รายละเอียดสินค้า เหรียญในหลวงนั่งบังลังค์ เนื้อทองคำขัดเงา ปี2539 กระทรวงมหาดไทย เหรียญยอดนิยม สภาพสวยพร้อมกล่องเหรียญในหลวงนั่งบัลลังค์ ฉลองครองราชย์ 50 ปี พ.ศ. 2539 เนื้อทองคำขัดเงา น้ำหนัก 15.2 กรัม ด้านหลังเป็นตราตรีจักร กว้างประมาณ 2.4 ซ.ม. สูง 4.0 ซ.ม. จัดสร้างโดยกระทรวงมหาดไทย ปี 2539 ในปี พ.ศ.2539 นั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชสมบัติครบ 50 ปี กระทรวงมหาดไทยสมัยนั้น ท่าน พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และมี ท่านปลัดอารีย์ วงศ์อารยะ เป็นปลัดกระทรวง ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง ตามคำสั่งที่ 2708/2537 ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2537 ส่วนใหญ่มีผู้อำนวยการกองต่างๆ และผู้แทนกรมในสังกัดกระทรวงมหาดไทยเป็นคณะกรรมการ ส่วนผมเข้าไปเป็นกรรมการในส่วนของกรมแรงงาน และฐานะผู้มีประสบการณ์ในการสร้างเหรียญมาก่อน โดยการชักชวนจาก ท่านณัฏฐ์ ศรีวิหค คณะกรรมการชุดนี้มี ท่านประภาษ บุญยินดี (ตำแหน่งหลังสุดเป็น รองปลัดกระทรวงมหาดไทย) ขณะนั้นเป็นผู้อำนวยการกองกลางกระทรวงมหาดไทย เป็นเลขานุการของคณะกรรมการ หมายถึงเป็นเจ้าของงานหรือแม่งานก็ว่าได้ และ คุณนฤมล ปาลวัฒน์ (ตำแหน่งหลังสุดเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน) หัวหน้าฝ่ายสวัสดิการและเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เป็นผู้ช่วยเลขานุการ โดยรูปปั้นนั้นได้มอบให้ อาจารย์เศวต เทศน์ธรรม เป็นผู้ปั้น ส่วน เหรียญประทับบัลลังก์ ( เหรียญนั่งบัลลังก์ ) นั้นมอบให้ โรงงานง้วนจั๊ว เป็นผู้ดำเนินการ ให้ช่างชัย ศรีรองเมือง เป็นผู้แกะแม่พิมพ์ จำนวนสร้าง เหรียญประทับบัลลังก์ และ รูปปั้นประทับบัลลังก์ คือ 1. รูปปั้นประทับบัลลังก์ เนื้อโลหะ จำนวน 25,390 องค์ 2. เหรียญประทับบัลลังก์ (เหรียญนั่งบัลลังก์ ) ประกอบด้วย 2.1 เนื้ออัลปาก้า 5,000,000 เหรียญ 2.2 เนื้อทองคำ 25,300 เหรียญ 2.3 เนื้อเงิน 50,000 เหรียญ เหรียญนี้ได้ทำพิธีมังคลาภิเษกที่ โบสถ์วัดรังษี (ในวัดบวรนิเวศวิหาร) เนื่องจากเหรียญมีจำนวนมากเอาเข้าปลุกเสกที่ โบสถ์วัดบวรนิเวศวิหารไ ม่ได้ ต้องเอามาทำพิธีที่ โบสถ์วัดรังษี เพื่อเอารถสิบล้อขนเหรียญจำนวน 5,000,000 เหรียญ ไปวางไว้ที่สนามบาสเกตบอล โรงเรียนวัดบวรฯ แล้วโยงสายสิญจน์จากใน โบสถ์วัดรังษี ซึ่งอยู่ใกล้กันนั้นมาได้ สำหรับเหรียญทองคำและเงินเอาไว้ในโบสถ์ พร้อมพระบรมรูปปั้นจำนวนหนึ่ง พระที่มาทำพิธีมังคลาภิเษกเท่าที่ผู้เขียนจำได้มี สมเด็จพระญาณสังวรฯ เป็นประธาน ส่วนเกจิอาจารย์ที่มาร่วมพิธีนี้เท่าที่จำได้ คือ 1. หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม 2. หลวงพ่อลำใย วัดลาดหญ้า 3. หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ 4. หลวงพ่อดี วัดพระรูป 5. หลวงพ่อหงษ์ วัดเพชรบุรี 6. หลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง 7. หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติ ส่วนที่เหลือผู้เขียนจำไม่ได้อีก 2 องค์ สอบถามจากกรรมการชุดนั้นไม่มีใครจำได้แน่นอน เหรียญยอดนิยมนี้จัดสร้างจำนวนมาก แต่หายากมาก และที่สำคัญเหรียญสวยๆยิ่งหายากมากครับ เหรียญเสมาที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวันที่ 5ธันวาคม2539 และเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ50 ปีกาญจนาภิเษกเป็นเหรียญยอดนิยมอีกเหรียญหนึ่งที่นับวันจะหายากและในอนาคตจะมีมูลค่าเพิ่มยิ่งขึ้น ควรคู่แก่การครอบครองและมีไว้สักการะบูชา ข้อมูลเพิ่มเติม : https://lanpothai.blogspot.com/2016/11/50-2539.html
