจะไม่ขอจ่ายค่ายาพ่อ กะค่าเลียงดูพ่อแม่ ครึงนึงกะพี่ชาย พี่ชายผม ok แต่ผมบอก แม่ผมซึ่งแม่ พูดมาคำเดี่ยวจะให้แม่กินข้าวกะน้ำปลาเหรอ ในเมือพูดแบบนั้น ภรรยาผมก็รับรู้เรื่อง ภรรยาก็บอกให้เงินแม่ตามปกติ ทั้งสามเดือน สุดท้ายเดือนที่สี่ มีเจ้าหนี้ไปทวนถึงบ้านผม หนี้บัตร พ่อกะแม่อยู่บ้าน ทราบเรื่องแล้วก็มาถามผมว่าทำถึงต้องให้เขามาทวน ผมก็เลยบอกว่า ผมไม่สาราถให้ได้แล้วต้องไปจ่ายค่ารถ แม่ผมไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ว่าผม ผมอาจจะผิดที่ชี้แจ้งเยอะไปหน่อย เพราะผมไปบอกว่าเอามารักษาพยาบาล พ่อแม่ป่วย พาไปเที่ยวด้วยกันละ  ทางแม่ผมก็ต่อว่าภรรยาผม ร่วมถึงพ่อผมด้วย แต่มีสิ่งนึ่ง พ่อผมพูดมาคำนึง "มิงอย่าหลงให้มากหนักมิงดูไม่ออกเลยเหรอ"พ่อพูดเสร็จตัดสายผม ทิ้งผมไม่ได้คิดอะไรเลย ผมรู้แต่ผมทำหน้าที่บกพร่องในเรื่องนี้ ผมโชดดีที่ พี่ชายเข้าใจผม แล้วประสาน รอยร้าวได้ดี แต่ลึกๆผมเจ็บปวดมาก ตั้งแต่ผมทำงานตลอด14ปี ได้ก็มี ครั้งนี้ละที่ผมให้พ่อแม่ไม่ได้เพราะโควิด เพราะตัวผมเองมากกว่า 
เรื่องมันไม่จบแค่นั้น โรงแรมผมเริ่มปลดพนักงานออก  1 ในนั้นคิอลูกน้องผม ผมนี่รู้สึกดีใจนะ แต่ก็รู้ว่าจะต้องเหนื่อยเพิมขึ้นแน่นอน แต่เหนื่อยกาย ดีกว่าเหนื่อยใจกับปัญหาที่ลูกน้องสร้างขึ้นทุกวัน เวลาผ่านไปเกือบสองอาทิต ผม clear งานของลูกน้องได้เกือบหมด อาจจะมีหมกเม็ดที่ลุกน้องสร้างไว้ แต่ก็ถือว่าไปได้ดีแล้ว ผมก็สามารถทำงานได้อย่างสบายมากขึ้น เงินเดือนลด แต่ทำงานแล้วไม่ปวดหัว แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะดีเพราะภาระหนี้ อยู่
ในส่วนของภรรยา ผมก็เริ่มทำงานหนักขึ้น กลับบ้านดึกๆ ทุกวัน จนผมต้องกลับก่อนแล้ว ค่อยออกมารับ ปกติภรรยาผมจะถ่ายรูปหรือ vdo call คุยกันเสมอหน้างาน ถ้าผิดเวลา 
แต่แล้วมีช่วงนึงบอกไปตีแบต ลดความอ้วนบ้าง ทำงานดึกบ้าง แล้วก็มีไม่กลับ แต่ส่งรูปมาให้ดูตลอด แต่มีอยู่วันนีง ส่งรูปตีแบต ซึงมันเป็นรูปเดิม เมือครั้ง เคยให้ผมดูว่าวันนึงไปตี ผมจำได้แต่ผมไม่พูดอะไร
หลังจากนั้น ไม่กี่วัน บอกว่าขอเลิกกะผม  ขอหย่า เนื่องจากไม่มีความสุข หากต้องใช้ชีวิตคู่ดำเนินต่อไป 
