เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

รายละเอียดสินค้า เหรียญในหลวงนั่งบังลังค์ เนื้อทองคำขัดเงา ปี2539 กระทรวงมหาดไทย เหรียญยอดนิยม สภาพสวยพร้อมกล่อง

  เหรียญในหลวงนั่งบัลลังค์ ฉลองครองราชย์ 50 ปี พ.ศ. 2539 เนื้อทองคำขัดเงา น้ำหนัก 15.2 กรัม ด้านหลังเป็นตราตรีจักร กว้างประมาณ 2.4 ซ.ม. สูง 4.0 ซ.ม. จัดสร้างโดยกระทรวงมหาดไทย ปี 2539

  ในปี พ.ศ.2539 นั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชสมบัติครบ 50 ปี กระทรวงมหาดไทยสมัยนั้น ท่าน พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และมี ท่านปลัดอารีย์ วงศ์อารยะ เป็นปลัดกระทรวง ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง ตามคำสั่งที่ 2708/2537 ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2537 ส่วนใหญ่มีผู้อำนวยการกองต่างๆ และผู้แทนกรมในสังกัดกระทรวงมหาดไทยเป็นคณะกรรมการ ส่วนผมเข้าไปเป็นกรรมการในส่วนของกรมแรงงาน และฐานะผู้มีประสบการณ์ในการสร้างเหรียญมาก่อน โดยการชักชวนจาก ท่านณัฏฐ์ ศรีวิหค คณะกรรมการชุดนี้มี ท่านประภาษ บุญยินดี (ตำแหน่งหลังสุดเป็น รองปลัดกระทรวงมหาดไทย) ขณะนั้นเป็นผู้อำนวยการกองกลางกระทรวงมหาดไทย เป็นเลขานุการของคณะกรรมการ หมายถึงเป็นเจ้าของงานหรือแม่งานก็ว่าได้ และ คุณนฤมล ปาลวัฒน์ (ตำแหน่งหลังสุดเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน) หัวหน้าฝ่ายสวัสดิการและเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เป็นผู้ช่วยเลขานุการ

    โดยรูปปั้นนั้นได้มอบให้ อาจารย์เศวต เทศน์ธรรม เป็นผู้ปั้น ส่วน เหรียญประทับบัลลังก์ ( เหรียญนั่งบัลลังก์ ) นั้นมอบให้ โรงงานง้วนจั๊ว เป็นผู้ดำเนินการ ให้ช่างชัย ศรีรองเมือง เป็นผู้แกะแม่พิมพ์

   จำนวนสร้าง เหรียญประทับบัลลังก์ และ รูปปั้นประทับบัลลังก์ คือ

1. รูปปั้นประทับบัลลังก์ เนื้อโลหะ จำนวน 25,390 องค์

2. เหรียญประทับบัลลังก์ (เหรียญนั่งบัลลังก์ ) ประกอบด้วย

2.1 เนื้ออัลปาก้า 5,000,000 เหรียญ

2.2 เนื้อทองคำ 25,300 เหรียญ

2.3 เนื้อเงิน 50,000 เหรียญ

    เหรียญนี้ได้ทำพิธีมังคลาภิเษกที่ โบสถ์วัดรังษี (ในวัดบวรนิเวศวิหาร) เนื่องจากเหรียญมีจำนวนมากเอาเข้าปลุกเสกที่ โบสถ์วัดบวรนิเวศวิหารไ ม่ได้ ต้องเอามาทำพิธีที่ โบสถ์วัดรังษี เพื่อเอารถสิบล้อขนเหรียญจำนวน 5,000,000 เหรียญ ไปวางไว้ที่สนามบาสเกตบอล โรงเรียนวัดบวรฯ แล้วโยงสายสิญจน์จากใน โบสถ์วัดรังษี ซึ่งอยู่ใกล้กันนั้นมาได้ สำหรับเหรียญทองคำและเงินเอาไว้ในโบสถ์ พร้อมพระบรมรูปปั้นจำนวนหนึ่ง พระที่มาทำพิธีมังคลาภิเษกเท่าที่ผู้เขียนจำได้มี สมเด็จพระญาณสังวรฯ เป็นประธาน ส่วนเกจิอาจารย์ที่มาร่วมพิธีนี้เท่าที่จำได้ คือ

1. หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม

2. หลวงพ่อลำใย วัดลาดหญ้า

3. หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ

4. หลวงพ่อดี วัดพระรูป

5. หลวงพ่อหงษ์ วัดเพชรบุรี

6. หลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง

7. หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติ

ส่วนที่เหลือผู้เขียนจำไม่ได้อีก 2 องค์ สอบถามจากกรรมการชุดนั้นไม่มีใครจำได้แน่นอน

  เหรียญยอดนิยมนี้จัดสร้างจำนวนมาก แต่หายากมาก และที่สำคัญเหรียญสวยๆยิ่งหายากมากครับ

  เหรียญเสมาที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวันที่ 5ธันวาคม2539 และเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ50 ปีกาญจนาภิเษกเป็นเหรียญยอดนิยมอีกเหรียญหนึ่งที่นับวันจะหายากและในอนาคตจะมีมูลค่าเพิ่มยิ่งขึ้น ควรคู่แก่การครอบครองและมีไว้สักการะบูชา

ข้อมูลเพิ่มเติม : https://lanpothai.blogspot.com/2016/11/50-2539.html

hatoem25 เขียน:สนใจติดต่อ นัท 094-9241542

ID Line : 0949241542

ธนาคารกสิกรไทย สาขาซีคอน บางแค
นาย ธีรศักดิ์ ปานันตา
เลขบัญชี 020-8-41628-6

พร้อมเพย์ : 0949241542

1 เหรียญทรงผนวชรุ่นแรกปี 2508 เนื้อทองฝาบาตรกะไหล่ทอง หายาก 3999 ส่ง EMS 50 บาท

สภาพสวยๆ กะไล่เต็มๆ อักษรคมชัดมากหายากมากครับ

รับประกันแท้ หากเช็คแล้วเก๊ คืนเงินเต็มครับ

เหรียญยอดนิยม ที่คนไทยเก็บสะสมครับ

ทางวัดบวรฯได้ดำเนินการจัดงานอันเป็นมหา มงคลยิ่ง 4 ประการ คือเมื่อ วันที่ 24 สิงหาคม 2508 เป็นวันมหามงคลที่พึงจารึกเป็นประวัติการณ์พิเศษ ด้วยสมเด็จพระบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ในโอกาสที่มีพระชนมายุเสมอด้วยสมเด็จพระราชบิดา เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมหลวงสงขลานครินทร และได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในการกุศลอีก 3 อย่าง ในวันมหามงคลนี้ อันควรเรียกได้ว่า "จาตุรงคมงคล"

อนึ่ง ทางวัดบวรนิเวศวิหาร ได้ขอพระบรมราชานุญาตสร้าง เหรียญพระบรมรูปทรงผนวช มีพระปรมาภิไธย ซึ่งเป็นลายพระหัตถเลขาทรงไว้ในสมุดทะเบียนวัดว่า "ภูมิพลอดุลยเดช ปร. ภูมิพโล" อยู่ภายใต้พระบรมรูป (ถ่ายทำจากลายเซ็นตามจริง)

เบื้องบนมีอักษรว่า "ทรงผนวช ๒๔๙๙" ส่วนอีกด้านหนึ่งมีรูปพระเจดีย์วัดบวรนิเวศวิหาร มีอักษรเป็นวงกลมที่ขอบเหรียญว่า "สมเด็จฯสมโภชพระเจดีย์ทองบวรนิเวศ ในมงคลสมัยพระชนมายุเสมอสมเด็จพระราชบิดา ๒๙ สิงห์ พ.ศ. ๒๕๐๘"

เหรียญรุ่นแรกทั้งหมด ได้นำเข้าในพิธีพุทธาภิเษก ในวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ.2508 นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ถึง 4 ครั้งคือ

ในวันที่ 27 สิงหาคม 2508 เสด็จฯ ทรงบำเพ็ญพุทธาภิเษกครั้งหนึ่ง

วันที่ 28 สิงหาคม 2508 เสด็จฯ ในพระราชพิธีกุศลทักษิณานุปทานถวายสมเด็จพระราชบิดาครั้งหนึ่ง

วันที่ 29 สิงหาคม 2508 เสด็จ 2 ครั้ง ตอนเช้าเสด็จฯ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระชนมายุเสมอด้วยสมเด็จพระราชบิดา ทรงปฏิบัติพระราชกิจทรงบำเพ็ญพระราชกุศลอีก 3 อย่าง มีทรงประกอบพิธีหล่อพระพุทธรูป ภปร. เป็นต้น

พิธีพุทธาภิเษก ได้ประกอบพิธีกันทั้งคืน มีพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณนั่งปรกถึง 5 ชุด ชุดละ 8 องค์ ล้วนแล้วแต่เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ทรงคุณและมีชื่อเสียงโด่งดัง

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

2 เหรียญคุ้มเกล้าเนื้อนวะ ราคา 850 บาท ค่าส่ง EMS 50 บาท

สภาพสวยๆ รับประกันแท้ หากเช็คแล้วเก๊คืนเงินเต็มจำนวนครับ

เหรียญคุ้มเกล้า ในหลวงรัชกาลที่๙ ของดี/พิธีใหญ่ สภาพสวยมาก ของเก็บเก่า

พิธีใหญ่ในหลวงเททอง หลวงปู่โต๊ะ หลวงปู่ดุลย์ หลวงปู่แหวน ร่วมปลุกเสกและเกจิที่มีชื่อเสียงอีกมากมาย

เหรียญคุ้มเกล้า โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปีพ.ศ.2522 โดยมูลนิธิมูลนิธิคุ้มเกล้าฯในพระบรมราชูปถัมภ์

วัตถุประสงค์ :
เนื่องในวาระครบรอบ 30 ปีของการให้บริการโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช เมื่อ 27 มีนาคม 2522 กองทัพอากาศได้ดำริสร้างอาคารอุบัติเหตุและฉุกเฉินขนาดใหญ่สูง 12 ชั้นที่ทันสมัย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลและเสริมสร้างบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมบรรดาผู้ป่วยทั้งหลายไปชั่วกาลนาน โดยสิ้นค่าใช้จ่ายกว่า 600 ล้านบาท จากเงินที่ประชาชนทั่วประเทศร่วมใจกันบริจาค

พุทธลักษณะ
ด้านหน้า : เป็นพระบรมฉายาลักษณ์
ด้านหลัง : มีพระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร.