11 เหรียญ 3 รอบ กะไหล่ทองเดิมๆ สวยๆ หายากครับ ราคา 1350 ส่ง EMS 50 บาท สภาพเดิมๆ สวยๆ ตวอักษรคมชัดครับ ไม่ผ่านการใช้งาน รับประกันแท้ หากเช็คแล้วเก๊ คืนเต็มครับ เหรียญอนุสรณ์มหาราช รัชกาลที่ ๙ เฉลิมพระชนม์พรรษาครบ ๓ รอบ ปี ๒๕๐๖ เหรียญอนุสรณ์มหาราชรัชการที่ 9 ครบ 3 รอบ ปี 2506 หรือที่คนชอบเรียกว่า เหรียญเสมา 3 รอบ รัชกาลที่ 9 เหรียญนี้เป็นเหรียญที่ระลึก ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระชนมายุครบ 3 รอบเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2506 เป็นเหรียญที่ได้ผ่านพิธีการปลุกเสกอย่างยิ่งใหญ่ ณ อุโบสถวัดราชบพิธ ถึง 2 วาระด้วยกัน โดยพระคณาจารย์ที่โด่งดังในยุคนั้น เช่น -อาจารย์ทิม วัดช้างไห้ -หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม -หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม -พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ -หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก -พระสุนทรศีลสมาจาร (หลวงพ่อผล) วัดหนัง -หลวงพ่อทบ วัดสว่างอรุณ ชนแดนฯลฯ พิธีปลุกเสกใหญ่ ณ อุโบสถวัดราชบพิธ 2 วาระด้วยกันคือ 1. ครั้งแรกวันที่ 29-30 พ.ย.2506 2. ระหว่างวันที่ 5-6-7 เมษายน 2507 พิธีครั้งที่ 1 -รายนามพระคณาจารย์ที่มาปลุกเสก วันที่ 29-30 พฤศจิกายน 2506 ณ พระอุโบสถวัดราชบพิธ 1. หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา 2. หลวงพ่อพระครูโพธิสารประสาธน์ วัดโพธิสัมพันธ์ บางละมุง ชลบุรี 3. หลวงพ่อพระวรพจรน์ปัญญาจารย์ วัดอรัญญิกาวาส ชลบุรี 4. หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน แม่ทะ ลำปาง 5. หลวงพ่อพระราชหระสิทธิคุณ วัดราชธานี สุโขทัย 6. หลวงพ่อเงิน (พระราชธรรมาภรณ์ )วัดดอนยายหอม นครปฐม 7. หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม 8. พ่อท่านคล้าย วัดสวนขวัญ ฉวาง นครศรีธรรมราช 9. พระครูวิสัยโสภณ (อาจารย์ทิม) วัดช้างไห้ ปัตตานี พิธีครั้งที่ 2 -รายนามพระคณาจารย์ที่ปลุกเสกวันที่ 5 เมษายน 2507 1. พระสุเมธมุนี เจ้าคณะวัดบางหลวง ปทุมธานี 2. พระสุนทรศีลสมาจาร (หลวงพ่อผล) วัดหนัง ธนบุรี 3. พระครูปลัดบุญรอด วัดประดู่พัฒนาราม นครศรีธรรมราช 4. หลวงพ่อทบ วัดสว่างอรุณ ชนแดน เพชรบูรณ์ 5. พระครูนนทกิจวิมล ( หลวงพ่อชื่น) วัดตำหนักเหนือ นนทบุรี 6. หลวงพ่อบัว วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี 7. พระครูพุทธมนต์วราจารย์ (พระปลัดสุพจน์) วัดสุทัศน์ พระนคร 8. พระครูบวรธรรมกิจ (หลวงปู่เทียน) วัดโบสถ์เชียงราก ปทุมธานี 9. หลวงพ่อหอม วัดขากหมาก ระยอง -รายนามพระคณาจารย์ที่ปลุกเสกวันที่ 6 เมษายน 2507 มีดังนี้ 1. พระครูพิทักษ์วิการกิจ (หลวงพ่อสา) วัดราชนัดดา พระนคร 2. พระครูสถาพรพุทธมนต์(หลวงพ่อสำเนียง) วัดเวฬุวนาราม บางเลน นครปฐม 3. พระครูธรรมิตรนุรักษ์ วัดเขาหลัก ท่าศาลา นครศรีธรรมราช 4. พระครูรักขิตวันมุนี (หลวงพ่อถีร์) วัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี 5. พระเทพสังวรวิมล (หลวงพ่อเจียง) วัดเจริญสุขาราม สมุทรสงคราม 6. หลวงพ่อสำเภา วัดหงส์รัตนาราม บางกอกใหญ่ ธนบุรี 7. พระครูบาวัง วัดบ้านเด่น จ.