ผมถามกลับไปว่า ขอโอกาสให่ผมได้ไหม ผมยังไมทราบเลยว่าผมต้องแก้ไข อะไรในสิ่งที่ผมทำผิดพลาด ทำให้ภรรยาผมไม่มีความสุข 
ภรรยาผมตอบว่า ผมเป็นคนดีๆคนนึง ที่ดีที่สุด 
ผมตอบกลับว่า ถ้าเป็นผม ในเมือเป็นคนดีที่สุด ทำไหมไม่หาทุกวิถีทางในการรักษาละ ผมบอกว่าภรรยา คุณไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด แต่เป็นสิ่งที่พอดีสำหรับผม ผมอยู่ด้วยแล้วผมมีความสุข แล้วอีกอย่างเรามาไกลมาก เราสร้างทุกอย่างมาแล้ว หมาแมวเราก็มี จะต้องทำยังไง
ภรรยาผมตอบว่า เพราะว่าเราจดทะเบียนแต่งงาน งั้นเหรอ
ผมก็ตอบว่า ใช่เราแต่งงานกันแล้วนะ เราไม่ใช่สมัย วัยรุ่น (ในใจของผมก็ยืนให้เป็นกลางคิดเหตุผลหลายอย่างว่าเพราะอะไร)
ผมก็ตอบว่า  เอาตรงๆคุณมีคนอื่นเหรอป่าวถ้ามี ผมจะไปทันที่
ภรรยาผมตอบว่า ไม่มี เขาไม่ทำเรื่องแบบนั้นกับผมแน่ๆ (เพราะผมเคยเล่าเรื่อง แฟน เก่าผม พาผู้ชายมานอนที่ห้อง แล้วผมไปเจอ)
ผมก็ได้แต่ถามว่า ทำยังไง ที่เราอยู่ด้วยต่อแล้วจะมีความสุข ผมไม่ได้คำตอบๆใดๆกับภรรยาผมเลย แล้วเขาก็เดินจากไป วันรุ่งก็ตื่นไปทำงานปกติ ตอนนี่เราแยกกันนอนคนละห้อง
สุดท้าย ใกล้สุดท้ายละครับ ภรรยาผมบอกว่าจะขอเปลี่ยนช่อและนามสกุล ซึ่งภรรยามาใช้นามสกุลผม แต่อ้างว่าจะต้องไปเซนใบหย่า ก่อนผมบอกว่ามันไปเปลี่ยนที่ทะเบียนราช ไม่ใช่เหรอใบหย่าที่หลังก็ได้ไม่ใช่เหรอ
สุดท้ายผมยอมไปที่อำเภอที่จะเซนใบหย่าจริงๆ แต่ไปกันสองคน อำเภอบอกว่าต้องหา พยาน มาด้วย

เหรียญมีสองด้าน ผมเล่ามาทั้งหมดอาจจะมีอีกด้านที่ผมมองไม่เห็นตัวเอง แต่เรื่องที่พิมทั้งหมดคือเรื่องจริง แล้ว อีกอย่าง ผมไม่เคยเกเร กินเหล้า สูบบุหรี่ หรือมีเรื่องชู้สาว เพราะผมโกหกไม่เก๋ง ภรรยาก็เป็นไอที ผมก็เป็นไอที มันปิดไม่มิด แต่ผมเลือกที่ไม่ดูกัววันนึงเจอแล้วทำใจไม่ได้มากกว่า ที่ว่าหมายถึงโทรศัพท์ส่วนตัวนะครับ

คำถาม ตรงนี้ละที่ผมอยากได้คำตอบ ผมควรจะต้องทำยังไงต่อดี ครับ เซนใบหย่า หรือ ไม่เซนใบหย่า 
ผมล้มเพราะไม่มีการเตรียมตัวที่ดีผมเข้าใจตัวผมเอง แต่ผมได้โทษให้โควิด เป็นแพะ สำหรับเรื่องนี้ เพราะผมมีเงินเดือนที่ไม่ได้ตามปกติ
ขอบคุณครับที่อ่าน แล้วตอบผมครับ อาจจะทำให้เสียเวลา แต่ผมต้องขอขอบคุณจริงๆครับ