พิธีลงอักขระแผ่นยันต์อักขระที่ใช้สร้าง เหรียญคุ้มเกล้า&
แผ่นแรกเป็นปฐมฤกษ์ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2526 โดยมี สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นประธาน พร้อมด้วยพระเถระอีก 60รูป ที่ได้มาร่วมสวดเจริญพระพุทธมนต์ในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ภายในพระอุโบสถของวัดราชบพิธ

หลังจากนั้นได้นำแผ่น ทอง นาก เงิน ไปให้พระเถราจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิทั่วประเทศ จารึกอักขระจนครบ 1,250 รูป อาทิ
- พระราชวุฒาจารย์(หลวงปู่ดุลย์)วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์ ลงอักขระวันที่ 16 กันยายน 2526
- พระคุณเจ้าหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ลงอักขระแผ่นทอง นาก เงิน ณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ 19 สิงหาคม 2526
- พระสุพรหมยานเถร (หลวงปู่พรหมจักร)วักพระพุทธบาทตากผ้า ลำพูน ลงอักขระ 21 สิงหาคม 2526
- พระอุดมสังวรเถร(หลวงพ่ออุตตมะ)วัดวังวิเวการาม จ.กาญจนบุรี ลงอักขระ 5 ตุลาคม 2526
- พระสุนทรธรรมภาณี(หลวงพ่อแพ)วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี ลงอักขระวันที่ 3 ตุลาคม 2526
- พระนิโรธรังสี คัมภีรปัญญาจารย์ (หลวงปู่เทสก์) วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ลงอักขระ 5 สิงหาคม 2526
- หลวงพ่อเกษม เขมโก วัดป่าช้าไตรรัตนาราม อ.เมือง จ.ลำปาง ลงอักขระ 22สิงหาคม 2526
- พระครูสุวรรณประดิษฐการ(หลวงพ่อจ้อย)วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ อ.ดอนสัก จ.สุราษฏร์ธานี ลงอักขระ 11 ตุลาคม 2526
- สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร กทม. เป็นต้น

พิธีเททองหล่อ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถเสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปทรงเททองหล่อพระพุทธรูปคุ้มเกล้าฯ ณ วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ซึ่งตรงกับวันที่ ′หลวงปู่แหวน สุจิณโณ′ มีอายุครบ 97 ปี เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2527 โดยมีสมเด็จพระสังฆราช พร้อมด้วยพระเถระผู้ใหญ่ผู้ทรงคุณอีก 9 รูป เจริญชัยมงคลคาถา ในโอกาสนี้ได้ทรงทำพิธีหลอมแผ่นทอง นาก เงิน ที่ได้ทำพิธีลงอักขระแล้ว เป็นชนวนนำไปสร้างวัตถุมงคลคุ้มเกล้าต่อไป

พิธีพุทธาภิเษก
ประกอบพิธีพุทธาภิเษกหมู่อย่างยิ่งใหญ่มโหฬาร 4 วัน 4 คืน ตั้งแต่วันที่ 6-9 เมษายน พ.ศ.2527 โดยทำการโยงสายสิญจน์จากพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามมายังปะรำพิธี ณ ท้องสนามหลวง นิมนต์พระเถรานุเถระผู้ทรงคุณ เกจิอาจารย์ดัง 108 รูปจากทั่วประเทศผลัดเปลี่ยนกันนั่งปรกปลุกเสกตลอดรวม 4 คืน อาทิ
- สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช ประธานฝ่ายสงฆ์จุดเทียนชัย
- สมเด็จพระญาณสังวรฯ เป็นประธานดับเทียนชัย
- หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง
- หลวงพ่อเกษม เขมโก ลำปาง
- หลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวก
- หลวงพ่อสิม วัดถ้ำผาปล่อง
- หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
- หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม
- หลวงพ่อหลุย วัดเจติยาวิหาร
- หลวงปู่ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า
- หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
- หลวงพ่อพุธ วัดป่าสาลวัน
- หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
- หลวงพ่อพวง วัดศรีธรรมาราม
- หลวงพ่อพุฒ วัดมณีสถิตย์
- หลวงพ่อเปรื่อง วัดบางคลาน
- หลวงพ่อฮวด วัดหัวถนนใต้
- หลวงพ่อคำแสน วัดถ้ำผาเงา
- หลวงพ่อโอด วัดจันเสน
- หลวงพ่อบุญมี วัดท่าสะต๋อย เป็นต้น

สำหรับวัตถุมงคลรุ่นคุ้มเกล้า ในวันแรกของพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงจุดไฟพระฤกษ์ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มอบให้พล.อ.อ.ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ ผบ.ทอ. อัญเชิญเข้าขบวนแห่มายังปะรำพิธี จากนั้นในเวลา 19.19 น. สมเด็จพระสังฆราช เสด็จมาจุดเทียนชัยจากไฟพระฤกษ์ เริ่มพิธีพุทธาภิเษกจนถึงรุ่งอรุณของวันที่ 4 สมเด็จพระญาณสังวรฯ เป็นประธานดับเทียนชัย เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีพุทธาภิเษก

“เหรียญคุ้มเกล้า" หรือ มงคลวัตถุชุดคุ้มเกล้าโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช

หากจะหาเหรียญพระบรมรูปรัชกาลที่ ๙ ที่น่าบูชาติดตัวที่สุด ที่ดีเยี่ยมทั้ง เจตนาการสร้าง มวลสาร พิธี และ การพุทธาภิเษก แล้ว อันดับต้นๆ น่าจะเป็นเหรียญคุ้มเกล้า ที่สร้างเพื่อสมนาคุณผู้บริจาคสร้าง อาคารคุ้มเกล้า โรงพยาบาลภูมิพล เพราะว่า

หนึ่ง ....เจตนาในการสร้างดีมาก เพราะเงินที่ได้นำมาสร้างอาคารโรงพยาบาลภูมิพล

สอง.....พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญพระปรมาภิไธยย่อ“ภ.ป.ร.” ประดิษฐานที่ผ้าทิพย์ของพระพุทธรูปบูชา และพระกริ่ง และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สร้างเหรียญพระบรมรูป ด้านหน้ามีพระบรมฉายาลักษณ์ และด้านหลังมีพระปรมาภิไธยย่อ “ภ.ป.ร.” โดยโปรดเกล้าฯให้ช่างในพระองค์เป็นผู้ปั้นแบบ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ทรงรับเป็นองค์ประธานอุปถัมภ์ในการดำเนินงานฝ่ายบรรพชิต สาม...พิธีการลงอักขระแผ่นทองนาก เงิน แผ่นยันต์อักขระที่ใช้สร้าง ได้จัดพิธีลงอักขระ ณ. วัดราชบพิธ โดยสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นองค์ประธานพร้อมด้วย สมเด็จพระราชาคณะและพระเถระผู้ใหญ่รวม ๖๐รูป ทำพิธีลงอักขระแผ่น ทอง นาก เงิน เป็นปฐมฤกษ์ หลังจากนั้นได้นำแผ่น ทอง นาก เงิน ไปให้พระเถราจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิทั่วประเทศ จารึกอักขระจนครบ ๑,๒๕๐ รูป... นับว่าเป็นพิธีที่มีการลงแผ่นทองมากที่สุดในประเทศไทยก็ว่าได้ เกจิอาจารย์ที่สำคัญทั้งหมดในประเทศไทยขณะลงแผ่นทองมาทั้งหมด

สาม.....พิธีเททองหล่อพระรูป ตอนการเททอง ซึ่งพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พร้อมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เสด็จไปทรงเททองถึงวัดดอยแม่ปั๋ง จ. เชียงใหม่ ในงานครบรอบ ๙๗ พรรษา โดยมีสมเด็จพระสังฆราช และพระเถระผู้ใหญ่ผู้ทรงคุณวุฒิอีก ๙ รูป เจริญชัยมงคลคาถา

สี่...พิธีพุทธาภิเษก พิธีพุทธาภิเษก พิธีปลุกเสกหมู่ใหญ่สนามหลวง ๔ วัน ๔ คืน โดยโยงสายสิญจน์จากพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามมายังปะรำพิธี ณ.ท้องสนามหลวง นิมนต์พระเถรานุเถระผู้ทรงคุณ เกจิย์ดัง ๑๐๘อาจารย์ จากทั่วประเทศผลัดเปลี่ยนกันนั่งปรกปลุกเสกตลอดรวม๔คืน โดยในวันแรกของพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว(ร.๙) ทรงเสด็จจุดไฟพระฤกษ์ ณ.พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มอบให้พลอากาศเอก ประพันธ์ ธูปเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศอัญเชิญเข้าขบวนแห่มายังปะรำพิธ ี จากนั้นในเวลา ๑๙.๑๙ น. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชฯ ได้เสด็จมาจุดเทียนชัยจากไฟพระฤกษ์ เริ่มพิธีพุทธาภิเษกจนถึงรุ่งอรุณของวันที่๔ จึงได้อัญเชิญสมเด็จพระญาณสังวรดับเทียนชัยเป็นอันเส ร็จสิ้นพิธีพุทธาภิเษก นับเป็นพิธีพุทธาภิเษกที่ยิ่งใหญ่เป็นประวัติการณ์…
เหรียญนี้มีลักษณะทรงกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2.6 c.m. เนื้อเงิน ด้านหน้าพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้านหลังเป็นพระปรมาภิไธยย่อ"ภ.ป.ร."