ตาก 8. พระมุจรินทร์โมลี (หลวงปู่ดำ) วัดมุจรินทร์ หนองจิก ปัตตานี -รายนามพระคณาจารย์ที่อาราถนามาปลุกเสกวันที่ 7 เมษายน 2507 1. หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก บางไทร อยุธยา 2. พระครูโพธิสารประสาธน์ (อาจารย์บุญมี) วัดโพธิสัมพันธ์ ชลบุรี 3. พระวราพจน์ปัญญาจารย์ (หลวงพ่อวัดป่า) วัดอรัญญิกาวาส ชลบุรี 4. หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน แม่ทะ ลำปาง 5. พระราชประสิทธิคุณ (หลวงพ่อทิม) วัดราชธานี สุโขทัย 6. พระราชธรรมาภรณ์ (หลวงพ่อเงิน) วัดดอนยายหอม นครปฐม 7. หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม 8. พระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อเมี้ยน) วัดพระเชตุพน พระนคร 9. พระครูวิสัยโสภณ (อาจารย์ทิม) วัดช้างไห้ โคกโพธิ์ ปัตตานี นอกจากนี้ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี(สมเด็จย่า) ยังได้นำเหรียญมหาราชนี้ส่วนหนึ่งพระราชทานแก่ ตำรวจตระเวนชายแดนและคณะแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ใน พอ.สว.(แพทย์อาสาสมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์) โดยด้านหลังเหรียญจะตอกอักษรพระปรมาภิไธยย่อว่า "สว"ไว้ด้วย ส่วนใหญ่จะอยู่ทางขวามือด้านหลัง เหรียญที่สมเด็จย่า นำไปพระราชทานนี้ ได้ผ่านการอธิษฐานจิตจากพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร แห่งวัดอุดมสมพร อีกครั้งหนึ่ง ทำให้การเล่นหาแพงกว่าเหรียญที่ไม่มีคำว่า "สว" เหรียญอนุสรณ์มหาราชนี้ ได้ผ่านพิธีพุทธาภิเษกมาแล้วที่วัดพระศรีศาสดาราม(วัดพระแก้ว)จากพระสงฆ์ผู้ทรงสมณศักดิ์ทำให้เหรียญมหาราชนี้ ปรากฏกฤษดาภินิหารด้านแคล้วคลาดจากภยันตรายอยู่เสมอๆจนเป็นที่กล่าวขวัญทั่วไป
12 เหรียญเหรียญครุฑ 2517 คัดสวย 2 เหรียญอยู่ในตลับเดียวกัน พร้อมตลับ ราคา 450 ส่ง EMS 50 จุดสังเกตุหากเป็นเหรียญเดียวพอพลิกด้านหลังครุฑจะกลับหัวครับ รับประกันแท้ หากเช็คแล้วเก๊ คืนเงินเต็มครับ ความศักดิ์สิทธิ์ของ"เหรียญบาทพญาครุฑปี๑๗" พกติดตัวไว้ ป้องกันสิ่งลี้ลับ ไม่ต้องผ่านพิธีกรรมการปลุกเสกแต่อย่างใด บรรดาพรานป่าจะไม่นิยมแขวนพระเข้าป่า เพราะเชื่อว่า พระเครื่องมีคุณทางเมตตาหรือแคล้วคลาด หากแขวนพระเข้าป่าจะไม่ได้เจอสัตว์ป่าเลย จะแคล้วคลาดไปหมด ด้วยเหตุนั้น พรานป่าจึงไม่คล้องพระเข้าป่า พรานสุขเล่าว่า...จะพกถุงพลาสติกใส ซึ่งข้างในบรรจุด้วยยาสูบขี้โย ใบตองอ่อนตากแห้ง เปลือกมะขามไว้บดผสมยาสูบ และมีสิ่งหนึ่งที่พรานสุขใช้เป็นเครื่องราง พกติดตัวเข้าป่าโดยเก็บไว้ในซองยาสูบของแก นั่นคือ..."เหรียญบาทพญาครุฑ" ลักษณะตามภาพประกอบเรื่อง เป็นเหรียญที่แกพกเข้าป่าเป็นประจำ "แล้วลุงสุขใช้เป็นเครื่องรางยังไงครับ" การเข้าป่าและพักค้างคืนในป่านั้น พรานลุงสุขบอกว่าเต็มไปด้วยสิ่งลี้ลับ ตามคำเล่าขานของพรานป่าและคนตัดไม้ จากปากต่อปากของพรานป่าและคนตัดไม้ เล่าขานสืบต่อกันมาว่า หากจะนอนในป่า ไม่ว่าบริเวณใดก็ตาม ให้ตอกตราครุฑ โดยตอกให้ด้านที่เป็นรอยครุฑติดไว้เหนือบริเวณที่เราจะนอน ตอกเสร็จแล้วเก็บเหรียญพกไว้เหมือนเดิม เช่นเดียวกับพรานสุข ในค่ำคืนแห่งการเผชิญกับผีป่านางไม้ พรานสุขเอง ได้ขูดเปลือกโคนไม้ใหญ่ ขูดให้เรียบ แล้วตอกตราครุฑประทับติดไว้ เพื่อป้องกันสิ่งลี้ลับตามคำพรานและคนตัดไม้บอก และก็ได้ผลเป็นที่ปรากฏ...จากเผชิญกับ "ผีป่า..นางไม้.." "เหรียญบาทพญาครุฑ" จึงเป็นเครื่องรางที่ผู้เดินป่า พรานไพร คนตัดไม้ พกติดตัวเข้าป่าเพื่อป้องกันสิ่งลี้ลับ...