คณาจารย์ เช่น หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง , หลวงพ่อเกษม เขมโก ลำปาง , หลวงปู่ดุลย์ วัดบูรพา สุรินทร์ , หลวงพ่อสิม วัดถ้ำผาปล่อง , หลวงพ่อบุญมี วัดท่าสะต๋อย , ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า , หลวงพ่อคำแสน วัดถ้ำผาเงา , หลวงพ่อฮวด วัดหัวถนนใต้ , หลวงพ่อเปรื่อง วัดบางคลาน , หลวงพ่อหลุย วัดเจติยาวิหาร , หลวงพ่อพวง วัดศรีธรรมาราม ยโสธร , หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ , หลวงพ่อพุธ วัดป่าสาลวัน , หลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวก , หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง , หลวงพ่อโอด วัดจันเสน , หลวงพ่อพุฒ วัดมณีสถิตย์ อุทัยธานี , อีกมากมายคณา

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

3 เหรียญคุ้มเกล้าเนื้อเงินเล็ก สร้างน้อย ประมาณ 5000 เหรียญ ราคา 8900 บาท ค่าส่ง EMS 50 บาท

สภาพสวยๆ ไม่ผ่านการใช้งาน รับประกันแท้ หากเช็คแล้วเก๊คืนเงินเต็มจำนวนครับ

เหรียญคุ้มเกล้า ในหลวงรัชกาลที่๙ เนื้อเงิน(พิมพ์เล็ก/หายาก...) จำนวนสร้างน้อย... ประมาณ 5000 เหรียญ
ของดี/พิธีใหญ่ สภาพสวยมาก ของเก็บเก่า รับประกันแท้

(เนื้อเงิน พิมพ์เล็ก ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.6 ซม.) ขนาดกระทัดรัด

พิธีใหญ่ในหลวงเททอง หลวงปู่โต๊ะ หลวงปู่ดุลย์ หลวงปู่แหวน ร่วมปลุกเสกและเกจิที่มีชื่อเสียงอีกมากมาย

เหรียญคุ้มเกล้า โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปีพ.ศ.2522 โดยมูลนิธิมูลนิธิคุ้มเกล้าฯในพระบรมราชูปถัมภ์

วัตถุประสงค์ :
เนื่องในวาระครบรอบ 30 ปีของการให้บริการโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช เมื่อ 27 มีนาคม 2522 กองทัพอากาศได้ดำริสร้างอาคารอุบัติเหตุและฉุกเฉินขนาดใหญ่สูง 12 ชั้นที่ทันสมัย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลและเสริมสร้างบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมบรรดาผู้ป่วยทั้งหลายไปชั่วกาลนาน โดยสิ้นค่าใช้จ่ายกว่า 600 ล้านบาท จากเงินที่ประชาชนทั่วประเทศร่วมใจกันบริจาค

พุทธลักษณะ
ด้านหน้า : เป็นพระบรมฉายาลักษณ์
ด้านหลัง : มีพระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร.

พิธีลงอักขระแผ่นยันต์อักขระที่ใช้สร้าง เหรียญคุ้มเกล้า&
แผ่นแรกเป็นปฐมฤกษ์ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2526 โดยมี สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นประธาน พร้อมด้วยพระเถระอีก 60รูป ที่ได้มาร่วมสวดเจริญพระพุทธมนต์ในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ภายในพระอุโบสถของวัดราชบพิธ

หลังจากนั้นได้นำแผ่น ทอง นาก เงิน ไปให้พระเถราจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิทั่วประเทศ จารึกอักขระจนครบ 1,250 รูป อาทิ
- พระราชวุฒาจารย์(หลวงปู่ดุลย์)วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์ ลงอักขระวันที่ 16 กันยายน 2526
- พระคุณเจ้าหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ลงอักขระแผ่นทอง นาก เงิน ณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ 19 สิงหาคม 2526
- พระสุพรหมยานเถร (หลวงปู่พรหมจักร)วักพระพุทธบาทตากผ้า ลำพูน ลงอักขระ 21 สิงหาคม 2526
- พระอุดมสังวรเถร(หลวงพ่ออุตตมะ)วัดวังวิเวการาม จ.กาญจนบุรี ลงอักขระ 5 ตุลาคม 2526
- พระสุนทรธรรมภาณี(หลวงพ่อแพ)วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี ลงอักขระวันที่ 3 ตุลาคม 2526
- พระนิโรธรังสี คัมภีรปัญญาจารย์ (หลวงปู่เทสก์) วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ลงอักขระ 5 สิงหาคม 2526
- หลวงพ่อเกษม เขมโก วัดป่าช้าไตรรัตนาราม อ.เมือง จ.ลำปาง ลงอักขระ 22สิงหาคม 2526
- พระครูสุวรรณประดิษฐการ(หลวงพ่อจ้อย)วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ อ.ดอนสัก จ.สุราษฏร์ธานี ลงอักขระ 11 ตุลาคม 2526
- สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร กทม. เป็นต้น

พิธีเททองหล่อ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถเสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปทรงเททองหล่อพระพุทธรูปคุ้มเกล้าฯ ณ วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ซึ่งตรงกับวันที่ ′หลวงปู่แหวน สุจิณโณ′ มีอายุครบ 97 ปี เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2527 โดยมีสมเด็จพระสังฆราช พร้อมด้วยพระเถระผู้ใหญ่ผู้ทรงคุณอีก 9 รูป เจริญชัยมงคลคาถา ในโอกาสนี้ได้ทรงทำพิธีหลอมแผ่นทอง นาก เงิน ที่ได้ทำพิธีลงอักขระแล้ว เป็นชนวนนำไปสร้างวัตถุมงคลคุ้มเกล้าต่อไป

พิธีพุทธาภิเษก
ประกอบพิธีพุทธาภิเษกหมู่อย่างยิ่งใหญ่มโหฬาร 4 วัน 4 คืน ตั้งแต่วันที่ 6-9 เมษายน พ.ศ.2527 โดยทำการโยงสายสิญจน์จากพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามมายังปะรำพิธี ณ ท้องสนามหลวง นิมนต์พระเถรานุเถระผู้ทรงคุณ เกจิอาจารย์ดัง 108 รูปจากทั่วประเทศผลัดเปลี่ยนกันนั่งปรกปลุกเสกตลอดรวม 4 คืน อาทิ
- สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช ประธานฝ่ายสงฆ์จุดเทียนชัย
- สมเด็จพระญาณสังวรฯ เป็นประธานดับเทียนชัย
- หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง
- หลวงพ่อเกษม เขมโก ลำปาง
- หลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวก
- หลวงพ่อสิม วัดถ้ำผาปล่อง
- หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
- หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม
- หลวงพ่อหลุย วัดเจติยาวิหาร
- หลวงปู่ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า
- หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
- หลวงพ่อพุธ วัดป่าสาลวัน
- หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
- หลวงพ่อพวง วัดศรีธรรมาราม
- หลวงพ่อพุฒ วัดมณีสถิตย์
- หลวงพ่อเปรื่อง วัดบางคลาน
- หลวงพ่อฮวด วัดหัวถนนใต้
- หลวงพ่อคำแสน วัดถ้ำผาเงา
- หลวงพ่อโอด วัดจันเสน
- หลวงพ่อบุญมี วัดท่าสะต๋อย เป็นต้น

สำหรับวัตถุมงคลรุ่นคุ้มเกล้า ในวันแรกของพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงจุดไฟพระฤกษ์ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มอบให้พล.อ.อ.ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ ผบ.ทอ. อัญเชิญเข้าขบวนแห่มายังปะรำพิธี จากนั้นในเวลา 19.19 น. สมเด็จพระสังฆราช เสด็จมาจุดเทียนชัยจากไฟพระฤกษ์ เริ่มพิธีพุทธาภิเษกจนถึงรุ่งอรุณของวันที่ 4 สมเด็จพระญาณสังวรฯ เป็นประธานดับเทียนชัย เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีพุทธาภิเษก

“เหรียญคุ้มเกล้า" หรือ มงคลวัตถุชุดคุ้มเกล้าโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช

หากจะหาเหรียญพระบรมรูปรัชกาลที่ ๙ ที่น่าบูชาติดตัวที่สุด ที่ดีเยี่ยมทั้ง เจตนาการสร้าง มวลสาร พิธี และ การพุทธาภิเษก แล้ว อันดับต้นๆ น่าจะเป็นเหรียญคุ้มเกล้า ที่สร้างเพื่อสมนาคุณผู้บริจาคสร้าง อาคารคุ้มเกล้า โรงพยาบาลภูมิพล เพราะว่า

หนึ่ง ....เจตนาในการสร้างดีมาก เพราะเงินที่ได้นำมาสร้างอาคารโรงพยาบาลภูมิพล

สอง.....พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญพระปรมาภิไธยย่อ“ภ.ป.ร.” ประดิษฐานที่ผ้าทิพย์ของพระพุทธรูปบูชา และพระกริ่ง และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สร้างเหรียญพระบรมรูป ด้านหน้ามีพระบรมฉายาลักษณ์ และด้านหลังมีพระปรมาภิไธยย่อ “ภ.ป.ร.” โดยโปรดเกล้าฯให้ช่างในพระองค์เป็นผู้ปั้นแบบ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ทรงรับเป็นองค์ประธานอุปถัมภ์ในการดำเนินงานฝ่ายบรรพชิต สาม...พิธีการลงอักขระแผ่นทองนาก เงิน แผ่นยันต์อักขระที่ใช้สร้าง ได้จัดพิธีลงอักขระ ณ. วัดราชบพิธ โดยสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นองค์ประธานพร้อมด้วย สมเด็จพระราชาคณะและพระเถระผู้ใหญ่รวม ๖๐รูป ทำพิธีลงอักขระแผ่น ทอง นาก เงิน เป็นปฐมฤกษ์ หลังจากนั้นได้นำแผ่น ทอง นาก เงิน ไปให้พระเถราจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิทั่วประเทศ จารึกอักขระจนครบ ๑,๒๕๐ รูป... นับว่าเป็นพิธีที่มีการลงแผ่นทองมากที่สุดในประเทศไทยก็ว่าได้ เกจิอาจารย์ที่สำคัญทั้งหมดในประเทศไทยขณะลงแผ่นทองมาทั้งหมด

สาม.....พิธีเททองหล่อพระรูป ตอนการเททอง ซึ่งพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พร้อมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เสด็จไปทรงเททองถึงวัดดอยแม่ปั๋ง จ. เชียงใหม่ ในงานครบรอบ ๙๗ พรรษา โดยมีสมเด็จพระสังฆราช และพระเถระผู้ใหญ่ผู้ทรงคุณวุฒิอีก ๙ รูป เจริญชัยมงคลคาถา

สี่...พิธีพุทธาภิเษก พิธีพุทธาภิเษก พิธีปลุกเสกหมู่ใหญ่สนามหลวง ๔ วัน ๔ คืน โดยโยงสายสิญจน์จากพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามมายังปะรำพิธี ณ.ท้องสนามหลวง นิมนต์พระเถรานุเถระผู้ทรงคุณ เกจิย์ดัง ๑๐๘อาจารย์ จากทั่วประเทศผลัดเปลี่ยนกันนั่งปรกปลุกเสกตลอดรวม๔คืน โดยในวันแรกของพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว(ร.๙) ทรงเสด็จจุดไฟพระฤกษ์ ณ.พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มอบให้พลอากาศเอก ประพันธ์ ธูปเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศอัญเชิญเข้าขบวนแห่มายังปะรำพิธ ี จากนั้นในเวลา ๑๙.๑๙ น. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชฯ ได้เสด็จมาจุดเทียนชัยจากไฟพระฤกษ์ เริ่มพิธีพุทธาภิเษกจนถึงรุ่งอรุณของวันที่๔ จึงได้อัญเชิญสมเด็จพระญาณสังวรดับเทียนชัยเป็นอันเส ร็จสิ้นพิธีพุทธาภิเษก นับเป็นพิธีพุทธาภิเษกที่ยิ่งใหญ่เป็นประวัติการณ์…
เหรียญนี้มีลักษณะทรงกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2.6 c.m. เนื้อเงิน ด้านหน้าพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้านหลังเป็นพระปรมาภิไธยย่อ"ภ.ป.ร."

คณาจารย์ เช่น หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง , หลวงพ่อเกษม เขมโก ลำปาง , หลวงปู่ดุลย์ วัดบูรพา สุรินทร์ , หลวงพ่อสิม วัดถ้ำผาปล่อง , หลวงพ่อบุญมี วัดท่าสะต๋อย , ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า , หลวงพ่อคำแสน วัดถ้ำผาเงา , หลวงพ่อฮวด วัดหัวถนนใต้ , หลวงพ่อเปรื่อง วัดบางคลาน , หลวงพ่อหลุย วัดเจติยาวิหาร , หลวงพ่อพวง วัดศรีธรรมาราม ยโสธร , หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ , หลวงพ่อพุธ วัดป่าสาลวัน , หลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวก , หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง , หลวงพ่อโอด วัดจันเสน , หลวงพ่อพุฒ วัดมณีสถิตย์ อุทัยธานี , อีกมากมายคณา

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

4 รูปหล่อทรงผนวช ปี 2554 ราคา 6900 บาท ค่าส่ง EMS 150 บาท

พระบรมรูปบูชาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงผนวช พลังแผ่นดิน ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยต้นแบบ และมีพระบรมราชานุญาตให้จัดสร้างขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยสร้างตามจำนวนผู้จอง"เสมือนเป็นของขวัญจากพ่อ" เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม ปี 2554 รายได้ทูลเกล้าฯ ถวายสมทบทุนการจัดสร้างสถาบันการแพทย์สยามมินทราธิราช โรงพยาบาลศิริราช

ขนาดหน้าตัก 2 นิ้ว หล่อด้วยโลหะสัมฤทธิ์ ใต้ฐานบรรจุผงจิตรลดามหามงคล และเส้นพระเจ้า (เส้นผม) ของพระองค์ท่าน ปิดด้วยแผ่นวัสดุสังเคราห์สีขาว
สภาพสวยๆ อยูในกล่องเดิมๆ รับประกันแท้ หากเช็คแล้วเก๊ คืนเงินเต็มครับ

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

5 ปล่อยเช่าหลวงพ่อโสธร 80 ปี กรมตำรวจเนื้อเงิน พร้อมกล่องเดิมๆ ราคา 7,550 บาท ส่ง EMS 50 บาท

สภาพสวยๆ ครับ พร้อมกล่อง หมายเลข 127530 รับประกันแท้ครับ หากเช็คแล้วเก๊คืนเงินเต็มครับ

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

6 พระกริ่งนิรันตราย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปี 2555 เลข 173728 ราคา 1850 ส่ง EMS 50

มาพร้อมกล่องเดิมๆ ตามรูปครับ รับประกันแท้ หากเช็คแล้วเก๊ คืนเงินเต็มครับ

พระกริ่งนิรันตราย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปี 2555 มีประสบการณ์รอดตายปาฏิหารณ์ มาแล้วโดยแชร์ผ่านโลกออนไลน์ อุบัติเหตุเกิดที่ สภ. พระพุทธบาท ได้สอบถามตำรวจจราจรได้ความว่ารถคันแดงห้อยพระนิรันตรายที สตช.สร้าง รถที่ไช้เป็นโตโยต้า ยาริส สภาพคนขับติดอยู่ในรถ กู้ภัยไช้เครื่องตัดถ่างนำตัวคนขับออกมาจากรถ เดินหน้าตาเฉย มีบาดแผลเล็กน้อย ส่วนรถเละตุ้มเป๊ะ

ประวัติการสร้างพระนิรันตราย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปี 2555

พระนิรันตรายรุ่นนี้ถือว่าจัดสร้างในวาระดี พิธียิ่งใหญ่ และคณะผู้สร้างได้นำแผ่นชนวนศักดิ์สิทธิ์ไปให้หัวหน้าพราหมณ์ เทวสถานโบสถ์พราหมณ์จารอักขระเลขมงคลต่าง ๆ ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงเจิมตั้งสัตยาธิษฐานถวายเป็นพุทธบูชา อีกทั้งรวบรวมวัตถุมงคล มวลสารศักดิ์สิทธิ์ แผ่นจารโลหะพระเกจิคณาจารย์ต่าง ๆ จำนวนมากมายเป็นประวัติการณ์ นำมาหลอมรวมหล่อพระนิรันตรายรุ่นนี้

จากประวัติ "พระนิรันตราย" เป็นพระที่ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสร้าง เช่นเดียวกับพระราชทานกำเนิด "ตำรวจสมัยใหม่" ในรัชสมัยของพระองค์ เพื่อปรับปรุงกิจการตำรวจให้ทันสมัยเทียบเท่านานาประเทศตะวันตก

การจัดสร้าง พระนิรันตราย (จำลอง) ครั้งนี้ เพื่อให้เป็นพระประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตในการจัดสร้าง

พิธีมหาพุทธาภิเษกในวันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน 2555 ณ วัดบวรนิเวศวิหาร คณะกรรมการได้นิมนต์พระเกจิคณาจารย์และพระเถราจารย์ทั่วประเทศมาร่วมอธิษฐานจิตคับคั่ง

วันที่ 26 ตุลาคม 2553 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณจำนวน 2,155,677,000 (สองพันหนึ่งร้อยห้าสิบห้าล้านหกแสนเจ็ดหมื่นเจ็ดพันบาท) ให้โรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติสำหรับก่อสร้างอาคารบริการทางการแพทย์ ความสูง 20 ชั้น เพื่อใช้เป็นหอรักษาผู้ป่วย รวมทั้งสถานที่บริหารจัดการทางการแพทย์และการพยาบาล โดยงบประมาณการจัดสร้างอาคารดังกล่าวทางโรงพยาบาลได้ใช้เงินงบประมาณของทางโรงพยาบาลเองไปทั้งสิ้นจำนวน 555,677,000 บาท (ห้าร้อยห้าสิบห้าล้านหกแสนเจ็ดหมื่นเจ็ดพันบาท) แต่ยังขาดอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ในอาคาร เตียงผู้ป่วย ซึ่งอาคารนี้สามารถรองรับเตียงได้ถึง 900 เตียงและต้องใช้งบประมาณในการจัดซื้ออีกจำนวน 2,000 ล้านบาท โดยได้ขอความอนุเคราะห์ไปยังสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และได้รับเงินบริจาคสนับสนุนมา จำนวน 1,000 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณส่วนที่ยังขาดประมาณ 1,000 ล้านบาท ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และมูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจจึงได้ร่วมกันจัดสร้างพระนิรันตราย (จำลอง) เพื่อมอบให้กับผู้บริจาคเงินสมทบทุนซื้ออุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์

มวลสารศักดิ์สิทธิ์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้นำแผ่นทองคำบริสุทธิ์ แผ่นเงิน และแผ่นทองแดงให้พระมหาราชครูศรีวิสุทธิคุณ หัวหน้าคณะพราหมณ์เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ลงเลขมงคลต่างๆที่มีความหมาย เพื่อเป็นสิริมงคล และได้นำทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจิมตั้งสัตยาอธิษฐานถวายเป็นพุทธบูชา สำหรับใช้เป็นส่วนผสมในการสร้างพระนิรันตราย (จำลอง)

พิธีเททองหล่อพระ วันพุธที่ 27 มิถุนายน 2555 เวลา 17.00 น.สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเททองหล่อพระนิรันตราย (จำลอง) ณ พระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหารหลังจากนั้นจะมีพิธีพุทธาภิเษก โดยพระเกจิอาจารย์สำคัญๆทั่วประเทศร่วมพิธี

พิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 4 วันศุกร์ที่ 8 มิถุนายน 2555 ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เภา สารสิน ประธานมูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจในพระบรมราชินูปถัมป์ พร้อมด้วย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.เป็นประธานในพิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 4 เพื่อจัดสร้างพระนิรันตราย (จำลอง) ซึ่งได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้จัดสร้างเพื่อประดิษฐานเป็นพระประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้บังคับบัญชาระดับสูงของตำรวจเข้าร่วมพิธี

พิธีพุทธาภิเษก เวลา 09.30 น. วันที่ 27 กันยายน 2555 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีบวงสรวงบูชาฤกษ์ พิธีมหาพุทธาภิเษก พระนิรันตราย (จำลอง) ณ พระอุโบสภ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร มี พระมหาเถราจารย์ 255 รูป จากทั่วประเทศไทย ร่วมพิธีพระมหาเถราจารย์ 255 รูป จากทั่วประเทศไทย ร่วมพิธีฯ โดยนั่งปรกรอบๆ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งเป็นสุดยอดพิธีแห่งปี ที่มีพระเกจิมานั่งปลุกเสกมากที่สุด เป็นประวัติศาสตร์ ทั้งนี้เพื่อความเข้มขลังของพระรุ่นนี้

พระกริ่งนิรันตราย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปี 2555 มีประสบการณ์รอดตายปาฏิหารณ์ มาแล้วโดยแชร์ผ่านโลกออนไลน์ อุบัติเหตุเกิดที่ สภ. พระพุทธบาท ได้สอบถามตำรวจจราจรได้ความว่ารถคันแดงห้อยพระนิรันตรายที สตช.สร้าง รถที่ไช้เป็นโตโยต้า ยาริส สภาพคนขับติดอยู่ในรถ กู้ภัยไช้เครื่องตัดถ่างนำตัวคนขับออกมาจากรถ เดินหน้าตาเฉย มีบาดแผลเล็กน้อย ส่วนรถเละตุ้มเป๊ะ

พระกริ่งนิรันตราย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปี 2555 เนื้อสัมฤทธิ์ อุปกรณ์ครบ น่าสะสม มีประสบการณ์รอดตายปาฏิหารย์มาแล้ว ที่สุดความศักดิ์สิทธิ์ สุดเข้มขลัง มวลสารดี พิธีใหญ่ เกจิดังทัวประเทศ 255 รูป ร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสก

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

7 เหรียญทรงผนวช รุ่นแรก 2508 วัดบวรนิเวศวิหาร เนื้ออัลปาก้า เลี่ยมเงิน ลงยา ราคา 18500 บาทส่ง EMS 50 บาท