แค่เหรียญบาทตราครุฑเท่านั้น ไม่ต้องผ่านพิธีกรรมการปลุกเสกแต่อย่างใด อีกเรื่องหนึ่งซึ่งผู้เฒ่าท่านหนึ่งเคยเล่าให้ผมฟังว่า สมัยที่ท่านเคยตัดไม้และล่องไม้ไปตามแม่น้ำปิง ไม้บางท่อนไม่ยอมไหลไปตามกระแสน้ำ บางท่อนอยู่นิ่งลักษณะคล้ายการไหลทวนน้ำ ผู้เฒ่าท่านนี้ จึงเอา "เหรียญบาทตราครุฑ" ตอกลงไปที่หัวไม้ท่อนนั้น ปรากฏว่า ไม้ท่อนนั้นพลิกตัวหมุนกลิ้งไปมาอย่างน่าแปลกประหลาด ก่อนจะไหลไปตามกระแสน้ำ เช่นเดียวกับหมอผีบางท่านหากตรวจพบว่า "ผีสัมภเวสี" เข้ามาสิงสู่ในเสาบ้าน ทำให้คนในบ้านอยู่ไม่เป็นปกติสุข "หมอผี" ก็จะตอกเหรียญตราครุฑให้จมหายไปในเนื้อไม้ทั้งเหรียญ เป็นการสะกดภูตผีให้อยู่ในภพในภูมิ ไม่ให้ออกมารบกวนใคร...และยังมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับปาฏิหาริย์เหรียญบาทตราพญาครุฑ ในส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งลี้ลับจากแนวป่าดิบหรือจากประสบการณ์ในชีวิตประจำวันอยู่อีกมาก แล้วแต่นักนิยมป่าหรือท่านใด จะได้พบได้เจอ "เหรียญบาทตราพญาครุฑ" จึงนับว่าเป็นวัตถุที่มีความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเองมากมายนัก
13 เหรียญ 3 รอบ ราคา 420 ส่ง EMS 50 บาท สภาพผ่านการใช้งาน รับประกันแท้ หากเช็คแล้วเก๊ คืนเต็มครับ เหรียญอนุสรณ์มหาราช รัชกาลที่ ๙ เฉลิมพระชนม์พรรษาครบ ๓ รอบ ปี ๒๕๐๖ เหรียญอนุสรณ์มหาราชรัชการที่ 9 ครบ 3 รอบ ปี 2506 หรือที่คนชอบเรียกว่า เหรียญเสมา 3 รอบ รัชกาลที่ 9 เหรียญนี้เป็นเหรียญที่ระลึก ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระชนมายุครบ 3 รอบเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2506 เป็นเหรียญที่ได้ผ่านพิธีการปลุกเสกอย่างยิ่งใหญ่ ณ อุโบสถวัดราชบพิธ ถึง 2 วาระด้วยกัน โดยพระคณาจารย์ที่โด่งดังในยุคนั้น เช่น -อาจารย์ทิม วัดช้างไห้ -หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม -หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม -พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ -หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก -พระสุนทรศีลสมาจาร (หลวงพ่อผล) วัดหนัง -หลวงพ่อทบ วัดสว่างอรุณ ชนแดนฯลฯ พิธีปลุกเสกใหญ่ ณ อุโบสถวัดราชบพิธ 2 วาระด้วยกันคือ 1. ครั้งแรกวันที่ 29-30 พ.ย.2506 2. ระหว่างวันที่ 5-6-7 เมษายน 2507 พิธีครั้งที่ 1 -รายนามพระคณาจารย์ที่มาปลุกเสก วันที่ 29-30 พฤศจิกายน 2506 ณ พระอุโบสถวัดราชบพิธ 1. หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา 2. หลวงพ่อพระครูโพธิสารประสาธน์ วัดโพธิสัมพันธ์ บางละมุง ชลบุรี 3. หลวงพ่อพระวรพจรน์ปัญญาจารย์ วัดอรัญญิกาวาส ชลบุรี 4. หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน แม่ทะ ลำปาง 5. หลวงพ่อพระราชหระสิทธิคุณ วัดราชธานี สุโขทัย 6. หลวงพ่อเงิน (พระราชธรรมาภรณ์ )วัดดอนยายหอม นครปฐม 7. หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม 8. พ่อท่านคล้าย วัดสวนขวัญ ฉวาง นครศรีธรรมราช 9. พระครูวิสัยโสภณ (อาจารย์ทิม) วัดช้างไห้ ปัตตานี พิธีครั้งที่ 2 -รายนามพระคณาจารย์ที่ปลุกเสกวันที่ 5 เมษายน 2507 1. พระสุเมธมุนี เจ้าคณะวัดบางหลวง ปทุมธานี 2. พระสุนทรศีลสมาจาร (หลวงพ่อผล) วัดหนัง ธนบุรี 3. พระครูปลัดบุญรอด วัดประดู่พัฒนาราม นครศรีธรรมราช 4. หลวงพ่อทบ วัดสว่างอรุณ ชนแดน เพชรบูรณ์ 5. พระครูนนทกิจวิมล ( หลวงพ่อชื่น) วัดตำหนักเหนือ นนทบุรี 6. หลวงพ่อบัว วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี 7. พระครูพุทธมนต์วราจารย์ (พระปลัดสุพจน์) วัดสุทัศน์ พระนคร 8. พระครูบวรธรรมกิจ (หลวงปู่เทียน) วัดโบสถ์เชียงราก ปทุมธานี 9. หลวงพ่อหอม วัดขากหมาก ระยอง -รายนามพระคณาจารย์ที่ปลุกเสกวันที่ 6 เมษายน 2507 มีดังนี้ 1. พระครูพิทักษ์วิการกิจ (หลวงพ่อสา) วัดราชนัดดา พระนคร 2. พระครูสถาพรพุทธมนต์(หลวงพ่อสำเนียง) วัดเวฬุวนาราม บางเลน นครปฐม 3. พระครูธรรมิตรนุรักษ์ วัดเขาหลัก ท่าศาลา นครศรีธรรมราช 4. พระครูรักขิตวันมุนี (หลวงพ่อถีร์) วัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี 5. พระเทพสังวรวิมล (หลวงพ่อเจียง) วัดเจริญสุขาราม สมุทรสงคราม 6. หลวงพ่อสำเภา วัดหงส์รัตนาราม บางกอกใหญ่ ธนบุรี 7. พระครูบาวัง วัดบ้านเด่น จ.