สภาพสวยๆ เดิมๆ รับประกันแท้ ครับ

เหรียญยอดนิยม ที่คนไทยเก็บสะสมครับ

ทางวัดบวรฯได้ดำเนินการจัดงานอันเป็นมหา มงคลยิ่ง 4 ประการ คือเมื่อ วันที่ 24 สิงหาคม 2508 เป็นวันมหามงคลที่พึงจารึกเป็นประวัติการณ์พิเศษ ด้วยสมเด็จพระบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ในโอกาสที่มีพระชนมายุเสมอด้วยสมเด็จพระราชบิดา เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมหลวงสงขลานครินทร และได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในการกุศลอีก 3 อย่าง ในวันมหามงคลนี้ อันควรเรียกได้ว่า "จาตุรงคมงคล"

อนึ่ง ทางวัดบวรนิเวศวิหาร ได้ขอพระบรมราชานุญาตสร้าง เหรียญพระบรมรูปทรงผนวช มีพระปรมาภิไธย ซึ่งเป็นลายพระหัตถเลขาทรงไว้ในสมุดทะเบียนวัดว่า "ภูมิพลอดุลยเดช ปร. ภูมิพโล" อยู่ภายใต้พระบรมรูป (ถ่ายทำจากลายเซ็นตามจริง)

เบื้องบนมีอักษรว่า "ทรงผนวช ๒๔๙๙" ส่วนอีกด้านหนึ่งมีรูปพระเจดีย์วัดบวรนิเวศวิหาร มีอักษรเป็นวงกลมที่ขอบเหรียญว่า "สมเด็จฯสมโภชพระเจดีย์ทองบวรนิเวศ ในมงคลสมัยพระชนมายุเสมอสมเด็จพระราชบิดา ๒๙ สิงห์ พ.ศ. ๒๕๐๘"

เหรียญรุ่นแรกทั้งหมด ได้นำเข้าในพิธีพุทธาภิเษก ในวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ.2508 นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ถึง 4 ครั้งคือ

ในวันที่ 27 สิงหาคม 2508 เสด็จฯ ทรงบำเพ็ญพุทธาภิเษกครั้งหนึ่ง

วันที่ 28 สิงหาคม 2508 เสด็จฯ ในพระราชพิธีกุศลทักษิณานุปทานถวายสมเด็จพระราชบิดาครั้งหนึ่ง

วันที่ 29 สิงหาคม 2508 เสด็จ 2 ครั้ง ตอนเช้าเสด็จฯ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระชนมายุเสมอด้วยสมเด็จพระราชบิดา ทรงปฏิบัติพระราชกิจทรงบำเพ็ญพระราชกุศลอีก 3 อย่าง มีทรงประกอบพิธีหล่อพระพุทธรูป ภปร. เป็นต้น

พิธีพุทธาภิเษก ได้ประกอบพิธีกันทั้งคืน มีพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณนั่งปรกถึง 5 ชุด ชุดละ 8 องค์ ล้วนแล้วแต่เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ทรงคุณและมีชื่อเสียงโด่งดัง

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

8 เหรียญ พระราชทาน 2493 เนื้อเงิน นิยมหางยาว ราคา 8900 พร้อมส่ง EMS

สภาพสวยๆ เดิมๆ รับประกันแท้ ครับ

เหรียญพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เ นื้ อ เ งิ น (หายากมาก) เป็นมงคลที่ระลึกเมื่อ ปี 2493 แก่พระบรมวงศานุวงศ์ (เป็นเนื้อเงิน) ข้าราชบริพาล และประชาชน (เป็นเนื้อนิเกิ้ล หรือบางคนก็เรียกอัลปาก้า) ด้านหน้าเหรียญ เป็นพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครึ่งพระองค์ ผินพระพักตร์ไปเบื้องขวา (ซ้ายมือเรา) ด้านหลังเหรียญมีอักษรประกอบข้อความสองแถว ความว่า พระราชทาน เป็นที่ระลึก

เหรียญนี้จัดสร้างด้วย เ นื้ อเ งิ น ซึ่งหายากมากปั๊มแบบขอบกระบอก (ขอบข้างเหรียญเรียบ) "หูเป็นแบบเชื่อม" บล็อคลึก นิย ม (เลข ๙ หางยาว) สภาพสวยสมบูรณ์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

9 พระบรมรูปในหลวง ทรงเครื่องแบบจอมทัพ ราคา 36,500 บาท ค่าส่ง EMS 200 บาท

พระบรมรูปในหลวง ทรงเครื่องแบบจอมทัพ ขนาดสูง 21.5 นิ้ว หมายเลข 8417 เนื้อทองเหลืองรมดำปิดทอง
ฉลองกาญจนาภิเษก 2539 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสร้าง สมเด็จพระพี่นางฯเสด็จประกอบพิธีเททอง
ฝีมือประติมากรรมโดย อ.เสวต เทศน์ธรรม มีใบสำคัญกำกับพระบรมรูปด้วย ซึ่งมีหมายเลขประจำองค์ พระบรมรูปยืน
ทรงเครื่องแบบจอมทัพ ด้านหน้าพระแท่นประดิษฐานอักษรพระปรมาภิไธย ภปร ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฏ

สภาพสวย สมบูรณ์ จัดสร้างปี 2539 มาแบบเดิมๆ พร้อมใบสำคัญกำกับพระบรมรูป หมายเลข 8417

ปล. ว่ากันว่าเป็นพระบรมรูปในหลวง ที่ออกแบบได้ ทรงสง่า สวยงามที่สุด

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

9 เปิดบูชาพระพุทธประทานยศบารมีเนื้อนวะ องค์ที่๑๒๘๒๖ ราคา 33000 บาท สภาพสวยๆ พร้อมเลี่ยมเงิน กล่อง การ์ดครบครับ รับประกันพระแท้

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

10 แผ่นทองคำพระบรมฉายาลักษณ์ ร.9ทองคำ หมายเลข A93956 ราคา 6300 บาท ส่ง EMS 80 บาท

สภาพสวยๆ ครับ รับประกันแท้

แผ่นทองคำพระบรมฉายาลักษณ์ทองคำ ฉลองสิริราชสมบัติครบรอบ 50 ปี ทำจากทองสุทธิ 97.66 % เป็นแผ่นทองคำแท้แล้วเขียนด้วยเลเซอร์เป็นสี สวยงาม ออกโดย สมาคมนักธุรกิจสัมพันธ์ แห่งประเทศไทย ปี 2539 ขนาดรูป 10x13 cm กรอบ 15x20 cm น้ำหนักทองคำประมาณ 1.5 กรัม

กรอบรูป ทองคำสุทธิ 97.66 จัดทำขึ้นเนื่องในวโรกาศที่ทรงครองราชย์ครบ 50 ปี ได้เข้าร่วมพิธีเดียวกับเหรียญครองราชย์ 50 ปี หรือ เหรียญ 8 เซียน สมาคมตระกูล 50 แซ่ รายได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช้ 50 ล้านบาท นำขึ้นทูลเกล้า
พิธีใหญ่ที่สนามหลวง มีพระเกจิจำนวน 108 รูป ในจำนวนนั้นมีพระเกจิ กองทัพธรรมสายอีสาน มาร่วมพิธีจำนวนมาก ได้มีการโยงสายสินธ์จากวัดพระแก้วข้ามมาที่ปะรำพิธี ปลุกเสก 3 วัน

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

11 เหรียญ 3 รอบ กะไหล่ทองเดิมๆ สวยๆ หายากครับ ราคา 1350 ส่ง EMS 50 บาท

สภาพเดิมๆ สวยๆ ตวอักษรคมชัดครับ ไม่ผ่านการใช้งาน รับประกันแท้ หากเช็คแล้วเก๊ คืนเต็มครับ

เหรียญอนุสรณ์มหาราช รัชกาลที่ ๙ เฉลิมพระชนม์พรรษาครบ ๓ รอบ ปี ๒๕๐๖ เหรียญอนุสรณ์มหาราชรัชการที่ 9 ครบ 3 รอบ ปี 2506 หรือที่คนชอบเรียกว่า เหรียญเสมา 3 รอบ รัชกาลที่ 9 เหรียญนี้เป็นเหรียญที่ระลึก ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระชนมายุครบ 3 รอบเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2506 เป็นเหรียญที่ได้ผ่านพิธีการปลุกเสกอย่างยิ่งใหญ่ ณ อุโบสถวัดราชบพิธ ถึง 2 วาระด้วยกัน โดยพระคณาจารย์ที่โด่งดังในยุคนั้น เช่น

-อาจารย์ทิม วัดช้างไห้

-หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม

-หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม

-พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์

-หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก

-พระสุนทรศีลสมาจาร (หลวงพ่อผล) วัดหนัง

-หลวงพ่อทบ วัดสว่างอรุณ ชนแดนฯลฯ

พิธีปลุกเสกใหญ่ ณ อุโบสถวัดราชบพิธ 2 วาระด้วยกันคือ 1. ครั้งแรกวันที่ 29-30 พ.ย.2506

2. ระหว่างวันที่ 5-6-7 เมษายน 2507

พิธีครั้งที่ 1

-รายนามพระคณาจารย์ที่มาปลุกเสก วันที่ 29-30 พฤศจิกายน 2506 ณ พระอุโบสถวัดราชบพิธ

1. หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา

2. หลวงพ่อพระครูโพธิสารประสาธน์ วัดโพธิสัมพันธ์ บางละมุง ชลบุรี

3. หลวงพ่อพระวรพจรน์ปัญญาจารย์ วัดอรัญญิกาวาส ชลบุรี

4. หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน แม่ทะ ลำปาง

5. หลวงพ่อพระราชหระสิทธิคุณ วัดราชธานี สุโขทัย

6. หลวงพ่อเงิน (พระราชธรรมาภรณ์ )วัดดอนยายหอม นครปฐม

7. หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม

8. พ่อท่านคล้าย วัดสวนขวัญ ฉวาง นครศรีธรรมราช

9. พระครูวิสัยโสภณ (อาจารย์ทิม) วัดช้างไห้ ปัตตานี

พิธีครั้งที่ 2

-รายนามพระคณาจารย์ที่ปลุกเสกวันที่ 5 เมษายน 2507

1. พระสุเมธมุนี เจ้าคณะวัดบางหลวง ปทุมธานี

2. พระสุนทรศีลสมาจาร (หลวงพ่อผล) วัดหนัง ธนบุรี

3. พระครูปลัดบุญรอด วัดประดู่พัฒนาราม นครศรีธรรมราช

4. หลวงพ่อทบ วัดสว่างอรุณ ชนแดน เพชรบูรณ์

5. พระครูนนทกิจวิมล ( หลวงพ่อชื่น) วัดตำหนักเหนือ นนทบุรี

6. หลวงพ่อบัว วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี

7. พระครูพุทธมนต์วราจารย์ (พระปลัดสุพจน์) วัดสุทัศน์ พระนคร

8. พระครูบวรธรรมกิจ (หลวงปู่เทียน) วัดโบสถ์เชียงราก ปทุมธานี

9. หลวงพ่อหอม วัดขากหมาก ระยอง -รายนามพระคณาจารย์ที่ปลุกเสกวันที่

6 เมษายน 2507 มีดังนี้

1. พระครูพิทักษ์วิการกิจ (หลวงพ่อสา) วัดราชนัดดา พระนคร

2. พระครูสถาพรพุทธมนต์(หลวงพ่อสำเนียง) วัดเวฬุวนาราม บางเลน นครปฐม

3. พระครูธรรมิตรนุรักษ์ วัดเขาหลัก ท่าศาลา นครศรีธรรมราช

4. พระครูรักขิตวันมุนี (หลวงพ่อถีร์) วัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี

5. พระเทพสังวรวิมล (หลวงพ่อเจียง) วัดเจริญสุขาราม สมุทรสงคราม

6. หลวงพ่อสำเภา วัดหงส์รัตนาราม บางกอกใหญ่ ธนบุรี

7. พระครูบาวัง วัดบ้านเด่น จ.ตาก

8. พระมุจรินทร์โมลี (หลวงปู่ดำ) วัดมุจรินทร์ หนองจิก ปัตตานี

-รายนามพระคณาจารย์ที่อาราถนามาปลุกเสกวันที่ 7 เมษายน 2507

1. หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก บางไทร อยุธยา

2. พระครูโพธิสารประสาธน์ (อาจารย์บุญมี) วัดโพธิสัมพันธ์ ชลบุรี

3. พระวราพจน์ปัญญาจารย์ (หลวงพ่อวัดป่า) วัดอรัญญิกาวาส ชลบุรี

4. หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน แม่ทะ ลำปาง

5. พระราชประสิทธิคุณ (หลวงพ่อทิม) วัดราชธานี สุโขทัย

6. พระราชธรรมาภรณ์ (หลวงพ่อเงิน) วัดดอนยายหอม นครปฐม

7. หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม

8. พระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อเมี้ยน) วัดพระเชตุพน พระนคร

9. พระครูวิสัยโสภณ (อาจารย์ทิม) วัดช้างไห้ โคกโพธิ์ ปัตตานี

นอกจากนี้ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี(สมเด็จย่า) ยังได้นำเหรียญมหาราชนี้ส่วนหนึ่งพระราชทานแก่ ตำรวจตระเวนชายแดนและคณะแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ใน พอ.สว.(แพทย์อาสาสมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์) โดยด้านหลังเหรียญจะตอกอักษรพระปรมาภิไธยย่อว่า "สว"ไว้ด้วย ส่วนใหญ่จะอยู่ทางขวามือด้านหลัง

เหรียญที่สมเด็จย่า นำไปพระราชทานนี้ ได้ผ่านการอธิษฐานจิตจากพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร แห่งวัดอุดมสมพร อีกครั้งหนึ่ง ทำให้การเล่นหาแพงกว่าเหรียญที่ไม่มีคำว่า "สว"

เหรียญอนุสรณ์มหาราชนี้ ได้ผ่านพิธีพุทธาภิเษกมาแล้วที่วัดพระศรีศาสดาราม(วัดพระแก้ว)จากพระสงฆ์ผู้ทรงสมณศักดิ์ทำให้เหรียญมหาราชนี้ ปรากฏกฤษดาภินิหารด้านแคล้วคลาดจากภยันตรายอยู่เสมอๆจนเป็นที่กล่าวขวัญทั่วไป

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

12 เหรียญเหรียญครุฑ 2517 คัดสวย 2 เหรียญอยู่ในตลับเดียวกัน พร้อมตลับ ราคา 450 ส่ง EMS 50

จุดสังเกตุหากเป็นเหรียญเดียวพอพลิกด้านหลังครุฑจะกลับหัวครับ

รับประกันแท้ หากเช็คแล้วเก๊ คืนเงินเต็มครับ

ความศักดิ์สิทธิ์ของ"เหรียญบาทพญาครุฑปี๑๗" พกติดตัวไว้ ป้องกันสิ่งลี้ลับ ไม่ต้องผ่านพิธีกรรมการปลุกเสกแต่อย่างใด

บรรดาพรานป่าจะไม่นิยมแขวนพระเข้าป่า เพราะเชื่อว่า พระเครื่องมีคุณทางเมตตาหรือแคล้วคลาด หากแขวนพระเข้าป่าจะไม่ได้เจอสัตว์ป่าเลย จะแคล้วคลาดไปหมด ด้วยเหตุนั้น พรานป่าจึงไม่คล้องพระเข้าป่า

พรานสุขเล่าว่า...จะพกถุงพลาสติกใส ซึ่งข้างในบรรจุด้วยยาสูบขี้โย ใบตองอ่อนตากแห้ง เปลือกมะขามไว้บดผสมยาสูบ และมีสิ่งหนึ่งที่พรานสุขใช้เป็นเครื่องราง พกติดตัวเข้าป่าโดยเก็บไว้ในซองยาสูบของแก นั่นคือ..."เหรียญบาทพญาครุฑ" ลักษณะตามภาพประกอบเรื่อง เป็นเหรียญที่แกพกเข้าป่าเป็นประจำ

"แล้วลุงสุขใช้เป็นเครื่องรางยังไงครับ"

การเข้าป่าและพักค้างคืนในป่านั้น พรานลุงสุขบอกว่าเต็มไปด้วยสิ่งลี้ลับ ตามคำเล่าขานของพรานป่าและคนตัดไม้ จากปากต่อปากของพรานป่าและคนตัดไม้ เล่าขานสืบต่อกันมาว่า หากจะนอนในป่า ไม่ว่าบริเวณใดก็ตาม ให้ตอกตราครุฑ โดยตอกให้ด้านที่เป็นรอยครุฑติดไว้เหนือบริเวณที่เราจะนอน ตอกเสร็จแล้วเก็บเหรียญพกไว้เหมือนเดิม เช่นเดียวกับพรานสุข ในค่ำคืนแห่งการเผชิญกับผีป่านางไม้ พรานสุขเอง ได้ขูดเปลือกโคนไม้ใหญ่ ขูดให้เรียบ แล้วตอกตราครุฑประทับติดไว้ เพื่อป้องกันสิ่งลี้ลับตามคำพรานและคนตัดไม้บอก และก็ได้ผลเป็นที่ปรากฏ...จากเผชิญกับ "ผีป่า..นางไม้.."

"เหรียญบาทพญาครุฑ" จึงเป็นเครื่องรางที่ผู้เดินป่า พรานไพร คนตัดไม้ พกติดตัวเข้าป่าเพื่อป้องกันสิ่งลี้ลับ...แค่เหรียญบาทตราครุฑเท่านั้น ไม่ต้องผ่านพิธีกรรมการปลุกเสกแต่อย่างใด

อีกเรื่องหนึ่งซึ่งผู้เฒ่าท่านหนึ่งเคยเล่าให้ผมฟังว่า สมัยที่ท่านเคยตัดไม้และล่องไม้ไปตามแม่น้ำปิง ไม้บางท่อนไม่ยอมไหลไปตามกระแสน้ำ บางท่อนอยู่นิ่งลักษณะคล้ายการไหลทวนน้ำ ผู้เฒ่าท่านนี้ จึงเอา "เหรียญบาทตราครุฑ" ตอกลงไปที่หัวไม้ท่อนนั้น ปรากฏว่า ไม้ท่อนนั้นพลิกตัวหมุนกลิ้งไปมาอย่างน่าแปลกประหลาด ก่อนจะไหลไปตามกระแสน้ำ เช่นเดียวกับหมอผีบางท่านหากตรวจพบว่า "ผีสัมภเวสี" เข้ามาสิงสู่ในเสาบ้าน ทำให้คนในบ้านอยู่ไม่เป็นปกติสุข "หมอผี" ก็จะตอกเหรียญตราครุฑให้จมหายไปในเนื้อไม้ทั้งเหรียญ เป็นการสะกดภูตผีให้อยู่ในภพในภูมิ ไม่ให้ออกมารบกวนใคร...และยังมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับปาฏิหาริย์เหรียญบาทตราพญาครุฑ ในส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งลี้ลับจากแนวป่าดิบหรือจากประสบการณ์ในชีวิตประจำวันอยู่อีกมาก แล้วแต่นักนิยมป่าหรือท่านใด จะได้พบได้เจอ "เหรียญบาทตราพญาครุฑ" จึงนับว่าเป็นวัตถุที่มีความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเองมากมายนัก

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

13 เหรียญ 3 รอบ ราคา 420 ส่ง EMS 50 บาท

สภาพผ่านการใช้งาน รับประกันแท้ หากเช็คแล้วเก๊ คืนเต็มครับ

เหรียญอนุสรณ์มหาราช รัชกาลที่ ๙ เฉลิมพระชนม์พรรษาครบ ๓ รอบ ปี ๒๕๐๖ เหรียญอนุสรณ์มหาราชรัชการที่ 9 ครบ 3 รอบ ปี 2506 หรือที่คนชอบเรียกว่า เหรียญเสมา 3 รอบ รัชกาลที่ 9 เหรียญนี้เป็นเหรียญที่ระลึก ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระชนมายุครบ 3 รอบเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2506 เป็นเหรียญที่ได้ผ่านพิธีการปลุกเสกอย่างยิ่งใหญ่ ณ อุโบสถวัดราชบพิธ ถึง 2 วาระด้วยกัน โดยพระคณาจารย์ที่โด่งดังในยุคนั้น เช่น

-อาจารย์ทิม วัดช้างไห้

-หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม

-หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม

-พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์

-หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก

-พระสุนทรศีลสมาจาร (หลวงพ่อผล) วัดหนัง

-หลวงพ่อทบ วัดสว่างอรุณ ชนแดนฯลฯ

พิธีปลุกเสกใหญ่ ณ อุโบสถวัดราชบพิธ 2 วาระด้วยกันคือ 1. ครั้งแรกวันที่ 29-30 พ.ย.2506