ตาก 8. พระมุจรินทร์โมลี (หลวงปู่ดำ) วัดมุจรินทร์ หนองจิก ปัตตานี -รายนามพระคณาจารย์ที่อาราถนามาปลุกเสกวันที่ 7 เมษายน 2507 1. หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก บางไทร อยุธยา 2. พระครูโพธิสารประสาธน์ (อาจารย์บุญมี) วัดโพธิสัมพันธ์ ชลบุรี 3. พระวราพจน์ปัญญาจารย์ (หลวงพ่อวัดป่า) วัดอรัญญิกาวาส ชลบุรี 4. หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน แม่ทะ ลำปาง 5. พระราชประสิทธิคุณ (หลวงพ่อทิม) วัดราชธานี สุโขทัย 6. พระราชธรรมาภรณ์ (หลวงพ่อเงิน) วัดดอนยายหอม นครปฐม 7. หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม 8. พระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อเมี้ยน) วัดพระเชตุพน พระนคร 9. พระครูวิสัยโสภณ (อาจารย์ทิม) วัดช้างไห้ โคกโพธิ์ ปัตตานี นอกจากนี้ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี(สมเด็จย่า) ยังได้นำเหรียญมหาราชนี้ส่วนหนึ่งพระราชทานแก่ ตำรวจตระเวนชายแดนและคณะแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ใน พอ.สว.(แพทย์อาสาสมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์) โดยด้านหลังเหรียญจะตอกอักษรพระปรมาภิไธยย่อว่า "สว"ไว้ด้วย ส่วนใหญ่จะอยู่ทางขวามือด้านหลัง เหรียญที่สมเด็จย่า นำไปพระราชทานนี้ ได้ผ่านการอธิษฐานจิตจากพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร แห่งวัดอุดมสมพร อีกครั้งหนึ่ง ทำให้การเล่นหาแพงกว่าเหรียญที่ไม่มีคำว่า "สว" เหรียญอนุสรณ์มหาราชนี้ ได้ผ่านพิธีพุทธาภิเษกมาแล้วที่วัดพระศรีศาสดาราม(วัดพระแก้ว)จากพระสงฆ์ผู้ทรงสมณศักดิ์ทำให้เหรียญมหาราชนี้ ปรากฏกฤษดาภินิหารด้านแคล้วคลาดจากภยันตรายอยู่เสมอๆจนเป็นที่กล่าวขวัญทั่วไป
14 รูปถ่ายขาวดำ ในหลวงทรงผนวช ราคา 590 บาท ส่งEMS 50 บาท สภาพสวยๆ เดิมๆ ออกวัดบวร อายุเยอะปรอทขึ้นเต็มรูปครับ รับประกันแท้ หากเช็คแล้วเก๊ คืนเงินเต็มครับ
15 เหรียญ 1 บาท ปี 2500 ไม่ผ่านกการใช้งาน ราคา 229 บาท ส่ง EMS 50 บาท สภาพสวยๆ เดิมๆ ไม่ผ่านกการใช้งาน รับประกันแท้ หากเช็คแล้วเก๊ คืนเงินเต็มครับ
16 เหรียญในหลวง 6 รอบ 5 ธันวาคม พ.ศ.2542 เนื้ออัลปาก้า ราคา 229 บาท ส่ง EMS 50 บาท เหรียญในหลวง ที่ระลึกพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 5 ธันวาคม พ.ศ.2542 รับประกันแท้ หากเช็คแล้วเก๊ คืนเงินเต็มครับ
17 เหรียญทรงผนวชรุ่นแรกปี 2508 เนื้อทองฝาบาตรกะไหล่ทอง นิยมเจดีย์เเต็ม หายาก 2450 ส่ง EMS 50 บาท สภาพผ่านการใช้งาน รับประกันแท้ หากเช็คแล้วเก๊ คืนเงินเต็มครับ เหรียญยอดนิยม ที่คนไทยเก็บสะสมครับ ทางวัดบวรฯได้ดำเนินการจัดงานอันเป็นมหา มงคลยิ่ง 4 ประการ คือเมื่อ วันที่ 24 สิงหาคม 2508 เป็นวันมหามงคลที่พึงจารึกเป็นประวัติการณ์พิเศษ ด้วยสมเด็จพระบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ในโอกาสที่มีพระชนมายุเสมอด้วยสมเด็จพระราชบิดา เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมหลวงสงขลานครินทร และได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในการกุศลอีก 3 อย่าง ในวันมหามงคลนี้ อันควรเรียกได้ว่า "จาตุรงคมงคล" อนึ่ง ทางวัดบวรนิเวศวิหาร ได้ขอพระบรมราชานุญาตสร้าง เหรียญพระบรมรูปทรงผนวช มีพระปรมาภิไธย ซึ่งเป็นลายพระหัตถเลขาทรงไว้ในสมุดทะเบียนวัดว่า "ภูมิพลอดุลยเดช ปร. ภูมิพโล" อยู่ภายใต้พระบรมรูป (ถ่ายทำจากลายเซ็นตามจริง) เบื้องบนมีอักษรว่า "ทรงผนวช ๒๔๙๙" ส่วนอีกด้านหนึ่งมีรูปพระเจดีย์วัดบวรนิเวศวิหาร มีอักษรเป็นวงกลมที่ขอบเหรียญว่า "สมเด็จฯสมโภชพระเจดีย์ทองบวรนิเวศ ในมงคลสมัยพระชนมายุเสมอสมเด็จพระราชบิดา ๒๙ สิงห์ พ.ศ. ๒๕๐๘" เหรียญรุ่นแรกทั้งหมด ได้นำเข้าในพิธีพุทธาภิเษก ในวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ.2508 นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ถึง 4 ครั้งคือ ในวันที่ 27 สิงหาคม 2508 เสด็จฯ ทรงบำเพ็ญพุทธาภิเษกครั้งหนึ่ง วันที่ 28 สิงหาคม 2508 เสด็จฯ ในพระราชพิธีกุศลทักษิณานุปทานถวายสมเด็จพระราชบิดาครั้งหนึ่ง วันที่ 29 สิงหาคม 2508 เสด็จ 2 ครั้ง ตอนเช้าเสด็จฯ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระชนมายุเสมอด้วยสมเด็จพระราชบิดา ทรงปฏิบัติพระราชกิจทรงบำเพ็ญพระราชกุศลอีก 3 อย่าง มีทรงประกอบพิธีหล่อพระพุทธรูป ภปร. เป็นต้น พิธีพุทธาภิเษก ได้ประกอบพิธีกันทั้งคืน มีพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณนั่งปรกถึง 5 ชุด ชุดละ 8 องค์ ล้วนแล้วแต่เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ทรงคุณและมีชื่อเสียงโด่งดัง
18 เหรียญเงินหนึ่งบาท ๒๔๖o รัชกาลที่ ๖ อายุ102 ตราช้างไอราพต เดิมๆ สวยครับ ราคา 990 บาท ส่ง EMS 50 บาท เหรียญหนึ่งบาททำด้วยเงินแท้ รัชกาลที่ ๖ พ.ศ.๒๔๖o อายุ 102 ปี คมชัดลึก ขอบหนา ๆ ไม่บิ่น ไม่เยิน สภาพเดิมๆ ชัดทุกสัดส่วนครับ รับประกันแท้ หากเช็คแล้วเก๊คืนเงินเต็มครับ
19 เหรียญในหลวงทรงนั่งบัลลังค์ เนื้อเงิน ราคา 4900 บาท ส่ง EMS 50 บาท สภาพสวยๆ ครับ รับประกันแท้ เหรียญในหลวงทรงนั่งบัลลังค์ เนื้อเงิน พิธีกาญจนาภิเษก 1ใน 9999 เหรียญ กระทรวงมหาดไทยสร้าง พ.ศ.2539 เหรียญดีมีประสบการณ์ .......... เหรียญในหลวงนั่งบัลลังก์ เนื้อเงินสุดนิยม เป็นเหรียญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 จัดสร้างโดยกระทรวงมหาดไทยในวาระเฉลิม ฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี เมื่อ พ.ศ. 2539 เป็นเหรียญดีมีคุณค่า ประสบการณ์ดังในด้านแคล้วคลาดของทหารและตำรวจ .......... การสร้างเหรียญเสมาที่ระลึกพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวเฉลิมฉลองทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ผู้จัดสร้างได้นำเนื้อโลหะชนวนมวลสารโลหะจากพิธีสำคัญๆต่างๆ เช่น ชนวนโลหะพระกริ่งดำรงราชานุภาพในงาน 100 ปี กระทรวงมหาดไทยจัดสร้างเมื่อปีพ.ศ. 2533 และชนวนโลหะพระนิรโรคันตรายที่กระทรวงมหาดไทย และประชาชนทั่วประเทศจัดสร้าง เพื่อน้อมเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2538 และแผ่นจารอาคม จากพระเกจิอาจารย์ทุกภาคทั่วประเทศ ทั้งนี้สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงประกอบพิธีเจริญจิตภาวนาด้วยพระองค์ เอง ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร การจัดสร้างเหรียญครั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าแสดงความจงรักภักดีและเฉลิม พระเกียรติ แด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตลอดกาลนาน รายได้ทั้งหมดนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายโดยพระราชกุศลมูลนิธิชัยพัฒนา .......... เหรียญเป็นรูปทรงใบเสมามีหู ด้านหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับนั่งบนบัลลังก์ ด้านหลังตราสามง่าม และจักร ชื่อเป็นทางการของเหรียญรุ่นนี้เรียกว่า เหรียญทรงเสมา (อาร์ม) ที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเฉลิมฉลองทรงครอง สิริราชสมบัติครบ 50 ปี ในวันที่ 9 มิถุนายน ปีพ.ศ. 2539 .......... กระทรวงมหาดไทยได้ขอบรมราชานุญาตจัดสร้าง พระบรมรูป (อย่างหนึ่ง) และเหรียญเสมาที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯออก แบบโดยกรมศิลปากร เหรียญเสมาที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯด้านหน้าเป็นพระบรมสาทิศลักษณ์ประทับเหนือพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ บนบัลลังก์มีข้อความว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” ด้านหลังเป็นรูปสัญลักษณ์ตราจักรีโดยมีข้อความว่า ”พ.ศ.2539” .......... ถือว่าเป็นเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกที่มีความ นิยมมาก มีประสบการณ์มาแล้วดังที่เป็นข่าวใน นสพ.เดลินิวส์มีผู้ประสบรถคว่ำสภาพพังยับเยินและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.ขณะปฏิบัติหน้าที่ทางภาคใต้ถูกผู้ก่อการร้ายซุ่มยิ่งแต่ไม่ได้รับ อันตรายเนื่องจากคล้องเหรียญนั่งบัลลังก์ เนื่องเพราะสร้างด้วยเจตนาบริสุทธิ์มหากุศลจากมวลสารที่ดีเยี่ยม
20 เหรียญในหลวงทรงนั่งบัลลังค์ เนื้ออัลปาก้า ราคา 239 บาท ส่ง EMS 50 บาท สภาพสวยๆ ไม่ผ่านการใช้งาน มีคราบน้ำทอง พร้อมถุงเดิมๆ เหรียญในหลวงทรงนั่งบัลลังค์ เนื้ออัลปาก้า กระทรวงมหาดไทยสร้าง พ.ศ.2539 เหรียญดีมีประสบการณ์ .......... เหรียญในหลวงนั่งบัลลังก์ เนื้อเงินสุดนิยม เป็นเหรียญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 จัดสร้างโดยกระทรวงมหาดไทยในวาระเฉลิม ฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี เมื่อ พ.ศ. 2539 เป็นเหรียญดีมีคุณค่า ประสบการณ์ดังในด้านแคล้วคลาดของทหารและตำรวจ .......... การสร้างเหรียญเสมาที่ระลึกพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวเฉลิมฉลองทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ผู้จัดสร้างได้นำเนื้อโลหะชนวนมวลสารโลหะจากพิธีสำคัญๆต่างๆ เช่น ชนวนโลหะพระกริ่งดำรงราชานุภาพในงาน 100 ปี กระทรวงมหาดไทยจัดสร้างเมื่อปีพ.ศ. 2533 และชนวนโลหะพระนิรโรคันตรายที่กระทรวงมหาดไทย และประชาชนทั่วประเทศจัดสร้าง เพื่อน้อมเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2538 และแผ่นจารอาคม จากพระเกจิอาจารย์ทุกภาคทั่วประเทศ ทั้งนี้สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงประกอบพิธีเจริญจิตภาวนาด้วยพระองค์ เอง ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร การจัดสร้างเหรียญครั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าแสดงความจงรักภักดีและเฉลิม พระเกียรติ แด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตลอดกาลนาน รายได้ทั้งหมดนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายโดยพระราชกุศลมูลนิธิชัยพัฒนา .......... เหรียญเป็นรูปทรงใบเสมามีหู ด้านหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับนั่งบนบัลลังก์ ด้านหลังตราสามง่าม และจักร ชื่อเป็นทางการของเหรียญรุ่นนี้เรียกว่า เหรียญทรงเสมา (อาร์ม) ที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเฉลิมฉลองทรงครอง สิริราชสมบัติครบ 50 ปี ในวันที่ 9 มิถุนายน ปีพ.