2. ระหว่างวันที่ 5-6-7 เมษายน 2507

พิธีครั้งที่ 1

-รายนามพระคณาจารย์ที่มาปลุกเสก วันที่ 29-30 พฤศจิกายน 2506 ณ พระอุโบสถวัดราชบพิธ

1. หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา

2. หลวงพ่อพระครูโพธิสารประสาธน์ วัดโพธิสัมพันธ์ บางละมุง ชลบุรี

3. หลวงพ่อพระวรพจรน์ปัญญาจารย์ วัดอรัญญิกาวาส ชลบุรี

4. หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน แม่ทะ ลำปาง

5. หลวงพ่อพระราชหระสิทธิคุณ วัดราชธานี สุโขทัย

6. หลวงพ่อเงิน (พระราชธรรมาภรณ์ )วัดดอนยายหอม นครปฐม

7. หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม

8. พ่อท่านคล้าย วัดสวนขวัญ ฉวาง นครศรีธรรมราช

9. พระครูวิสัยโสภณ (อาจารย์ทิม) วัดช้างไห้ ปัตตานี

พิธีครั้งที่ 2

-รายนามพระคณาจารย์ที่ปลุกเสกวันที่ 5 เมษายน 2507

1. พระสุเมธมุนี เจ้าคณะวัดบางหลวง ปทุมธานี

2. พระสุนทรศีลสมาจาร (หลวงพ่อผล) วัดหนัง ธนบุรี

3. พระครูปลัดบุญรอด วัดประดู่พัฒนาราม นครศรีธรรมราช

4. หลวงพ่อทบ วัดสว่างอรุณ ชนแดน เพชรบูรณ์

5. พระครูนนทกิจวิมล ( หลวงพ่อชื่น) วัดตำหนักเหนือ นนทบุรี

6. หลวงพ่อบัว วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี

7. พระครูพุทธมนต์วราจารย์ (พระปลัดสุพจน์) วัดสุทัศน์ พระนคร

8. พระครูบวรธรรมกิจ (หลวงปู่เทียน) วัดโบสถ์เชียงราก ปทุมธานี

9. หลวงพ่อหอม วัดขากหมาก ระยอง -รายนามพระคณาจารย์ที่ปลุกเสกวันที่

6 เมษายน 2507 มีดังนี้

1. พระครูพิทักษ์วิการกิจ (หลวงพ่อสา) วัดราชนัดดา พระนคร

2. พระครูสถาพรพุทธมนต์(หลวงพ่อสำเนียง) วัดเวฬุวนาราม บางเลน นครปฐม

3. พระครูธรรมิตรนุรักษ์ วัดเขาหลัก ท่าศาลา นครศรีธรรมราช

4. พระครูรักขิตวันมุนี (หลวงพ่อถีร์) วัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี

5. พระเทพสังวรวิมล (หลวงพ่อเจียง) วัดเจริญสุขาราม สมุทรสงคราม

6. หลวงพ่อสำเภา วัดหงส์รัตนาราม บางกอกใหญ่ ธนบุรี

7. พระครูบาวัง วัดบ้านเด่น จ.ตาก

8. พระมุจรินทร์โมลี (หลวงปู่ดำ) วัดมุจรินทร์ หนองจิก ปัตตานี

-รายนามพระคณาจารย์ที่อาราถนามาปลุกเสกวันที่ 7 เมษายน 2507

1. หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก บางไทร อยุธยา

2. พระครูโพธิสารประสาธน์ (อาจารย์บุญมี) วัดโพธิสัมพันธ์ ชลบุรี

3. พระวราพจน์ปัญญาจารย์ (หลวงพ่อวัดป่า) วัดอรัญญิกาวาส ชลบุรี

4. หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน แม่ทะ ลำปาง

5. พระราชประสิทธิคุณ (หลวงพ่อทิม) วัดราชธานี สุโขทัย

6. พระราชธรรมาภรณ์ (หลวงพ่อเงิน) วัดดอนยายหอม นครปฐม

7. หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม

8. พระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อเมี้ยน) วัดพระเชตุพน พระนคร

9. พระครูวิสัยโสภณ (อาจารย์ทิม) วัดช้างไห้ โคกโพธิ์ ปัตตานี

นอกจากนี้ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี(สมเด็จย่า) ยังได้นำเหรียญมหาราชนี้ส่วนหนึ่งพระราชทานแก่ ตำรวจตระเวนชายแดนและคณะแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ใน พอ.สว.(แพทย์อาสาสมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์) โดยด้านหลังเหรียญจะตอกอักษรพระปรมาภิไธยย่อว่า "สว"ไว้ด้วย ส่วนใหญ่จะอยู่ทางขวามือด้านหลัง

เหรียญที่สมเด็จย่า นำไปพระราชทานนี้ ได้ผ่านการอธิษฐานจิตจากพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร แห่งวัดอุดมสมพร อีกครั้งหนึ่ง ทำให้การเล่นหาแพงกว่าเหรียญที่ไม่มีคำว่า "สว"

เหรียญอนุสรณ์มหาราชนี้ ได้ผ่านพิธีพุทธาภิเษกมาแล้วที่วัดพระศรีศาสดาราม(วัดพระแก้ว)จากพระสงฆ์ผู้ทรงสมณศักดิ์ทำให้เหรียญมหาราชนี้ ปรากฏกฤษดาภินิหารด้านแคล้วคลาดจากภยันตรายอยู่เสมอๆจนเป็นที่กล่าวขวัญทั่วไป

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

14 รูปถ่ายขาวดำ ในหลวงทรงผนวช ราคา 590 บาท ส่งEMS 50 บาท

สภาพสวยๆ เดิมๆ ออกวัดบวร อายุเยอะปรอทขึ้นเต็มรูปครับ

รับประกันแท้ หากเช็คแล้วเก๊ คืนเงินเต็มครับ

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

15 เหรียญ 1 บาท ปี 2500 ไม่ผ่านกการใช้งาน ราคา 229 บาท ส่ง EMS 50 บาท

สภาพสวยๆ เดิมๆ ไม่ผ่านกการใช้งาน

รับประกันแท้ หากเช็คแล้วเก๊ คืนเงินเต็มครับ

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

16 เหรียญในหลวง 6 รอบ 5 ธันวาคม พ.ศ.2542 เนื้ออัลปาก้า ราคา 229 บาท ส่ง EMS 50 บาท

เหรียญในหลวง ที่ระลึกพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 5 ธันวาคม พ.ศ.2542

รับประกันแท้ หากเช็คแล้วเก๊ คืนเงินเต็มครับ

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

17 เหรียญทรงผนวชรุ่นแรกปี 2508 เนื้อทองฝาบาตรกะไหล่ทอง นิยมเจดีย์เเต็ม หายาก 2450 ส่ง EMS 50 บาท

สภาพผ่านการใช้งาน รับประกันแท้ หากเช็คแล้วเก๊ คืนเงินเต็มครับ

เหรียญยอดนิยม ที่คนไทยเก็บสะสมครับ

ทางวัดบวรฯได้ดำเนินการจัดงานอันเป็นมหา มงคลยิ่ง 4 ประการ คือเมื่อ วันที่ 24 สิงหาคม 2508 เป็นวันมหามงคลที่พึงจารึกเป็นประวัติการณ์พิเศษ ด้วยสมเด็จพระบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ในโอกาสที่มีพระชนมายุเสมอด้วยสมเด็จพระราชบิดา เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมหลวงสงขลานครินทร และได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในการกุศลอีก 3 อย่าง ในวันมหามงคลนี้ อันควรเรียกได้ว่า "จาตุรงคมงคล"

อนึ่ง ทางวัดบวรนิเวศวิหาร ได้ขอพระบรมราชานุญาตสร้าง เหรียญพระบรมรูปทรงผนวช มีพระปรมาภิไธย ซึ่งเป็นลายพระหัตถเลขาทรงไว้ในสมุดทะเบียนวัดว่า "ภูมิพลอดุลยเดช ปร. ภูมิพโล" อยู่ภายใต้พระบรมรูป (ถ่ายทำจากลายเซ็นตามจริง)

เบื้องบนมีอักษรว่า "ทรงผนวช ๒๔๙๙" ส่วนอีกด้านหนึ่งมีรูปพระเจดีย์วัดบวรนิเวศวิหาร มีอักษรเป็นวงกลมที่ขอบเหรียญว่า "สมเด็จฯสมโภชพระเจดีย์ทองบวรนิเวศ ในมงคลสมัยพระชนมายุเสมอสมเด็จพระราชบิดา ๒๙ สิงห์ พ.ศ. ๒๕๐๘"

เหรียญรุ่นแรกทั้งหมด ได้นำเข้าในพิธีพุทธาภิเษก ในวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ.2508 นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ถึง 4 ครั้งคือ

ในวันที่ 27 สิงหาคม 2508 เสด็จฯ ทรงบำเพ็ญพุทธาภิเษกครั้งหนึ่ง

วันที่ 28 สิงหาคม 2508 เสด็จฯ ในพระราชพิธีกุศลทักษิณานุปทานถวายสมเด็จพระราชบิดาครั้งหนึ่ง

วันที่ 29 สิงหาคม 2508 เสด็จ 2 ครั้ง ตอนเช้าเสด็จฯ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระชนมายุเสมอด้วยสมเด็จพระราชบิดา ทรงปฏิบัติพระราชกิจทรงบำเพ็ญพระราชกุศลอีก 3 อย่าง มีทรงประกอบพิธีหล่อพระพุทธรูป ภปร. เป็นต้น

พิธีพุทธาภิเษก ได้ประกอบพิธีกันทั้งคืน มีพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณนั่งปรกถึง 5 ชุด ชุดละ 8 องค์ ล้วนแล้วแต่เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ทรงคุณและมีชื่อเสียงโด่งดัง

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

18 เหรียญเงินหนึ่งบาท ๒๔๖o รัชกาลที่ ๖ อายุ102 ตราช้างไอราพต เดิมๆ สวยครับ ราคา 990 บาท ส่ง EMS 50 บาท

เหรียญหนึ่งบาททำด้วยเงินแท้ รัชกาลที่ ๖ พ.ศ.๒๔๖o อายุ 102 ปี คมชัดลึก ขอบหนา ๆ ไม่บิ่น ไม่เยิน สภาพเดิมๆ ชัดทุกสัดส่วนครับ

รับประกันแท้ หากเช็คแล้วเก๊คืนเงินเต็มครับ

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

19 เหรียญในหลวงทรงนั่งบัลลังค์ เนื้อเงิน ราคา 4900 บาท ส่ง EMS 50 บาท

สภาพสวยๆ ครับ รับประกันแท้

เหรียญในหลวงทรงนั่งบัลลังค์ เนื้อเงิน พิธีกาญจนาภิเษก 1ใน 9999 เหรียญ กระทรวงมหาดไทยสร้าง พ.ศ.2539 เหรียญดีมีประสบการณ์