ศ. 2539 .......... กระทรวงมหาดไทยได้ขอบรมราชานุญาตจัดสร้าง พระบรมรูป (อย่างหนึ่ง) และเหรียญเสมาที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯออก แบบโดยกรมศิลปากร เหรียญเสมาที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯด้านหน้าเป็นพระบรมสาทิศลักษณ์ประทับเหนือพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ บนบัลลังก์มีข้อความว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” ด้านหลังเป็นรูปสัญลักษณ์ตราจักรีโดยมีข้อความว่า ”พ.ศ.2539” .......... ถือว่าเป็นเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกที่มีความ นิยมมาก มีประสบการณ์มาแล้วดังที่เป็นข่าวใน นสพ.เดลินิวส์มีผู้ประสบรถคว่ำสภาพพังยับเยินและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.ขณะปฏิบัติหน้าที่ทางภาคใต้ถูกผู้ก่อการร้ายซุ่มยิ่งแต่ไม่ได้รับ อันตรายเนื่องจากคล้องเหรียญนั่งบัลลังก์ เนื่องเพราะสร้างด้วยเจตนาบริสุทธิ์มหากุศลจากมวลสารที่ดีเยี่ยม
21 เงินนะโมแท้ เนื้อเงิน หายาก ราคา 690 บาท ส่งEMS 50 บาท สภาพสวยๆ รับประกันแท้ หากเช็คแล้วเก๊คืนเงินเต็มครับ หัวนะโม … จากเงินตราสู่มนตราอันศักดิ์สิทธิ์ ชาวนครศรีธรรมราช รู้จักหัวนะโมในฐานะเครื่องรางของขลัง เชื่อกันว่าหัวนะโมมีพุทธคุณครอบจักรวาล ช่วยเรื่องเมตตามหานิยม โชคลาภและแคล้วคลาด หัวนะโมเป็นวัตถุทรงกลมขนาดเล็ก ด้านหนึ่งประทับด้วยอักขระที่อ่านว่า นอ หรือ นะ ซึ่งเป็นอักษรปารวะของอินเดียโบราณ นะโม อาจหมายถึง อาจหมายถึง “ความนอบน้อม” หรืออาจหมายถึง “หัวใจ” ของคาถาพุทธศาสนาที่ว่า “นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมา สมฺพุทธสฺส” เชื่อว่ารูปสัญลักษณ์ในช่วงแรก ๆ ของนะโม คงมีความหมายไปในทางความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ลัทธิไศวนิกาย ตามหลักฐานทางโบราณคดีก่อนสมัยพระศรีธรรมโศกราช เม็ดโลหะที่เรียกกันว่า “หัวนะโม” อยู่ในฐานะเงินตรา ใช้สำหรับแลกเปลี่ยนสินค้าในอาณาจักร ต่อมาในสมัยพระเจ้าศรีธรรมโศกราช ได้เปลี่ยนฐานะหัวนะโมเป็น “เครื่องรางของขลัง” ตำนานเมืองของนครศรีธรรมราชกล่าวไว้ว่า หลังจากก่อตั้งเมือง ได้มีโรคห่า (โรคระบาดร้ายแรง) เกิดขึ้น พระเจ้าศรีธรรมโศกราช จึงได้ประชุมปรึกษากับพระมหาเถราจารย์และพระมหาพรามหมณาจารย์ทั้งหลาย ซึ่งเห็นพ้องกันว่าควรให้ทำตรานะโมขึ้น แล้วนำไปประกอบพิธีตามคัมภีร์ไสยเวทหรืออาถรรพเวท และนำไปฝังและโปรยตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วเมือง เช่น ประตูเมืองทั้งเก้า ตามกำแพงเมืองทั้งสี่ทิศ พร้อมกับให้ประพรมน้ำมนต์เพื่อปราบโรคห่า เมื่อโปรยตรานะโมทั่วพระนครแล้วก็ให้เอาตรานะโมที่เหลือออกแจกจ่ายแก่พสกนิกร หลังจากโรคห่าหายไป ชาวเมืองทั้งใกล้และไกลอาณาจักรจึงบังเกิดความเชื่อและยึดเอานะโมเป็นเครื่องรางของขลังศักดิ์สิทธิ์ไว้ป้องกันภัยอย่างแพร่หลาย หัวนะโม ได้ผูกพันอยู่กับชาวนครศรีธรรมราชมานานนับพันปี มีการถูกปรับประโยชน์ใช้สอยเรื่อยมา จากใช้เป็นเงินตรามาเป็นเครื่องรางของขลัง และปัจจุบันหัวนะโมถูกนำมาพัฒนาเป็นเครื่องประดับที่เป็นงานศิลปะเชิงช่างชั้นสูงโดยช่างฝีมือในตระกูลช่างนครศรีธรรมราช หัวนะโมจึงไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องรางของขลังเท่านั้น หากแต่ยังเป็นวัตถุอันทรงคุณค่าทางวัฒนธรรมที่แสดงถึงภูมิปัญญาของตระกูลช่างนครศรีธรรมราชอีกด้วย
[/quote] |