.......... เหรียญในหลวงนั่งบัลลังก์ เนื้อเงินสุดนิยม เป็นเหรียญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 จัดสร้างโดยกระทรวงมหาดไทยในวาระเฉลิม ฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี เมื่อ พ.ศ. 2539 เป็นเหรียญดีมีคุณค่า ประสบการณ์ดังในด้านแคล้วคลาดของทหารและตำรวจ

.......... การสร้างเหรียญเสมาที่ระลึกพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวเฉลิมฉลองทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ผู้จัดสร้างได้นำเนื้อโลหะชนวนมวลสารโลหะจากพิธีสำคัญๆต่างๆ เช่น ชนวนโลหะพระกริ่งดำรงราชานุภาพในงาน 100 ปี กระทรวงมหาดไทยจัดสร้างเมื่อปีพ.ศ. 2533 และชนวนโลหะพระนิรโรคันตรายที่กระทรวงมหาดไทย และประชาชนทั่วประเทศจัดสร้าง เพื่อน้อมเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2538 และแผ่นจารอาคม จากพระเกจิอาจารย์ทุกภาคทั่วประเทศ ทั้งนี้สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงประกอบพิธีเจริญจิตภาวนาด้วยพระองค์ เอง ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร การจัดสร้างเหรียญครั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าแสดงความจงรักภักดีและเฉลิม พระเกียรติ แด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตลอดกาลนาน รายได้ทั้งหมดนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายโดยพระราชกุศลมูลนิธิชัยพัฒนา

.......... เหรียญเป็นรูปทรงใบเสมามีหู ด้านหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับนั่งบนบัลลังก์ ด้านหลังตราสามง่าม และจักร ชื่อเป็นทางการของเหรียญรุ่นนี้เรียกว่า เหรียญทรงเสมา (อาร์ม) ที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเฉลิมฉลองทรงครอง สิริราชสมบัติครบ 50 ปี ในวันที่ 9 มิถุนายน ปีพ.ศ. 2539

.......... กระทรวงมหาดไทยได้ขอบรมราชานุญาตจัดสร้าง พระบรมรูป (อย่างหนึ่ง) และเหรียญเสมาที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯออก แบบโดยกรมศิลปากร เหรียญเสมาที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯด้านหน้าเป็นพระบรมสาทิศลักษณ์ประทับเหนือพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ บนบัลลังก์มีข้อความว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” ด้านหลังเป็นรูปสัญลักษณ์ตราจักรีโดยมีข้อความว่า ”พ.ศ.2539”

.......... ถือว่าเป็นเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกที่มีความ นิยมมาก มีประสบการณ์มาแล้วดังที่เป็นข่าวใน นสพ.เดลินิวส์มีผู้ประสบรถคว่ำสภาพพังยับเยินและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.ขณะปฏิบัติหน้าที่ทางภาคใต้ถูกผู้ก่อการร้ายซุ่มยิ่งแต่ไม่ได้รับ อันตรายเนื่องจากคล้องเหรียญนั่งบัลลังก์ เนื่องเพราะสร้างด้วยเจตนาบริสุทธิ์มหากุศลจากมวลสารที่ดีเยี่ยม

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

20 เหรียญในหลวงทรงนั่งบัลลังค์ เนื้ออัลปาก้า ราคา 239 บาท ส่ง EMS 50 บาท

สภาพสวยๆ ไม่ผ่านการใช้งาน มีคราบน้ำทอง พร้อมถุงเดิมๆ

เหรียญในหลวงทรงนั่งบัลลังค์ เนื้ออัลปาก้า กระทรวงมหาดไทยสร้าง พ.ศ.2539 เหรียญดีมีประสบการณ์

.......... เหรียญในหลวงนั่งบัลลังก์ เนื้อเงินสุดนิยม เป็นเหรียญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 จัดสร้างโดยกระทรวงมหาดไทยในวาระเฉลิม ฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี เมื่อ พ.ศ. 2539 เป็นเหรียญดีมีคุณค่า ประสบการณ์ดังในด้านแคล้วคลาดของทหารและตำรวจ

.......... การสร้างเหรียญเสมาที่ระลึกพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวเฉลิมฉลองทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ผู้จัดสร้างได้นำเนื้อโลหะชนวนมวลสารโลหะจากพิธีสำคัญๆต่างๆ เช่น ชนวนโลหะพระกริ่งดำรงราชานุภาพในงาน 100 ปี กระทรวงมหาดไทยจัดสร้างเมื่อปีพ.ศ. 2533 และชนวนโลหะพระนิรโรคันตรายที่กระทรวงมหาดไทย และประชาชนทั่วประเทศจัดสร้าง เพื่อน้อมเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2538 และแผ่นจารอาคม จากพระเกจิอาจารย์ทุกภาคทั่วประเทศ ทั้งนี้สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงประกอบพิธีเจริญจิตภาวนาด้วยพระองค์ เอง ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร การจัดสร้างเหรียญครั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าแสดงความจงรักภักดีและเฉลิม พระเกียรติ แด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตลอดกาลนาน รายได้ทั้งหมดนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายโดยพระราชกุศลมูลนิธิชัยพัฒนา

.......... เหรียญเป็นรูปทรงใบเสมามีหู ด้านหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับนั่งบนบัลลังก์ ด้านหลังตราสามง่าม และจักร ชื่อเป็นทางการของเหรียญรุ่นนี้เรียกว่า เหรียญทรงเสมา (อาร์ม) ที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเฉลิมฉลองทรงครอง สิริราชสมบัติครบ 50 ปี ในวันที่ 9 มิถุนายน ปีพ.ศ. 2539

.......... กระทรวงมหาดไทยได้ขอบรมราชานุญาตจัดสร้าง พระบรมรูป (อย่างหนึ่ง) และเหรียญเสมาที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯออก แบบโดยกรมศิลปากร เหรียญเสมาที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯด้านหน้าเป็นพระบรมสาทิศลักษณ์ประทับเหนือพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ บนบัลลังก์มีข้อความว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” ด้านหลังเป็นรูปสัญลักษณ์ตราจักรีโดยมีข้อความว่า ”พ.ศ.2539”

.......... ถือว่าเป็นเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกที่มีความ นิยมมาก มีประสบการณ์มาแล้วดังที่เป็นข่าวใน นสพ.เดลินิวส์มีผู้ประสบรถคว่ำสภาพพังยับเยินและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.ขณะปฏิบัติหน้าที่ทางภาคใต้ถูกผู้ก่อการร้ายซุ่มยิ่งแต่ไม่ได้รับ อันตรายเนื่องจากคล้องเหรียญนั่งบัลลังก์ เนื่องเพราะสร้างด้วยเจตนาบริสุทธิ์มหากุศลจากมวลสารที่ดีเยี่ยม

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

21 เงินนะโมแท้ เนื้อเงิน หายาก ราคา 690 บาท ส่งEMS 50 บาท

สภาพสวยๆ รับประกันแท้ หากเช็คแล้วเก๊คืนเงินเต็มครับ

หัวนะโม … จากเงินตราสู่มนตราอันศักดิ์สิทธิ์

ชาวนครศรีธรรมราช รู้จักหัวนะโมในฐานะเครื่องรางของขลัง เชื่อกันว่าหัวนะโมมีพุทธคุณครอบจักรวาล ช่วยเรื่องเมตตามหานิยม โชคลาภและแคล้วคลาด

หัวนะโมเป็นวัตถุทรงกลมขนาดเล็ก ด้านหนึ่งประทับด้วยอักขระที่อ่านว่า นอ หรือ นะ ซึ่งเป็นอักษรปารวะของอินเดียโบราณ นะโม อาจหมายถึง อาจหมายถึง “ความนอบน้อม” หรืออาจหมายถึง “หัวใจ” ของคาถาพุทธศาสนาที่ว่า “นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมา สมฺพุทธสฺส” เชื่อว่ารูปสัญลักษณ์ในช่วงแรก ๆ ของนะโม คงมีความหมายไปในทางความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ลัทธิไศวนิกาย

ตามหลักฐานทางโบราณคดีก่อนสมัยพระศรีธรรมโศกราช เม็ดโลหะที่เรียกกันว่า “หัวนะโม” อยู่ในฐานะเงินตรา ใช้สำหรับแลกเปลี่ยนสินค้าในอาณาจักร ต่อมาในสมัยพระเจ้าศรีธรรมโศกราช ได้เปลี่ยนฐานะหัวนะโมเป็น “เครื่องรางของขลัง” ตำนานเมืองของนครศรีธรรมราชกล่าวไว้ว่า หลังจากก่อตั้งเมือง ได้มีโรคห่า (โรคระบาดร้ายแรง) เกิดขึ้น พระเจ้าศรีธรรมโศกราช จึงได้ประชุมปรึกษากับพระมหาเถราจารย์และพระมหาพรามหมณาจารย์ทั้งหลาย ซึ่งเห็นพ้องกันว่าควรให้ทำตรานะโมขึ้น แล้วนำไปประกอบพิธีตามคัมภีร์ไสยเวทหรืออาถรรพเวท และนำไปฝังและโปรยตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วเมือง เช่น ประตูเมืองทั้งเก้า ตามกำแพงเมืองทั้งสี่ทิศ พร้อมกับให้ประพรมน้ำมนต์เพื่อปราบโรคห่า เมื่อโปรยตรานะโมทั่วพระนครแล้วก็ให้เอาตรานะโมที่เหลือออกแจกจ่ายแก่พสกนิกร หลังจากโรคห่าหายไป ชาวเมืองทั้งใกล้และไกลอาณาจักรจึงบังเกิดความเชื่อและยึดเอานะโมเป็นเครื่องรางของขลังศักดิ์สิทธิ์ไว้ป้องกันภัยอย่างแพร่หลาย

หัวนะโม ได้ผูกพันอยู่กับชาวนครศรีธรรมราชมานานนับพันปี มีการถูกปรับประโยชน์ใช้สอยเรื่อยมา จากใช้เป็นเงินตรามาเป็นเครื่องรางของขลัง และปัจจุบันหัวนะโมถูกนำมาพัฒนาเป็นเครื่องประดับที่เป็นงานศิลปะเชิงช่างชั้นสูงโดยช่างฝีมือในตระกูลช่างนครศรีธรรมราช หัวนะโมจึงไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องรางของขลังเท่านั้น หากแต่ยังเป็นวัตถุอันทรงคุณค่าทางวัฒนธรรมที่แสดงถึงภูมิปัญญาของตระกูลช่างนครศรีธรรมราชอีกด้วย

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์

เกจิ ปลุกเสก เหรียญนั่งบัลลังก์
[/quote]